ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The duchess of The empire

    ลำดับตอนที่ #2 : (dream1) ปฐมบท เปิดพลัง

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.พ. 55


     

     

    บทนำ

     

    ไม่น่าเลยๆ ธิดาองค์น้อย ชะตาในภพนี้ของท่านจะพบกับภาระอันยิ่งใหญ่ มหาสงครามที่จะล้างเผ่าพันธุ์เรา และท่านจะเป็นผู้นำของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย ผู้ที่ยืนสู่จุดสูงสุดมักจะโดดเดี่ยวเสมอ พระราชมารดาที่ท่านรักจะสิ้นพระชนม์ จงจำคำของข้าไว้ ดัชเชส

    เฮือก!

    แฮกๆๆ

    นี่มันอะไรกัน ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ?

    เด็กหญิงทาบมือที่หน้าอกตัวเองเพื่อที่มันจะได้หยุดหัวใจที่เต้นรัวได้บ้าง ใบหน้าของเทพพยากรณ์ตามหลอกหลอนเธอ นัยน์ตาของแม่หมอช่างน่ากลัวเหลือเกิน ดวงตาสีขาวเหมือนลูกแก้ว เสียงสูงแหลมเหมือนแม่มดร้ายเปล่งคำพยากรณ์ตามหลอกหลอนเธอมาตลอด

    ฝันร้ายรึไง

    ฟิกซ์ นายรู้ได้ไง

    ฟิกซ์ยักไหล่ ฉันเดาได้จากเสียหอบของเธอ

    เดาเก่งนะ ใช่ฉันฝันร้าย

    ฉันว่าเธออ่านหนังสือเยอะไปมากกว่า

    ฟิกซ์เลื่อนสายตาไปที่กองตำราและม้วนกระดาษจำนวนมากที่กระจัดกระจายบนโต๊ะหนังสือ

    หาความรู้ใส่ตัวไว้ไม่เสียหายนะ

    เธออายุแค่เจ็ดขวบนะอย่าพูดจาให้มันมีหลักการมากได้ป่ะ -*-“

    ตัวเลขไม่ใช่สิ่งสำคัญ ฉันชอบอ่าหนังสือหนิ

    เสียงเถียงง่องแง่งของเบียทริชทำให้ฟิกซ์ส่ายหัวอย่างจนปัญญา เขาเดินไปหยิบหวีมาจากโต๊ะเครื่องแป้งแล้วขึ้นไปหวีผมบนเตียงของเบียทริช

    ขึ้นมาบนเตียงเจ้าหญิงมันผิดกฎนะ -*-“

    หยวนๆไปสิ ถ้าเธอไม่หวีผมตอนนอนมันจะเจ็บหัวนะ

    เบียทริชไม่เถียงต่อเธอหยิบหนังสือวรรณกรรมเล่มโปรดมาอ่านแทน ฟิกซ์หวีผมผมหยิกสีทองแดงของเธออย่างตั้งใจ

    ตุ้บ!

    แปลงหวีผมร่วงจากมือของฟิกซ์ เบียทริชเงยหน้าจากหนังสืออย่างแปลกใจ ไม่มีทางที่ฟิกซ์จะเป็นคนซุ่มซ่ามได้ยกเว้นว่าเขาสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง

    ฟิกซ์เป็นอะไรน่ะ

    รออยู่ในห้องนี้อย่าขยับไปไหน

    เดี๋ยวสิฟิกซ์!”

    ฟิกซ์วิ่งออกจากห้องนอนของเธอไปแล้ว ไม่ถึงวินาทีเสียงเตือนภัยดังขึ้นทั่วพระราชวังเสียงฝีเท้าของการ์เดี้ยนหลายนายดังขึ้น เบียทริชรีบวิ่งออกจากห้องไปโดยไม่ฟังคำสั่งของฟิกซ์ สองเท้าพาร่างเล็กไปที่ลานหน้าปราสาท ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้า

    อสูรกายหลายพันธ์กำลังต่อสู่กับการ์เดี้ยนและทหารอยู่  บางคนถูกปิศาจกระชากลำตัวและกลืนกินทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ภาพนั้นโหดร้ายจนเบียทริชต้องเมินหน้าหนี...ขนาดพระราชวังหลวงยังถูกปิศาจบุกมาได้ขนาดนี้แล้วตำหนักกลางของพระมารดาล่ะ!

     “อิลวาดี้!”

    ฮี้!

    ม้าเพกาซัสอิลวาดี้ สัตว์พาหนะของเบียทริชรีบบินลงมาจากท้องฟ้าเมื่อได้ยินเสียงของนายหญิงเรียก

    ไปที่ตำหนักกลาง เร็ว!”

    โอเคเจ้านาย

    อิลวาดี้รีบบินขึ้นฟ้าเพื่อไปที่ตำหนักกลางตามที่นายหญิงสั่ง เบียทริชสวดภาวนาอยู่ในใจ อย่าให้แม่เป็นอะไรเลย ได้โปรดเถอะ!’

    เมื่อถึงลานหน้าตำหนักกลาง เบียทริชรีบกระโดดลงจากอิลวาดี้ทันทีเด็กหญิงวิ่งเข้าไปในตัวตำหนัก คราบเลือดและซากศพมากมายตรงหน้า ถูกโยนระเกะระกะเต็มทางเดิน บางศพถูกทารุณอยากโหดเหี้ยม กระดูกแตกหักสมองไหลออกมากองอยู่นอกตัว เบียทริชมองศพเหล่านั้นด้วยความเวทนา เมื่อถึงห้องบรรทมของพระมารดาสองมือเล็กๆรีบเปิดประตูห้องออกทันที ดวงตากลมเบิกกว้างงุนงงกับเหนุการณ์ตรงหน้า

    แม่!”

    บะ เบียทริช...

    โอ้ ลูกสาวเจ้าเหรอเนี่ย ช่างงดงามเหลือเกิน

    อย่ายุ่งกับลูกฉัน!”

    ผู้ชายที่มีผมยาวประบ่าสีดำกำลังโอบกอดพระราชมารดาจากทางด้านหลัง ริมฝีปากฝังอยู่ที่ต้นคอพระนาง เมื่อชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาเผยเห็นเขี้ยวแหลมยาว

    แวมไพร์

    ช่างน่าชื่นชม เจ้ากล้ามากที่เห็นข้าแล้วไม่รีบวิ่งหนีไป

    เบียทริช วิ่ง!...กรี๊ดดดดดดดดด

    แม่!”

    พระราชมารดากรี๊ดร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อชายคนนั้นกระแทกมือเข้าไปที่ลำตัวของนางจนทะลุ เลือดไหลอาบโฉกร่าง ชายคนนั้นจูบริมฝีปากของมารดาเด็กหญิงเบาๆแล้วโยนร่างของนางมาที่ตัวเด็กหญิง

    แม่! ท่านแม่คะ!”

    ไร้สิ้นเสียงตอบ เบียทริชสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่หยุดเต้นของมารดา น้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจและคับแค้นเด็กหญิงพยายาม ผลักร่างของมารดาออกไปแต่ด้วยกำลังอันน้อยนิดทำให้ร่างของมารดาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

    จัดการให้เสร็จๆไปเลยดีกว่า

    ชายคนนั้นก้าวช้าๆเหมือนราชสีห์จะจับลูกกวางตัวน้อยๆ เบียทริชหลับตาลงแล้วท่องมนตร์เรียกสัตว์อสูรจงมาสัตวว์เทวะ จงมา อสูรแปลง!’

    โฮก โฮกกกก

    นี่มันอะไรกัน

    สัตว์อสูรในตำนาน มอนส์เตอร์ชิพ

    มะ ไม่!”

    เป็นสัตว์อสูรที่เหมาะจะฆ่าแกมากที่สุดเจ้าแวมไพร์พวกชั้นต่ำ ฆ่ามันซะ!”

    มอนส์เตอร์ชิพของเบียทริชตรงขย้ำแวมไพร์ที่อยู่เบื้อหน้า เจ้าแวมไพร์สกปรกแสยะยิ้มก่อนจะต่อสู้กับสัตว์อสูรตรงหน้า เบียทริชหรี่ตามองแวมไพร์ที่อยู่เบื้อหน้าเป็นไปได้สูงว่าแวมไพร์ตนนี้จะเป็นชั้นเซ็คคอนด์ มอนส์เตอร์ชิพของเธอยังเยาว์เกินไปอาจจะสู้แวมไพร์ตัวนี้ไม่ได้

    เบียทริชหลับตาลงแล้วรวบรวมสมาธิพลังที่อยู่ในตัวเธอ พลังที่เป็นจุดกำเนิดของโลก พลังที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นพลังที่มารดาถ่ายทอดให้กับเธอ พลังที่เธอไม่เคยทำได้แต่ครั้งนี้มันต้องสำเร็จ เสียงเล็กๆเปล่งภาษามนตร์ตราเก่าแก่ออกมา

    อิส โดส วอรากู อิทัล อิล อากิส กลอเซว...

    หยุดนะ!”

    แวมไพร์ตะโกนลั่นเมื่อเห็นเด็กหญิงชี้ไม้กายสิทธ์มาทางตน เขารู้ว่ามนตร์ที่เธอร่ายออกมามีอณุภาพสูงที่จะทำลายทุกอย่างได้ เขารีบพุ่งตรงมาหมายจะปลิดชีพของเด็กหญิงแต่ถูกสัตว์อสูรมาขวางไว้ก่อน

    โดอา เรียล วอทัล อิส!!”

    ครืนๆ

    เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!

    สายฟ้าจำนวนมากพันรอบร่างของแวมไพร์ก่อนจับรวมตัวกันเป็นลูกบอลขนาดยักษ์แล้วระเบิดร่างของแวมไพร์จนไม่เหลือซาก อณุภาพของมันรุนแรงมากจนทำให้ตำหนักกลางสั่นสะเทือนแล้วพังครืนลงมา

    เบียทริช! ทริช! ตื่นเซ่!”

    ครืนๆๆๆ

    โครมมม

     

    (ลานหน้าปราสาท)

    ตามข้ามา เร็ว!”

    ราชาไมดาส วิ่งนำหนักกองทหารการ์เดี้ยนมุ่งไปตำหนักกลางหลังจากที่รู้ว่าพวกมอนส์เตอร์ที่อยู่ด้านหน้าเป็นแค่ตัวล่อเป้าและมีทหารรายงานว่าเห็นดัชเชสขี่ม้าเพกาซัสไปทางตำหนักกลาง ไมดาสรีบเร่งมาที่นี่โดยเร็วไม่ใช่แค่ตัวราชินีที่อยู่ข้างหน้ารวมถึงธิดาที่เป็นแก้วตาดวงใจของเขากำลังอยู่ข้างในด้วย!

    ฝ่าบาท! ตำหนักกลางถล่มแล้ว

    ฟุ่นคลุ้งปกคลุมทั่วตำหนักจนทำให้มองไม่เห็นภายใน ร่างของราชาไมดาสสั่นระริก พระองค์สัมผัสได้ว่าราชินีสุดที่รักคงจากไปยังโลกหน้าก่อนพระองค์แล้ว

    ฝ่าบาท ดูนั่น!”

    การ์เดี้ยนนายหนึ่งชี้ไปยังกลุ่มฝุ่นที่กระจายตัวเองออกเหมือนเปิดทางให้บางสิ่งที่กำลังออกมา เบียทริชเดินออกมากจากลุ่มฝุ่นโดยมีฟิกซ์แบกร่างของราชินีไว้บนหลัง

    เทเรชซา เบียทริช!”

    ราชาไมดาส วิ่งเข้าไปหาเด็กหญิงแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นอะไรบางอย่าง ดวงตาโตสีม่วงครามดูเจิดจ้าพร้อมกับรอยสักรูปไม้เท้าที่ต้นคอเปล่งแสงสีม่วงขึ้น

    ไม่...

    เบียทริชชูไม้กายสิทธิ์ขึ้นทำให้เกิดแสงมนตราสีม่วงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงนี้แผ่รัศมีไปที่ลานหน้าปราสาทจัดการทำลายอสูรกายทั้งหมด แสงมนตราของเบียทริชยังแผ่ไปไกลถึงนอกตัวเมืองที่มีอสูรกายหมื่นกว่าตัวที่กำลังรอโจมตีรอบสอง แสงนั่นทำลายอสูรกายจนไม่เหลือแม้แต่ซาก แสงมนตรารวมตัวกันเป็นร่างนกฟินิกซ์ขนาดยักษ์ นกยักษ์ร้องเปล่งเสียงกึกก้องทั่วแผ่นดินอคาทัสประชาชนวิ่งออกมายืนดูเหตุการณ์ประหลาดนี้อย่างอัศจรรย์ใจ

    ราชาไมดาสเองก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์นั้น นกฟินิกซ์สลายตัวเป็นแสงมนตราแล้วกลับมาที่ไม้กายสิทธิ์ของเบียทริชตามเดิม

    จงฟัง นี่คือคำสั่งของข้า เสียงที่เปล่งออกจากปากของเด็กหญิงไม่ใช่สิ่งของตนแต่เป็นเสียงของชายคนหนึ่งแทน

    เบียทริช เทเรซเนีย เบ็คซาร์ คือเป็นผู้ใช้มนตาราสายศักดิ์สิทธ์คนเดียวในแผ่นดินนี้  ผู้ใช้ไม้เท้าแห่งการ์เล็ต ผู้กำราบผลแปดแสน จักรพรรดินีแห่งอคาทัสคนต่อไป

     

    อีกด้านหนึ่งของเมือง

    เด็กผู้ชายที่มีผมสีบลอนด์เงินดวงตาเรียวคมสีน้ำเงินเข้ม จ้องมองบริเวณพระราชวัง ปากบางสีเรื่อหยักยิ้มที่มุมปาก

    แล้วเราจะได้เจอกัน ผู้ถือไม้เท้าแห่งการ์เล็ต

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×