ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love's seven years รักครั้งนี้เจ็ดปีไม่มีกั๊ก

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 : มือที่สาม?

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 57


     

    เวลา 23.35 .
              ขณะนี้ฉันก็ยังไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดมากเรื่องเชสส์ขึ้นเสียงพร้อมตะคอกใส่ฉัน เหตุการณ์นี้มันทำให้ฉันร้องไห้ออกมานับสิบรอบ ฉันทบทวนแล้วทบทวนอีกว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้นได้ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ทำอะไรพรรคนั้นหรือทำอะไรที่เป็นผลเสี่ยงในเรื่องนั้นเลย เอ๊ะหรือฉันเอาแต่ใจเกินไป ฉันมันวุ่นวายมากหรอ? หรือเขาเบื่อฉันแล้วนะ ฉันมันน่าเบื่อมากๆเลยสินะ เฮ้ออ~ ปวดเฮด=O=

    ณ โรงเรียนมัธยมเฌอเซฟ
              “แอริณ
    ฉันมีเรื่องคิดมากว่ะ เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนเลยอ่ะT^T”ฉันเดินไปที่โต๊ะประจำของฉันกับเพื่อนสนิท พร้อมพูดแบบงัวเงียๆตามสภาพร่างกายและหน้าตาที่อิดโรย
              “เป็นอะไรวะแก โดนแฟนทิ้งหรือไง
    = =”แอริณเพื่อนสาวน่ารัก หมวย ตัดผมบ๊อบเทไฮไลท์สีน้ำเงินบนเรือนผมสีดำสนิท ด้วยความมั่นของตัวเองสูงอ่ะนะ ออกแนวสไตล์จีนจ๋ามากมากมาย พูดคาดการณ์เหมือนดั่งตาเห็น บอกได้คำเดียวว่า เป๊ะเวอร์อ่ะT_T
                “(T_T) (. .) (T_T)”ฉันพยักหน้าให้เบาๆ
                “เฮ้ย
    ! จริงดิ ทำไมแกถึงเลิกกับพี่เขาอ่ะแกพี่เขาเป็นชายในฝันของสาวๆแทบทุกคนในคณะเลยนะแก ไม่สิๆทั้งมหาลัยเลยอ่ะแก แกเลิกกับพี่เค้าทำม๊ายยย ถ้ามีชะนีนางอื่นมาฉกพี่เค้าไปแกจะทำยังไงเล่า คิดบ้างไหมยะ ฉันไม่ยอมให้เจ้าชายของฉันตกไปอยู่ในน้ำมือของยัยชะนีมีเล่ห์เหลี่ยมพวกนั้นหรอกนะ เจ้าชายของฉันต้องอยู่กับแม่ชะนีน้อยของฉันคนเดียวๆๆๆ>O<”แอริณกอดหัวฉันไว้แนบกับอกของหล่อนและพูด(บ่น) ร่ายยาวมากมายจนหูฉันแทบชา มันเข้าโสตประสาทของฉันแต่มันกลับไม่ไปจดจำตรงซอก
    หลืบไหนของสมองฉันเลย เพราะอะไรรู้ไหม? เดี๋ยวก็รู้เองแหละ

                “แอริณแกเห็นอะไรนั่นมั๊ย?”ฉันพูดพร้อมชี้ไปทางด้านหลังของแอริณที่มีเชสส์เดินยิ้มหน้าระรื่นให้กับยัยผู้หญิงตัวขาว มีเขี้ยว คนนั้นอ่ะ! หล่อนเป็นใครว้า=[]=?
                 “เฮ้ย
    ! อย่าบอกว่าเลิกจริงO_o”ยัยแอริณหันหน้ามาถามฉันอย่างตกใจสุดขีด
                “ยังนะเว้ย เมื่อวานพี่เค้ายังไปส่งฉันที่บ้านอยู่ลยอ่ะ
    T^T”ฉันพูดพรางมองไปทางเชสส์ที่ยิ้มไม่หุบ
                “แล้วทำไมเป็นแบบนี้ ไป
    !ไปกับฉัน ไปเคลียกันเลยว่าทำไมเดินควงผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ หน็อยแน่! =^=” แอริณพูดพร้อมลากฉันด้วยแรงมหาศาลไปทางเชสส์ที่เดินอยู่กับรุ่นน้องที่เป็นรุ่นเดียวกับฉัน

                “เฮ้ ! หวัดดีค่ะพี่เชสส์ พอดีแฟนพี่น่ะคะจะชวนพี่ไปทานข้าวเช้า ไปด้วยกันนะคะ อ้าว!นั่นใครหรอกคะ น่ารักเชียว จะไปหาอะไรทานด้วยกันมั๊ยเอ่ย หรือจะกลับไปหาอะไรกินในร่องน้ำล่ะ?”แอริณพูดออกมาเหมือนเตรียมอ่าน เตรียมท่องมาสามชาติ(มันลื่นไหลมาก=.=)
              “เอ่อ
    คือ”สาวสวยมีเขี้ยวกำลังอ้าปากพูด ก็ถูกยัยแอริณสัมผัสใบหน้าเบาๆแล้วเริ่มพูดกล่าว
    สุนทรพจน์ต่อ

                “อืมมมหน้าก้ไม่หนานี่เนอะ แต่ทำไมทำแบบนี้ล่ะ? โอ๊ะๆๆๆ นี่ขาเธอเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมต้องเกาะแขนพี่เชสส์ล่ะ พี่เชสส์เป็นหมอศัลยกรรมนะ ไม่ใช่หมอกระดูก ทำไมต้องมาหาล่ะ เอ๊าท์! มัวแต่อึ้ง อึ้งทำไมล่ะ เอามือออกสิ แฟนตัวจริงเค้ามาแล้วน่ะ เห็นมั๊ย?!แหกตาดูบ้างสิ ไม่ใช่มัวแต่ยิ้มยั่วโปรยเสน่ห์แฟนคนอื่นเค้าแบบนี้ หัดจำไว้นะท่าทางยิ้มแบบนี้ไม่น่าโปรยเสน่ห์ให้ใครได้นะ แต่มันเตะทีนฉันมากเลยล่ะรู้หรือเปล่า^^+++”แอริณยิ้มเหี้ยมๆให้กับสาวเขี้ยวสวยรุ่นเดียวกันแบบขู่ๆ น่ากลัวมากอ่ะTOT;
                “ฮึ่ม”หญิงสาวออกเสียงออกมาเบาๆพร้อมจิกสายตาใส่แอริณแล้วหันมาค้อนใส่ฉันอีกคน ทำไมไม่ทำใส่เชสส์บ้างล่ะ เห็นฉันแบบนี้ฉันสู้คนนะเฟ้ย!=^=
                “พี่เชสส์คะ งั้นเตมีไปก่อนนะค่ะ แล้วเจอกันคะ^^”สาวสวยมีเขี้ยว(ยักษ์)เงยหน้าขึ้นไปพูดกับเชสส์ที่กำลังจ้องตาที่แสดงความสงสัยของฉันอยู่ แต่แล้วก็หันหน้าหลบไปยิ้มให้ยัยสาวเขี้ยวยักษ์(คิดแบบเต็มรูปแบบ=..=)
                “ครับ แล้วเจอกันครับ
    ^^”เชสส์พูดยิ้มๆพร้อมโบกมือลาให้สาวเขี้ยวยักษ์จนหล่อนเดินลับหายไป
              “เฮ้ย
    ! แกเดี๋ยวเจอกันบนห้องนะคือแบบว่าฉันต้องไปซ้อมวงโยธวาทิตว่ะ ไปแล้ว บาย~”และแล้วพอยัยสาวเขี้ยวสวยจอมโหด(เอาไงแน่- -)เดินไปแล้ว แอริณก็เดินวิ่งหนีไป ทิ้งให้ฉันมองเชสส์ตาเขียว
                “นั่นใครหรอ? น่ารักดีนะ
    ^^”ฉันพูดประชดเชสส์พร้อมยิ้มให้แบบเสแสร้งอย่างเห็นได้ชัด
                “น้องเขาชื่อ เตมี เรียนคณะนิเทศน่ะ น่ารักหรอ อืมม
    ก็จริงนะ น่ารักมาก^^”เชสส์พูดพร้อมยิ้มให้ฉันแกมสะใจเล็กน้อย แต่ไม่รู้เลยว่าฉันคิดมากไปขนาดไหน ทำไมเขาไม่คิดถึงฉันบ้างนะ
              “ชอบไหมล่ะจะได้หลีกทางให้น้องเขาถูก? เอาป่ะ?”ฉันประชดไปออีกรอบ ได้โปรดรับรู้หน่อยเถอะว่าฉันประชด
    T/\T~
                “ไม่อ่ะพี่ชอบเธอมากกว่านะ
    J ”เขาพูดพร้อมสวมกอดฉันแต่หน้าประชาชีไม่อายใคร พร้อมเอาคางมาเกยไหล่ฉัน ทำปากบู้น้อย อ๋า~น่ารักอ่ะ>///< แล้วเพื่อนของเขาก็มา(ขัดจังหวะ)เรียกไปชมรมบาสเกตบอลที่เขาเป็นหัวหน้าชมรมอยู่ เขาทำท่าเหมือนจะไม่ยอมไปแต่แล้วฉันก็สั่งให้เขาไปจนได้ เขาเป็นคนดังแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา เกิดมามีแฟนหล่อต้องทำใจแล้วล่ะ=_=//

    พักกลางวัน
             
    ฉันลงมานั่งกินข้าวที่แคนทีนกับแอริณเพื่อนสาวขามั่นของฉันสองคนอย่างปกติอย่างที่ควรจะเป็นทุกวันอย่างนี้  ช่วงกลางวันนี้ยัยแอริณดูเริงร่าผิดปกติของทุกวันนะ ไปทำอะไรมาหรือเปล่า = = ทำไมฉันตาขวากระตุกล่ะ เป็นอะไรไปเนี่ยT^T
                “นี่แอริณ แกไปทำอะไรมาเนี่ยดูอารมณ์ดีผิดปกตินะ?”ปกติก็ดูไม่ปกติอยู่แล้วนะ=_=
                “ก็ไม่มีอะไรนี่ แกคิดมากไปเองหรือเปล่า หนังสงหนังสืออ่านมากไปหรือเปล่ายะ? ลั้นลา~”แอริณยิ้มระรื่นพร้อมฮัมเพลงเบาๆ แถมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
                “อย่ามาลามปามถึงการอ่านหนังสือนิยายของฉันนะยะ มันสนุกจริงๆนะเว้ย
    -O-!”ฉันแก้ตัวปกป้องนิยายแสนรักแสนหวงของฉันด้วยความรักมากมาย(นางเอกเวอร์ๆอ่ะ>.,<)
                “เออๆ ตามใจแกเถอะจะยังไงก็เอา ฉันห้ามแกไม่ได้หรอก ฮุๆๆ ตะลึงตึ่งตึ๊ง
    ~”ยัยแอริณพร่ำร้องเพลงที่ดูเหมือนบทสวดอะไรบางอย่างมากกว่าต่อไปด้วยอารมณ์หวานชื่น
               
    :+: เชสส์ จุ๊บๆ :+:
              เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมแสดงเบอร์ของคนๆหนึ่งขึ้นมา ซึ่งก็คือผู้ชายที่ฉันรักมากรองลงมาจาก
    บุผการีและเพื่อนๆของฉันน่ะสิ อร๊าง
    ~มีอะไรหรือเปล่าน้า โทรมาหาตอนนี้เนี่ย?
                “ฮัลโหล เชสส์หรอว่าไง
    ^^”ฉันกรอกเสียงสดใสลงไปในโทรศัพท์พร้อมยิ้มให้ตัวเอง
               
    [อื้อ พี่เองเมลล์ คือจะโทรมาบอกว่า เย็นนี้กลับบ้านเองนะ พอดีพี่มีเรื่องด่วนน่ะ]เชสส์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังใส่ฉัน
                “มีอะไรหรือเปล่า
    คะ?”ฉันพูดด้วยความเป็นห่วงเขา ปกติฉันพูดไม่ค่อยมีหางเสียงให้เขาหรอกนะ แต่บางทีที่เขาจริงจังฉันก็เผลอหลุดออกมาอย่างไม่รู้ตัวน่ะสิ ส่วนคำว่า เชสส์ ไม่ใช่ว่าฉันเรียกเพราะฉันอายุเท่ากันนะ อย่างที่บอกเขาน่ะแก่กว่าฉัน แต่ที่ฉันเรียกเขาว่า เชสส์ เฉยๆน่ะเพราะความสนิทมากกว่า
               
    [อ่า~ ไม่มีอะไรหรอก กลับได้ก็ดีแล้ว แล้วจะโทรหาอีกทีนะ บาย]แล้วเขาก็ตัดสายฉันไปแบบไร้เยื่อใยไม่รอให้ฉันพูดอะไรมาแม้แต่คำเดียว=_=”
                “เป็นอะไรวะแก ฉันขอเดานะพี่เชสส์โทรมาหาแกเรื่องอาทิตย์หน้าพี่เขาไปดูหนังกับแกไม่ได้ใช่ป่ะ?”แอริณพูดออกมาพร้อมงัดข้าวจากช้อนเข้าปากไปอย่างสวยงาม
                “ไม่ใช่ว่ะ
    … - -”ฉันตอบแบบหดหู่
                “งั้นฉันขอเดานะ
    พี่เค้าไม่ว่างมารับแกเย็นนี้ ชัวร์?!”ผู้ชายหน้าหวานคนหนึ่งเดินมาพร้อมจานที่มีข้าวและกับข้าวแสนน่าอร่อย ผู้ชายคนนี้ชื่อ ซิน เป็นรุ่นเดียวกับฉัน จะนับเป็นเพื่อนสนิทก็ได้นะ แบบว่าสนิทมาพร้อมๆกับยัยแอริณเลย แต่หมอนี่มักผลุบๆโผล่ไปไหนมาไหนบ่อยๆเลยไม่ค่อยได้คุยปรึกษาอะไรกันมากมาย เป็นมี่หมายปองของสาวๆทั้งในและนอกมหาลัยเลยล่ะ
                “บิงโก
    !แกรู้ได้ไงวะO_O?”ฉันหันไปถามพร้อมทำหน้าเหวอนิดๆทำให้คนตรงหน้ายิ้มออกมาน้อยๆ
                “เรื่องที่ทำให้แกหน้าบึ้งได้ขนาดนี้น่ะ ไม่แม่แกบ่น ก็แกถูกไอ่พี่เชสส์อะไรนั่นเลื่อนนัดที่จะทำต่อไปแน่นอน เพราะหมอนั่นชอบทำอะไรหุนหันพลันแล่น ทั้งๆที่เธอเตรียมการทุกอย่างไว้ดีแล้วแท้ๆ จริงมะ
    ^^?”ซินพูดร่ายยาวพร้อมยิ้มตาหยีให้ฉันพร้อมนั่งหัวโต๊ะ กินข้าวอย่างสบายอารมณ์
                “แล้วเย็นนี้แกกลับยังไงอ่ะ เย็นนี้ฉันเรียนพิเศษอ่ะ?”แอริณถาม
                “ไม่รู้สิ อืม
    คงขึ้นรถเมล์กลับอ่ะ”ฉันตอบพร้อมจิ้มสลัดขึ้นมากินแบบไม่ยี่หระอะไร
                “ให้ฉันไปส่งมั๊ย เย็นนี้ฉันไม่มีนัดกับสาวๆนะเว้ย
    ^^”ซินอาสาตัวมาเพื่อจะไปส่งฉันที่บ้านมีหรือของฟรีฉันจะเกี่ยง^^?
                “เฮ้ย
    !รบกวนแกแกมากไปเปล่า เกรงใจอ่ะ”ฉันเล่นตัวเล็กน้อยพอเป็นพิธี หุหุ-.,-
                “เอาตามจริง = =”แอริณพูดขัดขึ้นมา
                “ไปส่งดิจะได้ไม่เปลืองเงินฉัน ฮ่าๆ”ฉันพูดพร้อมหัวเราะเบา แล้วหันไปจิ้มไส้กรอกของซินมาใส่จานตัวเองอย่างหน้าตาเฉย
                “เออๆเดี๋ยวไปส่งไม่ต้องบ่นหรอกสาวน้อย
    ^^”ซินพูดพรางลูบหัวฉันเบาๆอย่างนุถนอม
                “อื้อ แหงอยู่แล้วมีหรอที่ฉันจะปฏิเสธนายน่ะซิน
    :P”ฉันพูดพร้อมแลบลิ้นใส่เขา เชสส์เป็นอะไรหรือเปล่านะ ทำไมอยู่ๆก็ทิ้งฉันไว้แบบนี้ล่ะ? ฉันชักจะเป็นห่วงแล้วนะ ทำไมเขาไม่พูดอะไรกับฉันบ้างเคยสัญญากันแล้วไม่ใช่หรือไงกันนะ ทำไมกัน

    ตกเย็นหลังเลิกเรียน
             
    ฉันเดินถือกระเป๋านักเรียนของฉันเดินย่ำเท้าออกมาพร้อมกับซินเพื่อนชายหน้าหวานที่อาสาตัวเองมาเพื่อไปส่งฉันที่บ้าน ซึ่งเขาก็เต็มใจและยินดีที่จะอาสาเองนี่นาทำไงได้ล่ะ ฮ่าๆคนเสน่ห์แรงก็งี้แหละนะ(หรอ?)และแล้วก็ถึงที่จอดรถคันหรูของผู้ชายหน้าหวานตรงหน้าฉัน เบ็นซ์สปอร์ตเปิดประทุนสีดำดูโฉบเฉี่ยวราคาเฉียดสิบล้านจอดอยู่ตรงหน้าฉัน ทำเอาฉันถึงกับอึ้งกับฐานะทางบ้านเขาแล้วนะว่าที่บ้านทำงานอะไรเหตุใดลูกท่านหลานเธอถึงได้มีรถราคาแพงกว่าบ้านฉันมาขับได้เยี่ยงนี้T_T’?
                “นี่นายขโมยรถใครมาน่ะซิน
    - -?”ฉันถามคำถามแรกทำเอาหนุ่มหน้าหวานคนนี้เหวอไปเล็กน้อย
                “ของฉันเองต่างหากยัยเบ๊อะ คนอย่างฉันเห็นเซอร์ๆแบบนี้ใช่ว่าจะไม่มีเงินนะ
    -^-”เขาพูดพร้อมทำปากเบ้ใส่ฉันพรางเปิดประตูรถให้ฉัน
                “ขอบใจ
    ”ฉันพูดออกมาเบาๆแต่ก็แสดงให้รู้ได้ว่าเขาได้ยินด้วยรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าแสนหวานของเขาเองที่มอบให้ฉันนั่นเอง
                “บ้านนายทำงานอะไร ทำไมรวยมหาศาลบานกระด้งแบบนี้ล่ะ?”ฉันถามพร้อมมองหน้าแสนหวานของเขาที่แก้มเนียนใสที่มีเลือดฝาดหล่อเลี้ยงตลอดดูอมชมพูมองดูน่าหยิกมากมาย
    -,.-
                “พ่อค้ายา แม่ขายถั่ว หมาขายตัว พี่ขายผ้าอนามัย-_-”เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาล็อคเข็มขัดนิรภัยให้ฉันและของตัวเขาเอง
                “เฮ้ย
    !จริงดิO_o?!”ฉันถามด้วยความตกใจ
                “ทำไมล่ะ?จริงๆนะ”เขาพูดยิ้มๆ
                “แม่ขายถั่วได้เงินเยอะจังอ่ะ
    *O*”ฉันถามขึ้นพร้อมมองไปที่เขาด้วยแววตาวิ้งๆ(?)
                “ไม่อ่ะ
    =_= ต้องขอบคุณหมาด้วยแหละที่ยอมเสียตัวเพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวฉัน ฮ่าๆๆ”
                “เฮ้ย
    !ฉันต้องบอกแม่เลี้ยงหมาแล้วแหละ-O-‘
                “เฮ้ยบ้าน่า บ้านพ่อฉันทำงานบริษัทผลิตเครื่องประดับ ส่งไปทั่วทั้งประเทศและขายเครื่องประดับส่งต่างประเทศน่ะ ส่วนบ้านแม่ฉัน
    ไม่มีอะไรดีเลย” เขาพูดพร้อมทำเสียงออ่นลง จากรอยยิ้มที่สดใสและสว่างดุจดั่งแสงอาทิตย์ตอนนี้ดูหม่นลงเหมือนเพียงแสงจันทร์“แม่ฉันถูกคุณปู่ฉันซื้อตัวมาจากคุณตาอีกทีน่ะ แม่ฉันทำงานเป็นคนใช้อยู่ในบ้านเตชะศิริภาชัยมาตั้งแต่อายุประมาณสิบขวบได้ จนวันหนึ่งพ่อฉันกลับมาจากต่างประเทศพร้อมกับภรรยาคนแรกของท่านซึ่งเป็นคนที่หยิ่งทะนงเป็นที่สุด พ่อฉันเป็นผู้ชายเจ้าชู้มากๆมีภรรยามากหน้าหลายตาแต่ก็ไม่มีใครทนพ่อได้สักคนมีเพียงภรรยาของท่านที่อยู่ดูแลแบบห่างๆเสมอ”รอยยิ้มที่มืดมนจนแทบสัมผัสถึงความสุขไม่ได้ผุดออกมาจากใบหน้าที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ เขาพูดแบบเศร้าๆแล้วเราก็ติดไฟแดงกันตรงสี่แยก เขาก็เริ่มเล่าเรื่องต่อโดยที่ฉันไม่ขัดเขาเลยสักนิด“จนวันหนึ่งเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตแม่ฉันไปตลอดกาล เฮ้อ.. พ่อฉันบอกแม่ว่ามองแม่มาตั้งแต่ตอนที่พ่อฉันกลับมาจากต่างประเทศพร้อมภรรยา แต่แม่ของฉันไม่เล่นด้วย พ่อฉันจึงข่มขืนแม่ฉัน ทำให้แม่ฉันถูกกลั่นแกล้งจากคนรับใช้คนอื่นๆ เป็นที่รังเกียจของคนในบ้านทั้งภรรยาของพ่อและคนรับใช้ในบ้านแทบทุกคน แต่แม่ฉันก็ทนต่อไปเพื่อคุณปู่ของฉันที่มีพระคุณต่อแม่ฉันมากมาย จนวันหนึ่งแม่ฉันก็ท้อง หึๆแม่บอกฉันว่าฉันเป็นของขวัญที่ทำให้ชีวิตแม่มีความสุขแต่ทำไมตอนนั้นที่แม่ท้องฉันทุกคนถึงคอยแต่จะกลั่นแกล้ง รังแกและลงไม้ลงมือกับแม่ฉันอย่างกับแม่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นล่ะ?”เขาพูดพร้อมทะยานรถไปด้านหน้าของถนนอย่างรวดเร็วแล้วยิ้มให้ฉันด้วยแววตาเศร้า ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะเอามือของชายหนุ่มที่มีใบหน้าหวานคนนี้มากุมไว้พร้อมใช้นิ้วโป้งลูบไปที่หลังมือเขาเป็นการปลอบใจ พร้อมยิ้มให้อย่างช้าๆ
                “ไม่เป็นไรนะ
    ”ฉันพูดปลอบเบาๆ
                “ไม่เป็นไรหรอก อยากฟังต่อไหมล่ะ? หลังจากที่ฉันเกิดได้ไม่นาน แม่ฉันก็ได้รับการยอมรับจากคุณย่าและคนรอบข้างมากขึ้นแต่ถึงอย่างนั้นฉันกับแม่ก็ยังเป็นที่รังเกียจของภรรยาคนแรกของคุณพ่ออยู่ดีหลังจากนั้นแม่เลี้ยงของฉันก็เสียไปด้วยโรคมะเร็งอย่างรวดเร็วซึ่งตอนนั้นฉันอายุได้แค่สามขวบ จากนั้นมาแม่ฉันก็ได้เป็นภรรยาที่พ่อใช้เชิดหน้าชูตาแทน ฉันก็เป็นลูกชายหลานชายเพียงคนเดียวของพ่อและท่านปู่ท่านย่าทำให้ฉันกลายเป็นคุณชายแบบนี้ไง
    ^^”เขาถอนหายใจยาวเหมือนปล่อยรอยยิ้มที่ไม่น่าดูนั้นออกไปเหลือเพียงรอยยิ้มที่เป็นดั่งดวงอาทิตย์ดั่งเดิม
                “นาย
    เข้มแข็งจังนะ^^”ฉันพูดพร้อมเอามือไปลูบบนเพดานรถ(เรียกอย่างนี้แหละมั๊ง=3=)
                “เธอนี่ปลอบคนไม่เป็นสินะ”เขาพูดพร้อมลูบผมฉันเบาๆแล้วรอยยิ้มนั้นก็ผุดขึ้นมาอีกนิดๆ
                “ก็ไม่เป็นน่ะสิ ไม่มีใครให้ฉันต้องปลอบซะหน่อย
    -3-”ฉันทำปากบู้ใส่
                “นี่เธอ
    ”เขาพุดพร้อมยื่นหน้ามาใกล้ๆ
                “ห
    หืม อย่าทำแบบนี้นะโว้ย-O-//”ฉันพูดพร้อมถอยหน้าออกมาเล็กน้อย
                “เธอ
    ”เขาพูดพร้อมเอาจมูกโด่งๆของเขามาใกล้ๆฉันอีกจนได้สัมผัสถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเขา
                “เฮ้ยๆมันมีซัมทิงๆแล้วน่ะโว้ย”ฉันพูดพร้อมถอยหลังจนไปประชิดกับประตูรถหรู
                “
    ”เขามองหน้าฉันด้วยแววตาไม่แสดงถึงอารมณ์ใดๆ
                “ซ
    ซิน”ฉันพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบาด้วยความตกใจ เขาจะแกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ยT^T
                “เธอ”ซินพูดพร้อมจ้องมองนัยน์ตาฉันเนิ่นนานและฉันก็ไม่อาจละสายตาออกจากดวงสีนิลคู่นี้ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
                “
    ”ฉันนิ่งพร้อมจ้องหน้าเขาตอบด้วยความงุนงง
                “ปล่อยมือจากมือฉันได้แล้ว เหงื่อชุ่มแล้ว นี่มือคนหรือมือหมูเนี่ยนิ้วสั้นจริงๆ
    -*-
                “อีตาซิน
    อีตาบ้าเอ๊ย>O<!!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×