คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : EP 03
ตอนที่ 3
ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
“ไม่ใช่ได้ยังไง!!” อึนมีลืมตัวเผลอตะโกนใส่คนตรงหน้า
“จุๆ ใจเย็นๆสิเด็กน้อยเอ๋ย” มินโฮกวาดสายตามองรอบๆอย่างระมัดระวัง
“มันเป็นปานรูปดวงจันทร์ชัดๆเลยนะค่ะ!”
“เธอคิดว่าแค่เจอปานรูปดวงจันทร์เฉยๆก็เป็นปีเตอร์แพนได้แล้วหรอ คิดว่า5เปอร์เซ็นบนโลกนี้มีกี่คนกัน? คนเดียวหรอ? หรือคนนึงกับอีกครึ่งตัว หือ?”
อึนมีทำหน้ามุ่ย ถอนหายใจเสียงดัง เธอมั่นใจว่านั่นคือรูปดวงจันทร์แน่ๆ ปานรูปดวงจันทร์บนหลังของแบคคยอน ไม่ผิดแน่ๆ
“อ่ะๆ สมมุตว่าแบคคยอนผ่านเข้ารอบที่มีปานรูปดวงจันทร์ แล้วขั้นต่อไปละ?”
“อะไร”
“ก็ข้อที่ว่า เธอรู้จักเขาและเข้าใจภายในจิตใจเขาจริงๆน่ะ อันนี้เธอรู้สึกกับเขาหรือเปล่าละ?” มินโฮจ้องเข้าไปในตาอึนมี “เธอจะต้องแน่ใจจริงๆว่าเขาคนนี้คือปีเตอร์แพน การที่เธอมาถามฉันแบบนี้แสดงว่าเธอเองก็ยังไม่แน่ใจ”
“แล้วจะให้ทำยังไง”
“รอ...”
“รอ?”
“เวลาจะทำให้เธอเข้าใจคนๆนั้นมากขึ้น เวลาจะทำให้เธอมั่นใจขึ้นมาเอง ถ้าแบคคยอนเป็นปีเตอร์แพนจริงๆ เธอก็รออย่างเดียว แค่นั้นเอง” เขาพูดเสร็จก็พิงเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย
อึนมีคิด เธอเข้าใจดีอยู่แล้วว่าแบคคยอนเป็นคนแบบไหน เธอเข้าใจดีว่าเขาชอบไม่ชอบอะไร เธอรู้จักแบคคยอนดี แล้วเธอต้องรออะไรอีกละ? รออะไร? อึนมีมองหน้ามินโฮแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมพูดและบอกอะไรต่อแล้วเขาเอาแต่จิบกาแฟและจ้องนาฬิกา ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นและบอกลาอึนมีอย่างรวดเร็ว เขาปล่อยให้อึนมีจมอยู่กับความคิดของตัวเองอีกแล้ว อึนมีทั้งนั่งทั้งเกยโต๊ะสารพัดอย่าง เอาแต่ครุ่นคิดอยู่แบบนั้นจนไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังจ้องเธออยู่ คนที่นั่งโต๊ะข้างหน้าเธอ คนที่แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว บ้างก็หัวเราะในลำคอเวลาเห็นอึนมีทำท่าแปลกๆ ไม่นานอึนมีก็รู้สึกแปลกๆเหมือนมีคนจ้อง(กว่าจะรู้ตัว) เธอมองไปที่โต๊ะหน้าแต่ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ เอ๊ะ เมื่อกี้ยังเห็นแวบๆเหมือนมีคนนั่งโต๊ะนั้นอยู่เลย เธอหันมองซ้ายมองขวา
“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นจากข้างหลัง! และรู้สึกเหมือนใกล้มากด้วย อึนมีหันขวับไป และใกล้จริงๆด้วย จมูกทั้งสองแทบจะชนกัน อึนมีมองหน้าเขาไม่เห็นเลย เห็นแต่ดวงตาที่เรียวโตของชายหนุ่มเท่านั้น อึนมีกระพริบตารัวๆและค่อยๆเอียงตัวให้ออกห่างจากหน้าเขา ทำให้อึนมีมองเห็นเขาทั้งหน้ามันเป็นใบหน้าที่คนปกติไม่มีกัน ใบหน้าอันหล่อเหลาและมีเสน่ให้จับตามองแบบนี้ อึนมีไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คิ้วอันหนาได้รูปกับตาเรียวโตของเขาพอดี เขาโน้มตัวลงมาเยอะมากถึงจะเข้ามาใกล้อึนมีได้ขนาดนี้ ทำให้อึนมีรู้ทันทีว่าเขาสูงแค่ไหน
“ไง” เขาทักทายพร้อมยืนสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกง อึนมีเห็นละนึกว่านายแบบมาเอง
“ไง” เธอก็ทักตอบ
“ฉันคริส” เขายิ้มให้อึนมี โอ้ พระเจ้าช่วย ฟันใหญ่จัง อึนมีคิด ถ้ายิ้มอีกนิดเห็นเหงือกละนั่นน่ะ
“ฉันอึนมี” เธอยิ้มตอบแบบงงๆ
“สั่งกาแฟมาไม่กินหรอ”
“หือ?” เขารู้ได้ไงว่าอึนมียังไม่ได้จิบกาแฟเลย แน่ละก็เธอไม่ได้สั่งนี่นา โทมินโฮเป็นคนสั่งให้ต่างหาก แถมเป็นกาแฟอะไรไม่รู้ไม่เห็นหน้ากิน ปกติเธอก็ไม่ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้วด้วย
“ไม่กินแล้วสั่งมาทำไม” เขาถามพลางอมยิ้มไป
“อะ อ๋อ มีคนสั่งให้น่ะแต่ฉันไม่ชอบกินหรอก”
“ใครอะ? ผู้ชายที่ดูดีๆเมื่อกี้หรอ?”
“หา” นี่เขารู้ด้วยหรอว่าอึนมีคุยกับใคร
“ก็ที่เดินออกไปเมื่อกี้ไง ทำไมต้องทำหน้างงทุกครั้งที่ฉันถามด้วยละ” เขาหัวเราะ
“หือ?”
“นั่นไง ทำหน้างงอีกละ” เขาหัวเราะเสียงดัง
“อะไรของนายเนี่ย” อึนมีเริ่มรู้สึกว่าเขาเข้ามาเพื่อก่อกวน
“ก็มันขำอ่ะ” เขาหัวเราะต่อไป
“หยุดนะ” อึนมีเริ่มหงุดหงิด เธอกำลังจะลุกขึ้นและเดินหนีไป อยู่ๆก็มีผู้ชายตัวสูงอีกคนโผล่มา ดูเหมือนเขาจะรู้จักคริสด้วย เขาชำเลืองมองอึนมีแปปนึงก่อนจะหันไปคุยกับคริสอย่างสนิทสนม
“เอาอีกแล้วนะ”
“เฮ้ย!” คริสหยุดหัวเราะ ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อน “ไปทำเตี่ยอะไรมาครับคุณเทา รู้มั้ยว่ารอนานจนเจอสาวน่ารักๆให้เล่นด้วยแล้วเนี่ย!”
“พอดีไปเจอหมาน้อยหลงทางมาน่ะ ก็เลยช่วยมันตามหาแม่แปปเดียวเอง”
“หมาน้อยหลงทางนี่คือตัวนายสินะ ถ้าไม่รู้ทางแล้วทำไมไม่รู้จักโทรมาวะไอเด็กนี่”
“เฮ้ย ไม่ได้โกหกนะ เจอหมาหลงทางจริงๆ ตัวสีน้ำตาลขนปุกปุยด้วย!”
“เออๆ ช่างมันๆ ไปๆรีบไปเหอะ” พวกเขาทำท่าเหมือนจะเดินจากไป แต่คริสหันมาเหมือนนึกขึ้นได้ “อ้อ ลืมไปเลยว่าคุยกับสาวน่ารักอยู่”
อึนมีค้อนใส่พวกเขาสองคน จะไปไหนก็รีบไปเลยย่ะ
“เอาไว้เราเจอกันอีกครั้งแล้วผมจะให้เบอร์นะครับ” คริสพูดทิ้งท้ายก่อนจะหันหลังและเดินจากไป เทาที่เดิมตามหลังแอบหัวเราะเล็กน้อยและหันมามองตาอึนมีแปปนึง ไม่รู้ทำไม เมื่อโดนเทามองแล้วอึนมีรู้สึกหนาวแปลกๆ
“อะไรของพวกเขานะ” เธอบ่นกับตัวเอง “กลับบ้านดีกว่า”
ห้องครัว บ้านอึนมี
อึนมีกำลังกินข้าวกับพ่อกับแม่และน้องชาย
“อึนมี” แม่เริ่มบทสนทนา “ไปส่งใบสมัครเข้ามหาลัยหรือยังน่ะ”
“ยังเลย”
“เดี๋ยวเถอะ ปล่อยใว้เดี๋ยวก็เลยเวลาไม่ได้เข้ากันพอดี”
“จะไปพรุ่งนี้แล้วค่ะแม่ ไปกับดีโอกับแบคคยอน”
“ก็ดี ว่าแต่เรื่องหอพักน่ะ”
“ทำไมอ่ะ?”
“แม่จัดการให้แล้วนะ”
“หา?! หนูบอกว่าจะไปหาเองไงแม่!!” อึนมีพุดเสียงดังซะจนพ่อที่กินข้าวเงียบๆอยู่สะดุ้งโหยง
“ก็แม่หาให้แล้ว!! จะได้ไม่ต้องลำบากไง!!” แม่ก็ขึ้นเสียงบ้าง คราวนี้น้องชายที่นั่งแทะไก่อยู่ถึงกับสำลักไก่ต้องรีบกรอกน้ำตาม
“ไม่นะแม่!!! หนูจะไปดูหอด้วยตัวหนูเอง!!!”
“ดูด้วยตัวเองก็ได้หอแปลกๆไม่ก็หอมีอิสระเกินเหตุน่ะสิ!!! ฉันไม่ยอมให้แกหาหอแบบนั้นหรอกนะ!!!”
“นี่แม่คิดว่าหนูเป็นคนเหลวแหลกขนาดนั้นเลยหรอ!!!”
“ไม่ขนาดนั้น!!! แต่มากกว่านั้นด้วยซ้ำ!!!”
“แม่!!!!”
“อะไร!!!!”
“พอก่อนได้มั้ยทั้งสองคน” พ่อค่อยๆเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “นี่คงจะโมโหหิวด้วยแน่ๆ บอกแล้วว่าจะคุยอะไรให้คุยหลังกินข้าวเสร็จน่ะ”
หลังจากกินข้าวเสร็จ
“แม่” อึนมีเริ่มในขณะที่กำลังล้างจานกับแม่ “แม่หาหอให้แถวไหนอ่ะ”
“เป็นหอพักของป้าจีอึนไง”
“อ๋อ”
“ที่นั่นดีนะ แถมราคาก็ต่อรองกับเขาได้สบายๆ”
“เป็นหอหญิงล้วนหรอแม่?”
“เปล่า”
“งั้นๆๆแม่ก็จองให้แบคคยอนกับดีโอให้ด้วยดินะๆๆ หนูอยากอยู่กับพวกเขา”
“เรียบร้อยแล้ว วันนี้แม่ไปทั้งบ้านแบคคยอนทั้งบ้านดีโอ คุยกับพ่อกับแม่พวกเขาหมดแล้วด้วย”
“จริงอ่ะ!!”
“อื้อ ก็ลูกบอกแม่เองว่าเพื่อนที่สนิทที่สุดคือสองคนนี้นี่”
“ใช่แล้ว”
“ได้เพื่อนดีแล้วก็อย่าปล่อยไปละ ทำให้เขากลายเป็นเพื่อนในแบบครอบครัวให้ได้”
“เพื่อนในแบบครอบครัว?”
“ก็เป็นเพื่อนแบบพ่อแบบแม่แบบน้องไง จากกันไกลยังไงก็ตัดไม่ขาด” แม่พูดเสร็จก็ยิ้มให้อึนมีอย่างอ่อนโยน อึนมีสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอันมากกมายจากแม่ แต่เธอคงไม่ได้เจอแบบนี้ทุกวันแล้วละ เมื่อเธอเข้ามหาลัย เธอก็ต้องอยู่ด้วยตัวของเธอเอง จัดการเรื่องราวต่างๆด้วยตัวเอง ถึงเวลาที่คำสั่งสอนคำด่าว่าของแม่จะได้ใช้จริงๆแล้ว...
วันต่อมา ณ มหาลัยK
“โอ้ย”แบคคยอนบ่นออกมาด้วยความอดกลั้น ตอนนี้พวกเขากำลังต่อแถวจะยื่นใบสมัครกับมหาลัย โชคร้ายหน่อยที่แถวยาวซะจนเลยออกมานอกอาคาร และพวกเขาก็อยู่ที่หางแถวซะด้วย และแดดก็ตั้งใจทำงานเต็มที่
“ไอพระอาทิตย์หัวล้านนี่! พักหายใจหายคอหน่อยได้ปะ กะจะย่างให้เกรียมกันเลยหรือยังไงห๊า! ลองเกิดมาเป็นฉันหน่อยมั้ย!! ลองมาสลับหน้าที่กันดูมั้ยละ!!” สติแบคคยอนเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเขาพล่ามเสียงดังตลอดการต่อแถว ยิ่งแบคคยอนบ่นมากเท่าไหร่เหงื่อเขาก็ยิ่งออกมากขึ้นเท่านั้น และมันยังทำให้คนที่ฟังรู้หงุดหงิดกับสภาพอากาศตามไปด้วย ตอนนี้อึนมีพยายามทำตัวลีบๆและเข้าไปหลบแดดหลังแบคคยอนเงียบๆ
“แบคคยอน” ดีโอสะกิดแบคคยอน “นายแน่ใจนะว่าต่อแถวถูก”
“แน่ใจสิ ฉันไปดูมาแล้วเมื่อกี้เนี่ย”
“ฉันว่าแถวมันเริ่มแปลกๆคนก็เยอะขึ้นเรื่อยๆด้วย”
“เออ! ฉันก็ว่างั้นแหละ! ใครแม่งแซงถ้ารู้จะไปลากกบาลออกมาเทศนาเลยคอยดู!”
“เดี๋ยวฉันไปดูหัวแถวแปปนะ แถวเริ่มมั่วแล้วจริงๆวะ” ว่าเสร็จดีโอก็เดินไปข้างหน้าและลับหายไป ปล่อยให้แบคคยอนบ่นพรวดๆคนเดียว อึนมีปวดหัวเริ่มเมาแดดแถมคนก็เยอะอีกต่างหาก เธอเกาะหลังแบคคยอนและก้มตัวลงหลบแดดให้ได้มากที่สุด
“อึนมี ไหวมั้ยเนี่ย” แบคคยอนเห็นท่าไม่ดีเลยหันมาดูเพื่อน
“ไม่เป็นไรๆ แค่หลบแดดเฉยๆ”
เสียงโทรศัพท์แบคคยอนดัง ดีโอโทรมาหาเขาบอกว่าแถวที่ต่ออยู่ถูกแล้วแต่มีปัญหาเล็กน้อย สำเนาทะเบียนบ้าน ทางมหาลัยต้องการ4แต่พวกเขาเตรียมมาแค่3แบคคยอนกับดีโอเลยตัดสินใจจะไปถ่ายข้างนอกเพราะข้างในคนเยอะมาก อึนมีอาสาเฝ้าแถวให้และแบคคยอนกับดีโอออกไปถ่ายเอกสาร
ระหว่างที่ต่อแถวอยู่นั้นแดดก็เพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ โชคร้ายที่อึนมีไม่มีแบคคยอนเป็นต้นไม้ให้หลบแดดอีกต่อไป เธอถอดเสื้อนอกออกมาคลุมหัวตัวเองอย่างน่าสงสาร เหงื่อเธอแตกพลั่กๆจนสุดท้ายเธอก็เอาเสื้อคลุมออกเพราะมันทำให้หายใจไม่ออกและปวดหัวมากกว่าเดิมอีก เสียงของรุ่นพี่ที่ป่าวประกาศระเบียบการต่างๆก็ยิ่งทำให้อึนมีปวดหัวมากขึ้นไปอีก ตาเธอเริ่มล้าแดดก็ส่องมาตรงๆ พยายามตั้งสติอดทนใว้
ก้อนเมฆเอ๋ย จงบังแดดเสียเถิด เธอให้กำลังใจตัวเองโดยขอร้องก้อนเมฆแทน
อยู่ๆลมเย็นๆก็พัดผ่านและก็มีเงาของใครบางคนมาบังแดดให้อึนมี เธอมองขึ้นไปจ้องแผ่นหลังของคนๆนั้น เอ๊ะ เมื่อกี้ไม่ใช่คนนี้นี่ที่อยู่หน้าเรา หรือว่าเขามาแซง?!
“ขอโทษนะค่ะ พอดีต่อแถวอยู่” อึนมีค้านทันที
“อ๋อ” เขาหันหน้ามาทำให้อึนมีเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อแต่เปล่งประกาย ตาของเขาโตและกว้างมาก ที่เด่นมากกว่านั้นก็คือ หู...หูนั่น
“ค่ะ?”
“เราไม่ได้แซงนะ เราต่ออยู่ข้างหน้าเธอต่างหาก”
“หือ? แล้วทำไม”
“ร้อนไม่ใช่หรอ? มาบังแดดให้ไง เห็นตัวเล็กๆ”
อึนมีเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ในโลกนี้จะมีผู้ชายดีๆแบบนี้กับเขาด้วยหรอเนี่ย!เธอชำเลืองมองไปที่ป้ายชื่อของเขา ปาร์ค ชานยอล ชานยอลเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้รับความประทับใจจากอึนมีไปเต็มๆ
“ขะขอบคุณค่ะ” เธอรีบขอบคุณและหน้าแดงมาก เกือบไปด่าชานยอลแล้วมั้ยละ
“อื้อ ไม่เป็นไรครับ” เขายิ้มให้อึนมี ถึงแดดจะร้อนเหงื่อจะแตกแต่เขากลับทำให้อึนมีสัมผัสได้ถึงเส้นบางๆของคำว่าอบอุ่น เขาหันหลังให้อึนมี แต่ไม่นานก็หันหน้ามาพร้อมอมยิ้มเจื่อนๆ
“แดดร้อนเนอะ ขอหันมาทางนี้ละกัน” และทั้งสองก็หัวเราะ
“เราชื่อ อึนมีนะ”
“อึนมี? ชื่อน่ารักดีนะ เราชานยอล”
“อื้อ เห็นจากป้ายชื่อละ”
“อ่าวหรอ ขี้โกงนี่นา” แล้วเขาก็หัวเราะอีกครั้ง
อยู่ๆก็มีรุ่นพี่มาประกาศให้พวกหางแถวว่า สามารถปัดแถวลงมาเป็นแถวใหม่ได้ สิ้นเสียงประกาศทุกคนล้วนติดเกียร์หมาภูเขาแย่งกระโจนชิงลำดับแรกๆของแถวใหม่ทันที อึนมีไม่ทันตั้งตัวเธอกำลังประทับใจชานยอลอยู่ ปฏิกิริยายังไม่ตอบสนอง ร่างกายไม่ตอบโต้คนข้างหลังก็เลยชนไปเต็มแรง ร่างเธอพุ่งไปข้างหน้าตรงไปอ้อมแขนของชานยอลพอดีเป๊ะ ชานยอลเองก็รอรับอยู่แล้วด้วย
“เป็นอะไรหรือเปล่า!” เขาตกใจรีบโอบอึนมีเพื่อกันคนให้ออกห่าง “อึนมี!”
“อะ เอ่อ สบายมากจ้า” เธอค่อยๆลุกออกจากอ้อมแขนชานยอล ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ เขาสูงมากแถมแขนก็แข็งแรงด้วย กว่าอึนมีจะได้สติกลับมา แถวที่ต่อใหม่ก็เริ่มยาวซะแล้ว ไม่ได้การละ เดี๋ยวก็ได้หลังสุดพอดี! สมองเริ่มสั่งการร่างกายเริ่มตอบสนอง เธอจับมือชานยอลและพุ่งไปต่อแถวเหมือนสัตว์ป่าผู้หิวโหยมานานสิบปี ไม่ใช่แค่นั้น ระหว่างที่กำลังวิ่งไปต่อแถวเธอเผลอตะโกนเสียงแปลกๆออกไปด้วย ทำให้คนแถวนั้นตกใจกลัวจนต้องแหวกทางให้เธอผ่าน
“ฮ่าๆๆๆ เกือบไปแล้วมั้ยละ ฮ่าๆๆๆๆๆ” อึนมีดีใจเผลอหัวเราะออกมาเสียงดังลืมไปเลยว่าชานยอลมากับเธอ ชานยอลเองก็หลุดหัวเราะออกไปเหมือนกันแต่เขาหัวเราะกับท่าทางแปลกๆของอึนมีแทน เธอสามารถมาต่อแถวจนได้อยู่ในอาคารร่มๆแล้ว ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นเยอะเลย
“เย็นเลยเนอะ” ชานยอลพูด “ถึงจะไม่เย็นเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าข้างนอกละ”
“อื้อ”
ระหว่างที่ต่อแถวรออยู่นั้น ไม่นานแบคคยอนก็โทรมาถามว่าอยู่ไหน ระหว่างนั้นเองชานยอลก็เริ่มร้อนเลยใช้มือเปล่าพัดให้ตัวเองจากนั้นก็ถอดเสื้อนอกออกมาพัด ซักพักก็ถกแขนเสื้อนักเรียนขึ้น...
สายตาอึนมีบังเอิญไปเห็นพอดี เธอเบิกตากว้างอีกครั้ง คราวนี้ใจเต้นแรงด้วย!!
ที่แขนชานยอล!! ก็มีปานรูปดวงจันทร์หรอ!!!!
ความคิดเห็น