คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF] Cupcake #2 [re-write]
Cup Cake #2
Date : 28.06.2012
Re-Write : 05.03.2013
ทำไมถึงชอบ ทำ คัพเค้กน่ะเหรอ .. จ้างให้ก็ไม่บอกหรอก
การได้นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆช่างเป็นช่วงเวลาของการนอนหลับที่แสนวิเศษที่สุด สาวน้อยวัยยี่สิบหลับตาพริ้มติดตรึงอยู่ในฝันหวานที่ยากเกินจะฝืนลืมตาตื่นขึ้นมาได้
กลิ่นหอมเย้ายวนจากเตาอบที่คุกกรุ่นกำลังร้องเรียกให้มือเรียวเอื้อมสุดแขนไปเพื่อจะหยิบจับคัพเค้กก้อนเล็กน่ารักตรงหน้าเพื่อลิ้มรสชาติ .. อีกนิดเดียวปลายนิ้วสวยก็จะคว้ามาได้แล้ว .. อีกนิด .. อีกนิด
“ซอฮยอน! ซอฮยอน!! ยัยขี้เซาตื่นสักทีเถอะน่า!” เสียงตะโกนโหวกเหวกจากหน้าต่างปลุกให้เจ้าของชื่อต้องสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ขยี้หัวตัวเองแรงๆด้วยความรำคาญใจ ก่อนจะลุกขึ้นตรงดิ่งไปดึงม่านบางเบาออกแล้วเผชิญหน้ากับคนวุ่นวาย
“ปล่อยให้ฉันนอนสงบๆไม่ได้เลยรึไง!” ดวงตากลมจ้องเขม็งไปยังบุคคลด้านล่างที่ยกยิ้มเหมือนเป็นผู้ชนะที่กวนใจเธอได้ ยิ่งเห็นก็ยิ่งหมั่นไส้
“สายโด่งป่านนี้แล้วยังจะนอนอยู่ได้เป็นผู้หญิงประสาอะไรเนี่ย”
“สายบ้านนายสิ นี่มันเพิ่งเจ็ดโมงครึ่ง”
“ก็มันสายสำหรับฉัน อ้อ เย็นนี้พ่อกับแม่ฉันกลับดึกเธอเตรียมทำอาหารไว้รอฉันด้วยล่ะ ไปล่ะ” พูดจบเจ้าตัวก็ปั่นจักรยานออกไปยังเส้นทางสายประจำทันที
“ฝันไปเถอะเชิญอดตายไปเลย!” ซอฮยอนยังไม่วายตะโกนไล่หลังไปแต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาเป็นการชูมือโบกบ๊ายบายโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง ซอฮยอนได้แต่หงุดหงิดใจกระแทกเท้าแรงๆกลับมานั่งลงที่เตียงสีชมพู
“ไอ้เด็กบ้า!”
ไหนๆก็ไม่มีอารมณ์จะกลับไปนอนต่อแล้วซอฮยอนเลยต้องจำใจเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำแล้วลงมานั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องข้างล่าง กว่าจะมีเรียนก็ตอนบ่ายตั้งใจจะฝังตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นให้นานๆแต่ก็โดนไอ้เด็กวายร้ายมาป่วนได้ทุกเช้า ไม่รู้ว่าเป็นโรคจิตหรือยังไงถึงต้องตะโกนโหวกเหวกเรียกก่อนไปโรงเรียนทุกวัน
“ซอฮยอนอยู่ไหมจ้ะ” เสียงเรียกอันคุ้นเคยที่ซอฮยอนแทบไม่อยากจะได้ยินดังขึ้นอีกครั้งที่หน้าประตู แต่เพราะเธอเห็นแก่ความเป็นผู้ใหญ่และเพื่อนบ้านที่ดีก็ต้องออกไปหาอย่างช่วยไม่ได้ .. แค่ได้ยินเสียง วี่แววของความโชคร้ายก็โผล่มาแสยะยิ้มรับเธอแต่ไกล
“ค่ะคุณน้า”
“น้ามีเรื่องต้องรบกวนหนูอีกแล้ว วันนี้น้าคงจะกลับดึกหรือไม่ก็คงไม่กลับ ฝากดูยงฮวาให้ด้วยนะจ้ะ”
“แต่นายนั่น .. เอ่อ ยงฮวาเขาโตแล้วนะคะ”
“น้ารู้จ้ะ แต่หัวอกคนเป็นแม่ยังไงก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี นะจ้ะฝากดูน้องให้ด้วยนะ”
“ก็ได้ค่ะ”
“ขอบใจมากจ้ะ แล้วก็นี่จ้ะค่าอาหารเย็น ถ้าหนูไม่อยากทำอาหารก็ออกไปทานข้างนอกกันนะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะคุณน้า”
“รับไว้เถอะนะ”
“ก็ได้ค่ะ”
ซอฮยอนรับเงินมาอีกจนได้ แล้วมันก็เหมือนกำลังบอกเธอลางๆว่าความวุ่นวายคงมีมาไม่จบไม่สิ้น เพราะไม่รู้ทำไมคุณน้าข้างบ้านคนนี้ถึงไม่ค่อยกลับบ้าน เอาลูกชายที่โตเป็นเด็กโข่งมาฝากไว้กับเธอได้ประจำ
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ .. วลีนี้ยังคงใช้ได้ดีและเป็นอย่างนั้นจริงๆเพราะเวลาอันแสนสุขของซอฮยอนที่ได้ใช้ชีวิตอิสรเสรีกับการไม่ต้องมีจอมวายร้ายมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆกำลังจะหมดลงในไม่ช้านี้แล้ว ซอฮยอนเก็บกระเป๋าตัวเองแล้วออกมาจากห้องเรียนทำขนมอย่างเอื่อยเฉื่อย อยากจะยืดระยะเวลาการกลับบ้านให้นานออกไปจนถึงที่สุด แต่ความพยายามทั้งหมดก็ต้องมาหยุดกึกเมื่อเห็นใครบางคนยืนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้
“มาทำไม”
“มารับ”
“ไปไกลๆเลย” ซอฮยอนเดินเร็วๆหนีห่างออกมา เห็นได้ชัดว่าคนรอบข้างกำลังจับตามองมาที่เธอ .. ไม่สิ อันที่จริงคือที่เขาต่างหาก จองยงฮวาในมาดที่สลัดชุดยูนิฟอร์มของเด็กมัธยมปลายทิ้งไปแล้วหันมาใส่กางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ต พร้อมกับผมจัดทรงที่เสยขึ้นไปแบบลวกๆมันทำให้สาวๆต้องเหลียวหลังกลับมามองทุกคนนั่นแหละ
“เธอนี่หยาบคายจริงๆ ผู้หญิงอะไร”
“กับนายคนเดียวนั่นแหละ”
“งั้นฉันควรจะต้องดีใจสินะ โอเค้ .. นี่หยุดเดินหนีสักทีเถอะน่า”
“นายก็เลิกเดินตามฉันสักทีสิ! อยากให้ฉันตกเป็นเป้าซุบซิบใหม่ของมหาลัยรึไง”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เธอน่ะคิดมากไปเอง” ยงฮวาคว้ามือซอฮยอนเอาไว้ได้ จัดการจับมือเธอไว้แน่นๆอย่างเอาแต่ใจแล้วพาเดินออกไปจากมหาลัย
“เดี๋ยวใครเขาก็คิดว่าฉันเป็นพวกชอบหลอกเด็กหรอก”
“งั้นก็บอกเขาไปสิว่าเด็กยอมให้หลอกเอง”
“ไอ้บ้า! พูดอะไรของนาย! ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
ยงฮวาโบกมือเรียกแท็กซี่ไม่สนใจซอฮยอนที่ร้องโวยวาย ผลักให้เธอเข้าไปในรถแล้วเขาก็จัดแจงบอกสถานที่กับคนขับก่อนจะหยิบเอ็มพีโฟร์ขึ้นมากดเลือกเพลงแล้วส่งหูฟังข้างหนึ่งให้ซอฮยอน
“ไม่ฟัง”
“อย่าดื้อ”
“ไอ้บ้า” ด่าออกมาเบาๆเมื่อยงฮวาจัดการบังคับให้เธอใส่หูฟัง ซอฮยอนก็ต้องจำยอมเพราะไม่อยากจะทะเลาะกันในรถเกรงใจลุงคนขับ อ้อ คุณคงคิดว่าเพลงที่ไอ้เด็กวายร้ายเปิดให้ฉันฟังคงมีความหมายอะไรแฝงอยู่ในนั้นสินะคะ ผิดถนัดเลยค่ะ มันเป็นเพลงที่มีแต่ดนตรีหนักๆและคนร้องตะโกนว้ากๆๆอย่างเดียวเลย ถ้าจะมีอะไรแฝงอยู่ก็คงเป็นการแช่งให้ฉันหูหนวกไวๆมากกว่า ซึ่งจะว่าไปมันก็อาจจะดีก็ได้ จะได้ไม่ต้องได้ยินไอ้เด็กคนนี้ตะโกนโหวกเหวกทุกวัน
“วันนี้กินอะไรดี” ยงฮวาถามขึ้นมาเพราะตอนนี้ทั้งคู่ลงจากรถแท็กซี่มาหยุดอยู่หน้าซุปเปอร์มาร์เกตใกล้บ้าน
“เรื่องของนายสิ” ตอบออกไปอย่าเย็นชาเพราะหวังว่าจะทำให้เด็กแก่แดดสลดใจบ้างว่าเธออายุมากกว่าและเขาไม่มีสิทธิ์มาชี้นิ้วสั่งได้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันดันไม่ใช่อย่างที่หวังน่ะสิ
“อ้อ ฉันลืมไป เธอทำไม่เป็นนี่นา งั้นฉันจัดการเองแล้วกัน” พูดจบก็ลอยหน้าลอยตาคว้ารถเข็นเข้าไปเลือกของทันที ไม่สนใจว่าระเบิดที่ทิ้งไว้จะทำให้อีกคนอยากโวยวายในที่สาธารณะสักแค่ไหน
“ไอ้เด็กบ้า!” ท้ายที่สุดซอฮยอนก็ต้องจำใจกลับบ้านพร้อมกับไอ้เด็กวายร้ายที่ตลอดทางเอาแต่บ่นเรื่องที่เธอทำอาหารอะไรไม่เป็นนอกจากคัพเค้กอย่างช่วยไม่ได้
“ดีนะที่ฉันเก่งเรื่องนี้ เพราะถ้าหวังพึ่งเธอเราคงอดตายกันทั้งคู่”
“นายสิอดตายไปคนเดียว ฉันหาทางของตัวเองได้แล้วกัน”
“ได้ไงล่ะ แม่ฉันฝากฝังฉันไว้กับเธอนี่”
“ไอ้วายร้าย ฉันรู้หรอกว่าที่คุณน้าเอานายมาฝากไว้กับฉันเพราะนายไปขอท่าน”
“อ่า รู้ทันด้วยแฮะ” ยงฮวาทำเหมือนถูกอีกคนรู้ทันทั้งที่ความจริงมันมองออกง่ายอยู่แล้ว
ระหว่างที่ยงฮวารับหน้าที่ทำอาหารมื้อเย็นแบบง่ายๆ ซอฮยอนเองก็ปลีกตัวออกมาทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองนั่นก็คือ คัพเค้กแสนรัก ถึงแม้ว่าจะมีปากมีเสียงใส่กันทุกทีที่บังเอิญเดินชนกันบ้างในครัวเล็กๆก็เถอะ
“เสร็จแล้ว”
“ฉันก็ทำเสร็จแล้วเหมือนกัน”
พอได้มานั่งกินข้าวด้วยกันลำพังแบบนี้มันทำให้ซอฮยอนรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่เลย ไม่ใช่ว่าเพราะไม่ชอบการกินข้าวกับยงฮวา แต่เป็นเพราะทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันถ้ายงฮวาไม่หาเรื่องแกล้งก็ต้องหาเรื่องมาทำให้เธอหวั่นไหว เดี๋ยวก็พูดอะไรเลี่ยนๆใส่บ้างล่ะ เดี๋ยวก็ชอบจู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวบ้างล่ะ ถึงแม้ว่าเธอจะอายุมากว่ายงฮวาสองปี แต่การเจอเด็กวุ่นวายแบบนี้มันก็ยากที่จะรับมือไหวเหมือนกัน
“อร่อยป่ะล่ะ”
“ก็งั้นๆอ่ะ”
“ฮึ ยังไงเธอก็ต้องกินอาหารงั้นๆแบบนี้ไปตลอดนั่นแหละ”
“ทำไมฉันจะต้องทน บอกแล้วไงว่าฉันหาวิธีเอาตัวรอดได้แล้วกันถึงแม้ฉันจะทำอาหารไม่เป็น”
“ก็ใช่ไง ฉันถึงได้เป็นทางออกของเธอไง ในเมื่อเธอทำไม่เป็นเพราะงั้นก็เลยต้องกินฝีมือฉันไปตลอดชีวิต”
“หมายความว่าไงตลอดชีวิต” ซอฮยอนซักอีกคนทันทีที่เธอเริ่มมองเห็นว่าคำพูดมันเริ่มฟังดูแปลกๆ
“เปล๊า~ ฉันก็พูดไปงั้นแหละ” ยงฮวาทำหน้าเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร แต่แล้วก็หยุดสายตามาที่เธอด้วยสายตาเหมือนคนรู้ทัน
“เอ๊ะ หรือว่าเธอ .. กำลังคิดไกล”
“จะบ้าเหรอ!”
“ว่าแต่เธอเถอะ เอาแต่ถามฉันว่าทำไมชอบกินคัพเค้ก แล้วเธอน่ะ ทำไมถึงชอบทำคัพเค้ก”
“นั่นมันเรื่องของฉัน นายมีหน้าที่กินก็กินไปเถอะ”
ได้ทีซอฮยอนก็ขอย้อนใส่ไอ้เด็กวายร้ายที่เธอไม่เคยสู้ฝีปากได้เลยสักหน่อย แต่ยงฮวาก็โวยวายบ้านแตกออกมาว่าอย่ามายอกย้อนเดี๋ยวพังโต๊ะกินข้าวซะเลย ซอฮยอนเลยต้องจำยอมบอกเห็นผลออกไป .. แต่ว่า มันก็แค่เหตุผลส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละ
“เพราะมันน่ารักน่ะสิ”
“แค่นั้นอ่ะนะ”
“ทำไมล่ะ!”
ยงฮวาไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรต่ออีก ซึ่งมันก็ดีแล้วที่เขาไม่สงสัย แปลว่าความลับที่เธอเก็บไว้มาตั้งนานยังคงเป็นความลับอยู่ และเมื่อถึงเวลาของหวาน เค้กถ้วยเล็กที่ซอ ฮยอนบรรจงแต่งหน้าก็มาปรากฏอยู่ในกระดาษอัดรูปเหมือนเคย ทุกๆวันซอฮยอนจะเก็บภาพเอาไว้ แล้วก่อนนอนก็ค่อยเขียนบันทึกความทรงจำที่มีต่อเค้กชิ้นนี้ลงไปเหมือนเคยว่า .. สักวันจะต้องทำคัพเค้กที่นายบอกว่าอร่อยให้ได้!
นี่แหละความลับเกี่ยวกับคัพเค้กที่ซอฮยอนต้องซ่อนไว้ให้ลึกที่สุด ใครจะกล้าบอกล่ะ ขืนบอกออกไปไอ้เด็กวายร้ายนี่ต้องได้ใจแน่ๆถ้าเกิดได้รู้ว่าอีกเหตุผลที่ซอฮยอนชอบทำคัพเค้ก ..
นั่นก็เพราะว่า ..
อยากให้คนบางคนมากินคัพเค้กทุกวันน่ะสิ!
ความคิดเห็น