ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] JUST NIGHT 'คืนนี้อยากได้กี่ครั้ง' || CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #4 : ปัญหาส้นตีนที่ 3 :: เซาโลเสียความรู้สึก 100%

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 59




     

    Chapter 03



     



                                                                                                                        

     
     

                แบคฮยอนไม่ใช่คนที่โกรธใครแบบไม่มีเหตุผล...แต่ทำไมแค่นึกถึงหน้าไอ้ชานยอลขึ้นมามันถึงหงุดหงิดขนาดนี้ว่ะ  สองวันแล้วที่เขาขอสลับที่กันกับคยองซูและไม่คุยกับชานยอลสักนิดเดียว  มือเล็กรีบลอกการบ้านด้วยลายมือขยุกขยิกเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่หมดเขตส่ง  สายตาที่กำลังจดจ้องอยู่กับสมุดต้นฉบับของจงแดเจ้าของที่นั่งข้างๆแต่จู่ๆก็มีถุงพลาสติกที่มีของกินแน่นเต็มถุงขนาดใหญ่ถูกวางลงมาที่โต๊ะทำให้แบคฮยอนละสายตาจากสมุดแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่เอามาให้ทันที

     

    “เราขอโทษ  ._.

     

                “ไปไกลๆตีนกูไปไอ้สัส...”

     

                “คืนดีกันนะแบคฮยอน ;_;

     

                “มึงไม่อยากมีเพื่อนเป็นคนชั่วซ้ำซากแบบกูหรอก  ดูซิ นี่กูลงทุนสร้างเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาให้มึงโกหกต่อเลยนะเนี่ย”

     

                “อย่าทำแบบนี้สิ แบคฮยอนไม่คุยกับเราแถมยังย้ายโต๊ะมาสองวันแล้วอ่ะ  เราเอาของกิน ขนมกับดอกไม้มาง้อแล้วนะ... ;_; ” ชานยอลทำหน้าเบ้ใส่แบคฮยอนที่นั่งควงปากกาไปมาในตอนนี้  ตาตี๋ๆมองรอบๆของที่ชานยอลวาง ข้าวกล่องอาหารเซ็ทหนึ่งกล่อง คิมบับและต๊อกโบกีอย่างละหนึ่งกล่อง รามยอนสองถ้วย  ขนมขบเคี้ยวสามห่อใหญ่ ขนมช็อกโกแลตประปรายเยอะแยะจนนับไม่ไหวหลายห่อ น้ำแดงกับน้ำโคล่าขวดกลางที่น่าจะเย็นเฉียบ และดอกกุหลาบหลากสีช่อเล็กที่ถูกจัดอย่างสวยงาม..

     

    สัส..!  นี่ของมาง้อหรือของมาเซ่นไหว้กันแน่..

     

                “มึงไม่เอาธูปมาจุดขอขมากูเลยล่ะชานยอล...”

     

                “ก็เราไม่รู้นี่ว่าแบคฮยอนชอบอะไรก็เลยเอามาหมดเลยอ่ะ   แบคฮยอนหายโกรธเราเถอะ เราไม่ได้ตั้งใจจะว่าแบคฮยอนโกหกเลยนะและเราก็เต็มใจช่วยด้วย แต่เราก็แค่กังวลมากเกินไป ._. ”แบคฮยอนมองหน้าเศร้าสลดหดหู่ของชานยอลแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีกจนในที่สุดชานยอลต้องเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

     

                “ถึงแม้ว่าพวกแบคฮยอนจะนิสัยไม่ดี ทำตัวเหลวไหลแต่เราก็ไม่เคยมองพวกแบคฮยอนให้ดูชั่วไปกว่านั้นเลยนะ  เราไม่เหมือนคนอื่นในโรงเรียนแน่นอน...”

     

                “...”

     

                “เป็นเพื่อนกันเถอะนะแบคฮยอน เรารู้สึกผิดแล้ว ;_; ”  แบคฮยอนมองหน้าคนที่ขอคืนดีอยู่ตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่จะวางปากกาลงแล้วกุมมือวางไว้ที่ใต้คางก่อนจะมองชานยอลด้วยแววตาละห้อยแล้วเอ่ยขึ้นมา

     

                “มึงด่ากูไปตั้งเท่าไร คิดจะมาขอโทษด้วยของแค่นี้  ไม่เชี่ยไปหน่อยเหรอว่ะชานยอล”

     

                “จะให้เราทำอะไรก็ได้นะ! เราทำให้ได้ทุกอย่างเลย   แต่ขออย่างเดียวให้แบคฮยอนเลิกโกรธเราก็เป็นพอ”  ชานยอลรีบพูดทันทีด้วยแววตาที่มุ่งมั่นส่งมาหาแบคฮยอน  ร่างเตี้ยลูบคางตัวเองเบาๆอย่างใช้ความคิดก่อนที่นิ้วบางจะชี้วนรอบถุงของกินขนาดใหญ่

     

                “ซื้อของกินเลี้ยงกู 1 อาทิตย์ดิ..”

     

                “ห๊ะ..?? ซื้อของกินเลี้ยงแบคฮยอนอาทิตย์นึง?

     

                “ใช่  นี่มึงรู้มั้ยว่าคนเราดำรงชีวิตด้วยการแดก  การแดกคือเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตกู  เพราะฉะนั้นซื้อของกินมาเลี้ยงกูซะ” ชานยอลลืมตาแป๋วใส่แบคฮยอนด้วยความงง เพราะไม่สามารถเจาะจงได้ว่าแท้จริงแล้วความต้องการของแบคฮยอนคืออะไรกันแน่  แต่ก็เอ่ยขึ้นมา

     

                “มันไม่เหมือนง้อเพื่อนเลยอ่ะแบคฮยอน แต่เหมือนเราเป็นพวกตัณหากลับที่หนีครอบครัวมาเลี้ยงดูผู้หญิงในผับมากกว่า...” พูดจบคำพูดด้วยความใสซื่อเล่นเอาจงแดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆรีบเอามือปิดปากกลั้นขำทันที  แบคฮยอนหันขวับเอาศอกสะทุ้งเต็มหน้าท้องจงแดก่อนจะหันมาตวาดใส่ชานยอล

     

                “มึงตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้!

     

    แปะ!!

     

                มือหนารีบทำตามที่สั่งทันทีโดยไม่รีรอ แบคฮยอนจิกตาขวางพร้อมทำมือทำท่าจะเขกหัวแต่ก็ต้องชักมือลงอย่างหงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผล  เฮอะ! ให้ตายสิ!!

     

                “กะ..ก็ได้  เราซื้อของกินเลี้ยงแบคฮยอนก็ได้  แต่ถ้าเราซื้อแล้วแบคฮยอนจะหายโกรธเราใช่มั้ย?

     

                “แน่นอน...ถ้ากูได้แดกก่อนนะ”  ชานยอลยิ้มกว้างทันทีกับประโยคหลัง ก่อนจะรีบแกะซองของกินที่วางบนโต๊ะอย่างขมักเขม้น เตรียมพร้อมสำหรับการเสิร์ฟอาหารถึงปากของแบคฮยอนที่ตอนนี้นั่งยิ้มหน้าตาระรื่นอยู่ตรงนี้แล้วล่ะ

    . 

                “งอนง่ายหายเร็วเนอะ สัส..วันนั้นล่ะดราม่าจะแดกหัวกูแหละ วันนี้แม่งเจอของกินเข้าไปไม่ได้หน่อยล่ะลืมเศร้าเลยนะมึง” คยองซูพูดขึ้นท่ามกลางของกินมากกมายที่วางบนโต๊ะในโรงอาหาร  เสียงกินดังจ๊อบแจ๊บอยู่ไม่ขาดของทั้งสามคน ที่อยู่ดีกินดี  อิ่มจังตังค์อยู่ครบมาตลอดสี่วันที่ผ่านมา..

     

    ชานยอลซื้ออาหารมาเลี้ยงแบคฮยอนและเหล่าเพื่อนผองเป็นวันที่สี่แล้ว...

     

                เจ้าของเงินมื้อนี้ไม่มาร่วมโต๊ะด้วยเนื่องจากติดภารกิจจากอาจารย์อี้ฟานตั้งแต่สี่โมงกว่าๆจนตอนนี้จะบ่ายโมงแล้ว  แต่ช่างเหอะ ถึงชานยอลอยู่เขาก็ไม่กินอยู่ดี เพราะคำพวกนี้ไงล่ะ...

     

     

                แบคฮยอนต้องแบ่งเพื่อนๆกินด้วยนะ เยอะขนาดนี้กินเข้าไปไม่ไหวหรอก

     

                ‘มีแต่แป้ง ของมันทั้งนั้นเลยอ่ะ ถ้าเป็นไปได้เราอยากซื้ออาหารคลีนให้มากกว่านะ อิ่มเร็วแถมสุขภาพยังดีด้วย

     

                ‘ดูสิ..แบคฮยอนกินเยอะจนพุงใหญ่แล้วอ่ะ

     

                ‘ถ้าเดินแล้วมันช้า เราว่าแบคฮยอนเปลี่ยนไปเป็นกลิ้งคงจะเร็วขึ้นนะ

     

                เราว่ากว่าจะครบอาทิตย์ แบคฮยอนต้องคอสเพลย์เป็นตุ่มแน่ๆเลยอ่ะ..

     

               

    โธ่เว้ย!  น่ารำคาญ!  น่ารำคาญชิบหายยยยย!!!

     

                รวมคำสารพัดสารเพที่ชานยอลหลอกด่าตลอดสี่วันที่ผ่านมา นึกทีไรก็อยากจะเตะปากมันสักป้าบ แต่โลกช่างโหดร้ายที่ไม่เคยให้ขาเขาถึงคางมันสักที!! แต่ถึงยังไงก็เถอะ แบคฮยอนตกลงกับชานยอลไปแล้วนี่ว่าจะหายโกรธ กลับไปเล่นด้วยถ้าได้กินของอร่อยๆพวกนี้...

     

     

     

    เป็นโมเม้นท์ที่เหมือนไทม์แมชชีนไปตอนห้าขวบเลยค่ะเพื่อนรัก...

    ถามหน่อยเถอะว่ามึงกี่ปีแล้ววะแบคฮยอน!!

     

     

     

                “โอ้ย~ แม่งอิ่มเว้ยยยย~” คยองซูวางช้อนลงทันทีที่เค้กช็อกโกแลตราคาแพงถึงปากเป็นคำสุดท้ายก่อนจะเอามือลูบท้องตัวเองปอยๆ   จงแดเองก็เช่นกันขนมกรุบกรอบที่ยัดเข้าไปเต็มท้องจนเกลี้ยงทำให้รู้สึกแน่นขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ของกินที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะนี่หมดไปเกินครึ่งสักนิดเดียว.. ใช่ ชานยอลซื้อมามากเกินไป มากเกินที่สามก้อนนี่จะยัดเข้าไปหมด  แต่ถึงยังไงชานยอลก็ควรขอบคุณสามคนนี่นะที่เสียสละโดนคาบมาจัดการของกินนี่น่ะ 

     

                “แม่งเหลืออีกเต็มโต๊ะเลยว่ะ..เชี่ยแบค จัดการต่อเลยมึง  พวกกูไม่ไหวแล้ว” จงแดชี้นิ้วสั่งแบคฮยอนที่นั่งฉีกดอกไม้เล่นอย่างอารมณ์ดี ร่างเตี้ยรู้หน้าที่ตัวเองจัดการเก็บกล่องขนมเค้กต่างๆ  อาหารชุดที่ยังไม่หมด  และช่อดอกไม้ที่ชานยอลให้อย่างไม่รีบร้อน หลังจากที่ของบนโต๊ะอยู่ให้อ้อมอกของแบคฮยอน ขาสั้นๆก็เดินไปที่ถังขยะแล้วปล่อยของทั้งหมดลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกทันที

     

     

                                        ฟุบบบ!!

     

                ของกินต่างๆที่หมดแล้วและยังไม่หมดหรือแม้กระทั่งยังไม่แกะห่อด้วยซ้ำถูกทิ้งลงในถังขยะอย่างสบายใจเฉิ่ม ร่างเตี้ยปัดมือทำความสะอาดนิดหน่อยแล้วเดินยิ้มกว้างจนตาปิดมาข้างเพื่อนรักทั้งสองที่นั่งแอ้งแม่งเพราะความอิ่มจัด  คยองซูเหลือบตามองแบคฮยอนที่ปั้นหน้ายิ้มตาหยีจนน่าหมั้นไส้ก่อนจะพูดออกมา 

     

                “คิดยังไงทิ้งของยังไม่กินวะมึง  ดอกไม้นั้นอีก... ไม่กลัวมันมาเห็นรึไง” แบคฮยอนหุบยิ้มนิดนึงแล้วมองคยองซูด้วยหางตา ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มต่อแล้วเอ่ยขึ้น

     

                “กลัวทำไม ของกินกันไม่หวาดไม่ไหวกูเก็บไว้ก็บูดอยู่ดี..ส่วนดอกไม้นั่นก็..มึงจะให้ผู้ชายอย่างกูถือออกจากโรงเรียนแล้วให้คนแซวเหรอว่ะ  คนอย่างแบคฮยอนทำใจไม่ได้ว่ะ  แล้วอีกอย่างกูก็ทิ้งงี้ตั้งแต่วันแรกมึงพึ่งมาบ่นอะไรกูตอนนี้ว่ะ ”

     

                “กูก็บอกมึงตั้งแต่วันแรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้ากินไม่ไหวก็บอกมันให้ซื้อน้อยลง แต่มึงเล่นประชดกูบอกให้มันซื้อเยอะขึ้น  ชานยอลแม่งก็ซื่อ บ้าจี้ตามมึง ไม่รู้แม่งรวยมาจากไหนซื้อของกินวันละสองสามหมื่นวอนให้แดก...มึงไม่คิดเหรอวะว่าเงินที่มันซื้อของกินให้แบบนี้อาจเป็นเงินก้อนสุดท้ายของมันก็ได้”

     

                “มึงอย่ามาดราม่าใส่กู..”

     

                “กูพูดความจริง...มึงก็บอกกูเองไม่ใช่เหรอว่ามึงกับมันสนิทกันตั้งแต่อนุบาลบูชอน  แต่ขึ้นเกรด 1 ก็เลยแยกกันไปเรียนคนละที่   ชานยอลมันก็คงนึกถึงมิตรภาพในวัยเด็กล่ะมั้งเลยลงทุนซื้อของกินมาง้อมึงแบบนี้..”

     

                “....”

     

                “ทิ้งของกินนี่กูพอเข้าใจ  แต่มึงเล่นทิ้งช่อดอกไม้ที่มันตั้งใจซื้อให้ทุกวันแบบนี้  ถ้ากูเป็นชานยอลกูเสียใจแย่ว่ะ”

     

                “.....”

     

                “.....”

     

                “เราไม่เสียใจหรอก ฮ่ะฮ่ะ”  เสียงหัวเราะแห้งทุ้มๆที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้ทั้งสามคนหันไปทันที  มือหนาวางช่อดอกไม้ที่แบคฮยอนทิ้งไปเมื่อกี้ลงบนโต๊ะแล้วยิ้มกว้าง “เรารู้ว่าแบคฮยอนไม่ได้ตั้งใจทิ้งดอกไม้  มันหลุดมือแบคฮยอนแล้วตกถังขยะ  แต่เราเก็บมาให้แล้วนะ”

     

                “มะ..มึงมาตอนไหนว่ะ” แบคฮยอนถามเสียงสั่นๆ

     

                “ก็นานแล้วล่ะ” ชานยอลแค่นรอยยิ้มออกมาจนแบคฮยอนสังเกตได้  แววตาใสๆมีน้ำนองอยู่ในนั้นนิดนึงแต่ชานยอลก็พยายามกระพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา “คือเงินที่เราซื้อให้อ่ะ มันเป็นเงินของธุรกิจครอบครัวเราเองนะ  ทางบ้านเราฐานะก็ค่อนข้างดีอยู่ แบคฮยอนไม่ต้องกังวลหรอก กินของที่เราซื้อมาให้ได้สบายใจเลย” แบคฮยอนรู้สึกหน้าชาทันทีเมื่อเห็นแววตาคู่นั้นของชานยอล  ใบหน้าของเขาที่พยายามปั้นรอยยิ้มขึ้นมา  มองไปที่ช่อดอกไม้ที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ป่นปี้ไปหมด เหลือเพียงไม่กี่ดอกที่อยู่ในสภาพดีแต่ก็เปื้อนและช้ำพอสมควร 

     

                “งะ..งั้นเราไปก่อนนะ..” ร่างสูงใบหน้าที่เริ่มเจื่อนขึ้นค่อยๆหันหลังและจะเดินหนีแต่แบคฮยอนก็เอ่ยห้ามไว้

     

                “ชานยอล! เดี๋ยวก่อน!!”  ไม่เป็นผล...ไม่เป็นผลสักนิดเดียว  ทั้งๆที่แบคฮยอนร้องห้ามแต่ชานยอลกลับรีบวิ่งออกไป  ขาสั้นๆรีบตามไปทันที ไม่รู้หรอกว่าชานยอลจะไปทางไหน  ไปทำอะไร  แต่ตอนนี้เขาขอชานยอลอยู่อย่างเดียว  ขออย่าพึ่งเกลียดกูได้มั้ยว่ะ!!    


        --65%--

     

                ชานยอลวิ่งมาทางตึกที่สูงที่สุดของโรงเรียน  ไม่รอช้าร่างสูงก็หายลิบวิ่งไปทางขึ้นบันไดทันที  แบคฮยอนหอบหายใจหนักเพราะตามมาไม่ได้หยุดพักแต่ก็ต้องลากสังขารตัวเองตามชานยอลขึ้นไปทันทีถึงแม้ว่าปากของเขาก็ขอร้องให้ชานยอลหยุดก็ตาม   แผ่นหลังชานยอลที่มองเห็นเป็นระยะทำให้แบคฮยอนโล่งใจนิดนึงที่วิ่งตามทัน   ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่แบคฮยอนวิ่งตามชานยอลแบบไม่มีจุดหมายแบบนี้แต่สุดท้ายขายาวๆก็พาเขามาหยุดตรงที่ดาดฟ้า...ดาดฟ้าอย่างนั้นเหรอ??

     

                “ชานยอล! มึงอย่าคิดโง่ๆนะเว้ย!!  แค่กูทิ้งดอกไม้ที่มึงให้มึงคิดจะฆ่าตัวตายเลยเหรอ!!  กูสัญญาว่ากูจะพยายามค้นฟ้าหาดอกไม้ที่กูทิ้งให้ได้ แต่มึงต้องออกมาจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้นะ!!!

     

                “.....”  แบคฮยอนแทบสติแตกที่การตอบรับของชานยอลคือแค่หันหน้ามายิ้มเหมือนในหนังสยองขวัญให้แค่นั้น  ก่อนที่ร่างสูงจะเดินไปที่แนวกั้นของตึก  ใจของแบคฮยอนก็ยิ่งตกฮวบไปอยู่ที่ปลายเท้าทันที  ร่างเตี้ยรีบไปหาชานยอลแล้วหาตำแหน่งอยู่ห่างๆของร่างสูงไว้เพราะไม่อยากให้ชานยอลคิดเตลิดไปไกลมากกว่านี้ก่อนจะพยายามตั้งสติสูดลมหายใจเข้าออกเบาๆแล้วเอ่ยขึ้น

     

                “มึงฟังกูนะชานยอล...มึงยังมีพ่อมีแม่  กูขอโทษเว้ยที่ทิ้งของพวกนั้นไป  เออ! กูยอมรับว่ากูแค่แกล้งมึงเล่นๆแต่กูไม่คิดว่ามึงจะเป็นแบบนี้  ความจริงกูก็หายโกรธมึงตั้งแต่วันแรกแล้วด้วยแต่ช่วงนี้เงินกูช๊อต พ่อกับแม่กูก็ยึดการ์ดแถมยังตั้งลิมิตไม่ให้กูใช้เงินเดือนนึงเกินแสนวอนด้วย...” เหมือนความในใจจะค่อยๆพรั่งพรูออกมาเรื่อยๆอย่างสำนึกผิด  แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ชานยอลหยุดทำเรื่องบ้าๆนั่นสักที   ชานยอลโดดข้ามรั้วกั้นไปอย่างง่ายดายในขณะที่คนตามอย่างแบคฮยอนต้องปีนป่ายเอา   ร่างสูงหยุดเท้าที่ขอบตึกก่อนจะหันมาหาแบคฮยอนแล้วยิ้ม....แล้วเขาก็นั่งลงหย่อนขารับลมอย่างสบายใจเฉิ่มพร้อมแกว่งขาไปมา...

     

    ฮะ??  นี่แบคฮยอนกำลังเข้าใจอะไรผิดเหรอ??

     

                “เราไม่ได้จะฆ่าตัวตายสักหน่อยอ่ะ  แค่ขึ้นมารับลมเท่านั้นเอง...” แบคฮยอนมองคนเอ๋อด้วยตาปริบๆก่อนจะเดินมาจุดที่ชานยอลนั่งอยู่    มิน่าล่ะ..เพราะมีระเบียงแท่นปูนแถวยาวที่ยื่นออกมาจากข้างล่างห่างจากเท้าเขาก็ไม่น่าเกิน 1 เมตร ถึงทำให้ชานยอลกล้าที่จะนั่งหย่อนขาลงท่ามกลางตึกสูง 5 ชั้นแบบนี้...

     

    ไอ้ซัซเอ๊ย!!   ทำเอากูใจหายใจคว่ำหมด!!!!

     

                ผลั่ว!

     

                ตบหัวชานยอลทันทีด้วยความโมโหที่บังอาจมาทำเขาใจหาย   ร่างสูงลูบหัวตัวเองปอยๆก่อนยิ้มออกมา

     

                “เป็นห่วงเราเหรอ?

     

                “ห่วงพ่อมึงดิ!!  กูแหกปากบอกให้มึงหยุด มึงก็กลับวิ่ง  นี่ยังต้องถ่อสังขารลากตัวขึ้นมาบนดาดฟ้าอีก  สัสเอ๊ยกูก็คิดว่ามึงเสียใจจะโดดตึกตายซะอีก!! ”  แบคฮยอนสะบัดผมตัวเองเพื่อไล่ให้เหงื่อออกก่อนจะจิกตามองชานยอล  ชานยอลยิ้มกว้างให้ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาเบาๆโดยที่สายตาคู่นั้นทอดมองไปที่ท้องฟ้า  โชคดีที่วันนี้อากาศดี  ไม่มีแดดเลยทำให้ชานยอลมองบรรยากาศตรงนี้ได้เต็มตา

     

                “เราไม่ได้เสียใจ..”

     

                “....”

     

                “เราแค่เสียความรู้สึก...”  สายตาที่จิกเล่นๆลดลงทันที มองหน้าชานยอลอย่างรู้สึกผิดแล้วปล่อยให้ร่างสูงเอ่ยขึ้นต่อ

     

                “เราตั้งใจซื้อของทุกอย่างให้แบคฮยอนจริงๆนะแม้กระทั่งดอกไม้..เราไม่รู้ว่าแบคฮยอนชอบสีไหน  ดอกอะไร  เลยคิดว่าดอกกุหลาบหลายๆสีน่าจะให้ความรู้สึกดีมากกว่าดอกอื่น  แต่ถ้ามันทำให้แบคฮยอนอายเวลาถือ เราก็ขอโทษ...”

     

                “กูต่างหากที่ต้องขอโทษ...ขอโทษที่เอาไปทิ้ง...”  แบคฮยอนก้มหน้าพูดเพราะไม่กล้ามองชานยอล  จู่ๆความรู้สึกผิดเหี้ยๆแบบไม่น่าให้อภัยมันก็ลอยเต็มตัวแบคฮยอนตอนนี้ไปหมด   ความนิ่งเงียบของทั้งสองคนยิ่งทำให้บรรยากาศหดหู่มากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดแบคฮยอนก็นึกอะไรขึ้นได้ ก่อนที่มือเล็กๆจะควานหาสิ่งที่ต้องการในกระเป๋าเสื้อแล้วเอาออกมาพร้อมยื่นให้ชานยอลด้วยรอยยิ้มกล้าๆกลัวๆ

     

                “คืนดีกัน...”  ชานยอลหันขวับไปหาแบคฮยอนอย่างงงๆ  แต่รอยยิ้มที่ไม่ต้องพยายามปั้นขึ้นมาก็ผุดขึ้นมาตามนิสัยทันที

     

                “อมยิ้มแท่ง...กูซื้อมาเมื่อตอนเที่ยงนี่เอง  หวานมาก อร่อยดี  มึงกินดูสิ..”  เอาอมยิ้มสะกิดที่ต้นแขนชานยอลเบาๆทำให้เขารับมาอย่างพอใจ  อมยิ้มสองแท่งในมือชานยอลค่อยๆถูกแกะออกอย่างใจเย็นในขณะที่แบคฮยอนมองอยู่ไม่คลาดสายตา   ทันทีที่ชานยอลแกะออกเสร็จ อมยิ้มหนึ่งแท่งก็ถูกเจ้าของคนปัจจุบันยื่นมาให้เขาพร้อมยิ้มกว้าง

     

                “ถ้าอร่อยก็กินด้วยกันสิ ^^

     

     

    บางทีแบคฮยอนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน...

    ว่าทำไมเขาต้องมาง้อไอ้ขี้เปียกนี่ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมันพึ่งง้อเขาไปหยกๆด้วย

     

     

                “คิดยังไงถึงวิ่งมาบนดาดฟ้าว่ะ  ไม่ได้ยินที่กูตะโกนเรียกเหรอ”  รับมาอย่างเต็มใจแล้วจัดการกัดคำนึงเอาปากทันที  ชานยอลอมของหวานเข้าไปในปากเพื่มชิมรสนิดหน่อยก่อนจะเอาของมาแล้วพูด

     

                “ได้ยินสิ..แต่ตอนนั้นสมองเรามันสั่งให้ขึ้นมาบนนี้อ่ะ สงสัยเพราะเวลาเราเครียดแล้วชอบมาตรงนี้บ่อยๆมั้ง...แต่ตอนนี้เราไม่เครียดแล้วนะ ต้องขอบคุณอมยิ้มของแบคฮยอนจริงๆ”

     

                “โอเวอร์แหละ  ของห้าร้อยวอนมันไม่ได้วิเศษอะไรขนาดนั้นหรอก”

     

                “ใครว่าล่ะ..สำหรับเรามันพิเศษมากๆเลยล่ะ ”  ผลักหัวชานยอลด้วยความหมั้นไส้ก่อนจะยัดอมยิ้มเข้าปากต่อ   มองบรรยากาศรอบโรงเรียนตอนบ่ายโมงกว่าๆนี้มันเป็นอะไรที่ดีจริงๆ  ตั้งแต่โดดเรียนมานี่ก็เป็นครั้งแรกของเขาที่มาอยู่บนดาดฟ้านี้   แบคฮยอนเหลือบมองชานยอลที่นั่งกินอมยิ้มไปด้วยมองวิวไปด้วยอย่างอารมณ์ดีเป็นระยะๆ จนชานยอลรู้สึกตัวได้ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ

     

                “ลุงยามเอาขยะไปกองทิ้งข้างหลังโรงเรียนอ่ะ พอดีเราอยู่ตรงนั้นก็เลยเห็น...”  ไทยมีเจน ญาณทิพย์  เกาหลีก็คงมีชาน ญาณทิพย์เหมือนกัน  นี่ขนาดแบคฮยอนมองตาปริบๆชานยอลยังรู้ว่าเขาคิดอะไร  มองชานยอลที่ยิ้มกว้างอีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้น

     

                “กูขอโทษ  ขอโทษจริงๆ เลิกโกรธกูนะ...”

     

                “เราไม่ได้โกรธแบคฮยอนสักหน่อย”

     

                “เออนั่นแหละ  เลิกเสียความรู้สึกกูนะ สัญญานะ...” มือเล็กยกนิ้วก้อยตัวเองขึ้นมา  ไม่คิดว่าโมเม้นท์ของเด็กสามขวบนี้ เขาจะได้เอามันออกมาใช้กับชานยอล  ร่างสูงยื่นนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวกับนิ้วของแบคฮยอนแล้วยิ้มกว้าง

     

                “เราหายเสียความรู้สึกกับแบคฮยอนแล้วล่ะ ^^

     

    หายเสียความรู้สึก(ของชานยอล) = หายโกรธ (ของแบคฮยอน)

    โอเค บยอน  แบคฮยอนจะจำไว้ยันวันลูกบวชเลยครับ....



     




     TBC

     


    จุ๊บเหม่งงง รอต่อไปนะแก 555
    สกรีมแท็ก #ฟิคคืนนี้อยากได้กี่ครั้ง
    แก้ไข/จัดหน้า :: 31/08/58

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×