คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Part 8 "ความอดทน"
วันและเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว 1 เดือนกว่าแล้วที่คนอย่างโรคุโด มุคุโร่ได้รู้จักกับคำว่า
เจ็บปวดและเสียใจ คนที่เคยเข้มแข็งบัดนี้กลับอ่อนแอ จากที่เคยใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ตอนนี้ต้องมาเป็นเพียงที่รองรับอารมณ์ของคนๆนั้น แม้ว่าจะพยายามเกลียดพยายามแค้น
มากแค่ไหนสุดท้ายก็ทำไม่ได้ มุคุโร่นึกเกลียดตัวเอง เกลียดร่างกายที่ตอบสนองสัมผัส
นั้น เกลียดจิตใจของตนที่อ่อนแอเกินกว่าที่จะตัดใจจากเค้าได้ ร่างบางนั่งเหม่อลอยอยู่
บนเตียงขาวสะอาด หลายวันมานี้เค้าแทบไม่ได้ก้าวลงจากเตียงเลย มีบางครั้งที่โคลมแวะ
มาหาและอยู่คุยเล่นด้วยเป็นบางครั้ง ร่างนั้นนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พลันนัยน์ตาต่างสีก็เหลือบ
ไปเห็นมีดปอกผลไม้ที่โคลมลืมไว้ มือขาวเอื้อมไปหยิบ ก่อนจะบรรจงกรีดลงบนข้อมือ
ของตนช้าๆ พอ...พอแล้ว...ไม่อยากทรมานอย่างนี้อีกแล้ว...น้ำตาไหลออกจากดวงตาไม่
ขาดสาย เลือดสีแดงสดทะลักออกจากบาดแผล ย้อมข้อมือและผ้าปูที่นอนให้เป็นสีแดง
อย่างน่ากลัว สติเริ่มหลุดลอยแล้วดับลง ร่างทั้งร่างของมุคุโร่ล้มลงไปกองกับพื้น มีดปอก
ผลไม้หลุดจากมือกลิ้งไปอยู่ใต้โซฟา เลือดสีแดงสดเลอะพรมสีเทาบนพื้นห้องเป็นวง
ขนาดใหญ่
“ท่านมุคุโร่คะ วันนี้ออกไปข้างนอกกันเถอะนะคะ”
โคลมเอ่ยเสียงใสขณะที่เปิดประตูห้อง
“อ้าว ท่านมุคุโร่ ไม่อยู่เหรอคะ”
ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีม่วงเข้มหันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่พบร่องรอยคนในห้องแต่
อย่างไร พลันนัยน์ตากลมโตก็เหลือบไปเห็นแขนขาวที่โผล่พ้นปลายเตียงออกมา ร่างเล็ก
จึงเดินเข้าไปแล้วส่งเสียงเรียกอีกครั้ง
“ท่านมุคุ...กรี๊ด!!!”
เด็กสาวหวีดร้องด้วยความตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น!!!”
ร่างสูงของฮิบาริวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว มองร่างของเด็กสาวที่สั่นระริก
“ท่าน...ท่านมุคุโร่”
โคลมเอ่ยอย่างติดๆขัดๆ น้ำตาเอ่อล้นดวงตากลมโต
“!!!”
แล้วนัยน์ตาสีรัตติกลาก็เบิกกว้าง เมื่อพบร่างงามนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น ฮิบาริไม่รอ
ช้า แขนแกร่งช้อนร่างผอมบางขึ้นนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
.
.
.
“อือ”
แพขนตาหนากระเพื่อมไหว นัยน์ตาสีประหลาดค่อยๆลืมขึ้นสู้กับเปลือกตาที่หนักอึ้ง
ข้อมือข้างขวาถูกพันไว้ด้วยผ้ากอตอย่างแน่นหนา ดวงตาเหลือบมองไปยังที่ต่างๆ แล้ว
มาเห็นคนที่ฟุบอยู่ข้างเตียง เส้นผมสีดำสนิทซบอยู่บนแขนขาว มือใหญ่กอบกุมมือเรียว
เอาไว้แน่น มุคุโร่มองด้วยสายตานิ่งๆ แต่ภายในใจกลับสับสนแล้วชักมือกลับอย่างช้าๆ
“เป็นไงบ้าง”
ฮิบาริเอยถามคนบนเตียง
“ทำแบบนี้ทำไม”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นเบาๆ มองร่างสูงด้วยสายตาเย็นชา
“แม้กระทั่งจะตาย ผมก็ยังไม่มีสิทธิ์เลยอย่างงั้นเหรอ!!!”
“นี่...”
“คุณยังต้องการอะไรจากผมอีก!!!”
“มุคุโร่...”
“พอใจคุณแล้วรึยังครับ สนุกมากพอรึยัง!!!”
มุคุโร่ตะโกนอย่างเจ็บปวด น้ำที่แห้งไปทะลักออกมาอีกครั้ง
“ขอโทษ”
ร่างสูงดึงร่างบนเตียงเข้าไปในอ้อมแขน ซุกหน้าลงบนบ่าเล็กแล้วเอ่ยข้างหู
“หะ?”
มุคุโร่อึ้งกับคำที่หลุดออกมาจากปากคนตรงหน้า
“ขอโทษ ชั้นขอโทษ”
ร่างสูงว่าพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“อะไร...ของ...คุณ...มา...ขอโทษผม...ทำ...ไม...ฮึก”
ร่างงามสั่นสะท้านตามแรงสะอื้น ดวงตาสองข้างพร่ามัวไปด้วยน้ำตา
“ยกโทษให้ชั้นได้ไหม”
ฮิบาริเอ่ยอีกครั้ง พลางใช้นิ้วปาดน้ำตาบนแก้มนวลเบาๆ
“คุณ...”
ทิฐิภายในใจอ่อนยวบก่อนจะพังทลายลง เมื่อร่างสูงประทับริมฝีปากลงบนกลีบปาก
บางอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนไร้ความป่าเถื่อนและรุนแรงอย่างครั้งก่อนๆ
“ยกโทษให้ชั้นได้รึยัง”
ฮิบาริถามอีกครั้งเมื่อถอนริมฝีปากออกขณะที่ใบหน้าสวยขึ้นสีจัด
“คุณ...ทำแบบนี้ใช่ว่าผมจะหายโกรธคุณหรอกนะ”
“งั้นเหรอ”
ร่างสูงยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วคว้าเอวบางเข้ามาใกล้ๆ
“แล้วต้องทำยังไงล่ะ”
มือข้างหนึ่งกระตุกเชือกผูกเสื้อของคนไข้
“อ๊ะ ปล่อยผมนะครับ ผมเจ็บอยู่นะ!!!”
ร่างบางแหวแล้วตะครุบเสื้อที่ถูกดึงจนหลุดรุ่ย
“ก็นายยังไม่หายโกรธชั้นนี่นา จะต้องทำยังไงล่ะ”
นัยน์ตาสีรัตติกาลแกล้งทำกระพริบอย่างใสซื่อ
“คุณนี่มัน!!!”
มุคุโร่ร้องอย่างเจ็บใจ พลันเสียงประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างบอบบางของมาเรีย เธอเดิน
ตรงเข้ามาหาร่างสูงแล้วเอ่ยบอกว่า
“ได้กำหนดการแล้วนะเคียวยะ”
“กำหนดการ?”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นในขณะที่มุคุโร่นั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆ
“ใช่ กำหนดการ”
มาเรียสูดลมหายใจแล้วบอกต่อด้วยเสียงดังฟังชัดที่ทำให้ฮิบาริอึ้ง
“กำหนดการงานแต่งงานของเรา 2 คนไงล่ะ”
To be continue.
ความคิดเห็น