คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Intro
INTRO
“ตึ้ง...โครม” เสียงของลูกกลมๆสีส้มที่หลายๆคนเรียกว่าลูกบาส ถูกชู๊ตลงห่วงด้วยความแม่นยำ โดยชายหนุ่มร่างสูง ผู้มีดวงตาสีดำน้ำเงิน คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากสวย ที่ทุกอย่างดันรับกับโครงหน้าแกร่งได้อย่างพอดี ทำเอาสาวๆหลายคนที่อยู่แถวนั้น แทบสลบกับอาการมองไปรอบๆสนามของชายหนุ่ม
“ปรี๊ด..เฮ้” ทันทีที่เสียงนกหวีดดังเป็นสัญญาณที่แสดงว่าการแข่งขันบาส ระหว่างคณะครั้งนี้ ทีมที่ชนะก็ไม่ใช่ใคร ทีมของคณะบริหารนั่นเอง “The Prince !!!” เสียงตะโกนชื่อทีมดังลั่นสนามเพราะศึกครั้งนี้ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี เพราะว่ามีข่าวลือต่างๆนาๆว่าคณะอื่นๆจะสามารถโค่นแชมป์บาสเกือบสิบปีของคณะบริหารได้ ทำให้ปีนี้พวกเขาจึงต้องฝึกหนักกันเป็นพิเศษ การคว้าแชมป์ปีนี้มาได้ก็ทำให้พวกเค้าไม่เสียดายที่ฝึกหนักไป
“เฮ้ย เวกัสมึงเจ๋งว่ะ” เสียงทุ้มๆของเซดริกเพื่อนสนิทดังขึ้นก่อนจะวิ่งเข้ามากอดคอเพื่อนรักอย่างเวกัส
“กูรู้ตัวอยู่” ตอบเพื่อนรักก่อนที่จะเดินตามเพื่อนทีมบาสไปห้องพักนักกีฬา
“แม่ง..ไม่เคยคิดถ่อมตัว”
“The Prince.. The Prince.. The Prince..” เสียงตะโกนดังลั่นห้องพักนักกีฬา เพื่อฉลองให้กับชัยชนะของคณะบริหารปีที่ 10 “เฮ้อ ผ่านมาได้อีกปี” เสียงหวานแอบห้าวของผู้หญิงหนึ่งเดียวของทีมเอ่ยขึ้นมา
“หมายความว่ายังไงกันครับ คุณผู้จัดการทีม..ถอนหายใจแล้วพูดยังกับว่าปีนี้พวกเราจะแพ้” ซีน หนุ่มนักบาสหน้าสวยเอ่ยขึ้น พลางถอดเสื้อออกโดยไม่สนใจกับหญิงหนึ่งเดียวที่ยังนั่งอยู่ในห้อง
“กว่ากูจะรวมพวกคุณมึงแต่ละคนได้..กว่ากูจะไปหารุ่นพี่เจอ..กว่ากูจะฝึกมึงแต่ละคน เลือดตาแทบกระเด็น ดีนะชนะกลับมา” คลีน ผู้จัดการทีมเอ่ยตอบสาเหตุที่ตนเองต้องถอนหายใจ ก่อนจะเริ่มบ่น? “แล้วเสื้อของพวกคุณมึงเนี่ยเก็บไว้ซักเองนะเว้ย อย่าถอดทิ้งถอดกว้าง ไอ้ซัน นี่มึงฟังกูอยู่รึป่าว หา!!”
“เออๆ กูฟังอยู่...... แล้วตกลงเอาเสื้อไว้ไหน” พอถอดเสื้อเสร็จก็วางไว้ที่เก้าอี้เหมือนทุกครั้งแต่ต้องสะดุ้งเพราะผู้จัดการทีมตะโกนใส่หู
“กูพึ่งบอกไปเมื่อกี้ ว่าเอากลับไปซักเอง” พูดจบก็จัดการบิดหูไปสักที
“โอ้ยๆๆๆ โอเค กูรู้แล้วปล่อยๆ"
“ปล่อยมันไปเถอะไอ้คลีน สงสารมัน หึๆ” เพชร หนุ่มนักบาสที่แลจะดูปกติที่สุดเอ่ยห้ามแล้วหัวเราะเบาๆ
“มึงด้วยไอ้เซดริก นี่ทีมบอลเค้าไม่มีการซ้อมกันรึยังไง ถึงได้มาอยู่ทีมบาสของกูเนี่ย..” พอหันจากซันออกมาก็เจอกับเซดริกนักบอลของคณะที่น่าจะไม่ค่อยมีการซ้อมดูท่าน่าจะชอบมาโดนบ่นที่ห้องพักนักบาสมากกว่า “แหะๆ งั้นกูไปล่ะ” พอเห็นว่าท่านผู้จัดการทีมอาจมีการบ่นระรอกใหม่จึงต้องหนีออกมาทันที
“จะดีใจหรือเสียใจดีว่ะ” เสียงของครามกัปตันทีมบาสเอ่ยๆสั้นๆก่อนที่จะเอาเสื้อพาดบ่าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
“มึงแปลความหมายด่วนเลยไอ้ซายน์” เสียงมึนๆของไนท์ นักบาสอีกคนเอ่ยถามขึ้น เพราะไม่เข้าใจความหมายของไอ้กัปตันทีมมาดขรึมนั่นเท่าไร จึงต้องถามคนที่น่าจะเข้าใจมากที่สุด
“ก็ประมาณว่าควรจะดีใจที่ชนะ หรือเสียใจที่คลีนมันขี้บ่นขึ้นก่อนดี” ซายน์ เอ่ยขยายความให้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปชำระล้างตัวบ้าง หลังจากทิ้งระเบิดไว้ลูกใหญ่
“พวกมึง!!!!!!”
ย้อนกลับมาที่ข้างสนามบาสอีกครั้ง
“ว้าว พี่เจ้าชายเก่งจังเลยนะลูกตาล” ร่างเล็กที่อยู่ในชุดนักศึกษา เอ่ยขึ้นมาพลางหันไปมองหน้าเพื่อนรัก
“เออ อะไรๆก็พี่เจ้าชายๆ ก็แค่ผู้ชายหล่อๆคนนึง” หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยแกมประชด
“ง่า...ลูกตาลก็.."
“เฮ้อ ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย ชั้นไม่ใช่พี่เพชรที่พอคริสทำหน้าอย่างนี้แล้วใจอ่อนหรอกน่า กลับบ้านกันดีกว่า”
พอเห็นว่าเพื่อนสาวที่ตัวเล็กกว่าเค้าเกือบห้าเซน? เริ่มงอแง และทำท่าจะร้องไห้ เลยต้องเปลี่ยนเรื่องให้ลืมๆมันไป
“ไหนบอกว่าจะทำขนมให้กินวันนี้ลูกตาลยอมไปชิมที่บ้านคริสเลย เอ้า"
“อ๊ะ จริงด้วยคริสได้สูตรขนมใหม่ๆมาด้วยแหละ เดี๋ยวจะลองทำให้ชิม” นั่นไงว่าแล้วเชียวไม่เกิน 3 วิจริงๆ ความจำสั้นอย่างกับปลาทอง “รีบกลับกันดีกว่าเนอะ” พูดพลางวิ่งกระโดดไปด้วย มีเพื่อนหรือมีลูกกันแน่ว่ะ
“คุณลุงค่ะ” พอเห็นรถเท่านั้นแหละ พุ่งเข้าใส่ซะกลัวมันจะหายไปไหน บอกหน่อยสิว่านี่มันผู้หญิงอายุ 19 ไม่ใช่เด็ก 2 ขวบ “วันนี้พี่เพชรแข่งบาสชนะด้วยค่ะคุณลุง..................” เสียงหวานที่พอขึ้นรถได้ก็เจื้อยแจ้วไปตลอดทาง ทำให้คนบนรถต้องอมยิ้มไปกับความน่ารักของคุณหนูบ้านนี้
“คุณลูกตาลจะแวะที่ไหนรึป่าวครับ” คุณลุงคนขับหันมาถาม
“ไม่ล่ะคะ กะว่าจะไปชิมขนมที่บ้านคุณน้าซะเลย” เอ่ยตอบก่อนที่หันหน้าไปดูเพื่อนรักที่ทำท่าจะหลับคาเบาะรถอยู่แล้วด้วยความง่วงนอน “คริสๆ อย่าพึ่งหลับสิ จะถึงบ้านอยู่แล้ว"
“งืม.........ใช่ๆ เอ๋ ..ต้องใส่อะไรบ้างน๊า” เสียงหวานใสเอ่ยกับตัวองเบาๆ แต่ก็ยังทำให้ทั้งคุณลุงคนขับและเพื่อนรักอมยิ้มกับความน่ารัก ใครไม่ได้มารู้จักกับครอบครัวนี้คงไม่รู้ว่า ครอบครัวนี้เค้าเลี้ยงยัยคริสมาอย่างกับไข่ในหินไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนกร้ำกรายเข้ามาได้ ลองเข้ามาสิชั้นคนแรกเนี่ยแหละจะเตะโด่งออกไปคนแรกเลย ครอบครัวเราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่เพราะพวกท่านเป็นเพื่อนกัน แล้วพ่อของเราสองคนก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ทำให้เราสองคนสนิทกันด้วย
“หนูว่าวันนี้หนูคงไม่ได้ชิมขนมแน่เลย คุณหนูของลุงเล่นหลับตั้งแต่ยังไม่ถึงบ้านนี่ค่ะ"
“ผมก็ว่าเหมือนกันครับ”
..............................................................................................................
สวัสดีค่าาา วันนี้มาตอนอินโทรแรก ช่วงนี้งานเยอะค่ะ พึ่งจัดการเสร็จ
เลยได้ออกมาต่อตอนอินโทรสักหน่อย
รบกวนช่วยคอมเมนต์กันด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่าาา
ความคิดเห็น