คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โดราเอมอน
- บทความนี้เกี่ยวกับการ์ตูนโดราเอมอน สำหรับตัวละครโดราเอมอน ดูที่ โดราเอมอน (ตัวละคร)
โดราเอมอน | |
---|---|
โดราเอมอน | |
ชื่อไทย | โดราเอมอน |
ชื่อญี่ปุ่น | ドラえもん |
ชื่ออังกฤษ | Doraemon |
ประเภท | สำหรับเด็ก |
แนว | ตลก, ไซไฟ |
หนังสือการ์ตูน | |
ผู้แต่ง | ฟูจิโกะ F. ฟูจิโอะ |
สำนักพิมพ์ | สำนักพิมพ์โชงะกุกัง สำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ |
นิตยสาร | โชกักอิจิเน็นเซย์-โยะเน็นเซย์ โคโรโคโรคอมิก เทเลบิคุง |
ตีพิมพ์เมื่อ | พ.ศ. 2512 พ.ศ. 2539 |
จำนวนเล่ม | 45 เล่ม |
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์ โดราเอมอน ฉบับนิปปอนทีวี (2516) | |
ผู้กำกับ | มิตสึโอะ คามิริ |
ผลิตโดย | นิปปอนเทเลวิชัน โดงะ |
ฉายทาง | นิปปอนเทเลวิชัน |
ฉายครั้งแรก | 1 เมษายน พ.ศ. 2516 30 กันยายน พ.ศ. 2516 |
จำนวนตอน | 26 ตอน |
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์ โดราเอมอน ฉบับทีวีอาซาฮี (2522-2548) | |
ผู้กำกับ | เรียว โมโตฮิระ > สึโตมุ ชิบายามะ |
ออกแบบตัวละคร | เออิจิ นากามูระ |
ผลิตโดย | Asatsu-DK |
ฉายทาง | ทีวีอาซาฮี โมเดิร์นไนน์ทีวี |
ฉายครั้งแรก | 2 เมษายน พ.ศ. 2522 18 มีนาคม พ.ศ. 2548 |
จำนวนตอน | 1,049 ตอน |
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์ โดราเอมอน ฉบับทีวีอาซาฮี (2548-ปัจจุบัน) | |
ผู้กำกับ | โคโซ คุสึบะ > โซอิจิโร่ เซ็น |
ออกแบบตัวละคร | อายูมุ วาตานาเบะ |
ผลิตโดย | Asatsu-DK, ชินเอโดงะ |
ฉายทาง | ทีวีอาซาฮี |
ฉายครั้งแรก | 15 เมษายน พ.ศ. 2548 ปัจจุบัน |
จำนวนตอน | ? |
โดราเอมอน (「ドラえもん」 Dora'emon โดะระเอะมง?) หรือ โดเรมอน เป็น การ์ตูนญี่ปุ่น แต่งโดย ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ เรื่องราวของหุ่นยนต์แมวหูด้วน ชื่อ โดราเอมอน ที่มาจากอนาคตกลับมาช่วยเหลือเด็กประถมจอมขี้เกียจ โนบิตะ ด้วยของวิเศษจากอนาคต โดราเอมอนเริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) มีการตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โชงะกุกัง[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ในหนังสือทั้งหมด 6 เล่มพร้อมกัน โดยมีทั้งหมด 1,344 ตอน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] และในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2540 โดราเอมอนได้รับ รางวัลเท็ตซึกะ โอซามุ เป็นการ์ตูนดีเด่น[ต้องการแหล่งอ้างอิง] อีกทั้งยังได้รับเลือกจากนิตยสารไทม์เอเชีย ให้เป็นหนึ่งในวีรบุรุษของทวีปเอเชีย จากประเทศญี่ปุ่น[1] จากนั้นในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2551 โดราเอมอนก็ได้รับเลือกให้เป็นทูตสันถวไมตรีเพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นด้วย[2]
ในประเทศไทย โดราเอมอนฉบับหนังสือการ์ตูนมีการตีพิมพ์โดยหลายสำนักพิมพ์ในช่วงก่อนที่จะมีลิขสิทธิ์การ์ตูน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] แต่ปัจจุบัน สำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดพิมพ์แต่เพียงผู้เดียว ส่วนฉบับอะนิเมะ ออกอากาศทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. หรือโมเดิร์นไนน์ทีวี ในปัจจุบัน และวางจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี-ดีวีดี ลิขสิทธิ์โดยบริษัทโรส มีเดีย[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
เนื้อหา[ซ่อน] |
[แก้] โครงเรื่อง
เนื้อเรื่องส่วนมากจะเกี่ยวกับปัญหาของโนบิตะเด็กชายชั้น ป.4 ที่มักถูกเพื่อนๆ แกล้ง (แต่บ่อยครั้งก็เป็นฝ่ายหาเรื่องใส่ตัวเอง) ไม่ค่อยชอบทำการบ้าน,อ่านหนังสือ และไปโรงเรียนสายบ่อย ๆ โดยมีเพื่อนที่เป็นตัวละครสำคัญในเรื่องคือโดราเอมอน (โนบิตะทำอะไรไม่ค่อยเป็น ต้องพึ่งโดราเอม่อนแทบทุกอย่าง) หุ่นยนต์แมวจากอนาคตที่คอยดูแลช่วยเหลือโนบิตะตลอดเวลาด้วยของวิเศษจากอนาคต ไจแอนท์เด็กที่ดูเป็นอันธพาล แต่ที่จริงเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวและรักการร้องเพลง ซูเนโอะผู้มีฐานะทางบ้านดีที่สุดในกลุ่ม มีนิสัยชอบคุยโม้ เป็นคู่หูกับไจแอนท์ที่คอยกลั่นแกล้งโนบิตะอยู่ตลอด เดคิสุงิ เป็นเด็กเรียนเก่ง นิสัยดี รักความถูกต้อง มีน้ำใจ แต่ไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก ชิซุกะผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มเป็นเด็กเรียนดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นเด็กสาวที่โนบิตะหลงรัก ในอนาคตก็ได้มาเป็นเจ้าสาวของโนบิตะด้วย ไจโกะน้องสาวของใจแอนท์ไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก ตัวละครสำคัญนอกจากนี้ก็มีโดเรมี หุ่นยนต์แมวที่มีกระเป๋ามิติที่ 4 และของวิเศษ (แต่จะออกน่ารักๆ ดูเป็นแบบผู้หญิงมากกว่า) เช่นเดียวกับโดราเอมอนผู้เป็นพี่ชาย และคุณพ่อและแม่ของโนบิตะ ซึ่งแม่ดูจะมีบทบาทในเรื่องมากกว่าพ่อ
แม้ว่าโนบิตะ ไจแอนท์ ซูเนโอะ และคนอื่นจะดูเหมือนมีปัญหากันบ่อยแต่ลึกแล้วก็รักและช่วยเหลือกันดี จะเห็นได้จากตอนพิเศษต่างๆ ที่เด็กกลุ่มนี้ต้องออกไปผจญภัย (บางทีก็นอกโลก ใต้ทะเล หรือว่ายุคไดโนเสาร์)
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียไทยได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ |
[แก้] รายชื่อตัวละคร
- ดูตัวละครทั้งหมดที่ ตัวละครในโดราเอมอน
ในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนในวัยเด็ก 4 คน และมีหุ่นยนต์แมวจากอนาคตเป็นตัวละครหลักดังนี้
- โดราเอมอน
- หุ่นยนต์แมวจากอนาคตกลับมาช่วยเหลือโนบิตะ โดยเซวาชิผู้เป็นหลานของโนบิตะเป็นผู้ส่งมา
- โนบิตะ
- เด็กชายที่ไม่เอาไหน ทั้งเรื่องการเรียน กีฬา นิสัยขี้เกียจ และชอบนอนกลางวัน แต่ก็มีความสามารถด้านยิงปืนและพันด้าย ชอบชิซุกะมานาน และถูกใจแอนท์กับซึเนะโอะแกล้งประจำ
- ชิซุกะ
- เด็กสาวน้ำใจดี เป็นที่รักของทุกคน ชอบการอาบน้ำเป็นอย่างมาก และชอบกินมันเผาเป็นพิเศษ
- ซึเนะโอะ
- เด็กขี้อวดประจำโรงเรียน ฐานะดี และเป็นเพื่อนซี้กับไจแอนท์ ชอบพูดยกยอ และขี้ประจบ
- ไจแอนท์
- เด็กอ้วน หัวโจกประจำกลุ่ม ชอบแกล้งโนบิตะเป็นประจำ แต่ก็มีหลายครั้งที่แสดงความผูกพันกับโนบิตะ ฝันอยากจะเป็นนักร้องแต่เสียงไม่เอาไหน
- โดเรมี
- หุ่นยนต์แมวจากอนาคตน้องสาวของโดราเอมอน
ทีมพากย์โดราเอม่อน
- ฉันทนา ธาราจันทร์ ให้เสียงเป็น โดราเอม่อน[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- ศันสนีย์ วัฒนานุกูล ให้เสียงเป็น โนบิตะ[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- ศรีอาภา เรือนนาค ให้เสียงเป็น ชิซุกะ[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- อรุณี นันทิวาส ให้เสียงเป็น ซูเนโอะ[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์ ให้เสียงเป็น ไจแอนท์[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
[แก้] โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ และโดราเอมอนตอนพิเศษ
- ดูบทความหลักที่ โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์
โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เป็นอะนิเมะตอนพิเศษ ซึ่งมีการจัดทำขึ้นเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาว และหนังสือการ์ตูน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] โดยปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) เป็นปีแรกที่มีการสร้างฉบับภายนตร์ชื่อตอนว่า ตะลุยแดนไดโนเสาร์[ต้องการแหล่งอ้างอิง] และมีการสร้างตอนพิเศษเรื่อยมาทุกปี[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ทั้งนี้ในปีพ.ศ. 2548 เป็นปีครบรอบ 25 ปีของการฉายโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ นอกจากนั้นยังมีการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ออกมาเป็นตอนพิเศษอีกด้วย โดยมีวีซีดีออกมาครบแล้ว 25 แผ่น 25 ตอน [ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ
- ตะลุยจักรวาล (โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ)
- ตะลุยแดนมหัศจรรย์ (บุกดินแดนมหัศจรรย์)
- ผจญภัยใต้มหาสมุทร (ตะลุยปราสาทใต้สมุทร)
- ผจญภัยในดินแดนแห่งเวทมนตร์ (ตะลุยแดนปีศาจ)
- สงครามอวกาศ (สงครามอวกาศ)
- สงครามหุ่นเหล็ก (ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก)
- บุกแดนใต้พิภพ (เผชิญอัศวินไดโนเสาร์)
- ท่องแดนญี่ปุ่นโบราณ (กำเนิดประเทศญี่ปุ่น)
- ท่องแดนเทพนิยายไซอิ๋ว (ไม่มีในหนังสือ)
- ตะลุยอาณาจักรดาวสัตว์ (ตะลุยดาวต่างมิติ)
- ผจญภัยในดินแดนอาหรับราตรี (แดนอาหรับราตรี)
- ท่องแดนสวรรค์ (บุกอาณาจักรเมฆ)
- ความลึกลับของหุ่นกระป๋อง (ฝ่าแดนเขาวงกต)
- สามอัศวินมังกร (สามอัศวินในจินตนาการ)
- ตำนานการสร้างโลก (บันทึกการสร้างโลก)
- รถไฟสายกาแล็คซี่ (ผจญภัยสายกาแล็คซี่)
- ผจญภัยเมืองในฝัน (ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน)
- ผจญภัยดินแดนทะเลใต้ (ผจญภัยเกาะมหาสมบัติ)
- ท่องอวกาศ (บันทึกท่องอวกาศ)
- ตำนานจ้าวสุริยา (ตำนานสุริยกษัตริย์)
- อัศวินแดนวิหค (อัศวินแดนวิหค)
- ผจญภัยในอาณาจักรหุ่นยนต์ (ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์)
- มหัศจรรย์ดินแดนแห่งสายลม (มหัศจรรย์ลูกพระพาย)
- ผจญภัยในอาณาจักรโฮ่งเหมียว (ผจญภัยข้ามมิติสู่อาณาจักรโฮ่งเหมียว)
- ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006 (ไดโนเสาร์ของโนบิตะเดอะมูฟวี่)
- ตะลุยแดนปีศาจกับ7ผู้วิเศษ (โลกเวทมนทตร์และปีศาษ)
- ตะลุยจักรวาลใหม่ (โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ2009)
[แก้] โดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวี
- ดูบทความหลักที่ โดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวี
โดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวีเป็นภาพยนตร์การ์ตูนชุดสัญชาติญี่ปุ่น (อะนิเมะ) โดยสร้างขึ้นเพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์ ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มใน ปีพ.ศ. 2516 โดยนิปปอนเทเลวิชัน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] และต่อมาปี พ.ศ. 2522 ทีวีอาซาฮี นำมาออกอากาศต่อซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง[ต้องการแหล่งอ้างอิง] สำหรับประเทศไทยเริ่มออกกาศครั้งแรกในปีพ.ศ. 2525 ทางสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ ทีวี หรือช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ในสมัยนั้น[ต้องการแหล่งอ้างอิง]และได้หายไปจากช่อง อ.ส.ม.ท.ไปสักพัก แล้วกลับมาอีกครั้งในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2552
[แก้] โดราเอมอนกับประเทศไทย
การ์ตูนโดราเอมอนฉบับหนังสือการ์ตูนภาษาไทย สร้างปรากฏการณ์เป็นที่กล่าวถึงในวงการการ์ตูนเป็นอย่างมาก เริ่มตีพิมพ์ครั้งแรกในช่วงกลางปีพ.ศ. 2524 โดยสำนักพิมพ์ธิดาน้อย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของสำนักพิมพ์มิตรไมตรี โดยตั้งชื่อการ์ตูนเรื่องนี้ว่า "โดราเอมอน แมวจอมยุ่ง" แปลเป็นภาษาไทยโดย อนุสรณ์ สถิรวัฒน์[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ต่อมาสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจก็ได้มีการตีพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้เช่นกัน แต่เลือกใช้ชื่อว่า "โดเรมอน" เพื่อไม่ให้ซ้ำกับทางสำนักพิมพ์แรก[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ในสมัยนั้นยังเป็นช่วงของหนังสือการ์ตูนที่ยังไม่มีการซื้อลิขสิทธิ์ถูกต้องจากทางญี่ปุ่น ทั้ง 2 สำนักพิมพ์จึงไม่ได้พิมพ์ตอนตามลำดับของต้นฉบับทำให้มีการลงตอนซ้ำกัน โดราเอมอนได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้ง 2 สำนักพิมพ์จึงแข่งกันทางด้านความถี่ของการออกจัดจำหน่าย จากเดือนละเล่มในช่วงต้น ก็เปลี่ยนเป็นเดือนละ 2 เล่ม จนถึงอาทิตย์ละเล่ม สุดท้ายทางสำนักพิมพ์ธิดาน้อย ก็พิมพ์ถึงเดือนละ 3 เล่ม พิมพ์ไม่น้อยกว่า 70,000 เล่มต่อครั้ง ด้วยความถี่ในการพิมพ์ และการไม่มีการจัดลำดับถูกต้องตามต้นฉบับ ทำให้ในเวลาเพียง 7-8 เดือนการ์ตูนเรื่องนี้ก็ตีพิมพ์ครบทุกตอนตามต้นฉบับของฟูจิโกะ ฟูจิโอะที่ใช้เวลาเขียนติดต่อกันร่วม 10 ปี[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
หลังจากนั้น หนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้เห็นความนิยมของโดราเมอน จึงได้มีการตีพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้ลงเป็นตอนๆ ในแต่ละวันโดยเริ่มวันแรกวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2525[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ถือได้ว่าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกที่มีการตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ เนื่องจากต้องการไม่ให้ชื่อซ้ำกับทาง 2 สำนักพิมพ์แรก ไทยรัฐจึงได้ตั้งชื่อใหม่อีกเป็น "โดรามอน เจ้าแมวจอมยุ่ง"[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ด้วยเหตุนี้เองทำให้คนไทยเรียกชื่อ โดราเอมอน ต่างกันหลายชื่อ[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
สำนักพิมพ์สุดท้ายที่ตีพิมพ์โดราเอมอนฉบับหนังสือการ์ตูนในยุคนั้นคือ สยามสปอร์ตพับลิชชิง หรือสยามอินเตอร์คอมิกส์ ในปัจจุบัน และใช้ชื่อตามหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ แต่มีการแถมรูปลอกมาพร้อมในเล่ม อีกทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์ที่ใหญ่โตที่แดนเนรมิต ใช้ชื่องานว่า "โลกของโดรามอน" จัดให้มีกิจกรรมมากมายเช่น การประกวดร้องเพลงโดราเอมอนภาษาไทย ซึ่งร่วมมือกับค่ายเพลง อโซน่า ถึง 6 เพลง อีกทั้งยังมีนำเข้าสินค้าตัวละครโดราเอมอนจากประเทศฮ่องกงมาจำหน่ายในงานอีกด้วย จนในปัจจุบันการ์ตูนเรื่องนี้ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ฉบับหนังสือการ์ตูนอย่างถูกต้อง โดยสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ ซึ่งมีการตีพิมพ์ 45 เล่ม และมีการรวมเล่มพิเศษอีกหลายฉบับเช่น โดราเอมอนชุดพิเศษ โดราเอมอนพลัส และโดราเอมอนบิ๊กบุคส์ อีกทั้งยังมีตีพิมพ์ซ้ำแล้วหลายรอบ
ในปีพ.ศ. 2525 ทางไชโยภาพยนตร์ได้มีการฉายโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ขึ้นถึง 2 ตอนด้วยกัน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] คือตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ และโนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ทางช่อง 9 ก็ได้มีการออกอากาศโดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวี ทางโทรทัศน์ เริ่มเมื่อวันที่ 5 กันยายน ในปีเดียวกัน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างดีเช่นกัน ทำให้ช่อง 9 ได้รับการยอมรับในเรื่องของการออกอากาศภาพยนตร์การ์ตูนทางโทรทัศน์ และทีมนักพากย์การตูนอีกด้วย (นิตยสาร a day, 2545: 70) สำหรับในปัจจุบัน โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์มีการจัดฉายในโรงภาพยนตร์เป็นประจำทุกปีอีกครั้ง โดยบริษัทดับบลิวพีเอ็มฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล เริ่มในปีพ.ศ. 2544 เป็นต้นมา[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ส่วนโดราเอมอนฉบับการ์ตูนทีวีนั้น ก็มีการฉายซ้ำเป็นระยะ และฉายตอนใหม่อยู่เรื่อย ๆ ทางสถานีโทรทัศน์ โมเดิร์นไนน์ ทีวี และลิขสิทธิ์ในตัวละครที่นำไปผลิตเป็นสินค้าเป็นของ บริษัทเอไอ (Animation International) ของประเทศฮ่องกง[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียไทยได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ |
[แก้] เพลงประกอบ
- ดูบทความหลักที่ เพลงประกอบ
เพลงเริ่มของโดราเอมอน คือเพลง "โดราเอมอนโนะอุตะ" (「ドラえもんのうた」 Doraemon no uta เพลงของโดราเอมอน?) ซึ่งในระหว่างปี 2522-2548 นั้นมีผู้ขับร้อง 5 คน[ต้องการแหล่งอ้างอิง]ในช่วงเวลาแตกต่างกัน ในขณะที่เพลงจบนั้นมีทั้งหมด 11 เพลง[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
[แก้] ความนิยม
โดราเอมอนเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย และแม้ว่าเรื่องนี้จะจบลงไปนานแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นที่นิยมกันอยู่ โดยมีการพิมพ์ใหม่ หรือนำออกมาฉายซ้ำออกอากาศอยู่เรื่อยๆ[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
เคยมีการวิเคราะห์ด้วยเหตุผลทางจิตวิทยาว่าสาเหตุที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เป็นที่นิยมมากนั้น เป็นเพราะตัวละครโนบิตะ มีลักษณะเป็นคนอ่อนแอ ขี้แพ้ ทำอะไรก็มักไม่ค่อยสำเร็จ หากมีเรื่องที่ถนัดอยู่บ้างก็เป็นเรื่องที่สังคมไม่ให้ความสำคัญหรือการยกย่อง เช่น เล่นพันด้าย หรือยิงปืนแม่น[ต้องการแหล่งอ้างอิง] และเนื่องจากลักษณะนี้เองทำให้ผู้อ่านส่วนใหญ่มีความรู้สึก "มีส่วนร่วม" และเปิดใจให้ตัวละครอย่างโนบิตะเข้ามาในจิตใจได้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนส่วนใหญ่ล้วนรู้สึกว่าตนเองคือผู้แพ้ คือผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกรังแก ไร้ความสามารถ หน้าตาไม่ดี ไม่มีความสามารถ และย่อมอยากและหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีผู้มาช่วยเหลือเรื่องต่างๆให้แก่เรา ซึ่งในเรื่องนี้ก็คือโดราเอมอนนั่นเอง[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
โดราเอมอนนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นแม่อย่างหนึ่งก็ได้ จากเรื่องจะเห็นได้ว่า โดราเอมอนมักออกมาช่วยเหลือ ปกป้อง แก้ปัญหาให้โนบิตะ ในยามคับขันหรือเดือดร้อน เสมอๆ เป็นบทบาทของ "แม่ผู้ใจดี"[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ซึ่งก็คือสิ่งที่มนุษย์เราต้องการอยู่ลึกๆ และในบางตอนโดราเอมอนก็แสดงบท "แม่ใจร้าย" คือการแก้เผ็ดหรือปล่อยให้โนบิตะผจญกับความยากลำบากที่มักเป็นผู้ก่อขึ้นเองจากความรู้สึกในด้านชั่วร้าย เช่นการอิจฉาริษยาผู้อื่น การเกลียดชังผู้อื่น การโกหก เพื่อเป็นการสั่งสอนโนบิตะให้รู้จักความผิดชอบชั่วดี[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
[แก้] ข่าวลือกับตอนจบของโดราเอมอน
ที่จริงแล้วการ์ตูนเรื่อง โดราเอมอน นั้นไม่มีตอนจบ เนื่องจากผู้เขียนได้เสียชีวิตไปก่อน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] แต่ก็มีหลายกระแสที่ออกมาบอกว่าผู้แต่งได้วางโครงเรื่องไว้ในตอนจบ[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ซึ่งต่างกันหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่ที่นักอ่านชาวไทยรู้กันดีคือ โดราเอมอนและตัวละครเสริมอื่นๆ นั้นไม่มีจริง มีเพียงแต่ โนบิตะ ซึ่งโนบิตะในตอนจบนั้นที่จริงแล้วเป็นเด็กที่ไม่สบายใกล้เสียชีวิต อยู่ในโรงพยาบาล และเพื่อนๆยืนอยู่ข้างเตียงของโนบิตะที่ใกล้ตายอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งตอนจบนี้มีความสะเทือนใจอย่างมาก ผิดไปจากการ์ตูนที่เขาแต่งหลายๆเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จบลงด้วยดีมาตลอด[3]
ส่วนตอนจบอีกแบบหนึ่งก็คือ อยู่ดีๆ วันหนึ่งโดราเอมอนก็เกิดแบตเตอรี่หมด แล้วหยุดทำงานเสียเฉยๆ โนบิตะจึงปรึกษากับโดรามี น้องสาวของโดราเอมอน โดรามีบอกโนบิตะว่า ถ้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ของโดราเอมอน ความจำทั้งหลายจะหายหมด เนื่องจากแบตเตอรี่สำรองไฟที่เก็บความจำของหุ่นยนต์รูปแมวนั้นเก็บไว้ที่หู และอย่างที่ทราบกันว่าโดราเอมอนไม่มีหู ดังนั้นถ้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ เขาจะต้องสูญเสียความจำ ต้องนำไปซ่อมที่โลกอนาคต แต่การใช้ ไทม์แมชชีนนั้นผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายใหม่ของโลกอนาคต ถ้าส่งโดราเอมอนกลับ โดราเอมอนจะมาหาโนบิตะอีกไม่ได้ ทำให้โนบิตะตัดสินใจไม่เปลี่ยนแบตเตอรี่ แล้วตั้งใจเรียนจนเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก แล้วก็แต่งงานกับชิสึกะและสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้โดราเอมอนได้สำเร็จ โดยที่ความทรงจำไม่หายไป (โดยก่อนที่โนบิตะจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้โดราเอมอนได้เรียกชิสึกะมาดูโดราเอมอน) และเขาก็มีลูกชื่อโนบิสึเกะ และอยู่ด้วยกันอย่างมีสุข[3]
[แก้] โดจินชิ
โดราเอมอน เป็นหนึ่งในการ์ตูนหลายเรื่องที่ถูกเขียนซ้ำโดยนักวาดการ์ตูนคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ผู้แต่งเรื่องตัวจริง หรือที่เรียกว่า โดจินชิ ออกมามากมาย[ต้องการแหล่งอ้างอิง] แต่สำหรับโดจินชิที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดก็คือ ผลงานของนักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่น ยาสุเอะ ทาจิมะ[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ซึ่งเป็นโดจินชิตอนจบของโดราเอมอน โดยนำเค้าโครงเรื่องมาจากตอนจบของโดราเอมอนหลายๆ แบบที่ถูกเล่าลือตามเมลลูกโซ่มานาน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] งานโดจินชิเล่มนี้ ได้ออกวางขายครั้งแรกในงานคอมมิกมาร์เก็ต ฤดูร้อน ปี 2548 (ครั้งที่ 68) และครั้งต่อมาในฤดูหนาว (ครั้งที่ 69) ปีเดียวกัน[ต้องการแหล่งอ้างอิง] ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจนหนังสือถึงกับขาดตลาด และถูกนำไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง
แต่เนื่องจากโดจินชิเล่มนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจนมียอดจำหน่ายมากถึง 15,550 เล่ม นับตั้งแต่ที่เริ่มเปิดตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อทางสำนักพิมพ์โชงะกุกัง ผู้ถือลิขสิทธิ์โดราเอมอนฉบับรวมเล่มเป็นอย่างมาก ทำให้ทางสำนักพิมพ์ต้องออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เขียนว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และขอให้หยุดจำหน่ายโดจินชิเล่มนี้ในทันที รวมถึงการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตด้วย[4][5]
[แก้] โดราเอมอนกับการ์ตูนไทย
โดราเอมอนไทย คือ การ์ตูนแอนิเมชั่นไทย โดยฝีมือคนไทย โดราเอมอนชอบโดรายากิ ส่วนโนบิตะชอบเรียน ชอบหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะและมหาสนุก และชอบอ่านนิทานสนุกสนาน ขณะนี้บริษัทไร้ท์ บิยอนด์ทำการ์ตูนไทยโดราเอมอน ชุด "นิทานของโนบิตะ" ซึ่งออกจำหน่ายในรุปแบบ วีซีดีและดีวีดี
[แก้] เกร็ด
- ของวิเศษที่โดราเอมอนหยิบออกมาจากกระเป๋ามิติที่สี่ มีไม่ต่ำกว่า 1,800 ชิ้น[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- หนังสือการ์ตูนโดราเอมอนเป็นหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นที่ขายได้มากกว่า 750,000,000 เล่ม[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- ประเทศแรกที่ฉายโดราเอมอนต่อจากญี่ปุ่น คือประเทศฮ่องกง ใน พ.ศ. 2524[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- หนังสือการ์ตูนโดราเอมอนมีหลายภาษาด้วยกัน ไม่ต่ำกว่า 9 ภาษาทั่วโลก ตีพิมพ์ในประเทศเช่นประเทศเกาหลีใต้ สเปน จีน เวียดนาม[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- ประเทศเวียดนามนิยมการ์ตูนโดราเอมอนเป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีมูลนิธิเพื่อการศึกษาโดราเอมอน เริ่มตีพิมพ์ใน พ.ศ. 2536 แบบไม่ถูกลิขสิทธิ์ และใน พ.ศ. 2541 จึงมีการตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์ ก็ยังได้รับความนิยมเสมอมา[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- พ.ศ. 2525 หนึ่งในผู้ให้กำเนิดโดราเอมอน ฮิโรชิ ฟุจิโมโตะ ได้เดินทางมาประชาสัมพันธ์โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ให้กับทางไชโยภาพยนตร์ แต่เป็นการมาช่วงเวลาที่สั้นมาก เป็นเพราะความโด่งดังนั่นเองทำให้ต้องรีบกลับไปทำงานต่อที่โตเกียว แต่ก็ได้ไปออกในรายการ "อาทิตย์ยิ้ม" ของดำรง พุฒตาล ทางช่อง 9 [ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- พ.ศ. 2531 โดราเอมอนได้รับเกียรตินำไปสร้างเป็นบอลลูนขนาดยักษ์ คนญี่ปุ่นต่างก็เรียกบอลลูนนี้ว่า "โดราบารูคุน" (Dorabarukun) [ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- พ.ศ. 2535 มีการผลิตรถพลังแสงอาทิตย์ตามตัวละครโดราเอมอนขึ้น เรียกว่า "โซราเอมอน" ในการประกวดแข่งขันรถพลังแสงอาทิตย์ โครงการรณรงค์ประหยัดพลังงาน[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- พ.ศ. 2540 ในวันที่ 2 พฤษภาคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวการวางจำหน่ายแสตมป์โดราเอมอนที่ประเทศญี่ปุ่น มีสีเขียว ส้ม ชมพู และสีน้ำเงิน โดยมีการต่อแถวรอซื้อตั้งแต่เช้า[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- ในประเทศญี่ปุ่น มีรถไฟโดราเอมอนอยู่ด้วย โดยเป็นเส้นทางจากอาโอโมริไปฮาโกดาเตะ ตัวโบกี้มีการตบแต่งด้วยตัวละครจากโดราเอมอนทั้งภายนอกและภายใน และมีโบกี้พิเศษสำหรับแฟนคลับโดราเอมอน โดยมีภาพยนตร์การ์ตูน ของที่ระลึกจัดจำหน่าย และมีพนักงานต้อนรับสวมหัวโดราเอมอนคอยบริการอยู่บนรถไฟ[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- โดราเอมอนได้รับตำแหน่ง"ทูตอะนิเมะ"จากกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 19 มีนาคม 2551 ซึ่งมีภาระ “สร้างเพื่อนด้วยการเดินทางไปรอบโลก” ในคำกล่าวรับการแต่งตั้ง โดราเอมอน (หรือคนที่สวมชุดตัวการ์ตูน) กล่าวว่า เขากระตือรือร้นที่จะช่วยประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมของญี่ปุ่น “ตลอดงานของผม ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อบอกกับผู้คนในต่างชาติเกี่ยวกับสิ่งที่ชาว ญี่ปุ่นคิด วิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างไรและความหวังของชาวญี่ปุ่นในอนาคต”[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
- บริษัทบันได บริษัทที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าการ์ตูนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ได้ออกมาประกาศว่า มีโปรเจกต์สร้างหุ่นยนต์โดราเอมอนของจริงขึ้นมาด้วย ซึ่งเราอาจจะได้เห็นในไม่ช้านานนี้[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
ความคิดเห็น