คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 Gintoki’s side เรื่องความรักไม่ง่ายที่จะเข้าใจ แต่ง่ายที่จะรู้สึก
Chapter 3 Gintoki’s side เรื่องความรักไม่ง่ายที่จะเข้าใจ แต่ง่ายที่จะรู้สึก
ความรักนั้น...เป็นเรื่องของสาวน้อยช่างฝัน...
ความรักนั้น...เป็นเรื่องของคนอื่น...
ความรักนั้น...เป็นเรื่องไกลตัว ไม่จำเป็นต้องสนใจ...
...พอรู้ตัวอีกที...ก็รักใครไปแล้ว...
++++++++++
เช้าวันใหม่ในวันนี้ เริ่มต้นด้วยการออกไปทำงานตามที่ได้รับการไหว้วานมา ค่าจ้างน้อยนิด
ไม่สมกับความลำบากที่ต้องเจอ แต่ก็รับทำ เป็นคนจน ก็เลือกไม่ได้อย่างนี้แหละ
เวลาเดินผ่านในเอโดะเห็นผู้คนมากมายพกดาบเดินไปมา เป็นเรื่องปกติ
ทำให้รู้สึกนึกถึงใครคนหนึ่งซึ่งดาบเปรียบเหมือนอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย ไม่เคยห่างตัวเลยสักครั้ง
อย่างวันนั้น ขนาดเข้าไปในห้องน้ำยังถือเข้าไปด้วย คิดว่าจะมีใครมาลอบทำร้ายตอนกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่หรืออย่างไร
คนแบบนั้น...ถึงจะตายก็คงกำดาบเอาไว้แน่น...
จนกว่าจะหมดลมหายใจ...ไม่มีทางปล่อยมือจากดาบ...
แล้วอะไรกันนะ ทำให้คนที่เหมือนปีศาจ คนที่ไม่เคยเกรงกลัวต่อความตาย มีแววตาโศกเศร้าได้
ความทรงจำแบบไหนกันนะ ทำให้คนคนนั้นหวั่นไหว
จะว่าไป เรากำลังคิดอะไรไร้สาระอยู่เนี่ย มันก็เป็นเรื่องของฮิจิคาตะไม่ใช่หรือ คิดทำไมให้ปวดกบาล
“อากินจัง ลื้อไปล้างมือเลยนะ มือดำปิ๊ดปี๋อย่างกับขี้ อย่าได้เอามาแตะอาหารเชียว”
จานอาหารถูกยัยหมวยจอมเขมือบคว้าไปก่อนที่มือจะเอื้อมหยิบก้อนข้าวปั้น
วันนี้ผู้ว่าจ้างเลี้ยงข้าวเป็นค่าตอบแทน คิดผิดแล้วล่ะที่ไม่จ่ายเป็นเงิน จะกินให้อิ่ม เผื่อไปอีกสามวันเลย คอยดู
มองมือตัวเองก็เห็นว่าเปื้อนคราบสกปรกจากการทำงานจริงๆ ก็เลยยอมเดินไปล้างมือสักหน่อย
แล้วต้องรีบกลับมาที่โต๊ะอาหาร หากช้าอาจจะไม่เหลืออะไรอยู่บนโต๊ะอีก
เมื่อมือสัมผัสน้ำที่ไหลออกมาจากหัวก๊อกสีสนิทที่ติดอยู่ใกล้พื้นบ้าน ชวนให้คิดถึงใครคนหนึ่งที่เขาเห็นยืนล้างมืออยู่ได้
ตั้งนานสองนาน ลองถูกมือไปมาแรงๆ จนรู้สึกแสบ
เจ็บชะมัด...ไอ้บ้านั่น ทำเข้าไปได้ไง ตั้งเป็นสิบรอบ
แม้มือทั้งสองจะกลายเป็นสีแดง ผิวหนังตรงนั้นน่าจะเจ็บระบม แต่ก็ยังไม่หยุดถู เหมือนสติล่องลอยไปไกลแสนไกล
จมดิ่งลงสู่เรื่องราวที่ตัวเองกำลังเฝ้านึกถึง สิ่งที่ทำให้ไม่อาจรู้สึกถึงความเจ็บปวดอื่นใด
...ล้างเลือด...
นั่นคือ...คำตอบแผ่วเบาที่ได้ยินในตอนนั้น...
เจ้าบ้าเอ๊ย...เลือดน่ะมันล้างออกได้ด้วยน้ำ...เหมือนกับคราบสกปรกที่มือนั่นแหละ
แต่ความรู้สึกที่ติดมากับเลือดของคนอื่นน่ะ...มันล้างออกซะที่ไหนล่ะ...
++++++++++
“ลูกพี่ช่วยหลบไปหน่อยได้ไหมครับ”
เสียงของใครคนหนึ่งที่มารบกวนเวลานอนกลางวัน ทำให้กินโทคิเปิดตาขึ้นข้างหนึ่ง เพื่อดูว่าเป็นใคร
ใบหน้าที่คุ้นเคย เครื่องแบบที่น่ารำคาญ เจ้าโซโกะกำลังยืนค้ำหัวเขาอยู่
“พวกชินเซ็นกุมิที่ยุ่งยาก น่ารำคาญจริงๆ”
“ผมก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอกครับ แต่ผมต้องจัดการเจ้านั่น”
ยังไม่ทันมองตามนิ้วที่ชี้ขึ้นไปด้านบน ก็มีอะไรบางอย่างหล่นตุบลงมากลางกบาล เล่นเอาเจ็บแทบน้ำตาไหล
กินโทคิดีดตัวลุกขึ้นทันที มองหาตัวการที่ทำให้หัวของเขาต้องเจ็บระบมจากการโยนของลงมา
เจ้ากระรอกสีน้ำตาล หางเป็นพวงสวย กำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้สูงลิบ มันคงจะดูน่ารักไม่น้อย ถ้าไม่ใส่แว่นตาดำ
แล้วก็เสื้อคลุมแบบพวกยากูซ่า แถมยังหันหลังโชว์ตราโชกุนที่เอาไปปักเอาไว้ด้านหลังเสื้อ แถมยังปักผิดอีกไม่ใช่หรือนั่น ??
แล้วเจ้ากระรอกนี่ มันทำอะไรงั้นหรือ ชินเซ็นกุมิถึงต้องยกโขยงมากันเยอะแยะ ยังกับจะจับอาชญากร
หรือเจ้านี่มันไปก่ออาชญากรรมร้ายแรง ?
ก่อนจะทันนึกอะไรต่อ ก็มีวัตถุบางอย่างลอยมากระทบหัวอีกครั้ง เป็นถั่วเปลือกแข็ง อันใหญ่ยักษ์
เหมือนจะเป็นถั่วคัดพิเศษ เม็ดใหญ่ ราคาสูงลิบ แต่แทนที่จะเอามากิน
เจ้ากระรอกดันใช้เป็นอาวุธระดมปาลงมาใส่พวกชินเซ็นกุมิ ซึ่งแน่นอนว่า เขาก็โดนลูกหลงด้วย
“ตายซะเถอะ เจ้ากระรอก”
กินโทคิทำท่าจะปีนขึ้นไป จับกระรอกที่น่าหมั่นไส้ ลงมาสำเร็จโทษ ส่วนโซโกะเองก็ตั้งปืนบาซูก้า
เตรียมตัวจะสอยให้ร่วงในนัดเดียว มาดูกันว่า ใครจะเป็นคนสุดท้ายที่หัวเราะดังกว่า
“หยุดก่อน !! นั่นเป็นกระรอกของท่านโชกุนนะ !!”
เสียงร้องของหัวหน้ากลุ่มชินเซ็นกุมิดังขึ้น แต่มีหรือว่า กอริล่าผู้เป็นห่วงชะตาเพื่อนสัตว์ร่วมโลกนั้น
จะสามารถหยุดยั้งความโกรธของเจ้าชายจากดาวซาดิสต์ได้
กระสุนพุ่งออกจากปากกระบอกปืนทันที เมื่อเสียงตะโกนจบ คนยิงส่งเสียง อุ๊ย เหมือนเผลอเหนี่ยวไก ทั้งที่ตั้งใจชัดๆ
ก็เป็นว่า เจ้ากระรอกย้ายไปกิ่งไม้อีกฝั่งหนึ่ง ยืนดูดบุหรี่อย่างสบายใจ ราวกับจะกวนโทสะ แถมยังเป็นบุหรี่ใหญ่เบ้ง
ขนาดของมนุษย์เขาใช้กัน
ดูดยังไม่ทันถึงหนึ่งในสิบของมวน เจ้ากระรอกก็ทิ้งบุหรี่ที่ยังมีไฟแดงๆลงมาใส่หัวกินโทคิ แม่นยำยังกับจับวาง
แถมยังยิ้มยียวนกวนประสาท ที่จริงมันก็อยู่ไกลนะ ไม่น่าจะเห็นได้ชัด แต่ทำไมรู้สึก เหมือนมันกำลังทำท่ากวนโอ๊ยอยู่
“หนอยแน่ เจ้ากระรอก”
อาหารเย็นของบ้านซากาตะวันนี้ เป็นกระรอกย่างหอมกรุ่น กินกับข้าวสวยร้อนๆ
แกไม่รอดมือฉันแน่ เจ้ากระรอก ลงกระทะไปซะ นั่นเป็นที่ที่เหมาะกับแกแล้ว
“ลงมานี่”
เสียงเฉียบขาดของใครคนหนึ่งดังขึ้น ทำเอากลุ่มชินเซ็นกุมิส่วนใหญ่เสียวสันหลังวาบ เพราะรู้ดีว่า เจ้าของเสียงเป็นใคร
ต่างก็แอบเหล่มองคนที่เพิ่งมาถึง สลับกับมองกระรอกบนยอดไม้
“บอกให้ลงมานี่”
เพียงแค่สั่งอีกครั้ง เจ้ากระรอกก็เก็บแว่นตาและเสื้อคลุม ราวกับเล่นกล ไต่ลงมาจากต้นไม้ กระโดดไปเกาะแถวไหล่ของ
ผู้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าแห่งชินเซ็นกุมิ แถมยังใช้ดวงตาสีดำสุกใส มองเจ้าของไหล่ พลางเอียงคอน้อยๆ
ไอ้กระรอกเวร !! ทีอย่างนี้มาทำตัวน่ารัก เป็นกระรอกธรรมดา
“แหม คุณฮิจิคาตะเก่งจริงๆเลยนะครับ”
“โซโกะ ช่วยเอาปืนที่เล็งลงด้วย”
ถึงปากจะชม ใบหน้าจะยิ้ม แต่หัวหน้าหน่วยหนึ่ง ก็ยังคงใช้ปืนกระบอกโตเล็งตามกระรอกมา
หรือที่จริงควรจะพูดว่า เล็งไปทางหัวฮิจิคาตะมากกว่า
“ก็ขู่ไว้ก่อนสิครับ ถ้ามันกระโดดหนี จะได้ยิงทันที เดี๋ยวจับไม่ทันนะครับ”
จับหรือฆ่าวะนั่น ?
กินโทคิมองไล่สายตาจากปลายกระบอกปืน ไปยังเป้าหมายที่เป็นคนกำราบกระรอกประหลาดได้
โดยใช้แค่คำสั่งและออร่าเฉพาะตัวที่ทำเอาใครๆกลัวกันไปหมด
ใบหน้าในตอนนี้ช่างแตกต่างจากที่เห็นคืนนั้นอย่างสิ้นเชิง ราวกับเป็นคนละคนกัน
ในยามนี้ ไม่มีที่ใดแสดงให้เห็นว่า คนคนนั้นเจ็บปวดหรือโศกเศร้า มีเพียงแต่ใบหน้าสงบนิ่งและเคร่งเครียด
อันไหนคือตัวจริงกันแน่นะ เรื่องเมื่อคืนนั้นคือภาพมายา หรือภาพในวันนี้คือ กำแพงที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง
ถ้าถามความรู้สึกในตอนนี้ กลับเชื่อว่า ใบหน้าที่เห็นยามเมื่อจันทร์ฉายแสงนั้นคือความจริง
ทั้งที่ตัวเองเคยเห็นมันเพียงไม่กี่ครั้ง ทั้งที่ตอนนี้ไม่รู้สึกถึงมัน แม้เพียงเศษเสี้ยว แต่ตัวเองกลับเชื่อว่า นั่นคือตัวตน
ความเจ็บปวดและโศกเศร้านั้น ถูกเยียวยาด้วยกาลเวลา จนฟื้นฟูขึ้น หรือว่าเจ้าตัวเพียงแค่เก็บซ่อนมันไว้ให้ลึกที่สุด
...แล้วแกล้งทำเป็นว่า...ไม่เป็นไร...
++++++++++
คนที่ออกมาซื้อของตอนกลางดึก ไม่ว่าใครก็คงคิดว่า จะต้องเป็นเหล้าแน่ๆ แต่ไม่ใช่กับชายหนุ่มผมเงิน
ผู้ติดของหวานเป็นชีวิตจิตใจ เขาเพียงแค่นึกอยากกินขนมหวาน ชวนให้ฟันผุขึ้นมากลางดึก ข่มตาเท่าไรก็ไม่หลับ
จึงต้องถ่อสังขารตัวเองมายังร้านสะดวกซื้อ ถ้ากินแล้ว ก็คงหลับสบาย
“แก !! ตายซะเถอะ !!”
ได้ยินเสียงขู่น่ากลัวของใครบางคน สงสัยว่าจะมีพวกอันธพาลมาก่อเรื่องวุ่นวายอีกแล้ว
พวกชินเซ็นกุมิไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันนะ พวกกินภาษีประชาชน แต่ในเวลาแบบนี้กลับไม่ยอมออกมาทำอะไรเลย
เสียงน้ำแตกกระจาย ทำให้พอเดาได้ว่า ใครสักคนคงโดนถีบลงน้ำไปแล้วแน่ๆ
ที่จริงก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านเลย แม้แต่นิดเดียว เพียงแต่ทางที่ใกล้ที่สุด เพื่อมุ่งไปยังร้านสะดวกซื้อ
มันต้องเฉียดใกล้ต้นตอของเสียงวิวาทนั้น เมื่อเข้าไปใกล้ในระยะที่เห็นเหตุการณ์ได้ชัดเจน ก็รู้สึกเหมือนเป็นภาพที่เคยเห็นมาก่อน
ร่างในชุดกิโมโนสีดำ ยืนสงบนิ่งอยู่ท่ามกลางร่างของคนที่บาดเจ็บ หรืออาจเป็นศพของผู้ที่หมดลมหายใจแล้ว
เลือดสีแดงสดชโลมไปทั่วทุกบริเวณ และยังไหลหยดลงจากดาบซึ่งมือนั้นกำแน่น แสงจันทร์นวลผ่องฉายส่องลงมา
ทำให้เห็นใบหน้านั้นอย่างชัดเจนว่าเป็นใคร ริมฝีปากเผลอเอ่ยเรียกชื่อคนคนนั้นออกไป
“ฮิจิคาตะ”
แม้จะแผ่วเบา แต่ก็ทำให้ร่างนั้นหันมามองเขา ด้วยแววตาสงบนิ่ง
จันทร์เอ๋ย พระจันทร์บนฟากฟ้า เหตุใดจึงใช้มนต์คาถากับข้า ทำให้รู้สึกแปลกไปได้ถึงเพียงไหน
ขาทั้งสองก้าวเร็วๆ เดินเข้าไปประชิดตัว มือข้างหนึ่งจับข้อมือข้างที่กุมดาบเอาไว้ ยึดไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว
อีกข้างหนึ่งโอบกอดร่างนั้นเข้ามาแนบชิด แล้วก้มลงจูบที่ริมฝีปากนั้น
รสชาติในคราวนั้นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือด หากแต่ลึกๆแล้วมันเปี่ยมไปด้วยความหอมหวาน
ถึงร่างนั้นอ้อมแขนจะขัดขืน แต่เขารู้สึกได้ว่า มันไร้เรี่ยวแรงมากกว่าปกติ อาจเป็นเพราะเพิ่งเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้
หรือตัวเองกำลังต่อสู้กับความรู้สึกบางอย่างที่มักปรากฏขึ้นมาในยามค่ำคืนก็เป็นได้
แต่เขาก็ยังคงรุกไล่เข้าไปในริมฝีปากนั้น ตักตวงความหอมหวานจากภายในจนพอใจ แล้วจึงยอมปล่อย
“แกทำบ้าอะไรวะ”
คราวนี้เสียงที่พูดไม่ดุดันดังเช่นทุกครั้ง มันกลับแผ่วเบาและสั่นเครือน้อยๆจนน่าตกใจ
ถึงจะปล่อยริมฝีปากนั้น ให้เป็นอิสระ แต่มือข้างหนึ่งยังโอบกอดร่างนั้นเอาไว้
เขาอยากกอด อยากจูบ เพราะรู้สึกได้ถึงความโดดเดี่ยว เขามักเห็นร่างนั้นยืนอยู่เพียงลำพัง ห้อมล้อมไปด้วยความตาย
ดาบในมือยังคงกำแน่น ไม่ยอมปล่อย พร้อมจะฟาดฟัน หากมีใครบุกเข้ามา แต่หากสังเกตดีๆแล้ว มือที่กำดาบนั้นเองก็สั่นน้อยๆ
ดวงตาสีดำนั้นมองตรงไปข้างหน้าเสมอ แม้ลึกๆแล้ว แววตานั้นจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เขาไม่แน่ใจว่า...เหตุใด เขาถึงได้รู้สึกแบบนี้...
เขาไม่แน่ใจว่า...อะไร เปลี่ยนแปลงเขาได้ถึงเพียงนี้...
...สิ่งเดียวที่มั่นใจก็คือ...เขารู้สึก...รัก...
...เขารัก...ฮิจิคาตะ...
++++++++++
ก่อนอื่นต้องกล่าวคำขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ค่ะ ทำให้ดีใจมากจริงๆ
ถัดมาก็ต้องขอบคุณคนที่แวะเวียนเข้ามาที่เรามองดูเคาน์เตอร์ขึ้น ก็เดาว่า คงเข้ามาอ่านกัน
เรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอน 3 แล้ว เป็นฟิคกินทามะที่แปลก เพราะไม่รั่ว ไม่เสื่อม
ไม่ใช่ไม่อยากรั่ว แต่เขียนไม่เป็น TT^TT ข้าน้อยไร้ความสามารถ ต้องขออภัย (เขียนเป็นแต่แนวนี้)
ความคิดเห็น