ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิชาชีพออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #6 : สำเร็จเควสการเกษตร

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 54


    เริ่มต้นวันใหม่ วันนี้เป็นเอกได้รับภารกิจดูแลสวน ทำสวนมา

    เริ่มต้นจากการรดน้ำต้นไม้ ซึ่งต้นไม้ในสวนก็มีไม่มากเท่าไร มีแค่ กล้วย มะม่วง มะนวน ไม่พร้าว ส้มโอ ฯลฯ เรียกได้ว่ามีผลไม่ยืนต้นทั้งหลายอย่างละต้นสองต้น แน่นอนว่าภารกิจของเป็นเอกก็แค่รดน้ำ เก็บผลไม้

    แน่นอนว่าภารกิจนี่ทำให้เป็นเอกได้รู้จักผลไม้ที่ไม่เคยรู้จักหลายอย่าง และหลายอย่างที่สาบสูญไปแล้ว

    เป็นเอกทำภารกิจนี้สองวันก็เสร็จ ได้รับเงิน 10 S คะแนนภารกิจ 2 คะแนน

    จากนั้นเป็นเอกก็บอกลาลุงทองพูลคนนี้ เพราะว่าเขาต้องไปเข้าเรียนแล้ว แน่นอนว่าพอกลับมาก็จะกลายเป็นลุงทองพูลอีกคน เพราะทองพูลเป็น npc ที่สลับกันเป็นสามคน ซึ่งเขาเจอกับสองคนแรกแล้ว

    หลังจากที่เป็นเอกเรียนจบแล้ว

    แน่นอนว่าเป็นเอกก็ยังโดนเพื่อนหัวเราะเยาะอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก จะบอกว่าชินแล้วก็ได้

    นอกจากเรื่องที่โดนนินทา เขาก็ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับเกมส์จากการเมาส์กันของเพื่อนในห้อง

    ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ กิลล์ดั่งเทพ ซึ่งเป็นกิลล์ของโรงเรียนนี้ที่นำโดยพี่ต้น หรือชื่อในเกมส์ มิคาเอล กำลังเก็บเลเวลเพื่อยึดป่าด้านเหนือของเมืองเริ่มต้น ที่เป็นที่อยู่ของพญาหมูป่าดำ

    อีกอย่างคือกิลล์ที่กำลังเป็นศัตรูของกิลล์ดั่งเทพ คือกิลล์ปีกมาร ซึ่งชื่อก็บอกว่าโจรขนานแท้ และกิลล์เซรอส ที่คับคั่งไปด้วยนักดาบ อัศวิน ที่แข็งแกร่งก็กำลังเล็งพื้นที่เดียวกันเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่าใครจะเร็วกว่ากัน

    นอกจากนี้ก็เป็นการผุดขึ้นของกิลล์เล็กกิลล์น้อยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น กิลล์พ่อค้าหน้าเลือด อันนี้ขายของทำกำไรกันอย่างเดียว โดยในทีมประกอบด้วยพวกช่างเหล็กตีดาบกับชุดเกราะ พวกนักปรุงยา และพวกพ่อค้า เรียกได้ว่าเป็นกิลล์สายการผลิตโดยแท้

    กิลล์เหยี่ยวข่าว อันนี้เป็นกิลล์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบโดยตรง แต่จะคอยหาข่าวซื้อขายข่าว เกี่ยวกับผู้เล่น อาชีพ ไอเท็มต่าง ๆ ภารกิจ ที่ผู้คนสนใจ พี่ขายหมด

    และสุดท้ายเป็นข่าวที่ไม่เกี่ยวกับเกมส์ แต่เป็นข่าวของ ยูกิ เพื่อนร่วมห้องที่ไม่เคยเจอหน้าสักครั้ง ที่ออกมาประกาศงดการทัวคอนเสิต และงดออกงานทุกชนิด แต่ก็เป็นไปได้ว่าเธอแค่เพียงอยากพักผ่อนเพราะเธอทำงานอย่างหนักยิ่งกว่าพวกผู้ใหญ่ซะอีก น่านับถือจริง ๆ

    แต่ข่าวทั้งหลายที่ว่ามานี่เป็นเอกไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย สุดท้ายก็ออฟไลน์ออกจากเกมส์ อาบน้ำแต่งตัว

    จากนั้นก็ลงไปช่วยงานบ้าน กินข้าว ใช้ชีวิตเหมือนเดิม พอถึง 11 โมงก็เข้าเกมส์

    ตอนนี้ในเกมส์ก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี เป็นเอกเดินออกจากห้องก็เห็นลุงทองพูลนั่งรออยู่พร้อมกับอาหาร

    "สวัสดีครับ คุณลุงทองพูล"

    เป็นเอกยกมือไหว้ทักทายทันที ทองพูลก็ยกมือรับไหว้ แน่นอนว่าต้องสังเกตุเป็นเอก เพราะเพิ่งเจอกันครั้งแรก ซึ่งเป็นเอกก็ไม่ใสใจนัก ยืนรอให้อีกฝ่ายพูดก่อนตามมารยาท

    "ลุงได้ยินเรื่องของเรามาจากอีก 2 คนแล้วนะ เรานี่แตกต่างจากที่ลุงคิดไว้มากทีเดียว นึกว่าจะตัวใหญ่ลำบึกซะอีก ตัวจริงกลับผอมแห้งแรงน้อยกว่าที่คิดไว้"

    เป็นเอกได้ยินก็ได้แต่หัวเราะเบา ๆ เพราะไม่รู้อีกฝ่ายคิดยังไงกับตัวเอง

    "ตอนแรกลุงได้ยินว่ามีคนมารับภารกิจทำนา ยังแปลกใจอยู่เลย เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาทำภารกิจแบบนี้จริง ๆ"

    พูดจบทองพูลก็ยิ้มขึ้น เพราะสังเกตุว่าเป็นเอกสังเกตุอาหารอยู่

    "อ้าวคุยกันจนเพลิน มากินกันก่อนสิ"

    เมื่อทองพูลเชิญ เป็นเอกก็ไม่เกรงใจอีกแล้ว นั่งลงกินข้าวทันที

    หลังจากกินข้าวเสร็จ จึงถามถึงภารกิจต่อไปทันที

    "ลุงครับ แล้ววันนี้มีภารกิจอะไรให้ทำบ้างเหรอครับ"

    "อือ"

    ทองพูลมีสีหน้าลำบากใจ เพราะตอนนี้ภารกิจที่เขามีนั้นเป็นเอกทำเกือบหมดแล้ว แน่นอนว่าพวกอาชีพต่าง ๆ มันยังมีอีกมาก เพียงแต่ว่าตอนนี้เพิ่งเปิดเกมส์มา ภารกิจจึงยังไม่ค่อยมีเท่าไร อันที่จริงตอนแรกมีแค่ภารกิจทำนา เลี้ยงไก่ เลี้ยงควาย เลี้ยงวัวเท่านั้น ที่เหลือเติมเข้ามาทีหลังเพื่อให้เป็นเอกได้ทำ  แน่นอนว่ายังมีภารกิจอีกเล็กน้อย เพียงแต่ว่าคุณสมบัติของเป็นเอกยังทำไม่ได้

    "ตอนนี้เหลือเพียง 2 ภารกิจเท่านั้น คือภารกิจศึกษาไร่สมุนไพร กับ ภารกิจส่งของเข้าเมือง แน่นอนว่ายังมีพวกภารกิจ ไล่ตั๊กแตนตำข้าว จับหนอนชาเขียว กำจัดมดคันไฟ และอื่น ๆ ที่ต้องทำในบริเวณนี้ แต่เอกต้องมีอาชีพก่อน เพราะมันเป็นภารกิจที่ต้องสู้กับพวกมอสเตอร์ และมอสเตอร์พวกนี้ก็ระดับไม่ต่ำซะด้วย"

    เป็นเอกได้ฟังก็พอเข้าใจว่า ภารกิจพวกนี้มันมีจำกัด เพราะยังไงก็เพิ่งเปิดเกมส์

    "ผมรับภารกิจทั้งสองอันนั้นครับ"

    "งั้นเริ่มจากภารกิจศึกษาไร่สมุนไพรก็แล้วกัน เอานี่" ทองพูลยื่นหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพรมาให้กับเป็นเอก จากนั้นก็พาเป็นเอกไปที่ไร่สมุนไพร มีสมุนไพรต่าง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่หายสาบสูญไปจากโลกนี้แล้ว

    แน่นอนว่าสมุนไพรพวกนี้ กับสมุนไพร่ที่ใช้ในเกมส์จะเป็นคนละส่วนกัน ทองพูลให้เหตุผลว่า

    "ก็เพราะเกมส์มันกำหนดให้เป็นแบบนั้น มันก็เลยต้องเป็นไปตามกฎ"

    แน่นอนว่าเป็นเอกก็ไม่ได้ว่าอะไร ตั้งใจศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพร่ต่าง ๆ


    ภายในสองวันเป็นเอกก็สามารถจำพวกสมุนไพรของจริงได้ทั้งหมด เหลือแต่พวกสมุนไพร่ในเกมส์ ซึ่งมีสีสันที่สวยเป็นพิเศษ

    แล้วก็ถึงเวลาที่เป็นเอกจะต้องออกจากเกมส์ไปช่วยแม่เก็บร้าน กินข้าว อาบน้ำ

    จึงได้บอกลาลุงทองพูล เพื่อออฟไลน์ทันที

    หลังจากกลับเขามาในเกมส์อีกครั้ง เป็นเอกก็ศึกษาเรื่องสมุนไพรในเกมส์ ซึ่งล้วนแต่เป็นของหายาก แต่ระบบก็ไม่อนุญาติให้เก็บ ไม่งั้นคงโดนพวกที่เล่นสายปรุงยามาเก็บไปจนหมดเป็นแน่แท้

    เป็นเอกใช้เวลาหนึ่งวันในการศึกษาสมุนไพร คุณสมบัติของมัน และที่เกิดจนละเอียด

    และแล้วก็เสร็จภารกิจศึกษาสมุนไพร

    เป็นเอกได้ทักษะ  แยกวัตถุดิบ 5 คะแนนภาระกิจ 1

    หลังจากระบบประกาศว่าเป็นเอกทำภารกิจเสร็จ ก็มีเสียงจากระบบออกมาอีกครั้ง

    (ผู้เล่นเป็นเอก ได้ทำภารกิจเกษตรกรรมครบ ได้รับไอเท็มพิเศษ รถเข็นผัก จอบ ถังน้ำ และ ต้นไม้แห่งชีวิต)

    เป็นเอกเปิดดูในกระเป๋าก็พบไอเท็มที่ได้รับมา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะเขาต้องรีบออฟไลน์เพื่อที่จะช่วยแม่เก็บของในร้าน

    หลังจากลาลุงทองพูล เป็นเอกก็ออฟไลน์เพื่อจะไปช่วยคุณแม่เก็บร้าน และกินข้าวเย็น

    หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นเอกก็เข้าเกมส์ทันที

    เป็นเอกรีบเดินออกไปหาลุงทองพูลเพื่อรับภารกิจสุดท้ายทันที

    "สวัสดีครับคุณลุง" เป็นเอกยกมือไหว้ทองพูลตามมารยาท

    "สวัสดีเอก" ทองพูลยกมือรับไหว้ จากนั้นก็พูดกับเป็นเอก "เอกจะรับภารกิจสุดท้ายเลยหรือเปล่า"

    "รับครับ" เป็นเอกรีบตอบรับทันที

    ทองพูลจึงยื่นใบรายการต่าง ๆ ให้เป็นเอก พร้อมกับเข่งหลายใบให้กับเป็นเอก

    เป็นเอกรับใบรายการมาดูต้องหน้าซีดทันทีรีบถามทองพูลด้วยความตกใจ "ลุงครับ ของเยอะแบบนี้ผมจะขนไปหมดได้ยังไงครับ"

    ทองพูลชี้ไปที่เข่งที่วางอยู่กับพื้น แล้วพูดกับเป็นเอก "ก็เก็บแล้วใส่เข่งไปนะสิ ของทั้ง 4 ร้านแยกใส่เข่ง 4 ใบ"

    เป็นเอกทำหน้างง พูดกับทองพูล "เอ่อ ลุงครับ แล้วจะขนไปยังไงครับ คงไม่ได้ให้ผมยกไปทีละเข่งนะครับ"

    "ฮ่า ๆ" ทองพูลหัวเราะ จากนั้นก็พูดกับเป็นเอก "เจ้าเอก จำไม่ได้หรือไงว่าเคยได้อะไรไปแล้วบ้าง"

    เป็นเอกทำหน้างงไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูด

    ทองพูลส่ายหน้า ระอากับความทึ่มของอีกฝ่าย

    "เป็นเอก ลองคิดดูดี ๆ หน่อยได้มั้ย จำไม่ได้เหรอว่าเคยได้รถเข็นไป"

    เป็นเอกนึกออกทันที "อะ จริงด้วย มีรถเข็นนี่นา โทษทีครับ พอดีลืมไปหน่อย"

    "ถ้าจำได้แล้วก็รีบไปเก็บของตามรายการได้แล้ว"

    เป็นเอกรับคำจากนั้นก็รีบออกจากบ้านไปเก็บของตามรายการทันที

    กว่าจะเก็บเสร็จตามรายการก็เย็นพอดี เป็นเอกเลยต้องพักค้างคืนที่กระท่อมอีกคืน

    พอรุ่งขึ้นเป็นเอกก็เข็นรถออกไปทันที โดยไม่ลืมลาทองพูล

    กว่าเป็นเอกจะเข้าตัวเมืองได้ก็เกือบเที่ยง พอเข็นรถเข้าไปในเมือง เป็นเอกก็เป็นจุดสนใจทันที เพราะชุดที่เข้าใสไม่เหมือนใคร คนอื่นใส่แต่ชุดดี ๆ มีทั้งชุดเกราะ ชุดหนังสัตว์ ชุดจอมยุทธ ผสมกันจนไม่รู้ว่าอยู่ยุคไหนกันแน่

    แต่เป็นเอกกลับใส่ชุดชาวนา จึงเป็นจุดสนใจเป็นพิเศษ เหมือนเป็นตัวประลาดยังไงยังงั้น แม้แต่เป็นเอกที่เคยชินกับสายตาแบบนี้ยังรู้สึกอายเล็กน้อย

    เป็นเอกเข็นรถมาถึงร้านอาหาร ร้านแรกที่ต้องส่ง แต่พอจะเข้าไปส่งของในร้านกลับมีคน 5 คนมาล้อมเป็นเอกไว้ทันที

    เป็นเอกเงยหน้ามองคนที่มาขวางก็รู้ว่าคงไม่ได้มีเจตนาดีเป็นแน่

    "เห้ย ไอ้น้องของพวกนั้นพี่ขอได้ปะ" ชายตัวสูงหน้าตาดูก็รู้ว่าโจรชัด ๆ พฤติกรรมขู่กรรโชค ไม่มีทางเป็นพระเอกได้แน่

    เป็นเอกมองชายที่ขวางหน้า แล้วค่อย ๆ หันมองคนที่ล้อมตัวเองอยู่ จากนั้นก็มองไปยังคนที่มุ่งดู และคนที่นั่งดูอยู่ในร้านอาหาร แน่นอนว่าไม่มีใครคิดที่จะขยับช่วยเป็นเอกแม้แต่คนเดียว

    "เฮ่อ เข้าเมืองปุบก็โดนปล้นเลยเหรอเนี่ย" เป็นเอกบ่นเบา ๆ แต่กลุ่มโจรดันหูดีได้ยิน

    "ไอ้กระจอก เมื่อกี้มึงว่าไงนะ!!" ชายที่ขวางทาง ที่ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มโจรตะคอกเป็นเอก

    "เฮ้อ" เป็นเอกถอนหายใจ พวกโจรเห็นเป็นเอกไม่กลัวจึงชักอาวุธออกมาขู่ทันที

    "ไอ้กระจอกถ้าไม่อยากตายส่ง รถคันนั้นมาซะ!!"

    "ใช่ส่งมาซะ!!"

    กลุ่มโจรตะคอกพร้อมกับยกอาวุธขึ้นมาขู่

    เป็นเอกได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา จากนั้นก็พูดกับพวกโจร

    "ถ้าพี่เอาไปได้ก็เอาไปเถอะ แต่ผมขอเตือนด้วยความหวังดีว่า อย่าดีกว่า"

    เป็นเอกพูดจบก็เดินถอยห่างออกจากรถเข็นทันที

    พวกโจรเห็นว่าขู่เป็นเอกสำเร็จแล้วจึงรีบเดินเข้าไปจับรถเข็นทันที

    "จ๊ากกกก!!!"

    โจรสองคนที่เข้าไปจับรถเข็นต้องรีบปล่อยมือทันที เพราะโดนไฟฟ้าช๊อต ถึงแม้จะไม่เสียเลือด แต่ก็ได้รับความเจ็บปวด หัวหน้าโจรเมื่อเห็นลูกน้องของตัวเองโดนไฟฟ้าช๊อตก็ตรงเข้าหาเป็นเอก กระชากคอเสื้อของเป็นเอกทันที

    "มึงทำอะไรกับพวกกูวะ!!" หัวหน้าโจรตะโกนด้วยความโกรธ

    เป็นเอกส่ายหน้า พร้อมกับบอกกับโจรด้วยน้ำเสียงปกติ "ก็ผมเตือนแล้วว่าอย่าดีกว่า"

    "มึงอยากตายหรือไง!!"

    เป็นเอกมองหน้าของหัวหน้าโจร ที่ดูแล้วท่าทางจะไม่เคยอ่านคู่มือการเล่นเกมส์มาก่อนถึงได้บ๊องตื้นขนาดนี้

    "ผมว่าคุณพี่อย่าดีกว่า" เป็นเอกพูดเตือนโจรด้วยความหวังดี แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับน้ำใจ เหวี่ยงเป็นเอกลงไปกระแทกพื้น พร้อมกับจ่อปลายดาบที่คอเป็นเอกทันที

    "ถ้ามึงอยากตายพวกกูก็จะสงเคราะห์ให้" หัวหน้าโจรพูด พวกโจรทั้งห้าคนก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาล้อมเป็นเอก

    เป็นเอกมองโจร จากนั้นก็หันไปมองคนโดยรอบ เห็นคนจากหลาย ๆ กิลล์มามุ่งอยู่ก็รู้ว่าคนพวกนี้เตรียมเชือดพวกโจรหลังจากโจรฆ่าตัวเองแล้ว แน่นอนเป็นเอกยังไม่อยากตายอยู่แล้ว ถึงแม้เป็นเอกจะแค่เลเวล 1 ถึงตายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ตายก็จะดีที่สุด จึงรีบอธิบายกับพวกโจรทันที

    "คุณพี่ เคยอ่านกฏการต่อสู้ในเมืองหรือเปล่าครับ ผมเดาว่าพวกคุณพี่คงไม่ได้อ่านแน่เลย"

    พวกโจรมองหน้ากันไปมา เพราะพวกตนไม่เคยสนใจพวกกฎพวกนั้นอยู่แล้ว

    "กฎห่าอะไร พวกกูไม่สนใจหรอกเว้ย"

    เป็นเอกส่ายหน้าในความโง่ของอีกฝ่าย

    "ถ้างั้นผมจะบอกอะไรให้คุณพี่ฟังก็แล้วกัน พวกคุณพี่จะได้ไม่ถูกเชือดโดยไม่รู้ตัว"

    หัวหน้าโจรได้ฟังเป็นเอกพูดก็ถึงกับโกรธ ยกดาบหมายจะฟันเป็นเอกให้ตาย

    เป็นเอกรีบหลับตาเพื่อรอความตาย

    "เดี๋ยวก่อน" โจรสองคนรีบจับมือหัวหน้าโจรเอาไว้ทันที

    เป็นเอกลืมตามองโจรที่พยายามห้ามไม่ให้ฆ่าเป็นเอก

    (อือ พอจะมีคนที่มีความคิดอยู่บ้างก็ยังดี) เป็นเอกคิดพร้อมกับมองอีกฝ่ายที่ฉุดหัวหน้าโจรไปด้านหลัง

    "ไหนช่วยอธิบายกฎที่ว่าให้หน่อยสิ แล้วที่ว่าพวกเราจะโดนเชือดหมายความว่าไง" โจรเบอร์สองรีบสอบถามเป็นเอกด้วยความสงสัย เพราะอีกฝ่ายมองดูคนโดยรอบรู้สึกว่างานนี้ไม่ธรรมดา

    เป็นเอกจึงรีบอธิบายทันที เพราะไม่อยากจะตายเหมือนกัน

    "คุณพี่โจรเบอร์สอง พอจะมีสติอยู่บ้างคงจะเห็นคนโดยรอบแล้วใช่มั้ย คนพวกนั้นไม่ได้กลัวพวกคุณพี่หรอกนะ แล้วก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะยุ่งกับพวกคุณพี่เลยไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่พวกนั้นรอพวกคุณพี่ฆ่าผมจากนั้นก็ค่อยเชือดคุณพี่ซะ"

    กลุ่มโจรมองหน้ากัน จากนั้นก็มองไปโดยรอบ เห็นคนหลายกลุ่มอาวุธครบมือ ต่างก็เล็งมาที่พวกตัวเองทั้งนั้น

    "คุณพี่ทั้งหลายคงไม่ได้อ่านกฎก่อนเข้ามาเล่นใช้หรือเปล่า ผมจะอธิบายกฎการต่อสู้ในเมืองให้ฟังก็แล้วกัน"

    "การต่อสู้ในเมือง จะถูกลงโทษเป็นห้าเท่าของปกติ ปกติคุณพี่ไปฆ่าผู้เล่นด้านนอกอาจจะโดนตั้งค่าหัว 10 G แต่ถ้าในเมืองคุณพี่จะโดนเป็นห้าเท่า ยิ่งคุณพี่ฆ่าคนมากเท่าไร ก็จะยิ่งคูณเข้าไป และเงินพวกนั้นไม่ใช่ว่าทางระบบเป็นคนจ่าย แต่พวกพี่ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ถ้าต่อบัญชีธนาคารกับเกมส์ ก็จะโดนหักเงินจากธนาคาร ถ้าไม่มีบัญชี ก็จะติดลบเงินในเกมส์ ถ้าติดเยอะ ๆ บริษัทก็อาจจะฟ้องร้องค่าเสียหายพวกนี้กับพวกคุณพี่ข้างนอกเกมส์ เพราะนี้เป็นสัญญาที่ผู้เล่นทุกคนทำไว้กับบริษัท ว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายของผู้เล่นในทุกกรณี"

    พวกโจรทั้ง 5 ถึงกับหน้าซีด เป็นเอกจึงรีบอธิบายต่อทันที

    "นอกจากคนที่ฆ่าพวกพี่จะได้เงินจำนวนมากแล้ว ยังได้คะแนนภารกิจอีกมากด้วย ถ้าพวกคุณพี่เสียคะแนนภารกิจจนติดลบ ก็จะทำให้พวกคุณพี่เสียโอกาสทางอาชีพ หรือการเงิน หรืออื่น ๆ"

    เป็นเอกมองหน้าพวกโจร แล้วจึงพูดต่อ

    "อีกอย่าง ถึงพวกพี่จะฆ่าผมไปพี่ก็ไม่ได้อะไร นอกจากชุดขาด ๆ กับเงินอีกเล็กน้อย ส่วนรถเข็นนั่นมันเป็นของภารกิจ ไม่มีใครเอาไปได้อยู่แล้ว อย่างมากผมก็แค่ตายรออีกชั่วโมงค่อยมาเอารถเข็นไปส่งภารกิจก็แค่นั้น แต่กับพวกคุณพี่อาจจะโดนลงโทษจากทางระบบก็ได้ โทษฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่"

    เป็นเอกเห็นพวกโจรหน้าซีดด้วยความกลัว จึงค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ปัดฝุ่นจากร่างเล็กน้อย

    "ผมไม่รู้ว่าพวกคุณพี่คิดยังไงถึงได้เข้ามาปล้นในเมือง แต่ขอเตือนไว้หน่อยก็แล้วกัน ว่าเกมส์นี้ถึงจะให้อิสระกับผู้เล่น แต่มันก็มีกฎ กฎที่ว่าผู้ที่การโจมตีผู้เล่นคนอื่นก่อน การปล้นของผู้เล่น การสังหารผู้เล่น จะต้องติดตัวแดง ซึ่งตอนนี้หลอดเลือดบนหัวของทุกท่านก็ติดตัวแดงเรียบร้อยแล้ว คงจัดการคนไปไม่น้อย ถ้าพวกคุณพี่โดนฆ่าเมื่อไร พวกคุณพี่จะต้องไปรับโทษในนรก แน่นอนว่าผมก็ไม่รู้หรอกว่านรกมันเป็นยังไง แต่ผมคิดว่ามันคงไม่น่าไปนัก ถ้าพวกคุณพี่รักที่จะเป็นโจรก็ช่วยออกไปเป็นนอกเมือง อีกอย่างควรจะหาพักพวกเยอะ ๆ เอาไว้ขู่ผู้เล่นด้วย เพราะตอนนี้เลเวลของผู้เล่นมันไม่ห่างกันนัก พวกพี่อาจจะโดนรุมกระทืบตายเมื่อไรก็ได้ ดูรอบ ๆ สิ พวกนี้เขามารอให้พวกคุณพี่ฆ่าผู้เล่นเยอะ ๆ จากนั้นก็จะได้ฆ่าพวกคุณเพื่อเอาเงิน เอาคะแนน ช่างเป็นงานที่ง่ายจริง ๆ เลย"

    พวกโจรมองหน้ากัน จากนั้นก็รีบวิ่งหนีทันที คนที่มุ่งอยู่รีบวิ่งตามโจรไปทันที

    เป็นเอกกลับไม่สนใจพวกโจรที่วิ่งเผ่นไป เขาเดินไปที่รถเข็น ยกเข่งที่เป็นของร้านอาหารลง และยกเข้าไปในร้านทันที

    "ผมเอาของมาส่งครับ" เป็นเอกยกเข่งเดินเข้าไปในร้าน

    เถ้าแก่ร้านอาหารเดินออกมารับของ จากนั้นก็ให้ ข้าวกล่องเป็นเอกมา 10 กล่องเป็นค่าตอบแทน

    หลังจากได้รับของมาเรียบร้อยแล้ว เป็นเอกจึงกล่าวขอบคุณจากนั้นก็เตรียมจะเดินออกจากร้านเพื่อไปร้านอื่นต่อ

    "น้องชาย หยุดคุยกันหน่อยสิ" ชายหนุ่มอายุ 23-24 ใส่ชุดเกราะตัวใหญ่สีดำ สะพายดาบเล่มโต ดูท่าทางน่าเกรงขาม หน้าตาคมเข้ม

    "พี่ชายมีอะไรกับผมหรือเปล่า" เป็นเอกถามพร้อมกับมองประเมินอีกฝ่าย

    "ฮ่า ๆ เอาเป็นว่าพี่จะเลี้ยงอาหารเราก่อน แล้วค่อยคุยกันหลังจากกินเสร็จ สนไหม"

    "ถ้าพี่เลี้ยงผมก็ยินดี"

    ชายคนนั้นนำเป็นเอกไปนั่ง พร้อมกับสั่งก๊วยเตี๊ยวมาให้เป็นเอก และตัวเอง หลังจากกินเสร็จชายคนนั้นก็แนะนำตัวเองทันที

    "พี่ชื่อ มาคัส หัวหน้ากิลล์เซรอส ไม่รู้ว่าน้องเคยได้ยินหรือเปล่า"

    "อือ" เป็นเอกหยุดคิด เพราะชื่อกิลล์เซรอสเนี่ยเหมือนเคยได้ยินมาก่อน จากนั้นก็นึกออก

    "อ้อ กิลล์ของพวกนักดาบ อัศวิน พวกนั้นใช่ปะ ได้ยินว่าเป็นกิลล์ใหญ่กิลล์นึงตอนนี้เลยนี่น่า"

    "ฮ่า ๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ว่าแต่พี่อยากชวนเราเข้ากิลล์ของพี่ น้องสนใจหรือเปล่า"

    เป็นเอกตกตะลึงที่อีกฝ่ายชวนเขา เพราะดูยังไงเขาก็เป็นแค่ไอ้กระจอกคนนึง ที่ยังไม่มีอาชีพด้วยซ้ำไป

    "เอ่อ พี่พูดผิดพูดใหม่ได้นะครับ"

    มาคัสมองเป็นเอกอย่างจริงจัง จนเป็นเอกถึงกับกลับว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไรกับตัวเองหรือเปล่า

    "พี่พูดจริงนะ พี่ถูกใจที่เรารับมือกับพวกโจรโดยไม่กลัวแม้แต่น้อย พี่คิดว่าเรามีความสามารถ พี่อยากให้เอกมาเข้ากิลล์พี่"

    เป็นเอกมองอีกฝ่าย เห็นว่าอีกฝ่ายพูดจริง จึงรีบปฏิเสธทันที

    "ขอโทษครับพี่ ผมคงไม่เข้าร่วมกับพี่หรอกครับ ผมไม่คิดที่จะไปสู้กับใคร ผมก็แค่ทำภารกิจเพื่อเก็บคะแนนเรียนก็เท่านั้น อีกอย่างที่พี่บอกว่าผมรับมือกับพวกโจรโดยไม่กลัว ผมว่าพี่คงจะคิดผิดไปหน่อยนะครับ อันที่จริงผมก็กลัวเจ็บเหมือนกัน ถึงในเกมส์นี้มันจะมีความเจ็บปวดแค่ 1 ใน 5 แต่การตายก็ไม่ใช่รสชาติที่น่าลองเท่าไร ที่ผมไม่กลัวก็เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ตายจริง ๆ คนในเกมส์ส่วนใหญ่ที่ออกไปฆ่าฟันกันด้านนอกก็ต้องรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นแค่เกมส์ไม่ได้ตายจริง ถึงได้บ้าบอกันได้ขนาดนี้ ถ้าลองเป็นด้านนอนผมโดนโจรขู่แบบนี้ผมจะรีบถอดทุกอย่างที่โจรอยากได้ให้ไปเลย แต่พอคิดว่ามันเป็นแค่เกมส์ ถึงตายก็เริ่มใหม่ได้ จึงไม่ได้กลัวมากนัก พี่จึงเห็นว่าผมไม่ค่อยกลัวพวกโจร"

    มาคัสมองเป็นเอกด้วยความเสียดาย เพราะเขามองเห็นความสามารถในตัวของเป็นเอกที่คนอื่นไม่เห็น

    "น่าเสียดายที่เราไม่เข้าร่วมกับกิลล์ของพี่ แต่ถ้าเอกอยากเข้ากิลล์พี่เมื่อไร พี่ก็พร้อมต้อนรับทุกเมื่อ"

    "ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปทำภารกิจก่อนก็แล้วกัน" เป็นเอกลุกขึ้นทันที

    "เดี๋ยวก่อน" มาคัสรีบลุกแล้วจับบ่าเป็นเอกไว้ จากนั้นก็รีบพูดกับเป็นเอก "เอกพอจะบอกได้หรือเปล่าว่าทำภารกิจอะไรอยู่ เพื่อพี่จะได้ไปรับบ้าง"

    มาคัสสอบถามเป็นเอกเพื่อประเมินว่าเป็นเอกเป็นคนยังไง หรือมีความลับอะไรหรือเปล่า เพราะความลับอาชีพในเกมส์นี้มันเป็นสิ่งที่ต้องไปทำภารกิจ หรือหากันเอาเอง เมื่อเห็นคนทำภารกิจแปลก ๆ ก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่าอีกฝ่ายอาจจะทำภารกิจอาชีพลับอะไรซักอย่าง

    "อ้อ พี่อยากรู้ก็น่าจะรีบบอก อันนี้เป็นภารกิจต่อเนืองของภารกิจทำนาครับ พี่ลองไปทำดูสิสนุกนะ ได้เรียนรู้การทำนา ทำสวน จับปลา  เสียแต่ได้เงินน้อยไปหน่อย ดีที่มีกระท่อมให้อยู่ฟรีไม่งั้นคงแย่"

    พอมาคัสได้ยินว่าอีกฝ่ายทำภารกิจอาชีพทำนา ก็ทำหน้าสงสัยทันที แต่พอเห็นชุดอีกฝ่ายก็เชื่อทันที

    "ภารกิจทำนานี่เอง ไม่คิดว่าจะมีคนไปทำนะเนี่ย"

    (เดี๋ยวต้องส่งลูกน้องไปลองทำดูเผื่อจะมีภารกิจลับอะไรซ่อนอยู่) มาคัสคิด แน่นอนว่าหลังจากนั้นมาคัสก็ส่งลูกน้องไปทำภารกิจหลายคน แต่พอรับภารกิจทำนาก็ขอบายกันหมดเพราะมันน่าเบื่อและไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลังจากนั้นมาคัสก็ไม่สนใจเควสทำนาอีกเลย

    หลังจากเป็นเอกลามาคัสเรียบร้อย ก็ไปส่งของที่ ร้านขายของ ได้ของตอบแทนเป็นชุดเซ็ตปลอมตัวเป็นผู้เล่นมือใหม่

    จากนั้นก็ไปร้านสมุนไพร ได้รับของตอบแทนเป็น ยาเพิ่มเลือดระดับกลาง 20 ขวด ยาเพิ่ม mp ขนาดกลาง 20 ขวด

    พอเย็นเป็นเอกก็มาถึงที่สุดท้ายคือโรงแรม ซึ่งได้บัตรพักฟรี 5 วัน เป็นเอกจึงได้ใช้ทันที เพราะตอนนี้เย็นมากแล้ว เป็นเอกจึงได้พักที่โรงแรมทันที













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×