ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Exo x You] มาอยู่ด้วยกันนะ (เลือกพระเอกได้)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 มนุษย์พลังจิต

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 57


     

    ในบ้านทรงเกาหลีโบราณหลังหนึ่ง เวลา6.30 ณ หมู่บ้านK จังหวัดP

    “พโยๆ” ดีโอเรียกน้องชาย ระหว่างที่กำลังจัดเตรียมข้าวเช้าให้คนในบ้าน “เอาจานมาให้พี่หน่อยสิ”

    “ครับผม” น้องชายที่ตัวสูงกว่าเดินอ้อมไปหยิบจานให้พี่ชาย

     ไม่นานดีโอก็จัดโต๊ะข้าวเสร็จและบอกให้พโยออกไปตามตากับยายให้มากินข้าว

    ในบ้านทรงเกาหลีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่หลังนี้ประกอบด้วย ดีโอ พโย หรือ พีโอ และ ตากับยาย สี่คน พวกเขาอยู่กันแบบเรียบง่ายไม่มีปัญหาอะไรในชีวิตให้ได้แก้มากมาย แถมบรรยากาศที่หมู่บ้านก็เงียบสงบและดีมากด้วย ดีโออายุเท่าเซมี หลังจากจบมัธยมปลายจากโรงเรียนชายล้วนแล้วเขาก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับตายายและเข้ามหาลัยเล็กๆใกล้ๆบ้าน

    ระหว่างที่ทั้งสี่คนกำลังกินข้าวอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูจากหน้าบ้าน

    “สวัสดีค่า!!” เซมีตะโกนเผื่อคนที่อยู่บ้านหลังที่แปดได้ยินด้วย

    ดีโอแปลกใจปกติคนที่มาหาตากับยายจะเป็นคนสูงวัยและไม่ตะโกนเสียงดังแบบนี้ และที่สำคัญเขาจะไม่มาในเวลากินข้าวด้วย

    เหมือนตากับยายเองก็คิดเหมือนกัน แต่พวกเขาสองคนมักจะมองโลกในแง่ดีเสมอ ยายบอกให้ดีโอไปดูว่าใครมา

    ดีโอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาเดินไปดูแต่ยังไม่ได้เปิดประตู

    “ใครครับ” ดีโอค่อนข้างระวังตัว

    “เซมีค่ะ!!

    “ใครนะครับ?”

    “เซมีจ้า!!

    “เพื่อนพีโอหรอครับ?”

    “พีโอ? ใครน่ะ...”

    “อ่าว แล้วไม่ทราบมาหาใครครับ?”

    “มาหาดีโอค่า”

    ดีโอทำตาโตด้วยความแปลกใจ เขาไม่เคยรู้จักคนที่ชื่อเซมีมาก่อนนี่นา

    “ขอโทษนะครับ ผมไม่คุ้นชื่อคุณเลย”

    “อ๋อค่ะ คือเดี๋ยวเราก็จะรู้จักกัน ช่วยเปิดประตูให้หน่อยได้มั้ยค่ะ?”

    “เอ่อ...คือ”

    “นายคือดีโอใช่มั้ย?”

    ดีโอไม่มีทางเลือก เขาค่อยๆแง้มประตูเข้ามา  เผยให้เห็นเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเขายืนฉีกยิ้มอย่างจริงใจให้ เธอแต่งตัวมาแบบจัดเต็มมาก ขัดกับสภาพในชนบทนี้เหลือเกิน ดีโอมองสำรวจตัวเธออย่างระมัดระวัง เหลือบไปเห็นกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ข้างๆ

    “ขอเข้าไปนะ” เซมีกระโดดเข้าไปทันที

    “เอ่อ คือ...”

    “ดีโอ นายอยู่กับ ตากับยายและพโยลูกของป้าสินะ”

    ดีโอทำหน้านิ่ง แต่ในใจนี่คือตกใจมาก “เธอรู้ได้ยังไง แล้วเธอเป็นใคร?”

    “เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟังนะ มีอะไรให้กินรองท้องก่อนมั้ยอ่ะ ยังไม่ได้กินอะไรเลย”

    ดีโอมองเธออย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็ยอมพาเธอเข้าไปในบ้าน เซมีกระโจนไปร่วมโต๊ะอาหารทันที พโยสะดุ้งจนสำลักข้าว ตากับยายมองเธอแล้วยิ้ม ยายถามดีโอว่า

    “เพื่อนหรอดีโอ เธอน่ารักดีนะ”

    “เอ่อ...” ดีโอไม่รู้จะตอบยังไง

    “ยายค่ะ ขอหนูกินข้าวด้วยคนนะค่ะ” เซมีสุดจะทนจริงๆ เธอรีบเดินทางมากจนไม่ได้แวะกินอะไรเลยตั้งแต่เช้ามืด ทำให้เธอหิวจนตาลาย มารยาทก็มารยาทละ กินไม่ได้ซะหน่อย

    “เอาสิหลาน ตามสบายเลย” ยายดีโอยิ้มอย่างใจดีและพูดอย่างเอ็นดูเซมี

    ดีโอทั้งอึ้งทั้งงงกับการกระทำที่หน้าด้านของเซมี เธอบอกขอบคุณตากับยายและตักข้าวให้ตัวเองกินทันที

    เมือทานข้าวเสร็จแล้วเซมีก็อาสาล้างจานให้ ระหว่างนั้นพโยก็ลากดีโอไปคุยให้ห้องนอนแบบลับๆ

    “ใครน่ะพี่! น่ารักจัง แฟนหรอ!

    “จะบ้าหรอ! ฉันเคยคบใครที่ไหนละ! เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันเนี่ย!

    “เอ่า! แล้วมาบ้านเราทำไม”

    “ไม่รู้! เธอบอกมาหาฉัน แต่ฉันไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ!

    “โหววว หรือว่าเธอจะเป็นแฟนคลับพี่?”

    “ไปกันใหญ่ละ พอเลยๆ”

    ดีโอและพโยแอบไปดูเธอล้างจานกับยาย เหมือนเธอจะคุยกันถูกคอกับยายด้วย ดีโอเริ่มเห็นลางไม่ดี เขากลับไปอยู่ในห้องตัวเองและครุ่นคิด

    เธอรู้จักเราได้ยังไง เราเคยมีเพื่อนผู้หญิงแบบนี้ด้วยหรอ? เราไม่เคยคบใครเลยด้วยซ้ำ ทำไมอยู่ๆถึงรู้จักเราได้ละ? อยู่เงียบๆแล้วแท้ๆทำไมถึงได้-

    “จ๊ะเอ๊!” เซมีกระโจนเข้ามาในห้องดีโอแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า พร้อมแบกกระเป๋าใบยักษ์นั้นมาด้วย

    “เฮ้ย! ขะเข้ามาทำไมเนี่ย”

    “ฉันบอกยายนายแล้วว่าจะค้างที่นี่ซักวันสองวัน”

    “หา? ทำไม?” ดีโอตกใจ อยู่ๆเซมีก็บุกและพรวดเข้ามาพร้อมประโยคนั้น

    “ยายนายบอกให้ฉันมาอยู่กับนายน่ะ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน”

    “เฮ้ย! เดี๋ยวๆๆๆ” เขาเริ่มตามสถานการณ์ไม่ทัน

    “ยายนายน่ารักมากเลย ใจดี๊ใจดี”

    “นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ” ดีโอหมดความอดทน หน้าเขาดูจริงจังมาก และเหมือนจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้วด้วย “เธอเป็นใคร? แล้วมาที่นี่ทำไม?”

    เซมีเห็นท่าไม่ดีเลยผ่อนเสียงตัวเองลง “ฉันมาช่วยนาย...”

    “ช่วยอะไร? ฉันไม่ได้ลำบากอะไร?” เขาโต้กลับมาอย่างรวดเร็ว

    “คือฉันเป็น...”

    “รู้มั้ยว่าการที่บุกเข้ามาในบ้านคนอื่นแบบนี้มันเรียกว่าอะไร?” ดีโอเดือดจริงๆ

    “ขะขอโทษ...”

    “แถมมาแล้วก็ทำเป็นรู้จักฉันดี แล้วยังจะมานอนค้างในห้องอีก”

    “.....”

    “เธอเป็นใคร? มาจากไหน? มีจุดประสงค์อะไร? บอกฉันมานะ ไม่งั้นฉันไล่เธอออกจากบ้านแน่” ดีโอโมโหจัด เขาเริ่มหายใจแรง

    “ใจเย็นๆนะดีโอ คือ คือ ฉันชื่อเซมี มาจากองค์กรลับ คือ คือ องค์กร...องค์กรอะไรไม่รู้คือ..คือมันไม่มีชื่อน่ะ ปกติแล้วเราจะเรียกกันว่าปราสาทเฉยๆ คือ..คือ ฉันจะมาช่วยนาย ฉันอยากจะรู้จักและเป็นเพื่อนกับนาย คือ.. คือ.. ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายโกรธนะ แต่..แต่ว่า นายช่วยสงบอารมณ์และ...และ ช่วยวางหนังสือกับของพวกนั้นลงด้วยได้มั้ย? ลอยอยู่แบบนี้เห็นแล้วขนลุกน่ะ”

    ดีโอไม่ทันได้สังเกตว่าการที่เขาโกรธนั้นทำให้พลังของเขาตื่นตัว มันทำให้หนังสือและสมุดบนโต๊ะและสิ่งของต่างๆในห้องลอยค้างเติ่งอยู่บนอากาศ เขาตกใจรีบทำให้มันกลับเป็นปกติ ทุกๆอย่างร่วงลงพื้นพร๊วดอย่างไม่เป็นระเบียบ สถาพห้องรกและดูไม่ได้ทันที เขารีบหันไปมองเซมีเพื่อดูปฏิกิริยาเธออย่างรวดเร็ว

    “ไม่ต้องห่วง ฉันรู้แล้วว่านายมีพลังแบบนั้น”

    ดีโอทำตาโต เขาตกใจจนออกหน้าออกตา “หมายความว่าไง?”

    “ใจเย็นๆก่อนนะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”

    เซมีบอกรายละเอียดเกี่ยวกับจุดประสงค์ในองค์กรของเธอให้ดีโอฟัง แต่ดีโอก็ยังไม่วายที่จะไม่ใว้ใจในทันที เขายังกั้นกำแพงไม่ให้เซมีเข้าใกล้ เซมีเห็นท่าไม่ดี ต้องเว้นช่างว่างให้เขาได้คิดหน่อยแล้ว

    “เราออกไปเดินเล่นกันมั้ย?” เซมีชวนทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ไป

    “ไม่เป็นไร ฉันขออยู่ในนี้แหละ”

    “งั้นฉันจะออกไปเดินเล่นนะ แล้วนายก็คิดเรื่องที่ฉันเล่าไปให้ดีๆละกัน ไม่ต้องรีบนะฉันให้เวลานายเต็มที่”

     

    แล้วเซมีก็ออกไปเดินเล่นข้างนอกกับยายของดีโอแทน

     

    เวลา 23.00 น.

    “ดีโอ” อยู่ๆยายก็เข้ามาในห้องดีโอ

    “ครับยาย?” ดีโอรีบลุกขึ้นไปหายาย

    “เซมีไม่อยู่ที่นี่หรอจ๊ะ?”

    “หือ? ผมเห็นเธอออกไปเดินเล่นกับยายไม่ใช่หรอครับ?”

    “เราเลิกเดินเล่นกันตั้งแต่สี่โมงเย็นแล้วหลาน”

    “หรอครับ? ผมยังไม่เห็นเธอเลย”

    “ดีโอ เพื่อนหลานยังอยู่ข้างนอกนะ” ยายทำเสียงเป็นห่วง

    “ครับ?”

    “ไม่ออกไปตามหน่อยหรอ ยายเป็นห่วงเธอจัง”

    “เดี๋ยวก็คงกลับมาเองแหละครับ”

    “ไปๆ ออกไปตามมาหน่อยนะ ยายไม่สบายใจเลย”

    ดีโอไม่เคยขัดคำสั่งของยาย เขาหาไฟฉายและเดินออกไปหาเซมี มันทำให้เขาหงุดหงิดอยู่สมควรเลยละ ใครไม่รู้ อยู่ๆก็มาทำให้ลำบาก เขาเดินไปตามเส้นทางแคบๆและค่อนข้างมืดในหมู่บ้าน ไฟตามถนนยังมีไม่มากพอจะให้แสงสว่างได้ทั่วเส้นทาง

    “เซมี” ดีโอเรียกเบาๆ เหมือนขี้เกียจหา “เซมี” เขาเดินบ่นไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกหนาวๆเย็นๆแปลกๆ เขาเดินมาถึงทางแยกระหว่างทางไปในป่ากับทางไปในเมืองใหญ่...

    ถ้าเซมีเดินเข้าในเมืองเธออาจจะหาทางกลับได้โดยการถามคนแถวนั้น...

    หรือไม่ก็เธออาจไม่ได้หลงทาง เธอแค่เดินเที่ยวไปเรื่อยเปื่อย...

    ลางของดีโอบอกให้เขาเดินเข้าไปในป่า...มันอาจจะดูไม่เป็นป่าใหญ่เหมือนบนภูเขา แต่มันก็ถือว่าเป็นป่าที่มีต้นไม้เรียงรายและไม่มีสิ่งปลูกสร้างในนั้น เขาเดินเข้าไปตามทางเล็กๆ ที่ไร้แสงไฟ

    “เซมี” ดีโอเริ่มเรียกหาเธออีกครั้ง “เซมี อยู่มั้ย”

    เขาเดินลึกลงไปเรื่อยๆ จนหันหลังกลับไปแล้วไม่เห็นแสงไฟ...ใจเขาก็แอบหวั่นๆอยู่ แต่เขาต้องหาเซมีให้เจอ ลางเขาบอกว่าเธออยู่ในนี้

    ป่าที่นี่ตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรนะ แต่ทำไมตกดึกแล้วสยองชะมัด เซมีนะ เซมี...

    เขาเริ่มเดินช้าลงเรื่อยๆ แสงไฟจากไฟฉายเล็กนี้เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเลย

    “เซมี” เขายังคงเรียกชื่อเธอ “เซมี...ถ้าเธอไม่อยู่ก็-

    เขาต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้...ร้องไห้เบาๆ...แต่ก็สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าอันหนักอึ้งในเสียงนั้น

    “เซมี!” ดีโอคิดว่าเป็นเธอแน่ๆ เขาตะโกนและมองไปรอบๆ “เซมี! นั่นเธอใช่มั้ย?!

    เสียงร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆ...ในขณะที่เขาไม่ได้ขยับไปไหนเลย

    “เซมี!” คราวนี้เขาแค่ต้องการเพื่อน...เพื่อนที่เป็นคน เขาเริ่มรู้สึกว่านี่มันแปลกๆแล้ว บรรยากาศก็หนาวเกินไป แถมขนลุกไปทั้งตัว

    “เซมี! เธออยู่ไหนน่ะ!” ดีโอหันกลับไปทางเดิมช้าๆ เขากำลังจะกลับเข้าไปในหมู่บ้าน “เซมี ถ้าเธอไม่อยู่ฉันจะกลับแล้วนะ!” เขาเตือนเป็นครั้งสุดท้าย

    แซ่ก...แซ่ก...

    เสียงคนเดินในพุ่มหญ้า และเป็นพุ่มใกล้ๆด้วย ดีโอรวบรวมความกล้าส่องไปตรงนั้นทันที

    “เซมี!” เป็นเซมีจริงๆด้วย เธอยืนนิ่งและมองตรงไปข้างหน้า...แถมสายตาเธอเหม่อลอยมาก เหม่อจนเหมือนไม่ใช่ตัวของเธอ...ดีโอเข้าไปหาใกล้ๆและเขย่าตัวเธอเบาๆ

    “เซมี” เขาเรียกให้สติเซมีกลับมา ดีโอรู้ทันทีว่าอาการแบบนี้มันไม่ปกติแล้ว เซมีไม่ตอบ สายตาของเธอยังเหม่อลอย...เหมือนโดนอะไรเข้าสิง...

    ดีโอพยายามไม่คิดอะไรให้มาก เขาจับแขนเซมีกะจะลากเธอกลับไปพร้อมกัน

    “ดีโอ...” เสียงเล็ดลอดออกมาจากปากเซมีเบาๆ “ดีโอ...”

    ดีโอหันไปมองเธออย่างหวั่นๆ “มีอะไร”

    “อย่าไป...” เสียงเธอเบาแทบกระซิบ

    “ไปไหน...” ดีโอพยายามลากเธอกลับไประหว่างที่คุยกันอยู่ แต่อยู่ๆเซมีก็กระชากแขนตัวเองกลับไปอย่างรุนแรง ดีโอสะดุ้งโหยงจนเผลอก้าวเท้าให้ห่างออกไป2เมตร

    “อยู่กับฉัน...” เซมีกระซิบอีกครั้ง “อย่าไปกับเธอ....”

    คราวนี้ดีโอมั่นใจทันทีว่านั้นไม่ใช่เซมีแน่ๆ และเธอ ที่เซมีหมายถึงก็คือเซมี...แสดงว่าตอนนี้มีใคร...หรืออะไรบางอย่างอยู่ในตัวเธอ...และกำลังใช้งานตัวเธออยู่

    “ทำไมละ” ดีโอรวบรวมความกล้าพูดออกไปในที่สุด

    “ฉันรักนาย”

    ดีโอแทบหยุดหายใจ...นี่เขาไปทำให้ใครหลงรักได้ยังไง...แถม...ไม่ใช่ใครสิ...

    “เธอเป็นใคร” ดีโอถาม

    “ฉัน...” ปากเธอขยับช้าๆ “ฉัน...ฉันอยู่มานาน...นานเกินไป...”

    ดีโอไม่เข้าใจ...ถึงเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยได้เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก แต่ดีโอก็สามารถรับมือกับมันได้ เพราะพโย...น้องชายของเขา มักจะสัมผัสอะไรแบบนี้ได้เสมอ...และพโยมักจะเล่าให้ดีโอฟังอยู่บ่อยๆ ดีโอนึกออกแล้ว! หรือว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ที่พโยมักจะบอกกับเขาอยู่เสมอว่า มีคนตาม... แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ เพราะเขาคิดว่าพโยล้อเล่น

    “ช่วยฉันด้วย...” เธอพูดอีกครั้ง ดีโอสังเกตเห็นว่าเซมี ไม่ใช่สิ ร่างของเซมีกำลังสั่นสะท้านนิดๆและเหงื่อเธอผุดออกมาจนสังเกตได้ “ดีโอ...ฉันรักนายเหลือเกิน...ช่วยฉันด้วย”

    ดีโอเห็นท่าไม่ดีแล้ว..เซมีค่อยๆขยับก้าวเข้าไปใกล้ดีโอ ดีโอนิ่ง เขากำลังคิดว่าจะทำยังไง จะช่วยเซมีหรือจะช่วยตัวเองก่อนดี

    “ดีโอ” เซมียื่นแขนออกไปหาเขาช้าๆ... ”ดีโอ อย่ากลัวฉันเลย...”

    ไม่ทันละ เหงื่อดีโอผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เขากลืนน้ำลาย รอดูสถานการณ์อย่างกล้าๆกลัวๆ สักพักเซมีหยุดเคลื่อนไหวเอาดื้อๆ แขนเธอค้างทำมุม90องศาพอดี ดีโอจ้องดูอย่างเอาเป็นเอาตาย จู่ๆเซมีก็โซซัดโซเซ เหมือนจะล้ม...ดีโอเข้าไปจับแขนเธอไว้และประคองตัวเธอ

    “เซมี” ดีโอเรียกสติ “เซมีเป็นอะไรน่ะ”

    เซมีเริ่มหอบ ร่างกายเธอปวกเปียกในทันได แรงยืนแทบไม่มี ดีโอตัดสินใจอุ้มเธอแบบเจ้าหญิงและวิ่งหน้าตั้งกลับไปยังหมู่บ้าน

    เมื่อถึงบ้านเขากุลีกุจอพุ่งไปที่ห้องพโยทันที พโยสะดุ้งตื่นมาดูสถานการณ์และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพของเซมี

    “นี่เธอโดนผีเข้าหรอ” น้องชายดีโอเดาถูกเป๊ะ “ไปทำอะไรกันมา”

    “ไม่รู้” ดีโอตอบ เขาวางเซมีลงบนที่นอนพโย ไม่ทันที่เขาจะเรียกและปลุกเธอให้ตื่น เซมีก็ลืมตาขึ้นและลุกมานั่งเหมือนปกติ เหมือนเธอไม่ได้เจออะไรมา และเหมือนเธอไม่ได้งงไม่ได้สงสัยอะไรเลยด้วย เธอมองดีโอและพโยสลับไปมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    “นี่ครั้งแรก” เธอเอ่ยต่อ “ที่ฉันโดนผีสิง”

    ดีโอกับพีโอมองหน้ากัน และรอให้เธอเล่าต่อไป

    “ดีโอ...” เธอหันไปจ้องดีโอ “เธอขู่ว่าจะทำร้ายฉัน ถ้านายไปกับฉัน”

    ทั้งพีโอและดีโอสะดุ้งโหยง

    “ตอนนี้...เธอก็อยู่กับเรานะ”

    พีโอกระโดดกอดพี่ชายตัวเองทันที ถึงเขาจะเจอมาเยอะ แต่เขาก็เจอแค่ผ่านๆไม่ได้มีปฎิสัมพันธ์อะไรด้วย

    “ฉันว่าละ...” พีโอพึมพำ “รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ข้างหลัง...แต่ไม่อยากหันไปมอง”

    “เธอ” เซมีกำลังคุยกับเธอคนนั้น “ตอนแรกฉันกลัวเธอจนฉี่แทบจะแตกแหนะ”

    เซมีค่อยๆลุกขึ้นยืนเหมือนกำลังจะท้าสู้ ดีโออยากรู้ เขาอยากเห็น...เขาตัดสินใจหันไปมองข้างหลังช้าๆ และเห็นจริงๆด้วย! เป็นผู้หญิงอยู่ในช่วงวัยรุ่น...ผมสั้นสีดำสนิท ตาที่ไร้เงา ใบหน้าอันซีดขาวเหมือนกระดาษ และสวมชุดนักเรียนสมัยก่อน แต่เธอดูไม่สยองเท่าไหร่ ดีโอเลยกล้าที่จะยืนขึ้นไปมองเธอตรงๆ พีโอกลับกลัวยิ่งกว่า เขามุดเข้าไปใต้ผ้าห่มและปิดหูตัวเองแน่นเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วบนโลกใบนี้

    “ฉันไม่ให้เขาไป” เสียงของเธอดูแข็งกร้าวกว่าเมื่อกี้มาก “เขาต้องอยู่ที่นี่!

    “จะให้อยู่กับผีอย่างเธอเนี่ยนะ!” เซมีโต้กลับไปจนดีโอยังสะดุ้ง “อีกอย่าง เป็นป้าแล้วไม่ใช่หรอ!

    ผีสาวกรีดร้องโหยหวนจนดีโอต้องอุดหูด้วยความสะพรึง

    “เธอเรียกฉันป้าหรอ!!! ผีสาวชี้หน้าเซมีกะเอาตาย

    “เออสิป้า ป้าตายมาแล้ว30ปีนะ ยังจะมาอยู่ในร่างเด็กอีก สงสัยหรอ? ทำไมฉันถึงรู้? ก็ตอนป้าเข้าสิงร่างฉันน่ะ ฉันมองเห็นอดีตป้าด้วยนะ รู้ด้วยว่าป้ากรี๊ดผู้ชายจนตาย”

    “กรี๊ดดดดดดดดด” เธอโหยหวนอีกครั้ง คราวนี้เซมีปิดหูมั่ง

    “โอ้ยป้า! เสียงดัง! ตายแล้วก็อยู่เงียบๆสิ”

    “มันจะมากไปแล้ว!!เธอโมโหและพุ่งตรงเข้าไปหาเซมี แต่ว่าทะลุผ่านเฉย...

    “นี่ป้า ฉันไม่ยอมให้ป้าเข้าสิงฉันแล้วนะ” เซมียืนท้าวสะเอวสบายๆ “แล้วก็นะป้า ที่บอกรักดีโอนี่ไม่มากไปหน่อยหรอ? ดีโอเขาเพิ่ง20เองนะ ป้านี่40ปลายๆได้แล้วมั้ง กินเด็กน่ะได้อยู่หรอก แต่นี่ครึ่งนึงเลยนะ อ้อ ที่สำคัญป้าตายไปแล้วด้วย”

    “หยุดนะ!

    “ป้า ทำไมป้าไปไม่ที่ชอบๆละ มาติดอยู่ที่นี่ทำไม? เออ ความจริงป้าไม่ได้รักดีโอซะหน่อย ป้ารักตาของเขาที่อยู่บ้านหลังนี้ต่างหาก ใช่มั้ยละ?”

    ดีโอแอบสังเกตเห็นใบหน้าซีดๆนั้นอมแดงนิดหน่อย แถมเธอก็ทำท่าเขินอายเล็กน้อยก่อนจะเชิดอย่างหยิ่งยโส

    “คนคนนั้นฉันตัดใจไปได้นานแล้วยะ”

    “ชินเฮ...” จู่ๆคุณตาของดีโอก็เข้ามาในห้อง “อีกแล้วหรอ”

    ทำเอาทุกๆคนทุกๆสรรพสิ่งหยุดหายใจและหยุดนิ่ง

    “อย่าทำแบบนี้เลย” คุณตาพูดต่อไป “รบกวนเด็กๆเขา ปล่อยเด็กๆเขาไปเถอะ”

    “นายจะไปรู้อะไรละ! นายมีคนใหม่แล้วนี่”

    “แต่ตอนที่เธอตาย เธอก็ตายเพราะผู้ชายคนอื่นไม่ใช่หรอ”

    เงิบกันเลย...เงิบกันทั้งคนทั้งผี เซมีเดินไปหลบหลังดีโอเพื่อกลั้นหัวเราะ

    “โอ้ย คนพวกนี้น่าเบื่อจริงๆ ไม่กลัวผีกันแล้วหรอ!เธอกลบเกลื่อนความอายด้วยการเปลี่ยนเรื่อง

    “ชินเฮ...ดึกแล้ว เด็กๆเขาจะนอนนะ” คุณตาโน้มน้าวให้เธอไป

    “ก็ได้ๆ ฉันกลับละ...เชอะ! ยัยเซมี ฝากไว้ก่อนเถอะ”

    “อะไรป้า! เราไม่ได้รุ่นเดียวกันซะหน่อย อย่ามาเรียกเซมีเฉยๆสิ”

    “เด็กนี่ อย่าได้เผลอนะ จะเข้าสิงซะให้เข็ด”

    “โธ่ ที่ป้าเข้าสิงได้เพราะเมื่อกี้ฉันหลงทางจิตเลยตกไปนิดหน่อย บวกกับใบหน้าขาวๆเหมือนโบ๊ะบีบีมาผิดเบอร์ของป้าด้วย ทำเอาฉันหัวใจแทบวายแหนะ”

    “เดี๋ยวเถอะยะ! แล้วไม่นานเธอจางหายไปในอากาศ

    ถึงจะเป็นผีที่ไม่ได้ทำร้ายใครแต่ดีโอก็ยังขนลุกไม่หาย เซมีถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะขอบคุณและขอโทษคุณตาที่หาเรื่องมาให้ปวดหัว ก่อนจะกลับมาเข้าเรื่องดีโอ

    “ตกลงนายจะไปกับฉันมั้ย?”

    “ไป” เขาตอบแทบจะทันที

    “หรอ...เฮ้ย! ทำไมง่ายจัง”

    “ฉันไม่อยากอยู่กับผีน่ะ”

    “นายกลัวผีหรอ”

    “ก็นิดหน่อย มั้ง...”

    “จริงหรอ?”

    “ตอนแรกฉันคิดว่าฉันไปไม่ได้เพราะฉันจะต้องดูแลตากับยาย แต่ว่าฉัน...”

    “ไม่เป็นไรพี่” พีโอผุดขึ้นมาจากผ้าห่ม “ผมยังอยู่”

    ดีโอหันไปมองน้องชายตัวเองด้วยสีหน้าเป็นกังวล

    “พี่ขอโทษนะ” ดีโอบอกน้องชายตัวโต “พี่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องคิด”

    “ผมเข้าใจดี ความจริง...ตากับยายเขาจะบังคับให้พี่ไปอยู่คนเดียวแล้วนะ พี่ก็รู้ ตากับยายเขาไม่ชอบให้มีคนมาเป็นห่วง ก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่กันสองคนไง แต่ผมกับพี่ก็ยังตามพวกเขามาอีกจนได้ ความจริงมันติดอยู่ที่ผมเนี่ยแหละ ผมยังไม่อยากให้พี่ไป” พูดถึงตรงนี้เสียงพีโอก็เริ่มสั่น “แต่พอเซมีมา...ผมรู้เลยว่าพี่ตื่นเต้นมากแค่ไหน พี่น่ะมีอะไรก็ไม่เคยบอกใครหรอก เอาแต่เก็บไว้คนเดียว ผมรู้ว่าพี่มีเรื่องกับทางบ้านมา ก็เลยหนีมาอยู่ที่นี่...แต่ผมไม่รู้รายละเอียดหรอกนะครับ”

    “พีโอ...พี่อยากจะบอกเรื่องทุกๆอย่างให้ฟังหมดนะ แต่พี่”

    “ผมเข้าใจ พี่กลัวว่าผมจะรับไม่ได้ใช่มั้ย? ช่างมันเถอะครับ ผมเองก็ยังกลัวเลยว่าเรื่องที่พี่เจอมามันจะหนักหนาจนผมจะทนฟังได้หรือเปล่า? แฮะๆ ขอโทษนะครับ ผมมันไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่เลย”

    “อืม ถ้านายเข้าใจพี่ก็สบายใจแล้วละ”

    “แต่ผมขอร้องอะไรพี่อยู่อย่างนึงสิ”

    “อะไร?”

    “เป็นตัวของตัวเองให้ได้นะ แล้วอย่าทำให้ตัวเองต้องลำบากเพราะคนอื่นอีกนะ”

    ดีโอหัวเราะเล็กน้อย “อืม ได้สิ ตกลง” แล้วเขาสองคนก็กอดกัน มันทำให้เซมีคิดถึงน้องชายตัวเล็กๆของเธอ...น้องชายผิวสีแทนที่มีรอยยิ้มดั่งดวงตะวันของเธอ ไค..เธอคิดถึงไคเหลือเกิน อยากกอดเขาเหมือนที่ดีโอกอดพีโอบ้าง

     

    เช้าวันต่อมา ณ สนามบิน

    “เร็วๆ!” ดีโอเร่งเซมีให้ก้าวยาวๆเพราะเธอมัวแต่โอ้เอ้เลือกของฝากไปให้ซูโฮ จนจะตกเครื่องอยู่แล้ว “จะทันมั้ยเนี่ย”

    “ใครไม่ทัน”

    “เรานี่ไง!!

    “ไม่ใช่!!

    “อะไรของเธอ?”

    “ใครไม่ทัน แต่ คิมทัน” และเธอก็ระเบิดหัวเราะออกมากลางสนามบิน

    “อย่าเล่นอีกนะขอร้องละ ซีรีย์เขาจบไปนานละ” ดีโอตบมุกหน้าตายสุดๆ

    ระหว่างที่กำลังรีบๆอยู่นั้น จู่ๆก็มีการ์ดใส่ชุดสูทมาล้อมพวกเขาไว้ ดีโอทำตาโตด้วยความตกใจ แต่เซมีหันไปทักทายการ์ดอย่างสนิทสนม

    “ว่าไงแว่นดำ1 สบายดีนะ? ได้ข่าวว่าเพิ่งคบกันคนใหม่ใช่ปะ? ยินดีด้วยน๊า”

    และก็หันไปคุยกับอีกคน “เอ๊า แว่นดำ3ก็มาหรอ ปกติเห็นติดงานหลักประจำนี่วันนี้มาไงเนี่ย”

    “เซมี” เสียงอันคุ้นเคยเรียกเธอให้หันไปมอง ซูโฮนั่นเอง เขายืนโบกมืออยู่ข้างหลัง เซมีวิ่งเข้าไปกอดเขาด้วยความดีใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจากซูโฮมาไกลขนาดนี้ ถึงจะแค่ระยะเวลาสั้นๆก็ตาม “มาได้ไงเนี่ย”

    “มาเหมือนเธอนั้นแหละ” เขาหันไปมองดีโอ “ภารกิจสำเร็จเร็วจังนะ” เขาชมเซมีพลางลูบหัวเธออย่างเอ็นดู

    “แน่นอนคนมันเก่ง”

    “งั้นเริ่มคนต่อไปเลยดีปะ?”

    “หือ? แล้วไม่พาดีโอกลับปราสาทก่อนหรอ?”

    “ไม่จำเป็น” เขาหันไปยิ้มให้ดีโอ “ที่ให้มาหาเขาก่อน ก็เพราะจะให้เขาไปทำภารกิจกับเธอเนี่ยแหละ”

    “หา?”

    “ไม่ต้องงงอะไรหรอก เอานี่ข้อมูล” เขายื่นแฟ้มสีดำมาให้เซมี “อ่านให้ละเอียดเลยนะคนเนี่ย เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับดีโอก่อน” ว่าเสร็จเขาก็เดินตรงไปทักทายกับดีโออย่างเป็นมิตร ก่อนจะพาเขาไปนั่งในร้านกาแฟใกล้ๆ เซมียืนเปิดแฟ้มข้อมูลเพื่อดูรายละเอียด

     

    หน้าแรก

    ปาร์ค ชานยอล มนุษย์หมาป่า

     

    เซมีลำสักน้ำลายเมื่อเจอภาพอันหล่อเหลาของชานยอล จากนั้นก็เลื่อนสายตาลงมาอ่านข้อความใต้ภาพ

     

    ร่างมนุษย์ : ปลอดภัย(มั้ง)

    ร่างหมาป่า : อันตราย โปรดระมัดระวัง

     

    “หมายความว่ายังไงกันยะ!! ไอ้มั้งเนี่ย!! กวนทีนหรอ? ให้ลุ้นระทึกเองงั้นเร่อะ!!

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×