คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ปัญหาส้นตีนที่ 3 :: เซาโลเสียความรู้สึก 100%
Chapter 03
แบคฮยอนไม่ใช่คนที่โกรธใครแบบไม่มีเหตุผล...แต่ทำไมแค่นึกถึงหน้าไอ้ชานยอลขึ้นมามันถึงหงุดหงิดขนาดนี้ว่ะ สองวันแล้วที่เขาขอสลับที่กันกับคยองซูและไม่คุยกับชานยอลสักนิดเดียว มือเล็กรีบลอกการบ้านด้วยลายมือขยุกขยิกเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่หมดเขตส่ง สายตาที่กำลังจดจ้องอยู่กับสมุดต้นฉบับของจงแดเจ้าของที่นั่งข้างๆแต่จู่ๆก็มีถุงพลาสติกที่มีของกินแน่นเต็มถุงขนาดใหญ่ถูกวางลงมาที่โต๊ะทำให้แบคฮยอนละสายตาจากสมุดแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอามาให้ทันที
“เราขอโทษ ._. ”
“ไปไกลๆตีนกูไปไอ้สัส...”
“คืนดีกันนะแบคฮยอน ;_; ”
“มึงไม่อยากมีเพื่อนเป็นคนชั่วซ้ำซากแบบกูหรอก ดูซิ นี่กูลงทุนสร้างเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาให้มึงโกหกต่อเลยนะเนี่ย”
“อย่าทำแบบนี้สิ แบคฮยอนไม่คุยกับเราแถมยังย้ายโต๊ะมาสองวันแล้วอ่ะ เราเอาของกิน ขนมกับดอกไม้มาง้อแล้วนะ... ;_; ” ชานยอลทำหน้าเบ้ใส่แบคฮยอนที่นั่งควงปากกาไปมาในตอนนี้ ตาตี๋ๆมองรอบๆของที่ชานยอลวาง ข้าวกล่องอาหารเซ็ทหนึ่งกล่อง คิมบับและต๊อกโบกีอย่างละหนึ่งกล่อง รามยอนสองถ้วย ขนมขบเคี้ยวสามห่อใหญ่ ขนมช็อกโกแลตประปรายเยอะแยะจนนับไม่ไหวหลายห่อ น้ำแดงกับน้ำโคล่าขวดกลางที่น่าจะเย็นเฉียบ และดอกกุหลาบหลากสีช่อเล็กที่ถูกจัดอย่างสวยงาม..
สัส..! นี่ของมาง้อหรือของมาเซ่นไหว้กันแน่..
“มึงไม่เอาธูปมาจุดขอขมากูเลยล่ะชานยอล...”
“ก็เราไม่รู้นี่ว่าแบคฮยอนชอบอะไรก็เลยเอามาหมดเลยอ่ะ แบคฮยอนหายโกรธเราเถอะ เราไม่ได้ตั้งใจจะว่าแบคฮยอนโกหกเลยนะและเราก็เต็มใจช่วยด้วย แต่เราก็แค่กังวลมากเกินไป ._. ”แบคฮยอนมองหน้าเศร้าสลดหดหู่ของชานยอลแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีกจนในที่สุดชานยอลต้องเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ถึงแม้ว่าพวกแบคฮยอนจะนิสัยไม่ดี ทำตัวเหลวไหลแต่เราก็ไม่เคยมองพวกแบคฮยอนให้ดูชั่วไปกว่านั้นเลยนะ เราไม่เหมือนคนอื่นในโรงเรียนแน่นอน...”
“...”
“เป็นเพื่อนกันเถอะนะแบคฮยอน เรารู้สึกผิดแล้ว ;_; ” แบคฮยอนมองหน้าคนที่ขอคืนดีอยู่ตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่จะวางปากกาลงแล้วกุมมือวางไว้ที่ใต้คางก่อนจะมองชานยอลด้วยแววตาละห้อยแล้วเอ่ยขึ้นมา
“มึงด่ากูไปตั้งเท่าไร คิดจะมาขอโทษด้วยของแค่นี้ ไม่เชี่ยไปหน่อยเหรอว่ะชานยอล”
“จะให้เราทำอะไรก็ได้นะ! เราทำให้ได้ทุกอย่างเลย แต่ขออย่างเดียวให้แบคฮยอนเลิกโกรธเราก็เป็นพอ” ชานยอลรีบพูดทันทีด้วยแววตาที่มุ่งมั่นส่งมาหาแบคฮยอน ร่างเตี้ยลูบคางตัวเองเบาๆอย่างใช้ความคิดก่อนที่นิ้วบางจะชี้วนรอบถุงของกินขนาดใหญ่
“ซื้อของกินเลี้ยงกู 1 อาทิตย์ดิ..”
“ห๊ะ..?? ซื้อของกินเลี้ยงแบคฮยอนอาทิตย์นึง?”
“ใช่ นี่มึงรู้มั้ยว่าคนเราดำรงชีวิตด้วยการแดก การแดกคือเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตกู เพราะฉะนั้นซื้อของกินมาเลี้ยงกูซะ” ชานยอลลืมตาแป๋วใส่แบคฮยอนด้วยความงง เพราะไม่สามารถเจาะจงได้ว่าแท้จริงแล้วความต้องการของแบคฮยอนคืออะไรกันแน่ แต่ก็เอ่ยขึ้นมา
“มันไม่เหมือนง้อเพื่อนเลยอ่ะแบคฮยอน แต่เหมือนเราเป็นพวกตัณหากลับที่หนีครอบครัวมาเลี้ยงดูผู้หญิงในผับมากกว่า...” พูดจบคำพูดด้วยความใสซื่อเล่นเอาจงแดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆรีบเอามือปิดปากกลั้นขำทันที แบคฮยอนหันขวับเอาศอกสะทุ้งเต็มหน้าท้องจงแดก่อนจะหันมาตวาดใส่ชานยอล
“มึงตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้!”
แปะ!!
มือหนารีบทำตามที่สั่งทันทีโดยไม่รีรอ แบคฮยอนจิกตาขวางพร้อมทำมือทำท่าจะเขกหัวแต่ก็ต้องชักมือลงอย่างหงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผล เฮอะ! ให้ตายสิ!!
“กะ..ก็ได้ เราซื้อของกินเลี้ยงแบคฮยอนก็ได้ แต่ถ้าเราซื้อแล้วแบคฮยอนจะหายโกรธเราใช่มั้ย?”
“แน่นอน...ถ้ากูได้แดกก่อนนะ” ชานยอลยิ้มกว้างทันทีกับประโยคหลัง ก่อนจะรีบแกะซองของกินที่วางบนโต๊ะอย่างขมักเขม้น เตรียมพร้อมสำหรับการเสิร์ฟอาหารถึงปากของแบคฮยอนที่ตอนนี้นั่งยิ้มหน้าตาระรื่นอยู่ตรงนี้แล้วล่ะ
.
“งอนง่ายหายเร็วเนอะ สัส..วันนั้นล่ะดราม่าจะแดกหัวกูแหละ วันนี้แม่งเจอของกินเข้าไปไม่ได้หน่อยล่ะลืมเศร้าเลยนะมึง” คยองซูพูดขึ้นท่ามกลางของกินมากกมายที่วางบนโต๊ะในโรงอาหาร เสียงกินดังจ๊อบแจ๊บอยู่ไม่ขาดของทั้งสามคน ที่อยู่ดีกินดี อิ่มจังตังค์อยู่ครบมาตลอดสี่วันที่ผ่านมา..
ชานยอลซื้ออาหารมาเลี้ยงแบคฮยอนและเหล่าเพื่อนผองเป็นวันที่สี่แล้ว...
เจ้าของเงินมื้อนี้ไม่มาร่วมโต๊ะด้วยเนื่องจากติดภารกิจจากอาจารย์อี้ฟานตั้งแต่สี่โมงกว่าๆจนตอนนี้จะบ่ายโมงแล้ว แต่ช่างเหอะ ถึงชานยอลอยู่เขาก็ไม่กินอยู่ดี เพราะคำพวกนี้ไงล่ะ...
‘แบคฮยอนต้องแบ่งเพื่อนๆกินด้วยนะ เยอะขนาดนี้กินเข้าไปไม่ไหวหรอก’
‘มีแต่แป้ง ของมันทั้งนั้นเลยอ่ะ ถ้าเป็นไปได้เราอยากซื้ออาหารคลีนให้มากกว่านะ อิ่มเร็วแถมสุขภาพยังดีด้วย’
‘ดูสิ..แบคฮยอนกินเยอะจนพุงใหญ่แล้วอ่ะ’
‘ถ้าเดินแล้วมันช้า เราว่าแบคฮยอนเปลี่ยนไปเป็นกลิ้งคงจะเร็วขึ้นนะ’
‘เราว่ากว่าจะครบอาทิตย์ แบคฮยอนต้องคอสเพลย์เป็นตุ่มแน่ๆเลยอ่ะ..’
โธ่เว้ย! น่ารำคาญ! น่ารำคาญชิบหายยยยย!!!
รวมคำสารพัดสารเพที่ชานยอลหลอกด่าตลอดสี่วันที่ผ่านมา นึกทีไรก็อยากจะเตะปากมันสักป้าบ แต่โลกช่างโหดร้ายที่ไม่เคยให้ขาเขาถึงคางมันสักที!! แต่ถึงยังไงก็เถอะ แบคฮยอนตกลงกับชานยอลไปแล้วนี่ว่าจะหายโกรธ กลับไปเล่นด้วยถ้าได้กินของอร่อยๆพวกนี้...
เป็นโมเม้นท์ที่เหมือนไทม์แมชชีนไปตอนห้าขวบเลยค่ะเพื่อนรัก...
ถามหน่อยเถอะว่ามึงกี่ปีแล้ววะแบคฮยอน!!
“โอ้ย~ แม่งอิ่มเว้ยยยย~” คยองซูวางช้อนลงทันทีที่เค้กช็อกโกแลตราคาแพงถึงปากเป็นคำสุดท้ายก่อนจะเอามือลูบท้องตัวเองปอยๆ จงแดเองก็เช่นกันขนมกรุบกรอบที่ยัดเข้าไปเต็มท้องจนเกลี้ยงทำให้รู้สึกแน่นขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ของกินที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะนี่หมดไปเกินครึ่งสักนิดเดียว.. ใช่ ชานยอลซื้อมามากเกินไป มากเกินที่สามก้อนนี่จะยัดเข้าไปหมด แต่ถึงยังไงชานยอลก็ควรขอบคุณสามคนนี่นะที่เสียสละโดนคาบมาจัดการของกินนี่น่ะ
“แม่งเหลืออีกเต็มโต๊ะเลยว่ะ..เชี่ยแบค จัดการต่อเลยมึง พวกกูไม่ไหวแล้ว” จงแดชี้นิ้วสั่งแบคฮยอนที่นั่งฉีกดอกไม้เล่นอย่างอารมณ์ดี ร่างเตี้ยรู้หน้าที่ตัวเองจัดการเก็บกล่องขนมเค้กต่างๆ อาหารชุดที่ยังไม่หมด และช่อดอกไม้ที่ชานยอลให้อย่างไม่รีบร้อน หลังจากที่ของบนโต๊ะอยู่ให้อ้อมอกของแบคฮยอน ขาสั้นๆก็เดินไปที่ถังขยะแล้วปล่อยของทั้งหมดลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกทันที
ฟุบบบ!!
ของกินต่างๆที่หมดแล้วและยังไม่หมดหรือแม้กระทั่งยังไม่แกะห่อด้วยซ้ำถูกทิ้งลงในถังขยะอย่างสบายใจเฉิ่ม ร่างเตี้ยปัดมือทำความสะอาดนิดหน่อยแล้วเดินยิ้มกว้างจนตาปิดมาข้างเพื่อนรักทั้งสองที่นั่งแอ้งแม่งเพราะความอิ่มจัด คยองซูเหลือบตามองแบคฮยอนที่ปั้นหน้ายิ้มตาหยีจนน่าหมั้นไส้ก่อนจะพูดออกมา
“คิดยังไงทิ้งของยังไม่กินวะมึง ดอกไม้นั้นอีก... ไม่กลัวมันมาเห็นรึไง” แบคฮยอนหุบยิ้มนิดนึงแล้วมองคยองซูด้วยหางตา ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มต่อแล้วเอ่ยขึ้น
“กลัวทำไม ของกินกันไม่หวาดไม่ไหวกูเก็บไว้ก็บูดอยู่ดี..ส่วนดอกไม้นั่นก็..มึงจะให้ผู้ชายอย่างกูถือออกจากโรงเรียนแล้วให้คนแซวเหรอว่ะ คนอย่างแบคฮยอนทำใจไม่ได้ว่ะ แล้วอีกอย่างกูก็ทิ้งงี้ตั้งแต่วันแรกมึงพึ่งมาบ่นอะไรกูตอนนี้ว่ะ ”
“กูก็บอกมึงตั้งแต่วันแรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้ากินไม่ไหวก็บอกมันให้ซื้อน้อยลง แต่มึงเล่นประชดกูบอกให้มันซื้อเยอะขึ้น ชานยอลแม่งก็ซื่อ บ้าจี้ตามมึง ไม่รู้แม่งรวยมาจากไหนซื้อของกินวันละสองสามหมื่นวอนให้แดก...มึงไม่คิดเหรอวะว่าเงินที่มันซื้อของกินให้แบบนี้อาจเป็นเงินก้อนสุดท้ายของมันก็ได้”
“มึงอย่ามาดราม่าใส่กู..”
“กูพูดความจริง...มึงก็บอกกูเองไม่ใช่เหรอว่ามึงกับมันสนิทกันตั้งแต่อนุบาลบูชอน แต่ขึ้นเกรด 1 ก็เลยแยกกันไปเรียนคนละที่ ชานยอลมันก็คงนึกถึงมิตรภาพในวัยเด็กล่ะมั้งเลยลงทุนซื้อของกินมาง้อมึงแบบนี้..”
“....”
“ทิ้งของกินนี่กูพอเข้าใจ แต่มึงเล่นทิ้งช่อดอกไม้ที่มันตั้งใจซื้อให้ทุกวันแบบนี้ ถ้ากูเป็นชานยอลกูเสียใจแย่ว่ะ”
“.....”
“.....”
“เราไม่เสียใจหรอก ฮ่ะฮ่ะ” เสียงหัวเราะแห้งทุ้มๆที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้ทั้งสามคนหันไปทันที มือหนาวางช่อดอกไม้ที่แบคฮยอนทิ้งไปเมื่อกี้ลงบนโต๊ะแล้วยิ้มกว้าง “เรารู้ว่าแบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจทิ้งดอกไม้ มันหลุดมือแบคฮยอนแล้วตกถังขยะ แต่เราเก็บมาให้แล้วนะ”
“มะ..มึงมาตอนไหนว่ะ” แบคฮยอนถามเสียงสั่นๆ
“ก็นานแล้วล่ะ” ชานยอลแค่นรอยยิ้มออกมาจนแบคฮยอนสังเกตได้ แววตาใสๆมีน้ำนองอยู่ในนั้นนิดนึงแต่ชานยอลก็พยายามกระพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา “คือเงินที่เราซื้อให้อ่ะ มันเป็นเงินของธุรกิจครอบครัวเราเองนะ ทางบ้านเราฐานะก็ค่อนข้างดีอยู่ แบคฮยอนไม่ต้องกังวลหรอก กินของที่เราซื้อมาให้ได้สบายใจเลย” แบคฮยอนรู้สึกหน้าชาทันทีเมื่อเห็นแววตาคู่นั้นของชานยอล ใบหน้าของเขาที่พยายามปั้นรอยยิ้มขึ้นมา มองไปที่ช่อดอกไม้ที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ป่นปี้ไปหมด เหลือเพียงไม่กี่ดอกที่อยู่ในสภาพดีแต่ก็เปื้อนและช้ำพอสมควร
“งะ..งั้นเราไปก่อนนะ..” ร่างสูงใบหน้าที่เริ่มเจื่อนขึ้นค่อยๆหันหลังและจะเดินหนีแต่แบคฮยอนก็เอ่ยห้ามไว้
“ชานยอล! เดี๋ยวก่อน!!” ไม่เป็นผล...ไม่เป็นผลสักนิดเดียว ทั้งๆที่แบคฮยอนร้องห้ามแต่ชานยอลกลับรีบวิ่งออกไป ขาสั้นๆรีบตามไปทันที ไม่รู้หรอกว่าชานยอลจะไปทางไหน ไปทำอะไร แต่ตอนนี้เขาขอชานยอลอยู่อย่างเดียว ขออย่าพึ่งเกลียดกูได้มั้ยว่ะ!!
--65%--
ชานยอลวิ่งมาทางตึกที่สูงที่สุดของโรงเรียน ไม่รอช้าร่างสูงก็หายลิบวิ่งไปทางขึ้นบันไดทันที แบคฮยอนหอบหายใจหนักเพราะตามมาไม่ได้หยุดพักแต่ก็ต้องลากสังขารตัวเองตามชานยอลขึ้นไปทันทีถึงแม้ว่าปากของเขาก็ขอร้องให้ชานยอลหยุดก็ตาม แผ่นหลังชานยอลที่มองเห็นเป็นระยะทำให้แบคฮยอนโล่งใจนิดนึงที่วิ่งตามทัน ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่แบคฮยอนวิ่งตามชานยอลแบบไม่มีจุดหมายแบบนี้แต่สุดท้ายขายาวๆก็พาเขามาหยุดตรงที่ดาดฟ้า...ดาดฟ้าอย่างนั้นเหรอ??
“ชานยอล! มึงอย่าคิดโง่ๆนะเว้ย!! แค่กูทิ้งดอกไม้ที่มึงให้มึงคิดจะฆ่าตัวตายเลยเหรอ!! กูสัญญาว่ากูจะพยายามค้นฟ้าหาดอกไม้ที่กูทิ้งให้ได้ แต่มึงต้องออกมาจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้นะ!!!”
“.....” แบคฮยอนแทบสติแตกที่การตอบรับของชานยอลคือแค่หันหน้ามายิ้มเหมือนในหนังสยองขวัญให้แค่นั้น ก่อนที่ร่างสูงจะเดินไปที่แนวกั้นของตึก ใจของแบคฮยอนก็ยิ่งตกฮวบไปอยู่ที่ปลายเท้าทันที ร่างเตี้ยรีบไปหาชานยอลแล้วหาตำแหน่งอยู่ห่างๆของร่างสูงไว้เพราะไม่อยากให้ชานยอลคิดเตลิดไปไกลมากกว่านี้ก่อนจะพยายามตั้งสติสูดลมหายใจเข้าออกเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น
“มึงฟังกูนะชานยอล...มึงยังมีพ่อมีแม่ กูขอโทษเว้ยที่ทิ้งของพวกนั้นไป เออ! กูยอมรับว่ากูแค่แกล้งมึงเล่นๆแต่กูไม่คิดว่ามึงจะเป็นแบบนี้ ความจริงกูก็หายโกรธมึงตั้งแต่วันแรกแล้วด้วยแต่ช่วงนี้เงินกูช๊อต พ่อกับแม่กูก็ยึดการ์ดแถมยังตั้งลิมิตไม่ให้กูใช้เงินเดือนนึงเกินแสนวอนด้วย...” เหมือนความในใจจะค่อยๆพรั่งพรูออกมาเรื่อยๆอย่างสำนึกผิด แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ชานยอลหยุดทำเรื่องบ้าๆนั่นสักที ชานยอลโดดข้ามรั้วกั้นไปอย่างง่ายดายในขณะที่คนตามอย่างแบคฮยอนต้องปีนป่ายเอา ร่างสูงหยุดเท้าที่ขอบตึกก่อนจะหันมาหาแบคฮยอนแล้วยิ้ม....แล้วเขาก็นั่งลงหย่อนขารับลมอย่างสบายใจเฉิ่มพร้อมแกว่งขาไปมา...
ฮะ?? นี่แบคฮยอนกำลังเข้าใจอะไรผิดเหรอ??
“เราไม่ได้จะฆ่าตัวตายสักหน่อยอ่ะ แค่ขึ้นมารับลมเท่านั้นเอง...” แบคฮยอนมองคนเอ๋อด้วยตาปริบๆก่อนจะเดินมาจุดที่ชานยอลนั่งอยู่ มิน่าล่ะ..เพราะมีระเบียงแท่นปูนแถวยาวที่ยื่นออกมาจากข้างล่างห่างจากเท้าเขาก็ไม่น่าเกิน 1 เมตร ถึงทำให้ชานยอลกล้าที่จะนั่งหย่อนขาลงท่ามกลางตึกสูง 5 ชั้นแบบนี้...
ไอ้ซัซเอ๊ย!! ทำเอากูใจหายใจคว่ำหมด!!!!
ผลั่ว!
ตบหัวชานยอลทันทีด้วยความโมโหที่บังอาจมาทำเขาใจหาย ร่างสูงลูบหัวตัวเองปอยๆก่อนยิ้มออกมา
“เป็นห่วงเราเหรอ?”
“ห่วงพ่อมึงดิ!! กูแหกปากบอกให้มึงหยุด มึงก็กลับวิ่ง นี่ยังต้องถ่อสังขารลากตัวขึ้นมาบนดาดฟ้าอีก สัสเอ๊ยกูก็คิดว่ามึงเสียใจจะโดดตึกตายซะอีก!! ” แบคฮยอนสะบัดผมตัวเองเพื่อไล่ให้เหงื่อออกก่อนจะจิกตามองชานยอล ชานยอลยิ้มกว้างให้ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเบาๆโดยที่สายตาคู่นั้นทอดมองไปที่ท้องฟ้า โชคดีที่วันนี้อากาศดี ไม่มีแดดเลยทำให้ชานยอลมองบรรยากาศตรงนี้ได้เต็มตา
“เราไม่ได้เสียใจ..”
“....”
“เราแค่เสียความรู้สึก...” สายตาที่จิกเล่นๆลดลงทันที มองหน้าชานยอลอย่างรู้สึกผิดแล้วปล่อยให้ร่างสูงเอ่ยขึ้นต่อ
“เราตั้งใจซื้อของทุกอย่างให้แบคฮยอนจริงๆนะแม้กระทั่งดอกไม้..เราไม่รู้ว่าแบคฮยอนชอบสีไหน ดอกอะไร เลยคิดว่าดอกกุหลาบหลายๆสีน่าจะให้ความรู้สึกดีมากกว่าดอกอื่น แต่ถ้ามันทำให้แบคฮยอนอายเวลาถือ เราก็ขอโทษ...”
“กูต่างหากที่ต้องขอโทษ...ขอโทษที่เอาไปทิ้ง...” แบคฮยอนก้มหน้าพูดเพราะไม่กล้ามองชานยอล จู่ๆความรู้สึกผิดเหี้ยๆแบบไม่น่าให้อภัยมันก็ลอยเต็มตัวแบคฮยอนตอนนี้ไปหมด ความนิ่งเงียบของทั้งสองคนยิ่งทำให้บรรยากาศหดหู่มากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดแบคฮยอนก็นึกอะไรขึ้นได้ ก่อนที่มือเล็กๆจะควานหาสิ่งที่ต้องการในกระเป๋าเสื้อแล้วเอาออกมาพร้อมยื่นให้ชานยอลด้วยรอยยิ้มกล้าๆกลัวๆ
“คืนดีกัน...” ชานยอลหันขวับไปหาแบคฮยอนอย่างงงๆ แต่รอยยิ้มที่ไม่ต้องพยายามปั้นขึ้นมาก็ผุดขึ้นมาตามนิสัยทันที
“อมยิ้มแท่ง...กูซื้อมาเมื่อตอนเที่ยงนี่เอง หวานมาก อร่อยดี มึงกินดูสิ..” เอาอมยิ้มสะกิดที่ต้นแขนชานยอลเบาๆทำให้เขารับมาอย่างพอใจ อมยิ้มสองแท่งในมือชานยอลค่อยๆถูกแกะออกอย่างใจเย็นในขณะที่แบคฮยอนมองอยู่ไม่คลาดสายตา ทันทีที่ชานยอลแกะออกเสร็จ อมยิ้มหนึ่งแท่งก็ถูกเจ้าของคนปัจจุบันยื่นมาให้เขาพร้อมยิ้มกว้าง
“ถ้าอร่อยก็กินด้วยกันสิ ^^ ”
บางทีแบคฮยอนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน...
ว่าทำไมเขาต้องมาง้อไอ้ขี้เปียกนี่ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมันพึ่งง้อเขาไปหยกๆด้วย…
“คิดยังไงถึงวิ่งมาบนดาดฟ้าว่ะ ไม่ได้ยินที่กูตะโกนเรียกเหรอ” รับมาอย่างเต็มใจแล้วจัดการกัดคำนึงเอาปากทันที ชานยอลอมของหวานเข้าไปในปากเพื่มชิมรสนิดหน่อยก่อนจะเอาของมาแล้วพูด
“ได้ยินสิ..แต่ตอนนั้นสมองเรามันสั่งให้ขึ้นมาบนนี้อ่ะ สงสัยเพราะเวลาเราเครียดแล้วชอบมาตรงนี้บ่อยๆมั้ง...แต่ตอนนี้เราไม่เครียดแล้วนะ ต้องขอบคุณอมยิ้มของแบคฮยอนจริงๆ”
“โอเวอร์แหละ ของห้าร้อยวอนมันไม่ได้วิเศษอะไรขนาดนั้นหรอก”
“ใครว่าล่ะ..สำหรับเรามันพิเศษมากๆเลยล่ะ ” ผลักหัวชานยอลด้วยความหมั้นไส้ก่อนจะยัดอมยิ้มเข้าปากต่อ มองบรรยากาศรอบโรงเรียนตอนบ่ายโมงกว่าๆนี้มันเป็นอะไรที่ดีจริงๆ ตั้งแต่โดดเรียนมานี่ก็เป็นครั้งแรกของเขาที่มาอยู่บนดาดฟ้านี้ แบคฮยอนเหลือบมองชานยอลที่นั่งกินอมยิ้มไปด้วยมองวิวไปด้วยอย่างอารมณ์ดีเป็นระยะๆ จนชานยอลรู้สึกตัวได้ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ
“ลุงยามเอาขยะไปกองทิ้งข้างหลังโรงเรียนอ่ะ พอดีเราอยู่ตรงนั้นก็เลยเห็น...” ไทยมีเจน ญาณทิพย์ เกาหลีก็คงมีชาน ญาณทิพย์เหมือนกัน นี่ขนาดแบคฮยอนมองตาปริบๆชานยอลยังรู้ว่าเขาคิดอะไร มองชานยอลที่ยิ้มกว้างอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้น
“กูขอโทษ ขอโทษจริงๆ เลิกโกรธกูนะ...”
“เราไม่ได้โกรธแบคฮยอนสักหน่อย”
“เออนั่นแหละ เลิกเสียความรู้สึกกูนะ สัญญานะ...” มือเล็กยกนิ้วก้อยตัวเองขึ้นมา ไม่คิดว่าโมเม้นท์ของเด็กสามขวบนี้ เขาจะได้เอามันออกมาใช้กับชานยอล ร่างสูงยื่นนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวกับนิ้วของแบคฮยอนแล้วยิ้มกว้าง
“เราหายเสียความรู้สึกกับแบคฮยอนแล้วล่ะ ^^ ”
หายเสียความรู้สึก(ของชานยอล) = หายโกรธ (ของแบคฮยอน)
โอเค บยอน แบคฮยอนจะจำไว้ยันวันลูกบวชเลยครับ....
TBC
จุ๊บเหม่งงง รอต่อไปนะแก 555
สกรีมแท็ก #ฟิคคืนนี้อยากได้กี่ครั้ง
แก้ไข/จัดหน้า :: 31/08/58
ความคิดเห็น