คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คู่หมั้น...คู่ห(ม)าย 3
คู่หมั้น...คู่ห(ม)าย
3
เห็นเมียคนอื่นมันชื่นหัวใจ คิดจะกลับไป
ฟันหน้าเมียสักแผล มองยังไงก็ไม่สวย วุ้ย
แหมซวยแท้แท้ โธ่เอ๋ยเมียแก่มันเป็นเวรกรรม
เห็นเมียชาวบ้านซาบซ่านหัวใจ แต่เหตุไฉน
เมียเรายิ่งมองยิ่งช้ำ ยิ่งตอนมีท้องยิ่งแย่ใหญ่
หัวใจจะคว่ำ ไม่อยากจะพร่ำให้ช้ำดวงใจ
“กูจะไปฟ้องพี่จินยอง”
ยูคยอมพูดขึ้นมาลอยๆขณะที่เดินมานั่งบนเก้าอี้ตัวยาวในบ้านหลังหนึ่ง ตาคมมองร่างสูงๆของคนที่รู้จักมักจี่เป็นอย่างดีซึ่งตอนนี้กำลังนั่งซักผ้าอยู่หน้าบ้านไปพร้อมๆกับร้องเพลงเนื้อหาน่ารักๆใสใส(?) คลอไปกับจังหวะการขยี้เสื้อผ้าที่กองอยู่ประมาณ 3 ตะกร้า= =
“…olo…”
หืมมม ไม่ตอบไม่พอเสือกชูนิ้วกลางให้กูอีกนะมึง
เดี๋ยวรู้เรื่องเลย….
“เดี๋ยวกูบอกพี่จินยองจริงๆด้วยนะแม่ง ไอ้เหยินฮยอง”
“ถ้าจะมากวนส้นตีนก็รีบไสหัวสีขี้นกของมึงออกไป ณ บัดนาววว แล้วใครเหยินห้ะ มึงรู้ป่ะ ตอนเด็กๆกูนี่อดีตหนุ่มน้อยฟันงามสามปีซ้อน…”
“อดีตของมึงนี่สวยงามดีเน้าะ แล้วนี่พี่จินยองไปไหนอ่ะ”
ยูคยอมตัดบทสนทนาที่เริ่มหาสาระไม่ได้ด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ตาเรียวๆกวาดมองไปทั่วบ้านหาพี่ชายหน้าสวยที่ควรมายืนทำหน้าเหี่ยวจิกผัวใช้อย่างเช่นทุกวี่ทุกวัน
แม่ง พี่จินยองกล้าคลาดสายตาจากไอ้พี่เหยินอิมแจบอมนี่ได้ไงวะ???
“วันนี้เมียกลับไปเยี่ยมพ่อตาแม่ยายเว้ย กูเลยฟรีด๊อมมมมมม”
ยูคยอมพยักหน้าหงึกๆก่อนจะเอนตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเซ็งจัด
“ไอ้พี่เหยิน ช่วงนี้ขอมานอนด้วยได้ป่าววะ”
“ไอ้สัส กูไม่นิยมแดกเด็กครัช…”
“ความคิดมึงนี่จัญไรพอๆกะหน้าตาเลยนะไอ้พี่เหยิน…”
อุ๊ย อย่าชมเค้างั้นจิเตงงงงง
เขินสาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด >3<
“ทะเลาะกะไอ้เตี้ยอีกละ?”
แจบอมเอ่ยถามอย่างพอจะคาดเดาได้ เสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นมาจากไอ้รุ่นน้องร่างยักษ์ทำให้คนเงิงงาม(?)ต้องละมือออกจากกะละมังซักผ้าอย่างรวดเร็วด้วยความเผือกอันเป็นคุณสมบัติประจำตัว
“คราวนี้ไอ้เตี้ยมันผุดโปรเจ็กต์ไรมาอีกล่ะ หน้ามึงถึงได้ห่อเหี่ยวอย่างกะคนเจี๊ยวหักปลาย...”
“มึงนี่…แม่ง กูจะทนความบ้าของไอ้เฮียหวังไม่ได้ละนะเว้ย อาทิตย์ก่อนที่สั่งทาสีบ้านเป็นสีชมพูแล้วเพ้นท์คิตตี้รอบบ้านกูยังไม่ได้คิดบัญชีมันเลยนะ มาวันนี้แม่งจะปรับเปลี่ยนบ้านให้เป็นร้านกิ๊ฟช็อปกุ๊กกิ๊กปุ๊กปิ๊กฟรุ้งฟริ้งห่าไรอีกก็ไม่รู้…”
เป็นกูนี่ตัดญาติกะมันไปนานละ
กูยุให้ลูกพี่ลูกน้องเค้าตัดญาติกันนี่ กูไม่ผิดใช่ม้ะครัชทุกท่าน?
“เอาน่า มึงก็ต้องเข้าใจความบ้าของมันหน่อย กูบอกมึงแล้ว ว่าถ้าว่างๆพาแม่งไปรับยาที่โรงบาลมั่ง”
“กูไม่ขำ จบป่ะไอ้พี่เหยิน”
มึงนี่ก็ตอกย้ำความเหยินของกูจัง
เดี๋ยวเอาเงิงเหยินๆนี่เฉาะหน้าแหกเลย ไอ่เด็กเปรตตตต -*-
“มึงทำใจเหอะไอ้ยูคยอม ถึงมันจะไม่เต็มเท่าไหร่มันก็พี่มึงนะ”
“ฮือออออ กูอยากจิครายยยยยยยยยย” TT^TT
……………
ฉันผิดเอง ที่ดูดีมากไป
ฉันผิดเอง ที่หล่อเกินห้ามใจ
ฉันรู้ดีที่ทำให้เธอคลั่งใคล้ แต่จะทำยังไงก็ไม่รู้
ฉันผิดเอง ทำเธอรักมากมาย
ฉันผิดเอง จนต้องมาเจอกับความวุ่นวาย
เธอนั้นต้องเข้าใจ เพราะฉันไม่อาจรักเธอได้ทุกคน
ฉันผิดเอง ที่ดูดีมากไป
ฉันผิดเอง ที่หล่อเกินห้ามใจ
ฉันรู้ดีว่าทำให้เธอคลั่งใคล้ แต่จะทำยังไงก็ไม่รู้
ฉันผิดเอง ทำเธอรักมากมาย
ฉันผิดเอง จนต้องมาเจอกับความวุ่นวาย
แต่เธอนั้นต้องเข้าใจ เพราะฉันไม่อาจจะหล่อได้น้อยลง
เหมือนเพลงนี้มีมาเพื่อกูจริงๆว่ะครัช!!
“เฮ้ยพี่หวัง มึงฟังที่กูเล่าอยู่ป่ะเนี่ย เอาแต่ฟังเพลงอะไรก็ไม่รู้ ถ้าไม่ปิดนี่กูงอนแล้วจริงๆนะเว้ย”
แจ็คสันมองอิเด็กหัวสีขี้ที่กำลังจิ๊ปากใส่เขาก่อนที่พี่หวังคนหล่อจะยอมปิดวิทยุทานิลเพื่อเอาใจไอ้น้องชายร่วมรุ่นที่ตอนนี้ทำหน้าบูดหน้าบึ้งยิ่งกว่าสายน้ำผึ้งตอนโดนแย่งผัวซะอีก
ดีออกชริงๆแต่ละมุก = =”
“ก็ดีไม่ใช่เหรอวะ ได้หมั้นกะลูกคนรวย แถมพ่อแม่พี่น้องเค้าก็รักมึง นี่มึงยังจะมาบ่นงุงิๆอะไรอีก?”
“มึงไม่เป็นกูมึงไม่เข้าใจหรอกไอ้พี่หวัง”
เออ!! กูก็ไม่เข้าใจมึงเหมือนกันละว่ะ
กำลังจะได้หมั้นกะลูกคนรวยนี่มึงยังมีเหี้ยไรให้กังวลอีก?
เป็นกูนะ จะรีบหมั้นๆแต่งๆให้มันเสร็จๆไปเลย
“กูไม่อยากหมั้นอ่ะ กูไม่อยากหม้านนนนนนนนนนนนนนน”
“มึงจะสกรีมหาพี่มึงอ่อ มึงก็ทำใจยอมรับชะตากรรมไปเหอะ มาปรึกษากู กูก็ช่วยเหี้ยไรมึงไม่ได้หรอกว่ะ แค่ไอ้ยูคยอมงอนหนีออกไปจากบ้านกูก็เฟลพอละ”
“เป็นกู กูก็ไม่อยู่ว่ะ ทำเหี้ยไรกะบ้านวะพี่หวัง สีบ้านตอนนี้นี่กระแดะมากอ่ะ ถามจริง มึงตุ๊ดป้ะเนี่ย?”
“ไอ่สัส เด้ะตบคว่ำ”
หลังจากพูดคุยกันด้วยความรัก(?)ตามประสาพี่ๆน้องๆเสร็จแบมแบมก็ขอตัวออกจากบ้านของรุ่นพี่ตัวสั้นไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น ถึงแม่งจะให้คำปรึกษาอะไรเขาได้ไม่มากแต่อย่างน้อยๆก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นนิดหน่อย
ร่างบางก้มลงมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตนเองก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ ประกาศิตของหม่อมแม่ที่อุตส่าห์ยอมเปลืองค่าโทรศัพท์ โทรหาเขาตอนพักเที่ยงยังก้องอยู่ในหูให้หลอนเล่นๆ
“เลิกเรียนแล้วกลับบ้านมาเลยนะ ไม่ต้องไปทำงานพิเศษ พวกระกูลต้วนเค้าจะมารอรับลูก เข้าใจมั้ยห้ามเบี้ยว!! แค่นี้นะ เดี๋ยวเกิน 1 นาที…ตู๊ดดดดดดดดดดดด”
ไม่ได้เปิดโอกาสให้ลูกชายสุดหล่อคนนี้ได้ปฏิเสธเล้ยขุ่นแม่ TT^TT
แบมแบมคว้าแฮนด์จักรยานคันเก่าของตัวเองที่พิงไว้ที่รั้วสีชมพูแปร๊ดหน้าบ้านพี่ชายคนสนิทก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วปั่นไปตามถนนช้าๆ
ขอถ่วงเวลาสักพักได้มั้ย?
ขอเวลาทำใจให้เขาสักนิดก็ยังดี
ฮอลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล TToTT
………
ร่างโปร่งที่ทรุดนั่งอยู่ปลายเตียงโงนเงนไปมาน้อยๆเหมือนกับคนที่นอนหลับไม่เต็มอิ่ม ใบหน้าคมคายที่เคยดูดีอยู่เสมอเปื้อนเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา ขอบตาที่ดำคล้ำ ริมฝีปากสวยที่ถูกเขี้ยวคมขบกัดจนห้อเลือด ปลายจมูกโด่งที่แดงจัดหลังจากที่เจ้าตัวผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เรือนผมสีแสดนั้นยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงจนโฮสต์หนุ่มสุดหล่อค่าตัวเหยียบสิบล้านคนนี้มีสภาพไม่ต่างจากซอมบี้ที่หลุดออกมาจากหนังสยองขวัญ
ใช่ ตอนนี้มาร์ค ต้วน คนหล่อคนนี้นี่แหละที่กำลังนั่งร้องไห้ แงรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร TToTT
ทำไมสวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งมาร์คถึงเพียงนี้ ทำไม Why??????
ต้องเสียซิงให้ไอ้เด็กเกย์ตัวดำ นิสัยเหียกๆแบบนั้นนี่เสียชาติเกิดมากอ่ะ
แถมแม่งยังเป็นอิว่าที่คู่หมั้นที่บ้านหามาให้โดยไม่ได้ร้องขออีก….
พ่อมึงงงงงง ชีวิตกูนี่ดราม่ายิ่งกว่าทาเคชิกะริวซะอีก ถ่อวววววววววว TT^TT
มาร์คมองมือถือเครื่องโปรดของตัวเองที่มีข้อความซึ่งเปิดอ่านแล้วเรียบร้อยด้วยดวงตาเลื่อนลอย อิข้อความนี่ก็ไม่ได้ช่วยปลอบอกปลอบใจในความอับโชคของเขาเลยสักนิดนี่มันอัลไล????
“ลูกมาร์คจ๋า เย็นนี้กลับมาบ้านเรานะจ๊ะลูก เราจะพาแบมแบมมากินข้าวที่บ้านเรา อาม่าดีใจมากเลยนะที่รู้ว่ามาร์คกับแบมแบมเข้ากันได้ดี ลูกอย่าทำให้อาม่าผิดหวังนะจ๊ะ เข้าใจใช่มั้ยว่าอาม่าแกก็แก่มากแล้ว คงอยู่กับเราได้ไม่นาน อะไรที่ทำแล้วอาม่าแกมีความสุข มาร์คก็ช่วยทำให้แกหน่อยได้มั้ยลูก ถือว่าแม่ขอร้องละกันนะจ๊ะ”
แล้วแบบนี้นี่จะให้เขาปฏิเสธได้ยังไง….
มาร์คค่อยๆชันตัวลุกขึ้นจากเตียงกว้างของตนเอง เดินกะเผลกๆไปที่ห้องน้ำของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ห่อเหี่ยว ใบหน้าที่ซีดเซียวเต็มไปด้วยความรู้สึกเคร่งเครียด
ทั้งๆที่เขาไม่คิดจะกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกแล้วแท้ๆ
แต่เอาเถอะ เจ้านั่นก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้วนี่ เนอะ?
…………….
ณ ตอนนี้ แบมแบมกำลังยืนหน้าหงิกอยู่หน้าประตูบ้านหลังเล็กๆของตัวเอง ร่างบางจูงจักรยานคันเก่งเข้าไปเก็บข้างในก่อนที่ตัวเองจะนั่งอย่างเซ็งๆตรงบันไดหน้าบ้าน ตากลมมองถนนลาดชันเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย
ฟีลลิ่งพระเอกสัสๆอ่ะกู = =
“นี่แบม กลับมาแล้วอย่ามัวแต่มานั่งซื่อบื้อตรงนี้สิ รีบเข้าไปอาบน้ำอาบท่าแต่งเนื้อแต่งตัวให้สะอาดเรียบร้อย อีกครึ่งชั่วโมงพวกตระกูลต้วนก็จะมากันแล้วนะ”
“คร้าบๆคุณแม่”
แบมแบมถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ขณะที่เดินเนือยๆเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะอ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึงกับข้าวของเครื่องใช้ที่เปลี่ยนไปในบ้านตัวเอง
“เฮ้ย ทำไมโซฟา ทีวี ตู้เย็น ฮีทเตอร์ แล้วนั่น…. เฮ้ย เฮ้ยๆๆๆๆ แม่ นี่แม่ปล้นเขามาเหรอ?”
ผลัวะ!!!
เสียงตบเน้นๆไม่มีออมแรงนั่นแหละแม่กูล่ะ วิ้งถึงดาวพระศุกร์เลยมึงสมองไหลออกหูนี่เรื่องใหญ่เลยนะแม่
“ถ้าผมเกิดโง่ขึ้นมาแม่ต้องรับผิดชอบชีวิตผมเลยนะ” ฮรืออออ เจ๊บบบบบบบบบบบบบ TT^TT
“ก็แกมากวนตีนแม่ก่อนทำไมล่ะ แล้วนี่ก็เป็นของขวัญจากอาม่าเค้าทั้งนั้น แกเห็นรึยังว่าเค้าดีกับเราขนาดไหน ดูสิ ทีวีรุ่นใหม่ล่าสุดที่รองรับระบบ 100D ประดับเพชร แล้วนี่ก็โซฟาไฟฟ้านั่งแล้วสบายแถมยังนวดคลายเส้นให้ได้แล้วนี่ยัง…”
“เยอะแระแม่ แบมยังไม่ทันได้หมั้นกับเค้าเลยนะ ทำไมไปรับของเค้ามาแบบนี้อ่า”
“อย่าพูดมาก ไปๆ ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว”
แบมแบมเดินกระแทกเท้าอย่างหงุดหงิดเข้าไปในห้องนอนของตัวเองที่แชร์กันอยู่กับพี่ชายทั้งสอง……
“อ่ะ..”
โฟร๊ยยยยยยยยยย เกลียดคนรวยโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
กูไม่เอาอิห้องหรูๆนี่ กูจะเอาห้องนอนเก่าๆของกรูวววววววววววววววววววววววววว
………………..
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ยิ่งเราปรารถนาให้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้ามากเท่าไหร่ เวลาก็จะยิ่งผ่านมาอย่างรวดเร็ว…
อินักปรัชญาห่ารากอะไรที่เคยกล่าวไว้น่ะ มันเป็นใคร?
กูอยากรู้จักจริงๆ จะได้ไปร้องไห้อัดแม่มมมม
แบมแบมนั่งตัวเกร็งอยู่เบื้องหน้าคนเกือบๆ 30 คน ใบหน้าของคนแปลกหน้าที่มองมาที่เขาอย่างสนใจทำให้คนตัวเล็กรู้สึกประหม่า จนทำตัวไม่ถูก สายตาที่มองมาอย่างใคร่รู้นั่นทำให้เขาจะหยิบจะจับอะไรก็ไม่สะดวกเลยจริงๆ
“จะนั่งแข็งทื่อแบบนี้อีกนานมั้ย?”
แบมแบมตวัดตามองไอ้ผู้ชายที่ต้องมาเป็นคู่หมั้นของเขาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
แม่งงงง ทีตอนเช้ามันยังนั่งร้องไห้จะเป็นจะตายซะให้ได้อยู่เลยอ่ะ
แล้วดูแม่งตอนนี้ดิ ออร่าความหล่อนี่ฟุ้งแทบกระเด็นใส่กูเลยนะมึง
สัส หมั่นไส้ว่ะ
“มาร์คตักเป็ดปักกิ่งให้น้องสิ น้องน่าจะชอบนะ”
เสียงยุจากใครสักคนที่เขาไม่รู้จักทำให้แบมแบมขบริมฝีปากล่างของตัวเองเบาๆข่มอารมณ์ปรี๊ดแตกของตัวเองที่ตอนนี้กำลังพุ่งสูง ตากลมมองมือหนาของอีกฝ่ายที่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อเป็ดที่ถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำมาวางลงบนจานเบื้องหน้าของเขา
นี่กูต้องแดกอิเป็ดปักตะไคร้หนังกร๊อบกรอบนี่จริงๆช้ะ?
เออ แดกก็แดกว่ะ
แบมแบมคีบเป็ดชิ้นเล็กเข้าปากก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆจนแก้มพอง เสียงฮือเบาๆจากผู้ใหญ่ที่ร่วมโต๊ะอาหารทำให้คนตัวเล็กขมวดคิ้วอย่างงงๆ
นี่กูกินมูมมามเหรอ?
“นี่ ไม่คิดจะตักอะไรให้ฉันบ้างเลยรึไง?”
เสียงทุ้มของคนที่นั่งหล่ออยู่ข้างๆทำเอาอารมณ์ฟินหนังเป็ดกรอบของแบมแบมลดฮวบราวๆ 50%
“อยากกินไรล่ะ?”
มองตามนิ้วเรียวๆที่ชี้ไปที่กุ้งเผาตัวโตก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเจ้าสัตว์สีส้มมาวางลงบนจานเบื้องหน้าของอีกคนอย่างเคืองๆ
“อ่ะ แล้วไม่ต้องกระแดะแกะกินเองไม่เป็นนะมึง”
กระซิบด่าอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาที่อีกคนมองมา
“นี่แกะไม่เป็นจริงดิ?”
“อืม แต่ชอบกินอ่ะ”
เอออออ กูก็ลืมไปเน้อะ..
ว่าแม่งลูกคนรวยยยยยย แกะกุ้งแดกเองไม่เป็นหรอก ทุ้ยยยยยยยย
“มึงนะมึง แกะแค่ตัวเดียวพอนะ ถ้าอยากแดกอีกแทะเองเอาก็แล้วกัน”
แบมแบมดึงจานของคนข้างๆมาแกะเปลือกกุ้งให้อีกฝ่ายอย่างตั้งอกตั้งใจท่ามกลางสายตาเอ็นดูที่สาดมารอบทิศโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว
“เด็กคนนี้นี่น่ารักเนอะ ดูแลเจ้ามาร์คดีจริงๆ”
“มารยาทก็ดี หน้าตาก็น่าชัง เห็นตอนกินนั่นมั้ย โอ๊ย เห็นแล้วอยากฟัดแก้ม”
มาร์คจิ๊ปากอย่างไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับคำชมของญาติๆที่มอบให้ไอ้เด็กข้างกายนี่เลยสักนิด
มารยาทดีเหรอ?
ถ้าพวกลุงๆป้าๆเขารู้ว่าไอ้เด็กนี่มันปากหมา ใจทรามขั้นแอดวานซ์ขนาดไหน
คงจะรีบถอนคำพูดแทบไม่ทันแน่ๆ
แล้วที่ว่าหน้าตาน่ารัก….
หน้าตามันก็ไม่ได้น่ารักอะไรขนาดนั้นนะ แค่ตามันกลมโตเกินไปหน่อย ขนตางอนยาวเรียงเป็นแพเกินไปนิด จมูกโด่งที่รับกับรูปหน้าเรียว แก้มป่องๆที่เหมือนกับจะแตกออกมาเวลาเคี้ยวอาหาร ริมฝีปากที่อิ่มจนค่อนไปทางหนา เรือนผมสีสว่างที่ถูกปัดมาปรกคิ้วบาง รูปหน้าที่โดยรวมแล้วสรุปได้ง่ายๆว่าไม่หล่อ
แต่ก็….น่ารัก….
นิดนึงละมั้ง
“อ่ะ เสร็จละ แล้วนี่จะนั่งจ้องหน้าทำไม ความหล่อกูกระแทกเบ้าตามึงอ่อ?”
ไอ้เด็กปากหมานี่….
มาร์คผุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาน้อยๆก่อนจะคีบกุ้งในจานเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆอย่างพอใจกับรสชาติละมุน ก่อนจะหันมากระซิบเบาๆกับคนที่นั่งคีบเป็ดเข้าปากอยู่ข้างๆด้วยระดับเสียงที่ไม่เบานัก
“ขอบใจนะครับ กุ้งนี่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมาเลยแหละ ที่รัก”
“!!!!”
มาร์คใสใส….
ก็ไม่ได้มีอยู่จริงเหมือนกัน….
มาต่อให้ครบ 100% ก่อนจะหนีไปเที่ยวงานวันแม่ อิอิ
ใกล้วันแม่กันแล้วน๊า ใครมีแม่ก็กราบแม่กันเลยเน้อ
ถึงจะไม่ใช่วันแม่ก็กราบแม่กันได้นะ (สาระมาเต็ม 5555)
ฟิคเรื่องนี้นี่กากจิง แต่งเองยังรู้สึกได้ถึงสาระที่ไม่มีเลยในเรื่องนี้
แต่ก็จะพยายามแต่งให้มันดีขึ้นแน่ค๊า สัญญาๆ
ฟิคเก่านี่ยังไม่ยอมต่อให้จบเลยอ่ะตอนนี้//ตบมัน
จะส่ง nc ก็ไม่ได้ e-mail เป็นไรม้ะรุ้
อยากจิครายเป็นเพื่อนคยอมมี่จิงๆ TT^TT
ความคิดเห็น