ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic Exo x You) หอexoแตกแต๋วกระเจิง (ฟิคเกรียน) [ DO x you ]

    ลำดับตอนที่ #3 : คดีฆาตกรรม

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 57


     

    “เดี๋ยวเราขอนำศพไปชันสูตรก่อนนะค่ะ” ซินเวกล่าวให้เจ๊ลู่กับเจ๊แบคฟังที่หน้าประตูห้องเกิดเหตุ ทั้งดีโอและเธอต่างก็สรุปว่าเป็นคดีการฆาตกรรมในห้องปิดตายที่คนร้ายพยายามจะสื่อให้เห็นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เธอถามเจ๊ลู่กับเจ๊แบคต่อว่า “พวกคุณรู้จักญาติของผู้ตายหรือเปล่าค่ะ? พอจะมีช่องทางการติดต่อบ้างมั้ย?”

    “ไม่เลยค่ะ” เจ๊ลู่ตอบ “พวกเราไม่รู้จักผู้ตายค่ะคุณนักสืบ นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกของพวกเรา” อี้ชิงที่เกาะหลังแม่อยู่ก็พยักหน้าเห็นด้วย

    “พวกเราเพิ่งย้ายมาได้แค่คืนเดียวเองค่ะคุณนักสืบ” เจ๊แบคอธิบาย ระหว่างนั้นดีโอที่ออกคำสั่งให้ลูกน้องเตรียมขนย้ายศพเสร็จแล้วก็เดินออกมาสมทบกับซินเวหน้าห้อง เจ๊แบคเล่าต่อ “พอมาถึงปุ๊ปก็เกิดก็ตายปั๊บเลยค่ะ!” เจ๊แบคมองหน้าดีโอที่กำลังทำหน้าสงสัยพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด “พวกเราไม่ใช่แก๊งนักสืบโคนันนะค่ะคุณนักสืบ! พวกเราเป็นแค่คนธรรมดาๆไม่มีทางที่จะเดินไปไหนมาไหนแล้วคนตายทันทีแน่นอนค่ะ พวกเราไม่ใช่เครื่องหมายความตายเหมือนโคนันจริงๆนะค่ะ”

    “คุณก็ว่าโคนันแรงไป” ซินเวกล่าว “ถ้าไม่มีโคนันก็แก้คดีไม่ได้นะค่ะ จะหวังพึ่งโมริคนเดียวป่านนี้คดีแรกก็ยังแก้ไม่เสร็จหรอกค่ะ ดีไม่ดีพวกชายชุดดำอาจจะฆ่าตายยกแก๊งไปนานแล้วด้วย... ว่าแต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสายตาอันดุดันของดีโอที่เหล่มา “พวกคุณเป็นคนที่เจอเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นรายแรก เพราะงั้นขอความร่วมมือในการสอบปากคำเพื่อเป็นพยานให้แก่เราด้วยนะค่ะ ส่วนเรื่องญาติของผู้ตายเดี๋ยวทางเราจะจัดการให้เอง ตอนนี้พวกคุณก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติแต่เมื่อเราขอรบกวนพวกคุณก็ช่วยให้ความร่วมมือด้วยนะค่ะ”

    “ได้เลยค่ะ” เจ๊แบคตอบดีโอทั้งๆที่ซินเวเป็นคนถาม “คุณนักสืบจะมาหาเราเมื่อไหร่ยังไงตอนไหนหรือดึกแค่ไหนเราก็พร้อมจะเปิดประตูห้องต้อนรับเสมอค่ะ” เธอคว้ามือดีโอมากุมไว้แน่น เจ๊ลู่เบิกตากว้าง “เอาเบอร์ฉันมั้ยค่ะ? เอาสินะค่ะไม่งั้นจะติดต่อมายังไงละเนอะ เอาที่อยู่ไปเลยก็ได้ค่ะ ห้องฉันก็อยู่ชั้นถัดไปนี่เองด้วย ถ้าคุณนักสืบอยากจะแวะเวียนเมื่อไหร่ก็มาได้เลยค่ะ ตอนนี้เลยก็ได้ฉันพร้อมแล้ว ฉันอยาก--

    เจ๊ลู่ฉวยมือดีโอออกมาจากเจ๊แบคและพูดกับเขา “ห้องฉันใกล้กว่าค่ะ! ข้างๆนี่เองแถมยังติดกับห้องที่เกิดเหตุการณ์ฆ่าตัวตายด้วยนะค่ะ ถ้าเหนื่อยจากการสืบคดีเมื่อไหร่เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องฉันแล้วค่ะ เชิญเข้ามาพักข้างในก่อนได้ฉันจะปรนนิบัติให้คุณนักสืบอย่างดี--

    “ห้องฉันดีกว่าค่ะ!” เจ๊แบคฉวยมือดีโอกลับไป “ห้องอีเจ๊ลู่ติดกับห้องผีแบบนี้มีหวังได้โดนผีหลอกระหว่างพักหายใจจนได้พักหายใจยาวไปตลอดชีวิตแน่ ผีที่ฆ่าตัวตายมักจะมีเรื่องอาฆาตแค้นกว่าผีไหนๆอีกด้วย เพราะงั้น--

    “ไม่มีผีเผอที่ไหนหรอกค่ะในโลกนี้!!” เจ๊ลู่แย่งมือดีโอไปอีกครั้ง “จะมีก็แต่ฉันคนสวยที่นั่งรอคุณนักสืบอยู่ในห้อง--

    “เข้าใจผิดแล้วครับ” ดีโอดึงมือตัวเองออกอย่างแรงก่อนจะเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าวและเขามองเจ๊ลู่กับเจ๊แบคด้วยความไม่พอใจสุดขีด “ผู้ตายรายนี้ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เธอโดนฆ่าครับ คนร้ายใช้กลอุบายในห้องปิดตายเพื่อหลอกพวกเราให้เชื่อว่านี่คือการฆ่าตัวตาย ถึงแม้ผมจะยังไขคดีไม่ได้ว่าคนร้ายเข้าออกทางไหนแต่นี่ก็คือการฆาตกรรมไม่ใช่การฆ่าตัวตายแน่นอน”

    เจ๊ลู่กับเจ๊แบคตกใจทันที...แสดงว่าในหอพักนี้ก็มีคนร้ายใจอำมหิตอาศัยอยู่ด้วยน่ะสิ!

    ชานยอลเดินไปควงแขนแม่ด้วยความกลัวเงียบๆ ส่วนอี้ชิงก็เกาะหลังแม่ตัวเองแน่น... มีฆ่าตกรอาศัยอยู่กับพวกเขาที่หอพักนี้ ต้องเป็นคนในแน่นอน! เพราะคนนอกไม่มีทางที่จะเข้าออกในเวลากลางคืนแบบนั้นได้ หอพักที่นี่เข้มงวดเรื่องนั้นมาก! ขนาดคนที่เป็นคนในบังเอิญลืมพกบัตรหอพักและจะเข้าในช่วงกลางคืนยังเข้าไม่ได้เลย! สุดท้ายก็ต้องนอนที่ล็อบบี้จนถึงเช้าจนกว่าเจ้าของหอจะยืนยันและแน่ใจว่าเขาคืนคนในจริงๆ!

    ระหว่างที่มัวแต่ยืนอึ้งอยู่นั้น ศพที่ถูกห่อเรียบร้อยแล้วก็ถูกแบกไว้บนบ่าโดยเจ้าหน้าที่สองเพื่อทำการขนย้ายไปที่กองสืบสวน เจ้าหน้าที่สองคนเดินออกจากประตูค่อนข้างลำบากเล็กน้อยในระหว่างที่ขาของศพออกจากประตูได้แล้ว ส่วนหัวกลับชนเข้าขอบประตูดังโป๊ก ชานยอลกับอี้ชิงกอดแม่แน่นและหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ

    “ระวังหน่อยสิ” ดีโอดุเจ้าหน้าที่ทันที เขาไม่เคยยืดหยุ่นให้ใครได้เลย นอกจากคู่หูของเขา...

    เจ้าหน้าที่ผงกหัวขอโทษดีโอด้วยความกลัวกับรู้สึกผิดและนั่นก็ทำให้จังหวะในการแบกศพเสียสมดุลไปเล็กน้อย ด้านหัวของศพเอียงลงนิดหน่อยเจ้าหน้าที่คนแรกถึงต้องจับขาศพให้แน่นเพื่อไม่ให้ร่วงลงไปมากกว่านี้ส่วนเจ้าหน้าที่สองก็พยายามทรงตัวให้อยู่และนั่นก็ทำให้ผ้าของศพถูกปลดออกเล็กน้อยตรงส่วนหัวเผยให้เห็นใบหน้าขาวซีดที่ไร้วิญญาณของศพโผล่พ้นออกมาจากขอบผ้า

    ชานยอลกับอี้ชิงบังเอิญเปิดตาและเห็นหน้าศพพอดี ทั้งสองจึงร้องไห้โฮทันที

    เจ้าหน้าที่คนที่สามรีบเข้ามาช่วยสถานการณ์ไว้ ดีโอก็ต่อว่าเจ้าหน้าที่คนสองไม่หยุดหย่อนจนซินเวต้องเข้าไปห้ามและปลอบใจเจ้าหน้าที่ ในที่สุดศพก็ถูกเคลื่อนย้ายออกไป กองสืบสวนที่เหลืออยู่ก็ทยอยกันเดินตามหลังศพไปจนหมดโดยที่มีดีโอกับซินเวรั้งท้าย...

    ชานยอลกับอี้ชิงร้องไห้เสียงดัง เจ๊ลู่กอดปลอบลูกชายตัวเองแต่ตาเธอมองไปที่เจ๊แบคและเจ๊แบคก็มองตาเจ๊ลู่กลับมา...

    ตอนที่หน้าของศพโผล่มานั้น...พวกเขาเห็นเต็มๆสองตาเลยว่าศพมองพวกเขา...เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังได้ยินเสียงร้องให้ช่วยด้วยเบาๆลอยผ่านหูพวกเขาไปด้วย... ทีแรกเจ๊ลู่ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่พอได้สบตากับเจ๊แบคเท่านั้นละรู้เลยว่าไม่ใช่แค่เธอที่ได้ยินและได้เห็น...

    ศพกำลังขอร้องให้พวกเขาช่วยอะไรบางอย่าง...

    “น่าฟัดอะไรเช่นนี้” เสียงเย็นเยือกที่คุ้นหูดังลอยเข้ามาในหูของทั้งสองคน ตอนแรกจะสะดุ้งแล้วเพราะนึกว่าเป็นเสียงของศพหญิงสาวคนนั้น แต่ไม่ใช่ มันเป็นเสียงของผีตุ๊ดเซฮุนหรือผีฮุนนี่ของพวกเขานั่นเอง เธอโผล่มายืนตัวจางๆอยู่ข้างๆเจ๊ลู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    “อีนี่ทำกูตกใจหมด” เจ๊แบคหันไปด่าทันที “แล้วไม่ต้องมาทำเสียงเย็นๆกับตัวจางๆเหมือนผีปกติทั่วๆไปแบบนั้นเลยนะยะ อยู่ในร่างที่เหมือนคนจะเป็นบุญแก่พวกฉันมาก”

    “ทำไม่ได้เจ๊” ผีฮุนตอบ “ตอนนี้พลังงานฉันแทบไม่เหลือแล้ว นี่กว่าจะปรากฏตัวให้เจ๊เห็นในตอนกลางวันแสกๆแบบนี้ได้ก็เล่นซะเกือบไปผุดไปเกิดแหนะ”

    “ว่าแต่มายืนตั้งแต่ตอนไหนแล้วยะ” เจ๊ลู่ถาม “เมื่อกี้ฉันก็ให้เข้าสิงไปแล้วนึกว่าจะไปแล้วไปลับซะอีกอย่าบอกนะว่าอยู่ตรงนี้ตลอดเวลาน่ะ”

    “แม่นเลยเจ๊” ผีฮุนพยักหน้า “ฉันแอบมองคุณนักสืบดีโอเหมือนพวกเจ๊อยู่ตรงนี้แหละ อยากจะเข้าไปฟัดใจจะขาดแต่นึกได้ว่าตัวเองเป็นผีและเขาก็มองไม่เห็นฉันด้วย...เฮ้อ เศร้าจัง เศร้าจนอยากฆ่าตัวตายเหมือนชะนีคนนั้น”

    “ดูมันพูดเข้า...ตายแล้วก็ควรจะหยุดแรดได้ซะที” เจ๊แบคว่า “อีกอย่างหล่อนคนนั้นไม่ได้ฆ่าตัวตาย เธอโดนฆ่าตายแกก็ได้ยินไม่ใช่หรอ”

    “เออใช่เพิ่งนึกได้!” ผีฮุนหันมามองหน้าเจ๊แบคกับเจ๊ลู่ด้วยสายตาของคนที่มีเรื่องเล่าสำคัญ “ฉันเพิ่งจำได้ว่าโผล่มาให้พวกเจ๊เห็นทำไม”

    “อย่ามาทำสายตาเหมือนแม่ค้าที่ตลาดไปรู้เรื่องผัวเมียทะเลาะกันมาแบบนั้นได้มั้ย” เจ๊แบครู้สึกขัดใจ “ไอเราก็เผลอตื่นเต้นไปด้วยเนี่ย...มีอะไรก็รีบๆบอกมาเลยอย่าให้ลุ้นเยอะ”

    “เรื่องสำคัญเลยละเจ๊” ฮุนนี่ทำเสียงตื่นเต้นขึ้นไปอีก

    “อย่าลีลารีบๆเล่า”

    “พวกเจ๊ได้ยินใช่มั้ยที่นังนั่นมันร้องว่า ช่วยด้วยยยย.... แบบหลอนๆอ่ะเมื่อกี้นี่อ่ะ ใช่ค่ะมันบอกให้พวกเจ๊ช่วยแต่พอหลังจากนั้นพลังงานมันก็หมดพวกเจ๊เลยไม่ได้รู้เรื่องราวหลังจากนั้นต่อ แต่ฉันรู้ค่ะ มันกระซิบใส่ฉัน มันบอกว่ามันไม่ได้ถูกฆ่า”

    “บ้าหรอ!” เจ๊ลู่ร้อง “นักสืบเพิ่งสรุปไปว่าเป็นคดีฆาตกรรมไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แล้วแกแน่ใจว่าเป็นเสียงของผีตัวนั้นจริง”

    “แน่เสียยิ่งกว่าแน่” ผีฮุนยังตื่นเต้นไม่หาย “แต่หลังจากที่ฉันได้ยินประโยคนั้นฉันก็แอบงงเหมือนกัน ฉันเลยถามว่ายังไงแต่นังนั่นดันพลังงานหมดซะก่อนเลยคุยไม่รู้เรื่อง มันเพิ่งตายด้วยเพราะงั้นยังเป็นผีที่มีเลเวลไม่เยอะช่วงนี้คงทำอะไรไม่ค่อยได้ ฉันติดต่อมันก็ไม่ได้ด้วยต้องรอให้มันติดต่อมาอย่างเดียว...”

    จู่ๆร่างของผีฮุนก็หายลับไปพร้อมกับเสียงที่เบาบางลงจนเจ๊ลู่กับเจ๊แบคสัมผัสไม่ได้...

    ทั้งสองคนตื่นตกใจกับเรื่องที่ฮุนนี่เพิ่งเล่าให้ฟังไม่พอแล้วยังต้องมางุนงงสับสนกับพลังงานที่หดหายไปของเธออีก...อะไรกันนะที่ทำให้ผีฮุนถึงกับแพ้จนไม่สามารถสัมผัสได้ขนาดนี้...อะไรที่มีพลังงานมากกว่าจนกลบพลังงานของผีในหอนี้ไปจนหมด...

     











     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    และแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงตอนกลางคืน...

    หลังจากที่ดีโอ ซินเวและกองสืบสวนนำหลักฐานและสรุปเหตุการณ์ในวันนี้เสร็จแล้วพวกเขาก็คราวพักผ่อน กว่าจะเสร็จงานก็ปาไปเกือบๆจะเที่ยงคืน ทุกคนต่างเหนื่อยหน่ายและอยากจะพักผ่อนให้เต็มที่แต่จิตใจก็เป็นห่วงเรื่องคดีไม่หาย พวกเขาจะได้หลักฐานมัดตัวคนร้ายมากขึ้นเมื่อผลชันสูตรศพออกมาในวันพรุ่งนี้...

    แต่เวลางานก็คือเวลางาน เวลาพักก็ควรจะต้องพักสิ...

    ดีโอกับซินเวพักอยู่ตึกเดียวกัน พวกเขาตัดสินใจอยู่ใกล้ๆกันเพื่อที่จะทำงานได้สะดวกมากขึ้นประหยัดเวลาและสามารถปรึกษากันเรื่องงานได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ดังนั้นทั้งวันทั้งคืนของพวกเขาก็มีแต่เรื่องงาน

    แต่เดี๋ยวก่อน ไอที่บอกว่าปรึกษาเรื่องงานได้ตลอดเวลานั้นความจริงแล้วมีแค่ดีโอที่คิดอยู่ฝ่ายเดียวต่างหาก ซินเวเธอตั้งใจทำงานและไม่เคยขาดตกบกพร่องไม่เคยขี้เกียจในเวลางานก็จริง แต่ถ้าถึงเวลาพักเธอก็จะกลายเป็นอีกคนทันที...

    อายุรุ่นราวเธอยังเรียกได้ว่าวัยรุ่นและเธอก็มีนิสัยของวัยรุ่นทั่วๆไปเหมือนกัน ไม่ว่าจะชอบดูหนัง เล่นเกม อ่านนิยาย กินอะไรที่ไร้ประโยชน์ ร้องไห้กับซี่รี่ย์ดราม่า หัวเราะก๊ากกับการ์ตูนตลก และ ทำตัวเหมือนเด็กๆ...

    กลับกันกับดีโอ เขาอายุเท่าเธอแต่เขากลับทำตัวเหมือนคนอายุสามสิบปลายๆ ทุกอย่างในชีวิตคืองานหมด อะไรๆก็งาน ไม่เคยผ่อนคลายไม่เคยนึกถึงเรื่องไร้สาระที่ต้องสันหาให้ตัวเองเพื่อยืดหยุ่นให้กับชีวิตเขาบ้างเลย...

    ดังนั้นหน้าที่ที่ทำให้ดีโอยิ้มและหัวเราะออกมาเพื่อให้เขาได้ผ่อนคลายลงบ้างก็คือหน้าที่ของเธอ...

    ซินเวเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้ดีโอหัวเราะออกมาจากใจจริงของเขา...

    “ดีโอ” เธอเดินเข้าห้องดีโอและด้วยความที่สนิทกันและเชื่อใจกันมาก เธอเข้ามาได้โดยที่ไม่ต้องเคาะห้อง เธอกดรหัสเข้าห้องดีโอได้ทุกเวลาและทุกเมื่อ เช่นเดียวกับดีโอที่สามารถเข้าห้องเธอได้เหมือนกัน

    ซินเวรู้สึกดีใจที่เธอจะได้เข้าไปก่อกวนและแกล้งดีโอได้ตลอดเวลา

    แต่ดีโอรู้สึกโล่งใจที่เขาจะได้เข้าห้องเธอไปคุยกันเรื่องงานได้ตลอดเวลา...ที่สำคัญเขาสามารถเข้าไปช่วยเธอได้เวลาที่เธอตกอยู่ในอันตราย...แน่นอนว่างานของเขาเกี่ยวข้องกับคดีมากมาย และนั่นก็หมายถึงว่าไม่ปลอดภัย

    “วันนี้พวกเราก็คุยกับที่ออฟฟิตกันเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ” ดีโอตอบทันทีเมื่อได้ยินเสียงเธอเดินเข้ามาในห้อง เขากำลังชงกาแฟอยู่ในครัว

    “หรอ...” ซินเวเดินไปหาเขาในครัว “แล้วทำไมนายถึงต้องใช้ไอเครื่องถ่างตาไม่ให้หลับแบบนั้นด้วยละ...จำได้ว่านายกินมันตอนจะเริ่มทำงาน...”

    “เปล่า” ดีโอตอบ “ฉันไม่ได้จะทำงานฉันแค่จะศึกษาข้อมูลอะไรบางอย่าง”

    “แล้วมันต่างอะไรจากงาน?”

    “ต่างสิ...เพราะนี่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับงานเลย”

    “แล้วเกี่ยวกับเรื่องอะไร?”

    “เรื่อง...” ดีโอสบตาเธออย่างจริงจัง “เรื่องพวกผีวิญญาณคนตาย อะไรทำนองนั้น...”

    ซินเวหัวเราะ “นายเชื่อเรื่องพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? เมื่อก่อนบอกว่าไร้สาระไม่ใช่หรอ?”

    “ก็...” เขาหยิบแก้วกาแฟมาจิบ “ไม่ได้เชื่อหรอก แต่วันนี้มีบางอย่างที่ฉันสัมผัสได้และฉันก็อธิบายมันด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้...”

    “หรอ” ซินเวแย่งกาแฟจากมือดีโอมาจิบแล้วยิ้ม “งั้นฉันจะอยู่ศึกษากับนายด้วยเหมือนกัน”

    “ไม่ได้!” ดีโอแย่งถ้วยฟาแกกลับไป “เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กลับไปพักผ่อนแล้วนอนหลับให้เต็มที่เถอะ พรุ่งนี้มีงานรอพวกเราอีกเยอะ ไม่ต้องมาขยันเอาตอนนี้หรอก...”

    “นี่แหนะ!” ซินเวหยิกแก้มดีโอแรงๆ

    “โอ้ย!” เขารีบสะบัดหน้าออกและทำท่าไม่พอใจใส่เธอ แต่เธอเห็นแล้วยิ่งทำให้หมั่นไส้กว่าเดิมอีก

    “นายก็เป็นห่วงแต่คนอื่น หัดดูแลตัวเองบ้างสิดีโอ! อีกอย่างเวลางานก็คือเวลางาน พักก็ต้องพักสิ เหมือนการบ้านก็ต้องทำที่บ้าน ทำที่โรงเรียนไม่ได้! ถ้านายอยากให้ฉันพักผ่อนนายก็ต้องพักด้วย คืนนี้แหละฉันจะไม่ยอมให้นายทำงานล่วงหน้าหรือล่วงเวลาอีกแล้ว...ไม่ยอมแล้วจริงๆ” เธอยืนกอดอก

    “ทำไมถึงดื้อนักนะ” ดีโอวางถ้วยกาแฟลงและทำท่าจะเทศนาเธอ “ฉันดูแลตัวเองได้และฉันก็เต็มใจจะทำไม่ได้ฝืนทำหรือจำใจทำเลยซักนิด อีกอย่างฉันก็ไม่ค่อยเหนื่อยเท่า--

    “จุๆ” ซินเวรีบป้องปากดีโอไว้แล้วทำหน้าเหมือนสัมผัสอะไรได้... “นายได้ยินเสียงอะไรมั้ย...”

    “อะไร?” ดีโอพยายามผึ่งหูเต็มที่ “ไม่ได้ยินอะไรเลย...”

    “นี่ไงฉันได้ยินอยู่เนี่ย...”

    “ได้ยินอะไร?”

    “เสียงนี่ไง!

    “เสียงอะไรละ?”

    “ก็เสียงร้องของร่างกายนายที่มันฟ้องว่าอยากจะนอนยังไงละ!” จู่ๆซินเวก็เข้าไปจี้เอวดีโอใหญ่เลย “นายต้องเหนื่อย!!นายต้องหัวเราะจนเหนื่อยแล้วไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากนอนพักผ่อน เพราะงั้นเหนื่อยซะ!!

    “จะบ้าหรอ! หยุดนะซินเว!!” ดีโอหัวเราะลั่นห้องด้วยอาการจี้ เขาพยายามหลบมือเธอให้พ้นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

    ถึงแม้จะเป็นรอยยิ้มที่ถูกบังคับให้ออกมาแต่มันก็สดใสจนแน่ใจได้ว่าคนที่มองเขาตอนนี้ต้องเผลอยิ้มตามออกมาแน่นอน

    เพราะเวลาเขายิ้มเขากจะกลายเป็นอีกคนทันที...

     

     

     

     

     

     

     

















     

    “เจ๊หมิน อั๊วกลัว...” เจ๊เทาเกาะแขนเจ๊หมินแน่นทั้งสองกำลังเดินขึ้นบันไดหลังจากที่ลงไปหาอะไรกินมา จู่ๆลิฟก็ใช้การไม่ได้พวกเธอจึงต้องเดินเกาะแขนกันขึ้นบันได...

    “ไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าหนังหน้าแกอีกแล้วอาเทา” เจ๊หมินบอก “อีกอย่างตัวเท่าควายขนาดนี้ไม่สมควรเลยที่จะกลัวอะไรแบบนั้น...ได้ข่าวว่าหล่อนมีทักษะการป้องกันตัวสูงไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงทำตัวเหมือนลูกหมาเพิ่งเกิดแบบนั้นละ...”

    “มันไม่เหมือนกันนะเจ๊หมิน” เจ๊เทาว่า “ถ้ากับคน...ฉันหมายถึงที่มีชีวิตน่ะฉันไม่กลัวหรอก เข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ฉันพร้อมสู้ แต่ถ้ากับอย่างอื่น...อย่างอื่นที่ไร้ลมหายใจ...อย่างอื่นเช่น...เช่น”

    “ผี!!” เจ๊หมินตะคอกเพื่อแกล้งเจ๊เทาเล่นๆแต่เจ๊หมินทำให้เธอตกใจมาก เธอเผลอร้องกรี๊ดและจับหัวเจ๊หมินจากนั้นก็โขกหัวเธอเข้ากับฝาผนังอย่างแรงจนเจ๊หมินสลบไม่ได้สติไปในทันที

    “เจ๊หมิน!! ทำไมจู่ๆถึงล้มไปละ!! เจ๊หมินตื่นสิค่ะ!!” เจ๊เทาลงไปเขย่าร่างเจ๊หมินพลางร่ำไห้ด้วยความตื่นตระหนก และทันไดนั้นเองสิ่งที่เจ๊เทาหวาดกลัวที่สุดก็คลืบคลานมาหาเขา...

    มันเริ่มจากไอเย็นๆที่ลอยมาตามพื้นบันไดขึ้นมาหาเขา...เจ๊เทาหวีดร้องเบาๆและเขย่าร่างเจ๊หมินแรงขึ้น ไอเย็นค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเสียงหลายเสียงเงียบลงในทันไดบรรยากาศวังเวงเหมือนอยู่ป่าช้า

    “เจ๊หมิน...” เจ๊เทากระซิบเรียกเพื่อนด้วยความกลัว ขนาดเขาเองยังไม่กล้าส่งเสียงดัง... “เจ๊หมินฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง...ฉันไม่ในเจนยานทิพย์นะทำไมฉันถึงสัมผัสได้ละ...เจ๊หมินตื่นมาตอบฉันที เจ๊หมิน...” เจ๊เทาไม่เห็นท่าทีของเพื่อนที่จะฟื้นขึ้นมาเลย เขาจึงตัดสินใจแบกร่างของเจ๊หมินไว้บนบ่าอันแข็งแกร่งของเขาก่อนจะก้าวเท้าขึ้นบันไดไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด...

    ช่วยด้วย...

    และแล้วเสียงมันก็มา...เจ๊เทาเริ่มหวีดร้องออกมาเบาๆอีกครั้ง... เธอกวาดสายตามองไปรอบตัวแต่ไม่พบอะไร...

    ช่วยด้วย... ช่วยฉันด้วย...

    “ไม่...มะ-ไม่ใช่เวลาช่วยใครตอนนี้...” เจ๊เทาตอบเสียงสั่นๆเธอแทบจะหมดสติแล้ว “มะ-มึงไม่เห็นหรอว่าเพื่อนกูเป็นอะไรน่ะ..กะ-กูต้องช่วยเพื่อนกู...เพราะงั้นคนอื่นไว้...ไว้ช่วยทีหลัง...”

    ช่วยด้วย... ช่วยด้วย....

    “บอกว่าไม่มีเวลาช่วยตอนนี้!” เจ๊เทาก้าวเท้าแข็งๆของเธอไปข้างหน้าด้วยความยากลำบาก “เพื่อนกูกำลังจะตายเพราะงั้นกูต้องช่วยเพื่อนกูก่อนเข้าใจมั้ย!

    “ช่วยด้วย...” และทันใดนั้นเองเสียงวิญญาณก็โหยหวนอยู่ข้างหูเจ๊เทาและมันชัดมากเพาะมันใกล้มาก...

    “อย่าบอกนะว่าถ้ากูหันไปมองมึงแล้วกูจะต้องสลบหมดสติด้วยความกลัว...” เจ๊เทาเตือนสติตัวเอง “โอเคได้...กูจะหันไปมองมึง...ถึงขนาดมากระซิบข้างหูกูใกล้ๆแบบนี้ โอเคได้...กูยอมก็ได้”

    แล้วเจ๊เทาก็ค่อยๆหันใบหน้าไปทางต้นเสียง...และเขาก็พบ

    พบกับใบหน้าขาวซีดของหญิงสาวที่ตายไป และสภาพเธอย่ำแย่กว่าศพเธอในวันนี้มาก...เหมือนว่าเธอกำลังจะกลายเป็นผีที่มีเลเวลเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว ปากเธอซีดจนเป็นสีเทาขอบตาเธอดำและมืดมนดวงตาที่ไร้แววและรอยเชือกที่รัดแน่นตามคอของเธอชวนสยดสยองและสะพรึง

    “ช่วยด้วย...” เธอไม่ขยับไม่ปากเลยแต่เจ๊เทาได้ยินเสียงชัดเจนดี สายตาไร้แววอันมืดมนของเธอจ้องตาเจ๊เทา “ฉันไม่ได้...ถูกฆ่า ช่วยด้วย...ช่วยฉันด้วย...”

    สุดท้ายเจ๊เทาก็สลบล้มไปกองกับพื้นอีกคนจนได้...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เดี๋ยวๆ หยุด! หยุดก่อนซินเว!” ดีโอยั่งเล่นไล่จับเธอไม่เลิก และเขาเริ่มเหนื่อยแล้วจริงๆด้วย แต่จู่ๆโทรศัพท์เขาก็ดัง...ใครกันนะโทรมาป่านนี้ และการที่โทรมาในเวลานี้ก็แสดงว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วนไม่ว่าจะเป็นใครเขาก็ต้องรีบรับให้เร็วที่สุด ซินเวหยุดแกล้งเขาทันทีและปล่อยให้เขาเดินรีบๆไปคว้าโทรศัพท์มารับไว้ทั้งๆที่ยังหอบไม่หาย...

    “อะไรนะครับ!” ดีโอทำหน้าตกใจ ซินเวเดินไปหาเขาทันที “คุณบอกว่าเธอไม่ได้ตายเพราะผูกคอตายงั้นหรอ?”

    ดีโอกับซินเวสบตากันด้วยความประหลาดใจ เป็นสายจากหัวหน้าแผนกชันสูตรศพ สงสัยยังทำงานไม่เลิกและดูท่าทางจะเลิกไม่ได้ง่ายๆแล้วด้วย คดีนี้มีอะไรแปลกๆอย่างที่พวกเขาคิดไว้จริงๆด้วย

    “อะไรนะครับ?” ดีโอตกใจอีกครั้ง “เธอตายด้วยวิธีอื่น...และตายก่อนหน้านั้นหลายชั่วโมงหรอครับ!?”

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×