ตอนที่ 4 : ch 3
อยู่สนทนากับเจย์เดนพักใหญ่คนทั้งสองก็ขอตัวกลับเนื่องจากช่วงบ่ายยังมีธุระให้ไปจัดการต่อ ระหว่างทางบังเอิญสวนกับผู้นำวินเทอร์ฟอลซึ่งพึ่งกลับจากกิจธุระของตนพอดิบพอดี คาร์ลิน ไลหยุดทักทายว่าที่บ่าวสาวอีกทั้งยังอวยพรให้ชีวิตใหม่ของซินเธียในวินเทอร์ฟอลมีแต่ความสุขปิดท้ายด้วยการกล่าวขออภัยที่ไม่สามารถอยู่ต้อนรับกันให้ดีกว่านี้คราวหน้าจะต้องไปเยือนถึงคฤหาสน์คิมอย่างแน่นอน โอเมก้าจากแดนใต้ส่ายหน้าระบายรอยยิ้มด้วยเข้าใจดีว่าภาระงานของคนเป็นผู้นำอย่างท่านชายไลนั้นมีมากหนักหนา ตอนยังอาศัยอยู่ในธอร์นคุณพ่อเองก็มีงานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ภาพเหล่านั้นชินตาไปเสียแล้วในความคิดของเด็กหนุ่ม
นอกจากนี้คาร์ลินยังแสดงน้ำใจของเจ้าบ้านที่ดีด้วยการเดินย้อนกลับมาส่งกันถึงหน้าคฤหาสน์
วินเทอร์ฟอลในเวลานี้ยังคงปกคลุมไปด้วยสีขาวโพลนของหิมะ ซินเธียเหม่อมองทิวป่าสนเรียงรายสองข้างทางผ่านกระจกรถคันหรู แอชลีย์บอกว่าพวกเรากำลังจะเดินทางเข้าไปในตัวเมือง ที่นั่นคือศูนย์รวมความเจริญมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แหล่งสถานบันเทิงมากมายชื่อว่าจัตุรัสไวท์สแควร์
ยิ่งเคลื่อนเข้าสู่ตัวเมืองเท่าไหร่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งมีให้เห็นมากขึ้นเท่านั้น สองข้างทางเปลี่ยนจากต้นไม้เป็นตึกรามบ้านช่องผู้คนเดินขวักไขว่ รถราสวนกันไปมามองดูช่างครื้นเครงชวนให้ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เข้าเขตตัวเมืองมาซินเธียยังไม่กะพริบตาเลยสักครั้ง เขาเอาแต่จ้องกับสิ่งปลูกสร้างงดงาม ผู้คนมากมาย ความมีชีวิตชีวาที่แตกต่างจากบ้านเกิดตนเองโดยสิ้นเชิง
หากไม่ได้มาที่นี่ซินเธียคงไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าโลกอีกฝั่งของหุบเขาเจริญรุ่งเรืองเพียงใดเพราะธอร์นตั้งอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างสุดขอบทางใต้ ยึดหลักวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไม่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างกลุ่มชนอื่นจึงไม่แปลกเลยหากจะมีข่าวลือเกี่ยวกับชาวแดนใต้ไปในทางแปลกๆ ดุดันบ้างล่ะ ไร้อารยธรรมบ้างล่ะ สกปรกบ้างล่ะ เคยมีถึงขั้นว่าพวกเราจับคนกินเป็นอาหารแล้วยังใช้วิธีการก่อกองไฟจุดคบเพลิงในการปรุงอาหารหรือให้แสงสว่าง
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพวกเราไม่ได้เป็นแบบนั้นทั้งหมด... เรื่องจุดคบไฟหรือก่อกองไฟนั้นล้วนเป็นความจริงแต่ก็ใช่ว่าพวกเราจะไม่มีเตาใช้หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ
แอชลีย์จอดรถหน้าตึกขนาดสองชั้นแห่งหนึ่ง ป้ายหน้าร้านถูกสลักด้วยตัวอักษรอย่างประณีตว่าที่แห่งนี้คือห้องเสื้อแคทเธอรีน ก่อนจากกันท่านชายเจย์เดนเองก็เคยกล่าวถึงห้องเสื้อแห่งนี้เช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าที่แห่งนี้จะเป็นที่นิยมของเหล่าชนชั้นสูงมากทีเดียว
แม้วันนี้จะไม่มีหิมะตกแต่อากาศยังคงหนาวเย็น คนที่เคยชินกับแสงแดดและอากาศร้อนอดจะกระชับเสื้อคลุมขนสัตว์ไม่ได้ รองเท้าบูตยาวถึงครึ่งหน้าขาตามแบบฉบับชาวแดนใต้ย่ำลงบนพื้นสีขาวโพลน พยายามสาวเท้าตามหลังคนตัวสูงส่วนดวงตาก็กวาดมองรอบกายเชิงสำรวจไปด้วย บนถนนแห่งนี้คึกคักมากแม้จะมีอากาศหนาวเย็นคิดว่าสำหรับคนแดนเหนือแล้วพวกเขาคงชินชากับสภาพอากาศแบบนี้ถึงได้ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติ ผิดกับซินเธียที่ตอนนี้ชักอยากกลับไปนั่งจิบชาซุกตัวอยู่บนโซฟาอุ่นๆ เสียแล้วสิ
ชาวเมืองทุกคนล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสดใส ไม่ว่าจะโค้ตตัวยาว ชุดเฟอร์ขนสัตว์ ยิ่งเป็นสุภาพสตรีก็มักสวมชุดกระโปรงตัวยาวเนื้อผ้าพลิ้วสะบัดไปตามจังหวะการเดิน บ้างก็ใส่หมวกหลากหลายรูปแบบ บ้างก็กางร่ม แม้กระทั่งโอเมก้าชายที่เป็นชนชั้นสูงเองก็มักจะสวมเสื้อผ้าสีอ่อนใส่เครื่องประดับหรูหรามองดูงดงามไม่น้อย สิ่งเหล่านี้ก็นับว่าแตกต่างจากฝั่งทางใต้ที่นิยมสวมชุดสีทึบเน้นความกระฉับกระเฉงคล่องตัวมากกว่าเพื่อความสะดวกในการล่าสัตว์หรือต่อสู้
“อ๊ะ!”
ด้วยมัวแต่เหม่อมองนั่นมองนี่ถึงได้เดินไม่ดูทางเหยียบเกล็ดน้ำแข็งลื่นจนเกือบจะล้มหน้าทิ่มหากว่าไม่ได้มือใหญ่กับลำแขนแข็งแรงโอบรับเอาไว้ได้ทัน
“ระวังหน่อยสิ” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบอยู่เหนือใบหูเรียกริ้วแดงจางๆ ขึ้นสองข้างแก้มคนไม่ระวังตัว ในใจแอบสั่นไหวกับสัมผัสอุ่นที่ประคองอยู่ด้านหลัง
นอกจากท่านพ่อซินเธียไม่เคยได้ใกล้ชิดกับอัลฟ่าคนใดขนาดนี้เลย พอถูกสัมผัสจึงทำตัวไม่ค่อยถูก
“ขอบคุณ” เขาอ้อมแอ้มตอบ “เราไม่ชินกับการเดินบนพื้นหิมะเท่าไหร่”
เกล็ดน้ำแข็งพวกนี้มันลื่นมาก
จริงๆ นะ
ซินเธียขยับตัวยืนขึ้นดีๆ แต่มือข้างที่จับแขนเด็กหนุ่มเอาไว้กับอีกข้างที่คอยโอบประคองเอวของตนยังไม่ผละออกไปเสียที เห็นดังนั้นคนในอ้อมแขนจึงได้แต่เหลือบตาขึ้นมองคนอายุมากกว่าเป็นระยะ ปากก็เอาแต่อ้าๆ หุบๆ รู้สึกประดักประเดิดพอสมควร
“คุณ... เอ่อ แอชลีย์”
“หืม?”
ขอล่ะ อย่าได้ทำเสียงทุ้มแบบนั้นใกล้หูกันเลย
“ต่อไปเราจะระวัง...”
“แน่นอน” อีกคนส่งเสียง หึๆ ในลำคอก่อนจะยอมละมือออกไปโดยดีทว่าความอุ่นบนช่วงเอวยังคงหลงเหลืออยู่ “เพราะฉันยังต้องการเจ้าสาวมาเดินข้างกันในงานแต่งอยู่”
*
ซินเธียเดินเงียบไม่ปริปากตามคนตัวสูงเข้ามาภายในร้าน หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาต้อนรับพร้อมรอยยิ้ม ทุกก้าวล้วนขับให้ชายกระโปรงผ้าพลิ้วลายดอกไม้สีอ่อนสะบัดไหวไปตามจังหวะการเดิน ใบหน้าใจดีดูอ่อนวัยแม้จะเริ่มมีริ้วรอยเกิดขึ้นตามธรรมชาติของมนุษย์พอให้เห็นอยู่บ้าง ทว่าความงดงามบนใบหน้านั้นของเธอก็ดูไม่เสื่อมคลายลงเลย
“นึกว่าใครที่ไหนที่แท้ก็คุณคิมนั่นเอง สวัสดีค่ะ”
รอยยิ้มใจดีถูกเผื่อแผ่มาถึงคนด้านหลังซึ่งไม่เคยพบหน้าค่าตากันมาก่อน ทว่าแคทเธอรีนเลือกจะทำเพียงส่งรอยยิ้มรอให้ฝ่ายนั้นแนะนำคนของตัวเองแทน
“นี่คือท่านชายซินเธีย วาเลนเธีย คู่หมั้นของผม”
เด็กหนุ่มเหลือบตามองคนข้างกายในขณะถูกแนะนำตัว ว่ากันตามตรงแล้วการหมั้นหมายของพวกเขาทั้งสองเป็นแค่ลมปาก มีเพียงการตกลงเรื่องงานวิวาห์ที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้เท่านั้น เมื่อทุกอย่างลงตัวซินเธียก็ถูกส่งตัวมายังดินแดนแห่งนี้เพื่อเป็นคู่ชีวิตของแอชลีย์ผู้นำตระกูลคิมคนปัจจุบัน อีกฝ่ายจะแนะนำเขาแค่ว่าเป็นเพียงคนจากแดนใต้ก็ได้ เพราะการหมั้นหมายอะไรนั่นไม่เคยเกิดขึ้นจริง ตัวเด็กหนุ่มไม่ต่างอะไรกับสิ่งของบรรณาการ ถูกใส่พานมาถวายแก่อีกฝ่ายถึงที่โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร จะรับเข้าตระกูลเงียบๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องผิดแปลก แต่ก็ไม่คิดว่าอีกคนจะให้เกียรติกันถึงเพียงนี้ ในใจของซินเธียรู้สึกอุ่นซ่าน รู้สึกเหมือนตัวเองมีคุณค่าและเป็นที่ต้องการ
“ยินดีที่ได้พบกันนะคะ”
“เช่นกันครับ”
ซินเธียยิ้มตอบอีกฝ่ายก่อนถูกเชิญไปนั่งคุยกันตรงมุมรับแขก กลิ่นหอมเจือจางจากชาชั้นดีลอยเข้ามาแตะจมูกหลังผู้ช่วยประจำร้านยกมาเสิร์ฟ
เป็นชาอีกแล้ว ดูเหมือนชาวแดนเหนือจะชื่นชอบการดื่มชาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเช้า สาย บ่าย เย็น พวกเขาล้วนมีพวกมันเป็นส่วนประกอบอยู่บนโต๊ะเสมอ แม้กระทั่งการรับแขกก็เลือกเสิร์ฟชามากกว่าน้ำเปล่าทั่วไป
“ผมพาเขามาเลือกชุดสำหรับวันแต่งงาน”
คนไม่ชอบอ้อมค้อมเอ่ยเปิดประเด็นทันที ฝ่ายเจ้าของห้องเสื้อเลิกคิ้วเชิงประหลาดใจในคราวแรกด้วยคาดไม่ถึงกับข่าวใหม่ที่ได้รับ เธอส่งเสียงโอ้ออกมาเบาๆ ก่อนต่อมาจะเปลี่ยนเป็นระบายรอยยิ้มกว้าง
“เชิญด้านนี้เลยค่ะ”
ซินเธียถูกพามาโซนด้านในของห้องเสื้อ ที่นั่นมีชุดเสื้อผ้ามากมายเรียงรายอยู่โดยส่วนมากจะเน้นไปทางชุดสูทด้วยห้องเสื้อของคุณแคทเธอรีนนั้นเน้นการตัดเย็บชุดของสุภาพบุรุษ
“ไม่ทราบว่าท่านชายวาเลนเธียชอบรูปแบบไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”
แคทเธอรีนให้คนหอบตัวอย่างของเนื้อผ้ามาวางเรียงรายตรงหน้า มีทั้งแบบสีของผ้าหลากหลายเฉดสี เนื้อผ้าในรูปแบบต่างๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กติดเอาไว้ในแฟ้มเพื่อใช้เลือกสรรวางกองเต็มโต๊ะไปจนคนไม่สันทัดในเรื่องการเลือกอะไรแบบนี้ตาลาย
คนถูกถามเลิ่กลั่กไปพักใหญ่ ปกติไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเลือกชุดแบบนี้บ่อยนัก เสื้อผ้าของชาวแดนเหนือค่อนข้างแตกต่างกับธอร์น ซินเธียไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะสม ปกติในเวลาแบบนี้แล้วเขานึกถึงสาวใช้คนสนิทที่เคยอยู่ข้างกายคอยให้คำปรึกษาทุกเรื่อง เสื้อผ้าในทุกโอกาสที่สวมใส่ล้วนเป็นแคลร์จัดการ ทว่าครั้งนี้เขาเดินทางมายังวินเทอร์ฟอลแต่เพียงผู้เดียว คนที่พอจะคุ้นเคยที่สุดเห็นแต่จะมีแค่ว่าที่คู่ชีวิตคนนั้น
พลันเด็กหนุ่มหันไปขอความช่วยเหลือทางสายตากับอัลฟ่าตามสัญชาตญาณยามต้องการที่พึ่งพิงซึ่งขณะนี้ได้พาตัวเองไปนั่งรอตรงโซฟาด้านหลังเสียแล้ว
“เลือกแบบเรียบๆ มาให้เขาดูสักสามสี่แบบก็ได้”
เสียงทุ้มเอ่ยตอบแทน ได้ยินดังนั้นแคทเธอรีนจึงหยิบเชิ้ตสีขาวแบบเรียบง่ายมาจำนวนหนึ่ง ซินเธียถูกพาเข้าไปยังห้องลองชุดโดยผู้ช่วยเบต้าก่อนจะถูกจับลองชุดนั้นชุดนี้ราวกับตุ๊กตา ในแต่ละครั้งที่ถูกพาเดินออกมาโชว์ตัวให้คนบนโซฟาดูก็อดจะรู้สึกขัดเขินไม่ได้ยามนัยน์ตาสีอำพันคู่จ้องมองมานิ่งๆ ซินเธียรู้สึกร้อนวูบราวกับกำลังเปลือยกายต่อหน้าอีกฝ่ายก็ไม่ปาน
ทั้งที่ดวงตาคู่นั้นมีแต่ความเรียบเฉยค่อนไปทางเบื่อหน่าย แอชลีย์ทำเพียงนั่งกอดอกจ้องมองมาไม่ปริปากแสดงความเห็นอะไรมากนักมีเพียงคำแนะนำเป็นครั้งคราวราวกับเขาจะไม่พูดหากไม่จำเป็น
ซินเธียถูกจับๆ ถอดๆ หลายครั้งจนเริ่มรู้สึกเหนื่อย เห็นดังนั้นคนที่นั่งทำตัวเป็นหุ่นมานานถึงได้เอ่ยปากบอกให้หยุดแล้วเริ่มวัดตัวสักที ส่วนเสื้อผ้าพวกนั้นถูกคัดออกมาสองตัวเพื่อให้ซินเธียตัดสินใจเลือกแบบด้วยตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย เด็กหนุ่มเลือกเชิ้ตขาวแต่งระบายตรงชายแขนมาตัวหนึ่ง ในบรรดาเสื้อมากมายเหล่านั้นเขารู้สึกว่าเสื้อตัวนี้มีรูปแบบใกล้เคียงกับชุดแบบทางการของบ้านเกิดมากที่สุด และมันเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ชุดจริงจะถูกตัดเย็บขึ้นใหม่โดยมีการปรับแก้ให้เข้ากับบุคลิกของผู้สวมใส่รวมถึงเหมาะสมกับงานพิธีการมากขึ้น
เด็กหนุ่มเดินตัวอ่อนกลับมานั่งพักตรงโซฟา ยกถ้วยชาจิบไปคำหนึ่งดับกระหาย
“แล้ว... คุณไม่เลือกดูสักตัวหรือครับ”
ผ่านมาราวสองชั่วโมงแล้วมีเพียงแต่ตัวเขาเท่านั้นที่วุ่นวายลองชุดไปมาแต่กลับไม่เห็นอีกฝ่ายพูดถึงชุดของตัวเองเลยสักนิด
“อืม” แอชลีย์ตอบรับเสียงเบา เริ่มก้มหน้าพลิกแฟ้มดูตัวอย่างเนื้อผ้าไปเงียบๆ
คุณแคทเธอรีนเลื่อนราวชุดสูทจำนวนหนึ่งเข้ามาใกล้ เลือกหยิบชิ้นส่วนแต่ละอย่างมานำเสนออย่างมืออาชีพ ซินเธียนั่งมองอีกคนลองสวมสูทตัวนั้นทีตัวนี้ที ทางฝั่งคุณเจ้าของห้องเสื้อเองก็คอยช่วยวัดตัวและจดบันทึกสัดส่วนของลูกค้ากิตติมศักดิ์อย่างกระตือรือร้น
จากดวงตาที่ไม่มีจุดหมายตรงไหนเป็นพิเศษกลับจดจ้องแผ่นหลังกว้างตรงหน้าอย่างเผลอไผล แอชลีย์ในขณะนี้สวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวทับด้วยเสื้อกั๊กตัวในสีกรม เนื้อผ้าพอดีตัวอวดเรือนกายสูงใหญ่สมส่วนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไม่มากจนเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป ยามชายหนุ่มยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมากลัดกระดุมข้อมือช่างเป็นภาพชวนหลงใหลแผ่กลิ่นอายของบุรุษเพศเข้ากันกับบุคลิกเคร่งขรึมและเย็นชา
ทว่าภายใต้ความเย็นชานั้นไม่ได้ชวนให้น่าหวาดกลัวสักนิด มันกลับเป็นเสน่ห์อันเหลือร้ายของชายผู้นี้แทน ซินเธียรู้สึกแบบนั้นแม้จะร่วมอาศัยกันมาเพียงหนึ่งคืน แต่เขาสัมผัสได้ว่าอัลฟ่าคนนี้อาจจะดูเย็นชาแต่ไม่ได้ไร้หัวใจ
แอชลีย์ใช้เวลาเลือกชุดของตัวเองไม่นาน ชุดของฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ได้มีรายละเอียดเยอะเท่าของเขา หลังเลือกเนกไทเข้าชุดเรียบร้อยแล้วก็มีการพูดคุยถึงรายละเอียดการตัดชุดจริงอีกพักใหญ่ธุระในห้องเสื้อแห่งนี้ก็จบลง
“ครั้งเมื่อได้ตัดชุดแต่งงานของคุณชายมัวร์ก็รู้สึกเป็นเกียรติมากแล้ว ไม่นึกว่าคราวนี้จะได้รับเกียรตินี้อีกครั้งทางห้องเสื้อของเราจะตัดเย็บอย่างสุดความสามารถแน่นอนค่ะ”
คุณแคทเธอรีนให้คำมั่นอย่างหนักแน่น เธอดูกระตือรือร้นอย่างมากกับงานชิ้นใหม่ พอจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายกันเรียบร้อยก็รีบขอตัวไปร่างแบบชุดแทบจะทันที
“ครับ ถ้าเช่นนั้นขอตัว” แอชลีย์พยักหน้ารับคำ จากนั้นก็หันมาบอกกับคนที่ยืนอยู่ข้างกาย แตะแผ่นหลังแผ่วเบาเป็นเชิงสั่งให้เดินออกไปด้านนอก “ไปเถอะ เรายังต้องไปร้านจิเวลรีกันต่อ”
“ครับ”
ซินเธียเองก็ว่าง่ายต่อให้รู้สึกเหนื่อยกับการใช้พลังงานลองชุดอยู่หลายชั่วโมงแต่ก็ไม่นึกปริปากบ่น ทั้งสองเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปทันที เพราะเป็นย่านการค้าระยะทางจากห้องเสื้อของคุณแคทเธอรีนไปถึงร้านจิเวลรีจึงไม่ไกลจากกันมากสักเท่าใด เนื่องจากวันนี้เป็นวันว่างของชายหนุ่ม แอชลีย์แทบจะใช้เวลาทุกวินาทีของวันไปโดยไม่ให้สูญเปล่าสักนิด ก่อนจะออกจากคฤหาสน์ก็ได้มีการคุยรายละเอียดเรื่องการส่งเทียบเชิญงานเลี้ยงกับคุณพ่อบ้านอยู่พักใหญ่ ส่วนเรื่องสถานที่จัดงาน อาหาร เครื่องดื่มสำหรับแขก เรื่องจุกจิกพวกนั้นเขาจัดการล่วงหน้าก่อนซินเธียจะเดินทางมาถึงวินเทอร์ฟอลด้วยซ้ำ
เมื่อทั้งคู่เข้ามาในร้านพนักงานเบต้าหญิงจำนวนหนึ่งก็หยุดงานของตัวเองเพื่อหันมากล่าวต้อนรับ หนึ่งในสองของคนที่ยืนบริเวณเคาน์เตอร์คิดเงินเดินเข้ามาโค้งในระดับครึ่งศีรษะ ซินเธียไม่คุ้นกับธรรมเนียมของคนแดนเหนือจึงได้แต่ผงกศีรษะตอบกลับไปอย่างเก้กัง
ตอนยังอยู่ธอร์นแม้จะมีศักดิ์เป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งแต่เมื่อออกมาเจอกับคนภายนอกก็คงมีเพียงท่าทีเมินเฉยส่งมาให้ หนักขึ้นหน่อยก็คงเป็นประเภทมองมาด้วยสายตาหวาดกลัวระคนรังเกียจ เพราะข่าวลือบ้าๆ เหล่านั้น ในสายตาของคนนอกพวกเราไม่ต่างอะไรกับคนป่าไร้อารยธรรม เกียรติหรือฐานะมักไม่ค่อยสำคัญเมื่ออยู่ต่างแดน
ซินเธียถูกปรนนิบัติอย่างดี ทั้งของว่างรับรอง การพูดจา รอยยิ้มแสนนอบน้อม ขนาดที่ว่าพนักงานสาวเบต้าคนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะนั่งเคียงกันด้วยซ้ำ เธอนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพรมจัดวางกล่องบรรจุแหวนมากมายเรียงรายอยู่ตรงหน้า ระหว่างนั้นก็คอยพูดแนะนำสินค้ามีราคาเหล่านั้นไปด้วยอย่างละเอียดก่อนจะลุกขึ้นถอยไปยืนรออยู่ด้านข้างโซฟาเล็กน้อย รอฟังความเห็นของลูกค้า
ในระหว่างนั้นมีโอเมก้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เนื่องจากมุมรับรองอยู่ไม่ไกลจากประตูทางเข้ารวมถึงโซฟาจุดที่ซินเธียนั่งอยู่หันหน้าไปทางเคาน์เตอร์และตู้กระจกโชว์สินค้าพอดิบพอดีจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะหันไปมองเมื่อรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างผ่านหน้าตนเองไป
พนักงานคนอื่นทำเพียงเงยหน้าขึ้นมองแล้วกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ มีเพียงผู้ประจำหน้าเคาน์เตอร์เท่านั้นที่เอ่ยต้อนรับด้วยเสียงเกียจคร้านเมื่อเห็นว่าโอเมก้าคนนั้นดูธรรมดา เขาแต่งกายด้วยเสื้อสเวตเตอร์เก่าๆ กับกางเกงเข้ารูป
“เอ่อ คือผมอยากจะได้สร้อยเงินเรียบๆ สำหรับเป็นของขวัญสักเส้นน่ะครับ”
เด็กหนุ่มโอเมก้าคนนั้นดูแล้วคงอายุราวซินเธียและยังไม่ได้จับคู่ บางทีอาจจะมาเพื่อหาของขวัญสักชิ้นสำหรับคนในครอบครัวหรือไม่ก็คนรัก
“อยากได้รุ่นไหนเป็นพิเศษไหมคะ”
“ผมขอดูรุ่นที่ไม่แพงมากได้ไหมครับ”
เพราะคำตอบประโยคหลังนั้นจากตอนแรกท่าทีของพนักงานสาวไม่ได้ยินดียินร้ายกับลูกค้ารายใหม่กลับแปรเปลี่ยนเป็นรำคาญใจขึ้นมาทันที ซินเธียเหม่อมองคนทั้งคู่อย่างใจลอย ไม่รู้ด้วยสาเหตุใดอาจเป็นเพราะน้ำเสียงแข็งๆ กับระดับเสียงดังกว่าคราแรก ไร้ความนิ่มนวลอย่างที่เคยเอ่ยทักตน
“ในร้านนี้ทุกอย่างก็แพงทั้งหมดนั่นล่ะค่ะคุณลูกค้า ดิฉันจะลองหาสักชิ้นสองชิ้นที่ถูกที่สุดดูให้นะคะ แต่คงเหลือแต่สินค้าตกรุ่นใกล้นำออกจากช็อป”
“ครับ ไม่เป็นไร ผมจะซื้อมัน” ต่อให้เป็นคนโง่ก็ดูออกว่าคำพูดนั้นแฝงไปด้วยถ้อยคำประชดเหยียดหยาม ระดับความต่างของฐานะมีผลกับการได้รับบริการเสมอ ทว่า คนผู้นั้นก็ยังแสดงรอยยิ้มแสดงความกระตือรือร้นว่าตนต้องการมัน
“กรุณารอสักครู่ค่ะ” พูดจบเธอก็เดินหายเข้าไปด้านหลังร้านทิ้งโอเมก้าคนนั้นให้ยืนรอโดยไม่แม้กระทั่งจะเชิญให้มานั่งยังบริเวณรับรองลูกค้าเหมือนแขกคนอื่น
สิ่งเหล่านี้ล้วนมีให้เห็นจนชินชาไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด ยุคสมัยก้าวไปข้างหน้าแต่ความเหลื่อมล้ำก็ยังมีให้เห็นอยู่เสมอ พอลองย้อนกลับไปมองตัวเองแล้วการที่ซินเธียได้รับการต้อนรับอย่างดีนั้นคงเพราะคนที่อยู่เคียงข้างคือ แอชลีย์ คิม ผู้นำหนึ่งในตระกูลใหญ่ของวินเทอร์ฟอล พนักงานเหล่านั้นถึงได้ไว้หน้าเขา หากเข้ามาเพียงลำพังด้วยรูปลักษณ์แสนแตกต่าง ผิวสีน้ำผึ้งรูปลักษณ์ดูแปลกแยก สวมใส่เครื่องแต่งกายของคนต่างถิ่น บางทีปฏิกิริยาที่พวกเธอมีต่อซินเธียอาจจะเลวร้ายกว่าโอเมก้าคนนั้นด้วยซ้ำ
ฐานะเชื้อพระวงศ์แทบไม่มีความหมายเลยเมื่ออยู่ต่างบ้านต่างเมือง
ในโลกนี้ โอเมก้ามีจำนวนน้อยแต่โอเมก้าที่เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ยิ่งมีน้อยกว่า ชาติตระกูลเหล่านั้นจึงเป็นเหมือนโชคดีในความโชคร้ายก็ไม่ปาน
แม้นเกิดมา ร่างกายอ่อนแอ ทางเลือกในชีวิตไม่ได้มีมากมายแต่ก็โชคดีที่ได้รับการปรนนิบัติ ดูแลดั่งไข่ในหิน เดินไปที่ใดก็ยังได้รับการยกย่องเชิดชู ถูกคุ้มครองภายใต้ชื่อของตระกูล
“อย่ามัวแต่มองเรื่องไร้สาระ”
เสียงทุ้มต่ำจากคนข้างกายช่วยเรียกเด็กหนุ่มให้หลุดจากภวังค์หันกลับมาสนใจบรรดาแหวนหลากหลายรูปแบบตรงหน้า ซินเธียสูดหายใจเข้าลึกพยายามไม่สนใจเสียงพูดคุยจากทางเคาน์เตอร์กลับมาตั้งใจพิจารณาบรรดาของบนโต๊ะ
ทั้งการออกแบบและจำนวนอัญมณีบนแหวนเหล่านั้นบ่งบอกว่าพวกมันเป็นสินค้าสูงค่าประดับเพชรพลอยซึ่งถูกเจียระไนอย่างประณีต หลากหลายขนาด หลากหลายรูปแบบ
มันเยอะไปหมด
คงเพราะเห็นว่าที่คู่พันธะเงียบไปนานคนที่ไม่อยากเสียเวลาไปโดยสูญเปล่าจึงใช้ความคิดชั่วขณะหนึ่งกวาดสายตามองของบนโต๊ะเลือกหยิบแหวนขึ้นมาสักวงแล้วผลักตัวกล่องเข้าไปหาคนอายุน้อยกว่าเป็นเชิงให้ลองสวมดู
“ลองสวมดูสิ”
เหตุผลที่เงียบไปหาใช่ตกตะลึงในมูลค่าของสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ แต่เพราะเลือกไม่ถูก ท่านชายวาเลนเธียไม่ใคร่สนใจเรื่องของสวยๆ งามๆ นัก ตลอดชีวิตก็มีผู้ดูแลคอยจัดสรรเลือกเสื้อผ้าเครื่องประดับให้ตลอด ถูกจัดอะไรมาให้ก็ใส่ไปตามนั้น อีกอย่างคงเพราะชาวแดนใต้นิยมสวมเครื่องเงินเป็นส่วนใหญ่ เลยไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องประดับแวววาว
ซินเธียหยิบแหวนดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา เป็นแหวนทองคำขาวรูปทรงเรียบง่ายประดับเพชรน้ำขนาดไม่ใหญ่จนเกินงาม ตรงกลางตัวฐานด้านล่างถูกออกแบบให้เป็นกลีบกุหลาบผลิบานราวกับกำลังโอบอุ้มอัญมณีล้ำค่าเอาไว้ สีของมันใสบริสุทธิ์ ยามกระทบแสงไฟส่องประกายแวววาวดูงดงาม ตัวเรือนถูกประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กล้อมรอบครึ่งบนของตัวแหวน เมื่อลองสวมลงบนนิ้วแม้มองดูค่อนข้างตัดกับสีผิวทว่าเข้ากันราวกับสิ่งนี้สร้างมาเพื่อตัวเด็กหนุ่มเอง
ถึงท่าทีของอัลฟ่าข้างกายจะคล้ายเลือกของมาให้แบบขอไปที แต่ไม่คาดว่าพอสวมแล้วมันกลับดูเข้ากับผู้สวมราวกับคัดเลือกด้วยความตั้งใจ
ซินเธียมองมันอย่างหลงใหล ไม่อาจทราบได้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่เลือกไปส่งๆ เพราะเริ่มหมดความอดทนหรือตั้งใจเลือกให้เพราะเห็นว่ามันเหมาะกับตนก็ตามที แต่เขารู้สึกชอบมันมาก ต่อให้แอชลีย์จะโยนมันมาให้โดยบังเอิญแต่ก็ไม่มีความรู้สึกน้อยใจหรืออะไรก็ตามเกิดขึ้นภายในใจของเด็กหนุ่มเลยสักนิด
“ชอบวงนี้หรือคะ”
พนักงานสาวที่คอยท่าอยู่นานแล้วระบายรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นคุณชายท่านนี้ไม่ยอมถอดแหวนออกเสียทีจึงรีบเอ่ยแนะนำด้วยความกระตือรือร้น
“ตัวเพชรเม็ดกลางมีขนาดหนึ่งกะรัตค่ะ ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไปเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบดีไซน์เรียบง่าย ส่วนตัวเรือนประมาณ 0.26 กะรัต เป็นเพชรน้ำ 100 % เลยนะคะท่านชาย”
“วงนี้ก็ได้ เราชอบ”
ซินเธียเดิมไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้วประจวบเหมาะกับรู้สึกชอบแหวนวงนี้ตั้งแต่แรกเห็นจึงตกลงไปทันที เขาถอดแหวนส่งคืนให้พนักงานสาวเบต้า “แต่หลวมไปสักหน่อย”
“ช่วยวัดขนาดนิ้วนางข้างซ้ายของเขาแล้วปรับแก้ให้ทีครับ ส่วนด้านในแหวนสลักเป็นคำว่าวาเลนเธีย”
“ท่านชายคิมจะรับสักวงด้วยไหมคะ”
“เอาแบบที่เหมือนกับเขา”
ฟังเพียงเท่านั้นพนักงานสาวมากประสบการณ์ก็เข้าใจถึงจุดประสงค์ทันที แหวนชุดนี้ไม่ใช่แหวนสำหรับเป็นของขวัญอย่างที่เธอเข้าใจในคราวแรก แต่เป็นแหวนแต่งงานต่างหาก! คำว่า เอาแบบที่เหมือนกับเขา ของอัลฟ่าสูงศักดิ์ผู้นี้ก็หมายความว่าให้จัดหาแหวนที่เข้าคู่กัน
“ดูเหมือนตระกูลคิมกำลังจะมีข่าวดีสินะคะ ใช้เวลาสักครู่ทางเราจะรีบปรับแก้ขนาดแหวนให้ค่ะ”
ในต้นประโยคนั้นเธอส่งรอยยิ้มเลยมาถึงซินเธียที่กำลังนั่งใจระส่ำอยู่ ฝั่งอัลฟ่าผู้นำตระกูลใหญ่เมื่อสั่งการยืดยาวจบก็กอดอกนั่งพิงพนักโซฟารอโดยไม่ปริปากเอ่ยอะไรอีก
เพราะมัวแต่สนใจแหวนบนมือซินเธียจึงไม่ได้สนใจอีกว่าสรุปแล้วโอเมก้าคนนั้นได้สิ่งที่ตนเองต้องการหรือไม่ เมื่อหันไปดูอีกครั้งบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ก็ว่างเปล่าแล้ว คนทั้งสองนั่งรออยู่ชั่วขณะหนึ่งพนักงานสาวคนเดิมกลับมาพร้อมถุงกระดาษหรูหราสีน้ำเงินเข้ม บนตัวถุงมีตัวอักษรสีเงินตวัดสวยงามเป็นชื่อของร้าน เธอหยิบกล่องกำมะหยี่สีเดียวกันออกมาเปิดให้ทั้งคู่ดูอีกครั้งก่อนชำระเงินเพื่อตรวจสอบเผื่อว่าลูกค้าอยากจะปรับแก้ตรงไหนเพิ่มเติม
แอชลีย์หยิบแหวนที่เล็กกว่าขนาดนิ้วของตัวเองขึ้นมาสร้างความฉงนให้กับคนมองอย่างซินเธีย เด็กหนุ่มนึกว่าอีกคนจะหยิบแหวนของตัวเองมาตรวจสอบเพราะตั้งแต่ต้นเจ้าตัวยังไม่เคยลองสวมเลยสักครั้ง ส่วนของแอชลีย์นั้นตัวแหวนไม่ได้มีเพชรเม็ดโตประดับแต่เป็นการฝังตัวเพชรขนาดเล็กรอบตัวแหวนสลักลวดลายคล้ายใบเถากุหลาบพันรอบๆ แทนรวมถึงรูปทรงของแหวนก็มีความหนากว่า ปรับให้เข้ากับบุคลิกเคร่งขรึมหนักแน่นของอัลฟ่าผู้สวมใส่
คนตัวโตยื่นมือมาด้านหน้าไม่บอกไม่กล่าว ครั้งแรกซินเธียไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายกระทั่งเห็นนัยน์ตาอำพันคู่นั้นเหลือบมองมือตนเองถึงได้ยื่นออกไปด้วยความมึนงง มือใหญ่กุมมือของเด็กหนุ่มไว้แล้วดึงเข้าหาตัวเองเล็กน้อยก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของว่าที่คู่ชีวิต
ในวินาทีนั้นคนถูกสวมแหวนเผลอเกร็งตัวไปชั่วขณะ จับจ้องทุกวินาทียามตัวแหวนถูกเลื่อนเข้ามาบนนิ้วเชื่องช้า พอเลื่อนสายตาไปมองคนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองก็อดจะเม้มปากไม่ได้
แหวนวงนี้มันพอดีกับนิ้วเรียวสวยสีน้ำผึ้ง
“เหมาะมากเลยค่ะ” พนักงานสาวออกปากชมอย่างเอาใจ ซินเธียได้แต่ส่งยิ้มเก้อเขินกลับไปให้ รู้สึกทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ
“แล้วคุณไม่ลองสวมดูหรือครับ”
พอไม่รู้จะทำตัวอย่างไรถึงได้หันไปถามคนที่เอาแต่นั่งมองกันเงียบๆ แต่คำตอบของอีกฝ่ายกลับเป็น...
“ถ้าเขาวัดขนาดไปแล้วอย่างไรเสียมันก็ต้องใส่ได้” แอชลีย์ผละมือออกไปก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ไปได้แล้ว เรายังต้องไปจัดการเรื่องอื่นกันต่ออีก”
#วิวาห์ในแดนฝัน
ทวิต : @Monrita_novel
เพจ : Monrita
อยากให้ริต้าขยันอัพ คุณรี้ดก็ต้องขยันส่งฟีดแบกให้เหมือนกันน้า
ร่วมหวีดและเขินไปกับคุมแอชและน้องเธียได้ที่ #วิวาห์ในแดนฝัน
อย่าเขินที่จะเม้นเลยให้น้องเธียเขินคุณแอชก็พอ
ปล.อย่าลืมติดตามทวิตเตอร์เพื่ออัพเดทข่าวสารนิยายและอ่าน fact ของเรื่องนี้นะจ๊ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

7,261 ความคิดเห็น
-
#7235 Pangpang'agape (จากตอนที่ 4)วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 / 10:37แน๊ ทำมาเปงงงงง#7,2350
-
#7187 blueeyes111 (จากตอนที่ 4)วันที่ 1 เมษายน 2563 / 10:58คนชาเย็น#7,1870
-
#7147 Krystal wing (จากตอนที่ 4)วันที่ 8 มีนาคม 2563 / 19:50อ๋ออออ ค่ะ เข้าใจแล้ว#7,1470
-
#7125 kray khunkhun (จากตอนที่ 4)วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 / 09:50พบคนซึน1อัตราค่ะ คุณตำรวจ#7,1250
-
#7118 Plankton J (จากตอนที่ 4)วันที่ 27 มกราคม 2563 / 21:20ขอไปทีมากๆ#7,1180
-
#7111 BI290 (จากตอนที่ 4)วันที่ 24 มกราคม 2563 / 01:03เย็นชาเหลือเกินนนนน#7,1110
-
#7002 Anjae thisachon (จากตอนที่ 4)วันที่ 15 ธันวาคม 2562 / 23:12จะเย็นชาไปไหนพ่อคูนนนน#7,0020
-
#6966 ojay2 (จากตอนที่ 4)วันที่ 8 ธันวาคม 2562 / 15:53แน๊ ซึนนนนนจังงค่ะ#6,9660
-
#6925 sichul (จากตอนที่ 4)วันที่ 30 ตุลาคม 2562 / 15:47เหออๆๆ คุณคิมนี่เย็นชาเสียจริงง#6,9250
-
#6785 Rainbow_Jang (จากตอนที่ 4)วันที่ 14 ตุลาคม 2562 / 18:05เหมือนจะเลือกส่งส่ง แต่ปล่าวคะ ละเอียดเชียว#6,7850
-
#6773 Chnitw_ (จากตอนที่ 4)วันที่ 13 ตุลาคม 2562 / 17:51เย็นชาเก่งงง จะคอยดูนะคะว่าจะเย็นชาไปได้ตลอดมั้ย😏#6,7730
-
#6765 kim0119 (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 ตุลาคม 2562 / 00:34ตาแอชนี่มันน่าโดนฟาดซักตุ้บ สองตุ้บ พูดจากับน้องให้มันดีๆหน่อยซี่!#6,7650
-
#6741 Nattgaporn_ (จากตอนที่ 4)วันที่ 4 ตุลาคม 2562 / 00:33เย็นชาไปอี้กกกก จะได้สักกี่ครั้งเชียว!!!555555#6,7410
-
#6713 boT3T (จากตอนที่ 4)วันที่ 29 กันยายน 2562 / 23:22ทำเป็นเข้มมมม แต่แอบสนใจเขาใช่มั้ย!!!#6,7130
-
#6709 Midories (จากตอนที่ 4)วันที่ 28 กันยายน 2562 / 15:07หมั่นไส้คุณเค้าจังเลยค่ะ หึ้ย#6,7090
-
#6669 lilshi__ (จากตอนที่ 4)วันที่ 26 กันยายน 2562 / 15:43เย็นชาอะไรขนาดนั้นละพ่อออออออ#6,6690
-
#6647 N@TTY (จากตอนที่ 4)วันที่ 25 กันยายน 2562 / 22:10เย็นชาเก่งงงง#6,6470
-
#6635 birsesy (จากตอนที่ 4)วันที่ 24 กันยายน 2562 / 21:12เอาน้า เล่นงี้กะน้องน้าาาา#6,6350
-
#6572 FernNAlls (จากตอนที่ 4)วันที่ 16 กันยายน 2562 / 12:46ทำไมทำตัวเย็นชาแบบนี้#6,5720
-
#6480 pommys (จากตอนที่ 4)วันที่ 12 กันยายน 2562 / 09:38การปฏิบัติดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า#6,4800
-
#6479 pommys (จากตอนที่ 4)วันที่ 12 กันยายน 2562 / 09:34****สายตาหวาดกลัว#6,4790
-
#6472 Lucky-Puppy (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 กันยายน 2562 / 22:25ยังไงเนี่ยยยย#6,4720
-
#6457 tinkerbell.n12 (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 กันยายน 2562 / 19:18พ่อคุณเอ้ยยย เย็นชามาก#6,4570
-
#6451 Ineedtoreed (จากตอนที่ 4)วันที่ 11 กันยายน 2562 / 17:31อยากเจ่อเรื่องของเจ้าหนุ่มที่พนักงานไม่รักคนนั้นจัดๆ#6,4510
-
#6442 fayfai2302 (จากตอนที่ 4)วันที่ 10 กันยายน 2562 / 23:23ย้อนแย้งนะพ่อคนนี้ 555#6,4420