ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อลม่าน...วัยใสวุ่นรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ความหวัง

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 51


                   ชั้นเรียนใหม่ของฉันเริ่มต้นขึ้นอย่างที่ฉันคาดฝันไว้  เริ่มแรกฉันแนะนำตัวกับเพื่อนๆ  ก่อนจะตรงไปนั่งยังโต๊ะเรียนที่ว่างอยู่   ฉันได้นั่งที่แถวริมสุดของห้องซึ่งอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่   นักเรียนหญิงผู้หนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว  เธอไว้ผมสั้นต่างจากฉันที่ไว้ผมยาวจรดปลายหลัง  แต่เธอก็ดูสดใสและน่ารักมากเลย  เธอมีชื่อว่านิค  และนิคก็เป็นเพื่อนคนแรกที่ฉันได้รู้จักในโรงเรียนแห่งนี้
                    เมื่อถึงเวลาพักกลางวันเพื่อนหลายคนเดินมายังโต๊ะที่ฉันนั่งเพื่อทำความรู้จักกับฉัน  โดยเฉพาะกับพวกหนุ่มๆ  ที่ดูว่าจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
                    "หวัดดีครับ  ผมชื่อเพชร"  นักเรียนชายคนหนึ่งที่มีผิวสีแทนกล่าวขึ้น
                    "ผมชื่ออาร์มครับ  หิวไหมครับ  ไปทานข้าวกันมั๊ย  เมย์อาจไปไม่ถูก  เดี๊ยวให้อาร์มไปเป็นเพื่อนได้นะ"
                    "เมย์อยากเดินทัวร์โรงเรียนไหมละ  เต้รู้จักโรงเรียนนี้ดีนะ"
                    "นี่ ๆ..!  ถอยไปหน่อยซิ"  เสียงนักเรียนชายคนนึงกล่าวขึ้น  ว่าแต่..เสียงนี้รู้สึกคุ้นหูยังไงชอบกล..
      และแล้วฉันก็เห็น  "ไมล์นั้นเอง" ตอนนี้เค้ากำลังเดินแหวกกลุ่มนักเรียนชายเพื่อเดินเข้ามาหาฉัน  
                    "ไปกินข้าวกัน"  ไมล์กล่าวพร้อมรอยยิ้มสดใสละลายใจสาว
                    "อืม...ไปซิ"  ฉันเอ่ยตอบพร้อมพยักหน้ารับ  แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะชวนเชิญเพื่อนใหม่คนแรกของฉันลงไปทานข้าวด้วยกัน  เพื่อนน่ารักๆ  แบบนี้ยิ่งหายากอยู่ด้วย..
                    "ไม่ละ  พวกเธอไปเถอะ"  นิคกล่าวปฏิเสธ
                    "เอาอย่างนั้นเหรอ  งั้นเดียวคาบบ่ายเจอกันนะ"                                                                                                
                    “อืม  แล้วเจอกันจ๊ะ
                    เมื่อฉันและไมล์เดินเข้ามาถึงในบริเวณโรงอาหาร  นักเรียนส่วนมากต่างมองเราเป็นตาเดียว  ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ  ว่าจะมองทำไมกันหนักหนา  เมื่อหาโต๊ะนั่งได้ฉันจึงนั่งรออยู่ที่โต๊ะส่วนไมล์ได้แยกตัวออกไปเพื่อต่อแถวซื้ออาหารที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโรงอาหาร   ฉันนั่งรอที่โต๊ะแล้วมองออกไปชมทิวทัศน์รอบนอกโรงอาหาร  เพราะฉันเบื่อสายตาของทุกคนที่จ้องมองฉัน  คล้ายดังว่าฉันเป็นตัวประหลาด..เฮอะ..หรือว่านี้จะเป็นการรับน้องใหม่ของที่นี้นะ  ถ้าใช่ละก็... โรงเรียนแห่งนี้ก็มีวิธีการรับน้องใหม่ที่แปลกเต็มที                                                                เมย์นั่งนิ่งอย่างไม่คิดอะไรมากกับพฤติกรรมของคนรอบข้าง  เธอไม่รู้สาเหตุ  ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลกลใดผู้คนถึงมองมาทางเธอ  และเธอก็ไม่รู้อีกเช่นกันว่า..หนึ่งในผู้คนที่กำลังจดจ้องมองเธอนั้น  คือหญิงสาวที่เธอได้พูดคุยโทรศัพท์ในตอนเช้าด้วยกันนั้นเอง

                    ผู้หญิงคนนั้นแน่ใช่มั๊ย 

                    อืม  เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่..อยู่ห้องเดียวกับฉันด้วย..แถมที่นั่งยังติดกันเสียอีก  นิคกล่าวเสียงเรียบพลางจิ้มส้อมลงบนชิ้นแตงโมสามเหลี่ยมที่แสนจะน่าทานขึ้นมาชิมรสชาติ 

                    ก็ดี..ฉันจะได้จัดการอะไรง่ายๆ  หน่อย  หนิงเอ่ย  ในขณะที่สายตายังคงไม่ละจากภาพเบื้องหน้า  ภาพที่ไมล์กำลังทานข้าวกับผู้หญิงคนใหม่  ผู้หญิงที่ชื่อว่า  เมล์  มาริสา

    เธอจะทำอะไร  เพื่อนอีกคนหนึ่งที่นั่งเก้าอี้ตรงกันข้ามถามขึ้น  เธอเป็นหญิงสาวที่มีดวงตากลมโต  และไว้ผมยาวประบ่า  สำหรับเพื่อนในกลุ่มของเธอแล้ว  อาจจะเรียกได้ว่าเธอคือมันสมองประจำกลุ่ม  และเธอเองนี้แหละที่มักจะเป็นผู้ที่คอยทัดทานการกระทำของหนิงที่ในบางครั้งจะขาดการยั้งคิด  ขาดการคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา  ....เธอเข้าใจและรู้ซึ้งถึงปัญหาของเพื่อนรักที่กำลังประสบ  สำหรับหนิงแล้ว  ปัญหาในลักษณะนี้จะมีขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนและไม่มีทางสิ้นสุด  ตราบเท่าที่เพื่อนของเธอยังจะรักผู้ชายที่ชื่อว่าไมล์

    ไม่รู้สิถิง..เอาไว้คิดออกแล้วฉันจะบอก  ตอนนี้ฉันต้องการรู้แค่ว่า..ผู้หญิงคนนั้นกับคนที่โทรศัพท์คุยกับฉันเมื่อตอนเช้าคือคนเดียวกันรึเปล่า 

    อาจจะใช่นะ  เพราะตอนเช้าฉันเห็นเมย์นั่งซ้อนท้ายรถของไมล์มาโรงเรียนด้วยล่ะ  นิคกล่าวแสดงความเห็นหลังจากที่จัดการกับผลไม้ตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    "อะไรนะ  พูดอีกทีซิหนิงเอ่ยเสียงหลง

    ก็อย่างที่ได้ยินนั้นแหละ

    เธอแน่ใจนะว่าไม่ได้ตาฝาด  วันนี้เธอลืมใส่คอนแทคเลนส์มาไม่ใช่เหรอ....คนอย่างไมล์ไม่ชอบให้ใครมาซ้อนท้ายรถ  ใครๆ  ก็รู้  ถิงกล่าวแย้ง  เพราะทุกคนทราบกันดีว่าไมล์เป็นผู้ชายที่หวงรถมอเตอร์ไซด์คันนี้มากแค่ไหน  แม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนยังไม่เคยเลยซักครั้งที่จะได้ขึ้นนั่งซ้อนรถ

    แต่ไม่ใช่สำหรับเมย์  ไม่ใช่สำหรับคนๆ  นี้และไม่ใช่ฉันคนเดียวที่เห็นนะ  คนเห็นกันเยอะไป  รู้สึกว่าพวกบาสก็น่าจะเห็นนะ  เห็นผ่านๆ  ว่านั่งกันอยู่แถวนั้น  นิคกล่าวอธิบาย  ฉันรู้ว่าพวกเธออาจไม่เชื่อฉัน  แต่สายตาฉันก็ไม่แย่ขนาดนั้น  พวกเธอก็รู้

    ความเงียบเข้าครอบงำ  พวกเธอมั้งสาม  ความจริงที่อยู่ตรงหน้าอาจจะยากสักหน่อยสำหรับการยอมรับมัน  โดยเฉพาะกับหนิงที่กำลังเหม่อมองภาพคนทั้งสองเดินคู่กันออกไปยังบริเวณีอบนอกโรงอาหาร

    ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำ  หนิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันแสนจะแผ่วเบา  ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินผละออกไป

    เธอไม่ควรพูดเลยนะนิค  หนิงเค้าเสียใจมากนะ  ถิงกล่าวตำหนิเพื่อนทันทีหลังจากที่หนิงเดินห่างออกไปไกลเกินรัศมีการได้ยิน

    ถ้าฉันไม่พูด  เค้าก็ต้องรู้เองซักวัน  เธอเลิกปกป้องหนิงได้แล้ว  เลิกสนับสนุนและให้ความหวังเค้า  เธอก็รู้เท่าๆ  กับฉัน  ไมล์ไม่ได้รักหนิง  นิคกล่าวชัดอย่างตั้งใจในจุดยืนของตนเอง

    ฉันรู้  แต่เมื่อคนเรามีความรัก  ก็ควรมีความหวังไม่ใช่เหรอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×