ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic GOT7) Mark x Bam เพราะเด็กหลง...ผมก็เลยหลงเด็ก

    ลำดับตอนที่ #9 : เด็กแสบ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 57


    ตอนที่ 9 เด็กแสบ

    แบมแบมจ้องมองไปที่ชายปริศนาสองคนตรงข้างเสาไฟฟ้าที่เริ่มมีความเคลื่อนไหว ตากลมเหลือบมองอย่างระแวดระวังก่อนที่คนร่างบางจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ใบหน้าหวานทำเป็นไม่สนใจก่อนจะลองเดินเข้าไปในโซนข้างในของสวนสาธารณะที่ยังร้างผู้คน


    ถ้าไอ้สองคนนั่นตามแบมแบมมาจริงๆละก็


    คงจะไม่ดีแน่


    แบมแบมเดินอย่างช้าๆไปตามต้นไม้ประดับพุ่มหนาเหมือนคนที่มาเดินชมนกชมไม้ทั่วไป แต่เรียวหูบางกลับจดจ่อฟังเสียงฝีเท้าที่กำลังตามเขามาเรื่อยๆ ใบหน้าหวานเริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอันตราย ก่อนที่ขาเรียวจะหยุดนิ่ง และหันขวับกลับไปมอง


    ทำไมถึงเพิ่มมาอีกตั้ง 3 คน???


    “พวกคุณตามผมมาทำไม?”


    แบมแบมทำใจดีสู้เสือขณะที่ตะโกนถามชายร่างสูงคนหนึ่งที่ดูท่าว่าจะโหดใช่เล่น ชายร่างบึกบึนที่ยืนคุมเชิงอยู่ไม่ไกลอีก  4 คนแสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจขณะที่พวกมันมองขึ้นลงไปทั่วตัวเขาอย่างไม่วางตา


    น่าขยะแขยงเป็นบ้า


    “เราแค่อยากมารับน้องชายของไอ้คุณไปเที่ยวเล่นสักหน่อย”

    “ผมไม่ไปกับพวกคุณหรอก มีไรป่ะ”

    แบมแบมตอบอย่างกวนประสาทก่อนจะมองชายร่างกำยำทั้งห้าที่เริ่มย่างสามขุมเข้ามาหาเขาเรื่อยๆด้วยท่าทางที่คุกคามโจ่งแจ้ง

    “ไปดีๆไม่ชอบ อยากไปในสภาพทุเรศๆมากล่ะสินะ ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”

    “เหอะ ใครกันแน่ที่จะกลับไปในสภาพทุเรศๆ”

    แบมแบมยิ้มเยาะอย่างกวนประสาทก่อนจะตั้งการ์ดด้วยท่าทางเตรียมพร้อมเมื่อเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ตรงหน้าเริ่มทำท่าเหมือนอยากจะเข้ามาใช้กำลังกับเขา


    มาลองมวยไทยหน่อยสิวะ หึ เดี๋ยวรู้เรื่องเลย


    แบมแบมกระโดดหลบอย่างรวดเร็วก่อนจะตวัดขาเตะลงเต็มๆต้นคอของชายคนแรกที่พุ่งกระโจนเข้าหาเขา แรงอัดเต็มแรงของลูกเตะมวยไทยทำให้ชายเคราะห์ร้ายเซจนหน้าจุ่มลงกับพื้นและสิ้นสติไปในที่สุด เหล่าผู้ไม่ประสงค์ดีอีก 4 คนที่เพิ่งได้ประจักษ์ถึงฤทธิ์มวยไทยเป็นอันต้องถอยออกมาตั้งหลักอย่างคิดไม่ถึง

    “ขอบอกก่อนนะ ว่าผมเอาจริง ถ้าพวกคุณไม่อยากลงไปกองที่พื้นเหมือนเพื่อนของคุณ ก็อย่ามายุ่งกับผมอีก”

    ใบหน้าอ่อนเยาว์ที่เคยมีแววออดอ้อนและกวนประสาทบัดนี้หายไปเหลือเพียงแต่เด็กหนุ่มที่แสนน่ากลัว ความโดดเดี่ยวสอนให้เขาต้องเข้มแข็ง
     

    “สมกับเป็นน้องไอ้คุณ  สอนกันมาดีจริงๆ แต่อย่าประมาทพวกเราเลยไอ้หนู”

    “ผมเตือนคุณแล้วนะ”

    แบมแบมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนที่จะเห็นชายร่างกำยำเบื้องหน้าคนหนึ่งที่ดึงมีดพับออกมาจากกระเป๋ากางเกง


    นี่กะจะเอาตัวเขาไปให้ได้งั้นสิ


    คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก


    “ในเมื่อคุณใช้อาวุธ ผมก็คงจะใช้ได้เหมือนกันใช่มั้ย?”

    แบมแบมแสยะยิ้มก่อนจะควักมัจจุราชสีดำที่พกติดตัวตลอดออกมาจ่อไปที่เหล่าชายดวงกุดอีกสี่ที่ตอนนี้แข้งขาอ่อนอย่างตกใจ


    ไหนหัวหน้าบอกว่าแค่จับตัวเด็กมัธยมปลายตัวเล็กๆไม่มีพิษสงไง?


    นี่เด็กคนนี้ถึงขนาดพกปืนติดกระบอกเก็บเสียงแบบนี้


    มันไม่ธรรมดาแล้ว….


    “ผมให้โอกาสพวกคุณมาลากเพื่อนคุณกลับไป ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจยิงพวกคุณทิ้งไว้ที่นี่แทน”

    “กะ แกไม่กล้ายิงหรอก”

    “เหรอ?”


    ปัง!!!!


    แบมแบมวาดปืนไปที่แขนซ้ายของชายคนหนึ่งอย่างแม่นยำก่อนจะจัดการส่งลูกตะกั่วเข้าไปเจาะอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวานเรียบนิ่งไม่มีแววเสียใจหรือสำนึกผิดใดๆทั้งนั้นตากลมตวัดไปมองกลุ่มคนที่เหลือด้วยท่าทางซึ่งไร้ความลังเล ชายหนุ่มอีกสามคนที่เหลือรีบเข้าไปลากเพื่อนที่สลบเหมือดกับเพื่อนที่ถูกยิงแขนแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว


    เด็กคนนี้มันยิงพวกเขาทิ้งได้จริงแน่ๆ


    “เสียเวลาจริงๆ นึกว่าจะได้สนุกกว่านี้สักหน่อย”

    แบมแบมพึมพำเบาๆเท้าเล็กเดินไปตรงตำแหน่งที่มีรอยเลือดก่อนที่จะจัดการเขี่ยทรายโดยรอบมาทับรอยเลือดที่หยดจนมิด ใบหน้าหวานค่อยๆกลับมาผ่อนคลายลงดังเดิมก่อนที่มือบางจะเก็บอาวุธคู่ใจลงใส่กระเป๋าสะพาย ตากลมหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเรียวหูเล็กได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งตรงเข้ามาทางเขาเรื่อยๆ

    “กูเห็นจริงๆนะเว้ยไอ้ยองแจ”

    “เออกูรู้ แต่มึงช่วยช้าลงหน่อยได้มั้ยไอ้ยูค เครื่องในกูจะไหลมากองรวมกันแล้ว”

    เสียงเถียงกันที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆทำให้แบมแบมขมวดคิ้วอย่างแปลกใจก่อนที่ตากลมจะมองเห็นชายร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลาคนหนึ่งซึ่งกำลังกึ่งวิ่งกึ่งลากผู้ชายที่มีใบหน้าหวานใสจนลับแนวไม้พุ่มใหญ่ แล้วดิ่งตรงมาที่เขาอย่างรวดเร็ว

    “นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย พอดีฉันใช้กล้อง เอ้อ ฉันเห็นน่ะ ผ่านตรงหน้าต่าง เหมือนว่านายกำลังมีปัญหา”

    ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนพูดอย่างตะกุกตะกักเบื้องหน้าทำให้แบมแบมอมยิ้มอย่างขำๆ ตากลมเหลือบมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งหายใจหอบๆกองอยู่กับพื้นก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆไร้พิรุธ

    “ไม่มีอะไรแล้วแหละ ขอบใจนะที่เป็นห่วง”

    ยูคยอมยืนอึ้งเมื่อเห็นรอยยิ้มสดใสของคนที่ตนแอบชอบในระยะประชิด  ยูคยอมยืนอึ้งไม่กล้าพูดจาเพราะตอนนี้เขารู้สึกร้อนไปทั้งใบหน้าราวกับว่ามีใครมาจุดไฟใส่หน้าเขาอยู่

    “คือ นายไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เจ้านี่มันตกใจมากเลย เล่นลากฉันมาตั้งแต่หอนู่นแน่ะ”

    ยองแจชี้ไปที่หอของพวกตนหลังจากที่เริ่มหายเหนื่อย หนุ่มหน้าใสจ้องหน้าเพื่อนตัวเท่าควายที่ตอนนี้ก้มหน้านิ่งไม่พูดไม่จาก็รู้ด้วยสัญชาตญาณ(?)


    สงสัยมันคงจะเขิน


    ไอ้ยูคเอ้ย


    แล้วนี่จะไหวมั้ยวะเนี่ย -0-


    “นะ นายหิวมั้ย?”

    จู่ๆยูคยอมที่รวบรวมความกล้าได้ก็ถามแบมแบมไปอย่างอึกอัก ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มมีแววเขินๆก่อนที่คนในดวงใจของเขาจะส่งยิ้มละลายใจมาให้

    “ดีเลย กำลังหิว ฉันชื่อแบมแบมนะ อายุ 17 เรียน โรงเรียน N ยินดีที่ได้รู้จัก”

    แบมแบมแนะนำตัวก่อนจะโค้งให้คนตรงหน้าจนยูคยอมกับยองแจโค้งกลับแทบไม่ทัน

    “ฉันชื่อยูคยอม อายุ 17 เรียนที่โรงเรียน M

    “ฉันยองแจ อายุเท่ากับพวกนายนั่นแหละ เรียนที่เดียวกับเจ้านี่ ว่าแต่โรงเรียน  N นั่นที่มีข่าวว่าจะยุบใช่รึเปล่า”

    แบมแบมพยักหน้าเบาๆก่อนจะเปรยอย่างเซ็งๆกับเพื่อนใหม่ล่าสุดเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นได้

    “ยุบเอาตอนกลางเทอม เล่นเอาฉันเซ็งเลย”

    “แล้วแบมแบมจะไปเรียนต่อที่ไหนอ่ะ?”

    ยูคยอมที่เริ่มเคยชินกับความเขินเอ่ยปากถามอย่างอยากรู้ก่อนที่คนตัวเล็กจะส่ายหน้าเบาๆ

    “ไม่รู้เหมือนกัน แต่เพื่อนเก่าฉันส่วนใหญ่จะสอบเข้าโรงเรียนนายนะ”

    “งั้นนายก็มาสอบเข้าที่นี่ดิ”

    ยองแจเอ่ยด้วยรอยยิ้มจริงใจ เขารู้สึกชอบนิสัยยิ้มเก่งและมารยาทงามของแบมแบมมากเสียจนอยากให้อีกฝ่ายได้มาเรียนด้วยกัน

    “ก็ไม่แน่เหมือนกัน แต่ฉันได้ข่าวว่าข้อสอบเข้าโรงเรียนพวกนายโคตรหินไม่ใช่เหรอ”

    แบมแบมถามอย่างวิตกกังวลก่อนที่ยูคยอมจะเอื้อมมือไปตบไหล่บางของแบมแบมอย่างกล้าหาญ(?)

    “พวกเราสองคนติวให้นายได้นะแบมแบม”

    “ใช่ ไม่ได้อยากโม้นะ แต่ว่าไอ้ยูคเรียนเก่งมาก”

    แบมแบมฟังสรรพคุณของเพื่อนใหม่ร่างยักษ์ก่อนจะฉีกยิ้มออกมาอย่างดีใจ ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลงรัวๆก่อนจะโดดเข้าเกาะแขนเพื่อนใหม่คนละข้างแล้วลากทั้งคู่ไปพร้อมกับเขา

    “งั้นฉันเลี้ยงข้าวกลางวันพวกนายเองนะ”

    ยูคยอมก้มลงมองแขนบางที่คล้องแขนเขาอย่างแนบแน่นก่อนจะรู้สึกเขินจนใบหน้าเห่อร้อน ขาใหญ่ๆรู้สึกเหมือนกับมีตะกั่วมาหล่อจนมันแข็งทื่อไปหมด


    โอยยยยยย ยูคเขิน ยูคอายยยยยย อ๊า อิยา อิยา -////-

    ……………………………………………

    “โหนึกว่าวันนี้จะไม่ได้เห็นหน้ามึงซะละ”

    แจบอมตะโกนด่าเพื่อนสนิทร่างสันทัดที่เพิ่งเดินหน้ามู่ทู่เข้ามาในคลับ ก่อนที่ใบหน้ายับย่นเหมือนคนอารมณ์ไม่ดีจะกระจ่างใสอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นชายหนุ่มผมแดงที่กำลังยืนเขย่ากระบอกเชกเกอร์อยู่ในบาร์

    “ไอ้ต้วนนนนนนนนนนนน ไอ้ต๊วนนนนนนนนนนนนนนนน”

    “เรียกหาพี่มึงอ่อ?”

    มาร์คหันมาด่ามันอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันกลับไปเขย่ากระบอกเชกเกอร์อีกครั้งอย่างไม่สนใจไอ้เตี้ยที่เดินเข้ามาในบาร์ก่อนจะกอดเขาจนเต็มแรงแถมมันยังพยายามถูไถหน้าหล่อๆของมันเข้ากับแก้มของเขาอีก

    “อะไรของมึงเนี่ย กูจะทำงานนะ ไอ้สึด”

    “ก็กูคิดถึงมึงอ้ะ ขอกูหอมแก้มมึงทีดิ”


    โป๊ก!!!


    กระบอกเชกเกอร์ที่อยู่ในมือหนาถูกประเคนลงบนหัวทุยๆของแจ็กสันอย่างแรงจนหนุ่มร่างสันทัดจะล้มลงไปกองกับพื้น มือหนาคลำหัวป้อยๆ แจบอมหัวเราะอย่างสะใจ แต่อีกฝ่ายก็หัวเราะเยาะเพื่อนได้ไม่นานก็ต้องหันมาทำหน้าสลดเมื่อมองเห็นแก้วยาบำรุงลำคอในมือของจินยองที่นั่งข้างๆกัน

    “มึงไม่ต้องไปหัวเราะไอ้แจ็กสัน มึงหันมานี่แล้วแดกยาซะ”

    “หง่า ใจเย็นดิจินยอง เดี๋ยวกูกิน”

    “เดี๋ยวนี้!!!

    แจบอมค่อยๆยกแก้วยาบำรุงสีเทาๆเข้าปากก่อนจะสำลักแล้วไออกมาจนน้ำหูน้ำตาไหล ใบหน้าหล่อเหลาแดงเป็นปื้นเพราะเกิดจากการสำลักอย่างรุนแรง ก่อนที่จินยองจะเทยาในกระบอกที่พกมาเติมลงในแก้วยาที่พร่องไป


    ไม่กินเดี๋ยวไอ้จินยองเตะคว่ำแน่ๆอ่ะ


    มันอุตส่าห์ทำมาให้เขากิน ไม่กินให้หมดเดี๋ยวมันจะเสียใจอีก


    ตะ แต่ยาบำรุงของมันนี่รสชาติหมาไม่แดกจริงๆนะทุกคน ฮรืออออออ บอมมี่เครียด TT^TT


    มาร์คที่ตอนนี้ส่งเครื่องดื่มให้ลูกค้าแล้วเรียบร้อยหันมานั่งข้างๆเพื่อนซี้แสนเกรียนที่ยังคงเอามือกุมหัวไม่ยอมปล่อย

    “อะไร เจ็บเหรอ?”

    “อือ เจ็บดิวะ มึงดูดิ หัวกูปูดเลย”

    แจ็กสันชิ้ไปที่รอยปูดบนหัวของตนก่อนจะเบ้หน้าอย่างเจ็บปวดเมื่อนิ้วเรียวของเพื่อนซี้จะจิ้มลงมาบนรอยปูดอย่างแรงแบบไม่คิดจะออมแรงควายๆของมันไว้

    “เชี่ย ไอ้ต้วน มึงทำไรเนี่ยกูเจ็บนะสึด”

    “คราวหน้าก็อย่ามากวนประสาทตอนกูทำงานดิวะ”

    “ก็กูคิดถึงมึงอ่า”

    “คิดถึงเชี่ยไร กูไม่มาแค่วันเดียวเอง”

    แจ็กสันห่อปากอย่างน้อยใจก่อนที่มาร์คจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทางตลกๆของแจ็กสัน

    “เข้ามาใกล้ๆดิ้”

    แจ็กสันมองมือขาวๆของเพื่อนที่กวักเรียกเขาหยอยๆก่อนที่หนุ่มร่างสันทัดจะยอมลุกขึ้นมาใกล้ๆอย่างว่าง่าย จู่ๆใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนหัวแดงก็ค่อยๆก้มต่ำลงมาที่หัวของแจ็กสัน สายลมร้อนที่ถูกเป่าย้ำๆลงบนรอยปูดบนหัวทำให้แจ็กสันใจเต้นแรงอย่างไม่อาจควบคุมได้

    “มะ มึงทำไรวะมาร์ค”

    “ก๊เป่าหัวมึงไง ไอ้ปูดๆแบบนี้ต้องเจอร้อนๆแบบนี้แหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูซื้อยามาทาให้นะ”

    มาร์คว่าแล้วก็ก้มลงเป่าหัวเพื่อนอยู่ฟู่ๆ นิ้วขาวจิ้มวนเบาๆลงบนรอยปูดของเพื่อนอย่างไม่คิดอะไร

    แต่กับอีกคนนั้นไม่ใช่…..


    ทำไมมึงต้องอ่อนโยนกับกูแบบนี้ด้วยวะไอ้มาร์ค


    แค่นี้กูก็หลงมึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว



    มาต่อฟิคด้วยอาการมึนๆหลังจากเมาน้ำก๋วยเตี๋ยว(เกี่ยวอัลไล๊ย๊ะ?)

    ไรต์ปิดเทอมก็เหมือนไม่ปิดอ่ะทุกคน ฮรือออออ TT^TT

    งานค้างกองพะเนินเทินเป็นเขา แต่ก็ยังแอบมาแต่งฟิคได้นะ 55555

    คือใครที่คิดว่าน้องแบมใสๆนี่ไรต์ขอบอกเลย

    ว่าทุกท่านอาจจะต้องอึ้ง ทึ่ง เสียว กับอดีตของน้องแบมที่ไรต์จะเปิดเผยมันออกมาเรื่อยๆ (เริ่มจิตแระกรูว 555)

    ขอบใจทุกเม้นนะคะ อ่านแล้วกระชุ่มกระชวยมากมาย

    เห็นคนอ่านเริ่มเยอะแบบนี้ไรต์ก็ดีใจแล้วค่ะ เพราะตอนแต่งแรกๆไม่คิดว่าจะมีคนหลงเข้ามาอ่านด้วยซ้ำ เอิ๊กๆ

    รักรีดทุกคนน๊า จู๊ฟๆ ^ ^




    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×