คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คาบเรียนที่ 2 โอกาสของนภา..
“อือ..”สึนะมองไปข้างหน้ามองไปยังสีขาวที่ไม่มีวันสิ้นสุดด้วยสายตาเหม่อลอย..เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและอยู่มานานเท่าไรแล้ว..หรืออยู่ไปเพื่ออะไร..
รู้แค่เพียงว่าตัวเองกำลังลองล่อยอยู่บนความว่างเปล่า..สงบอย่างน่าประหลาด..
“....”เขามองหยดที่น้ำล่องลอยอยู่รอบตัวเขาราวกับอยู่ในอวกาศ..
“...”เขาทิ้งตัวลงกับพื้นสีขาวที่ตอนแรกว่างเปล่าแต่เมื่อเพียงแค่คิดโต๊ะน้ำชาและเครื่องเคียงก็ปรากฎขึ้น
“กาแฟจะดีกว่าละมั้ง..?”เพียงชั่วครู่ทุกสิ่งก็หายไป..
ก่อนที่ความว่างเปล่าจะถูกแทนที่ด้วยห้องที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคย..
ถึงจะไม่เข้าใจแต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปตามที่เขาคิด
เขาเปลี่ยนมันเป็นสวนสนุก ทะเล และสถานที่ที่น่าตื่นตา..
สวยมากๆก็จริง
แต่ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน..
เขาจึงเปลี่ยนทุกอย่างให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม..
เป็นห้องที่รู้สึกโหยหาละมั้ง?
เมื่อความเงียบกลืนกินห้องแห่งนี้..
ความรู้สึกแปลกๆก็แล่นเข้ามาในหัวใจ..ก่อนที่ภาพรางๆจะทำให้เกิดบางสิ่ง..
อย่างเจ้าตัวนี้ที่อยู่บนตักของเขา..เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นตัวอะไร แต่อะไรสักอย่างบอกเขาว่ามันคือสิงโต..
ถึงจะไม่น่าเกรงขามและหน้าตาเหมือนตุ๊กตามากก็ตาม
ตัวที่สองเป็นแมวเหมียวตัวน้อยที่นั่งคลอเคลียขาเขาไม่ยอมห่างและสายตาจับจ้องไปที่สิงโต?ตัวน้อยบนตักของเขา
ตัวที่สามและที่สี่เป็นนกนางแอ่นที่กำลังบินวนไปมากับสุนัขที่วิ่งวนไปทั่วห้องเพื่อไล่ตามเจ้าตัวที่ห้าหรือจิงโจ้ที่กำลังจ๊อกกิ๊งยามเช้า?อยู่
ตัวที่หกกับตัวที่เจ็ดที่กำลังนอนพิงกันอยู่บนโซฟาด้านซ้ายของห้องหรือก็คือนกฮูกฝาแฝดที่เหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่ตัวนึงมีตาสองสีและอีกตัวมีผ้าปิดตาแทนที่
ส่วนตัวที่แปดก็คือเม่นที่นอนหลับอยู่มุมโซฟาฝั่งตรงข้าม..
“อรุณสวัสด์น่ะทุกคน..”เขากล่าวยิ้มๆก่อนจะจิบกาแฟของตัวเองอย่างสงบ
ก็แค่รู้สึกว่าต้องเอ่ยคำนี้..
สภาพห้องเริ่มรกขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจ้าจิงโจ้แท็กทีมกับนกนางแอ่นกับเจ้าหมาตัวป่วน..
โดยการชวนนกฮูกตาสองสีไปเล่นกับเม่นน้อยที่กำลังหลับอยู่..
ดูเหมือนว่านกฮูกที่ใส่ผ้าปิดตาจะพยายามห้าม..แน่นอนว่าไม่ได้ผล..
เขามองการเล่น?สุดอิรุงตุงนังที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วยรอยยิ้ม..ก่อนจะก้มลงไปมองสิงโตตัวน้อยบนตัก
“ไปสิ..”มันคลอเคลียอยู่กับอกเขาครู่นึงก่อนจะกระโดดลงจากตักไปหาเจ้าแมวน้อย..แล้วพากันวิ่งไปรวมกับหมาน้อยและนกนางแอ่นเพื่อเข้าร่วม
พอเห็นทั้งหมดวิ่งวุ่นไปทั่วอย่างสนุกสนาน เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอมยิ้มพลางจิบกาแฟไปด้วย..
’ทำไมถึงได้คุ้นเคยแบบนี้กันน่ะ?’
“เอ๋..?”ความรู้สึกเปียกๆที่ข้อมือทำให้เขาต้องก้มมอง..
‘ทำไมแขนเสือถึงได้เปียกหล่ะ?’เขามองแขนเสื้อตัวเองด้วยความมึนงง
น้ำตา...
ทำไม.....?
แต่แล้วเสียงแห่งความวุ่นวายก็หายไป..
ที่อยู่ตรงนั้นมีเพียงแค่สิงโตตัวน้อยเท่านั้น..
สิงโตที่เปรอะเปื้อนไปด้วยด้วยสีแดง
“ตะ แต่ว่าเมื่อกี้ยังอยู่ก..”
แล้วทุกอย่างก็มืดลง..
2727272727272727272727272727
“อือ..”ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองไปข้างหน้ามองไปยังสีขาวที่ไม่มีวันสิ้นสุดด้วยสายตาเหม่อลอย..
เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและอยู่มานานเท่าไรแล้ว..หรืออยู่ไปเพื่ออะไร..
รู้แค่เพียงว่าตัวเองกำลังลองล่อยอยู่บนความว่างเปล่า..ที่สงบอย่างน่าประหลาด..
“....”เขามองหยดที่น้ำล่องลอยอยู่รอบตัวเขาราวกับอยู่ในอวกาศ..
‘น้ำอะไรกันน่ะ?’เขายกมือขึ้นเพื่อจะแตะพวกมันแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรดวงตาเขาก็เรื่มพร่ามัว..เขาหลับตาลงก่อนจะขยี้ตา..
สัมผัสถึงความเปียกชื้น..
“เอ๋..?”เขามองหยดน้ำที่ค่อยๆลอยขึ้นไปจากดวงตาของเขา..
‘หยดน้ำพวกนี้คือน้ำตาของเรา..?’
‘แล้วทำไมเราถึงร้องไห้ล่ะ?’
‘เราร้องไห้เพราะ...’
“เพราะทั้งสึนะทั้งนัทสึถูกทิ้งเอาไว้น่ะสิ..”
‘เพราะสึนะและนัทสึถูกทิ้งงั้นเหรอ..’
“ใช่แล้ว...เพราะฉะนั้นตื่นได้แล้ว..เดชิโม่ เจ้ารู้ตัวรึเปล่า..ว่าได้หลงลืมสิ่งสำคัญไป”
‘อะไรคือสิ่งสำคัญของเรา? เดชิโม่คือชื่องั้นเหรอ?’
“จงนึกให้ออก เดชิโม่ เราอาจจะช่วยสิ่งสำคัญของเจ้าได้..”
‘สิ่งสำคัญ...ของเรา..’
“ใช่แล้ว..สิ่งสำคัญของเจ้า...”
‘...’เรากำลังพูดกับอะไรอยู่น่ะ..
“ผู้สืบทอดของเรา ซาวะดะ สึนะโยชิ..”
‘.......’สึนะ..โยชิ?
“เจ้าห่วยสึนะ”
“สึน่า~~”
“ซาวะดะ สึนะโยชิ”
“คุฟุฟุ สึนะโยชิคุง?”
เสียงเรียกใครสักคนแทรกเข้ามาในหัวของผม...
เสียงพวกนี้มัน...?
“เดชิโม่?”
‘.............’
“ถ้าเจ้าได้หลงลืมไปแล้วเราก็จะไป..เจ้..”
“พรี..โม่..?”
ทันทีที่สิ้นเสียงความรู้สึกเหมือนถูกกอดรัดก็ชัดเจนขึ้น
ก่อนที่ร่างสูงเจ้าของผมสีทองจะค่อยๆปรากฏขึ้น..
โดยที่มีผมอยู่ในอ้อมแขน..
“สึนะโยชิ..เราดีใจเหลือเกิน..ที่เจ้าหลุดออกจากความว่างเปล่าของแหวนได้เสียที..”พรีโม่ค่อยๆคลายกอดก่อนจะยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน
“หมายความว่ายังไงเหรอครับ? ความว่างเปล่า..ของแหวน?”ผมถามเสียงแห้งรู้สึกกระหายน้ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..
“เราไปนั่งดื่มชากันที่โดมกันก่อนเถอะ..เจ้าคงจะกระหายน้ำไม่น้อย”พรีโม่กล่าวก่อนจะฝ่ายมือไปที่โดมกลางสวนหย่อมที่เรายืนอยู่..ซึ่งสึนะพยักหน้าเห็นด้วยทันที
‘เรามาอยู่กลางสวนหย่อมตั้งแต่เมื่อไร? แล้วเราอยู่ที่ไหนหล่ะเนี่ย?’ระหว่างเดินไปผมกวาดสายตามองไปรอบๆ..คำถามผุดขึ้นมาเต็มไปหมด..
“เดชิโม่? นี่ชาของเจ้า..”รู้ตัวอีกทีผมก็รับชาจากพรีโม่มากระดกอย่างกระหาย..โชคดีที่มันไม่ร้อนมากนัก..
“เออ..ขอเพิ่มได้มั้ย....ครับ?”ผมเสมองไปทางอื่นเกาแก้มกบเกลื่อน..
“แน่นอน เดชิโม่”พรีโม่หัวเราะน้อยๆก่อนจะรินชาแก้วใหม่ให้ผม
“ขอบคุณ...ครับ”ผมรับมาแล้วจิบน้อยๆแล้วมองพรีโม่ที่กำลังรินชาให้ตัวเองอยู่..
“เอ่อ..ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ ท่านรุ่นที่หนึ่ง..”ผมกล่าวอ้อมแอ้ม
“ไม่เป็นไรหรอก เจ้าไม่ได้ดื่มอะไรมาสามปีแล้วนี่ แล้วก็เรียกเราว่าพรีโม่หรือจีอ็อตโต้เถอะ..”พรีโม่กล่าวก่อนจะจิบชาของตัวเอง..เดี๊ยวๆๆอะไรน่ะ?
“....ว่ายังไงน่ะครับ?”
“หืม..? เรียกเราว่าพรีโม่หรือจีอ๊อตโ..”
“ไม่ใช่ๆ ก่อนหน้านั้นอีก...ครับ”พรีโม่เลิกคิ้ว
“เราบอกว่า ไม่เป็นเพราะเจ้าไม่ได้ดื่มอะไรมาสามปีแล้ว”
“สามปี? มะ..หมายความว่าไงครับ?”ผมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพยายามถามออกไปอย่างใจเย็น..
“อืม...จะให้เราบอกยังไงดีล่ะ..”พรีโม่ตีหน้ายุ่งก่อนจะเงียบไปพักนึง
“เดชิโม่..เจ้าจำได้ใช่มั้ย? ว่า..เอ่อ..เจ้า...ตายแล้ว..”
“....ครับ..”ผมตอบนึกถึงจุดจบของตัวเอง..
นึกว่าถ้าตายแล้วทุกคนจะได้อยู่ด้วยกันซะอีก..
“เดชิโม่...”ผมสะดุ้งก่อนจะปาดน้ำตาที่รื้นขึ้นมาปริ่มขอบตา..
“อ่า..ฮึก..คะ แค่ผงเข้าตานะ..น่ะครับ”ผมฝืนยิ้ม..ตอบออกไป
“จำไว้น่ะสึนะ..บอสจะร้องไห้ต่อหน้าใครไม่ได้ทั้งนั้น”
บอสจะร้องไห้ต่อหน้าใครไม่ได้..เน่อะ? รีบอร์น
“สึนะโยชิ..ลุกขึ้นสิ”พรีโม่กล่าวก่อนจะลุกขึ้นเองแล้วเดินอ้อมโต๊ะมาหาผม..ผมลุกขึ้นพยายามปาดน้ำตา
“เราจะให้เจ้ายืมไหล่หนึ่งวัน”ชายผมทองกล่าวก่อนจะยิ้มบางๆ
“...ครับ?”
“เพราะฉะนั้น..สิ่งที่เจ้าแบกเอาไว้น่ะ ยกให้เราบ้างก็ได้น่ะ สึนะโยชิ..”พรีโม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วอ้าแขนรอให้ผมตอบรับ..
“พรีโม่..ฮึก..ฮึก...ฮืออออออออ”ผมน้ำตาปริ่มอีกรอบก่อนจะพุ่งเข้าไปซุกอกปู่ทวดของปู่ทวดของปู่ทอด...ของผมแล้วปล่อยโฮอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“ฮึก...ฮึก..”หลังจากนั้นผมก็ปล่อยโฮซะยกใหญ่..แต่ว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ผมมานั่งสะอึกสะอื้นอยู่บนตักของปู่ทวดของปู่ทวดของปู่ทวด...
“ดีขึ้นรึยังหึ? สึนะโยชิ”พรีโม่ลูบหัวผมตลอดเวลาก่อนที่จะปาดน้ำตาให้ผม
“ฮะ..ขอบคุณ..”ผมตอบพอเงยหน้าเพื่อที่จะยืนยัน
"เหวอ!"แต่กลับถูกจับเหวี่ยงไปรอบๆ..
“หลานเราน่ารักที่สุดเลย! เจ้าน่ารักเหมือนตอนแบเบาะไม่มีผิด ถึงปีนี้เจ้าจะอายุ 24 แล้วก็เถอะ!”พรีโม่เลิกเหวี่ยงผมไปรอบๆแล้วกอดผมแน่น ผมก็เลยกอดตอบอย่างมึนๆ
‘ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ พรีโม่นะอายุ 400ปีอัพแล้วไม่ใช่เหรอ?’ผมคิดเหงื่อตกเบาๆแล้วเอะใจขึ้นมา
“แต่ผมพึ่งจะ 21 เองน่ะครับ”ผมค้านแงะตัวเองออกจากปู่ทวดของปู่ทว..โอ๊ย เอาเป็นว่าโคตรปู่ทวดของตัวเองอย่างทุลักทุเล..
“ก็อย่างที่เราบอกไปเจ้าน่ะติดอยู่ในช่องว่างของแหวนอยู่สามปีตอนนี้เจ้าก็เลยอายุ 24 ยังไงหล่ะ”โคตรปู่ทวดของผมคลายกอดก่อนจะอธิบายเพิ่ม
“จริงๆแล้วเราก็รู้อะไรไม่มากหรอก..แต่ว่าเราเองก็เคยติดอยู่ในนั้นสักพัก..ใหญ่ๆ..อ่อ เจ้ารู้รึไม่ว่าตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหนสึนะโยชิ?”ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“เจ้าสังเกตบ้างมั้ยว่าแหวนของเจ้าหายไป?”ผมยกมือขึ้นมาดูแล้วพบว่ามือของผมไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น
“อย่าบอกน่ะว่า...”ผมเดาแล้วหันไปหาพรีโม่ด้วยความไม่แน่ใจ..
“ใช่แล้ว..พวกเราอยู่ในแหวนไงหล่ะ”
“เอ๋!!!”
“ตะๆๆๆแต่ว่านั่นมัน!”ผมพยายามคิดคำแต่สมองตื้อไปหมด ตกใจก็ตกใจ อึ้งก็อึ้ง
“ฮะๆๆ เอาหล่ะเราจะอธิบายเรื่องช่องว่างของแหวนให้เจ้าฟังละกัน”
“เจ้ารู้มั้ยว่าทำไมแหวนถึงเลือกเจ้า? ไม่ใช่ทายาทของเซ็คเคนโด?(Secondo/ รุ่นที่สอง)
(ในที่นี้หมายถึงแซนซัสหรือซันซัสน่ะค่ะ)
“เอ่อ...เพราะผมมีเลือดของท่านรุ่นที่เอ่อ..คุณอยู่ไม่ใช่เหรอครับ?”
“นั่นก็มีส่วน..แต่จริงๆแล้วแหวนน่ะมีความรู้สึกน่ะ”
“เอ๋..ยังไงเหรอครับ?”
“ช่องว่างของแหวนก็คงจะเกิดขึ้นจากตรงนั่นแหล่ะ..”
“เอิ่ม...ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี..”
“เพราะว่าแหวนน่ะรู้สึกถึงเจ้านานมาแล้วน่ะสิ เราเองหลังจากที่มาอยู่ในแหวนเราก็รู้ได้เลย..ว่าแหวนกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง..และที่เจ้าติดอยู่ในนั้น..ก็เพราะ..แหวนน่ะรักเจ้าน่ะสิ..”
“รักเหรอครับ?”
“แหวนน่ะรักพวกเรามากและรักมาตลอด..รักมากจนไม่อยากให้กาลเวลาพรากพวกเราไป..เพราะอย่างนั้นตัวเราจึงยังคงอยู่ที่นี่..”
“ถูกตรึงไว้เหรอครับ!”งั้นผมเองก็..
“ไม่ใช่หรอก..จริงๆแล้วเราเองก็อยากอยู่ดูวองโกเล่แต่ละรุ่นไปเรื่อยๆเองนั่นแหล่ะ”ถึงจิอ็อตโต้จะพูดอย่างนั้นแต่จริงๆแล้วเขาอยากรู้ว่าสิ่งที่แหวนรอคอยนั้นคืออะไร...ตัวเขาหลงรักสิ่งนั้นตั้งแต่เมื่อเขายังไม่เกิดด้วยซ้ำ..
“ครับ...”
“สึนะโยชิ เรามีเรื่องที่อยากจะถาม..”
“ครับ?”
“อยากช่วยผู้พิทักษ์ของเจ้าจากชะตากรรมแบบเดียวกันมั้ย?”
“....”ผมชะงักสมองประมวลผลที่ได้มาซ้ำๆอย่างไม่มั่นใจในสิ่งที่ได้ยิน
“....แน่นอนครับ! ทะทำได้จริงๆเหรอครับ!”เขาตะโกนด้วยความตกใจ
“แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนๆเดียวกันแต่ก็ไม่ใช่คนที่เจ้ารู้จักและเติบโตมาด้วยกันหรอกน่ะ..”
“หมายความว่ายังไงครับ?”
“เราสามารถส่งเจ้าไปอีกมิตินึงที่ผู้พิทักษ์ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้..และเจ้าจะต้องปกป้องพวกเขาจากจุดจบนั้นเป็นข้อแลกเปลี่ยน..เราไม่ต้องการให้ทายาทของเพื่อนของเราต้องทีจุดจบแบบที่เจ้าเห็นอีก..”
“.....”ผมตาเบิกกว้างก่อนจะละล้ำละลักออกไป
“ขะ ขอแค่นั้นเองเหรอครับ”มันเป็นเรื่องใหญ่ก็จริงแต่ถ้ารู้อนาคตแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร..
“เรามีอีกเรื่องนึงที่จะขอ..แต่เรารู้ว่าคำขอนี้จะทำให้เจ้าต้องแบกรับความรู้สึกที่เจ้าไม่อยากรับรู้ที่สุด”พรีโม่กล่าวก่อนหลับตาลง..
“ครับ...?”
“เจ้าจะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเจ้าไม่ใช่คนของมิตินั้น..”
“เอ๋? แต่ว่าไม่ได้ให้ผมไปเตือนเฉยๆหรอกเหรอครับ?!”
“.....”พรีโม่นิ่งไปพักนึงก่อนจะสบตาผม..
“ที่มิติแห่งนั้นเราเกรงว่าเจ้าจะไม่ได้เป็นวองโกเล่รุ่นที่สิบ จะมีคนอยู่แทนที่เจ้า..เป็นเดชิโม่แทนเจ้าและผู้พิทักษ์ของเจ้าก็จะกลายเป็นของเขา..เจ้าจะเป็นเพียงคนนอกเท่านั้น”
“......!!”
‘ทุกคนจะไม่รู้จักเราเหรอ?’ตาเบิกกว้าง..สับสน..
“ผู้พิทักษ์ของเจ้าอาจรู้จักเจ้าแต่คงไม่ใช่ในฐานะผู้พิทักษ์”
“....”เมื่อพรีโม่เห็นผมเงียบจึงกล่าวต่อ
“บางที่เจ้าอาจจะเป็นประชากรธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องโลกเบื้องหลัง อายุอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าหรืออาจจะอยู่ในฐานะศัตรู..”
“ผมจะไม่ใช่ผมเหรอครับ?”
“ใช่แล้ว สึนะโยชิ... เราขอโทษที่ช่วยอะไรเจ้ามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว..แต่ว่าเจ้าสามารถที่จะแตกดับซะเดี๊ยวนี้และไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้..”
“....”
“ผมจะทำครับ..”
“ทำไมหล่ะ? เจ้าจะเจ็บปวดยิ่งกว่าตายทั้งเป็นเชียวน่ะ”
“พรีโม่ครับ..ถึงจะดูไม่เหมือน แต่จริงๆแล้วผมโล่งอกมากเลยที่ยังสามารถเป็นมิตรกับพวกเขาได้..นึกว่าจะต้องค่อยตามอยู่ห่างๆตลอดซะอีก”
“เดชิโม่..”
“ขอแค่โอกาส..โอกาสให้ผมได้ปกป้องพวกเขา..ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรผมก็ยอมครับ..”ผมยิ้มบางๆกับโอกาสนี้..โอกาสที่จะได้ปกป้องพวกเขา..แม้ว่าพวกเขาจะไม่มองผมเป็นเพื่อนอีกแล้ว..
แต่ผมก็ยังรู้อยู่ดีว่าเราเป็นเพื่อนกันนี่? แทนที่จะดึงเขามาให้เจ็บปวดไปด้วยสู้ให้ไม่รู้เรื่องต่อไปจะดีกว่า..
“สึนะโยชิ...ขอบใจเจ้ามาก..ขอบใจเจ้ามากจริงๆที่ฟังคำขอของเรา..”พรีโม่ดึงผมเขาไปกอดแน่น
“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ..ขอบคุณมากๆที่ให้โอกาศผมได้แก้ตัวที่ช่วยพวกเขาไว้ไม่ได้..”ผมกอดตอบ..เรากอดกันเนิ่นนานก่อนที่พรีโม่จะคลายกอด..
“เจ้าสมควรที่จะไปแล้วสึนะโยชิ ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่นานเกินไปช่อวว่างของแหวนจะไม่ปล่อยเจ้าออกไปอีกแล้ว..”พรีโม่ปาดน้ำตาที่เริ่มไหลตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ของผมอย่างอ่อนโยน
“นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน..สึนะโยชิ”
“ครับ..”ผมจ้องมองใบหน้าของเจ้าของผมสีทองอย่างไม่อยากที่จะละสายตา..เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราสองคนจะคุยกันในฐานะโคตรปู่หลาน..
หากมีครั้งหน้าเขาก็จะไม่ได้อยู่ข้างๆผมแต่เป็นคนอื่น..ที่ได้สืบทอดตำแหน่งรุ่นที่สิบ..
“Spero che ci incontreremo di nuovo primo.”
(หวังว่าเราจะได้พบกันอีกน่ะครับ พรีโม่)
“Ah..viaggio in tutta sicurezza Decimo.
(อืม..เดินทางโดยสวัสดิภาพหล่ะ เดชิโม่)
พรีโม่ยิ้มให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายเช่นเดียวกับที่ผมยิ้มตอบไป..
ก่อนที่ทุกอย่างจะลางเลือนและขาวโผลนจะไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก..
G27G27G27G27G27G27G27G27
จบตอนแล้ววววว นี้เขียนจนไม่น่าจะค้างแล้วน่า 555+
ตอนหน้าคงใช้เวลาสักพักหย่ายยยยยๆ 555+
แอบขำโคตรปู่หลานแฮะ 555+
แล้วเจอกันจ๊ะ!
ApologiZE!
ความคิดเห็น