คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แจ็ตพอตตตต
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
เมนตาหยอย เมนตาหยอย เมนตาหยอย...
ท่องไว้กรกตท่องไว้ ห้ามเผลอใจให้คนอื่นเด็ดขาด... ชานยอลของเธอน่ะดีเลิศกว่าใครๆ ทั้งร่าเริง สดใส หล่อและสง่า สูงและผ่าเผย ตาโตและหูกางเอ้ย...ไม่นะชานยอล...
ครั้งแรกที่เจอ(รูป)นายฉันก็ตกหลุมรักแบบโงหัวไม่ขึ้นในทันที พอได้ยินเสียงอันทุ้มต่ำนั้นก็ยิ่งทำให้ใจฉันสั่น...พอได้ยินการร้องแร็ปนั้นก็ยิ่งทำให้ใจฉันเต้นรัว...นายเท่านั้นชานยอล นายเท่านั้น...
“นักศึกษาเซนา...ได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า? นักศึกษาเซนา!”
ตายละ! นี่ฉันเผลอนั่งเหม่อลอยให้ห้องเรียนหรอเนี่ย!? แล้วเพื่อนๆในห้องหันมาจ้องฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?! อีตาแว่นข้างๆหันมาทำหน้าเอือมระอาใส่ฉันตอนไหนแล้ว! อยากจะมุดโต๊ะหนีจริงๆ
“คะ-ค่ะอาจารย์” ตั้งสติดีๆและสบตาอาจารย์...เมื่อกี้อาจารย์ถามอะไรฉันหรือเปล่าหว่า? ถ้าถาม...แล้วถามว่าไรอะ?
“สอบย่อยเมื่อครั้งที่แล้ว เธอได้รองท็อปได้ยินหรือเปล่า?”
“อะอ๋อ...หรอค่ะ”
ฉันเกาหัวแก้เขินเล็กน้อย...
หา!!! อะไรนะ!!!!
รองท็อป!!!
ว่าละทำไมตาแว่นข้างๆถึงทำหน้าไม่พออกพอใจเท่าไหร่นัก...
ฉันเนี่ยนะรองท็อป?! มาเรียนก็ไม่ครบ สอบก็เดาไปหลายข้อ แล็คเชอร์ก็จดไม่ทัน นั่งเหม่อในคาบตั้งหลายคาบ! ถามว่าตั้งใจเรียนมั้ย? ไม่! ถามว่าหัวดีมาแต่เกิดหรือเปล่า? ก็ไม่อีก!
นี่ต้องเป็นเพราะดวงล้วนๆ...
หลังจากเรียนเสร็จ ฉันก็ยืนรอลุงมารับหน้าตึกเหมือนเดิม...เพราะลุงออกมาข้างนอก(กับเซฮุน)อีกแล้ว...และน่าจะเป็นแบบนี้ต่อเรื่อยๆด้วย
ฉันสูดลมหายใจลึกๆ...คราวนี้ฉันต้องทำตามแผนของยัยขนมไทยให้ได้...ฉันจะต้องมองเซฮุนเป็นแค่เด็กผู้ชายที่สามารถเข้าใกล้ชานยอลให้ได้! ฉันต้องมองให้เขาเป็นแค่คนหล่อที่เต้นเก่งดูมีสง่าราศีและยืนใกล้ๆชานยอลได้เท่านั้น!....เอะ?
ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นอะ...ลุงคะขับรถช้าๆหน่อยนะค่ะ ยังทำใจไม่ได้เลย
ในที่สุดลุงก็มารับฉันจนได้...และแน่นอนว่าเซฮุนนั่งก้มมองโทรศัพท์อยู่เบาะหน้าเหมือนเดิม
ฉันก้าวเท้าขึ้นรถไปนั่งเบาะหลังยาวๆ...มันดูสบายนะ แต่ทำไมรู้สึกว่าแคบเหลือเกิน เพิ่งสังเกตเอาวันนี้นี่แหละว่าเบาะหน้ากับเบาะหลังมันใกล้มาก
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
“ลุงค่ะ” ฉันเริ่มบทสนทนา ลุงหันมามองฉันจากกระจกหลัง “หนูสอบได้รองท็อป....”
“โอ้! เก่งเหมือนกันนี่เรา” ลุงชมฉันเสียงดัง
ไม่นะลุง ฉันเขิน...เขินคนข้างๆลุงอะ กะ-ก็แค่อยากทำตัวให้ดูปกติเท่านั้นเอง ไม่ได้อยากจะโอ้อวดอะไรเลยจริงๆนะ...แค่อยากให้มันดูปกติเฉยๆ...
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
“ไปซื้อเนื้อมากินกันที่บ้านดีมั้ย?” ลุงถาม “ดีมั้ยเซฮุน?” ถามเซฮุนด้วย! ขุ่นพระ!
ฉันแอบมองเขา...เขาหันไปยิ้มให้ลุงเล็กน้อย...งือ น่ารักชิบหาย...
“ดีเลยครับ เวลาพวกผมได้รางวัลมาก็ฉลองด้วยการกินเนื้อเหมือนกัน”
ลุงหัวเราะชอบใจ
เซฮุน! มันไม่เหมือนกันเลยนะ! ฉันได้กินเนื้อเพราะคะแนนมากกว่าใครในห้องเรียนที่มีกันไม่ถึงห้าสิบคน แต่นาย...นายน่ะชนะรางวัลมาทั้งเอเชียเลยนะ! อย่าเอามาเทียบกันสิ!
ลุงมาซื้อเนื้อจริงๆด้วย เขาจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อก่อนจะส่งเงินมาให้ฉัน...
“เลือกเนื้อดีๆมาเลย ลุงจะรอในรถ”
“ค่ะ”
สิ่งแรกที่ฉันคิดได้ไม่ใช่เรื่องจะซื้อแบบไหนดี...แต่เป็นเรื่องเซฮุนจะเดินลงจากรถตามฉันมาด้วยหรือเปล่า?...ไม่หรอกหน่า...เขาน่าจะรออยู่กับลุง เพราะถ้ามีคนเห็นเขาแถวๆนี้ละก็...
ขุ่นพระ! เขาเดินตามหลังฉันมา!!
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
น่าแปลกที่ร้านสะดวกซื้อร้านนี้...เป็นร้านเดียวที่ผมเดินอยู่บ่อยๆและไม่มีแฟนคลับตามเลยซักคน... ผมมาซื้อของกับป้าที่นี่ประจำครับ... พนักงานถ้ายังเป็นชุดเดิมอยู่ ก็คงจำผมได้...
ผมจะไม่หัวเราะเธอครับ ผมไม่ทำแล้ว ผมสัญญา
ผมจะ...พยายาม อุ๊ป...ไม่ไหวอ่ะ!
เมื่อพวกเราเดินเข้าร้านไป จู่ๆเธอก็ชะงักและหันซ้ายหันขวาเหมือนเจอเขาวงกตที่ซับซ้อน...
โอ้ย ถ้าผมเบรกไม่ทันนี่ชนเธอแล้วจริงๆนะ เธอชี้ทางนู้นทีทางนั้นทีเหมือนคนไม่มีสติกับเนื้อกับตัว... ผมรู้ครับว่าเนื้อตั้งอยู่ซอกไหนของร้าน...
แต่ผมไม่บอกหรอก... ฮิฮิฮิ ผมรอให้เธอถามผมดีกว่า...
โอะโอ เธอรู้แฮะว่าเนื้ออยู่ที่ไหน...สงสัยเคยมาทีนี่แล้วแน่ๆเลย เสียดายแฮะ
ผมเดินตามเธอไปห่างๆ คอยระวังไม่ให้ใกล้เกินไปเพราะผมกลัวเธอเป็นลม (หลงตัวเองอีกนั้นแหละ) เธอหยุดตรงชั้นวางเนื้อวัวชั้นดีซักพักก่อนจะหยิบมันใส่ตะกร้า...แต่ไปๆมาๆเธอก็วางลงที่เดิม...จากนั้นก็หยิบชิ้นเดิมขึ้นมาใหม่...แล้ววาง...หยิบ...วาง…หยิบ...
โอ้ย หยุดนะ! ผมไม่ไหวแล้วอ่ะ ผมต้องหันไปข้างหลังแล้วหัวเราะออกมาเงียบๆ...ผมบังคับไม่ให้ร่างตัวเองสั่นด้วยนะ...เป็นการหัวเราะที่ทรมานชิบหาย
สุดท้ายเธอก็หยิบชิ้นเดิมนั้นแหละครับใส่ตะกร้าไป หยิบไปหลายชิ้นเลยเพราะคนที่บ้านเราเยอะและกินจุ...เธอคงรู้ว่าผมน่ะกินไม่มีลิมิต...เอ็กซ์โซเรานอกจากเต้นร้องเพลงก็มีกินนี่แหละครับที่ทำแต้มได้ดีมาก...
โทรศัพท์เธอดัง...
“ค่ะป้าจินฮี...ได้ค่ะ...นมเนยถั่วมะเขือเทศ...ค่ะ”
ป้าโทรมาสั่งของ...ผมแอบยิ้มคนเดียว...ความสนุกยังไม่หมดแค่นี้สินะ
ผมเดินตามเธอไปเงียบๆครับ...เอ๊ะ...เธอไม่เกร็งแล้วแฮะ เธอหยิบนู่นหยิบนี่ลงตะกร้าอย่างชำนาญ สงสัยจะเริ่มปรับตัวได้แล้ว ยินดีด้วยนะครับ...
โอะ! จู่ๆเธอชะงักครับ...สงสัยนึกอะไรได้...เธอทำท่าเหมือนจะหันหลังมาครับ…
ไม่ครับเธอไม่หันมา แต่เธอเดินถอยหลังครับ! โอ้ย! ครั้งนี้ผมต้องอุดปากตัวเองเลยอะ!
แล้วผมก็ถอยตามเธอ...นี่เราสองคนกำลังเดินถอยหลัง? โอ้ย จงอินช่วยกูด้วย!
เธอถอยมาหยิบของบางอย่างที่เธอเดินผ่านไปครับ โอเค ผมไม่หัวเราละผมสัญญา...
แล้วเธอก็หยุดเดินอีกครั้งครับ หยุดเพื่อเช็คของในตะกร้าว่าครบหรือยัง...
เฮ้ย! นี่ผมมัวทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย! ของเต็มตะกร้าจนแทบล้นออกมาแถมยังมีเนื้ออีกสามสี่ชิ้นอยู่ในนั้นด้วย! เธอคงหนักจะตายห่าและกำลังด่าผมในใจอยู่แน่ๆเลยว่าไอบ้านี่ทำตัวเป็นเสาไฟฟ้าเดินตามอย่างเดียวอยู่ได้! ผมขอโทษ!
ผมรีบไปคว้าตะกร้าที่เธอยังตรวจดูไม่เสร็จทันที... ผมเหมือนเข้าไปฉวยมันมาเลยอะ ผมไม่พูดอะไรเลยด้วย... เอะ...คราวนี้ผมเกร็งแทนแฮะ...
เราสองคนอยู่ใกล้กันมากครับตอนนี้ เพราะเธอ...ไม่ยอมยกตะกร้าให้ผมซักที...
เธอไม่เงยหน้ามองผมด้วย...ก้มหน้าก้มตานับของในตะกร้าต่อไป...
ผมรอให้เธอนับเสร็จ...และก็ออกแรงดึงนิดหน่อย... เธอยอมปล่อยตะกร้าให้ผมแล้ว เย้ ดีใจจัง
นี่ผมดีใจบ้าอะไร!!
คราวนี้ผมเดินนำเธอแทนครับ...เดินนำไปจ่ายเงิน ผมรีบก้าวเท้ายาวๆของผมตรงไปที่เค้าเตอร์ ผมเดินไปเรื่อยๆ แต่พอผมนึกขึ้นได้ว่าผมไม่ได้มาคนเดียว ผมก็ชะงักและหันไปมองข้างหลังทันที...ผมไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเธอเดินตามผมมาเลยนะ! ไปไหนของ—
ปึก! ร่างเล็กๆของเธอชนกับแผ่นอกผมเข้าอย่างจัง ผมหยุดเดินกะทันหันไปสินะ...
เธอไม่ได้ไปไหนหรอกครับ เธอเดินตามผมมานี่แหละ แต่เดินเงียบเกินไปละครับคุณผู้หญิง...
“ขะ-ขะ-ขะ-” เธอรีบกระโดดถอยออกห่างจากผมไปพร้อมพูดตะกุกตะกัก เหมือนเธอพยายามจะบอกขอโทษนะครับ เอะ? หรือ ขะ-ขะ-ขะ-ขากถุ้ย?
ผมไม่พูดอะไรครับ เมื่อเห็นว่าเธอยังอยู่ผมก็หันกลับไปและเดินนำเธอไปอีกหน...
เธอเดินเงียบมากจริงๆนะ แถมตัวก็เล็กอีก...ผมกลัวว่าเธอจะหายไปอะ...หรือจะหายไปจริงๆ?
ผมหันไปอีกรอบ!
เธอสะดุ้งครับ แต่คราวนี้เบรกทัน ผมสบตากับเธอแปปนึง
อ่อ...เธอยังเดินตามผมอยู่.... ผมจึงเดินนำอีกครั้ง... คราวนี้ไม่หันไปละ ถึงจะกังวลอยู่ดี...
เมื่อพวกเราจ่ายเงินเสร็จผมก็เดินแบกของทั้งหมดคนเดียวและขึ้นรถลุงกลับบ้านทันที...
แต่ก่อนขึ้นรถ…เธอทำให้ผมแปลกใจครับ...จู่ๆเธอก็ยิ้มออกมา เธอยิ้มคนเดียวครับ และเธอก็คงคิดว่าไม่มีใครเห็น...
ฮั่น แหน่...ยิ้มแบบนี้ชอบผมแล้วละสิ?
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
ฉันท่องไว้ตลอดเวลาเหมือนจะเป็นบทสวดอะไรไปแล้ว...หลังจากเรื่องที่ร้านสะดวกซื้อนั่น ใจฉันก็สั่นรัวๆและไม่ยอมนิ่งเลยจนกระทั่งมาถึงบ้าน...
แต่ว่าฉันแอบดีใจนะ...ที่เห็นเขาเข้ามาช่วยฉันถือของ ที่เห็นเขาหันหลังมามองฉันเรื่อยๆแบบนั้น...ฉันรู้ว่าเขาหันมาทำไม เขาคงกลัวว่าฉันจะหายไป...เหมือนที่น้องชายของฉันชอบหันมามองบ่อยๆเวลาเราไปเดินช้อปปิ้งด้วยกัน...
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
ใช่ฉันเมนชานยอล...แต่ก็ต้องยอมรับว่าเซฮุนวันนี้น่ารักมาก...ถึงเขาดูมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา...ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาคิดเรื่องอะไร...แต่เขาพยายามเก็บเรื่องนั้นไม่ให้ออกทางสีหน้าเต็มที่...
แต่พอมาคิดๆดูแล้ว...ใจฉันเต้นรัวก็จริง แต่ไม่รัวเท่าวันแรกแล้วละ..
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านเซฮุนก็แบกของทั้งหมดไปไว้ในครัวก่อนจะเดินไปนั่งดูทีวีอย่างสบายใจ ส่วนฉันกับป้าจีนฮีก็จัดการเก็บข้าวเก็บของให้เข้าที่และเตรียมทำอาหารทันที...
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฉันก็ล้างจาน...แอบเหล่มองเซฮุนตามประสาติ่งว่าเขาทำอะไรอยู่...
เขากำลังรัวแชทกับใครซักคน...ยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่เลย...แฟนหรือเปล่าน่ะ?
ไม่มีทาง! เซฮุนไม่มีแฟนหรอก!! เอะ? แล้วฉันจะเดือดร้อนทำไม...แต่แหม...เอาจริงๆฉันก็ไม่อยากให้exoไม่ว่าจะเป็นใครมีแฟนตอนนี้หรอกนะ...
เมื่อฉันล้างจานเสร็จกำลังจะเดินขึ้นห้องไปโม้กับยัยจีจี้และขนมไทย...
จู่ๆเซฮุนก็เดินเข้ามาในครัว...ฉันเดินตรงไปและเขาเดินตรงมา
พื้นที่เดินก็เยอะนะ ทำไม...ทำไมฉันกับเขาต้องมาเผชิญหน้ากันจะๆแบบนี้ด้วย...
เราสองคนหยุดเดิน...ต่างฝ่ายต่างก็รอให้อีกคนหลบ...
ฉันหลบซ้าย เขาก็หลบซ้าย...
ฉันหลบขวา เขาก็หลบขวา...
ซ้าย ขวา ซ้าย...
หยุด…
มองหน้า...
เซฮุนหัวเราะ...เขารีบเอามือปิดปากและพยายามกลั้นขำเอาไว้...ทำแบบนั้นทำไม?
ฉันหัวเราะบ้างสิ...หัวเราะแห้งๆอ่ะนะ...มันทั้งเขินทั้งดูโง่ในเวลาเดียวกัน
สุดท้ายฉันถอยหลัง...และหลบซ้าย แล้วเขาก็เดินผ่านตัวฉันไปได้ซักที…
และเมื่อถึงเวลากินข้าวเย็น...
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
มาอีกแล้วบทสวดประจำวันนี้ เมนชานยอล มันได้ผลจริงๆนะ! ฉันมองเห็นหน้าชานยอลในหัวอยู่ตลอดเวลาเลยละ...ถึงบางครั้งจะแทรกด้วยหน้าเซฮุนบ้าง แต่มันก็ได้ผลอยู่ไม่น้อยเลยจริงๆ
ตอนนี้ฉันมองเซฮุนเป็นแค่ร่างลางๆของมักเน่วงเอ็กซ์โซไปแล้ว... แต่บางครั้งร่างมักเน่นั้นก็ชัดมาก..โดยเฉพาะเวลาเขายืนอยู่ไกลๆ...มันเหมือนฉันมองเขาผ่านจากที่นั่งคอนเสิร์ตหรืออะไรทำนองนั้น
เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล เมนชานยอล...
ที่นั่งประจำบนโต๊ะอาหารของฉันก็คือถัดไปจากพี่ชังมิน... ลุงจะนั่งหัวโต๊ะ ป้าและพี่ชังมินนั่งตรงข้ามกันและชอบแขวะกันอยู่ตลอดเวลา...
เซฮุนนั่งตรงข้ามฉัน...ใช่...ฉันเพิ่งสังเกตว่าเขานั่งตรงข้ามฉันมาหลายวันแล้ว...
นั่นอาจะเป็นเพราะครั้งนี้ฉันกล้าพอที่จะเงยมองหน้าเขาบ้าง...
ฉันดีใจกับความสำเร็จนี้จนเผลอยิ้มออกมาและก็ต้องหุบยิ้มทันทีเพราะกลัวคนอื่นมองว่าฉันบ้า
เธอยิ้มอีกแล้วครับ! ยิ้มเหมือนตอนกลางวันเลย...ผมสงสัยจังว่ายิ้มอะไร...
เธอดีใจที่ผมนั่งใกล้เธอหรือเปล่า? แต่ผมนั่งตรงนี้นานแล้วนะ มาเพิ่งดีใจอะไรป่านนี้...
ป้ากับพี่ชอนซา...เอ่อ พี่ชังมินละกัน แม่ลูกคู่นี้เปิดศึกอีกแล้วครับ ป้ามักจะถามนู่นนี่นั่นกับพี่ชังมินมากมายโดยเฉพาะเรื่องเพื่อนๆ...ป้าจะพยายามเสาะหาเพื่อนผู้หญิงของพี่ชังมินอยู่ประจำ...ซึ่งมันแทบไม่มีเลย อ้อ มีอยู่คนนึงครับ แต่ผมว่านั่นไม่ใช่เพื่อนพี่เขาหรอก...
“เออๆเดี๋ยวจะปาร์ตี้ที่บ้านแล้วพามาแต่เพื่อนผู้หญิงให้ดู!” พี่ชังมินตัดจบก่อนจะยัดเนื้อเข้าเต็มปาก
“ดูทำตัวเข้า” ป้าทำหน้ารังเกียจใส่ลูกสาวตัวเอง “กุลสตรีของแกน่ะแกซ่อนมันไว้ที่ไหน?...ดูอย่างน้องเซนาสิ! เธอสงบเสงี่ยมเรียบร้อยแถมทำกับข้าวก็อร่อยด้วยงานบ้านงานเรือนก็ไม่ขาด ช่วยกวาดถูห้องเป็นประจำ แล้วดูแกสิ! ถ้าห้องแกไม่ได้เซนาเข้าไปช่วยจัดการบ้างป่านนี้มันจะเป็นยังไง! รกเหมือนที่ทิ้งขยะแบบนั้น แบบนี้จะไปดูแลใครได้หือชอนซา”
“โธ่แม่! ไม่เห็นยาก! ก็หาคนมาดูแลแทนสิ!” พี่ชังมินตอบทั้งๆที่เนื้อเต็มปาก
ป้าจินฮีทำท่าเหมือนจะตบลูกสาวตัวเอง...
ผมเห็นคนที่นั่งหน้าผมส่ายหน้าเบาๆเชิงไม่เห็นด้วยกับคำชมของป้าเมื่อกี้...
เธอเข้าไปทำความสะอาดห้องทุกห้องเลยหรอ...
ไม่จริงอ่ะ ห้องผมเธอยังไม่เคยเข้าไปเลย...
เอาจริงๆเสื้อผ้าที่ผมใส่แล้ว...ผมจะเอาใส่ตะกร้าและพอมันเต็มผมก็จะโยนมันออกนอกห้อง...
เพราะป้าจินฮีมักจะตะโกนบอกทั้งพี่ชังมินและผมแบบนั้น...และทุกครั้งป้าจะเอาไปซัก…
แต่ว่าครั้งนี้...นี่อย่าบอกนะว่าครั้งนี้...เธอที่อยู่ตรงหน้าผมเป็นคนซักให้...
นี่มันไม่ใช่เวลาโยนตะกร้าผ้าออกมานอกห้องนะเซฮุน...
ฉันกำลังจะกลับเข้าห้องไปอาบน้ำและโม้กับยัยจีจี้และขนมไทยอยู่แล้วเชียว...ถ้าไม่ชะงักเพราะตะกร้าสีฟ้าที่มีเสื้อผ้าอยู่ในนั้นครึ่งตะกร้าวางเด่นอยู่หน้าห้องเซฮุน..
ใช่ค่ะ ปกติฉันจะเข้าไปหยิบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วของป้าของลุงและของพี่ชังมินถึงในห้อง...
แต่ของเซฮุนฉันไม่กล้าเข้าไป และเพิ่งมารู้ว่าไม่ต้องเข้าไปในห้องเขาหรอก เพราะเขาจะเอาออกมาตั้งหน้าห้องแบบที่ฉันกำลังมองอยู่ตรงนี้แทน...
เขาหวงห้องตัวเองมากขนาดนั้นเลยหรอ...อยากเข้าไปแฮะ...
แต่ว่าตอนนี้...ฉันควรจะทำอย่างไรกับตะกร้านั้นดี...ปล่อยไว้แบบนี้จนถึงพรุ่งนี้เลยละกัน พรุ่งนี้ไม่มีเรียนด้วย...เอาไว้ค่อยซักทีหลัง
จู่ๆเขาก็แง้มประตูช้าๆ...และโผล่หน้าออกมา...เอ่อ...ทำไมไม่ออกมาดีๆละค่ะ
เขาเห็นฉันยืนหันหน้าให้เขา...ฉันจึงรีบหันกลับไปมองประตูตัวเองและบิดมันก่อนจะพุ่งเข้าไปข้างในทันที..
.
เมื่อกี้ฉันเหมือนถ้ำมองอยู่หน้าห้องเขาเลย...ฉันไม่ได้จะแอบมองเขานะ! ฉันมองตะกร้าผ้าเขาต่างหาก!
“นี่มึงซักผ้าให้ไข่มุกด้วย!!” ฉันจีจี้ค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อนะ ทนแรงแค้นนี่ไปก่อน
ฉันเพิ่งรู้ว่ายัยกรกตมันซักผ้าให้เซฮุนด้วย! คือฉันรู้ค่ะว่ามันชอบทำงานบ้านงานเรือนมากแต่ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะหยิบ...ไม่ใช่สิ มันจะได้สัมผัสเสื้อผ้าของเซฮุน...โอเซฮุนคนนั้น! มันคงได้กลิ่นตัวของเขาอยู่ประจำสินะ! ถึงจะไม่ได้ใกล้ชิดตัวจริงของเขาแต่เสื้อก็เหมือนตัวแทนแล้วปะ! กรี๊ดดด!! ว่าแต่ทำไมยัยนี่ถึงเล่าเหมือนมันเอาเสื้อผ้าของลุงไปซักละยะ!!
“มึง...กูลืม....” มันพูดเบาๆใส่ฉัน...
“ลืมอะไร!”
“ลืมว่านั่นคือเสื้อผ้าของไข่มุก! กูลืมไปแล้วจริงๆนะ กูรู้สึกว่ามันคือเสื้อผ้าของไข่มุกเมื่อตอนซักให้ครั้งแรกเท่านั้นจริงๆนะ!”
“ตบหน้าตัวเองค่ะ ตบเลย! ลืมได้ยังไง! เอามาสูดดมบอกกลิ่นให้กูได้รู้สึกบ้าง!”
“อี๊! มึงไม่เอา!”
“อีนี่...ทำไม!!!”
“นั่นผ้าสกปรกนะจีจี้...แล้วกูก็ไม่ได้ซักตัวสองตัวด้วย..กูซักให้ทั้งบ้าน..ไม่มีเวลามานั่งสูดดมหรอกยะ...เอาจริงๆมึงกล้าดมหรอ? นั่นมันสกปรกนะ...”
“ยิ่งกว่ากล้าค่ะ!!”
ทำไมยัยกรกตถึงคิดต่างกับฉันละ! เราติ่งเหมือนกันไม่ใช่หรอ! แต่ปกติยัยนั่นก็...รังเกียจเหงื่อเหนียวๆของผู้ชายอยู่แล้ว...มันบอกเหม็น...แต่ทำไมฉันว่าหอม...(ต้องผู้ชายหล่อๆนะ)
เออ ช่างหัวมันเถอะค่ะ แต่ว่าวันนี้มันเหมือนจะเริ่มปรับตัวกับเซฮุนได้แล้ว...ยัยขนมไทยต้องช่วยมันแน่ๆอ่ะ ฉันคงช่วยได้อย่างเดียวคือเร่งให้รีบๆได้กันกับเขา
อย่าใส่ใจฉันเลยค่ะ ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ ขอบคุณที่ชม...
เธอเป็นคนเอาไปซักจริงๆด้วยอะ!
ผมรีบดึงตะกร้าผ้ากลับเข้ามาในห้อง...ดีนะที่เธอยังไม่ได้เอาไปซักเพราะผมยังไม่ใส่...
นี่แสดงว่าเสื้อผ้าหอมๆของผมก็เป็นฝีมือเธอหมดเลยสินะ...
ผมเดินไปเปิดตู้และหยิบเสื้อผ้าที่ซักแล้วมาดมไปยิ้มไป...
เฮ้ย! นี่ผมทำอะไร!
ผมรีบโยนเสื้อตัวนั้นลงในตู้เหมือนจู่ๆมันก็ลุกเป็นไฟ... ผมเดินไปนอนหงายบนเตียงพลางนึก
พรุ่งนี้จะมีเพื่อนมาหาผม..และพรุ่งนี้ของพรุ่งนี้ก็จะมีเพื่อนมาหาผมอีก...
ผมอยากไปหาพวกเขาบ้างจัง...แต่ทำได้ที่ไหน ผมไม่อยากให้เพื่อนของผมโดนแฟนๆรู้จักและตามติดเหมือนผมหรอกครับ..ผมรู้ดีว่าเป็นยังไง...และเดาได้เลยว่าแฟนๆของผมต้องถามพวกเขาแต่เรื่องของผม
แน่ๆ...เพราะงั้น...
แหม...ไปโทษคนอื่นซะงั้น ความจริงผมนี่แหละ ขี้เกียจออกไปไหน...
อยู่ที่บ้านนี้ก็ดีอยู่แล้วจะออกไปที่อื่นทำไมอีกเนอะ...
ผมชอบอยู่บ้านหลังนี้...
ความคิดเห็น