ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Atlas Highschool ปิดรักหัวใจนายซอมบี้

    ลำดับตอนที่ #2 : 1 (Not Fair!) ทำไมฉันต้องโดนหางเร่ตามด้วยล่ะ!

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 55


    1

     

    (Not Fair!)

    ทำไมฉันต้องโดนหางเร่ตามด้วยล่ะ!

     

            กลับมาที่ปัจจุบัน…หลังจากที่เห็นฉากดราม่าเรียกน้ำตายังกับหลุดออกมาจากโรมิโอกับจูเลียตของพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้แสนขี้แย ตอนนี้ฉันกำลังเกิดอาการอยากจะร้องไหัออกมา  โปรดอย่าคิดว่า ฉันร้องไห้เพราะคิดถึงแอสเตอร์ที่สลายร่างกลายเป็นโกโก้ครั้น (มุกน่ะ พวกคุณ ไม่มีอารมณ์ขัน กันเลยรึไง) แค่เก้าสิบปีมันเหมือนกับสามวันในชีวิตของพวกเรา ชีวิตของเทพเจ้า

    โอเค คงจะงงกันล่ะสิงั้นถอยหลังกลับไปสักนิด

    โลกนี้ไม่ได้มีแค่มนุษย์อาศัยอยู่เท่านั้น มีพวกเราเหล่าเทพเจ้าผู้ปกครองสวรรค์ ยมฑูต ผู้ปกครองนรก

            จอมเวทย์ ผู้อาศัยอยู่ในมิติอันไกลโพ้น อมนุษย์ที่อยู่ตามโลกต่างๆและปีศาจที่คอยสิงสู่สร้างความ เดือดร้อนให้กับผู้คนทั้งสามโลก ราชาทั้งสามองค์เห็นว่าการฆ่าฟันกันเองไม่เกิดประโยชน์อะไร จึงลงมติสงบศึกเป็นพันธมิตรกัน เพื่อที่จะคอยจัดการกับปีศาจที่เริ่มขยายอำนาจตอนที่พวกเราสู้กันเอง

            Atlas High School จึงถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้ทั้งสามโลกได้เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีมนุษย์ธรรมดา และอมนุษย์เข้ามาเรียนรวมกับพวกเราด้วย โดยมีกฏเล็กๆ น้อยว่าห้ามเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้มนุษย์ธรรมดารู้ ซึ่งพี่ชายของฉันทำผิดข้อหานี้ไปเต็มๆ

           ฉันเดินบิดขี้เกียจไปตามทางเดินของพระราชวัง พลางเปิดตำราเวทย์มนตร์สำหรับนางฟ้าอ่านไปด้วย ชื่อของฉันคือไพเพอร์เรีย ตามตำนานฉันคือนางฟ้าที่มีหน้าที่คอยเฝ้าประตูทิศเหนือ ช่วยเป่าขลุ่ยรักษา คน ช่วยนู้นช่วยนี่บลาๆๆ อีกล้านแปด เอาเป็นว่าฉันไม่ค่อยเหมือนที่ตำนานว่าเท่าไหร่ ประตูทางทิศเหนือก็นานๆ ทีถึงจะไปเฝ้า สรุปเรื่องจริงมีแค่เรื่องเดียวคือฉันเป่าขลุ่ยเก่งขนาดสามโลกยังหลับ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นฉันคงต้องนอนแบอยู่บนเตียงไปอีกหลายร้อยปี เนื่องจากใช้เวทย์พลังชีวิตหมดซะเกลี้ยงหลอด

    “ท่านพ่อ ข้ามาแล้ววว”

    “เข้ามาไพปส์”

            ฉันพลักประตูห้องทำงานเข้าไป ข้างในนั้นท่านพ่อกำลังนั่งเล่นไพ่กับท่านแม่อย่าสบายใจเฉิบ โดยมีท่าเลขา เป็นขาไพ่อีกคนนึง

    “จะชวนลูกเล่นไพ่เหรอ? กำลังอยากอยู่พอดีเชียว”

    “จะบ้าเหรอลูกคนนี้…เย้ ข้าชนะอีกรอบแล้ว”

    “เจ้าโกงข้ารึป่าวเคท! นี่มันห้ารอบแล้วนะ”

    “นั่นสิขอรับ…”

    “แฮ่มๆ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรลูกจะโดดไปนอนต่อแล้วนะ”

    “ฟรานซ์บอกลูกไปซิ ข้ายุ่งอยู่”

    ท่านแม่สับไพ่พลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี ท่านพ่อหันมาทางฉันก่อนจะยื่นซองใส่จดหมายแผ่นนึงให้

    “อะไรน่ะท่านพ่อ”

    “วันหลังหันพูดจานิ่มๆ เป็นบ้างรึป่าวไพปส์ เฮ้อ…”

              ท่านพ่อถอนหายใจอย่างปลงๆกับนิสัยเหมืนลิงทโมนของฉัน ไอ้ตำนานบ้าบอที่บอกว่านางฟ้าไพเพอร์เรียเรียบร้อยอ่อนหวาน รักเด็ก สงบเสงี่ยมดั่งกุลสตรีเนี่ยมันไปเอามาจากไหนกันฟะ                                                                         

    ฉันเปิดซองจดหมายดูแล้วหยิบกระดาษข้างในขึ้นมาอ่านเนื้อหา อืม…ฮะ! เฮ้ย?!

    “ท่านพ่อ! นี่มันอะไร ทำไมจดหมายรายงานตัวนักเรียนใหม่ถึงมีรูปลูกติดอยู่ล่ะ”

    “ไพปส์ ลูกเริ่มติดนิสัยหัวถึบเหมือนพ่อแล้วนะจ้ะ… อุ้ย ตองคิงจ้า”

    “ช่วยอธิบายให้ลูกเข้าใจมากกว่านี้ที ท่านพ่อ! เลิกเล่นไพ่ได้แล้ว”

    “แปบนึนะไพปส์พ่อจะชนะแล้ว เคท อธิบายให้ลูกฟังที”

    “คือมันเป็นอย่างนี้นะจ้ะ ตอนนี้พี่ชายลูกถูกเด้งลงสวรรค์ เขากำลังเป็นวุ้นแล้วก็…”

    “ท่านแม่! เอาง่ายๆ สั้นๆ ได้ใจความ ไม่งั้นลูกจะระเบิดห้องนี้ให้ระเหิดไปเลย”

    “โหดร้ายย” ท่านแม่ทำเสียงละห้อยก่อนจะกลับมาเป็นงานเป็นการอีกครั้ง “เราเลยต้องส่งตัวแทนจากสวรรค์เข้าไปเรียนใน Atlas High school ตามข้อตกลงของทั้งสามโลก”

    “แล้วทำไมต้องเป็นลูก เทพองค์เล็กๆมีตั้งเยอะตั้งแยะส่งไปสิคะ”

    “ลูกยังติดทัณฑ์บนอยู่นะ” ท่านพ่อส่งสายตายตำหนิเล็กน้อยมาทางฉัน “โดนยามเกินสิบครั้ง โดดเรียนอีกห้า แถมยังทำสวนลอยพังอีก ถ้านับรวมโทษแล้วต้องเฝ้ายามชดเชยอีก…”

    “ตกลง! ลูกยอมไปก็ได้”

                ฉันรีบรับข้อเสนอของท่านพ่อแทน อย่างน้อยถ้าลงไปอยู่ที่โรงเรียนฉันก็ยังสามารถเดินไปเดินมา ว่ายน้ำ เก็บกบ ตบตะปาดได้ (สองอันหลังเริ่มไม่ใช่ละ) แต่ถ้าโดนโทษให้ไปเฝ้ายามที่ประตูทิศเหนือละก็ อย่างน้อยก็ต้องอยู่ไปอีกร้อยกว่าปีแน่ะ!

    “เก็บปีกกับออร่าของลูกด้วยนะ เว้นแต่ว่าอยากจะให้คนอื่นเขาลูกว่าเป็นนางฟ้า”

    “ลูกไม่อยากให้ใครรู้หรอกน่าท่านพ่อ…แล้วเนี่ยต้องอยู่บนโลกมนุษย์อีกนานแค่ไหนกัน”

    “ก็จนกว่าพี่ชายของลูกจะกลับมา”

    กว่าท่านพี่จะกลับก็น่าจะ...ประมาณเก้าสิบปี แล้วฉันไม่ต้องกลายเป็นยายแก่เฝ้าโรงเรียนไปเลยรึไง

     

     

    (สวนลอยแห่งสวรรค์)

     

    “เฮ้อ…ข้าต้องแต่งตัวเป็นเด็กเนิรส์อย่างนี้ลงไปโลกมนุษย์เหรอเนี่ย”

            ฉันบ่นเบาเมื่อซูริ…ว่าที่พี่สะใภ้ของฉันนั้นแหละ มาจัดการแต่งตัว สอนเรื่องต่างบนโลกมนุษย์ที่ฉันยังไม่รู้ให้ ตอนนี้เธอถูกกักตัวไว้อยู่บนสวนลอยแห่งสวรรค์แล้วก็คอยทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในนี้

    “ขอโทษนะ ท่านต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้แทนฉัน”

    “เรียกข้าว่าไพปส์ก็พอน่า เรียกท่านแล้วมันรู้สึกตะขิดตะขวงยังไงก็ไม่รู้”

            ฉันหมุนตัวหน้ากระจกพลางถอนหายใจอย่างปลงๆกับสภาพของตัวเอง เสื้อเชิตสีขาวทับด้วยเนคไทสี น้ำเงินเช่นเดียวกับกระโปรง ส่วนผมสีอ่อนก็ถูกมัดเป็นเปียสองข้างยังกับเด็กอนุบาล บอกตรงเห็นสภาพตัวเองแล้วรับไม่ได้สุดๆ

    “ท่าน…ไพปส์ แต่ตัวแบบนี้ก็น่ารักมากเลยนะ ถ้าลงไปข้างล่างต้องมีคนรุมจีบตรึมแน่เลย”

    “พอเถอะ น่าเบื่อจะตายเรื่องรักๆ ใคร่ๆ… โอ๊ะ นี่รูปเพื่อนเธอเหรอ”

           ฉันคว้ากรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งมาดู ในนั้นเป็นรูปของซูริ อยากจะบอกว่าเธอสวยหวาน น่ารักมากในชุดเครื่องแบบนักเรียน ผู้ชายที่โอบเธอไว้คือแอสเตอร์พี่ชายฉัน แล้วก็ยังมีผู้ชายอีกสามสี่คนยืนนั่งกระจัดกระจายกันอยู่รอบๆ

    “เพื่อนของแอสเตอร์น่ะ ฉันก็เพิ่งจะรู้จักพวกเขาเหมือนกัน”

    “แล้วเขารู้รึป่าวว่าแอสเตอร์เป็นเทพ”

    “ไม่น่าจะรู้นะ”

    ฉันพยักหน้ารับ นี่พี่ชายมีเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่กันไม่เห็นจะเล่าให้ฟังเลย งอนเชอะ!

            ฉันค่อยๆ พิจารณาดูเพื่อนของพี่ชายแต่ละคน คนที่ผมดำใส่แว่นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ท่าจะดูเหมือน เด็กเรียนสุดๆ ผู้ชายอีกสองคนที่มีผมสีคาราเมลกับสีน้ำตาลกำลังนั่งงัดข้อ ส่วนผู้ชายที่นอนอยู่บนโซฟา ฉันไม่เห็นหน้าเขาเพราะว่าเขาหันหลังให้กล้องอยู่

    “ฉันต้องไปแล้วล่ะ”

    “จะไปแล้วเหรอ”

     ซูริทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ให้ตายเถอะ นี่ฉันต้องคอยปลอบพี่สะใภ้ขี้แยแทนพี่ชายเหรอเนี่ย

    “เดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้วล่ะ เจอกันนะซูริ!~”

             ฉันเรียกปีกขึ้นมาก่อนจะกางขึ้นแล้วโผตัวลงสู่เบื้องล่าง ลมเย็นที่พัดเข้ามากระทบใบหน้าทำให้ฉันสดชื่นขึ้นแต่ภาย
    ในใจกลับรู้สึกโหว่งๆ เหมือนเกิดช่องว่างขึ้นมากลางอก นัยย์ตาของฉันเริ่มมีน้ำตารื้นขึ้นมา

    นี่ใช่มั้ยความรู้สึกของนายตอนจากบ้านมา ดิแอสเตอร์

     
    ...........

     

     
    “เฮ้ย เซมซี แกเงยหน้าขึ้นมองฟ้าทำไมวะ ฟนจะตกเหรอ?”

    ชายหนุ่มผมสีคาราเมล เอ่ยถามเพื่อนสนิทที่อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการหยุดเดินแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า ดูท่าทางเหมือนกำลังจะจำศีลกะทันหัน

    “แกไม่รู้สึกบ้างรึไง ลีโอ”

             ลีโอส่ายหน้าอย่างจริงใจ ทำเอาเซมซีถึงกลับกุมขมับในความโง่ของเพื่อนตัวเองแต่ดูเหมือนว่าลีโอจะรู้ ทันความคิดนั้นเจ้าตัวเลยส่งเสียงดังโวยวายออกมา

    “เออ แกไปคุยเรื่องสัมผัสพลังหรือไม่ก็โมเม้นตัมกับไอ้แว่นนู้นนเลย ไปละ”

            ลีโอเดินดุ่มๆ เข้าตึกเรียนไป อาการคล้ายสาวน้อยกำลังงอนคนรักเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กับเหล่าสาวกชาววายได้เป็นอย่างดี

    หาเรื่องให้กูอีกแล้วไง…

          เซมซีหนวดขมับอย่างเครียดๆ ก่อนจะเดินตามลีโอไป โดยคิดว่าออร่าบางอน่างที่กำลังพุ่งมาทาง โรงเรียนนี้คืออะไร

     

    TBC

     

    Talk with me

     

    ไรท์เตอร์กลับมาแล้วๆๆๆ ช่วงนี้กลางเทอมเรียนหนักมากเลย รักษาสุขภาพกันด้วยนะทุกคน ไฟท์ติ้งๆๆ! มีอะไรไม่ชอบตรงไหนก็บอกกันได้น้าา

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×