คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : princess..vs.. prince :+:2:+:
เคร้ง !!
เสียงปะทะกันของดาบที่หนักหน่วงและรวดเร็ว เฟเรียนาเบี่ยงตัวหลบอย่างคล่องแคล่วเมื่อคมดาบของคู่ต่อสู้ฟันฉับลงมาก่อนที่นางจะฟันโต้ตอบกลับไปด้วยอารมณ์คึกคะนองอย่างขีดสุดเมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่สูสีกัน
เฟเรียนาเยื้องก้าวอย่างรอจังหวะ ขณะที่คู่ต่อสู้ก็กำลังจับท่าทีของนางเช่นกันก่อนที่จะพุ่งเข้าปะทะอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว เฟเรียนาตั้งดาบรับเกือบไม่ทัน ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบอีกครั้งเมื่อดาบพุ่งสวนมาอีก
“ท่านนี่ ฝีมือไม่เบาเลยนะ ท่านเนปา” เฟเรียนาพูดขึ้นหลังจากฟาดดาบใส่อีกครั้ง
“ขอบพระทัย กระหม่อม” ชายผิวขาวสะอาด นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสัน ผมสีดำสนิท ดูๆแล้วคงรุ่นราวคราวเดียวกับนางตอบกลับมา
“เราไม่เจอคนมีฝีมืออย่างท่านมานานแล้ว” เฟเรียนายังคงพูดต่อ
เนปาและเฟเรียนาผลักกันรุกและรับโดยไม่มีใครอ่อนขอให้กัน ครูฝึกหนุ่มก็ไม่คิดจะอ่อนข้อให้เพราะเป็นคำสั่งของเจ้าหญิงคู่ต่อสู้ตรงหน้าที่ดูเหมือนจะสนุกสุดๆ กับการฟันดาบอย่างหนักหน่วงชนิดที่ชายชาติทหารบางคนยังต้องยอมศิโรราบให้
“เจ้าหญิงจะพักก่อนรึป่าว พะยะค่ะ” เนปาถามขึ้นขณะที่รับดาบเงื้อฟันลงมาอีกครั้ง
“ก็ดีเหมือนกัน เราก็ชักจะเหนื่อยแล้ว” เฟเรียนาพูดและเก็บดาบเข้าปลอกอย่างเรียบร้อยก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขึ้นมาซับเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้า
“สรุปว่า รอบนี้เราเสมอกัน” เฟเรียนากล่าวยิ้มๆ
“พะย่ะค่ะ “ชายหนุ่มตอบสั้นๆ
“ท่านเป็นคนเมืองไหนกันล่ะท่านเนปา” เฟเรียนาถามพร้อมหยิบน้ำขึ้นมาดื่มดับกระหาย
“หม่อมฉันเป็นคนนครเนวาล พะยะค่ะ” เนปาตอบ
“อ้อ เนวาลเมืองนักรบน่ะหรอ”เฟเรียนาถามต่อ
“พะย่ะค่ะ”
“แล้วเมืองของท่านมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้างล่ะ”เฟเรียนาซักต่อด้วยความกระหายใคร่รู้ที่ปิดไม่มิด
เนปามีความรู้สึกว่าเจ้าหญิงเฟเรียนาคนนี้ดูไม่ถือองค์อย่างคนใหญ่คนโตทั่วไป ดูจะเป็นกันเอง ช่างซักถาม แถมฝีมือดาบที่เยี่ยมยอดอย่างหาใครเปรียบไม่ได้ ถ้าเทียบกับนักดาบแห่งเนวาลนั้นอาจจะอยู่ลำดับต้นๆยังว่าได้
“ก็มีหลายที่พะย่ะค่ะ” เนปาตอบ
“แล้วสินค้าส่วนใหญ่เนี่ยจะเป็นพวกอาวุธจริงรึป่าวน่ะ”เฟเรียนายังคงถามต่อด้วยความสนอกสนใจ
“พะย่ะค่ะ นครเนวาลผลิตอาวุธเป็นอาชีพหลัก ประชากรส่วนใหญ่เป็นช่างตีดาบพะย่ะค่ะ ดาบดีๆ หลายด้ามก็มาจากนครเนวาลเนี่ยแหละพะย่ะค่ะ” เนปาอธิบายยาวยืด
“น่าสนใจ น่าสนใจ ท่านรู้มั้ยว่านครเนวาลเนี่ย เป็นเมืองที่อยากจะไปมากที่สุดเลย “ เฟเรียนากล่าวด้วยสายตาเพ้อฝัน
เนปาพยายามกลั้นเสียงหัวเราะไม่ให้เล็ดลอดออกมาได้ยากมากเมื่อเห็นท่าทางเพ้อฝันของเจ้าหญิงเบื้องหน้าที่ยังคงพูดเจื้อยแจ้วถึงเรื่องอาวุธชิ้นนั้นชิ้นนี้ และยังคงพยายามหาเรื่องซักถามอยู่เรื่อยๆ
“ขำอะไรน่ะท่านเนปา “เฟเรียนาทำปากยื่นเมื่อหันมาเห็นเนปาพยามยามกลั้นหัวเราะ”
“เปล่า กระหม่อม” เนปาตอบทั้งๆที่ยังยิ้มอยู่
“ฮึ อย่าให้ข้ารู้ละกัน” เฟเรียนาแจกค้อนให้ครูฝึกหนุ่ม
“แล้ว ท่านถนัดอาวุธชิ้นไหนที่สุดล่ะ แต่ไม่น่าถามเลยนะ หลังจากที่เห็นฝีมือดาบของท่าน” เฟเรียนากล่าวกลั้วหัวเราะ
“คงจะเป็นธนูกระหม่อม” เนปาตอบ
“ว้า งั้นเราก็เดาผิดล่ะสิเนี่ย” เฟเรียนาทำท่าเหมือนเสียดายอย่างเต็มประดา
“งั้นเราขอดูฝีมือการยิงธนูของท่านซักนิดจะได้มั้ย เอาไว้เป็นบุญตา “ เฟเรียนากล่าวกลั้วหัวเราะ ก็แน่ล่ะ สำหรับนางแล้ว ไม่ว่านักธนูคนใด จากแคว้นไหน ยังไม่มีใครมีฝีมือเท่าคนๆหนึ่งที่นางรอคอยการกลับมาเลยสักคน
“มิอาจ กระหม่อม หม่อมฉันไม่ได้มีฝีมือขนาดนั้นหรอก พะย่ะค่ะ” เนปาตอบด้วยท่าทางนอบน้อม”
“ไม่ต้องเลยท่าน ขนาดฝีมือดาบที่ท่านว่าท่านไม่ค่อยถนัด ยังร้ายกาจขนาดนี้ แล้วธนูที่ท่านว่าถนัดมันต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ให้ข้าได้เห็นเป็นบุญตาไม่ได้หรือไง” เฟเรียนาพูดเย้าแหย่
“มิได้กระหม่อม”
“ถ้างั้น ท่านก็แสดงให้เราดูซักทีสิ อยากเห็นจะแย่แล้ว” เฟเรียนากล่าวต่อ
“พะย่ะค่ะ “ เนปาตอบก่อนจะเรียกธนูขึ้นมาอยู่ในมืออย่างง่ายดาย
“ว้าว ธนูท่านสวยจังเลย” เฟเรียนาพูดพร้อมรับธนูคันงามที่ครูฝึกหนุ่มส่งมาให้ก่อนจะสังเกตดูรายละเอียดของคันธนูในมือ
“คันธนู ทำจากไม้โมดัส ที่มีอยู่ที่เดียวคือ ชายแดนนครเนวาล เหมาะจะทำอาวุธเพราะความแข็งแกร่งของเนื้อไม้ “ เนปาอธิบายให้เจ้าหญิงตรงหน้าที่กำลังพลิกดูรายละเอียดอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ว้าว “ เฟเรียราอุทานออกมาด้วยความพอใจที่ได้รับความรู้นอกเหนือจากในตำราที่นางเคยอ่านเจอ
“ไหนท่านลองโชว์ให้ดูซักนิดจะได้มั้ย เราตื่นเต้นจะแย่แล้ว” เฟเรียนาพูดรัวเร็ว
“เนปาเห็นลักษณะท่าทางก็อดยิ้มนิดๆกับนิสัยที่ดูคล้ายเด็กของเจ้าหญิงเบื้องหน้าไม่ได้ ก่อนที่จะรับธนูคันงามคืนจากเจ้าหญิง นำมาถือในท่าที่เหมาะก่อนที่จะน้าวสายธนูจนสุดล้า พร้อมยิง เฟเรียนางงงเมื่อเห็นครูฝึกที่ยืนน้าวสายธนูโดยไม่มีลูกธนูสักอัน ก่อนที่นางจะได้เอ่ย ปากถามในข้อสงสัยเนปาก็ปล่อยสายธนูออกด้วยความรวดเร็ว
จึ๊ก !!!
ลูกธนูจำนวน 3 ดอก ปักตรงใจกลางของเป้าที่เป็นจุดหมายอย่างสวยงามตรงตำแหน่งเดียวกันราวกับจับวางไม่มีผิด
“ธนไร้ศร “ เฟเรียนากล่าวออกมาด้วยความทึ่ง
“ท่านได้มันมายังไงน่ะ” เฟเรียนาถามด้วยความสงสัย
“เป็นของสืบทอดกันมา กระหม่อม” เนปาตอบสั้นๆ
“งั้น ท่านก็ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ที่มีธนูในตำนานไว้ครอบครอง”
เนปาไม่ทันได้กล่าวอะไร ก็มีเสียงขัดขึ้นมาก่อน
“เจ้าหญิงเพคะ ท่านเจดาเนียให้มาทูลเชิญ เพคะ “นางกำนัลกล่าว
“อีกแล้ว” เฟเรียนากล่าวด้วยท่าทางขัดใจเมื่อมีคนมาขัดจังหวะการสนทนาในสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
“พี่เนี่ยนะ สงสัยจะให้เราไปเย็บอะไรอีกล่ะสิ ใช่มั้ยล่ะ” เฟเรียนาหันไปถามนางกำนัลที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“มิทราบได้ เพคะ” นางกำนัลตอบ หน้าเจื่อนๆ
“ก็ได้ ไปบอกพี่นะ ว่าเดี๋ยวเราตามไป “เฟเรียนาตอบแบบไม่เต็มใจนัก
“เพคะ “ นางกำนัลรับคำสั่งก่อนจะเดินออกจากโรงฝึกไป
“เฮ่อ เบื่อจริงๆเลย เมื่อไหร่พี่ฟาเรียสจะกลับมาซะทีนะ”เฟเรียนาบ่นพึมพำกับตัวเอง
“งั้นเราไปก่อนนะ ไว้วันหลังจะมาใหม่ ไม่งั้นมีหวังเราได้โดนบ่นจนหูแฉะแน่” เฟเรียนาพูดพลางเอามือจับหูทั้งสองข้าง
“พะย่ะค่ะ “เนปารับยิ้มรับคำเมื่อเห็นเฟเรียนาทำท่าทางเบื่อเต็มที
“แล้วท่านต้องเล่าเรื่องทีเล่าค้างของวันนี้ให้เราฟังต่อด้วย” เฟเรียนาหันมาพูดต่อ
“ได้พะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเล่าทุกอย่างที่กระหม่อมรู้ให้เจ้าหญิงฟัง” เนปาตอบด้วยท่าทางนอบน้อม
“จริงๆนะ ท่านพูดแล้วห้ามคืนคำล่ะ” เฟเรียนาพูดด้วยความดีใจ
“เออ อีกอย่าง ท่านไม่ต้องเรียกเราว่าเจ้ายงเจ้าหญิงอะไรหรอก เรียกหญิงเฉยๆ ก็ได้ "เฟเรียนากล่าว
“มิบังอาจ กระหม่อม “เนปาตอบ
“ก็ได้ เราไม่อยากบังคับใคร งั้นเราไปแล้วนะ แล้วจะรีบมาใหม่”เฟเรียนาพูดพร้อมเก็บดาบที่วงไว้ข้างตัวขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากโรงฝึก ทิ้งให้ครูฝึกหนุ่มมองตามเจ้าหญิงที่ดูไม่สมหญิงอยู่เบื้องหลัง
ความคิดเห็น