คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 4 เพื่อนคนแรกและคำแนะนำ
4 เพื่อนคนแรกและคำแนะนำ
.....................................................................................................
ฟิ้วๆๆๆๆ!!
ลุกธนูหลายสิบดอกพุ่งเฉียดร่างของคุรูมิไปมายามเธอวิ่งหนีไปบนขอบกำแพงในปราสาทของกิลด์อนูบิส
“หลบไปๆๆ” หัวขโมยสาวร้องบอกผู้เล่นกลุ่มหนึ่งที่มาดักเธอด้านหน้า แต่มีหรือที่พวกนั้นจะหลบ
ดาบที่กำลังเปล่งแสงจากการใช้ทักษะพุ่งตรงมาด้วยความเร็วหมายจะเสียบร่างของคุรูมิให้ทะลุ แต่เธอก็ไวพอที่จะเอียงตัวหลบออกข้างแล้วใช้ถุงที่แบกอยู่กระแทกจนผู้เล่นที่ใช้ดาบเสียหลักตกกำแพงไป
ย๊าก!!
ผู้เล่นอีกคนที่ใช้หอกด้ามยาวที่ลุกเป็นไฟโจมตีเข้ามาอีกครั้งจากด้านหลัง คุรูมิก้มตัวลงพร้อมกับเตะกวาดขาของผู้เล่นคนนั้นจนล้มลงกับพื้น ก่อนจะประเคนเท้าหนักๆลงบนท้องน้อยอย่างจังจนผู้เล่นที่ใช้หอกถึงกับหน้าเขียว
ดาบสองเล่มจากผู้เล่นอีกสองคนโจมตีเข้ามาพร้อมกัน เป็นการยากที่จะหลบได้คุรูมิดึงพัดที่เหน็บเอาไว้ที่เอวออกมารับดาบหนึ่งเล่ม ก่อนจะใช้เท้าเตะปัดใบดาบอีกเล่มที่แทงเข้ามาจนทำให้เจ้าของดาบเสียหลักน่าทิ่มพื้น
เคร้งๆๆๆ
พัดสีขาวที่ถูกพับเก็บไว้ถึงไม่มีคมแต่มันก็ทนทานและแข็งแกร่งพอที่จะปัดดาบและทุบหัวของนักดาบที่พลาดท่าเปิดช่องโหว่ให้เธอจนล้มลงไปอีกหนึ่งราย
ฟูวว~~
ลูกไฟลูกใหญ่จากนักเวทย์บนกำแพงอีกด้านพุ่งเข้าโจมตีหัวขโมยสาว เธอไม่คิดจะหลบกลับคลี่พัดออกเผยให้เห็นลวดรายของเทพธิดางดงามที่ซ่อนเอาไว้ มันเปล่งแสงออกมาเล็กน้อยยามเธอสะบัดพัดลูกไฟกลับไปโจมตียังเจ้าของๆมันอย่างง่ายดาย
ผู้เล่นคนสุดท้ายบนกำแพงที่เธออยู่วิ่งถือดาบเล่มโตตรงเข้ามา คุรูมิรวบพัดกลับก่อนจะปาไปด้านหน้า พัดหมุนควงด้วยความเร็วกระแทกใส่หน้าของผู้เล่นคนสุดท้ายอย่างจังจนเซตกกำแพง ส่วนพัดเมื่อกระแทกหน้าแล้วมันก็หมุนควงกลับมาเข้ามือของคุรูมิอีกครั้ง
หัวขโมยสาวคลี่พัดออกอีกครั้งแล้วพัดเข้าหาตัวคลายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการหลบหนีแล้วเหน็บมันกลับที่เดิม ก่อนจะปล่อยโซ่ที่ปลายเป็นตะขอเกี่ยวออกจากแขนเสื้อขวาไปยึดกับตึกๆหนึ่งภายในเมืองด้านนอกปราสาท “วันนี้แค่นี้ก่อนนะจ๊ะหนุ่มๆ ไว้ว่างๆจะมาใหม่” เธอหันไปบอกกับผู้เล่นนับร้อยที่เริ่มตีกรอบล้อมเธอเข้ามา
ฟิ้ว!!!
ฟูว~~~
แทนคำพูดลูกธนูและเวทย์นับร้อยสายถูกส่งโจมตียังจุดที่หัวขโมยสาวเคยยืนอยู่ มีหรือที่เธอจะอยู่นิ่งให้ถูกโจมตีคุรูมิทิ้งตัวจากกำแพงที่สูงหลายสิบเมตรโหนตัวหนีออกจากปราสาทไปสู่แสงอาทิตย์ยามเย็น....
แปะๆๆ
เสียงตบมือแสดงความชื่นชมของแซฟไฟร์ผู้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ดังขึ้นบนระเบียงสูงสุดของปราสาทประจำกิลด์อนูบิส “ถึงจะอยู่ห่างขนาดนี้ฉันก็ยังจำเธอได้นานะ ฝีมือดี แต่ดูสิจะหนีได้สักแค่ไหน” พูดจบนักฆ่าหนุ่มก็ทิ้งตัวลงจากความสูงเกือบร้อยเมตรเพื่อไล่ตามหัวขโมยสาว....
.....................................................................................................
“จงไปสู่สุขคติเถอะนะ อโหสิให้กับฉันด้วย” เด็กหนุ่มยืนสงบนิ่งให้กับหลุมศพที่เขาได้ทำขึ้นให้กับทามิรอส “ขอบคุณสำหรับชุดเกราะ ดาบ เงินและอีกหลายอย่างที่ฉันได้มาจากนาย” ควอทซ์ที่สวมชุดเกราะหนังกล่าวขอบคุณจากใจจริง
เหมียว~~
คูอาล่าที่ยืนอยู่ข้างๆควอทซ์อยู่ๆก็ร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเขาหันไปดูก็พบว่าเจ้ากวางชิวๆตัวแสบมันยังคงไม่ได้ไปไหนกลับเดินมาเลียหัวของคูอาล่าของเขา
“หนอยแน่ะไอ้กวางชิวๆ แกยังกล้าเข้ามาใกล้ๆอีกนะ” ควอทซ์พูดออกมาพร้อมกับดึงดาบเล่มโตที่ปักไว้แทนป้ายหลุมศพให้ทามิรอสขึ้นมาฟาดหัวเจ้ากวางที่มายืนใกล้ๆจนมันล้มลงไปนอนกับพื้นลิ้นจุกปาก
‘ผู้เล่นควอทซ์ทำตามเงื่อนไขของระบบได้รับทักษะ การใช้ดาบ’
‘ทักษะ การใช้ดาบ เลื่อนเป็นระดับ 1’
เสียงจากระบบดังขึ้นในหัวแต่ควอทซ์ก็ไม่ได้สนใจเวลานี้เย็นมากแล้วท้องเขาก็เริ่มที่จะหิวหลังจากออกแรงมาพอสมควร เด็กหนุ่มก้มลงมองร่างของกวางป่าก่อนจะพูดออกมา “เจ้ากวางตัวนี้น่าอร่อยแฮะ....”
กลิ่นหอมฟุ้งจากเนื้อกวางป่าย่างลอยตลบอบอวนไปทั่วบริเวณชายป่า ควอทซ์ได้ทักษะเพิ่มมาอีกหลายอยากจากการทำอาหารในครั้งนี้เสียงของระบบมันเตือนในหัวเสียจนเขารำคาญจึงได้สั่งให้คูอ่าล่าปิดการแจ้งเตือนเรื่องทักษะ
“เนื้อกวางนี่นุ่มดีแฮะ” ควอทซ์ที่ได้กินเนื้อกวางครั้งแรกในชีวิตพูดขึ้นอย่างถูกใจ “อร่อยเนอะคูอาล่า” ไม่วายหันไปถามลูกแมวตัวน้อยที่กินชิ้นเนื้อกวางที่เขาหั่นให้อยู่ข้างๆ มันร้อง ‘เงี้ยว’ ตอบกลับมาอย่างมีความสุข
เมื่อได้ยินดังนั้นควอทซ์ก็ยิ้มกว้างให้กับเครื่องตรวจสอบสถานะของตัวเอง ‘โชคดีจริงๆที่สุ่มได้ลูกแมว’ เด็กหนุ่มคิดในใจ ก่อนจะใช้มีดหันชิ้นเนื้อเพิ่มให้กับมัน “กินเยอะๆจะได้โตไวๆ”
“ขอโทษนะค่ะ” เสียงของผู้หญิงอยู่ๆก็ดังขึ้นทางด้านหลังของควอทซ์ ทำเอาเขาที่กำลังกัดน่องกวางอยู่หันไปมองทั้งอย่างนั้น
เธอเป็นพี่สาวอายุน่าจะประมาณ 22 ถึง 23 ปี ผิวสีน้ำผึ้ง หน้าตาหวาน ผมสีทองยาวประบ่า สวมเสื้อคลุมตัวยาวสีดำปกปิดชุดที่อยู่ภายใน สะพายธนูคันงามที่ดูมีราคาและเป็นไอเทมระดับสูง ด้านหลังมีหมาป่าสีน้ำตาลตัวเท่าม้าโตเต็มไวเดินตามมาติดๆ ภาพของควอทซ์ตอนนี้ทำเอาผู้หญิงคนนี้หัวเราะร่า ผิดกับตัวควอทซ์เองที่กำลังหน้าเขียวจากเนื้อกวางที่ติดคอเนื่องจากตกใจกับการเห็นหมาป่าตัวยักษ์
เด็กหนุ่มรีบทุบหลังตัวเองให้ชิ้นเนื้อที่ติดคออยู่ไหลลงไปก่อนจะเอ่ยปากถาม “มีอะไรหรอครับ?” ควอทซ์มีท่าทีระแวดระวังมากขึ้น
หญิงสาวยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะแนะนำตัว “ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ฉันชื่อคีช่า ส่วนนี่ โกลวดี้” คีช่าตบมือลงบนหัวของเจ้าหมาป่าตัวใหญ่ เมื่อมันเข้ามาใกล้ๆควอทซ์ก็เห็นได้ว่ามันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด “พอดีเดินทางผ่านมาแถวนี้ ได้กลิ่นหอมของเนื้อย่างก็เลยลองเดินตามกลิ่นมาดู” พูดจบเธอก็ยิ้มให้ควอทซ์ส่วนโกลดดี้เดินเข้ามาดมๆกวางย่างเหนือกองไฟ
“ครับ ผมชื่อ ควอทซ์นะครับ ดูเหมือนเจ้าหมาจะหิวนะครับ ถ้าไม่รังเกียจมากินด้วยกันก็ได้นะครับ ผมคงกินคนเดียวไม่หมด” ควอทซ์พูดจบก็ยิ้มเป็นมิตรตอบกับคีช่าไป
คีช่าเดินมานั่งลงบนพื้นใกล้ๆควอทซ์ เด็กหนุ่มจัดแจงหันชิ้นเนื้อออกจากตัวกวางใส่จานส่งให้หญิงสาวแล้วก็ไม่ลืมที่จะตัดชิ้นเนื้อชิ้นใหญ่ให้โกลวดี้
“ทำครั้งแรกนะครับ ไม่รู้จะถูกปากหรือเปล่า” ควอทซ์ออกตัว
“อร่อยดีนะ อร่อยกว่าพ่อครัวบางคนทำเสียอีก” คีช่าออกปากชมหลังจากได้ลิ้มรสกวางย่างฝีมือควอทซ์
“แฮะๆๆ” ควอทซ์หัวเราะแก้เขิน นอกจากคนที่บ้านก็ไม่มีใครที่ได้ชิมฝีมือของเขามาก่อน
“ใช้ธนูเป็นอาวุธด้วยหรอ?” คีช่าถามขึ้นเมื่อเห็นคันธนูวางอยู่ข้างตัวของควอทซ์
“อ่าครับ ทำไมหรอ?” เด็กหนุ่มรับคำก่อนถามกลับ
“ปกติผู้เล่นใหม่เขาจะไม่ใช้กันน่ะสิ เพราะว่ามันใช้ยากพอสมควร เลยต้องทนใช้อาวุธระยะประชิดเลื่อนระดับให้ได้ 10 ก่อนค่อยเปลี่ยนอาชีพเพื่อรับทักษะเสริมต่างๆที่จำเป็น” คีช่าไขข้อข้องใจให้กับควอทซ์
“มิน่าล่ะยิงไปเกือบร้อยดอกไม่ถูกเป้าเสียที” ควอทซ์บ่นกับตัวเอง
“แต่ถ้ารู้วิธีและมีพื้นฐานของการใช้อาวุธที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็สามารถใช้อาวุธที่ตนเองไม่ถนัดได้”
ควอทซ์ตั้งใจรับฟังความรู้ใหม่
“ถ้าต้องการเลื่อนระดับต่างๆไวๆล่ะก็ ตอนกลางคืนจะไวกว่ากลางวันเพราะสัตว์อสูรที่ออกมาตอนกลางคืนจะเก่งกว่าตอนกลางวัน ค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็จะมากตามไปด้วย การที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการที่อันตรายนอกจะกดดันเราแล้วมันยังจะเป็นตัวผลักดันให้เราเก่งกาจขึ้นด้วย” คีช่าแนะนำควอทซ์ ถึงพึ่งจะรู้จักกันไม่นานแต่เธอรู้สึกถูกชะตากับคนๆนี้
“ไหนลองทำท่ายิงธนูให้ดูหน่อยสิ เผื่อจะช่วยแนะนำอะไรได้บ้าง”
มีคนอาสาจะสอนให้ฟรีๆมีหรือควอทซ์เราจะขัด เขาลุกขึ้นหยิบคันธนูที่วางอยู่ข้างๆและลูกธนูดอกหนึ่งในกระบอกที่ได้เก็บกับมาใส่เอาไว้จนเต็มอีกครั้งออกมาน้าวกับคันธนูเล็งยิงต้นไม้ด้านหน้าให้คีช่าดู
คีช่าเองก็ลุกขึ้นเดินตรงไปจัดแจงท่าทางของควอทซ์ใหม่อย่างใกล้ชิดพร้อมกับค่อยๆอธิบายให้มือใหม่หัดยิงฟัง “สายตาจับจ้องอยู่ที่เป้าหมาย เหยียดแขนข้างที่ใช้จับคันธนูออกไปข้างหน้าพอสบายแล้วล็อกไว้ให้อยู่กับที่อย่าเหยียดแขนจนสุดมากเกินไป”
“เกี่ยวสายธนูให้มีลักษณะที่ตรง อย่าบิดไปในทางใดทางหนึ่ง ดึงเข้ามาจนมือที่ใช้น้าวสายอยู่ระดับใต้คาง ส่งผ่านแรงดึงจากมือ แขน และข้อศอก มาที่กล้ามเนื้อหลังดึงศอก
มาข้างหลังให้ระดับของศอกเป็นเส้นตรงกับแขนข้างที่จับคันธนู” คีช่าโอบควอทซ์จากด้านหลังพร้อมใช้มือประคองแขนควอทซ์ให้ทำตามที่เธอบอก ควอทซ์เกือบเสียสมาธิเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างนิ่มๆทางด้านหลัง “ค่อยๆดึงเข้ามาจนมือที่ใช้น้าวสายอยู่ระดับใต้คาง สายธนูแตะปากและปลายจมูก ถ่ายน้ำหนักดึงไปที่หลัง เล็ง แล้วปล่อยสาย”
ฟิ้ว!!
ฉึก!!
ถึงจะไม่ได้เข้าที่กลางต้นไม้อย่างที่คิดแต่ลูกธนูมันก็พุ่งปักเข้าบริเวณลำต้นของต้นไม้ที่ควอทซ์ทำการเล็งยิง เขาดีใจเป็นอย่างมากหันมากล่าวขอบคุณกับคีช่า “ขอบคุณมากเลยนะครับ นี่ถ้าไม่ได้คีช่าผมคงต้องมึนอยู่อีกนาน”
“ไม่เป็นไรจ๊ะถือเป็นค่าตอบแทนอาหารมื้อนี้แล้วกัน”
จากนั้นทั้งสองก็นั่งพูดคุยกันอีกพักหนึ่งแล้วคีช่าก็ขอตัวไปทำธุระต่อ ควอทซ์ขอเป็นเพื่อนเธอเผื่อมีปัญหาสงสัยอะไรจะได้ติดต่อไปถามซึ่งเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ควอทซ์ตกใจเล็กน้อยเมื่อทราบจากหน้าต่างเพื่อนว่าเธอระดับ 70 และก่อนจากคีช่าก็ใจดีมอบลูกธนูไฟ ธนูน้ำแข็งและธนูพิษให้ควอทซ์อย่างล่ะ 20 ดอกพร้อมคำเตือนทิ้งท้าย
“เมื่อเลือกใช้การโจมตีระยะไกลเป็นหลักแล้ว สิ่งสำคัญคืออย่าได้ลืมเรื่องการต่อสู้ระยะประชิด ถ้าไม่รู้วิธีการต่อสู้ระยะประชิดเลยแม้แต่น้อย หากศัตรูเข้าประชิดตัวเราได้ นั่นหมายถึงความตายของเราเมื่อนั้น....”
.....................................................................................................
จบ ขอตัวไปดูเซนต์เซย่าก่อน
ความคิดเห็น