คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : (Dream6) เล่นไม่ถูก
6
สองวันนี้สภาขุนนางลงมติให้งดการประชุมว่าราชการต่างๆเพื่อให้ฉันได้เตรียมตัวเข้างานราชาภิเษก โดยวันแรกฉันต้องเข้าพิธีปฏิสันธานพบประชาชนในตัวเมืองซึ่งมีสายข่าวรายงานว่าเคาน์ทวาคูล่าจะก่อกบฏ ช่างฉลาดเสียจริงที่ลงมือในวันนี้เพราะเขาคงรู้ว่าถ้าใช้อาวุธขณะที่ฉันพบปะประชาชนอยู่พวกทหารจะตอบโต้ได้ไม่เต็มที่ เพราะประชาชนอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย แต่ก็นั่นแหละ มันยังรู้จักฉันน้อยไป
“เสร็จแล้วเพคะ”
“อืม ออกไปทำงานอื่นเถอะ”
ฉันสะบัดมือให้พวกนางกำนัลออกไปให้หมดแล้วเปิดประตูไปที่ห้องทำงานเล็กๆที่อยู่ติดกับห้องแต่งตัว ข้างในมีฟิกซ์กำลังนอนเล่นอยู่บนเก้าอี้นอนหวายของฉันอย่างสบายใจเฉิบ ทำไมหมอนี่ไม่รู้จักคำว่าที่ต่ำที่สูงเลยนะ -*-
“นายเลยลามปามใหญ่แล้วนะ - - “
“ฉันลามปามตรงไหน แค่นอนบนเก้าอี้เพื่อน”
“ฉันเป็นราชินี นายคือองครักษ์”
“แค่เฉพาะต่อหน้าคนอื่น เธอปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน”
ฉันเบ้ปากใส่ฟิกซ์ หมอนี่รู้ทันความคิดของฉันหมด ใช่ เราเป็นเพื่อนสนิทกันความผูกพันตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันได้ ถึงจะเคยเหน็บแหนมให้หมอนั่นหัดเคารพฉันซะบ้างแต่ถ้าให้เขาพูดจาใช้คำราชาศัพท์ใส่ ฉันคงรับไม่ได้เพราะมันดูเหมืนเรามีช่องว่าระหว่างกัน
เฮ้! นี่ฉันคิดอะไรเนี่ย -()-!
“มานี่สิ”
ฟิกซ์ตบเบาะที่ว่างอยู่ให้ฉันไปนั่งข้างๆ บ่นไปก็เมื่อยปากปล่าวๆ ฉันเลยเดินเข้าไปนั่งข้างๆเขาโดยไม่ได้พูดอะไร
“อ่ะนี่”
“สร้อยข้อมือ”
“ใช่ ถ้าเธอร่ายเวทย์เปิดผนึกมันก็จะกลายเป็นนกหวีดเรียกมอนส์เตอร์ชิพ”
ฟิกซ์ลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้นแล้วใส่สร้อยข้อมือรูปโซ่ที่ทำจากเงินให้กับฉัน เขาเงยหน้าแล้วสบตากับฉันแล้วจุมพิตที่หลังมือของฉันเบาๆ
“ฟิกซ์ -()-!”
“ถวายพระพรองค์ราชินี ของขวัญชินนี้กระหม่อมถวายแด่พระองค์”
“กินยาผิดรึไง วันนี้นายจะเป็นทางการไปไหน”
“ฉันแค่ลองพูดไง อีกวันเดียวเธอก็จะเป็นราชินีแล้ว”
“นายก็ยังเป็นเพื่อนฉันอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ -3-“
ฉันฉีกยิ้มเต็มที่ให้ฟิกซ์ เขาเพียงแค่ยิ้มบางๆกลับมาหมอนี่เคยยิ้มกว้างให้ฉันบ้างมั้ยเนี่ย
“นายต้องยิ้มกว้างๆสิ!”
“ทำอะไรของเธอน่ะ -*-“
“ยิ้มไง ยิ้มอย่างฉัน ^___^”
ฉันฉีกยิ้มเต็มที่ให้ฟิกซ์ทำตาม แต่หมอนั่นเมินหน้าหนีไปอีกทางอ่ะฉันยิ้มน่าเกลียดรึไงนะ -*- ฉันเลยเขยิบตัวขึ้นแล้วจับหน้าเขาให้กลับมา
“นี่เป็นคำสั่งของราชินีนะ ยิ้มสิ =^=^”
“คำสั่งติ๊งต๊องไร้สาระแบบนั้นฉันไม่ทำ - -“
แรง ด่าคำสั่งฉันไร้สาระเรอะ! หน้าตายแน่อีตาฟิกซ์
“เฮ้ยยยย หยุดจั๊กจี้ฉันนะโว้ย ก๊ากกกกก”
นี่แหละจุดอ่อนของการ์เดี้ยนฟิกซ์ เป็นเพื่อนกันมาหลายปีจะไม่รู้เลยเหรอว่าหมอนี่บ้าจี้ -.,- ฉันจี้ตามเอวและท้องหมอนั่นทำเอาฟิกซ์หัวเราะน้ำตาลไหลพรากเลยทีเดียว ฉันเขยิบตัวเข้าไปจั๊กจี้ตรงคอหมอนั่นแต่อยู่ดีเขาก็หยุดหัวเราะแล้วนิ่งไปแทน อย่าบอกนะว่าช๊อคตายไปแล้ว -..-;;
“ทริช”
“หา?”
“เธอคร่อมฉันอยู่”
“เอ...O_O?”
กรี๊ดด! ฉันคร่อมอยู่บนตัวฟิกซ์อ่ะ =()=! ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนตัวฟิกซ์มือสองข้างยังค้างอยู่ที่คอเขา พอเลื่อนสายตาลงมาที่เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาปรากฏว่ากระดุมเสื้อขาดไปสามเม็ดเผยให้แผงอกขาวของผู้ชายที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันนิ่งค้างเหมือนถูกสาป รู้ตัวอีกทีเมื่อมือใหญ่ๆของฟิกซ์จับที่ค้างฉันเบาๆแล้วยกให้เงยหน้าขึ้นพลันฉันเพลอสบสายตาของตัวเองกับนัยน์ตาสีฟ้าเทาของฟิกซ์ ใจฉันรู้สึกเต้นผิดจังหวะไปมันเร็วและรัวขึ้น เลือดสูบฉีดที่ใบหน้าจนร้อนไปหมด นี่ฉันอายเหรอเนี่ย?
“ลงไปได้แล้ว”
“อ่า...อืม!”
ฉันรีบเด้งตัวออกมาจากตัวฟิกซ์ทันที สมัยยังเด็กฉันเคยเล่นอะไรทำนองแบบนี้กับฟิกซ์บ่อยๆ แต่ทำไมฉันเพิ่งหน้าแดงเอาตอนนี้ล่ะ? ฟิกซ์ลุกขึ้นตามและจับเสื้อเชิ้ตของตัวเองอย่างเซ็งๆ
“ฉันคงต้องไปเปลี่ยนเสื้อใหม่”
“อืม!”
“ฉันจะไปรอเธอหน้าวังเลยนะ”
“แล้วเจอกันฟิกซ์”
ฟิกซ์เดินไปโดยไม่ได้พูดอะไร ถึงฟิกซ์จะเดาความคิดของฉันได้แต่ฉันไม่เคยดูออกเลยว่าเขาคิดยังไงกันแน่ ฟิกซ์นายโกรธฉันมากรึปล่าวนะ?
(ลานหน้าพระราชวัง)
ขุนนางหลายคนที่อยู่ในชุดเต็มยศตั้งตั้งแถวเป็นสองฝั่งที่ลานหน้าพระราชวังเพื่อรอรับเสด็จแกรนด์ดัชเชส เบียทริช เทรเซเนีย เบ็คซาร์ เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งอคาทัสและว่าที่ราชินีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แม้ว่าขุนนางทุกฝ่ายจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่หมดแล้วแต่ยังขาดเคานท์วาคูล่า ซึ่งเป็นเสนาบดีและเป็นพระญาติอีกด้วย ขุนนางหลายคนรู้อยู่เต็มอกว่าเคานท์วาคูล่าชิงชังและชอบที่จะขัดแย้งกับเจ้าหญิงรัชทายาทตั้งแต่นางเริ่มเข้าสู่การเมืองตั้งแต่แรก แต่เบียทริชก็ทำให้ทุกคนประจักษ์ได้ว่านางเป็นผู้ปกครองที่ดีและนำพาอาณาจักรอคาทัสเจริญรุ่งเรืองกว่าที่กษัตริย์หรือราชินีองค์ใดๆเคยทำมาก่อน
เสียงแตรประจำองค์รัชทายาทดังขึ้นขุนนางทั้งหมดอยู่ในท่าตัวตรง เบียทริชอยู่ในชุดคลุมสีม่วงดูสง่างาม ผมม้วนสีทองแดงถูกรวบไปข้างหลังเผยให้เห็นโครงหน้ารูปไข่ ดวงตากลมสีม่วงครามแฝงความดูเด็ดขาดเย็นชา
เมื่อนางเดินผ่านขุนนางทุกคนพร้อมใจกันโค้งจนศีรษะแทบจะติดพื้นกันเลยทีเดียว ด้านหลังของเบียทริชมีฟิกซ์เดินตามหลังมาติดๆ ผมสีทองของฟิกซ์ถูกหวีเสยอย่างลวกๆ เล่นเอาแม่สาวนางกำนัลแถวนั้นแอบกรี๊ดกันระงม ใครๆต่างก็รู้ว่าหัวหน้าการ์เดี้ยนฟิกซ์เป็นคนมีความสามารถบวกกับหน้าตาหล่อเหลาและนิสัยเจ้าชู้เงียบ ทำให้ผู้หญิงหลายคนต่างจะได้ผู้ชายคนนี้ไปครอบครองทั้งนั้น
“เตรียมอิลวาดี้แล้วใช่มั้ย”
“พะยะค่ะ”
การ์เดี้ยนนายหนึ่งจูงอิลวาดี้ ม้าเพกาซัสสีขาวที่เบียทริชเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก อิลวาดี้ร้องฮี้ๆอย่างดีใจที่จะได้ออกไปสู่โลกภายนอกพร้อมกับนายสาวอีกครั้ง เบียทริชโหนตัวขึ้นม้าแล้วรอรอให้ขุนนางทั้งหลายขึ้นม้าของตัวเองเสร็จ
‘เจ้านายวันนี้ให้ผมพาท่านบินไปชมนอกเมืองมั้ย’
‘ไม่ล่ะอิล’ เบียทริชใช้โทรจิตคุยกับอิลวาดี้ ‘วันนี้ฉันต้องไปพบประชาชนน่ะ’
เบียทริชกระตุกบังเหียนให้อิลวาดี้เดินไปข้างหน้า ประตูใหญ่ของพระราชวังเปิดออกโดยมีเบียทริชขี่ม้านำหน้าขบวนขุนนางและทหารการ์เดี้ยนหนึ่งกองร้อย ประชาชนที่คอยเฝ้าอยู่เรียงรายตามท้องถนนต่างเซ็งแซ่ถึงความสง่างามของเจ้าหญิงรัชทายาทพระองค์นี้ เบียทริชโบกมือและทักทายประชาชนด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส บางช่วงของถนนนางถึงกับลงเดินไปพบปะกับประชาน ฟิกซ์และการ์เดี้ยนหลายนายต่างจับตาดูผู้ผู้คนที่เข้ามาใกล้ตัวว่าที่องค์ราชินีอย่างระมัดระวัง เพราะในคลื่นคนหมู่มากอาจมีกลุ่มกบฏของเคานท์วาคูล่าแฝงตัวมาก็ได้
“แกรนด์ดัชเชส กระหม่อมว่าพระองค์ขึ้นมานั่งบนหลังม้าเถอะ”
“ทำไมล่ะ”
เบียทริชหันมาถามฟิกซ์ในวงแขนของเธอมีดอดไม้นานาชนิดที่ประชาชนนำมาถวายจนเธอรับแถบไม่หวาดไม่ไหว
“พวกกบฏอาจจะใช้เวลาตอนที่มีคนเยอะฆ่าเธอก็ได้”
ฟิกซ์กระซิบที่หูเบียทริชเบาๆแต่เธอกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้และรับดอกไม้จากประชาชนต่อไป ฟิกซ์กุมขมับอย่างกลุ้มใจ
“นี่ไงไอ้เดรคเจ้าหญิงอ่ะ แกเสนอหน้าเบียดๆคนเข้าไปหน่อยดิ”
“เออๆ ขอทางหน่อยครับ”
ชายหนุ่มผมสีบลอนด์เงินแหวกฝูงคนที่รับเสด็จ ผู้ชายส่วนใหญ่ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรเพราะเกรงใจในความสูงที่ปาไปเกือบร้อยแปดสิบเก้าของชายหนุ่ม เบียทริชรู้สึกสกิดใจกับน้ำเสียงกวนๆเมื่อเงยหน้าขึ้นเธอได้เห็นเขา ผู้ที่มีผมสีบลอนด์เงินและนันย์ตาสีน้ำเงินเข้ม
“นาย!”
“เธอ!”
ความคิดเห็น