คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : EP 06
ตอนที่ 6
“หมายความว่าไง?” อึนมีถามโทมินโฮหลังจากเสริ์ฟกาแฟให้เขา
“ก็อย่างที่พูดไปนั้นแหละ” เขาหยิบกาแฟขึ้นมาจิบทันที “คืนนี้ฉันจะสอนให้เธอเข้าฝันคนอื่น”
อึนมีหย่อนตัวลงนั่งและตั้งใจฟังทันที ก่อนที่มินโฮจะแจกแจงรายละเอียดเธอชิงเล่าเรื่องของเธอก่อน
“เจอคนที่มีปานสามคนแล้วนะ”
“อืม ก็ดีแล้วนี่”
“แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครคือตัวจริง”
“นี่ไงกำลังจะสอน” มินโฮวางถ้วยกาแฟลง ลุกขึ้นยืนไปเดินรอบๆห้อง
“ปีเตอร์แพนกับทิงเกอร์เบล เขาอยู่กันได้ด้วยอะไรรู้มั้ย?” เขาเริ่ม
“....” อึนมีตั้งใจฟัง
“เขาอยู่ด้วยความเชื่อใจ และ” เขาหันมาจ้องตาอึนมี “ความรัก”
“ปีเตอร์แพนของเธอ จะต้องเป็นคนที่รักและเชื่อใจเธอที่สุด เขาจะไม่มีวันหักหลังเธอและไม่มีวันที่จะทำร้ายเธอ”
“แล้วทำยังไงถึงจะรู้”
“มีอยู่หลายวิธีนะ แต่ก่อนอื่นฉันขอถามขอเธอก่อน”
“ว่า...”
“จากสามคนที่เจอปานนั้น ถ้าคิดตามที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ สามารถตัดใครออกไปได้ทันที”
อึนมีแทบไม่ต้องคิด เธอตอบอย่างรวดเร็ว
“เทา”
“นั่นละ เทาคือคนที่เธอจะต้องพิสูจน์คนแรก”
“ทำไมละ?”
“เพราะการเชื่อใจจะเกิดจากความไม่ใว้ใจและไม่ถูกชะตากันมาก่อน” เขายิ้ม “ได้เวลาปฏิบัติ บอกใว้ก่อนเลยนะการเข้าฝันมันอาจจะทำให้เธอเหนื่อยนิดหน่อย เพราะมันเหมือนเธอไม่ได้นอน”
อึนมีอ้าปากค้างและส่ายหัวช้าๆ เธอคิด Oh my god ฉันไม่ทำมันคืนนี้แน่ๆ
“เธอต้องทำคืนนี้ เพราะฉันก็ไม่ได้มีเวลาว่างมากนัก” มินโฮอ่านใจเธอทันที
“หยุดเข้ามาในหัวชาวบ้านซะทีเถอะค่ะ” อึนมีเริ่มหวงความเป็นส่วนตัว มินโฮระเบิดหัวเราะ
“เธอจะต้องเรียนรู้การปิดกั้นด้วยตัวของเธอเองนะ ฉันไม่สอน”
“ชิ”
“อ่าๆ เดี๋ยวก็ไม่ได้พักกันพอดี รีบๆเถอะ” เขาชี้ให้อึนมีเข้าไปในห้องนอน
“จะให้ทำอะไร?”
“เปลี่ยนชุดนอน”
“หา?”
“เปลี่ยนชุดนอนให้มันดูเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆหน่อยสิ มีมั้ยชุดแบบนั้น?”
“ทำไมต้อง-“
“ทำตามที่บอกก่อนเหอะหน่า!” มินโฮเริ่มขัดใจ อึนมีไม่มีทางเลือกเธอเดินไปเลือกชุดนอนสีขาวและที่ดูแบ๊วที่สุดมาจากนั้นก็สวมมันให้โทมินโฮดู เขาบอกชุดนี้โอเคเลย เหมือนนางฟ้าจริงๆ ถึงเขาจะชมแต่อึนมีก็ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรเลยซักนิด
“เอาละ ขั้นตอนของการเข้าฝัน”
“เดี๋ยวค่ะ” อึนมีขัด
“อะไร”
“ทำไมต้องเข้าฝันชาวบ้านด้วยเนี่ย”
“ก็เข้าไปถามว่ารักเธอมั้ย เชื่อใจเธอมั้ยสิ”
“โอ้ ตายละ ตรงไปมั้ยค่ะเนี่ย คิดว่าแบคคยอนมันจะยอมพูดตรงๆหรอค่ะ”
“ไม่รู้อะไรซะแล้ว ในความฝัน ทุกคนล้วนแต่อยากจะพูดอยากจะทำในสิ่งที่โลกความจริงมันทำไม่ได้ ถ้าเพื่อนคนนั้นของเธอเขาเอาแต่กัดเธอทั้งวันในโลกความจริง แต่ในโลกความฝันเขาอาจจะคิดแบบอื่นอยู่ก็ได้ มันเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกเลยนะ”
“อ่า...ค่ะ” อึนมีคิดและทบทวน มันใช่หรอ โทมินโฮอ่านใจเธอทันทีแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาบอกต่อไปว่า
“การเข้าฝัน ขั้นแรกเธอก็ต้องนอนก่อน ขั้นที่สองเธอก็คิดถึงคนที่เธออยากจะเข้าฝันเอาใว้ จากนั้นก็หลับตาและอธิษฐานให้เธอได้เข้าฝันคนนั้น เสร็จ”
“แล้วไงต่อ”
“เดี๋ยวเธอก็รู้เองว่าต้องทำยังไง ตอนนี้ขึ้นไปบนเตียงและนอนได้เลย” โทมินโฮมองนาฬิกา เขาเหมือนอยากจะกลับแล้วเลยรีบๆส่งๆให้อึนมีทำ
อึนมีก็ทำตาม เพราะเธอเองก็อยากลองดูว่าทำได้จริงหรือเปล่า นอนล้มตัวลงนอนห่มผ้าเรียบร้อยและคิดถึง...คิดถึงเทาก่อนละกัน เธอหลับตาลงและอธิษฐาน
ภาพเลือนรางทันทีและไม่นานก็สว่างขึ้นมา เป็นภาพในยามค่ำคืนมีดาวล้อมรอบตัวเธอทุกทิศทาง เหมือนเธอกำลังยืนอยู่ในห้วงอวกาศอันสวยงาม แต่เธอหาเทาไม่เจอ ไม่เห็นจะมีเทาให้ได้ถามหรืออะไรเลย มีแต่เธอคนเดียว เธอลองเดินไปข้างหน้า มองไปข้างหลัง ตะโกนเรียก ไม่เห็นจะเจอใคร
“ตื่น!” เสียงโทมินโฮตะโกนเข้ามาในฝันเธอ “ตื่นก่อนๆ ฉันลืมบอกวิธีตื่นจากฝันให้เธอ!”
อึนมีลืมตาขึ้นจากฝัน มองเห็นเพดานห้องตัวเอง
“โทษที ลืมไป” โทมินโฮรีบพูด “ถ้าเธออยากจะออกจากฝันแล้วละก็ แค่บอกลากับความฝัน ไม่ก็พูดว่า”ลาก่อนความฝันในคืนนี้” เธอก็จะตื่นและนอนต่อในโลกความจริงได้ทันทีแบบไม่ต้องลืมตาขึ้นมา ง่ายใช่มั้ย ลองอีกสิ”
“เดี๋ยวๆ”
“หือ?”
“เมื่อกี้ก็ทำตามที่บอกทุกอย่างนะ ทำไมไม่เห็นจะเจอใครเลย”
“เอ่า ไม่เจอหรอ?”
“อื้อไม่เจอเลย”
“เข้าฝันใคร?”
“เทา”
“อ่า เพราะหมอนั่นมันยังไม่นอนแน่ๆเลย”
“อ๋อ เข้าใจละ”
“เธอต้องเข้าฝันคนที่นอนแล้วด้วยสิ ลืมบอก”
“ใช่ความผิดของใครกันแน่ค่ะ”
“ใช้กึ๋นสิกึ๋นนะ”
“นี่ว่าฉันโง่หรอค่ะ?”
“เปล๊า” โทมินโฮขึ้นเสียงสูง “เอาๆ รีบๆทำต่อเลย” เขารีบปัดๆให้อึนมีเข้าฝัน
อึนมีลองอีกรอบ คราวนี้เป็นแบคคยอน ภาพแตกต่างจากของเทา เธอมาอยู่ที่ทุ่งหญ้าอันแสนกว้างขวางกับดอกไม้สีเหลืองอ่อนรอบๆตัว เธอมองหาแบค และเจอเขานั่งอยู่ใต้ต้นเด่น เธอเดินไปหาแบคทันที
“แบค!” อึนมีเรียกและเดินเข้าไปนั่งข้างๆเขา
“ใครน่ะ” แบคทำหน้างง ดูเหมือนเขาไม่ได้โกหกด้วย อึนมีตกใจทำไมแบคจำเธอไม่ได้
“ฉันไง อึนมี”
“อึนมี...อ่า อึนมี เอ๊ะ ทำไมฉันลืมเธอเนี่ย” ความทรงจำเขากลับมาละ
“นั่นสิ”
“ไปเดินเล่นกันมั้ย” ไม่ทันที่อึนมีจะได้ถามแบคก็จับมือเธอและลากไป เขาสองคนเดินช้าๆไปในทุ่งหญ้าอันกว้างขวาง บรรยากาศในฝันแบคดีมากๆ ดีมากจริงๆ แบคไม่ได้พูดอะไร นอกจากจับมืออึนมีเดินไปเรื่อยๆ ปล่อยให้มีแค่เสียงสายลมที่พัดผ่าน
ไม่รู้ว่าอึนมีคิดไปเองหรือเปล่า แต่แบคในมุมนี้ ในความฝันแห่งนี้ดูไม่ใช่แบคในโลกความจริงเลย แบคคนนั้น คือแบคที่พูดมากจู้จี้จุกจิกไปหมดทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องที่ทำไมมดต้องเดินเรียงกันเป็นแถว อยู่กับแบคไม่เคยได้สัมผัสถึงความเงียบ แต่ในความฝันนี้ ต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง เขาทั้งดูอ่อนโยนอบอุ่นและปล่อยวางกับทุกๆสิ่ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มจางๆของเขาตอนนี้ยิ่งทำให้เขาดูเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนมากขึ้นไปอีก อึนมีแทบไม่ละสายตาจากแบคเลย เธอไม่เคยได้สัมผัสด้านนี้ของเขามาก่อน
“นี่เธอน่ะ” แบคพูดกับอึนมีแต่สายตายังจ้องไปข้างหน้า เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย “เธอเป็นนางฟ้าใช่มั้ย”
อึนมียิ้มให้เขา เธอไม่เคยได้ยินแบคพูดแบบนี้ เธอไม่เคยได้สัมผัสถึงเรื่องเพ้อฝันของแบคมาก่อน เธอชอบนะ เธอชอบแบคคนนี้
“ใช่” อึนมีตามน้ำ “ฉันเป็นนางฟ้าที่สวยที่สุดเลยด้วยนะ” เธอหลุดหัวเราะออกมา การที่คุยด้วยโทนเสียงเบาๆแบบนี้กับแบคก็แอบจักกี้แปลกๆนะ
แบคหันมามองหน้าเธอ และจับมือทั้งสองข้างของเธอใว้ด้วยรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยน
“นางฟ้า” แบคยิ้ม “นางฟ้า” เขาย้ำ
อึนมีเริ่มไม่ดูไม่ออกว่าแบคต้องการสื่ออะไร เขายิ้มให้อึนมีอยู่นาน เธอก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไป
สักพักเขาดึงอึนมีเข้ามาให้อ้อมแขนเขาเบาๆ และกอดเธอใว้แน่น
“นางฟ้า” แบคกระซิบ “นางฟ้าของฉัน”
ถึงตรงนี้หัวใจอึนมีก็เต้นตุ้มๆต่อมๆไม่เป็นจังหวะ ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆกับแบคได้ขนาดนี้กันนะ
มีแต่ความเงียบและเขาสองคนก็กอดกันอยู่อย่างนั้นนาน นานจนอึนมีพร้อยหลับไปในความฝันและในอ้อมแขนของแบค
เธอตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว เช้าในโลกของความจริงด้วย เธองัวเงียเหมือนยังไม่ตื่นจากฝัน เธอเดินไปส่องตัวเองในกระจก สภาพดูไม่ได้เหมือนทุกๆครั้งที่ตื่นมา ยังไม่ทันที่เธอจะไปอาบน้ำจัดการตัวเอง เธอก็ได้ยินเสียงตึงตังพร้อมเสียงหัวเราะดั่งลั่นในห้องตัวเอง เธอเปิดประตูออกไปดูใครกันมาแต่เช้าเชียว
“เฮ้ยๆ อย่าแซงสิวะ!!” ไค กำลังนั่งเล่นเกมกับเพื่อนอย่างเมามัน เขาทั้งถีบทั้งโดดโลดเต้นกับเพื่อนของเขา “อย่านะๆๆ อย่านะเซฮุน!!”
“เอ้ยๆๆๆ อยู่นิ่งๆสิวะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เซฮุนหัวเราะดังลั่นทั่วห้องอย่างไม่เกรงใจ อึนมีเดินไปตบหัวทั้งสองคน จนพวกเขาเงียบและหันไปมองพี่สาวผู้ที่มีสภาพดูไม่ได้
“เงียบๆหน่อยสิยะ! แหกปากอะไรแต่เช้าเนี่ย” เธอว่าเด็กๆ
“โหย พี่เจ๊แกหรอไค” เซฮุนมองสภาพอึนมีแล้วเบ้ปาก
“อะไรยะ” อึนมีค้อนใส่เซฮุน
“เปล่าครับเจ๊” เขาตอบพลางอมยิ้ม
“เช้าอะไรละนูน่า” ไคหันมาบอกอึนมี “เที่ยงกว่าแล้ว ผมหิวแล้วด้วยหาไรกินหน่อยสิ”
“หา?! เที่ยงแล้วหรอ?!” อึนมีตกใจ เธอรีบพุ่งไปดูนาฬิกา จริงๆด้วย!
“เจ๊!” เซฮุนตะโกนมา “หิวแล้วครับ เร็วๆนะ!”
“ค้นในตู้เย็นหาไรกินเองก่อนสิยะ!” อึนมีรีบกระโจนเข้าห้องน้ำทันที ดีนะที่เธอมีเรียนบ่ายวันนี้ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ทำกับข้าวลวกๆเร็วๆให้เด็กๆได้กิน ส่วนตัวเธอเองนัดกันกับดีโอและแบคแล้วว่าจะลงไปหาไรกินข้างล่าง
เธอไปเคาะห้องแบคกับดีโอ
“เร็วๆ เดี๋ยวสายหรอก” อึนมีตะโกนใส่ประตู “ไปรอใต้หอนะ”
อึนเดินลงมาหาอะไรกินใต้หอก่อน ไม่นานแบคกับดีโอก็เดินลงมาอย่างรีบๆ
“อึนมี” ดีโอพูดพลางยัดขนมปังลงท้อง “ทำไมวันนี้ตื่นสายละ ปกติเธอตื่นเร็วตลอด”
“อ๋อ เมื่อคืนฉันฝันแปลกๆ”
“ฉันด้วย” แบคแทรก
และทันไดนั้นเองทั้งสองคนก็สบตากัน ความทรงจำเมื่อคืนของอึนมียังตราตรึงอยู่ในหัวของเธอ มันค่อยๆหลังไหลออกมาทางสายตาเธอ
“ฝันไร้สาระมากเลยวะ” แบคต่อ ทำเอาอึนมีชะงักไป “ฝันว่าเจอนางฟ้าแบบสวยมากๆ มากๆๆๆๆเลยวะ” เขาย้ำ อึนมีแทบพ่นนมที่ดูดอยู่ทางจมูก
“เหย จริงหรอวะ แล้วไงต่อ” ดีโอหันมาสนใจ “ได้แอ้มปะ” แล้วทั้งสองก็ระเบิดหัวเราะ โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าจังหวะการเต้นของหัวใจเธอเป็นเพลงอือรือรองไปแล้ว
“จำไม่ค่อยได้น่ะ” แบคทำท่าครุ่นคิด “แต่ว่านะ”
เขาเว้นช่วง
“ฉันหลงรักเข้าเต็มๆเลยละ”
ความคิดเห็น