ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงสุดซ่า กับ เจ้าชายสุดป่วน

    ลำดับตอนที่ #1 : princess..vs.. prince :+:1:+:

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 49


          ก๊อก  ก๊อก ก๊อก !!

       "เจ้าหญิงคะ  เจ้าหญิงเฟเรียนา  ตื่นบรรทมได้แล้วค่ะ"  หญิงสาวผิวขาว  นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมด้วยแพขนตางอนยาว  จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ  ผมยามดำขลับเป็นเงางามถึงกลางหลัง เป็นเจ้าของเสียงเรียก

         " อืม  อีกนิดนะ  กำลังสบายเลย  เสียงหญิงสาวผู้ถูกเรียกตอบทั้งๆ  ที่ยังคงหลับตาพริ้มอย่างสบายอุรา

        "ตื่นเถอะค่ะ  สายมากแล้ว " เจดาเนียยังคงเรียกต่อไป

        แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากภายในห้อง  นอกจากเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาสม่ำเสมอที่ดังอยู่อีกด้านของประตู

        "งั้นพี่เข้าไปนะคะ " เจดาเนียผลักบานประตูเปิดออกด้วยเสียงแผ่วเบาประตูแง้มเปิดออกก่อนที่...

       ฟรึ่บ..กึก..กัก !! 

      จู่  ๆ  ประตูที่เปิดตามแรงผลักของเจดาเนียก็ปิดและล็อคตัวของมันเองอย่างฉับพลันทันที  เธอไม่แปลกใจนักที่ทำไมประตูถึงล็อคตัวของมันเองไม่ให้เธอเข้าไป  ก็จะเป็นใครไปได้ล่ะ

      "เจ้าหญิงคะ  เปิดประตูให้พี่เถอะค่ะ  "  เจดาเนียพูดอ้อนวอน

      "ก็เข้ามาสิ  "เฟเรียนาตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

      "เจ้าหญิงก็คลายเวทย์ให้พี่ก่อนสิคะ  พี่จะได้เข้าไปได้"เจดาเนียยังคงกล่าวต่อไป

       "พี่ก็คลายเองสิ  หญิงรู้ว่าพี่ทำได้ " เฟเรียนาตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ  ท้งที่ยังนอนอยู่บนเตียงนุ่ม  ตอนนี้เธอตื่นแล้วและกำลังสนุกกับการได้แกล้งผู้ที่เปรียบเหมือนพี่สาวและเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของนาง

       "เจ้าหญิงคะ  คลายเวทย์ให้พี่เถอะค่ะ  นะคะ" เจดาเนียยังคงอ้อนวอนต่อไป

        "เฮ่อ  ก็ได้ หญิงล่ะไม่เข้าใจพี่จริงๆ  เลยว่าทำไมพี่ถึงไม่ยอมใช้เวทย์  "เฟเรียนาบ่นพึมพำก่อนจะยกมือหันไปทางประตู  ทั้งที่นอนอยู่บนเตียง

       ประตูเปิดออกอย่างง่ายดาย  แค่เพียงเฟเรียนายกมือ  ทั้งๆ ที่ตอนแรกต่อให้ช้างทั้งแคว้นเดมินต้ามาลากก็คงจะไม่ขยับซักนิด

       เจดาเนียก้าวเข้ามาในห้องทันที  ห้องที่เธอพยายามจะปรับเปลี่ยนให้สมกับความเป็นหญิงหลายครั้งหลายคราแต่ก็ยังไม่เป็นเพราะ  ซึ่งถ้าเธอไม่เดินเข้าเดินออกห้องนี้อยู่ทุกวัน  เธอก็คงคิดว่าห้องนี้เป็นคลังอาวุธขนาดย่อมของแคว้นเดมินต้าเป็นแน่แท้  เพราะไม่ว่าจะมองไปทิศไหนก็ดูไม่เหมือนว่าเป็นห้องนอนได้  ถ้าไม่มีเตียงนอนสีขาวสะอาดตั้งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง  ทุกอนูพื้นที่จะเต็มไปด้วยอาวุธนานาชนิด  ไม่ว่าจะเป็นดาบที่ด้ามแกะลวดลายวิจิตรตระการตาประดับด้วยเพชรพลอยหลากสี  ธนูคันงามขนาดความยาวเกือบเท่าความสูงของชายชาติทหาร  คทาวิเศษจากดินแดนต่างๆ  ที่ไม่รู้ว่านางไปสรรหามาจากที่ใด  เกราะเหล็ก  โล่ทอง  หอก  มีดสั้นที่อยู่รวมกันในถุงหนังเล้กๆ ที่ถ้าไม่สังเกตดูจะคล้ายเป็นเพียงถุงมือหนังธรรมดา

        "เมื่อไหร่  เจ้าหญิงจะเอาของพวกนี้ออกจากห้องบรรทมสักทีล่ะคะ  พี่ไม่เห็นเข้าใจเลย  ว่าทำไมต้องมาเก็บไว้ในนี้ด้วย" เจดาเนียถามด้วยความเหนื่อยหน่ายใจแต่กลับมีรอยยิ้มที่มุมปากอิ่ม

      "คงไม่ล่ะค่ะ หญิงไม่เห็นว่าจะแปลกตรงไหนที่จะเก็บของสะสมไว้ที่ห้องนอนของตัวเองนี่คะ" เฟเรียนาตอบขณะที่กลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอน
      
       "เจ้าหญิงก็  จริงๆ มันเป็นเรื่องที่พึงปฏิบัติไม่ใช่หรอคะ "เจดาเนียพุด

       "ไม่เอาล่ะ หญิงไปฝึกดาบดีกว่าได้ยินท่านชาเนลพูดว่ามีครูดาบคนใหม่มา" เฟเรียนาหันมาพูดกับเจดาเนีย

      "อีกแล้วนะคะ  จะไปลองประดาบกับครูฝึกคนใหม่อีกละสิคะ  พี่ว่ามันไม่ค่อยจะเหมาะเท่าไหร่เลยนะคะ  เจ้าหญิงเป็นหญิงควรจะมีความเป็นกุลสตรีมากกว่านี้หน่อย"  เจดาเนียยังคงบ่นต่อไป

       "ไม่เอาแล้ว  หญิงไปอาบน้ำดีกว่า  พี่บ่นเป็นนางกำนัลแก่ๆ ไปได้" เฟเรียนารีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันทีเมื่อเห็นทีท่าว่าเรื่องกุลสตรีอะไรนี่จะไม่จบง่ายๆ  เฟเรียนารีบเดินออกไปยังห้องที่เชื่อมติดกัน

       เฟเรียนาเดินเข้ามาในห้องทรงกลมที่ตามผนังห้องยังเต็มไปด้วยอาวุธนานาชนิดเช่นเดียวกับห้องนอนของนาง  เว้นเสียแต่ว่าตรงกลางห้องมีอ่างน้ำที่ทำจากไม้ขัดเงางามขนาดใหญ่ตั้งอยุ่กลางห้อง  ซึ่งทำให้พอจะดูออกว่าเป็นห้องอาบน้ำ
       
       เฟเรียนาลงไปแช่อ่างน้ำได้สักพักก่อนที่เจดาเนียจะเดินตามเข้ามาพร้อมกับนางกำนัลอีกสามคนที่ถือถาดใส่กลีบดอกไม้นานาชนิดเข้ามาด้วย

      "อีกแล้วนะคะ  หญิงบอกแล้วใช่มั้ยว่าหญิงไม่ชอบกลิ่นดอกไม้พวกนี้ "เฟเรียนาบ่นกระปอดกระแปด

       "ไม่งามเลยนะคะ  เจ้าหญิง "  เจดาเนียบ่นกลับก่อนจะช่วยนางกำนัลโปรยดอกไม้ลงอ่างน้ำ

        เฟเรียนาทำปากยื่น  จมูกย่นตามแบบฉบับของเธอเวลาที่เธอไม่ได้ดังใจ  ทำให้เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งจากเจดาเนีย

       "ทำหน้าแบบนี้อีกแล้วนะคะ " เจดาเนียพูดกลั้วหัวเราะ

       "อย่ามัวหัวเราะสิคะ รีบอาบให้เสร็จ หญิงเหม็นจะแย่แล้ว  "เฟเรียนายังคงทำจมูกย่นต่อไป  ขณะที่เจดาเนียและสนมอีกสามคนกำลังขะมักเขม้นช่วยกันขัดตัวเฟเรียนา

      "ค่ะ  รออีกนิดนะคะ  ให้กลิ่นติดตัวก่อนนะคะ"เจดาเนียกล่าว

      "พอแล้วค่ะ  หญิงทนไม่ไหวแล้ว เหม็นก็เหม็น  หนาวก็หนาว  เฟเรียนาลุกพรวดขึ้นจากอ่างอาบน้ำ  ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวที่เจดาเนียเตรียมวางไว้ที่ข้างอ่างขึ้นพันกายด้วยความรวดเร็วและเดินทะลุไปอีกห้องนึงทันที

         ห้องอีกห้องนึงนั้นเป็นทรงกลมเช่นกัน  แต่ต่างตรงที่ว่าห้องห้องนี้ไม่มีอาวุธเหมือนอีกสองห้องที่ผ่านมาแต่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดที่สมกับเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วที่เจดาเนียพยายามคะยั้นคะยอให้เธอใส่  ชุดราชพิธีต่างๆ  จนถึงชุดนักรบเต็มยศ  ด้านข้างของห้องมีกระจกเงาบานใหญ่ติดอยู่

        เฟเรียนาเดินไปหน้ากระจกและพยายามหวีผมที่เปียกโชกด้วยมือจนเมื่อเจดาเนียเดินตามเข้ามาในห้องเธอจึงหยุดการกระทำดังกล่าวเนื่องจากเกรงจะมีเสียงบ่นยาวเป็นหางว่าวเป็นระลอกที่สอง

       เจดาเนียเดินไปเลือกชุดที่มุมหนึ่งของห้องก่อนที่จะออกมาช่วยเฟเรียนาแต่งกาย

      เฟเรียนามองเงาในกระจก  เด็กสาวผิวขาวราวหิมะ  นัยน์ตาสีเขียวสดใสราวมรกตปกคลุมด้วยแพขนตาหนาสีน้ำตาลอ่อน  จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากอิ่มราวผลเชอร์รี่  ผมเป็นลอนยาวประบ่าสีน้ำตาล  กำลังถูกรวบอย่างง่ายๆ  อยู่ในชุดกางเกงสีน้ำตาลอ่อน  คล้ายชุดขี่ม้า  สวมรองเท้าหนังสัตว์  ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจเมื่อหันมาเห็นสีหน้าของเจดาเนียที่ดูจะไม่พอใจนัก

    "พี่ไม่ชอบให้เจ้าหญิง  แต่งกายแบบนี้เลยค่ะ" เจดาเนียบ่นขณะมองเงาในกระจก

       "ก็หญิงไปฝึกดาบนี่คะ  ถ้าให้หญิงใส่ชุดยาวรุ่มร่าม  มีหวัง "เฟเรียนากล่าวพร้อมทำท่าปาดคอ

      "ไปแล้วนะคะ  แล้วเจอกันค่ะ  มีอะไรก็ให้นางกำนัลไปตามหญิงที่โรงฝึกนะคะ" เฟเรียนาหันมาพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป

      เจดาเนียเดินตามเฟเรียนาออกจากห้องทันที  แต่ก่อนที่เธอจะก้าวพ้นธรณีประตูนั้น  จู่ก็มีกำแพงแก้วก็โผล่ขึ้นมากั้นไม่ให้เธอออกจากห้อง  และคงไม่ต้องสงสัยกันว่าใครเป็นผู้ใช้เวทย์สร้างกำแพงแก้วขึ้นมา

      "เจ้าหญิงคะ  แกล้งพี่อีกแล้วนะคะ"  เจดาเนียกล่าวอย่าง  เหนื่อยหน่ายใจกับนิสัยของเจ้าหญิงเบื้องหน้า

      "พี่อยากออกจากห้องก็ใช้เวทย์ทำลายกำแพงแก้วเองสิคะ  หญิงไปนะคะหญิงรีบ" เฟเรียนากล่าวก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปทันที

       เจดาเนียส่ายหน้ากับนิสัยของเฟเรียนาที่แต่เล็กเป็นเช่นไรโตมาก็ยังเป็นเช่นนั้นไม่มีผิดเพี้ยนก่อนจะยกนิ้วขึ้นแตะไปที่กำแพงแก้วที่หนาราวเสาหิน   ฉับพลัน  กำแพงแก้วก็อันตรธานหายไปในอากาศ   เพียงแค่นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้น !!

    :-:-:-:-:-:-:-:-:--:-:-:--:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:--:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-::-:-

    งัยก็ติชมด้วยนะคะ   เม้นกันไว้เยอะๆนะคะ  ฝากด้วยนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ

        monde...

       



     



     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×