คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : แจ็คพอต 1
ผมออกมาเดินเล่นกับไคตั้งแต่เช้าเลยครับ
ผมไม่ได้โกรธพี่เซนาละ ผมหายแล้ว เพราะเธอเพิ่งจะซักเสื้อผ้าของผมและเอามาให้ผมเมื่อเช้านี่เอง...พูดง่ายๆก็คือความหอมจากเสื้อทำให้ผมหายโกรธเธอครับ...
ความจริงผมเพิ่งนึกได้ต่างหากว่าจะโกรธเธอทำไม...
ผมกับจงอินเดินไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมาย พวกเราชอบออกมาเดินข้างนอกในวันปกติแบบนี้ครับ เพราะแฟนๆผมจะไม่ค่อยมาตามกันเท่าไหร่ แหม...ชีวิตพวกเธอก็ไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นนี่เนอะ...แต่ถึงอย่างนั้นผมกับจงอินก็ยังมีคนเดินตามถึงสามสี่คนอยู่ดี...
พวกเราเริ่มหิวเดินมาจนเลยเที่ยงไปโดยไม่รู้ตัว จึงตัดสินใจเข้าไปนั่งหาอะไรกินในร้านทันที
“พี่จงแดคิดอะไรของเขานะที่อยู่ๆไปเมืองไทยแบบนั้น” จงอินเปิดบทสนทนาพลางตักสปาเก็ตตี้เข้าปาก “จะแปลกคนเกินไปละ...กูเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเมื่อพี่เขากลับมาจะยังเป็นพี่จงแดคนเดิมหรือเปล่า”
“ไม่หรอก” ผมซดน้ำไล่อาหารลงคอก่อนพูด “พี่แกแค่อยากปลีกตัวออกไปอยู่กับตัวเองน่ะ...อาจจะอยากหนีไปไกลๆจากคำว่าศิลปินดังซักพัก...กูว่าก็ดีนะเว้ยมึง กูยังคิดเลยว่าอยากจะทำได้แบบพี่เขา...ที่นั่นไม่มีใครรู้จักพี่เขาเลยนะ ยกเว้นเพื่อนพี่เซนา ที่ชื่อ...หนมไต...เอ้ย ขนมไทย”
“งั้นหรอ...ว่าแต่มึงอะ” จงอินชี้หน้าผมด้วยส้อม “คิดห่าอะไร อยู่ๆก็ไปกับเขาแบบนั้น”
“เออวะ” ผมเริ่มคิดได้ “กูจะไปทำไมวะ...”
“ไปเช็คสมองบ้างนะมึง”
“ตายละ!” ฉันอยู่ในห้องน้ำค่ะ และกำลังตกใจกับตัวเอง...
ปจด.มาเร็วกว่ากำหนด...และฉันก็ไม่มีผ้าอนามัยเหลือแล้วด้วย ซวยแล้วมั้ยละ...
ไม่อยากออกไปไหน...เข้าใจสภาพตอนนี้มั้ย? แล้วฉันควรจะทำยังไงดี?
ป้าจินฮีกับลุงก็ออกไปประชุมเรื่องการศึกษาอะไรก็ไม่รู้ บางทีเราน่าจะเข้าไปในห้องป้าแล้วคุ้ยหาซักสองสามแผ่นก่อน...ไม่ดีๆ ไปค้นห้องคนอื่นแบบนั้นได้ยังไง...แล้วร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดยังต้องเดินไปหลายเมตรด้วย...แต่ว่าจะให้เดินไปซื้อในสภาพแบบนี้มัน...
ใช่แล้ว! ฉันยังมีพี่ชังมินนี่นา! ทำไมถึงนึกไม่ออก! พี่เขาเป็นผู้หญิงนะ! นี่ฉันลืมไปได้ยังไง?
ฉันเดินไปเคาะห้องพี่ชังมินทันที ได้ยินพี่แกตะโกนว่าให้เข้าไปเลย ฉันจึงเปิดประตูไปเจอกับสภาพห้องรกๆและเห็นพี่ชังมินนอนหงายอ่านหนังสือการ์ตูนแนวบู๊แหลกอย่างสบายใจ...
“พี่มีแผ่นอนามัยให้ฉันยืมก่อนมั้ยค่ะ พอดีของฉันหมด...”
“อ้อ อยู่ในตู้เสื้อผ้าน่ะ” เขาตอบฉันโดยที่หน้ายังจ้องอยู่กับหนังสือ “คุ้ยหาดู พี่ลืมละซ่อนมันไว้ไหน”
ฉันจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของพี่ชังมินและเปิดผ่างไปเจอกับกองเสื้อผ้าที่มันกระจัดกระจายเหมือนมีใครมาวางระเบิดในตู้ยังไงยังงั้นเลย...
ฉันคุ้ยหาทุกซอกทุกมุมแล้วก็หาไม่เจอ...
“ไม่มีหรอ” พี่ชังมินลุกขึ้นมานั่ง และวางหนังสือการ์ตูนลง “เอ้อ เพิ่งนึกได้น่ะ วันนั้นแฟนพี่ใช้อันสุดท้ายไปพอดีเลย...หมดแล้วอะเซนา”
“แล้ว..จะทำยังไงดี” ฉันมองหน้าเขานิ่งๆ
พี่ออกไปซื้อให้ฉันหน่อยสิ...นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะพูดออกไปมาก...ถ้าไม่ติดว่าพี่ชังมินนั้น...
“ขี้เกียจออกไปข้างนอกตอนนี้วะ” นั่นไง ยังไม่ทันได้เอ่ยปากขอช่วยด้วยซ้ำ
พี่ชังมินยิ้มกวนๆให้ฉันก่อนจะล้มตัวนอนและกางหนังสือออก “เซฮุนออกไปข้างนอกนี่ ฝากหมอนั่นซื้อสิ ซื้อมาเผื่อพี่ด้วยนะ แบบไหนก็ได้”
ผมกับจงอินจะกลับบ้านไปดูหนังเก่าๆอยู่แล้วเชียว ถ้าพี่เซนาไม่โทรมาสั่งของซะก่อน
“เอาลอริเอะแบบมีปีกทั้งกลางวันและกลางคืน กลางวันเอาแบบมามากซึบซับดีกลางคืนเอาแบบยาวๆซัก35เซนติเมรตหรือมากกว่านั้นก็ได้ แล้วก็ซื้อแผ่นบางมาด้วย ยี่ห้อลอริเอะหมดเลยนะ แล้วก็ทั้งหมดที่บอกไปนั้นซื้อมาสองชุด โอเคมั้ย? อ้อๆกลางคืนเปลี่ยนไปเป็นของโซฟีดีกว่า ใช้ดีกว่าลอริเอะน่ะ”
ผมยืนนิ่งและอึ้งกิมกี่ครับ...จงอินมองผมแปลกๆแล้วตอนนี้
พวกเรากำลังเดินกลับบ้านครับ...อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อพอดีเลยด้วย...โชคดีที่แฟนๆเลิกตามพวกผมแล้ว... ผมจึงหยุดเดินและยืนรับโทรศัพท์จากพี่เซนา
แต่ว่า...ผมไม่เข้าใจที่พี่เขาพูดกับผมเลยซักนิดเดียว...
“อะ-อะไรนะครับ?”
“ฝากซื้อผ้าอนามัยหน่อย...ได้มั้ย? ลำบากหรือเปล่า?”
“ไม่ครับๆ” ผมรีบบอกความจริงแต่ก็ต้องมานั่งตกใจทีหลังว่าเธอฝากซื้ออะไร...
“โอเคงั้นก็เอา กลางวันมีปีกลอริเอะที่เขียนว่าสำหรับมามาก ส่วนกลางคืนเอาโซฟีความยาว35เซนติเมตร แล้วก็ซื้อแบบบางยี่ห้องลอริเอะด้วย...ซื้อมาอย่างละสองชุด...เข้าใจหรือเปล่า?”
ผมเดินลากจงอินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อระหว่างที่กำลังตั้งใจฟังเรื่องราวแปลกประหลาดจากปากของพี่เซนา... จงอินมองผมงงๆแต่ก็ยอมเดินตามเข้ามาในร้าน...
เฮ้ย! จงอินมันมีพี่สาวนี่นา! ผมรีบยื่นโทรศัพท์ให้จงอินแทนทันที...
มันรับมางงๆและกรอกเสียงงงๆของมันลงไป... “ครับ?”
ผมได้ยินเสียงพี่เซนารัวภาษาประหลาดนั่นใส่จงอินทันที...มันเงียบครับ...และหน้ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากหน้าผมเลยจริงๆ... ไม่เข้าใจพอๆกันเลย
ปกติผู้หญิงที่ประเทศไทยเขาฝาก...เอ่อ ฝากผู้ชายซื้อไอของแบบนี้ด้วยหรอครับ? มันเป็นเรื่องปกติของหญิงสาวประเทศไทยหรือเปล่า? แต่ผมว่ามันค่อนข้างจะส่วนตัวนะครับ...ผมที่เป็นผู้ชาย ณ ประเทศเกาหลีนี้ ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่จริงๆนะครับ เห็นมั้ยว่าแม้กระทั่งจงอินมันยังดูงงๆเลย...
มันกดวางสายไป...และยืนมองหน้าผมงงๆ...มันถามผมว่า
“อะไรมีปีกอ่ะมึง”
มันงงยิ่งกว่าผมอีกอ่ะ...แต่ผมก็ไม่ได้รู้อะไรไปมากกว่ามันหรอก “ผ้าอนามัยไง แบบ...มีปีก”
“หือ?...จะบินไปไหนวะ...” มันทำหน้างงเข้าไปอีก ผมก็ยิ่งงงไปกับมันด้วย “แล้วไอมามากนี่อะไรวะ...แล้วกลางวันกลางคืนมันต่างกันตรงไหน? แล้วไอแผ่นบางนี่บางขนาดไหน?”
“อะ-อืม นั่นสิ...”
ผมกับมันยืนเกาหัวอยู่ซักพักก่อนจะเดินไปหาไอเจ้ามีปีกนั่นที่บล็อกสำหรับผู้หญิง... โชคดีที่ตอนนี้เป็นช่วงที่คนไม่พลุกพล่าน ผมกับมันจึงเป็นชายหนุ่มสองคนที่เดินเตร่อยู่บล็อกนี้...
“นั่นปะ” จงอินชี้ไปที่ซองสี่เหลี่ยมที่วางเรียงรายกันเป็นตับ มันมีหลากหลายยี่ห้อและหลากหลายสีมาก... “นี่ไง! ผ้าอนามัยสำหรับกลางคืน!”
มันหยิบห่อสีน้ำเงินเข้มมาดูใกล้ๆ ผมจึงเข้าไปดูด้วย...
“ยี่ห้อโซฟีด้วยอันนี้แหละ...” ผมว่าใช่อันนี้จริงๆนะ
จงอินจึงหยิบห่อเดียวกันนี้อีกอันใส่ตะกร้าไป...
ผมเดินดูแผ่นพวกนี้จนตาจะลาย... ตอนนี้พวกเราได้เกือบครบแล้วครับ เหลือแค่ไอแผ่นบางอะไรซักอย่าง...ผมกับจงอินไม่รู้จริงๆว่ามันหน้าตาเป็นยังไง...
“อันนี้ปะ...” จงอินหยิบอะไรที่มันดูประหลาดๆมาให้ผมตรวจ “มันเขียนว่า...เอ่อ สำหรับสอด”
“เฮ้ย!” ผมกับมันหน้าแดงแจ๋ทันทีเลย “ไม่ใช่หรอกมั้งมึง! เก็บๆๆ”
สุดท้ายเราก็บากหน้าไปถามพยักงานครับ...อายจริงๆ...ให้ตายสิ
มาถึงตอนจ่ายเงิน คิดสภาพผู้ชายสองคนเดินถือตะกร้าที่มีของสิ่งนี้เต็มตะกร้าสิครับ...ผมละอยากไปส่องกระจกดูจริงๆนะ ให้ตายสิ...
ผมกับจงอินใช้วิธีเป่ายิงฉุบใครแพ้ต้องเป็นคนไปจ่าย...
ผมแพ้ โชคดีมากจริงๆ! ชิ!
ผมเดินอายๆและพยายามทำหน้าตายวางของตรงหน้าเค้าเตอร์...พนักงานชายครับและเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับของตรงหน้าเลย...
“ซื้อให้แฟนหรอ” จู่ๆผู้ชายคนที่ต่อข้างหลังผมก็พูดขึ้นมา... เอ่อ เรื่องของผมปะ
“ครับ” ผมตอบไปแบบปัดๆโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าเขา ผมตกใจที่เขากล้าแซวคนแปลกหน้าอย่างผมแบบนี้...
“มีแฟนแล้วหรอเรา...”
เอ๊ะ! ทำไมเขาถึงเสือกแบบนี้วะ! ขอหันไปมองหน้าหน่อยดิ๊!
“เอ๊า ฮยอง!” ผมตกใจจนเผลอตะโกนออกมา เพราะคนเข้าหลังผมนี่ไม่ใช่ใครอื่นเลย...แต่เป็นเมเนเจอร์ของพวกเราเอง!
ผมหันไปมองหน้าจงอิน...มันยืนอุดปากตัวเองอยู่ ไม่บอกกูเลยนะไอเวรนี่...
“ซื้อให้แฟนจริงดิ?” พี่เมเนถามผมพลางอมยิ้มขำ
“โธ่ ฮยองไม่มีหรอก ผมนึกว่าคนอื่นซะอีก”
พี่เมเนหัวเราะ เขาก็คงรู้ว่าผมโกหกไปเพราะจะได้จบๆการเสวนากับคนแปลกหน้า ว่าแต่เขามาทำอะไรแถวนี้เนี่ย?
“ฮยองมาทำอะไรที่นี่ครับ?”
“เปล่าๆ แค่แวะซื้อของนิดหน่อยน่ะ” เขาชูเครื่องดื่มให้ผมดู “แล้วเดี๋ยวก็จะเดินทางต่อละ ไม่มีอะไรหรอก”
ก่อนที่ผมกับจงอินจะกลับไปที่บ้านของผม พี่เมเนก็สั่งเด็ดขาดเลยว่า “ห้ามมีแฟนตอนนี้เด็ดขาด!” ผมกับจงอินได้แต่พยักหน้าหงึกๆรับไปผ่านๆ... ผมคิดตลอดเลยนะว่าถึงมีจริงๆ พี่เมเนก็ไม่ว่าหรอก...แค่อย่าเปิดเผยให้พี่เขารู้...
“เซฮุน! 43 เซนติเมตรคืออะไร!”
ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่บอกไปมากกว่า35เซนติเมตรคือมันจะมากไปถึง 43 เซน! แล้วไอผ้า
อนามัยบ้านี่ก็จะยาวไปถึงไหน! กะให้แปะยาวไปจนถึงกลางหลังเลยหรือไง!
เซฮุนหน้าแดงและดูอึกอักเล็กน้อยที่ซื้อมาผิด...ฉันอยากหัวเราะหน้าเขานะ แต่ตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่...วันแรกก็เป็นแบบนี้ประจำแหละ
จงอินที่ยืนนิ่งๆข้างๆเขาก็ดูไม่ต่างอะไรจากเขาเลย... ฉันว่าน้องชายฉันไม่ได้เรื่องแล้วนะ แต่เขายังซื้อมาผิดน้อยกว่าสองคนนี้จริงๆอะ...
“นี่อีก” ฉันหยิบลอริเอะกลางวันมาโชว์ให้พวกเขาดู “ไม่มีปีก! มันเขียนว่าไม่มีปีก!”
เซฮุนกับจงอินมองหน้ากันนิ่งๆ... ฉันขอโทษไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นใส่พวกเขานะ แต่อารมณ์มันควบคุมไม่อยู่แล้วจริงๆอ่ะ...
“ซื้อถูกมาอย่างเดียวคือ แผ่นบาง...ขอบคุณนะ”
ฉันเดินขึ้นห้องไปก่อนจะจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยและออกไปซื้อใหม่ด้วยตัวเองทันที...
ผมไม่รู้จริงๆเลยว่าอารมณ์ของหญิงสาวในวันนั้น...จะไม่ปกติมากถึงขนาดนี้... ผมไม่กล้าแม้จะไปแกล้งเรื่องเล็กๆน้อยๆกับพี่เซนาเลย...
เธอเหมือนคนบ้าจริงๆครับ...ผมเห็นเธอเติมข้าวเย็นไปสามถ้วย...ผมเห็นเธอดื่มน้ำหวานเป็นเหยือกๆ...ผมเห็นเธอกวาดบ้านไปแล้วโอดครวญว่าเจ็บเอวเหมือนคนแก่...ผมเห็นเธอหงุดหงิดใส่หนังสือที่มันไม่ยอมพลิกหน้าเองด้วย...ผมเห็นเธอโมโหรองเท้าที่มันไม่ยอมหลุดจากเท้าเธอซักที...และล่าสุดเมื่อกี้ ผมได้ยินเสียงเธอด่าทอใส่เตียงนอนว่าทำไมรกแบบนี้...
ผมควรจะออกห่างจากเธอในวันนั้นของเธอสินะ...ผมไม่อยากโดนด่าว่าทำไมตัวสูงเหมือนเสาไฟฟ้าหรือเปรตเวลาเดินผ่านเธอไปหรอกครับ...
หลายวันต่อมา...เวลา 20.00 น.
“นี่มันเรื่องอะไรกันแม่!” พี่ชังมินที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านถึงกับสะพรึงเมื่อเจอสภาพภายในบ้าน...
ใช่แล้วค่ะ ฉันเองก็ยังสะพรึงเลย...
ของเซ่นไหว้มากมายเต็มพื้นห้องจนแทบไม่มีที่ให้เดิน...พี่ชังมินต้องใช้ทักษะการหลบหลีกขั้นสูงสุดถึงจะเดินเข้ามาในบ้านได้...
ฉันไม่คิดเลยว่าทั้งป้าจินฮีและลุงจะเป็นคนที่เชื่อในสิ่งเร้นลับแบบนี้ด้วย...
จำที่บอกว่าไปประชุมอะไรนั่นได้มั้ย? ความจริงแล้วป้ากับลุงไปงานเลี้ยงฉลองการเลื่อนตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ที่มีความสามารถเป็นเลิศ... ฉันไม่เข้าใจหรอกว่ารางวัลนี้มันมีค่ามากแค่ไหน แต่ดูป้ากับลุงจะภูมิใจมาก...พวกเขาดีใจมากจนฉันคิดว่าถ้าพี่ชังมินสารภาพเรื่องเป็นทอมตอนนี้ก็ไม่โดนโกรธแน่ๆ...
“คืนนี้หลังเที่ยงคืน” ป้าจินฮีบอกกับทุกๆคน “ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไร หรือใครเรียก...ห้ามออกมานอกห้องเด็ดขาด! ถึงแม้ว่าเสียงนั่นจะกำลังร้องโหยหวนหรือตะโกนให้ช่วยก็ตาม”
“แม่!” พี่ชังมินทำฉันสะดุ้งโหยง... “บอกก่อนนี่มันเรื่องอะไร!”
“แม่บนไว้...ว่าถ้าแม่กับพ่อได้รางวัลนั้นมา...แม่จะยอมให้สัมพเวสีแถวๆนี้...เข้ามาพักและกินอาหารในบ้านเราได้หนึ่งคืน...” ป้าจินฮีพูดพลางกวาดสายตามองรอบบ้าน...
นี่มันค่อนข้างจะไม่เป็นธรรมกับฉันเท่าไหร่เลยจริงๆนะ...ตัวฉันสั่นงกๆแบบควบคุมไม่ได้เลย... ยิ่งป้าเล่าเรื่องห้ามออกจากห้องตอนกลางคืน ฉันก็ยิ่งหวาดผวาขึ้นไปอีก...
ป้าบอกถึงแม้จะมีใครมาเคาะห้อง...ทุบห้อง..หรือกรีดร้อง ก็อย่าไปสนใจ...ทำเป็นไม่มีอะไร ทำเป็นไม่มีอะไร...
จะทำได้ยังไงกันละค่ะ! นั่นน่ะผีเชียวนะ!! แม่จ๋า! ช่วยลูกด้วย!
สุดท้ายทุกคนก็แยกย้ายกลับห้องตัวเองไป...ฉันที่รู้แน่ๆเลยว่าคืนนี้นอนไม่หลับจนกว่าจะถึงเช้า...ก็อาบน้ำแต่งตัวและนั่งกดโทรศัพท์ไปหาจีจี้กับขนมไทย...
เรื่องของพี่จงแดที่ขนมไทยเล่าให้ฟัง ถึงมันจะน้อยนิด...แต่ก็ทำให้ฉันควบคุมสติได้อย่างไม่น่าเชื่อ...
เราไม่ได้โทรคุยกัน เพราะช่วงนี้รู้สึกจะโทรไปหาบ่อยมาก...ค่าโทรต้องบานเบอะแน่ๆ เลยคุยไลน์กันแทน...
“พี่เขาบอกจะกลับเกาหลีพรุ่งนี้...” ขนมไทยไลน์มา
“กลับแล้วหรอ...เพิ่งอยู่ได้ไม่กี่วันเอง”
“เราสิรู้สึกไม่กี่วัน...แต่ฉันว่าช่วงพักของExoกำลังจะหมดแล้วนะกรกต”
“เฮ้ย จริงหรอ! เออวะ..จะว่าไป...อีกไม่นานฉันก็จะสอบไฟนอลแล้วเหมือนกัน...คงถึงเวลาแล้วสินะ”
“ใช่คงถึงเวลาแล้ว...เอ้อ ยัยจีจี้จะกลับไทยพรุ่งนี้ มันบอกว่ามันจะมาหาพี่จงแดให้ทันให้ได้ แต่ฉันว่าไม่ทัน”
“แกก็ยื้อพี่จงแดก่อนสิขนมไทย ทำไมแกไม่ทำอะไรซักอย่างเลยวะ นั่นน่ะจงแดนะ!”
“พอๆ เลิกด่าฉันเรื่องนี้ได้ละ ฉันสำนึกแล้ว...จะให้ไปยื้อเขายังไงละ เขาจองตั๋วไว้แล้ว ยื้อไปก็เท่านั้นแหละ...”
“เออนั่นสิ...ลืมไป”
ฉันไลน์ไปหายัยจีจี้บ้าง แต่ยัยนั่นกลับบอกไม่ว่าง เพราะกำลังเที่ยวกันสุดเหวี่ยงในคืนสุดท้าย...
เมื่อไม่มีอะไรทำ...ฉันก็เริ่มสั่นทันที...นี่กี่โมงแล้วนะ...จะเริ่มหรือยัง?
23.30 !!!
ไม่นะไม่! ฉันรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมโปง และเดินทั้งอย่างนั้นไปล็อคประตู...เอ่อ ล็อคแล้วละแต่เดินไปดูให้แน่ใจอีกรอบ... ฉันเดินไปเดินมาทำอะไรไม่ถูกแล้ว...
แม่...ช่วยลูกด้วย...
เวลา 23.55 น.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผมสะดุ้งตัวโยน...เหลือบมองนาฬิกา...ยังไม่ถึงเวลาเลยนี่นา...ทำไมปาร์ตี้คนตายเริ่มแล้วละ? หรือว่าจะอดใจรอไม่ไหว...ถึงได้เริ่มปาร์ตี้กันตั้งแต่เนิ่นๆแบบนี้?
ก๊อกๆๆๆๆ
คราวนี้รัวเลย...ผมรีบคว้าหมอนมากอดไว้แน่น...มากันจะๆแบบนี้ผมก็กลัวสิ ได้โปรดหยุดเคาะห้องผมแล้วปล่อยให้ผมนอนเถอะนะ...
“เซฮุน! ฉันเอง”
เสียงพี่เซนา...ใช่เสียงพี่เซนาตัวจริงหรือเปล่า...
“เซฮุน ฉันกลัว! ขอเข้าไปข้างในด้วยคน! ขอร้องละ” เธอทำเสียงเหมือนจะร้องไห้
ผมรีบถลาไปเปิดประตูให้ทันที...เป็นเธอจริงๆด้วยครับ เป็นพี่เซนาตัวจริงเสียงจริง เธอเดินคลุมโปงมาเชียว... ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
เมื่อผมเปิดประตูปุ๊บเธอก็วิ่งเข้ามาในห้องผมปั๊บ...เธอรู้หรือเปล่าว่านี่คือครั้งแรกที่เธอเข้าห้องผม...แต่ดูจากสีหน้าที่หวาดผวาของเธอแล้วผมว่าเธอไม่รับรู้อะไรนอกเหนือจากความกลัวหรอกครับ...
ผมรีบปิดประตูตามหลังเธอ และ ล็อคอย่างแน่นหนา...
เธอเดินไปเดินมาเร็วๆเหมือนคนไม่มีสติ...ปากพร่ำคำบางอย่างอยู่ตลอดเวลา...ผมฟังไม่ออกว่าเธอพูดว่าอะไร อาจจะเป็นภาษาไทย...
แต่ให้ตายเถอะครับ...ผมไม่รู้สึกกลัวอะไรอีกแล้วจริงๆนะ!
เห็นเธอกลัวมากขนาดนั้น...ผมจึงกลายเป็นคนใจแข็งขึ้นมาทันทีเลย...
เอาจริงๆตอนนี้ผีจะโผล่มาน่าเกลียดหรือโหดร้ายซักแค่ไหน...ผมสู้มันได้หมดเลยจริงๆนะ...
“ทะ-ทะ-ทะเที่ยงคืนแล้ว!” เสียงเธอสั่นระริกพลางจ้องไปที่ประตูเขม็ง “ล็อคหรือยัง?” ก่อนจะหันสายตาที่เบิกกว้างมาถามผม...
“ล็อคแล้วครับ...”
เธอกลัวเกินไปแล้วมั้ง...กลัวจนผมกลัวอีกทีเลยว่าเธอจะช็อคจนชัก...
ผมนั่งลงบนเตียงและมองเธอเดินไปเดินมาทั้งๆที่ยังคลุมทั้งตัวและหัวด้วยผ้าห่มอยู่อย่างนั้น...
แก๊กๆ
เสียงบางอย่างเริ่มดังขึ้นมาจากนอกห้อง...พี่เซนาหยุดเดินและจ้องประตูเขม็ง... พวกเราเงียบ
แกรกกกก แกรกกกก
เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ...เรื่อยๆ จนเหมือนมันมาหยุดที่หน้าห้องของผม...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก.... ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
พี่เซนาค่อยๆขยับร่างของเธอมาฝั่งผม... ผม...
ผม...
ผม...
ผมอยากดึงเธอเข้ามากอดมากเลย...
เสียงเงียบหายไปแล้ว...แต่แทนที่ด้วยเสียงวูบวาบเหมือนมีอะไรไหวๆอยู่นอกห้อง...
ปาร์ตี้คนตายเริ่มแล้วสินะ...
พี่เซนายื่นแขนออกมาจากผ้าห่ม... สายตาเธอยังจ้องไปที่ประตูยังกะรอว่าเมื่อไหร่มันจะระเบิด...
ผมยื่นแขนออกไปจับมือเล็กๆของเธอไว้...เธอรัดมือผมตอบแทบจะทันทีเลย...
และผมเพิ่งรู้ว่ามือผมนั้นร้อนมาก...เมื่อเจอกับมือที่เย็นเฉียบของเธอ
เราสองคนจับมือกันแน่น...ผมที่นั่งอยู่บนเตียงในท่าปกติ เธอที่ยืนจ้องประตูในสภาพที่มีผ้าห่มคลุมทั้งตัว...
ปาร์ตี้เริ่มครึกครื้นแล้วครับ... ผมเริ่มได้ยินเสียงหัวเราะ...เสียงไอ และเสียงร้องไห้ปะปนกันไป...
พี่เซนาบีบมือผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ...ตาเธอแทบจะถลนออกมาจากเบ้า...แต่มันยังจ้องไปที่ประตูนะครับ...
ผม...ผมควรจะ...
ผมตัดสินใจดึงเธอให้เข้าใกล้ผมกว่านี้...แต่ผิดคาดไปหน่อยครับ ผมแค่ออกแรงดึงเบาๆ
แต่เธอกลับกระโจนขึ้นมาอยู่บนตัวผมเลย! ผมตกใจ...และมันดูตลกมากเหมือนกัน เพราะผ้าห่มอันหนาและใหญ่ของเธอนั้นทำให้เราสองคนดูทุลักทุเล
ถึงอยากนั้นเธอก็ยังจับมือผมไม่ปล่อย...สายตาก็ยังจ้องไปจุดๆเดิม...
ผมนิ่งครับ...ผมวางมือที่ว่างอยู่บนเตียง... ผมแทบมองไม่เห็นหน้าเธอด้วยซ้ำเพราะผ้าห่มบังหมด...ความจริงผมมองไม่เห็นร่างเธอเลยนอกจากแขนที่จับมือผมอยู่...
ผมเหลือบมองนาฬิกา... เที่ยงคืนครึ่ง... ทำไมเวลามันเดินช้าแบบนี้นะ...
เราสองคนนิ่งและเงียบ ไม่มีใครส่งเสียงอะไรออกมาเลย...ถึงแม้เธอจะสะดุ้งบ้างเวลาได้ยินเสียงโหยหวนลอยมา...ผมเองก็สะดุ้ง สะดุ้งเธอแรงสะดุ้งของเธอนั้นแหละ...
อย่าลืมว่าตอนนี้เราสองคน...นั่งทับกันอยู่
ตีหนึ่งครึ่ง...งานปาร์ตี้ไม่มีท่าทีว่าจะเลิกง่ายๆแฮะ...มันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำ
เสียงเคาะประตูห้องผมมาเป็นระยะๆ และถี่ขึ้น...แต่ผมเริ่มชิน...จนชา...
ใช่ครับ ผมชา...ขาผมชาไปหมดแล้ว พี่เซนา...ลุกก่อนได้มั้ยอะ
“พี่ครับ...” ในที่สุดผมก็พูด... “เอ่อ แปปนะครับพี่”
ตาเธอยังจ้องไปที่ประตูไปละไปไหนเลย...เธอทำได้ยังไง เธอมองมันเป็นชั่วโมงแล้วนะ
ผมไม่รู้จะเรียกสติพี่เขากลับมายังไง...ผมเลยไม่เรียกครับ
ผมพยายามแกะมือเธอออกไป...เธอจับแน่นเกินไปละ กว่าผมจะหลุดจากนิ้วของเธอได้เล่นซะเหนื่อยเลย... ผมช้อนเธอขึ้นมาบนแขนก่อนจะยกตัวเธอขึ้นในท่าอุ้มเจ้าหญิง
เฮ้อ...ขาผมค่อยๆหายจากการชา... รู้สึกดีจัง...ผมขอยืนอุ้มพี่แบบนี้ซักพักนะ...
ว่าแต่ทำไมต้องอุ้มวะเนี่ย...ไม่รู้ละ แต่ที่รู้คือเธอเกาะคอผมแน่นเลย...ผมเริ่มรำคาญไอผ้าห่มของเธอแล้วจริงๆนะ มันทิ่มหน้าผมอะ มันเข้าตาผมด้วย! ผมใช้แขนอันแข็งแรงของผมยกตัวเธอข้างเดียว แล้วใช้อีกแขนค่อยๆปลดผ้าห่มเธอออกไป...เธอไม่ว่าอะไรครับ เพราะสติเธอไม่อยู่กับตัว...ผมค่อยๆดึงผ้าห่มออกเรื่อยๆจนมันหลุดออกจากตัวเธอไปในที่สุด...เหลือไว้เพียงร่างของเธอจริงๆแล้วที่อยู่ในอ้อมแขนของผมตอนนี้...
ผมอยากถามจังเลยว่าเธอจ้องอะไรอยู่...ผมเริ่มสงสัยแล้วนะ...ตรงนั้นอาจจะมีอะไรก็ได้ไม่งั้นเธอไมจ้องเขม็งหรอก...
จู่ๆเธอก็ละสายตาจากตรงนั้นและรีบซบอกผมจนหน้าเธอกระแทกแรงๆไปหนึ่งที...
ซักพักเธอเริ่มร้องไห้...แบบเบาๆ
ผมเมื่อยแขน...ทำไงดี...ผมขอวางพี่ลงได้มั้ย? แต่เธอกำลังร้องไห้นะ...ว่าแต่ร้องทำไม...กลัวอะไร? ทำไมผมไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยอะ?
ผมวางเธอลงช้าๆครับ...ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ แขนผมอ่อนแรงมากถ้าไม่พักอาจจะทำให้เธอหล่นตุ้บลงพื้นได้...
ผมว่าปาร์ตี้จบแล้วละครับ... ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว และนี่ก็เกือบจะตีสามแล้วด้วย... ย่างเข้าตีสี่นี่ถือว่าเช้าแล้ว พวกผีๆคงจะรีบกลับบ้าน...
แต่ว่าพี่เซนา...หลังจากที่ผมวางเธอลงพื้น เธอก็ซบอกผมร้องไห้และกอดผมแน่นเลย...
งือ...ทำไงดี ผมเริ่มเขินแล้วอ่ะ...ทำไมพี่เขาน่ารักแบบนี้..
เฮ้ย! นี่ไม่ใช่เวลามารู้สึกแบบนั้นนะเซฮุน! เธอกำลังกลัวอยู่! เธออาจจะเจออะไรบางอย่างที่ผมไม่เจอก็ได้! อาจจะมีผีตนนึงมาแชร์ประสบการณ์เลวร้ายให้เธอฟัง...เธอจึงได้ร้องไห้
“เขาหิวตาย...ฮึก”
เป็นไปตามที่ผมเดาเป๊ะเลย! มีผีมาเล่าเรื่องให้เธอฟังจริงๆด้วย! ไม่เอาพี่เซนา อย่าร้องเลย...ผมจะตายแล้ว...จะตายเพราะทำตัวไม่ถูก...
“ขะ-เขาไม่มีญาติ ไม่มีครอบครัว...เขาโดนขังไว้...จนหิวตาย...ฮึก”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่...” ไม่เป็นไรอะไรของผมวะ! “ตอนนี้เขาไปสบายแล้ว...” แต่ผมนี่สิกำลังจะตาย...
“ฮึก...ฮึก...เขาน่าสงสารมาก...ขะ-เขามาขอบคุณทุกคน..ในบ้าน”
ผมควรจะกอดเธอหรือเปล่า...ใครก็ได้บอกผมที...ผมควรจะทำยังไง!
“เขาอายุเท่าฉัน...เขาจึงมาสื่อสารกับฉันได้...ฮึก...”
“เขาไปแล้วหรอครับ”
“อื้อ...ไปหมดแล้ว”
สามสิบนาทีผ่านไป...
เธอนั่งอยู่บนเตียงผม และผมก็นั่งฟังเธอเล่าเรื่องของผีตนนั้น...เธอเล่าซ้ำไปซ้ำมาแบบหยุดไม่ได้ บางครั้งก็ร้องไห้ บางครั้งก็หัวเราะ...แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เริ่มง่วง...จากที่เล่าได้อารมณ์ตอนนี้เหมือนเล่าไปนอนไป... เธอพิงหัวเตียงก่อนจะหลับตา...และเบาเสียงลง
ผมเองก็ง่วงนะ...แต่จะให้นอนตรงไหน...
เธอเล่าต่ออีกครั้ง...เล่าทั้งๆที่ปิดตานั้นแหละ...ผมจึงหัวเราะออกมาเล็กน้อย เธอทำอะไรน่ะ ทำไมไม่หลับดีๆ...
สุดท้ายแล้วเธอก็หลับไป...หลับจนคอตกแล้วด้วย ผมรีบเข้าไปประคองคอเธอให้ตรง ก่อนจะช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาในอ้อมแขนและวางลงให้นอนบนหมอนดีๆ...ผมห่มผ้าให้เธอและยืนมองร่างเธอหลับไหลอย่างมีความสุข...
ตาเธอบวมจากการร้องไห้...แต่ใบหน้าของเธอก็ยังน่ารักอยู่ดี...
ผมจะไปนอนห้องเธอแทน...แต่ก่อนจะไป...ผมขอทำเรื่องที่จะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด! เพราะมันทำให้ผมนอนไม่หลับเลยทั้งคืน!
ผมนั่งลงบนเตียงตัวเองและจ้องใบหน้าที่หลับลึกของเธอก่อนจะโน้มลงจูบริมฝีปากนุ่มๆของนั่นอย่างแผ่วเบา...
ใจผมเต้นรัว...รัวจนทะลุออกมาอยู่แล้ว...แต่ผมก็ยังไม่ถอนริมฝีปากบางออก...
ผมจะกลับไปทำงานแล้ว...เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน...ผมต้องกลับไปซ้อมเต้นและร้องเพลงเหมือนเดิมแล้ว... เพราะงั้นขอทำตามใจตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...
ผมขอโทษนะพี่เซนา...ที่ผมเริ่มอยากได้พี่มาเป็นของผมคนเดียวแล้ว....
ผมค่อยๆถอนริมฝีปากออก....และกระชับผ้าห่มให้เธอก่อนจะเดินออกจากห้องตัวเองไปนอนกลิ้งมากลิ้งไปเหมือนคนบ้าในห้องเธอแทน...
อ๊าคคค!!! นี่ทำบ้าอะไรของผมอีกเนี่ย!!
....จบ xSehun ภาค 1
ความคิดเห็น