คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความหวัง
ชั้นเรียนใหม่ของฉันเริ่มต้นขึ้นอย่างที่ฉันคาดฝันไว้ เริ่มแรกฉันแนะนำตัวกับเพื่อนๆ ก่อนจะตรงไปนั่งยังโต๊ะเรียนที่ว่างอยู่ ฉันได้นั่งที่แถวริมสุดของห้องซึ่งอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ นักเรียนหญิงผู้หนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอไว้ผมสั้นต่างจากฉันที่ไว้ผมยาวจรดปลายหลัง แต่เธอก็ดูสดใสและน่ารักมากเลย เธอมีชื่อว่านิค และนิคก็เป็นเพื่อนคนแรกที่ฉันได้รู้จักในโรงเรียนแห่งนี้
เมื่อถึงเวลาพักกลางวันเพื่อนหลายคนเดินมายังโต๊ะที่ฉันนั่งเพื่อทำความรู้จักกับฉัน โดยเฉพาะกับพวกหนุ่มๆ ที่ดูว่าจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
"หวัดดีครับ ผมชื่อเพชร" นักเรียนชายคนหนึ่งที่มีผิวสีแทนกล่าวขึ้น
"ผมชื่ออาร์มครับ หิวไหมครับ ไปทานข้าวกันมั๊ย เมย์อาจไปไม่ถูก เดี๊ยวให้อาร์มไปเป็นเพื่อนได้นะ"
"เมย์อยากเดินทัวร์โรงเรียนไหมละ เต้รู้จักโรงเรียนนี้ดีนะ"
"นี่ ๆ..! ถอยไปหน่อยซิ" เสียงนักเรียนชายคนนึงกล่าวขึ้น ว่าแต่..เสียงนี้รู้สึกคุ้นหูยังไงชอบกล..
และแล้วฉันก็เห็น "ไมล์นั้นเอง" ตอนนี้เค้ากำลังเดินแหวกกลุ่มนักเรียนชายเพื่อเดินเข้ามาหาฉัน
"ไปกินข้าวกัน" ไมล์กล่าวพร้อมรอยยิ้มสดใสละลายใจสาว
"อืม...ไปซิ" ฉันเอ่ยตอบพร้อมพยักหน้ารับ แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะชวนเชิญเพื่อนใหม่คนแรกของฉันลงไปทานข้าวด้วยกัน เพื่อนน่ารักๆ แบบนี้ยิ่งหายากอยู่ด้วย..
"ไม่ละ พวกเธอไปเถอะ" นิคกล่าวปฏิเสธ
"เอาอย่างนั้นเหรอ งั้นเดียวคาบบ่ายเจอกันนะ"
“อืม แล้วเจอกันจ๊ะ”
เมื่อฉันและไมล์เดินเข้ามาถึงในบริเวณโรงอาหาร นักเรียนส่วนมากต่างมองเราเป็นตาเดียว ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าจะมองทำไมกันหนักหนา เมื่อหาโต๊ะนั่งได้ฉันจึงนั่งรออยู่ที่โต๊ะส่วนไมล์ได้แยกตัวออกไปเพื่อต่อแถวซื้ออาหารที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโรงอาหาร ฉันนั่งรอที่โต๊ะแล้วมองออกไปชมทิวทัศน์รอบนอกโรงอาหาร เพราะฉันเบื่อสายตาของทุกคนที่จ้องมองฉัน คล้ายดังว่าฉันเป็นตัวประหลาด..เฮอะ..หรือว่านี้จะเป็นการรับน้องใหม่ของที่นี้นะ ถ้าใช่ละก็... โรงเรียนแห่งนี้ก็มีวิธีการรับน้องใหม่ที่แปลกเต็มที เมย์นั่งนิ่งอย่างไม่คิดอะไรมากกับพฤติกรรมของคนรอบข้าง เธอไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลกลใดผู้คนถึงมองมาทางเธอ และเธอก็ไม่รู้อีกเช่นกันว่า..หนึ่งในผู้คนที่กำลังจดจ้องมองเธอนั้น คือหญิงสาวที่เธอได้พูดคุยโทรศัพท์ในตอนเช้าด้วยกันนั้นเอง
“ผู้หญิงคนนั้นแน่ใช่มั๊ย”
“อืม เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่..อยู่ห้องเดียวกับฉันด้วย..แถมที่นั่งยังติดกันเสียอีก” นิคกล่าวเสียงเรียบพลางจิ้มส้อมลงบนชิ้นแตงโมสามเหลี่ยมที่แสนจะน่าทานขึ้นมาชิมรสชาติ
“ก็ดี..ฉันจะได้จัดการอะไรง่ายๆ หน่อย” หนิงเอ่ย ในขณะที่สายตายังคงไม่ละจากภาพเบื้องหน้า ภาพที่ไมล์กำลังทานข้าวกับผู้หญิงคนใหม่ ผู้หญิงที่ชื่อว่า เมล์ มาริสา
“เธอจะทำอะไร” เพื่อนอีกคนหนึ่งที่นั่งเก้าอี้ตรงกันข้ามถามขึ้น เธอเป็นหญิงสาวที่มีดวงตากลมโต และไว้ผมยาวประบ่า สำหรับเพื่อนในกลุ่มของเธอแล้ว อาจจะเรียกได้ว่าเธอคือมันสมองประจำกลุ่ม และเธอเองนี้แหละที่มักจะเป็นผู้ที่คอยทัดทานการกระทำของหนิงที่ในบางครั้งจะขาดการยั้งคิด ขาดการคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ....เธอเข้าใจและรู้ซึ้งถึงปัญหาของเพื่อนรักที่กำลังประสบ สำหรับหนิงแล้ว ปัญหาในลักษณะนี้จะมีขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนและไม่มีทางสิ้นสุด ตราบเท่าที่เพื่อนของเธอยังจะรักผู้ชายที่ชื่อว่าไมล์
“ไม่รู้สิถิง..เอาไว้คิดออกแล้วฉันจะบอก ตอนนี้ฉันต้องการรู้แค่ว่า..ผู้หญิงคนนั้นกับคนที่โทรศัพท์คุยกับฉันเมื่อตอนเช้าคือคนเดียวกันรึเปล่า”
“อาจจะใช่นะ เพราะตอนเช้าฉันเห็นเมย์นั่งซ้อนท้ายรถของไมล์มาโรงเรียนด้วยล่ะ” นิคกล่าวแสดงความเห็นหลังจากที่จัดการกับผลไม้ตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"อะไรนะ พูดอีกทีซิ" หนิงเอ่ยเสียงหลง
“ก็อย่างที่ได้ยินนั้นแหละ”
“เธอแน่ใจนะว่าไม่ได้ตาฝาด วันนี้เธอลืมใส่คอนแทคเลนส์มาไม่ใช่เหรอ....คนอย่างไมล์ไม่ชอบให้ใครมาซ้อนท้ายรถ ใครๆ ก็รู้” ถิงกล่าวแย้ง เพราะทุกคนทราบกันดีว่าไมล์เป็นผู้ชายที่หวงรถมอเตอร์ไซด์คันนี้มากแค่ไหน แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนยังไม่เคยเลยซักครั้งที่จะได้ขึ้นนั่งซ้อนรถ
“แต่ไม่ใช่สำหรับเมย์ ไม่ใช่สำหรับคนๆ นี้และไม่ใช่ฉันคนเดียวที่เห็นนะ คนเห็นกันเยอะไป รู้สึกว่าพวกบาสก็น่าจะเห็นนะ เห็นผ่านๆ ว่านั่งกันอยู่แถวนั้น” นิคกล่าวอธิบาย “ฉันรู้ว่าพวกเธออาจไม่เชื่อฉัน แต่สายตาฉันก็ไม่แย่ขนาดนั้น พวกเธอก็รู้”
ความเงียบเข้าครอบงำ พวกเธอมั้งสาม ความจริงที่อยู่ตรงหน้าอาจจะยากสักหน่อยสำหรับการยอมรับมัน โดยเฉพาะกับหนิงที่กำลังเหม่อมองภาพคนทั้งสองเดินคู่กันออกไปยังบริเวณีอบนอกโรงอาหาร
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำ” หนิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันแสนจะแผ่วเบา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินผละออกไป
“เธอไม่ควรพูดเลยนะนิค หนิงเค้าเสียใจมากนะ” ถิงกล่าวตำหนิเพื่อนทันทีหลังจากที่หนิงเดินห่างออกไปไกลเกินรัศมีการได้ยิน
“ถ้าฉันไม่พูด เค้าก็ต้องรู้เองซักวัน เธอเลิกปกป้องหนิงได้แล้ว เลิกสนับสนุนและให้ความหวังเค้า เธอก็รู้เท่าๆ กับฉัน ไมล์ไม่ได้รักหนิง” นิคกล่าวชัดอย่างตั้งใจในจุดยืนของตนเอง
“ฉันรู้ แต่เมื่อคนเรามีความรัก ก็ควรมีความหวังไม่ใช่เหรอ”
ความคิดเห็น