ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วิธีการทำนา
"ไอ้เอก!"
"ไอ้เอก!"
"ไอ้แว่นโว้ย!!"
"หา อะไรหรือครับ" เป็นเอก ชายหนุ่มอายุ 16 ผมสั้นสีดำ รูปร่างผอม เล็ก หน้าตาเชยๆ ใส่แว่นตาเชย ๆ ทึบจนมองไม่เห็นหน้า เรียกว่าเป็นเด็กที่เชยสุด ๆ ก็ว่าได้ เพราะการแต่งตัวของคนอื่นจัดกันแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หน้าผม เปลี่ยนสีกันสุดฤทธิ์ เพราะอยู่ในเกมส์ทำให้ทุกคนไม่สนใจ แหกกฎระเบียบโรงเรียนกันเต็มที่ ส่วนเป็นเอกกลับแต่งตัวเหมือนเดิมที่เคยไปโรงเรียน ทำให้เขาที่ดูเชยอยู่แล้ว ยิ่งเชยเข้าไปอีก
"พวกเราทั้งชั้น ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับพี่ต้น ม. 6 เพื่อสร้างกิลล์ และยึดเมืองสร้างเมือง แล้วแก่จะเอายังไงว่ะ"
เป็นเอกกลับมีสีหน้าลำบากใจ เพราะเขาเองไม่ได้คิดที่จะไปสู้กับใครเลยแม้แต่น้อย เพราะเขามีนิสัยไม่สู้คน หรือจะเรียกว่าแหย ก็ได้
"เห้ย พวกมึงจะไปชวนไอ้แว่นทำไมว่ะ เอาไอ้หมอนี่ไปด้วย ก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วงเปล่า ๆ กูว่าหาทางไปช่วย ยูกิ ดีกว่า เพราะเธอเองก็ต้องเล่นเกมส์นี้เหมือนกัน"
"ไอ้บ้า มึงคิดว่าระดับไอดอล นักร้อง พรีเซนเตอร์ แถมยังเป็นลูกสาวของประธานบริษัท อกาซึกิ จะมาเล่นเกมส์ทำไมว่ะ อย่ามองเครื่องบินให้มากนักเลย"
"เออ กูโง่เอง เอาเป็นว่าพวกเรารีบเข้าเกมส์กันดีกว่า อย่ามาเสียเวลาเลย มึงรู้หรือเปล่า พี่ต้น เขาบอกว่าคนที่ทำผลงานได้ดี จะได้เป็นรองหัวหน้ากิลล์ และได้รับเงินเดือนไม่น้อยด้วยนะโว้ย ถ้าเราติดตามพี่เขาจะต้องได้ดีแน่"
"เออ ๆ ไปก็ไป"
หลังจากที่พูดจบ กลุ่มนักเรียนชายและหญิงในห้องทั้งหมด ก็เข้าเกมส์กันไปทันที แน่นอนว่าพวกอาจารย์เองก็ต้องไปสอนนักเรียนคนอื่นต่อ เป็นเอกกลับรีบออกจากเกมส์ทันที เพราะตอนนี้เท่ากับเวลา 7 โมงข้างนอก เป็นเวลาที่แม่ของเป็นเอกกำลังเตรียมเปิดร้านขายขนมปังอยู่ เข้าจึงต้องรีบไปช่วย
------------------------------------------------------
เป็นเอกออกจากเกมส์ เปิดแคปซูล จากนั้นก็ลงมาช่วยแม่เปิดร้าน เตรียมของ จากนั้นก็มานั่งกินข้าวช้าวกับแม่
"เอก การเรียนเป็นไงบ้าง ความจริงลูกไม่เห็นต้องมาช่วยแม่เปิดร้านเลยก็ได้ เพราะยังไงแม่ก็ทำคนเดียวเป็นประจำอยู่แล้ว"
"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ เวลาเรียนมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ก็เวลามันเพิ่มเป็น 6 เท่า เดี๋ยวผมช่วยแม่ถึง 11 โมง แล้วค่อยเข้าไปทำงานต่อก็ได้ครับ"
"แต่แม่อยากให้ลูกได้เล่นสนุกเหมือนกับคนอื่น ๆ มากกว่านะ"
"แต่ผมอยู่แบบนี้ก็สนุกดีนี่ครับ น่าเสียดายที่ฝีมือการทำอาหารของผมมันห่วยมาก ไม่งั้นคงช่วยแม่ได้มากกว่านี้ ผมจะลองไปฝึกการทำอาหารในโลกของเกมส์ก็แล้วกัน ไม่แน่อาจจะหาสูตรขนมปัง หรือ เค้ก แบบใหม่ ๆ มาให้แม่ลองทำดูก็ได้นะครับ เพราะในเกมส์มันร่วมอาชีพไว้หลากหลายมาก"
"ขอบใจจ๊ะเอก เอาเป็นว่าตอนนี้เกินข้าวกันก่อนดีกว่านะ"
หลังจากเอกกับแม่กินข้าวกันเสร็จแล้ว ก็จัดการเก็บล้าง จากนั้นก็เปิดร้านขายขนมปัง แม้จะไม่ได้ขายดีซักเท่าไร แต่ก็พอที่จะเลี้ยงตัวเองให้รอดได้ไม่ยากนัก
หลังจากหมดช่วงยุ่งตอนเช้าแล้ว เป็นเอกก็กินขนมปังเข้าไป 2 ก้อน จากนั้นก็เข้าเกมส์เพื่อที่จะได้ เก็บภารกิจเพื่อคะแนน เพราะเขาไม่คิดที่จะออกไปสู้กับใครอยู่แล้ว
------------------------------------------------------------
หลังจากเป็นเอกเข้ามาในเกมส์ ก็ต้องตกตะลึง เพราะความกว้างใหญ่ของเมืองนี้ แต่ที่น่าตกใจกว่า ก็คือ มีผู้เล่นเดินเต็มเมืองไปหมด ซึ่งมันก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะนักเรียนเกือบทั้งภาคกลางได้เขามาอยู่ในโลกนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยทีเดียว
เป็นเอกไม่กล้าคิดเลยว่าขนาดในเมืองยังขนาดนี้ ภายนอกคงจะเต็มไปด้วยคนที่แย่งกันเก็บเลเวลเป็นแน่
เป็นเอกจึงได้รีบเดินไปที่อาคารรับภารกิจ เพื่อจะได้รับเควสอาชีพเพื่อจะได้เก็บคะแนน
แน่นอนว่าเขาไม่คิดที่จะออกไปสู้ หรือไปแย่งเก็บเลเวลกับคนอื่น เพราะมันดูยุ่งวุ่นวายเกินไป
เป็นเอกเปิดแผนที่เมืองเริ่มต้นดู เพื่อหาอาคารภารกิจ จากนั้นก็เดินไปอาคารภารกิจทันที ระหว่างที่เดินไปก็มีคนหลายกลุ่มมาชวนให้ตั้งกิลล์ หลายกลุ่ม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเรียนโรงเรียนอื่น แน่นอนว่าแต่ละโรงเรียนจะตั้งกิลล์ของตัวเองอย่างน้อย 1 กิลล์ แต่ก็มีพวกที่อยากจะสร้างตำนานของตัวเอง พวกนี้ก็จะออกมาสร้างกิลล์และหารวมผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน แน่นอนว่าเป็นเอกได้ปฎิเสธไปทั้งหมด เพราะเขาไม่คิดที่จะออกไปต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ต้องฝ่าฝูงชนจำนวนมาก ก็มาถึงอาคารรับภารกิจจนได้ พอเป็นเอกเข้าไปก็เห็นผู้เล่นหลายคนที่รอต่อคิวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนอาชีพ การล่ามอสเตอร์ การเก็บไอเท็ม แม้แต่การรับภารกิจอาชีพ ก็มีผู้เข้าแถวเป็นจำนวนมาก เป็นเอกก็ไปรอต่อแถว แต่กว่าจะมาถึงคิวเป็นเอกก็ต้องรอกว่าหนึ่งชั่วโมง
"เชิญเอามือขวาเตะที่เครื่องแสกนลายมือได้เลยค่ะ" พนักงานสาวบอกกับเป็นเอกด้วยน้ำเสียเบื่อหน่าย
ซึ่งเป็นเอกก็พอเข้าใจ เพราะไม่ว่าใครต้องมาพูดแบบเดียวกันกับคนเป็นพันก็คงจะเบื่อเหมือนกันหมด แต่ทำไมถึงไม่ใช้ระบบตอบรับอัตโนมัติละเนี่ย เป็นเอกคิด พร้อมกับเอามือขวาวางลงบนเครื่องแสกน
พอเป็นเอกวางมือแสกนเรียบร้อยแล้ว ก็มีหน้าต่างขึ้นตรงหน้าเป็นเอกทันที ในนี้กลับมีภารกิจอาชีพ หลากหลายจนเป็นเอกดูยังตาลายเลย
"เชิญเลือกภารกิจที่ต้องการ ดูรายละเอียด จากนั้นก็ไปรับได้ที่ ที่ระบุเลยค่ะ สามารถเลือกเป็นหมวดหมู่ได้นะค่ะ เพื่อสะดวกในการหาภารกิจ แค่คิดว่าต้องการภารกิจแบบไหน หรือแยกภารกิจยังไงก็พอค่ะ"
เป็นเอกเลือกดูภารกิจ ที่คนทำมากที่สุดก่อน เพราะอยากรู้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ทำภารกิจอะไรบ้าง
ภารกิจเรียงตามลำดับ
1 ปรุงยา 2432 คน
2 ช่างเหล็ก 2123 คน
3 นักดาบ 2039 คน
4 นักเวทย์ 1872 คน
5 นักธนู 1428 คน
6 โจร 1221 คน
7 เลี้ยง ฝึกสัตว์ 1001 คน
8 พ่อค้า 742 คน
9 ทำอาหาร 534 คน
10 เสื้อผ้า 532 คน
ฯลฯ
(อ้าว ไม่ใช่ว่าอาชีพจะขึ้นกับทักษะที่ได้หรอกเหรอ ทำไมถึงมีการฝึกเป็น นักดาบ นักเวทย์ ด้วยละเนี่ย) เป็นเอกคิดขณะไล่รายชื่อต่าง ๆ
แน่นอนว่าภารกิจพวกนี้เป็นเอกยังไม่คิดจะทำแน่นอน เพราะมันคนเยอะ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งวุ่นวาย เป็นเอกจึงเปลี่ยนเป็นภารกิจที่ไม่มีคนทำ เพื่อจะดูว่าจะไปทำภารกิจอันไหนดี
ภารกิจไม่เรียงตามลำดับ
ขอทาน
ทำนา
ปลูกผัก
ขุดท่อ
ล้างห้องน้ำ
ล้างท่อ
เด็กวัด
ฯลฯ
เป็นเอกดูแล้วเกิดความสงสัยทันที ไอ้อาชีพ ขอทาน ล้างท่อ เด็กวัด และอาชีพอีกหลาย ๆ อย่างไม่รู้มันจะมีไว้ทำไม
แน่นอนว่าอาชีพพวกนี้เป็นอาชีพที่คนไม่คิดจะทำกันแน่นอน เป็นเอกจึงได้เลือกอาชีพ ทำนาก่อน เพราะว่ามันดูเป็นอาชีพที่เป็นไทยดี และอีกอย่างคือพอเสร็จแล้วจะได้ทำภารกิจปลูกผัก ทำไร่ ทำสวน และอีกหลายภารกิจที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน จะได้ไม่เสียเวลา
พอเป็นเอกดูภารกิจเรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากอาคารภารกิจ จากนั้นก็เปิดดูแผนที่
ในที่สุดเขาก็มาถึงสถานที่รับภารกิจสักที แน่นอนว่าเขาเห็นทุ่งข้าว สวน ไร่ แปลงปลูกผัก มีวัว ควาย และไก่ เดินอยู่บนทุ่งหญ้า เป็นเอกพบเห็นแล้วรู้สึกว่าแปลกใหม่ดีมาก เพราะในสมัยนี้การที่จะได้เห็นต้นไม้มากมายแบบนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้แปลงนาข้าวแบบนี้ก็ไม่มีแล้ว เพราะกลายเป็นทำนาในโรงเพาะ ใช้เครื่องจักรในการปลูกหมดแล้ว
เป็นเอกรีบเดินไปที่กระท่อมปลายนา อันเป็นที่รับภารกิจทันที
ป๊อก! ๆ
เป็นเอกเคาะประตูเพื่อเรียก npc ที่ให้ภารกิจ ซักพักก็มีคนเปิดประตูออกมา เป็นชายวัยกลางคน สูง 180 กว่า ๆ รูปร่างแข็งแรง กลามเป็นมัด หน้าตาดุ ๆ เหมือนนักเลงสมัยโบราณ
"มีอะไร" ชายคนนั้นถามเป็นเอกด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่เป็นเอกกลับรู้สึกเหมือนโดนขู่ยังไงก็ไม่รู้
เป็นเอกสูดหายใจเล็กน้อยเพื่อให้ใจเย็นขึ้น ค่อยตอบชายคนนั้นไป "ผมมาเพื่อรับภารกิจครับ"
ชายคนนั่นนึ่งไปซักพัก จากนั้นก็เดินวนรอบเป็นเอก มองรูปร่างของเป็นเอก ทำให้เป็นเอกรู้สึกเสียวไส้
"ไหนลองพูดอีกทีสิ" ชายคนนั้นบอกกับเป็นเอกอีกครั้ง ด้วยสีหน้าครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง
"ผมมารับภารกิจทำนา และ ภารกิจอื่น ๆ ที่ตรงนี้เปิดให้ทำครับ" เป็นเอกทำใจดีสู้เสือ บอกออกไปอย่างมั่นใจ เพราะเขารู้ว่าคน ๆ นี้จะต้องเป็นครูจากโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งแน่นอน เพราะ npc ส่วนใหญ่ในเกมส์จะเป็นครูที่เข้ามารับงานสอน อีกส่วนก็จะเป็นพนักงานบริษัทแต่ก็นับเป็นส่วนน้อย
"ฮ่า ๆๆๆ" ชายคนนั้นหัวเราะเสียงดัง จนเป็นเอกต้องมองว่ามีอะไรหน้าหัวเราะด้วยหรือไง
ชายคนนั้นหัวเราะ พร้อมกับเอามือมาตีบ่าเป็นเอกเบา ๆ แต่เป็นเอกกลับรู้สึกเจ็บมาก เพราะแรงของชายคนนั้นเยอะจริง ๆ
"ฮ่า ๆ ลุงชื่อทองพูล เป็น npc ประจำสวนแห่งนี้ รวมกับเพื่อนอาจารย์ที่ขัดมาอีก 3 คนสลับกัน แต่หน้าฉากจะเป็นแบบเดียวกันหมด ชื่อทองพูลก็เป็นชื่อที่ระบบกำหนด เพราะเราจะให้พวกนักเรียนรู้ชื่อจริงไม่ได้ ว่าแต่เราชื่อในเกมส์ว่าอะไรละ"
"ผมชื่อ เป็นเอก ครับ"
"โห ชื่อธรรมดามากเลยนี่น่า เอาละในเมื่อจะรับภารกิจ ทำนา ก็เอาหนังสือนี่ไปศึกษาก็แล้วกัน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาลงมือกันต่อ เพราะฟ้าเริ่มมืดแล้ว ไปกันข้าวกันก่อน เดี๋ยวลุงเลี้ยงเอง"
"ขอบคุณครับ" เป็นเอกยกมือไหว้ขอบคุณ จากนั้นก็รับหนังสือ เกี่ยวกับการทำนามา จากนั้นก็เข้าไปกินข้าวกับลุงทองพูล"
หลังจากกินข้าวเสร็จ ลุงทองพูลก็เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังมากมาย แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเกมส์ เพราะทางบริษัทสั่งห้ามไว้เด็ดขาด ไม่ให้พนักงานหรืออาจารย์ทุกคน ให้ข้อมูลที่เกินหน้าที่ของตัวเอง เพื่อความยุติธรรมในเกมส์
เรื่องที่ลุงทองพูลเล่าจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีต ในสมัยที่ลุงยังเด็กมีพื้นที่เพาะปลูก มีต้มไม้มากมายและความอดยากที่ได้รับจากภัยพิบัติน้ำท่วม
ซึ่งเป็นเอกก็ฟังด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ฟังลุงทองพูลเล่าเรื่องต่าง ๆ มากมายเสร็จ ลุงทองพูลก็ให้เป็นเอกไปนอนในห้อง แม้กระท่อมจะมีอยู่แค่ห้องเดียวก็ตาม แม้เป็นเอกจะไม่ยินยอม แต่ก็ไม่สามารถขัดได้ จึงได้แต่จำยอมเข้าไปนอนในห้อง
จากนั้นเป็นเอกก็เอาหนังสือเกี่ยวกับการทำนาออกมาอ่านดู เพื่อที่จะได้เรียนรู้ก่อนทำงานจริง
การทำนามีหลักสำคัญ คือ
การเตรียมดิน
ก่อนการทำนาจะมีการเตรียมดินอยู่ 3 ขั้นตอน
1. การไถดะ เป็นการไถครั้งแรกตามแนวยาวของพื้นที่กระทงนา (กรณีที่แปลงนาเป็นกระทงย่อยๆ หลายกระทงในหนึ่งแปลงนา) เมื่อไถดะจะช่วยพลิกดินเพื่อให้ดินชั้นล่างได้ขึ้นมาสัมผัสอากาศ ออกซิเจน และเป็นการตากดินเพื่อทำลายวัชพืช โรคพืชบางชนิด การไถดะจะเริ่มทำเมื่อฝนตกครั้งแรกในปีฤดูกาลใหม่ หลังจากไถดะจะตากดินเอาไว้ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
ที่มา http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=589
2. การไถแปร หลังจากที่ตากดินเอาไว้พอสมควรแล้ว การไถแปรจะช่วยพลิกดินที่กลบเอาขึ้นการอีกครั้ง เพื่อทำลายวัชพืชที่ขึ้นใหม่ และเป็นการย่อยดินให้มีขนาดเล็กลง จำนวนครั้งของการไถแปรจึงขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของวัชพืช ลักษณะดินและระดับน้ำ ในพื้นที่ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนด้วย แต่โดยทั่วไปแล้วจะไถแปรเพียงครั้งเดียว
3. การคราด เพื่อเอาเศษวัชพืชออกจากกระทงนา และย่อยดินให้มีขนาดเล็กลงอีก จนเหมาะแก่การเจริญของข้าว ทั้งยังเป็นการปรับระดับพื้นที่ให้มีความสม่ำเสมอ เพื่อสะดวกในการควบคุม ดูแลการให้น้ำ
ที่มา http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=589
การปลูก
การปลูก ข้าวสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธี คือ การปลูกด้วยเมล็ดโดยตรง ได้แก่ การทำนาหยอดและนาหว่าน และ การเพาะเมล็ดในที่หนึ่งก่อน แล้วนำต้นอ่อนไปปลูกในที่อื่นๆ ได้แก่ การทำนาดำ
การทำนาหยอด
การทำนาหยอด เป็นวิธีการปลูกข้าวที่อาศัยน้ำฝน หยอดเมล็ดข้าวแห้ง ลงไปในดินเป็นหลุมๆ หรือโรยเป็นแถวแล้วกลบฝังเมล็ดข้าว เมื่อฝนตกลงมาดินมีความชื้นพอเหมาะ เมล็ดก็จะงอกเป็นต้น นิยมทำในพื้นที่ข้าวไร่ หรือนาในเขตที่การกระจายของฝนไม่แน่นอน แบ่งเป็น 2 สภาพ ได้แก่
- นาหยอดในสภาพข้าวไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่มักเป็นที่ลาดชัน เช่น ที่เชิงเขาเป็นต้น ปริมาณน้ำฝนไม่แน่นอน สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเตรียมดินได้ จึงจำเป็นต้องหยอดข้าวเป็นหลุม
- นาหยอดในสภาพที่ราบสูง เช่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเชิงเขาหรือหุบเขา การหยอดอาจหยอดเป็นหลุมหรือใช้เครื่องมือหยอด หรือโรยเป็นแถวแล้วคราดกลบ นาหยอดในสภาพนี้ให้ผลผลิตสูงกว่านาหยอดในสภาพไร่มาก
การหว่านข้าวแห้ง
แบ่งตามช่วงระยะเวลาของการหว่านได้ 3 วิธี คือ
การหว่านหลังขี้ไถ ใช้ในกรณีที่ฝนมาล่าช้าและตกชุก มีเวลาเตรียมดินน้อย จึงมีการไถดะเพียงครั้งเดียวและไถแปรอีกครั้งหนึ่ง แล้วหว่านเมล็ดข้าวลงหลังขี้ไถ เมล็ดพันธุ์อาจเสียหายเพราะหนู และอาจมีวัชพืชในแปลงนามาก
การหว่านคราดกลบ เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด จะทำหลังจากที่ไถแปรครั้งสุดท้ายแล้วคราดกลบ จะได้ต้นข้าวที่งอกสม่ำเสมอ
การหว่านไถกลบ มักทำเมื่อถึงระยะเวลาที่ต้องหว่าน แต่ฝนยังไม่ตกและดินมีความชื้นพอควร หว่านเมล็ดข้าวหลังขี้ไถแล้วไถแปรอีกครั้ง เมล็ดข้าวที่หว่านจะอยู่ลึกและเริ่มงอกโดยอาศัยความชื้นในดิน
การหว่านข้าวงอก (หว่านน้ำตม) เป็นการหว่านเมล็ดข้าวที่ถูกเพาะให้รากงอกก่อนที่จะนำไปหว่านในที่ที่มีน้ำ ท่วมขัง เพราะหากไม่เพาะเมล็ดเสียก่อน เมื่อหว่านแล้วเมล็ดข้าวอาจเน่าเสียได้ การเพาะข้าวทอดกล้า ทำโดยการเอาเมล็ดข้าวใส่กระบุง ไปแช่น้ำเพื่อให้เมล็ดที่มีน้ำหนักเบาหรือลีบลอยขึ้นมาแล้วคัดทิ้ง แล้วนำเมล็ดถ่ายลงในกระบุงที่มีหญ้าแห้งกรุไว้ หมั่นรดน้ำเรื่อยไป อย่าให้ข้าวแตกหน่อ แล้วนำไปหว่านในที่นาที่เตรียมดินไว้แล้ว วิธีการการปลูกข้าวโดยการหว่านข้าวแห้งหรือหว่านสำรวย
การใส่ปุ๋ย ข้าวที่ปลูกในช่วงฝนแล้ง เป็นการปลูกข้าวล่าช้ากว่าฤดูกาลมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใส่ปุ๋ยช่วยเร ่งให้ต้นข้าวมีการเจริญเติบโตได้เต็มที่ จึงจะทำให้ได้ผลผลิตสูงใกล้เคียงกับการทำนาดำตามฤดูกาลปกติ
การใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1
ในพื้นที่ ดินเหนียวให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0, 18-22-0 หรือ 20-20-0 สูตรใดสูตรหนึ่งในอัตราไร่ละ 25 กก. ในดินทรายให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ในอัตราไร่ ละ 25 กก. โดยใส่ปุ๋ยหลังจากข้าวงอกแล้ว 5-6 วัน
การใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2
ให้ใส่ปุ๋ย หลังจากข้าวงอกแล้ว 40-45 วัน โดยใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต หรือแอมฮมเนียมคลอไรด์ ไร่ละ 25-30 กก. หรือปุ๋ยยูเรีย ไร่ละ 10-15 กก. ในการใส่ปุ๋ยควรจะคำนึงถึงว่าดินจะต้องเปียกแฉะหรือมีน้ำขังไม่ควรเกิน 20 เซ็นติเมตร ถ้าหากดินแห้งหรือระดับน้ำมาก กว่านี้ ให้เลื่อนการใส่ปุ๋ยออกไปมิฉะนั้นจะทำให้การใช้ปุ๋ยไม่มีประสิทธิภาพ เกิดการสูญเสียปุ๋ย ทำให้ต้นข้าวได้รับปุ๋ย ไม่พอเพียง ผลผลิตจะต่ำ
การทำนาดำ
เป็นการปลูกข้าวโดย เพาะเมล็ดให้งอกและเจริญเติบโตในระยะหนึ่ง แล้วย้ายไปปลูกในที่หนึ่ง สามารถควบคุมระดับน้ำ วัชพืชได้ การทำนาดำแบ่งได้เป็น 2 ขั้นตอน คือ
การตกกล้า เพาะเมล็ดข้าวเปลือกให้มีรากงอกยาว 3 - 5 มิลลิเมตร นำไปหว่านในแปลงกล้า ช่วงระยะ 7 วันแรก ต้องควบคุมน้ำไม่ให้ท่วมแปลงกล้า และจะสามารถถอนกล้าไปปักดำได้เมื่อมีอายุประมาณ 20 - 30 วัน
การปักดำ ชาวนาจะนำกล้าที่ถอนแล้วไปปักดำในแปลงปักดำ ระยะห่างระหว่างกล้าแต่ละหลุมจะมีความแตกต่างกันขึ้นกับลักษณะของดิน คือ ถ้าเป็นนาลุ่มปักดำระยะห่าง เพราะข้าวจะแตกกอใหญ่ แต่ถ้าเป็นนาดอนปักดำค่อนข้างถี่ เพราะข้าวจะไม่ค่อยแตกกอ
การเก็บเกี่ยว
หลังจากที่ข้าวออก ดอกหรือออกรวงประมาณ 20 วัน ชาวนาจะเร่งระบายน้ำออก เพื่อเป็นการเร่งให้ข้าวสุกพร้อมๆ กัน และทำให้เมล็ดมีความชื้นไม่สูงเกินไป จะสามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจากระบายน้ำออกประมาณ 10 วัน ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเก็บเกี่ยว เรียกว่า ระยะพลับพลึง คือสังเกตที่ปลายรวงจะมีสีเหลือง กลางรวงเป็นสีตองอ่อน การเก็บเกี่ยวในระยะนี้จะได้เมล็ดข้าวที่มีความแข็งแกร่ง มีน้ำหนัก และมีคุณภาพในการสี
การนวดข้าว
หลังจากตากข้าว ชาวนาจะขนเข้ามาในลานนวด จากนั้นก็นวดเอาเมล็ดข้าวออกจากรวง บางแห่งใช้แรงงานคน บางแห่งใช้ควายหรือวัวย่ำ แต่ปัจจุบันมีการใช้เครื่องนวดข้าวมาช่วยในการนวด
หลังจากเป็นเอกอ่านหมด ก็รู้สึกทึ่งในความสามารถของคนรุ่นก่อน ที่สามารถทำงานขนาดนี้เพื่อให้คนไทยได้มีข้าวกิน เขารู้สึกเคารพบรรพบุรุษเป็นอย่างมากทีเดียว หลังจากที่อ่านทำความเข้าใจทั้งหมด เป็นเอกก็นอนพักเพื่อที่จะได้มีแรงเอาไว้ทำงานในวันพรุ่งนี้
----------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2
"ไอ้เอก!"
"ไอ้แว่นโว้ย!!"
"หา อะไรหรือครับ" เป็นเอก ชายหนุ่มอายุ 16 ผมสั้นสีดำ รูปร่างผอม เล็ก หน้าตาเชยๆ ใส่แว่นตาเชย ๆ ทึบจนมองไม่เห็นหน้า เรียกว่าเป็นเด็กที่เชยสุด ๆ ก็ว่าได้ เพราะการแต่งตัวของคนอื่นจัดกันแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หน้าผม เปลี่ยนสีกันสุดฤทธิ์ เพราะอยู่ในเกมส์ทำให้ทุกคนไม่สนใจ แหกกฎระเบียบโรงเรียนกันเต็มที่ ส่วนเป็นเอกกลับแต่งตัวเหมือนเดิมที่เคยไปโรงเรียน ทำให้เขาที่ดูเชยอยู่แล้ว ยิ่งเชยเข้าไปอีก
"พวกเราทั้งชั้น ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับพี่ต้น ม. 6 เพื่อสร้างกิลล์ และยึดเมืองสร้างเมือง แล้วแก่จะเอายังไงว่ะ"
เป็นเอกกลับมีสีหน้าลำบากใจ เพราะเขาเองไม่ได้คิดที่จะไปสู้กับใครเลยแม้แต่น้อย เพราะเขามีนิสัยไม่สู้คน หรือจะเรียกว่าแหย ก็ได้
"เห้ย พวกมึงจะไปชวนไอ้แว่นทำไมว่ะ เอาไอ้หมอนี่ไปด้วย ก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วงเปล่า ๆ กูว่าหาทางไปช่วย ยูกิ ดีกว่า เพราะเธอเองก็ต้องเล่นเกมส์นี้เหมือนกัน"
"ไอ้บ้า มึงคิดว่าระดับไอดอล นักร้อง พรีเซนเตอร์ แถมยังเป็นลูกสาวของประธานบริษัท อกาซึกิ จะมาเล่นเกมส์ทำไมว่ะ อย่ามองเครื่องบินให้มากนักเลย"
"เออ กูโง่เอง เอาเป็นว่าพวกเรารีบเข้าเกมส์กันดีกว่า อย่ามาเสียเวลาเลย มึงรู้หรือเปล่า พี่ต้น เขาบอกว่าคนที่ทำผลงานได้ดี จะได้เป็นรองหัวหน้ากิลล์ และได้รับเงินเดือนไม่น้อยด้วยนะโว้ย ถ้าเราติดตามพี่เขาจะต้องได้ดีแน่"
"เออ ๆ ไปก็ไป"
หลังจากที่พูดจบ กลุ่มนักเรียนชายและหญิงในห้องทั้งหมด ก็เข้าเกมส์กันไปทันที แน่นอนว่าพวกอาจารย์เองก็ต้องไปสอนนักเรียนคนอื่นต่อ เป็นเอกกลับรีบออกจากเกมส์ทันที เพราะตอนนี้เท่ากับเวลา 7 โมงข้างนอก เป็นเวลาที่แม่ของเป็นเอกกำลังเตรียมเปิดร้านขายขนมปังอยู่ เข้าจึงต้องรีบไปช่วย
------------------------------------------------------
เป็นเอกออกจากเกมส์ เปิดแคปซูล จากนั้นก็ลงมาช่วยแม่เปิดร้าน เตรียมของ จากนั้นก็มานั่งกินข้าวช้าวกับแม่
"เอก การเรียนเป็นไงบ้าง ความจริงลูกไม่เห็นต้องมาช่วยแม่เปิดร้านเลยก็ได้ เพราะยังไงแม่ก็ทำคนเดียวเป็นประจำอยู่แล้ว"
"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ เวลาเรียนมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ก็เวลามันเพิ่มเป็น 6 เท่า เดี๋ยวผมช่วยแม่ถึง 11 โมง แล้วค่อยเข้าไปทำงานต่อก็ได้ครับ"
"แต่แม่อยากให้ลูกได้เล่นสนุกเหมือนกับคนอื่น ๆ มากกว่านะ"
"แต่ผมอยู่แบบนี้ก็สนุกดีนี่ครับ น่าเสียดายที่ฝีมือการทำอาหารของผมมันห่วยมาก ไม่งั้นคงช่วยแม่ได้มากกว่านี้ ผมจะลองไปฝึกการทำอาหารในโลกของเกมส์ก็แล้วกัน ไม่แน่อาจจะหาสูตรขนมปัง หรือ เค้ก แบบใหม่ ๆ มาให้แม่ลองทำดูก็ได้นะครับ เพราะในเกมส์มันร่วมอาชีพไว้หลากหลายมาก"
"ขอบใจจ๊ะเอก เอาเป็นว่าตอนนี้เกินข้าวกันก่อนดีกว่านะ"
หลังจากเอกกับแม่กินข้าวกันเสร็จแล้ว ก็จัดการเก็บล้าง จากนั้นก็เปิดร้านขายขนมปัง แม้จะไม่ได้ขายดีซักเท่าไร แต่ก็พอที่จะเลี้ยงตัวเองให้รอดได้ไม่ยากนัก
หลังจากหมดช่วงยุ่งตอนเช้าแล้ว เป็นเอกก็กินขนมปังเข้าไป 2 ก้อน จากนั้นก็เข้าเกมส์เพื่อที่จะได้ เก็บภารกิจเพื่อคะแนน เพราะเขาไม่คิดที่จะออกไปสู้กับใครอยู่แล้ว
------------------------------------------------------------
หลังจากเป็นเอกเข้ามาในเกมส์ ก็ต้องตกตะลึง เพราะความกว้างใหญ่ของเมืองนี้ แต่ที่น่าตกใจกว่า ก็คือ มีผู้เล่นเดินเต็มเมืองไปหมด ซึ่งมันก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะนักเรียนเกือบทั้งภาคกลางได้เขามาอยู่ในโลกนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยทีเดียว
เป็นเอกไม่กล้าคิดเลยว่าขนาดในเมืองยังขนาดนี้ ภายนอกคงจะเต็มไปด้วยคนที่แย่งกันเก็บเลเวลเป็นแน่
เป็นเอกจึงได้รีบเดินไปที่อาคารรับภารกิจ เพื่อจะได้รับเควสอาชีพเพื่อจะได้เก็บคะแนน
แน่นอนว่าเขาไม่คิดที่จะออกไปสู้ หรือไปแย่งเก็บเลเวลกับคนอื่น เพราะมันดูยุ่งวุ่นวายเกินไป
เป็นเอกเปิดแผนที่เมืองเริ่มต้นดู เพื่อหาอาคารภารกิจ จากนั้นก็เดินไปอาคารภารกิจทันที ระหว่างที่เดินไปก็มีคนหลายกลุ่มมาชวนให้ตั้งกิลล์ หลายกลุ่ม ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเรียนโรงเรียนอื่น แน่นอนว่าแต่ละโรงเรียนจะตั้งกิลล์ของตัวเองอย่างน้อย 1 กิลล์ แต่ก็มีพวกที่อยากจะสร้างตำนานของตัวเอง พวกนี้ก็จะออกมาสร้างกิลล์และหารวมผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน แน่นอนว่าเป็นเอกได้ปฎิเสธไปทั้งหมด เพราะเขาไม่คิดที่จะออกไปต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ต้องฝ่าฝูงชนจำนวนมาก ก็มาถึงอาคารรับภารกิจจนได้ พอเป็นเอกเข้าไปก็เห็นผู้เล่นหลายคนที่รอต่อคิวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนอาชีพ การล่ามอสเตอร์ การเก็บไอเท็ม แม้แต่การรับภารกิจอาชีพ ก็มีผู้เข้าแถวเป็นจำนวนมาก เป็นเอกก็ไปรอต่อแถว แต่กว่าจะมาถึงคิวเป็นเอกก็ต้องรอกว่าหนึ่งชั่วโมง
"เชิญเอามือขวาเตะที่เครื่องแสกนลายมือได้เลยค่ะ" พนักงานสาวบอกกับเป็นเอกด้วยน้ำเสียเบื่อหน่าย
ซึ่งเป็นเอกก็พอเข้าใจ เพราะไม่ว่าใครต้องมาพูดแบบเดียวกันกับคนเป็นพันก็คงจะเบื่อเหมือนกันหมด แต่ทำไมถึงไม่ใช้ระบบตอบรับอัตโนมัติละเนี่ย เป็นเอกคิด พร้อมกับเอามือขวาวางลงบนเครื่องแสกน
พอเป็นเอกวางมือแสกนเรียบร้อยแล้ว ก็มีหน้าต่างขึ้นตรงหน้าเป็นเอกทันที ในนี้กลับมีภารกิจอาชีพ หลากหลายจนเป็นเอกดูยังตาลายเลย
"เชิญเลือกภารกิจที่ต้องการ ดูรายละเอียด จากนั้นก็ไปรับได้ที่ ที่ระบุเลยค่ะ สามารถเลือกเป็นหมวดหมู่ได้นะค่ะ เพื่อสะดวกในการหาภารกิจ แค่คิดว่าต้องการภารกิจแบบไหน หรือแยกภารกิจยังไงก็พอค่ะ"
เป็นเอกเลือกดูภารกิจ ที่คนทำมากที่สุดก่อน เพราะอยากรู้ว่าผู้คนส่วนใหญ่ทำภารกิจอะไรบ้าง
ภารกิจเรียงตามลำดับ
1 ปรุงยา 2432 คน
2 ช่างเหล็ก 2123 คน
3 นักดาบ 2039 คน
4 นักเวทย์ 1872 คน
5 นักธนู 1428 คน
6 โจร 1221 คน
7 เลี้ยง ฝึกสัตว์ 1001 คน
8 พ่อค้า 742 คน
9 ทำอาหาร 534 คน
10 เสื้อผ้า 532 คน
ฯลฯ
(อ้าว ไม่ใช่ว่าอาชีพจะขึ้นกับทักษะที่ได้หรอกเหรอ ทำไมถึงมีการฝึกเป็น นักดาบ นักเวทย์ ด้วยละเนี่ย) เป็นเอกคิดขณะไล่รายชื่อต่าง ๆ
แน่นอนว่าภารกิจพวกนี้เป็นเอกยังไม่คิดจะทำแน่นอน เพราะมันคนเยอะ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งวุ่นวาย เป็นเอกจึงเปลี่ยนเป็นภารกิจที่ไม่มีคนทำ เพื่อจะดูว่าจะไปทำภารกิจอันไหนดี
ภารกิจไม่เรียงตามลำดับ
ขอทาน
ทำนา
ปลูกผัก
ขุดท่อ
ล้างห้องน้ำ
ล้างท่อ
เด็กวัด
ฯลฯ
เป็นเอกดูแล้วเกิดความสงสัยทันที ไอ้อาชีพ ขอทาน ล้างท่อ เด็กวัด และอาชีพอีกหลาย ๆ อย่างไม่รู้มันจะมีไว้ทำไม
แน่นอนว่าอาชีพพวกนี้เป็นอาชีพที่คนไม่คิดจะทำกันแน่นอน เป็นเอกจึงได้เลือกอาชีพ ทำนาก่อน เพราะว่ามันดูเป็นอาชีพที่เป็นไทยดี และอีกอย่างคือพอเสร็จแล้วจะได้ทำภารกิจปลูกผัก ทำไร่ ทำสวน และอีกหลายภารกิจที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน จะได้ไม่เสียเวลา
พอเป็นเอกดูภารกิจเรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากอาคารภารกิจ จากนั้นก็เปิดดูแผนที่
ในที่สุดเขาก็มาถึงสถานที่รับภารกิจสักที แน่นอนว่าเขาเห็นทุ่งข้าว สวน ไร่ แปลงปลูกผัก มีวัว ควาย และไก่ เดินอยู่บนทุ่งหญ้า เป็นเอกพบเห็นแล้วรู้สึกว่าแปลกใหม่ดีมาก เพราะในสมัยนี้การที่จะได้เห็นต้นไม้มากมายแบบนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้แปลงนาข้าวแบบนี้ก็ไม่มีแล้ว เพราะกลายเป็นทำนาในโรงเพาะ ใช้เครื่องจักรในการปลูกหมดแล้ว
เป็นเอกรีบเดินไปที่กระท่อมปลายนา อันเป็นที่รับภารกิจทันที
ป๊อก! ๆ
เป็นเอกเคาะประตูเพื่อเรียก npc ที่ให้ภารกิจ ซักพักก็มีคนเปิดประตูออกมา เป็นชายวัยกลางคน สูง 180 กว่า ๆ รูปร่างแข็งแรง กลามเป็นมัด หน้าตาดุ ๆ เหมือนนักเลงสมัยโบราณ
"มีอะไร" ชายคนนั้นถามเป็นเอกด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่เป็นเอกกลับรู้สึกเหมือนโดนขู่ยังไงก็ไม่รู้
เป็นเอกสูดหายใจเล็กน้อยเพื่อให้ใจเย็นขึ้น ค่อยตอบชายคนนั้นไป "ผมมาเพื่อรับภารกิจครับ"
ชายคนนั่นนึ่งไปซักพัก จากนั้นก็เดินวนรอบเป็นเอก มองรูปร่างของเป็นเอก ทำให้เป็นเอกรู้สึกเสียวไส้
"ไหนลองพูดอีกทีสิ" ชายคนนั้นบอกกับเป็นเอกอีกครั้ง ด้วยสีหน้าครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง
"ผมมารับภารกิจทำนา และ ภารกิจอื่น ๆ ที่ตรงนี้เปิดให้ทำครับ" เป็นเอกทำใจดีสู้เสือ บอกออกไปอย่างมั่นใจ เพราะเขารู้ว่าคน ๆ นี้จะต้องเป็นครูจากโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งแน่นอน เพราะ npc ส่วนใหญ่ในเกมส์จะเป็นครูที่เข้ามารับงานสอน อีกส่วนก็จะเป็นพนักงานบริษัทแต่ก็นับเป็นส่วนน้อย
"ฮ่า ๆๆๆ" ชายคนนั้นหัวเราะเสียงดัง จนเป็นเอกต้องมองว่ามีอะไรหน้าหัวเราะด้วยหรือไง
ชายคนนั้นหัวเราะ พร้อมกับเอามือมาตีบ่าเป็นเอกเบา ๆ แต่เป็นเอกกลับรู้สึกเจ็บมาก เพราะแรงของชายคนนั้นเยอะจริง ๆ
"ฮ่า ๆ ลุงชื่อทองพูล เป็น npc ประจำสวนแห่งนี้ รวมกับเพื่อนอาจารย์ที่ขัดมาอีก 3 คนสลับกัน แต่หน้าฉากจะเป็นแบบเดียวกันหมด ชื่อทองพูลก็เป็นชื่อที่ระบบกำหนด เพราะเราจะให้พวกนักเรียนรู้ชื่อจริงไม่ได้ ว่าแต่เราชื่อในเกมส์ว่าอะไรละ"
"ผมชื่อ เป็นเอก ครับ"
"โห ชื่อธรรมดามากเลยนี่น่า เอาละในเมื่อจะรับภารกิจ ทำนา ก็เอาหนังสือนี่ไปศึกษาก็แล้วกัน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาลงมือกันต่อ เพราะฟ้าเริ่มมืดแล้ว ไปกันข้าวกันก่อน เดี๋ยวลุงเลี้ยงเอง"
"ขอบคุณครับ" เป็นเอกยกมือไหว้ขอบคุณ จากนั้นก็รับหนังสือ เกี่ยวกับการทำนามา จากนั้นก็เข้าไปกินข้าวกับลุงทองพูล"
หลังจากกินข้าวเสร็จ ลุงทองพูลก็เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังมากมาย แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเกมส์ เพราะทางบริษัทสั่งห้ามไว้เด็ดขาด ไม่ให้พนักงานหรืออาจารย์ทุกคน ให้ข้อมูลที่เกินหน้าที่ของตัวเอง เพื่อความยุติธรรมในเกมส์
เรื่องที่ลุงทองพูลเล่าจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีต ในสมัยที่ลุงยังเด็กมีพื้นที่เพาะปลูก มีต้มไม้มากมายและความอดยากที่ได้รับจากภัยพิบัติน้ำท่วม
ซึ่งเป็นเอกก็ฟังด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ฟังลุงทองพูลเล่าเรื่องต่าง ๆ มากมายเสร็จ ลุงทองพูลก็ให้เป็นเอกไปนอนในห้อง แม้กระท่อมจะมีอยู่แค่ห้องเดียวก็ตาม แม้เป็นเอกจะไม่ยินยอม แต่ก็ไม่สามารถขัดได้ จึงได้แต่จำยอมเข้าไปนอนในห้อง
จากนั้นเป็นเอกก็เอาหนังสือเกี่ยวกับการทำนาออกมาอ่านดู เพื่อที่จะได้เรียนรู้ก่อนทำงานจริง
การทำนามีหลักสำคัญ คือ
การเตรียมดิน
ก่อนการทำนาจะมีการเตรียมดินอยู่ 3 ขั้นตอน
1. การไถดะ เป็นการไถครั้งแรกตามแนวยาวของพื้นที่กระทงนา (กรณีที่แปลงนาเป็นกระทงย่อยๆ หลายกระทงในหนึ่งแปลงนา) เมื่อไถดะจะช่วยพลิกดินเพื่อให้ดินชั้นล่างได้ขึ้นมาสัมผัสอากาศ ออกซิเจน และเป็นการตากดินเพื่อทำลายวัชพืช โรคพืชบางชนิด การไถดะจะเริ่มทำเมื่อฝนตกครั้งแรกในปีฤดูกาลใหม่ หลังจากไถดะจะตากดินเอาไว้ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์
ที่มา http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=589
2. การไถแปร หลังจากที่ตากดินเอาไว้พอสมควรแล้ว การไถแปรจะช่วยพลิกดินที่กลบเอาขึ้นการอีกครั้ง เพื่อทำลายวัชพืชที่ขึ้นใหม่ และเป็นการย่อยดินให้มีขนาดเล็กลง จำนวนครั้งของการไถแปรจึงขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของวัชพืช ลักษณะดินและระดับน้ำ ในพื้นที่ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนด้วย แต่โดยทั่วไปแล้วจะไถแปรเพียงครั้งเดียว
3. การคราด เพื่อเอาเศษวัชพืชออกจากกระทงนา และย่อยดินให้มีขนาดเล็กลงอีก จนเหมาะแก่การเจริญของข้าว ทั้งยังเป็นการปรับระดับพื้นที่ให้มีความสม่ำเสมอ เพื่อสะดวกในการควบคุม ดูแลการให้น้ำ
ที่มา http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=589
การปลูก
การปลูก ข้าวสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธี คือ การปลูกด้วยเมล็ดโดยตรง ได้แก่ การทำนาหยอดและนาหว่าน และ การเพาะเมล็ดในที่หนึ่งก่อน แล้วนำต้นอ่อนไปปลูกในที่อื่นๆ ได้แก่ การทำนาดำ
การทำนาหยอด
การทำนาหยอด เป็นวิธีการปลูกข้าวที่อาศัยน้ำฝน หยอดเมล็ดข้าวแห้ง ลงไปในดินเป็นหลุมๆ หรือโรยเป็นแถวแล้วกลบฝังเมล็ดข้าว เมื่อฝนตกลงมาดินมีความชื้นพอเหมาะ เมล็ดก็จะงอกเป็นต้น นิยมทำในพื้นที่ข้าวไร่ หรือนาในเขตที่การกระจายของฝนไม่แน่นอน แบ่งเป็น 2 สภาพ ได้แก่
- นาหยอดในสภาพข้าวไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่มักเป็นที่ลาดชัน เช่น ที่เชิงเขาเป็นต้น ปริมาณน้ำฝนไม่แน่นอน สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเตรียมดินได้ จึงจำเป็นต้องหยอดข้าวเป็นหลุม
- นาหยอดในสภาพที่ราบสูง เช่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเชิงเขาหรือหุบเขา การหยอดอาจหยอดเป็นหลุมหรือใช้เครื่องมือหยอด หรือโรยเป็นแถวแล้วคราดกลบ นาหยอดในสภาพนี้ให้ผลผลิตสูงกว่านาหยอดในสภาพไร่มาก
การหว่านข้าวแห้ง
แบ่งตามช่วงระยะเวลาของการหว่านได้ 3 วิธี คือ
การหว่านหลังขี้ไถ ใช้ในกรณีที่ฝนมาล่าช้าและตกชุก มีเวลาเตรียมดินน้อย จึงมีการไถดะเพียงครั้งเดียวและไถแปรอีกครั้งหนึ่ง แล้วหว่านเมล็ดข้าวลงหลังขี้ไถ เมล็ดพันธุ์อาจเสียหายเพราะหนู และอาจมีวัชพืชในแปลงนามาก
การหว่านคราดกลบ เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด จะทำหลังจากที่ไถแปรครั้งสุดท้ายแล้วคราดกลบ จะได้ต้นข้าวที่งอกสม่ำเสมอ
การหว่านไถกลบ มักทำเมื่อถึงระยะเวลาที่ต้องหว่าน แต่ฝนยังไม่ตกและดินมีความชื้นพอควร หว่านเมล็ดข้าวหลังขี้ไถแล้วไถแปรอีกครั้ง เมล็ดข้าวที่หว่านจะอยู่ลึกและเริ่มงอกโดยอาศัยความชื้นในดิน
การหว่านข้าวงอก (หว่านน้ำตม) เป็นการหว่านเมล็ดข้าวที่ถูกเพาะให้รากงอกก่อนที่จะนำไปหว่านในที่ที่มีน้ำ ท่วมขัง เพราะหากไม่เพาะเมล็ดเสียก่อน เมื่อหว่านแล้วเมล็ดข้าวอาจเน่าเสียได้ การเพาะข้าวทอดกล้า ทำโดยการเอาเมล็ดข้าวใส่กระบุง ไปแช่น้ำเพื่อให้เมล็ดที่มีน้ำหนักเบาหรือลีบลอยขึ้นมาแล้วคัดทิ้ง แล้วนำเมล็ดถ่ายลงในกระบุงที่มีหญ้าแห้งกรุไว้ หมั่นรดน้ำเรื่อยไป อย่าให้ข้าวแตกหน่อ แล้วนำไปหว่านในที่นาที่เตรียมดินไว้แล้ว วิธีการการปลูกข้าวโดยการหว่านข้าวแห้งหรือหว่านสำรวย
การใส่ปุ๋ย ข้าวที่ปลูกในช่วงฝนแล้ง เป็นการปลูกข้าวล่าช้ากว่าฤดูกาลมาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใส่ปุ๋ยช่วยเร ่งให้ต้นข้าวมีการเจริญเติบโตได้เต็มที่ จึงจะทำให้ได้ผลผลิตสูงใกล้เคียงกับการทำนาดำตามฤดูกาลปกติ
การใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1
ในพื้นที่ ดินเหนียวให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0, 18-22-0 หรือ 20-20-0 สูตรใดสูตรหนึ่งในอัตราไร่ละ 25 กก. ในดินทรายให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ในอัตราไร่ ละ 25 กก. โดยใส่ปุ๋ยหลังจากข้าวงอกแล้ว 5-6 วัน
การใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2
ให้ใส่ปุ๋ย หลังจากข้าวงอกแล้ว 40-45 วัน โดยใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต หรือแอมฮมเนียมคลอไรด์ ไร่ละ 25-30 กก. หรือปุ๋ยยูเรีย ไร่ละ 10-15 กก. ในการใส่ปุ๋ยควรจะคำนึงถึงว่าดินจะต้องเปียกแฉะหรือมีน้ำขังไม่ควรเกิน 20 เซ็นติเมตร ถ้าหากดินแห้งหรือระดับน้ำมาก กว่านี้ ให้เลื่อนการใส่ปุ๋ยออกไปมิฉะนั้นจะทำให้การใช้ปุ๋ยไม่มีประสิทธิภาพ เกิดการสูญเสียปุ๋ย ทำให้ต้นข้าวได้รับปุ๋ย ไม่พอเพียง ผลผลิตจะต่ำ
การทำนาดำ
เป็นการปลูกข้าวโดย เพาะเมล็ดให้งอกและเจริญเติบโตในระยะหนึ่ง แล้วย้ายไปปลูกในที่หนึ่ง สามารถควบคุมระดับน้ำ วัชพืชได้ การทำนาดำแบ่งได้เป็น 2 ขั้นตอน คือ
การตกกล้า เพาะเมล็ดข้าวเปลือกให้มีรากงอกยาว 3 - 5 มิลลิเมตร นำไปหว่านในแปลงกล้า ช่วงระยะ 7 วันแรก ต้องควบคุมน้ำไม่ให้ท่วมแปลงกล้า และจะสามารถถอนกล้าไปปักดำได้เมื่อมีอายุประมาณ 20 - 30 วัน
การปักดำ ชาวนาจะนำกล้าที่ถอนแล้วไปปักดำในแปลงปักดำ ระยะห่างระหว่างกล้าแต่ละหลุมจะมีความแตกต่างกันขึ้นกับลักษณะของดิน คือ ถ้าเป็นนาลุ่มปักดำระยะห่าง เพราะข้าวจะแตกกอใหญ่ แต่ถ้าเป็นนาดอนปักดำค่อนข้างถี่ เพราะข้าวจะไม่ค่อยแตกกอ
การเก็บเกี่ยว
หลังจากที่ข้าวออก ดอกหรือออกรวงประมาณ 20 วัน ชาวนาจะเร่งระบายน้ำออก เพื่อเป็นการเร่งให้ข้าวสุกพร้อมๆ กัน และทำให้เมล็ดมีความชื้นไม่สูงเกินไป จะสามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจากระบายน้ำออกประมาณ 10 วัน ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเก็บเกี่ยว เรียกว่า ระยะพลับพลึง คือสังเกตที่ปลายรวงจะมีสีเหลือง กลางรวงเป็นสีตองอ่อน การเก็บเกี่ยวในระยะนี้จะได้เมล็ดข้าวที่มีความแข็งแกร่ง มีน้ำหนัก และมีคุณภาพในการสี
การนวดข้าว
หลังจากตากข้าว ชาวนาจะขนเข้ามาในลานนวด จากนั้นก็นวดเอาเมล็ดข้าวออกจากรวง บางแห่งใช้แรงงานคน บางแห่งใช้ควายหรือวัวย่ำ แต่ปัจจุบันมีการใช้เครื่องนวดข้าวมาช่วยในการนวด
หลังจากเป็นเอกอ่านหมด ก็รู้สึกทึ่งในความสามารถของคนรุ่นก่อน ที่สามารถทำงานขนาดนี้เพื่อให้คนไทยได้มีข้าวกิน เขารู้สึกเคารพบรรพบุรุษเป็นอย่างมากทีเดียว หลังจากที่อ่านทำความเข้าใจทั้งหมด เป็นเอกก็นอนพักเพื่อที่จะได้มีแรงเอาไว้ทำงานในวันพรุ่งนี้
----------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น