ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Exo x Me] ปีเตอร์แพนของฉันอยู่ไหน? (x exo)

    ลำดับตอนที่ #13 : EP 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 934
      2
      6 มี.ค. 57

    ตอนที่ 13

    เมื่อทั้งสองล้มตัวลงนอนลงเพื่อลงไปในฝันของลู่หานตามคำขอ(บังคับ)ของเลย์แล้ว เลย์ก็ลากเก้าอี้มานั่งเฝ้าข้างๆเตียงเลย

    ในฝันของลู่หานเป็นช่วงเวลายามค่ำคืนท้องฟ้าปลอดโปร่งดวงดาวส่องระยิบระยับทั่วทั้งฟ้าดวงจันทร์สาดแสงลงมาทำให้มองเห็นแม่น้ำลำธารและพื้นที่รอบๆได้อย่างชัดเจน อึนมีมองซ้ายมองขวาแล้วก็เห็นลู่หานนั่งรอเธออยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่ที่ดูอบอุ่น เธอเดินไปนั่งลงข้างๆลู่หาน เขาหันมายิ้มอย่างอ่อนโยนให้อึนมีและเขยิบเข้าไปให้ชิดติดกับเธอ อึนมีหน้าแดงเธอยิ้มด้วยความเขิน

    นี่...นี่ต้องทำจริงๆใช่มั้ย โอ้ย!

    ลู่หานค่อยๆลากมือตัวเองไปกุมมืออึนมีเบาๆ เขาใช้นิ้วโป้งลูบไล้มือเล็กๆของอึนมีอย่างบางเบา อึนมีกลืนน้ำลายลงเอือกนึง ก่อนจะค่อยๆหันไปหาลู่หานช้าๆ ปรากฏว่าลู่หานเองก็กำลังโน้มตัวลงมาหาเธอ เมื่อหน้าทั้งสองหันเข้าหากันความใกล้ชิดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของลู่หาน เธอหลับตาลงพร้อมจะรับไออุ่นนั้น ลู่หานโน้มตัวลงไปจูบอึนมีอย่างบางเบาที่สุด เธอสัมผัสได้ถึงริมฝีปากนุ่มๆของเขา เป็นการจูบที่ทำให้ใจเธอเต้นรัวและเร็วกว่าครั้งไหนๆ ถึงจะเป็นแค่สัมผัสบางเบาก็ตาม ลู่หานค่อยๆลากมือตัวเองไปกุมหน้าอึนมีพร้อมกับลากนิ้วโป้งอุ่นๆของเขาลูบไล้แก้มของเธอเบาๆ มันยิ่งทำให้อึนมีใจเต้นแรงขึ้นไปอีก ลู่หานค่อยๆเพิ่มระดับการจูบให้แรงขึ้น เขาค่อยๆกดริมฝีปากตัวเองลงไปและเริ่มลิ้มรสริมฝีปากของอีกอย่างใจเย็น ไออุ่นที่แสนอ่อนโยนของลู่หานส่งผ่านอึนมีไม่หยุดหย่อน จนเธอต้องระบายมันออกมาด้วยการจับไหล่ลู่หานแน่น ลู่หานถอนริมฝีปากออกเบาๆให้อึนมีได้หายใจ ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยและลงจูบเธอเป็นรอบที่สอง มือเขาจากที่เคยลูบไล้แก้มนุ่มๆของอึนมีก็เปลี่ยนไปกอดเอวแน่น เขาดันตัวอึนให้เข้าไปชิดร่างเขามากขึ้นไปอีก จนอึนมีเองต้องโต้กลับไปด้วยการกอดคอเขาแน่น ทั้งสองอยู่แบบนั้นนานจนในที่สุดอึนมีก็เป็นคนถอนริมฝีปากของเธอออกก่อน ลู่หานหลุดหัวเราะออกมาแต่เขายังไม่ยอมปล่อยอึนมีออกจากอ้อมแขน แค่อึนมีได้มองหน้าเขาในระยะชิดใกล้แค่นี้ก็ทำให้เธอใจเต้นแล้ว

    จู่ๆก็มีเสียงของใครคนนึงตะโกนลงมาจากต้นไม้ที่พวกเขานั่งอยู่

    “หยุดนะ!” เป็นเสียงเด็กสาวและหน้าตาก็คุ้นๆ “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!

    อึนมีกับลู่หานผละออกจากกันและยืนจ้องเธอบนต้นไม้

    “ตื่นได้แล้ว!!” เด็กสาวตะโกนลงมาอีกครั้ง “ตื่น!!!

    อึนมีสะดุ้งตื่นขึ้นมาตามคำเรียกร้อง เธอลุกขึ้นจากเตียงพรวดพราดจนเลย์ที่นั่งมองอยู่แปลกใจ เธอหันไปมองร่างของลู่หานที่กำลังจะตื่นตามมา

    เขาจะจำได้มั้ย เขาจะจำได้หรือเปล่า ไม่นะ ขอร้องละ อย่าจำนะ ฉัน...ฉันแสดงออกว่าชอบจูบเขามากเกินไป ไม่นะ พี่ลู่ได้โปรด

    ลู่หานค่อยขยับเปลือกตาขึ้นช้าๆ ดูเหมือนเขางัวเงียเล็กน้อย เขาค่อยๆลุกขึ้นมานั่งและยิ้มหน้าแดงให้อึนมี

    ไม่นะ! เขาจำได้หรอ!!

    “เป็นไงบ้างลู่หาน” เลย์ถามคนที่นั่งหาวอยู่บนเตียง “ฝันดีหรือเปล่า”

    “ก็ดีนะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ “ตอนแรกนึกว่าจะต้องจูบกับอึนมีจริงๆซะอีก

    อ่าว?

    “แต่แค่...” เขาหันไปสบตาอึนมีด้วยใบหน้าแดงๆ “แค่เล็กๆน้อยๆเอง” เขาหัวเราะ

    อึนมีโล่ง นี่เขาจำไม่ได้ใช่มั้ย จูบซะดูดดื่มขนาดนั้นถ้าจำได้นี่มีหวังเธอกับเขาได้มองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ

    “ภารกิจเสร็จสิ้น” เลย์กล่าวและลุกขึ้น “แยกย้ายกลับบ้านได้” เขาทำเหมือนจะบินออกไปนอกหน้าต่างแต่อึนมีจับแขนเขาไว้ก่อน

    “ในฝัน” เธอจ้องตาเลย์เขม็ง “มีเด็กผู้หญิงคนนึงโผล่มาบอกให้ฉันตื่น”

    “อ่า” เหมือนเลย์จะไม่แปลกใจเลย “มาแล้วสินะ”

    “อะไรมา?”

    “ความเป็นทิงเกอร์เบลในตัวเธอไง” เขายิ้ม “เด็กคนนั้นก็คือเธอเองนั้นแหละ”

    “ฉัน?”

    “ใช่ คือเธออีกคน ไม่นานเธอก็จะได้คุยกับตัวเอง แต่กว่าจะถึงขั้นนั้นเธอต้องผ่านอะไรอีกเยอะแยะเลย วันนี้ก็ถือว่าสำเร็จไปอีกขึ้นนึง ตอนนี้เธอสามารถบินได้แล้ว ดีใจด้วยนะ”

    “หา? บิน?” อึนมีแปลกใจเล็กน้อยไหนบอกว่าฝึกการอ่านใจคนอื่น?

    “อ่อ ฉันโกหกน่ะ ที่บอกว่าฝึกอ่านใจนี่มันต้องฝึกด้วยตัวเอง แต่เรื่องบินจะต้องมีคนแนะนำ ตอนนี้เธอผ่านขั้นแรกของการบินแล้วนะ เธอบินไปไหนมาไหนได้ละ ลองดูสิ”

    อึนมีมองหน้าลู่หานอย่างไม่อยากเชื่อ ฝึกบินด้วยการเข้าฝันคนอื่นเพื่อไปจูบเนี่ยนะ? แต่สุดท้ายเธอก็ลอง ตอนแรกไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่พอคิดว่าคำว่า “บิน” จู่ๆร่างมันก็ลอยขึ้นไปติดเพดานเฉยเลย ลู่หานมองอึนมีพร้อมทำตาโตด้วยความตื่นเต้น อึนมีเองก็เช่นกัน เธอลองขยับแขนขาและคิดทิศทางดู ปรากฏว่าทำได้ บินได้ตามที่ใจต้องการได้ทุกทิศเลย อึนมีหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน ถึงจะไม่รู้ว่าการเข้าไปในฝันมันช่วยอะไรได้บ้างก็เถอะ แต่การบินได้นี่ถือว่าวิเศษไปเลย เธอลองบินออกไปนอกหน้าต่างดู ลมเย็นๆสัมผัสทั่วทั้งร่างกาย เธอบินขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ มองลงมาเห็นบ้านเมืองเป็นแค่แสงไฟระยิบระยับอยู่เบื้องล่าง

    นี่มัน นี่มัน นี่มัน นี่มันสุดยอดไปเลย!!!!!!!!!

     

    ตอนบ่าย ของวันต่อมา

    “อึนมี!” ดีโอเข้ามาปลุกเธอถึงที่นอน “จะนอนไปถึงไหน ตื่น!” เขาเขย่าตัวอึนมีแต่เธอกลับตอบมาแค่เสียงที่งัวเงียมากจนดีโอจับใจความไม่ได้

    “อึนมี วันนี้วันอะไรเธอลืมแล้วหรอ”

    เธอสะดุ้งโหยงรีบเด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว

    วันนี้! วันอะไรวะ!! นี่เราลืมอะไรไป!! หรือว่าจะเป็นวันเกิดใคร!!

    ดีโอเข้าไปกระซิบใกล้ๆหูเธอ “วันนี้คือวันที่ฉันยังหล่อเหมือนเดิมไง”

    อึนมีแทบจะกระโดดกัดหูดีโอ เธอกรีดร้องโวยวายปาหมอนใส่รัวๆ

    “ง่วงจะตายห่านละ! ขอนอนต่อไม่ได้หรอไง! เมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนทั้งคืนเลยนะ!! อย่ามายุ่งได้มั้ยเนี่ยดีโอ!

    “ไปทำอะไรมา ทำไมถึงไม่ได้นอน”

    “ก็มัวแต่บินไปบินมา-” เธอหยุดชะงัก ดีโอยังไม่รู้เรื่องนี้ใช่ปะ “มัวแต่...เออนั่นแหละ มัวแต่ร่อนไปร่อนมาอยู่ในห้องเนี่ย ไม่ได้นอนเลยมัวแต่จัดของอยู่”

    “ของอะไร? ฉันไม่เห็นว่าห้องเธอจะถูกจัดอะไรใหม่เลยนะ” ดีโอมองไปรอบๆเพื่อสำรวจความเปลี่ยนแปลง

    “เอ่อ...ไม่รู้แหละ จำไม่ได้เหมือนกัน แต่ฉันง่วงมากขอนอนต่อละกันนะ” ว่าแล้วเธอก็คลุมโปงล้มตัวลงนอนทันที

    “ไม่ได้!” ดีโอแย่งผ้าห่มเธอออก “ตื่นมาแวดๆใส่ฉันได้ขนาดนี้แล้วยังจะนอนอีกหรอ”

    “โอ้ย เป็นอะไรของนายเนี่ย ไม่มีเพื่อนเล่นหรอ ไอแบคคยอนไปไหนเนี่ย? ไปเล่นกับมันไป๊” อึนมีแย่งผ้าห่มกลับมา

    “แบคคยอนเล่าเรื่องที่เธอเป็นทิงเกอร์เบลให้ฉันฟังหมดแล้วนะ”

    คราวนี้ละอึนมีหายง่วงขึ้นมาเลย

    “แบคเล่าอะไรนะ?”

    “มันบอกว่าเธอเป็นทิงเกอร์เบลแล้วกำลังตามหาปีเตอร์แพนอยู่” เขานั่งลงบนเตียง นี่สินะคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงมาปลุกอึนมี

    “แล้ว...แล้วนายเชื่อหรอ?”

    “ไม่เชื่อหรอก” เขาตอบก่อนจะหันไปสบตาอึนมี “ถ้าฉันไม่ได้เห็นเธอบินอยู่บนฟ้าเมื่อคืนฉันคงไม่เชื่อแล้วละ”

    อึนมีเบิกตากว้าง ดีโอเห็นหรอ!!

    “นะ-นายเห็นได้ไง...ฉะ-ฉันบินสูงนะ!” เธอขึ้นเสียงสูงตาม

    “เมื่อคืนท้องฟ้าเปิดฉันเลยกะจะส่องดูดาวซะหน่อย แต่กลับไปเจอเพื่อนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่บนฟ้าอย่างมีความสุขหัวเราะเหมือนคนบ้าด้วยนะ” เขาเหล่ไปที่อึนมีเล็กน้อย อึนมีกระแอมเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย “พอฉันเห็นฉันเลยปลุกแบคให้มาดูแต่เขากลับดูไม่แปลกใจเท่าไหร่ ฉันเค้นถามจนได้เรื่องขึ้นมาน่ะ”

    อึนมียิ้มแห้งๆให้ดีโอ

    “ก็...อืม...ตามนั้นแหละ”

    “โกด” ดีโอตัดบทก่อนจะลุกขึ้นจะเดินออกจากห้องไป อึนมีรีบเข้าไปกอดคว้าตัวเขาไว้

    “กะ-โกรธเรื่องอะไร?” ทั้งๆที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไร

    “ทำไมไม่บอกฉัน!” ดีโอพยายามสะบัดอึนมีออกไป “พวกเธอสองคนปิดบังฉันมาตลอดเลย”

    “ไม่ใช่นะ!” อึนมีกอดเขาแน่นขึ้น “คือเราจะบอกนายอยู่แล้วละดีโอ! ความจริงแบคก็เพิ่งรู้มาเมื่อไม่นานนี้เองนะ” เธอพยายามอธิบาย

    “ไม่รู้ละ โกรธ” ดีโอหยุดดิ้นแต่เขาทำหน้าตายแทน อึนมีคลายกอดจากเขาและหาวิธีง้ออย่างรวดเร็ว

    “อย่าโกรธน๊า” เธอกระโดดจึ๋งเหมือนเด็กๆไปข้างหน้าดีโอ “นะๆ สุดท้ายนายก็รู้ความจริงแล้วนี่นา” เธอแบ๊วใส่ดีโอสุดชีวิตเพื่อเรียกคะแนนความน่ารัก

    “ไม่ต้องเลย” ดีโอหันหน้าหนี “มันน่าน้อยใจจริงๆ โกดทั้งเธอทั้งแบคเลย”

    “โหย อย่าไปโกดไอแบคมันเลย สงสารมันน่ะแค่นี้ก็ไม่รู้จะรับไหวมั้ย ยิ่งฉลาดน้อยอยู่ด้วย” อึนมีจับหน้าดีโอให้หันมาสบตากับเธอ “ฟังนะ เรื่องนี้อย่าบอกใครนอกเหนือจากนี้เด็ดขาด มันมีผลต่อคนที่รับรู้เรื่องนี้ด้วย”

    “ฉันไม่สน” ดีโอปัดมือเธอออกอย่างไร้เยื่อใย “ฉันจะไปเล่าใครได้ เพื่อนฉันก็มีแค่นี้” เขาประชดด้วยน้ำเสียงแห่งความน้อยใจสุดๆ

    “โธ่ๆ” อึนมีเข้าไปกอดเพื่อนตัวเองอีกครั้ง “อย่างอนสิ หายได้แล้ว นะๆ” เธอหอมแก้มดีโอเข้าไปฟอดใหญ่ๆ จนเขาสะดุ้งและหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

    “ทำอะไรของเธอ!” เขาเขินจนเผลอยิ้มออกมา “จะบ้าหรอ!

    “นั่นแหน่ หายโกดแล้วใช่ม้า”

    “ไม่” เขาสะบัดอึนมีออก “ไปไหนก็ไปเลยไป”

    “ดีโอ!” อึนมีขึ้นเสียงแข็ง ไม้อ่อนใช้ไม่ได้คงต้องใช้ไม้แข็งแล้วสินะ “ถ้านายยังไม่หายงอนอีกนะ ฉันจะไปเรียกแบคคยอนมา!

    “แล้วไง!

    “มาหอมแก้มนาย!” ว่าเสร็จเธอก็รีบพุ่งออกไปจากห้อง ดีโอรีบวิ่งตามและคว้าตัวเธอไว้ทัน

    “อย่านะ! ไม่เอาแบคคยอน” เขาคร่ำครวญขอร้องเหมือนแมวกำลังจะโดนอาบน้ำ “ฉันหายแล้วๆ หายงอนแล้ว”

    อึนมียิ้มอย่างคนมีชัย จู่ๆแบคคยอนก็เข้ามาในห้องโดยที่ไม่ต้องออกไปตาม

    “อ่าว ดีโอ อยู่นี่หรอกหรอ” เขาพูดในขณะที่เดินตรงไปห้องครัวเพื่อคุ้ยหาของกิน “เออนี่ อึนมี”

    “หือ?”

    “วันนี้ห้องข้างๆเขาชวนดูหนังผีกันตอนเที่ยงคืนน่ะ” แบคคยอนพูดขณะยกนมขึ้นมาสดอึกใหญ่

    “หนังผี?!” เห็นแบบนี้แล้วอึนมีก็เป็นคนกลัวผีขึ้นสมองเหมือนกันนะ

    “เธอกลัวผีนี่” ดีโอเสริมอย่างรู้ทัน “ไปๆ เราไปดูกัน”

    “ไม่เอา! ฉันไม่ไป! อึนมีส่ายหน้ารัวๆ “พวกนายไปกันสองคนเถอะนะ”

    “งอน” ดีโอทำแก้มป่อง “ฉันงอน”

    “อะไรของนาย! เมื่อกี้หายแล้วไม่ใช่หรอ!

    “งอนอีก” เขาทำหน้ามุ่ยใส่อึนมี “เราไม่ได้ดูหนังแบบนี้นานแล้วนะ เธอกลัวก็ปิดตาสิ แค่ไปนั่งเฉยๆก็ได้”

    อึนมีคิดหนัก ใจนึงก็อยากไปร่วมสนุกกับเพื่อน อีกใจนึงก็กลัวจะหลอนจนนอนไม่หลับ แต่ถ้าไม่ไปดีโอก็โกรธอีก เธอเลยจำใจตอบตกลง ดีโอยิ้มอย่างมีความสุข นั่นคงเป็นความสุขที่ได้แกล้งอึนมีแน่ๆ

    “แล้วดูหนังเรื่องอะไรอ่ะ” ดีโอถามแบคคยอน

    “รู้สึกว่าจะเรื่อง คนเรียกผี อะไรนี่แหละ”

    แค่ชื่อเรื่องก็สยองละ อึนมีกลืนน้ำลายตัวเองอย่างหวาดกลัว

    ให้ตายเถอะไอพวกบ้า มีความสุขมากใช่มั้ยที่ได้ดูหนังผีกับคนกลัวผีน่ะหา!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×