คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : (dream1) ปฐมบท เปิดพลัง
บทนำ
‘ไม่น่าเลยๆ ธิดาองค์น้อย ชะตาในภพนี้ของท่านจะพบกับภาระอันยิ่งใหญ่ มหาสงครามที่จะล้างเผ่าพันธุ์เรา และท่านจะเป็นผู้นำของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย ผู้ที่ยืนสู่จุดสูงสุดมักจะโดดเดี่ยวเสมอ พระราชมารดาที่ท่านรักจะสิ้นพระชนม์ จงจำคำของข้าไว้ ดัชเชส’
เฮือก!
“แฮกๆๆ”
นี่มันอะไรกัน ฝันร้ายอีกแล้วเหรอ?
เด็กหญิงทาบมือที่หน้าอกตัวเองเพื่อที่มันจะได้หยุดหัวใจที่เต้นรัวได้บ้าง ใบหน้าของเทพพยากรณ์ตามหลอกหลอนเธอ นัยน์ตาของแม่หมอช่างน่ากลัวเหลือเกิน ดวงตาสีขาวเหมือนลูกแก้ว เสียงสูงแหลมเหมือนแม่มดร้ายเปล่งคำพยากรณ์ตามหลอกหลอนเธอมาตลอด
“ฝันร้ายรึไง”
“ฟิกซ์ นายรู้ได้ไง”
ฟิกซ์ยักไหล่ “ฉันเดาได้จากเสียหอบของเธอ”
“เดาเก่งนะ ใช่ฉันฝันร้าย”
“ฉันว่าเธออ่านหนังสือเยอะไปมากกว่า”
ฟิกซ์เลื่อนสายตาไปที่กองตำราและม้วนกระดาษจำนวนมากที่กระจัดกระจายบนโต๊ะหนังสือ
“หาความรู้ใส่ตัวไว้ไม่เสียหายนะ”
“เธออายุแค่เจ็ดขวบนะอย่าพูดจาให้มันมีหลักการมากได้ป่ะ -*-“
“ตัวเลขไม่ใช่สิ่งสำคัญ ฉันชอบอ่าหนังสือหนิ”
เสียงเถียงง่องแง่งของเบียทริชทำให้ฟิกซ์ส่ายหัวอย่างจนปัญญา เขาเดินไปหยิบหวีมาจากโต๊ะเครื่องแป้งแล้วขึ้นไปหวีผมบนเตียงของเบียทริช
“ขึ้นมาบนเตียงเจ้าหญิงมันผิดกฎนะ -*-“
“หยวนๆไปสิ ถ้าเธอไม่หวีผมตอนนอนมันจะเจ็บหัวนะ”
เบียทริชไม่เถียงต่อเธอหยิบหนังสือวรรณกรรมเล่มโปรดมาอ่านแทน ฟิกซ์หวีผมผมหยิกสีทองแดงของเธออย่างตั้งใจ
ตุ้บ!
แปลงหวีผมร่วงจากมือของฟิกซ์ เบียทริชเงยหน้าจากหนังสืออย่างแปลกใจ ไม่มีทางที่ฟิกซ์จะเป็นคนซุ่มซ่ามได้ยกเว้นว่าเขาสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง
“ฟิกซ์เป็นอะไรน่ะ”
“รออยู่ในห้องนี้อย่าขยับไปไหน”
“เดี๋ยวสิฟิกซ์!”
ฟิกซ์วิ่งออกจากห้องนอนของเธอไปแล้ว ไม่ถึงวินาทีเสียงเตือนภัยดังขึ้นทั่วพระราชวังเสียงฝีเท้าของการ์เดี้ยนหลายนายดังขึ้น เบียทริชรีบวิ่งออกจากห้องไปโดยไม่ฟังคำสั่งของฟิกซ์ สองเท้าพาร่างเล็กไปที่ลานหน้าปราสาท ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้า
อสูรกายหลายพันธ์กำลังต่อสู่กับการ์เดี้ยนและทหารอยู่ บางคนถูกปิศาจกระชากลำตัวและกลืนกินทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ภาพนั้นโหดร้ายจนเบียทริชต้องเมินหน้าหนี...ขนาดพระราชวังหลวงยังถูกปิศาจบุกมาได้ขนาดนี้แล้วตำหนักกลางของพระมารดาล่ะ!
“อิลวาดี้!”
ฮี้!
ม้าเพกาซัสอิลวาดี้ สัตว์พาหนะของเบียทริชรีบบินลงมาจากท้องฟ้าเมื่อได้ยินเสียงของนายหญิงเรียก
“ไปที่ตำหนักกลาง เร็ว!”
‘โอเคเจ้านาย’
อิลวาดี้รีบบินขึ้นฟ้าเพื่อไปที่ตำหนักกลางตามที่นายหญิงสั่ง เบียทริชสวดภาวนาอยู่ในใจ ’อย่าให้แม่เป็นอะไรเลย ได้โปรดเถอะ!’
เมื่อถึงลานหน้าตำหนักกลาง เบียทริชรีบกระโดดลงจากอิลวาดี้ทันทีเด็กหญิงวิ่งเข้าไปในตัวตำหนัก คราบเลือดและซากศพมากมายตรงหน้า ถูกโยนระเกะระกะเต็มทางเดิน บางศพถูกทารุณอยากโหดเหี้ยม กระดูกแตกหักสมองไหลออกมากองอยู่นอกตัว เบียทริชมองศพเหล่านั้นด้วยความเวทนา เมื่อถึงห้องบรรทมของพระมารดาสองมือเล็กๆรีบเปิดประตูห้องออกทันที ดวงตากลมเบิกกว้างงุนงงกับเหนุการณ์ตรงหน้า
“แม่!”
“บะ เบียทริช...”
“โอ้ ลูกสาวเจ้าเหรอเนี่ย ช่างงดงามเหลือเกิน”
“อย่ายุ่งกับลูกฉัน!”
ผู้ชายที่มีผมยาวประบ่าสีดำกำลังโอบกอดพระราชมารดาจากทางด้านหลัง ริมฝีปากฝังอยู่ที่ต้นคอพระนาง เมื่อชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาเผยเห็นเขี้ยวแหลมยาว
“แวมไพร์”
“ช่างน่าชื่นชม เจ้ากล้ามากที่เห็นข้าแล้วไม่รีบวิ่งหนีไป”
“เบียทริช วิ่ง!...กรี๊ดดดดดดดดด”
“แม่!”
พระราชมารดากรี๊ดร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อชายคนนั้นกระแทกมือเข้าไปที่ลำตัวของนางจนทะลุ เลือดไหลอาบโฉกร่าง ชายคนนั้นจูบริมฝีปากของมารดาเด็กหญิงเบาๆแล้วโยนร่างของนางมาที่ตัวเด็กหญิง
“แม่! ท่านแม่คะ!”
ไร้สิ้นเสียงตอบ เบียทริชสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่หยุดเต้นของมารดา น้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจและคับแค้นเด็กหญิงพยายาม ผลักร่างของมารดาออกไปแต่ด้วยกำลังอันน้อยนิดทำให้ร่างของมารดาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
“จัดการให้เสร็จๆไปเลยดีกว่า”
ชายคนนั้นก้าวช้าๆเหมือนราชสีห์จะจับลูกกวางตัวน้อยๆ เบียทริชหลับตาลงแล้วท่องมนตร์เรียกสัตว์อสูร’จงมาสัตวว์เทวะ จงมา อสูรแปลง!’
“โฮก โฮกกกก”
“นี่มันอะไรกัน”
“สัตว์อสูรในตำนาน มอนส์เตอร์ชิพ”
“มะ ไม่!”
“เป็นสัตว์อสูรที่เหมาะจะฆ่าแกมากที่สุดเจ้าแวมไพร์พวกชั้นต่ำ ฆ่ามันซะ!”
มอนส์เตอร์ชิพของเบียทริชตรงขย้ำแวมไพร์ที่อยู่เบื้อหน้า เจ้าแวมไพร์สกปรกแสยะยิ้มก่อนจะต่อสู้กับสัตว์อสูรตรงหน้า เบียทริชหรี่ตามองแวมไพร์ที่อยู่เบื้อหน้าเป็นไปได้สูงว่าแวมไพร์ตนนี้จะเป็นชั้นเซ็คคอนด์ มอนส์เตอร์ชิพของเธอยังเยาว์เกินไปอาจจะสู้แวมไพร์ตัวนี้ไม่ได้
เบียทริชหลับตาลงแล้วรวบรวมสมาธิพลังที่อยู่ในตัวเธอ พลังที่เป็นจุดกำเนิดของโลก พลังที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นพลังที่มารดาถ่ายทอดให้กับเธอ พลังที่เธอไม่เคยทำได้แต่ครั้งนี้มันต้องสำเร็จ เสียงเล็กๆเปล่งภาษามนตร์ตราเก่าแก่ออกมา
“อิส โดส วอรากู อิทัล อิล อากิส กลอเซว...”
“หยุดนะ!”
แวมไพร์ตะโกนลั่นเมื่อเห็นเด็กหญิงชี้ไม้กายสิทธ์มาทางตน เขารู้ว่ามนตร์ที่เธอร่ายออกมามีอณุภาพสูงที่จะทำลายทุกอย่างได้ เขารีบพุ่งตรงมาหมายจะปลิดชีพของเด็กหญิงแต่ถูกสัตว์อสูรมาขวางไว้ก่อน
“โดอา เรียล วอทัล อิส!!”
ครืนๆ
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!
สายฟ้าจำนวนมากพันรอบร่างของแวมไพร์ก่อนจับรวมตัวกันเป็นลูกบอลขนาดยักษ์แล้วระเบิดร่างของแวมไพร์จนไม่เหลือซาก อณุภาพของมันรุนแรงมากจนทำให้ตำหนักกลางสั่นสะเทือนแล้วพังครืนลงมา
“เบียทริช! ทริช! ตื่นเซ่!”
ครืนๆๆๆ
โครมมม
(ลานหน้าปราสาท)
“ตามข้ามา เร็ว!”
ราชาไมดาส วิ่งนำหนักกองทหารการ์เดี้ยนมุ่งไปตำหนักกลางหลังจากที่รู้ว่าพวกมอนส์เตอร์ที่อยู่ด้านหน้าเป็นแค่ตัวล่อเป้าและมีทหารรายงานว่าเห็นดัชเชสขี่ม้าเพกาซัสไปทางตำหนักกลาง ไมดาสรีบเร่งมาที่นี่โดยเร็วไม่ใช่แค่ตัวราชินีที่อยู่ข้างหน้ารวมถึงธิดาที่เป็นแก้วตาดวงใจของเขากำลังอยู่ข้างในด้วย!
“ฝ่าบาท! ตำหนักกลางถล่มแล้ว”
ฟุ่นคลุ้งปกคลุมทั่วตำหนักจนทำให้มองไม่เห็นภายใน ร่างของราชาไมดาสสั่นระริก พระองค์สัมผัสได้ว่าราชินีสุดที่รักคงจากไปยังโลกหน้าก่อนพระองค์แล้ว
“ฝ่าบาท ดูนั่น!”
การ์เดี้ยนนายหนึ่งชี้ไปยังกลุ่มฝุ่นที่กระจายตัวเองออกเหมือนเปิดทางให้บางสิ่งที่กำลังออกมา เบียทริชเดินออกมากจากลุ่มฝุ่นโดยมีฟิกซ์แบกร่างของราชินีไว้บนหลัง”
“เทเรชซา เบียทริช!”
ราชาไมดาส วิ่งเข้าไปหาเด็กหญิงแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นอะไรบางอย่าง ดวงตาโตสีม่วงครามดูเจิดจ้าพร้อมกับรอยสักรูปไม้เท้าที่ต้นคอเปล่งแสงสีม่วงขึ้น
“ไม่...”
เบียทริชชูไม้กายสิทธิ์ขึ้นทำให้เกิดแสงมนตราสีม่วงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงนี้แผ่รัศมีไปที่ลานหน้าปราสาทจัดการทำลายอสูรกายทั้งหมด แสงมนตราของเบียทริชยังแผ่ไปไกลถึงนอกตัวเมืองที่มีอสูรกายหมื่นกว่าตัวที่กำลังรอโจมตีรอบสอง แสงนั่นทำลายอสูรกายจนไม่เหลือแม้แต่ซาก แสงมนตรารวมตัวกันเป็นร่างนกฟินิกซ์ขนาดยักษ์ นกยักษ์ร้องเปล่งเสียงกึกก้องทั่วแผ่นดินอคาทัสประชาชนวิ่งออกมายืนดูเหตุการณ์ประหลาดนี้อย่างอัศจรรย์ใจ
ราชาไมดาสเองก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์นั้น นกฟินิกซ์สลายตัวเป็นแสงมนตราแล้วกลับมาที่ไม้กายสิทธิ์ของเบียทริชตามเดิม
“จงฟัง นี่คือคำสั่งของข้า” เสียงที่เปล่งออกจากปากของเด็กหญิงไม่ใช่สิ่งของตนแต่เป็นเสียงของชายคนหนึ่งแทน
“เบียทริช เทเรซเนีย เบ็คซาร์ คือเป็นผู้ใช้มนตาราสายศักดิ์สิทธ์คนเดียวในแผ่นดินนี้ ผู้ใช้ไม้เท้าแห่งการ์เล็ต ผู้กำราบผลแปดแสน จักรพรรดินีแห่งอคาทัสคนต่อไป”
อีกด้านหนึ่งของเมือง
เด็กผู้ชายที่มีผมสีบลอนด์เงินดวงตาเรียวคมสีน้ำเงินเข้ม จ้องมองบริเวณพระราชวัง ปากบางสีเรื่อหยักยิ้มที่มุมปาก
“แล้วเราจะได้เจอกัน ผู้ถือไม้เท้าแห่งการ์เล็ต”
ความคิดเห็น