คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ปัญหาส้นตีนที่ 2 :: แจ็คสันมหันตภัย 100%
Chapter 02
“พวกเธอจะแก้ตัวยังไงเหรอกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น? บอกผมหน่อยสิ” แววตาดุดันจากท่านผอ.ลีซูมานที่นั่งเอนหลังใส่เบาะเก้าอี้หนังราคาแพงในห้องปกครอง อากาศห้องเย็นเฉียบแต่มือของทั้งสามร่างนั้นกลับเต็มไปด้วยเหงื่อที่เปียกชุ่ม ผู้อำนวยการจดจ้องสามร่างที่ยืนก้มหน้างุดกุมมือประสานกันอย่างเงียบสงบเหมือนไว้อาลัยอะไรสักอย่าง...
อนาคตไง...
“ไม่มีอะไรแก้ตัวครับ คนที่บอกท่านเขาก็คงคนให้ละลายแล้วล่ะ” คยองซูก้มหน้าพูดทำลายความเงียบอย่างกล้าหาญ ต่างจากแบคฮยอนกับจงแดที่ยังคงยืนเม้มปากหายใจเงียบๆ อาจารย์อี้ฟานที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าถอนหายใจนิดนึง เขากลุ้มใจกับหน้าที่ของตัวเอง ทั้งที่เป็นครูที่ปรึกษาของนักเรียนมอปลายปีสาม ห้อง B แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้บริหารระดับสูงอย่างท่านผอ.ลีซูมาน เหลือบตาไปมองนักเรียนคู่กรณีทั้งสองคน แจ็คสันตีหน้าเศร้าแต่สายตากลับบ่งบอกว่าตัวเองอยู่เหนือทุกสิ่ง พร้อมกับคอยพูดกระแนะกระแหนอยู่ด้านขวาของผู้เป็น ‘ลุง’….
ใช่แล้ว..หวังแจ็คสันกับผอ.ลีซูมานเป็นญาติแท้ๆกัน
แล้วแบบนี้จะไม่ให้พวกเขาไว้อาลัยอนาคตตัวเองได้ไงล่ะ...
กับผู้หญิงคนนึงที่หน้าตาน่ารัก แต่ดูจากการแต่งกระโปรงที่สั่นเลยน่องไปนิดเดียวก็สามารถบอกได้ว่าคงไม่ใสสักเท่าไร เธอกำลังยืนปั้นหน้าปั้นตาราวกับว่าการที่พวกแบคฮยอนรุมกระทืบคนกวนตีนมันเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมต่อโลกของเธอยิ่งนัก และเพราะว่าการพูดเหนือเกินจริงของผู้หญิงคนนี้ไงที่ทำให้พวกแบคฮยอนต้องกลายเป็นคนผิดเต็มประตู
ผู้หญิงที่ชักแม่น้ำทั้งโลกคนนี้ ชื่อ คิม แทยอน...
หนึ่งในห้าของแก๊งค์ประธานนักเรียน..
เฮอะ..! อีกคนในแก๊งค์นี้แล้วสินะที่แบคฮยอนเกลียดเข้าไส้อีกคน!!
“หนูพูดความจริงนะค่ะท่านผอ.! คนพวกนี้เข้ามาหาเรื่องแจ็คสันแล้วก็รุมกระทืบอย่างไร้ความเป็นมนุษย์ ทั้งยังทิ้งเขาให้นอนขดท่ามกลางหิมะที่กำลังตกแรงอย่างทารุณ ยิ่งหนูนึกถึงภาพนั้นหนูก็ยิ่งสะเทือนใจ...” ทั้งสามคนที่ถูกกล่าวหาเงยหน้าพร้อมกันแล้วส่งกระแสจิตไปหาแทยอนอย่างมิได้นัดหมายทันที บางทีพวกเขาควรจะฆ่ายัยนี่แล้วหมกส้วมดีมั้ยนะ..
“พวกเธอไม่ควรมองข่มขู่พยานในเหตุการณ์แบบนั้นนะ แบคฮยอน คยองซู จงแด..” ท่านผอ.พูดเสียงนิ่งพร้อมมองมาหาทั้งสามคน ทำให้พวกเขาต้องรีบก้มหน้าอย่างเดิม “ทำตัวไร้อนาคตแล้วยังมีกิริยาแบบนี้กับหลานของฉันอีก พวกเธอคิดว่าฉันควรจะให้พวกเธออยู่ในโรงเรียนนี่ต่อไปมั้ย..” ทั้งสามคนมองตาไปมาด้วยสีหน้าที่ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด แจ็คสันร้องเฮในใจเบาๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างอี้ฟานต้องขอขัดผู้อำนวยการเบาๆ
“เอ่อท่านผอ.ครับ ผมคิดว่าท่านน่าจะให้โอกาสทั้งสามคนนี่หน่อยนะครับ พวกเขาก็ช่วยเหลือโรงเรียนมาตลอด อีกอย่างปีนี้ก็ปีสุดท้ายแล้วด้วยที่เด็กทั้งสามคนจะอยู่ ผมว่-”
“ไล่ออกไปเลยครับลุง! แก๊งค์เดอะเบสท์แต่เกรดต่ำแบบนี้ไม่สมควรอยู่โรงเรียนของลุงนะครับ! แถมทั้งยังรุมทำร้ายผมจนเจ็บตัวอีกต่างหาก แบบนี้เขาเรียกว่าหมาหมู่ชัดๆ..” สะกิดไหล่ของผู้เป็นลุงเบาๆพร้อมเปิดแผลต่างๆที่เริ่มจางหายให้ดู ทั้งที่ผ่านมาเกือบเดือนจนพวกแบคฮยอนคิดว่าแจ็คสันคงกลัวจนหางจุกตูดเลยไม่สนใจอะไร แต่จู่ๆแจ็คสันกลับคัมแบคแบบอลังการถึงขนาดจะหวังไม่ให้พวกเขาเหยียบโรงเรียนนี้อีกกันเลยทีเดียว จากที่ว่ามาทั้งหมดคยองซูคิดว่าแจ็คสันคงวางแผนมาดีแน่ๆ..
“เอาล่ะๆ ฉันตัดสินใจแล้ว..” ยกมือปราบหลานชายพร้อมกับเหยียดหลังนั่งตัวตรงจดจ้องไปหาสามร่างที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากันอย่างไม่ตั้งใจ “..โดดเรียนไม่ต่ำกว่ายี่สิบคาบ คะแนนผ่านเกรดศูนย์แค่นิดเดียว ทะเลาะวิวาททั้งต่างห้อง ต่างชั้น ต่างโรงเรียนมาครั้งไม่ถ้วน ทั้งยังรุมทำร้ายร่างกายหลานของผมแบบนี้.. ผมว่าพวกคุณควรลอ-”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูจากด้านนอกห้องปกครองเรียกความสนใจทำให้ทุกสายตาในห้องนี้จดจ่อไปที่หน้าประตูทันที
“ไปบอกว่าผมกำลังมีธุระอยู่.. ” หันหน้าไปหาอี้ฟานที่นั่งอยู่โซฟาข้างๆ อาจารย์ร่างสูงโค้งหัวให้ก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตู เผยให้เห็นผู้ชายที่ส่วนสูงไล่เลี่ยกันยืนกุมมือสั่นๆอยู่ด้านนอก ขมวดคิ้วนิดนึงก่อนจะเอ่ยถาม
“ผอ.กำลังมีธุระอยู่นะชานยอล นายก็น่าจะรู้ว่าเรื่องอะไร..” อี้ฟานบบอกย้ำประโยคหลังให้ชานยอลก่อนจะปิดประตู แต่ชานยอลกลับเอาแขนดันประตูก่อน
“คือผมทราบครับอาจารย์ ผมเลยต้องมาที่นี่” อี้ฟานขมวดคิ้วให้ลูกรักของตัวเองด้วยความสงสัย ชานยอลพ่นหายใจแรงออกมาก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ผมเป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดครับ!”
ทันทีที่ชานยอลได้ก้าวเข้ามาในห้องปกครอง ความรู้สึกแรกเลยคืออาการเสียวหลัง...เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยได้เหยียบ ใกล้ชิด สนิทเชื้อกันสักครั้ง..
เป็นเพราะแบคฮยอนนั่นแหละ ที่ทำให้นักเรียนดีเด่นแบบเขาเข้ามาในห้องอับโชคนี่ได้…
.
..
...
....
‘แบคฮยอนจะให้เราโกหกผู้อำนวยการเหรอ!?’ ดวงตาเบิกโพลงกลมดิ๊กจากปาร์คชานยอลถูกส่งมาหาคนตัวเตี้ยที่นั่งอยู่ข้างๆ แบคฮยอนเอามือตบบ่าปุๆแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ
‘ไม่ได้โกหกเว้ย มึงอย่าเข้าใจผิด เขาเรียกว่าชี้แจงให้กระจ่างต่างหาก’
‘ตะ..แต่เราไม่ได้เห็นเหตุการณ์สักนิดเลยนะ ไม่รู้ด้วยว่าวันไห-’
‘วันที่ xx/xx/xxxx เวลาประมาณ xx:xx...’ คยองซูบอกขึ้นด้วยเสียงเรียบๆทำให้ชานยอลหน้าเหวอนิดนึง ก่อนจะอ้าปากค้านอีกครั้งแต่ก็ถูกแบคฮยอนตะคอกกลับก่อน
‘ช่วยกูไม่ได้เหรอว่ะ! นี่อนาคตพวกกูจะดับเพราะไอ้ตัวสั้นนั้นนะเว้ย ถ้ารู้ว่ามึงเป็นคนแบบนี้นะ กูไม่เป็นเพื่อนกับมึงหรอก ชานยอล!!’ ชานยอลกระพริบตาถี่ๆเพราะตกใจเล็กน้อยก่อนจะรีบปัดมือปฏิเสธ
‘เราอยากช่วยแบคฮยอนนะ แต่ถ้าให้เราไปโกหกว่ารู้เห็นทุกอย่างเราทำไม่ได้ แบคฮยอนคิดหาวิธีใหม่เถอะ’
‘สมองกูคิดได้แค่นี้แหละ! เกรดสี่ทุกปีไม่ใช่เหรอ! มึงคิดเองสิ!!’ ตะคอกกลับมาหนักกว่าเก่าจนทำให้ชานยอลสะดุ้ง คยองซูกับจงแดที่ยืนอยู่ข้างๆกลั้นขำสุดฤทธิ์เพราะการแสดงของเพื่อนตัวเอง ทั้งสองคนก็พอจะดูออกว่าแบคฮยอนกำลังจะทำอะไร ชานยอลได้ย้ายห้องก็เพราะเป็นลูกรักของครูอี้ฟาน ซึ่งครูอี้ฟานก็ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกรักของท่านผอ.เหมือนกันนั่นแหละ
อ่านเกมส์ออกกันใช่มั้ยล่ะ…..
“มันไม่ใช่ปัญหาของเรานะ..” ชานยอลบอกหน้าตาเลิกลั่กก่อนจะก้มหน้างุดส่งผลให้คนที่มันกัดฟันอยู่ตรงนี้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรักที่ยืนอยู่ แต่กลับไร้เสียงตอบรับจากสองคน แบคฮยอนกัดปากใช้ความคิดสักพักก่อนจะก้มหน้าลงนอนแนบกับโต๊ะพร้อมกับถอนหายใจแรงๆทำให้ชานยอลเงยหน้าขึ้นมามอง
‘เซาโล...มึงช่วยกูไม่ได้เหรอว่ะ..’ เสียงแผ่วเบาเล็ดลอดออกจากช่องว่างของช่วงแขนจากแบคฮยอนทำให้คนถูกอ้อนวอนกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ‘ถ้ามึงไม่ช่วยพวกกู พวกกูถูกไล่ออกแน่ๆ มึงก็รู้ว่าพวกกูโดนทัณฑ์บนโรงเรียนมาเยอะ แล้วนี่ระดับหลานผอ.อนาคตพวกกูดับแน่ๆ’ พูดแม้จะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่สีหน้าของชานยอลก็เริ่มไม่สู้ดีตามน้ำเสียงของแบคฮยอน ความคิดที่ตีกันยุ่งเหยิงว่าเขาควรจะเลือกช่วยแบคฮยอนอย่างไรดีระหว่างต้องโกหกหรือจะไม่โกหกแต่ก็ไม่ได้ช่วยแบคฮยอนอะไรสักนิดเลย แต่ระหว่างในการใช้ความคิดจู่ๆไหล่ของแบคฮยอนก็เริ่มสั่นทดเบาๆ เสียงคล้ายๆคนร้องไห้เริ่มดังออกมาจนทำให้ชานยอลตกใจเล็กน้อยพร้อมกับเขย่าไหล่แคบเบาๆ
‘แบคฮยอน! แบคฮยอนอย่าร้องไห้สิ’
‘มึงจะ..ฮึก..ไม่ให้กูร้องได้ไง...ฮึก..อนาคตกำลังดับ..เพื่อนที่สนิทกันมา..ตั้งแต่เด็ก.ก็ไม่ช่วย..ฮึก กูควรยิ้มรับแสงพระอาทิตย์เป็นเทเลทับบี้เหรอไงฮะ..ฮึกก ฮืออออ’
‘ก็ได้ๆๆ!! เราจะช่วยแบคฮยอนก็ได้ แต่แบคฮยอนหยุดร้องไห้ก่อนนะ!’ มือหนารีบคว้านหากระดาษทิชชู่ในกระเป๋าแล้วยื่นให้แบคฮยอนที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา คนที่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้ยอมรับกระดาษทิชชู่จากขานยอลมาซับน้ำตาเบาๆพร้อมพูดเสียงสั่นๆ
‘มึงจะช่วยพวกกู..ฮึก..แน่นะ?’
‘แน่สิ! เราสัญญาเลย แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาก่อนได้มั้ยอ่ะ เราใจไม่ดีเลย’
‘ก็ได้...’ ร่างเตี้ยๆค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นรอยยิ้มที่แลบลิ้นออกมาอย่างเหนือชัยกับเสียงที่แกล้งร้องไห้ ชานยอลตาโตขึ้นเมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มไร้คราบน้ำตาของแบคฮยอนที่แตกต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง
‘ฮ่าฮ่า เซาโลมึงสัญญาว่าจะช่วยพวกเราแล้ว! แท็กมือหน่อยสิครับสหาย’ ยกมือขึ้นแท็กมือกับคยองซูกับจงแดแล้วยิ้มแป้นให้ชานยอลอย่างเหนือชัย..
นี่แหละคือที่มาว่าทำไมชานยอลถึงได้มายืนในห้องนี้...
ไม่น่าสัญญากับแบคฮยอนเลยจริงๆ..
แต่เขาก็เต็มใจที่จะช่วยนะ....
--70%--
“ว่าไงล่ะชานยอล เธอเห็นอะไรที่แตกต่างจากแทยอนไหม” เสียงเข้มจากลีซูมานทำให้ชานยอลสะดุ้งเล็กน้อย เหลือบมองหน้าแบคฮยอนนิดนึงก่อนจะหันไปหาผอ.แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบปกติ
“ครับ..ผมเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง..”
“งั้นก็เล่ามาซิ..” ชานยอลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เบาๆส่งผลให้แทยอนใจสั่นกับความเซ็กซี่ที่แล่นมาอยู่ตรงหน้า อะไรกัน..ทั้งที่ความรู้สึกตอนนี้เธอควรที่จะกลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่มันตรงกันข้ามสิ แต่ทำไมต้องมาใจสั่นแบบนี้ คิมแทยอนเธอควรดึงกะโหลกเดี๋ยวนี้!!
“เอ่อ..ท่านผอ.ค่ะ ที่หนูเล่ามาทั้งหม-”
“ฉันจะฟังที่ชานยอลพูด เธอควรมีมารยาทและเงียบหน่อยนะ แทยอน” แทยอนหุบปากทันทีที่ลีซูมานพูดเสียงนิ่งพร้อมแววตาดุดันนั่น หันไปหาชานยอลอีกทีก็พบว่าตัวเองถูกสายตาคู่นั้นกำลังมองมาเหมือนกัน..ชานยอลยิ้มหวานให้แทยอนอย่างอ่อนโยนตามมารยาทและนิสัยส่วนตัวก่อนจะหันไปหาท่านผอ.
เขายิ้มทำไมน่ะ...??
คุณผู้ชายไม่รู้เหรอคะ ว่าเขาไม่ให้ยิ้มแบบนี้กับผู้หญิงที่ไม่ได้ชอบ!
มันจะละลาย เข้าใจมั้ย!!
“แจ็คสันเป็นคนไปหาเรื่องแบคฮยอนก่อนครับ..”
“เฮ้ย! มึงพูดดีๆนะเว้ย ใครหาเรื่องใครก่อน!!” แจ็คสันชี้หน้าคาดโทษใส่ชานยอลอย่างควบคุมสติไม่ไหว “พวกมันนั่นแหละที่หาเรื่องกูก่อน!!”
“แจ็คสัน..ลุงต้องฟังทั้งสองข้างนะ เงียบก่อน..” ฟึดฟัดใส่อย่างอารมณ์เสียก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาข้างๆอี้ฟาน ชานยอลเมื่อเห็นว่าทุกคนเริ่มฟังตัวเองแล้วเขาเลยเอ่ยประโยคต่อไป
“..วันนั้นทั้งสามคนเดินออกจากห้องน้ำครับ แล้วจู่ๆแจ็คสันก็เดินเข้ามาหาก่อน..”
“....”
“ผมไม่ทราบว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันเพราะตำแหน่งที่ผมยืนอยู่มันคือหลังมุมตึก แทบไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นแต่ก็พอได้ยินคร่าวๆว่าแจ็คสันดูถูกเรื่องกีฬาของคยองซูเมื่อปีที่แล้วว่าได้เหรียญมาเพราะโกงครับ..”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะครับลุง!”
“แจ็คสัน! เงียบ!!” อ้าปากขึ้นแย้งทันทีเมื่อชานยอลพูดถึงต้นเหตุของเรื่องแต่ก็ถูกลีซูมานดุ แจ็คสันกอดอกหน้าบึ้งต่างกับพวกแบคฮยอนตอนนี้ที่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ต้องพยายามกลั้นไว้สุดขีด แบคฮยอนใช้สายตาไปหาชานยอลเป็นเชิงบอกว่าให้พูดอีกครั้ง คนถูกสั่งพยักหน้าให้นิดนึงก่อนจะดำเนินเรื่องราวต่อ
“แจ็คสันใช้คำพูดถากถาง ดูหมิ่นความสามารถของคยองซูต่างๆจนเขาเป็นคนเริ่มใช้กำลังก่อนคือการผลักคยองซูจนล้มลงพื้นครับ..หลังจากนั้นแบคฮยอนก็เลยเข้าไปเตะก้นของแจ็คสันจนล้ม จงแดเป็นคนช่วยให้คยองซูลุกขึ้นแล้วหลังจากนั้นอีกทีทั้งสามคนเขาก็พร้อมใจตะลุมบอล กระทืบแจ็คสันครับ...”
“สามรุมหนึ่ง..?”
“คะ..ครับ”
“ถึงมันจะผิดทั้งคู่ แต่พวกเธอก็ไม่สมควรรุมกระทืบหลานฉันแล้วปล่อยให้นอนขดตากหิมะแบบนั้นนะ!” เสียงแข็งจากผู้อำนวยการทำให้ทุกคนในอยู่ในอาการเงียบสงบทันทีเว้นแต่แจ็คสันและแทยอนที่ยิ้มแรงอย่างโจ้งแจ้ง ทั้งแจ็คสันยังทำท่าปาดคอใส่แบคฮยอนอย่างเยาะเย้ยแต่แบคฮยอนก็ทำได้แต่กัดปาก ข่มจิตใจและเท้าไม่ให้เข้าหาปากของแจ็คสันอย่างใจเย็น แต่ถ้าแจ็คสันมันยังกวนตีนเขาเรื่อยๆแบบนี้ล่ะก็..ห้องปกครองแห่งนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับแบคฮยอนแล้วล่ะ..
“ขออนุญาตนะครับ..” ท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนนึกอะไรออกได้ของชานยอลทำให้ทั้งห้องหันไปหาเขา มือหนาคว้านหาโทรศัพท์ก่อนจะใช้นิ้วเลือนหาในสิ่งที่ต้องการก่อนแล้วส่งโทรศัพท์ตัวเองให้ผู้อำนวยการ
“สภาพอากาศวันนั้นแดดปกติทั้งวัน มีโอกาสน้อยที่จะหิมะตกนะครับท่านผอ. ผมว่าแทยอนคงเข้าใจผิดแล้วหล่ะ” เหลือบตามามองแทยอนเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้ลีซูมานดูสภาพอากาศอย่างจุใจก่อนที่ท่านผอ.จะค่อยๆยื่นโทรศัพท์ให้ หันมามองแทยอนอย่างคาดโทษในขณะที่เธอตัวสั่นเทา ซีดเผือก และเงียบไม่ยอมอธิบายอะไร แค่นี้ก็พอรู้แล้วว่าที่แทยอนกับแจ็คสันเล่าให้ฟังก่อนหน้านั้นจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง หรืออาจจะไม่จริงเลยด้วยซ้ำ..
“คุณคิดว่ายังไงอาจารย์อี้ฟาน..” ลีซูมานหันไปถามอาจารย์อี้ฟาน ที่ถือว่าเป็นครูคนโปรดเพราะนอกจากจะทำหน้าที่ครูดีจนเงินเดือนขึ้นแซงหน้าไม่เหมือนกับอาจารย์ที่ขึ้นบรรจุใหม่ ยังขึ้นชื่อว่าติดอันดับหนึ่งในบรรดาอาจารย์หน้าตาดีของระดับประเทศสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนมาแล้ว อี้ฟานอ้ำอึ้งนิดนึงก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับใบหน้าที่นิ่งเฉย
“ท่านผอ.คิดแบบไหนนั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดแล้วครับ.. ผมรู้ว่าท่านมีความยุติธรรมกับเด็กในโรงเรียนนี้ทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน.. ”
“ฮ่าฮ่า คุณก็ยังตอบเหมือนตอนที่เข้ามาสอบสัมภาษณ์เลยนะอี้ฟาน ...งั้นผมขอให้คุณเคลียร์กับเด็กๆของคุณเองเถอะ ส่วนผมก็จะขอจัดการเด็กของผมเหมือนกัน..” น้ำเสียงนุ่มนวลแต่แววตาแข็งกร้าวในประโยคหลังที่หันมามองแจ็คสันกับแทยอน ทำให้ทั้งสองคนกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก หลังจากที่อี้ฟานออกจากห้องนั่นพร้อมกับเด็กๆ เขาไม่ได้เอาความอะไรเพราะถือว่าไม่ใช่ความผิดมหันต์ แต่ก็ตักเตือนเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปทำธุระอย่างอื่นต่อ เหล่าเดอะเบสท์ถึงเดินไปทางห้องเรียนคาบแรกของบ่ายเช่นกัน แบคฮยอนยิ้มกว้างรีบเดินมาข้างๆชานยอลที่เดินอยู่ข้างหลังสุดก่อนจะดึงคอชานยอลให้ลงมาเพื่อให้ฟังได้ถนัด
“มึงตีบทแตกมากชานยอลเล่นเอาทั้งสองคนนั้นเอ๋อแดกไปเลยว่ะ” พูดทั้งหัวเราะข้างๆหูชานยอลอย่างสะใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าบทที่ให้ชานยอลจะตีบทเนียนมากขนาดนี้ แต่ในขณะที่กำลังหัวเราะร่านั้นสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นใบหน้าอมทุกข์เหมือนคนไม่ได้ขี้มาสามวันทำเอาแบคฮยอนหุบยิ้มทันที “เป็นเชี่ยอะไรของมึงว่ะ แฮปปี้เนสกับกูหน่อยดิ”
“เราไม่สบายใจเลยอ่ะแบคฮยอน เมื่อกี้เราโกห-”
“จะให้กูบอกอีกกี่ครั้งว่าที่มึงพูดมันเรื่องจริงทั้งหมด ทำไมว่ะหน้าพวกกูเหมือนพวกที่ชั่วซ้ำซากขนาดนั้นเหรอว่ะ”
“ปะ..เปล่าซักหน่อย เราก็แค่ไม่ค่อยสบายใจอ่ะ มันแปลกๆ ก็พวกแบคฮยอนบังคับให้เรามานี่..เราก็แค่คิดว่าสิ่งที่เราพูดไปเหมือนแบคฮยอนสร้างเรื่องขึ้นมาให้ตัวเองดูดีอ่ะ..” ก้มหน้าติดอกแล้วเดินต่อไปทันทีที่แบคฮยอนปล่อยมือของจากไหล่กว้าง ร่างเตี้ยเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มเบาๆก่อนจะจิ๊ปากแรงๆอย่างอารมณ์เสียจนทุกคนได้ยินและหยุดเดินพร้อมหันมาหาแบคฮยอนที่ตอนนี้มองชานยอลที่เดินอยู่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ขายาวๆเดินนำหน้าแบคฮยอนไปไม่กี่ก้าวแต่ก็อยู่หลังคยองซู จงแด แบคฮยอนพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะพูดขึ้นเสียงดัง
“มึงแม่งมันก็เหมือนทุกๆคนในโรงเรียนนี้ว่ะชานยอล..!” ชานยอลที่กำลังเดินอยู่ขาหยุดชะงักทันที ใบหน้าเลิกลั่กไม่กล้าสบตาแบคฮยอนค่อยๆหันมา ใบหน้าเรียบเฉยของคนที่กำลังยืนจ้องเขาอยู่แต่ฉายแววตาที่ใครดูก็รู้ว่ากำลังโกรธอยู่...
ใช่..เขากำลังโกรธชานยอล โกรธที่มันไม่ต่างอะไรกับคนอื่นสักนิด!
“เห็นพวกกูชั่วไม่มีลิมิต มองพวกกูแค่ด้านเดียว ด้านที่พวกอี้ชิงยัดเหยียดให้ ทำไมกูจะไม่รู้ว่ะว่าพวกนั้นมันเป่าหูมึงในรูปแบบไหน กูถามมึงจริงๆหน่อยเถอะ ที่มาช่วยกูวันนี้มึงลำบากใจมากมั้ยว่ะ!”
“เชี่ยแบค..ถึงห้องก่อนได้มั้ยมึง” คยองซูรีบเดินมาหาแบคฮยอนแล้วตบบ่าเบาๆพร้อมกระซิบข้างๆหู ส่วนตาก็เหลือกมองบริเวณรอบๆข้างว่ามีใครอยู่บ้าง แบคฮยอนไม่สนใจที่คยองซูบอกเพราะตอนนี้เขากำลังเดือดชานยอลสุดๆ ชานยอลมองหน้าแบคฮยอนอย่างหวั่นๆก่อนจะตอบออกมา
“ไม่ได้ลำบากนะ..ตะ..แต่เราไม่เคยมาพูดอะไรแบบนี้อ่ะ เราไม่เห็นเหตุการณ์วันนั้นแต่เราก็ต้องบอกว่าเห็น...ต่อให้เรื่องที่แบคฮยอนบอกมันเป็นความจริงแต่ยังไงมันก็เท่ากับว่าเราโกหกทั้งอาจารย์อี้ฟานและท่านผอ.เลยนะว่าเราเห็นน่ะ....” แบคฮยอนจ้องหน้าชานยอลแรงกว่านี้เดิม สาบานได้ว่าถ้านี่ไม่ได้อยู่หน้าห้องเรียนหรือใกล้ๆห้องปกครอง ป่านนี้หน้าเบ้ๆของชานยอลได้ถูกเท้าเขาประทับไว้แน่ๆ…
“เฮอะ... ‘ต่อให้เรื่องที่กูพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง...’ โอเคชานยอล กูเข้าใจมึงแล้ว มึงคิดว่ากูโกหกมึงตั้งแต่ต้นสินะ หึหึ..” แบคฮยอนพยายามแค่นหัวเราะออกจากลำคอพร้อมยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“อย่างที่กูบอก...มึงแม่งก็เหมือนทุกคนนั่นแหละชานยอล...”
-TBC-
ถึงจะเถื่อนยังไงก็ขี้งอนเป็นนะ 555
สกรีมแท็ก #ฟิคคืนนี้อยากได้กี่ครั้ง (เล่นหน่อยเนอะ เราไม่ฆ่าและเป็นมิตรกับทุกคน ^0^)
เม้นหน่อยก็ดีนะแกรร ทวงได้ ด่าได้ ระบายความในใจได้ เม้นมาเหอะ 555
ด้วยรักนะงิ
ความคิดเห็น