คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : EP 19
“มัดชัดขึ้นเนี่ยเห็นมั้ย!” ชานยอลที่พรวดพราดเข้ามาในห้องของอึนมีถกแขนเสื้อโชว์ปานรูปดวงจันทร์ให้เธอดู “มันหมายความว่าไง?” หลังจากที่แบคคยอนส่งข้อความไปให้เขา เขาก็รีบโทรบอกเลย์ให้เลย์บินมารับเขาและไปส่งที่ห้องของอึนมี
“มันหมายความว่าไงค่ะ” อึนมีเองก็ไม่รู้ เธอหันไปถามเลย์ที่กำลังดูปานนั่นเหมือนกัน
“อืม...นายอาจจะเป็นปีเตอร์แพนตัวจริงก็ได้นะชานยอล” เลย์บอก
อึนมีทำตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ แต่ชานยอลดูงุนงง
“มันชัดขึ้นตั้งแต่สองวันที่แล้ว” ชานยอลพูด “ฉันเอาแต่มองมันจนไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกแปลกๆ”
“แบบนี้ต้องลองพิสูจน์ดู” เลย์บอก “นายกับอึนมีต้องพิสูจน์ดูว่ามันจะชัดขึ้นอีกเปล่า ถ้ามันชัดกว่าเดิม...แสดงว่านายมีสิทธิ์ที่จะเป็นปีเตอร์แพนของเธอ”
ทั้งชานยอลกับอึนมีมองหน้ากัน
“ยังไงละค่ะ?”
เลย์ทำหน้าลังเลก่อนเล็กน้อย “สงสัยคงต้องให้อึนมีเข้าฝันชานยอลอีกรอบแล้วละ”
“แต่ฉันเพิ่งออกมาจากความฝันเองนะค่ะ?!” อึนมีค้านและรู้สึกเหนื่อยเหลือเกินกับวิธีนี้
“แต่ถ้าเข้าไปในฝัน..ชานยอลจะจำเรื่องราวในนั้นไม่ได้ด้วยนี่สิ...” เลย์พึมพำคนเดียวพลางเดินไปเดินมา “จะมีวิธีอื่นอีกมั้ยนะ... อ้อ นึกออกละ!”
อึนมีกับชานยอลมองเลย์อย่างตั้งใจ
“แต่มันเอ่อ...ค่อนข้างจะ เอ่อ...นิดหน่อย...” เลย์ว่าพลางเกาหัว “พวกเธอเอ่อ...”
“อะไรค่ะ?” อึนมีทำหน้างง
“พวกเธอต้องนอนกอดกันทั้งคืน...” เลย์พูดขึ้นในที่สุด อึนมีอ้าปากค้าง ชานยอลก็เช่นกัน
“อะไรคือคำว่านอนกอดค่ะ!”
“ไม่ใช่ๆ” เลย์ส่ายหน้า “ไม่ใช่แบบนั้น...คือฉันหมายถึงนอนกอดกันเฉยๆ...สัมผัสใกล้ชิดจะช่วยให้พลังของปีเตอร์แพนตื่นตัวขึ้นได้...แต่ยังไม่หมดแค่นั้น...พวกเธอสองคนต้อง...เอ่อ...ต้องนอนสัมผัสร่างกายเปล่าๆ...คือฉันหมายถึง...เนื้อหนังจริงๆน่ะ แบบว่า...แก้ผ้านอนกันน่ะ”
“อะไรนะค่ะ!” อึนมีตกใจจนเผลอร้องเสียงดัง
“นี่มันไม่มากไปหน่อยหรอเลย์” ชานยอลว่า “ผมกับอึนมีถ้าเราเป็นแฟนกันก็คงทำได้สบายๆ แต่นี่มันไม่ใช่นะครับ ถ้าวิธีพิสูจน์มันจะเลวร้ายขนาดนี้ ก็อย่าทำเลยครับ ผมสงสารอึนมี”
“นั่นสินะ” เลย์เหมือนจะเห็นด้วย “แต่ว่า...ความจริงแล้วทิงเกอร์เบลน่ะ...”
“ได้ค่ะ!” จู่ๆอึนมีก็เปลี่ยนใจ “ฉันจะ...จะ...นอนกับชานยอล”
ทั้งเลย์และชานยอลหันมาทำหน้าไม่อยากเชื่อ ชานยอลขัดทันที “อึนมีไม่ต้อง--”
“ไม่นะชานยอล ลองคิดดูสิ...ถ้าเราพิสูจน์แล้วจู่ๆนายเป็นปีเตอร์แพนจริงๆ เรื่องราวทั้งหมดก็จะจบลงอย่างง่ายดาย...ฉันว่า...ฉันยอมนะ” เธอทำเสียงไม่แน่ใจ “ฉันยอมพิสูจน์”
“เอาละๆ” เลย์สรุปให้ “พวกนายสองคนก็ไม่ต้องคิดมากกันละ แค่นอนกอดกันเฉยๆ” เขาหันไปมองชานยอล “นายทำได้หรือเปล่า?”
ชานยอลลังเลอยู่แปปนึงก่อนจะตัดสินใจหนักแน่น “แน่นอน ทำได้อยู่แล้ว”
“ใช่ ไม่ต้องคิดมาก” อึนมีทวน เธอเองก็หวั่นๆ เรื่องนี้อันตรายอยู่พอสมควรเลยละ...ถ้าชานยอล...เป็นชานยอลแบบในความฝันแล้วละก็...เธอต้องไม่เหลือซากแน่ๆ แต่ชานยอลในโลกความจริงคงไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ... แล้วถ้าดีโอกับแบคคยอนรู้เรื่องนี้ พวกเขาจะว่าเธอยังไง... “ไม่ต้องคิดมากไง...” เธอทวนอีกครั้งแต่สมองยังคงทำงาน
“อึนมี คิดดีๆก็ได้นะ” ชานยอลว่าเมื่อเห็นเธอเริ่มไม่แน่ใจ “ฉันน่ะ ไม่เสียหายอะไรเท่าเธอหรอกนะ”
“อะไรกัน” อึนมีหันไปยิ้มกับเขา “เราแค่นอนกันเฉยๆไม่ใช่หรอ?”
ชานยอลยิ้มตอบกลับมาอย่างโล่งใจเมื่อเห็นเธอมั่นใจขนาดนี้ แสดงว่าเธอก็ใว้ไจเขาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว “แน่นอน เราแค่นอนกันเฉยๆ”
“เอาละ อย่าลืมที่พูดไปนะ สัมผัสร่างกาย...พวกนายต้องกอดกันไว้เข้าใจมั้ยละ” เลย์เตือน “ฉันคงไม่ต้องทนดูหรอกนะว่าพวกนายจะทำในลักษณะไหน หวังว่าจะสำเร็จ อย่าพลาดนะชานยอล”
“ครับ” ชานยอลตอบรับ และเลย์ก็บินจากพวกเขาไปทันที
เกิดความเงียบขึ้นเล็กน้อยก่อนอึนมีจะเดินนำชานยอลไปที่ห้องนอน...เกิดความเกร็งตามขึ้นมา...
“อึนมี” ชานยอลเรียกเธอเบาๆ “ขอโทษจริงๆที่ต้องพูดตรงๆ แต่ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกนะ เชื่อใจฉันสิ”
อึนมีหันไปมองตาชานยอล...ใช่เขาพูดแบบนั้นจริงๆ เธอรู้สึกได้
“ขอบใจนะชานยอล” มันช่วยได้เยอะเลยจริงๆ
“ฉัน...” ชานยอลลังเล “เอ่อ...จะถอดเสื้อแล้วนะ” แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆเขาก็อายจนหน้าแดงเหมือนกัน
“อื้อ...เออชานยอล”
“หือ?”
“เรา...เราแค่สัมผัสกันเฉพาะท่อนบนก็...พอแล้วละ”
“อ่อ...ใช่...น่าจะมากเกินพอละ” ชานยอลเห็นด้วย จากนั้นก็จัดการถอดเสื้อตัวเองออกเผยให้เห็นแผ่นอกหนานั่น เขาทำให้อึนมีเบือนหน้าหนีด้วยความอายเล็กน้อย
“ขอโทษนะ” ชานยอลรีบเอาเสื้อมาปิดไว้ “ไม่ได้ตั้งใจจะ..จะทำให้เอ่อ..”
“ไม่เป็นไรๆ” อึนมีบอกพยายามทำเสียงปกติ “แต่ว่า...นายช่วยลงไปนอนหันหลัง...รอฉันก่อนได้มั้ย...ฉันจะได้...”
“อ๋อ ได้ๆ” ชานยอลรีบโดดลงเตียงก่อนจะคลุมโปงและหันหลังให้เธอได้ปลดเสื้อออก...อึนมีค่อยๆถอดเสื้อและปลดชั้นในออกเผยให้เห็นเนินอกอันขาวนวล เธอรีบปิดหน้าอกตัวเองทั้งๆที่ชานยอลไม่เห็น หน้าแดงจนไม่รู้จะทำยังไง...
“ชะ-ชานยอล อย่าเพิ่งหันมานะ”
“อื้อ”
“ฉัน...ฉันจะลงไปนอนแล้วนะ...”
“ครับ”
“...นอนแล้วนะ...ฉันนอนแล้ว”
“ครับผม...”
“ฉันหันหลังให้นายแล้ว...ชานยอล” อึนมีหลับตาปี๋ทั้งๆที่ชานยอลอยู่ข้างหลังเธอ
“เอ่อ...” ชานยอลพูดพลางหันตัวเองมาทางอึนมี...”ฉะ-ฉันหันมาแล้วนะ...เอ่อ...อึนมี...” เขาหยุดชะงักเมื่อเห็นแผ่นหลังบางที่แสนจะขาวใสของเธอตรงหน้า ชานยอลกลืนน้ำลายลงคอ แผ่นหลังเล็กๆนั่นทำเขาหวั่นไหวเล็กน้อย...มันชวนให้สัมผัสเหลือเกิน
“อื้อ ฉันพร้อมแล้ว” เธอยังคงหลับตาปี๋ “นายเข้ามาได้เลย”
“อะ-โอเค...”
ชานยอลค่อยๆขยับตัวเองเข้าไปใกล้ๆอึนมี และอึนมีก็สัมผัสได้ถึงเตียงที่มันขยับเขยื้อนเพราะแรงของเขา มันทำให้ใจเธอเต้นรัวอย่างตื่นเต้น ชานยอลเขยิบเข้าไปใกล้...ใกล้...และใกล้จนแผ่นอกหนาของเขาชิดกับแผ่นหลังบางของอึนมี อึนมีหลับตาแน่นจนรู้สึกเจ็บและเธอยังกอดตัวเองแน่นเช่นกัน เมื่ออกชานยอลสัมผัสถึงผิวเธอเธอห่อตัวเล็กน้อยด้วยความตกใจ...ชานยอลถึงได้ชะงักไปซักพัก...ก่อนจะ
“ฉะ-ฉัน...” เสียงชานยอลดังขึ้นข้างๆหูของอึนมีจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นๆ “ฉันจะกอดเธอแล้วนะอึนมี...เธอ...โอเคมั้ย?”
“อื้อ...ได้เลย...”
ชานยอลค่อยๆลากมือตัวเองโอบกอดร่างเล็กไว้อย่างแผ่วเบา “ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร...” อึนมียิ่งห่อตัวไปอีก เธอกอดตัวเองแน่น
“โอเคหรือเปล่า?” ชานยอลคลายกอดจากเธอเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอเกร็ง “ฉันว่าเราอย่า—“
“ไม่ๆ ฉันไม่เป็นไร กอดฉันเถอะ...” อึนมีพยายามยืดตัวเองขึ้น...”ไม่เป็นไรจริงๆ”
“แน่ใจนะ” ชานยอลถามด้วยความเป็นห่วง “ถ้างั้น...ฉันขอโทษด้วย” แล้วเขาก็โอบกอดอึนมีให้อ้อมแขนอีกครั้ง...สัมผัสในตอนแรกของเขาทำเอาอึนมีขนลุกไปทั้งตัวแต่เมื่อเขากอดเธอไปนานๆ...มันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย...มันเหมือนรู้สึกได้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย...มันเหมือนกับไม่มีอะไรในโลกนี้จะทำร้ายเธอได้ถ้าเธอยังอยู่ในอ้อมแขนของเขาแบบนี้...มันน่าหลงใหลซะจนอึนมีเกือบเคลิ้มหลับไป
“อะ-อึนมี” ชานยอลเรียกสติเธอ “ฉันสาบานว่าฉันจะไม่ทำอะไร ฉันจะไม่ทำอะไรเธอจริงๆ”
“อื้อ” อึนมีตอบกลับไปและมันทำให้เธอสบายใจมากขึ้นจริงๆ สบายใจจนเธอสามารถยืดตัวนอนได้ตามปกติ...ก่อนจะคลายแขนที่กอดตัวเองอยู่ออกไป...ทำให้ชานยอลรู้ว่าเธอไว้ใจเขามากแค่ไหน
ชานยอลเองเมื่อได้สัมผัสร่างบางใกล้ๆและโอบเธอไว้แบบนี้สติของเขาแทบจะลอยล่องปลิวไปกับสายลม...กลิ่นหอมจากผมของเธอทำให้เขาเคลิ้มจนเกือบต้านทานไว้ไม่ไหวแต่เขาก็สามารถเขาชนะมันได้ด้วยการโอบกอดเธอให้แน่นขึ้นเพื่อระบายความรู้สึกนี้ออกไป...ร่างบางเริ่มเข้าสู่ห้วงนิทรา...เธอหลับใหลทันทีที่เธอคิดว่าชานยอลไว้ใจได้...และชานยอลก็เชื่อในตัวเองเช่นกันว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธอ...ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเธอหลับความเกร็งของเธอก็หายไปด้วย...เวลาเธอขยับร่างกายครั้งนึงชานยอลก็ต้องคลายมือที่กอดไว้เล็กน้อย...เมื่อเธอนิ่งชานยอลจึงจะสวมกอดเธออีกครั้ง...
เขาเริ่มควบคุมอารมณ์ได้แล้ว...เขาเริ่มอยากให้อึนมีอยู่ในอ้อมแขนของเขาแบบนี้ไปนานๆแล้ว...เธอช่างวิเศษกว่าที่ชานยอลคิดไว้...เธอน่าสัมผัสและน่าปกป้องกว่าอะไรทั้งสิ้น...เธอน่าจะอยู่แบบนี้กับเขาไปนานๆ...ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้นชานยอลควานหามือเล็กของอึนมีก่อนจะกุมมือนั้นไว้แน่นและหลับตาลงเพราะความง่วงทันที...
เช้าวันต่อมา
“ชัดขึ้นจริงๆด้วย” เลย์พึมพำและตีหน้าเครียดใส่ปานรูปดวงจันทร์ของชานยอล
“งั้น!” อึนมีทำเสียงตื่นเต้น “แสดงว่าชานยอลคือปีเตอร์แพนสินะค่ะ!!”
“ก็อาจจะ...” เลย์ว่า “พิสูจน์วิธีนี้แสดงว่าได้ผลสินะ ถ้างั้นชานยอลนายกลับไปพักผ่อนได้แล้วละ”
“อื้อ...” ชานยอลหันมายิ้มแนวขอโทษให้อึนมีก่อนจะกลับบ้านตัวเองไป...
“แต่ว่านะอึนมี” เลย์หันมาทำหน้าเครียดทันทีที่ชานยอลออกไป “ไม่ใช่แค่ชานยอลที่มันชัดขึ้น...”
“อะไรนะค่ะ?”
“ฉันเพิ่งไปดูมาน่ะ หลังจากที่เห็นของชานยอลชัดขึ้น ฉันเลยไปดูของคนอื่นๆด้วย เผื่อว่ามันจะจางไปหรืออะไรบ้าง...แต่ว่า....ของดีโอ กับ ลู่หานมันกลับชัดกว่าเดิมนี่สิ..ถึงจะไม่มากเท่าชานยอลวันนี้ แต่เมื่อคืนมันก็ชัดพอๆกับของชานยอลในตอนแรกเลย...”
อึนมียกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ “เป็นไปได้ยังไงค่ะ?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ...เธอเคยนอนกอดกับพวกนั้นด้วยงั้นหรอ?” เลย์ถามอย่างสงสัย
“ค่ะ? กับพี่ลู่หานไม่เคยค่ะ!” อึนมีรีบปฏิเสธ “แต่ดีโอก็...ก็กอดกันธรรมดาๆไม่ได้มีอะไร”
“กอดกันตอนไหน?”
“ก็...เมื่อประมาณเดือนที่แล้วมั้งค่ะ ไม่แน่ใจ”
“แล้วสองสามวันที่ผ่านมานี้ละ ได้นอนกอดกับใครบ้างหรือเปล่า”
“เอ...ไม่นะค่ะ” อึนมีตอบ “ไม่ได้ไปนอนกอดใครเลยจริงๆนะ”
“แปลกแฮะ” เลย์ทำท่าครุ่นคิด “เอาเถอะ...ช่างมันก่อน แต่อีกสองวันนักสำรวจจะลงมากันแล้ว พวกเราต้องเตรียมพร้อม”
“เตรียมอะไรค่ะ?”
“เตรียมโดนคำด่าน่ะสิ”
ความคิดเห็น