ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    YONGSEO SHORT FICTION BY SHINLEMON

    ลำดับตอนที่ #11 : [SF] GOOD BOY [re-write]

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 56


     

     

    GOOD BOY

     

    Date : 10.11.2012
    Re-Write : 05.03.2013

     

     

     

     

    เบื่อเบื่อ เบื่อ เบื่อออออ”  เสียงใสดังขึ้นมาทันทีที่ทิ้งตัวลงบนโซฟา

    คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ” ผมถามออกไปด้วยเสียงเรียบๆเหมือนปกติ หยุดการอ่านหนังสือแล้วถอดแว่นใสๆออกจากใบหน้า

    ก็ที่ฉันไปนัดบอดกับไอ้ผู้ชายในอินเตอร์เน็ตไง ผมนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแค่มองด้วยสายตาที่รับฟัง

    นายรู้ไหม ไอ้บ้านั่นดันมีแฟนอยู่แล้ว แถมยังหลบแฟนมาเจอฉัน บ้าที่สุดเลยแล้วทำเป็นบอกว่าโสด” เสียงใสยังคงบ่นเจื้อยแจ้วเป็นนกแก้วอยู่เหมือนเคย

    ยงฮวา นายดูดิ แฟนนายนั่นเข้ามาผลักฉันชนกับเสาด้วย ถลอกเลย ฮึ่ย มันน่าเจ็บใจจริงๆ รู้งี้น่าจะผลักยัยนั่นสักดอก จะได้หายกัน ผมไม่พูดอะไรอีกครั้งแต่ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจนอีกคนใจเสีย

    นาย .. ถึงขนาดเดินหนีเลยเหรอ ใช่สิ มันน่าเบื่อใช่ไหมล่ะ ที่ต้องมาทนฟังอะไรแบบนี้

    เปล่าสักหน่อย
    ผมตอบคนขี้น้อยใจพร้อมกับวางกล่องปฐมพยาบาลเอาไว้ใกล้ๆ

    แค่ไปหยิบไอ้นี่มาทำแผลให้เธอต่างหาก ผมบรรจงล้างแผลที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรตรงข้อศอกให้เธอ

    นายเป็นคนดีจัง” ผมยิ้มบางๆให้กับประโยคนั้น .. อืม ผมเป็นคนดี

    มีแต่นายเท่านั้นแหละที่เข้าใจฉัน .. นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยนะ เพื่อน .. นั่นสิ ผมน่ะเป็นเพื่อนเธอ เป็นเพื่อนทั้งปีทั้งชาติ

    ผมยิ้มให้เธออีกครั้ง ไม่ได้ยิ้มเพราะคำว่าเพื่อนหรอกนะ แต่ผมยิ้มให้กับประโยคที่จะได้ฟังต่อจากนี้ต่างหาก

    ฉันรักนายจริงๆเลย อยู่ข้างๆฉันแบบนี้ตลอดไปนะ
    ฉันก็รักเธอ แต่ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแน่

    เอาล่ะทำแผลเสร็จแล้ว ผมขยับออกมาจากเธอคว้าแว่นตาและหนังสือกลับมาอ่านเหมือนเดิม ปล่อยให้อีกคนที่ทำตัวประหนึ่งว่าอยู่บ้านตัวเองกดรีโมททีวีแก้เบื่อไป

    นี่ยงฮวา”  อยู่ๆมือเล็กก็มาเกาะหนึบที่ต้นแขนของผม หนำซ้ำยังเอนหน้าเอนตัวเข้ามาแทบประชิด

     “เราไปเที่ยวกันเถอะ ไปหาอะไรดื่มกัน คิดซะว่าฉลองที่ฉันไม่ซวยไปคบกับไอ้ขี้โกหกนั่น” สิ้นคำพูดนี้ผมก็ส่ายหน้าทันที

    ไม่

    ไปเถอะนะ .. น๊า นะ .. นะ บทลูกแมวเหมียวขี้อ้อนถูกยกขึ้นมาใช้อีกจนได้ ความจริงผมใจอ่อนตั้งแต่โดนเกาะแขนแล้วล่ะครับ เพียงแต่แค่เงียบไว้เพื่อดูเชิง

    ทำไมต้องไปดื่มด้วย ที่แบบนั้นมันอันตราย

    ฉันถึงชวนนายไปด้วยไง .. นะ นะ พอเถอะไอ้สายตาอ้อนๆนั่น .. ฉันเป็นคนดีนะซอฮยอน อย่ามาทำให้หวั่นไหวสิ

     “ก็ได้ ถ้านายไม่ไป ฉันจะไปคนเดียว” คนขี้งอนสะบัดหน้าหนี ซ้ำยังลุกแล้วเดินไปยังประตู ร้อนถึงผมที่ต้องตามง้อเหมือนเคย

    ตกลงๆ ฉันไปด้วย
    เย้ น่ารักที่สุดเลย”  วงแขนเล็กๆโอบรอบตัวผมทันทีที่เจ้าตัววิ่งเข้ามาประชิด

    แต่มีข้อแม้นะ” ผมยกนิ้วชี้ขึ้นมาออกคำสั่งกับเธอ
    โธ่ อะไรอีกอ่ะ ห้ามสั่งไม่ให้ดื่มนะ

    ผมก็อยากจะสั่งแบบนั้นอยู่หรอก แต่รู้อยู่แล้วว่าเธอคงไม่ยอม

    ให้ฉันเป็นคนเลือกสถานที่
    งั้นได้เลย เรื่องแค่นี้เอง ไปเร็วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

    ซอฮยอนถอดแว่นออกแล้วผลักผมเข้าไปในห้อง กำชับหนักแน่นว่าห้ามแต่งตัวหล่อเป็นอันขาด เอาเข้าไปสิ ยัยผู้หญิงคนนี้ ออกคำสั่งและเอาแต่ใจกับผมทุกเรื่องจริงๆ

    ไม่กี่นาทีผมก็ออกมาพร้อมกับชุดใหม่ที่พร้อมสำหรับการออกไปท่องราตรี ยีนส์เข้มๆกับเสื้อสีเลือดนก พร้อมกับผมที่แต่งให้ตั้งขึ้นไปเล็กน้อย

      “บอกว่าห้ามแต่งให้หล่อไง” ผมเลิกคิ้วเหมือนไม่เข้าใจ แต่ความจริงก็แอบปลื้มนิดๆ เพราะถ้าแปลใหม่ให้ถูก นั่นแหละว่าเธอชมว่าผมหล่อใช่ไหมล่ะ

    นี่แหนะๆ เอาผมลงเลย” มือเรียวตรงดิ่งเข้ามาขยี้ผมด้านหน้าให้คลายทรง
    ฉันไม่ได้แต่งอะไรเยอะแยะนะ แค่กางเกงยีนส์กับเชิ้ต
    ไม่รู้ล่ะ ก็ฉันหวง”  อีกแล้วสิ ประโยคที่ทำให้ผมใจเต้นโผล่มาอยู่เรื่อย

    ขืนมีสาวๆมาแย่งนายไปแล้วฉันจะทำยังไง
    ไม่มีแบบนั้นหรอกน่า
    กันไว้ดีกว่าแก้

    ซอฮยอนยังไม่เลิกยุ่งกับการแต่งตัวของผม ตอนนี้มือเล็กก็รีดให้ปกเสื้อที่ผมตั้งใจทำให้มันตั้งพับลงไปเหมือนเดิม

    ถ้านายชิงมีแฟนก่อนฉัน ฉันจะโกรธจริงๆด้วย ผมถอนหายใจเบาๆให้กับความคิดของผู้หญิงตรงหน้า

    ฉันไม่คิดจะมีตอนนี้หรอกดูเหมือนว่าเธอจะไม่ฟังคำผมเลยแม้แต่นิดเดียว

    เฮ้อ ยังไงก็หล่ออยู่ดีแหละ .. เอาแว่นใส่ไปด้วยดีกว่า” พูดจบก็ไปคว้าแว่นที่โซฟามาใส่ให้ผมเสร็จสรรพ

    ดูเป็นเด็กเนิร์ตขึ้นมาหน่อย เอาล่ะ ไปกันเถอะ ผมได้แต่ถอนหายใจและส่ายหน้าอย่างระอาให้กับคนที่กำลังลากผมออกจากห้อง ไม่นานนักผมก็เป็นฝ่ายรอซอฮยอนแต่งตัวบ้าง และทันทีที่เธอออกมาจากห้อง ผมก็อยากจะตะโกนให้ลั่นโลก ..

    สั่งคนอื่นว่าห้ามหล่อ แต่ตัวเองแต่งซะสวย เซ็กซี่เลยนะ!

    ไป เสร็จแล้ว
    เดี๋ยวๆ มันเยอะเกินไปไหม

    อะไรเยอะผมไม่รอตอบคำถามแต่เดินเข้าไปในห้อง คว้าผ้าพันคอสีเดียวกับชุดมาคล้องปิดคอให้เธอ

    เฮ้ย อะไร ไม่เยอะสักหน่อย” มือเรียวพยายามปัดมือของผมออก แน่นอนว่ามันทำได้ง่ายดายเพราะผมไม่เคยเอาชนะอะไรยัยนี่ได้อยู่แล้ว ไม่เยอะ .. ไม่เยอะ เสื้อเกาะอกนี่นะไม่เยอะ .. เฮอะ เชื่อเขาเลย ผมไม่อยากจะเถียงอะไรมาก ก็เลยต้องปล่อยให้เลยตามเลย ทำใจยอมรับว่าคืนนี้ผมคงต้องรับศึกหนักซะแล้ว

    ...

    ดนตรีในคลับกำลังบรรเลงเพลงอย่างออกรสชาติ ยัยผู้หญิงที่มากับผม ตอนนี้ก็เป็นดาวเด่นอยู่กลางฟลอเต้นรำนู่น ส่วนผมก็ทำได้แค่จิบเครื่องดื่มและจับตามองดูเธอไม่ให้คลาดสายตาอยู่บริเวณที่นั่ง เพียงชั่วครู่ซอฮยอนก็กลับมานั่งพร้อมกับสีหน้ามีความสุข

    ยงฮวา เห็นคนที่อยู่หน้าบาร์ไหม” มือเล็กสะกิดให้ผมมองไปยังทางที่เธอบอก ที่ตรงนั้นมีชายหนุ่มสูงโปร่ง การแต่งตัวดีนั่งอยู่ พอเห็นว่าซอฮยอนมองไป เขาคนนั้นก็ยกแก้วขึ้นเป็นเชิงชวนให้ดื่ม ผมเลยหันไปถามซอฮยอนด้วยสายตาว่าชี้ให้ผมดูทำไม

    ผ่านไหม” .. ว่าแล้วเชียว เป็นแบบนี้ทั้งปี
    ก็ .. โอเค การวางตัวใช้ได้

    เขาขอนัดฉันล่ะ
    อืม

    ผมตอบรับไปสั้นๆ แล้วซอฮยอนก็ออกไปนั่งดื่มกับเขาคนนั้นที่บาร์ ส่วนผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองคือสแกน ‘เขา’ ให้แน่ใจว่าโอเคสำหรับซอฮยอนไหม

    เมื่อเวลาผ่านไปยังวันใหม่ ร่างเล็กที่ผมมองเห็นอยู่ไกลๆก็เอนเอียงไปซบไหล่อีกคนที่นั่งข้างๆอย่างหมดสภาพ ผมกระเด้งตัวขึ้นมาแล้วก้าวออกไปข้างหน้าทันที

    ซอฮยอนครับ .. ลุกเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง
    อืม .. อย่าเพิ่งรีบกลับสิ
    ไปเถอะครับ .. นี่มันดึกแล้วนะ ไว้วันหลังค่อยมาใหม่
    ก็ได้ .. ก็ได้ มือหนาช้อนตัวร่างบอบบางหวังจะพยุงให้เธอลุกขึ้น แต่ ..

    โทษทีครับ เธอมากับผม ผมไปส่งเอง” ผมคว้าตัวคนที่ไม่ได้สติเอาไว้ ออกแรงดึงเพียงนิดหน่อย ซอฮยอนก็เอนมาพิงที่อกของผม

    คุณเป็นใคร
    แล้วคุณล่ะเป็นใคร ผมจ้องตอบแววตานั้นกลับไปอย่างไม่ลดละ

    ผมจะไว้ใจได้ไงถ้าให้ซอฮยอนไปกับคุณ
    ก่อนคุณจะระแวงใคร คุณควรระแวงตัวเองให้มากๆก่อนดีกว่า

    อืม .. เถียงอะไรกัน แล้วนี่ใครมาจับฉันเนี่ย ..
    ฉันเอง .. เรากลับกันเถอะ
    ยงฮวาเหรอ .. อืม ไปสิ

    ซอฮยอนเอื้อมมือเล็กๆมาโอบรอบคอผมไว้เหมือนอย่างเคย ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดมาที่ผม และเพียงแค่นั้นคนตรงหน้าก็คงเข้าใจ

    ทีนี้รู้แล้วนะ
    ซอฮยอนคุณบอกผมว่าคุณยังไม่มีแฟนนี่

    คนถูกถามไม่เหลือความสามารถในการตอบคำถามอีกแล้ว ส่วนผม .. ผมไม่ได้อธิบายขยายความอะไรต่ออีก แต่พยุงร่างที่หลับไร้สติออกไปด้านนอก จัดการให้ซอฮยอนนอนสบายๆบนเบาะหน้าที่เอนพนักลงไปจนสุด ไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อหลังรถมาคลุมให้ด้วย

     “ยัยขี้เมา ถึงบ้านแล้ว ตื่นได้แล้ว” ผมเรียกคนข้างกายแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ ดูท่าว่าคงหลับสนิทจริงๆ .. เฮ้อ ลำบากฉันตลอดเลยนะ

    ผมอุ้มร่างเล็กขึ้นมาในวงแขน กดลิฟท์ขึ้นไปยังห้องของซอฮยอน ไขประตูด้วยความเคยชิน แล้วบรรจงวางคนไม่มีสติลงบนเตียงเบาๆ แต่คนดื้อยังไงก็ยังดื้อวันยันค่ำ มือเล็กเกี่ยวคอผมให้โน้มเอนตามเธอลงไปด้วย ผมเลยต้องทิ้งตัวนั่งลงไปบนเตียงอย่างช่วยไม่ได้

    ปล่อยฉันเลยนะยัยขี้เมา” ผมไม่ได้ดุเธอด้วยเสียงที่ควรจะดุเลย ผมเพียงแต่พูดเบาๆพร้อมกับระบายยิ้มน้อยๆออกมา ตากลมที่เคยหวานค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ และครั้งนี้มันหวานหนักกว่าเดิมเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ซอฮยอนสบตาผมนิ่ง แต่เธอไม่ได้ดูเหมือนว่ากำลังมองเห็นผมจริงๆเลย

    ยงฮวา ..
    อืม”  ผมตอบรับเบาๆ
    นายจะไม่ทิ้งฉันใช่ไหม
    ”ไม่มีวันทำแบบนั้นอยู่แล้ว” 

    ฉันรักนายจังสิ้นคำพูดมือที่ดูเหมือนว่าไม่มีแรงก็ดึงผมลงไปจนสิ้นสุดพื้นที่ว่างตรงหน้า .. จุ๊บ

     

    หัวใจผมกระหน่ำเต้นจนแทบหลุด ถ้าซอฮยอนมีสติก็คงได้ยินมันชัดเจนแน่ๆ แต่ดูเหมือนว่าจะมีแต่ผมที่ออกอาการกับการกระทำนี้

    เนิ่นนานหลายนาทีที่ผมยังคงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ..

    ผมเดาเอาว่าคนที่ขโมยจูบผมคงจะชิงหนีไปอยู่ในห้วงนิทราเรียบร้อยแล้ว ผมค่อยๆแกะมือที่คล้องอยู่รอบคอออกเบาๆ ผละออกจากริมฝีปากบอบบาง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เธอจูบผม

    แล้วแบบนี้ฉันจะปล่อยให้เธอไปให้ใครได้ยังไง

    ...

    RRrr ~ เสียงโทรศัพท์ปลุกเรียกผมตั้งแต่เช้า และคนที่เธอมาก็ไม่ใช่ใครเลย คนที่ทำให้ผมนอนไม่หลับทั้งคืนนั่นแหละ

    [ออกมาข้างนอกเป็นเพื่อนหน่อย]
    ไปไหน
    [นัดบอด]
    อีกแล้ว? ไม่เข็ดใช่ไหม

    พอพูดไปแบบนั้นคนปลายสายก็บ่นกลับมาชุดใหญ่ สุดท้ายผมก็ต้องออกมาเป็นเพื่อนจนได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าจับได้ว่าคนที่นัดด้วยมีแฟนอยู่แล้ว ผมจะได้อัดให้เละ เฮ้อ ผมเนี่ยนะจะไปอัดใคร ยัยนี่ชอบสร้างเรื่องให้ผมจริงๆ

    ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาผมก็มายืนคั่นกลางระหว่างซอฮยอนและใครอีกคนที่ผมไม่รู้จักที่สวนสนุก .. โตขนาดนี้ยังจะมานัดกันที่สวนสนุกเนี่ยนะ

    เป็นไงมั่งคนนี้” คำถามเดิมๆถูกถามออกมาอีกครั้ง และผลมันก็เหมือนเดิมคือผมตอบไปว่าใช้ได้ .. หมอนี่ แต่งตัวดี พูดจาดี วางตัวใช้ได้ .. แถมยังดู .. เป็นคนดีด้วย

    ซอฮยอนครับนี่ของคุณ” แก้วกาแฟเย็นยื่นมาให้ซอฮยอน และยัยนั่นก็รับไว้ แต่ผมซึ่งรู้จักยัยนั่นดี แยกตัวออกมาแล้วไปกดน้ำผลไม้จากตู้มาอย่างเคยชิน

    อ่ะ” ผมส่งกล่องน้ำแอปเปิ้ลไปให้อย่างไม่ได้สนใจอะไร
    ขอบใจนะ ยงฮวา รู้ใจจัง

    ผมรับแก้วกาแฟเย็นมาดื่มต่อหน้าต่อตาคู่นัดของซอฮยอน แม้หมอนั่นจะไม่พูดอะไรแต่ผมก็รู้แหละว่าเขาต้องรู้สึกอะไรบ้าง

    เราสามคน .. ความจริงก็ไม่ใช่หรอกครับ เขาสองคนและผมหนึ่งคน เดินเล่นไปทั่วสวนสนุก ผมปล่อยให้คนอยากดูใจไปเล่นกันแค่สองคน ส่วนผมก็รออยู่ด้านนอกคอยทำหน้าที่สังเกตการณ์ตามคำสั่ง

    นี่ก็เกือบบ่ายแล้ว เราไปหาอะไรทานกันนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยชวนออกมา
    อื้อ ไปสิคะ .. ไปกันยงฮวา

    ทานนั่นไหมครับ
    เอ่อ ..” ผมได้ยินเสียงคนข้างๆ ไม่ตอบรับเลยหันไปมองจุดหมายที่อีกคนชี้ไป

    ซอฮยอนไม่กินจังก์ฟู้ด” ผู้ชายคนนั้นหันมามองผม ส่วนผมก็แค่เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม แต่เมื่อเขาไม่พูดอะไรออกมาผมก็เลยเดินตรงไปยังร้านอาหารเล็กๆ เข้าไปจองโต๊ะให้เรียบร้อยแล้วออกมาตามสองคนนั้น

    พวกเราต่างคนต่างสั่งอาหารที่ชอบมาคนละอย่างสองอย่าง ยังจะกินอะไรเยอะไม่ได้เพราะเดี๋ยวต้องออกไปเล่นกันต่อ วันนี้เราซื้อบัตรสวนสนุกกันเอาไว้จนเย็น

    ลองทานนี่ดูนะครับ อันนี้อร่อยดี” คนที่นั่งตรงข้ามอาสาตักอาหารที่ตัวเองสั่งให้ในจานซอฮยอน แต่เมื่อผมเหลือบไปเห็น ..

     “ยัยนี่แพ้ปลาหมึกผมจัดการเปลี่ยนจานของซอฮยอนกับจานของผมที่ยังไม่ได้แตะต้องอาหารอะไร .. อีกครั้งที่หมอนั่นหันขวับมามองผม

    หลังจากกินอาหารเสร็จ เราก็ออกไปลุยกับเครื่องเล่นอีกครั้ง ส่วนใหญ่ผมมักจะไม่ได้เล่นเพราะต้องคอยดูแลสัมภาระที่คนตัวเล็กหอบหิ้วมาด้วย จนกระทั่งเราเข้าไปในบ้านผีสิง คนขวัญอ่อนอย่างซอฮยอนก็แทบจะโผมากอดผมทันทีที่ก้าวขาเข้าบ้าน ส่วนนายคนนั้นก็ทำได้แค่เดินตามต้อยๆ .. จะให้ผมทำไงล่ะ

    ผมขอถามคุณตรงๆนะ” ผู้ชายที่ตัวไล่เลี่ยกับผม ถามขึ้นมาขณะที่รอซอฮยอนไปห้องน้ำ

    เชิญครับ
    คุณกับซอฮยอนเป็นอะไรกันแน่
    อืม .. แล้วเธอบอกคุณว่าผมเป็นอะไรล่ะ” ผมย้อนกลับไป

    เพื่อน
    ครับ ก็เป็นเพื่อน
    แต่คุณดูเหมือนไม่ใช่

    งั้นเหรอ .. แล้วคุณคิดว่าผมเป็นอะไรล่ะ” ผมถามกลับไปด้วยสีหน้ากวนๆ หมอนั่นไม่ตอบผมเลยถือวิสาสะเข้าไปใกล้ๆตบบ่าเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่พอให้ได้ยินกันสองคน

    ฉันจะบอกให้นะ
    ผมน่ะเป็นคนดี .. แต่ดีเฉพาะกับยัยนั่นคนเดียวเท่านั้นแหละ 
    ซอฮยอนเป็นผู้หญิงของฉัน

    พลั่ก! หมัดหนักๆถูกส่งมาที่แก้มผม แต่ก็แค่นั้นเพราะเจ้าตัวเดินหนีไปพร้อมกับความหงุดหงิดทันที .. เจ็บตัวแต่ก็ถือว่าคุ้มล่ะนะ

    อ้าว ทำไมนายอยู่คนเดียวล่ะ
    เขากลับไปแล้วน่ะ
    เอ๋ ไปแล้ว
    อืม
    ทำไมถึงไปอ่ะ

    ไม่รู้สิผมตอบออกไปแบบนั้น ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่ว่าทำไมหมอนั่นถึงต่อยผมแล้วไปเฉยๆ

    เดี๋ยวนะ แล้วหน้านายไปโดนอะไรมา
    มือเล็กจับหน้าผมพลิกไปพลิกมาเพื่อดูรอยแดงๆทันที

    ไม่มีอะไรหรอก” ผมบอกปัดออกไป
    โกหก

    ไปเหอะ ไปเล่นอย่างอื่นกัน” ผมลากข้อมือซอฮยอนให้ตามมา แต่ ..
    นายมีเรื่องกันใช่ไหม
    เปล่า

    อย่าโกหกยงฮวา ฉันดูออกว่านี่รอยอะไร
    โอเคๆ .. เราไม่ได้มีเรื่องกัน เขาแค่ไม่พอใจฉัน แค่นั้นเอง
    ไม่พอใจเรื่องอะไร
    ไม่รู้สิ ซอฮยอนดูโกรธขึ้นมา

    คงเพราะฉันพานายมาด้วยแน่ๆ ให้ตายสิ ใจแคบจริงๆเลย
    ที่เขาไม่พอใจนั่นแปลว่าเขาอาจจะจริงจังกับเธอก็ได้
    พอเลย ไม่ต้องไปเข้าข้าง กล้าทำนายเจ็บฉันไม่คบด้วยหรอก

    เอาน่าๆ ไปเล่นชิงช้ากันไหม เริ่มจะเย็นแล้ว ไปดูพระอาทิตย์ตกกัน” ผมเบนความสนใจให้คนกำลังหงุดหงิดผ่อนอารมณ์ลงบ้าง

    ก็ได้” 
    เดี๋ยวฉันมานะ ขอไปทำธุระแปปนึง เธอต่อแถวไปก่อน
    ไปไหนอ่ะ” ซอฮยอนเหมือนจะโวยวายขึ้นมา แต่ผมก็วิ่งออกมาแล้ว

    ...

    ผมกลับไปหาเธอพร้อมกับขนมและน้ำ เตรียมขึ้นชิงช้ายักษ์ด้วยกัน
    ไปไหนมา นานจัง
    แถวมันยาวน่ะ” ผมยื่นขนมให้ เมื่อเราทั้งคู่เข้าไปในชิงช้าแล้ว

    ทีนี้จะเอายังไงล่ะ คนนี้ก็ชิ่งหนีไปอีกแล้ว จะยังไปนัดบอดอีกไหม
    ไปสิ” ผมถอนหายใจแรงๆให้อีกคนรู้ตัว

    แต่ช่วงนี้พักไว้ก่อน เบื่อ ไม่มีใครถูกใจเลยสักคน พอคิดว่าโอเคสุดท้ายก็ไม่ใช่
    เอาน่า อย่ารีบร้อนเลย เดี๋ยวสักวันก็เจอ

    ผมบอกพร้อมกับรับแก้วน้ำจากเธอมาถือไว้แล้วส่งขนมให้

    ไม่มีใครดีกับฉันเหมือนนายอีกแล้ว
    อาจจะมีก็ได้

    ไม่มีหรอก ฉันหามาหมดแล้ว ทั้งนัดบอด ทั้งกับคนที่เพื่อนแนะนำให้ .. นายก็เห็น หนีกระเจิงไปทุกราย ไม่เข้าใจจริงๆว่าฉันมีอะไรไม่ดี

    อย่าพูดแบบนั้นสิ เธอน่ะดีทุกอย่างนะ แค่ยังไม่เจอคนที่ใช่
    แล้วไอ้คนที่ใช่นี่ไปอยู่ไหนหมดซะล่ะ
    เอาน่า อย่าคิดมาก ของแบบนี้เร่งกันได้ที่ไหน

    นายเป็นคนดีมากเลยนะ ดีกับฉันมากจริงๆ .. ถ้านายมีแฟนฉันต้องร้องไห้แน่ๆ
    ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีหรอก
    “ .. เมื่อคืนฉันฝันถึงนายด้วยแหละ

    หืม .. ฝันว่า?” ผมมองใบหน้าของซอฮยอนที่ตอนนี้ขึ้นสีระเรื่อ ไม่รู้ว่ามันแดงเพราะแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่งมากระทบ หรือแดงเพราะอะไรกันแน่

    ฝันว่า .. เอ่อ ช่างเถอะ มันน่าอาย

    มาพูดให้อยากรู้แล้วก็เงียบเนี่ยนะ” ผมเอื้อมมือไปโคลงหัวซอฮยอน จนยัยนั่นโวยแล้วดึงมือผมมาจับไว้แทน

    มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเลยน่ะสิ เวลาฉันดื่มทีไรต้องฝันแบบนี้ทุกทีผมเข้าใจแล้วว่าเธอหมายถึงอะไร .. เฮ้อ ยัยบ๊องเอ้ย นั่นน่ะ มันไม่ใช่ความฝันหรอกนะ

    งั้นทีหลังก็อย่าดื่มสิ
    ไม่

    งั้นเธอก็ต้องฝันแบบนั้นต่อไป ผมพูดล้อๆเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร แต่ซอฮยอนกลับหน้าแดงหนักกว่าเก่า

    นายสัญญานะว่าจะอยู่กับฉันแบบนี้ตลอดไป
    ผมสอดประสานแววตาแน่นิ่งนั้นกลับไป
    อืม ฉันสัญญา
    หัวเล็กๆเอนมาซบที่บ่าผมอย่างหาที่พักพิง ซอฮยอนถอนหายใจเบาๆ
    ถ้าชาตินี้หาผู้ชายที่ดีกว่านายไม่ได้ ฉันก็จะไม่หาแล้ว
    ถ้าฉันโสดไปจนตายนายจะทำไง
    ฉันก็จะโสดเป็นเพื่อนเธอไปจนตายไง” 

    ซอฮยอนเงยหน้ามองผมทั้งที่เธอยังซบบ่าผม ผมรู้ว่ามันใกล้มากเหลือเกิน บรรยากาศก็เป็นใจ เอื้อให้บอกอะไรต่อมิอะไรที่อยู่ในใจผม แต่มันไม่สำคัญหรอก ผมไม่เคยคิดอยากจะบอก เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมน่ะเหรอ .. เพราะผมเป็นคนดีไง

    ฉันรักนายนะ อยู่ข้างๆฉันแบบนี้ตลอดไปนะ
    แค่นี้แหละที่ผมอยากได้ยิน

    Special

    ผมวิ่งออกมาหน้าสวนสนุกหลังจากบอกให้ซอฮยอนรอต่อแถวอยู่ที่ชิงช้า เมื่อถึงที่นัดหมายแล้วก็จัดการโทรหาใครอีกคนที่นัดไว้ หญิงสาวร่างเพรียวผมสั้นประบ่าเดินตรงมาที่ผม เธอยิ้มทักเหมือนอยากจะหว่านเสน่ห์อะไรสักอย่าง แต่เรื่องนั้นไม่อยู่ในหัวผมหรอก ผมมาจัดการธุระให้จบๆเพราะยัยนั่นรอผมอยู่

    อ่ะ เงินของเธอ”  ผมยื่นแบงค์ใหญ่สี่ห้าใบไปให้คนตรงหน้า

    อะไรกัน มาถึงก็รวบรัดเลยเหรอ อยู่คุยกันหน่อยสิ นัดมาเจอที่สวนสนุกทั้งที เล่นอะไรกันหน่อยไหม

    ฉันไม่ว่าง รับๆไป ฉันจะรีบไปแล้ว

    กี่ทีๆนายก็เย็นชาใส่ฉันตลอด คนอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยนะ” สาวผมสั้นยังคงไม่ยอมรับเงินของผมไป

    ฉันไม่ได้ให้เธอช่วยเปล่า ฉันจ้างเธอนี่ไงผมจัดการยัดเงินไปไว้ในมือของเธอ แล้วเดินออกมาทันที แต่เธอก็ยังคงรั้งผมไว้ด้วยประโยคเดิมๆ

    ทำไมนายไม่บอกความรู้สึกตัวเองไปสักทีล่ะ จ้างให้ฉันแกล้งเป็นแฟนคู่นัดของยัยนั่นแบบนี้ ไม่กลัวโดนจับได้รึไง

    นั่นมันเรื่องของฉัน ถ้าเธอทำพังจนโดนจับได้ล่ะก็ .. ฉันคิดบัญชีเธอหนักแน่คาดโทษเสร็จแล้วก็เดินออกไปทันที ไม่สนใจจะเอาคำแนะนำนั้นมาคิดให้เหนื่อย

    จะให้ผมบอกความรู้สึกกับยัยนั่น .. ไม่มีทางหรอก

    ทำไมน่ะเหรอ
    เพื่อนที่ไหนเขาชอบเพื่อนกันบ้างเล่า

     

    แล้วผมก็ต้องเป็นคนดี ..

    ใช่ไหมล่ะ J

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×