คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : สวยสุดๆต้องไม่มีใครนอกจากฉัน
ฉันจีจี้ค่ะ กำลังตกใจอย่างมากที่จู่ๆเมื่อวานนี้พี่แคนดี้ก็มาบอกว่าอาจจะได้เป็นนางเอกเอ็มวีตัวใหม่ของexo ฉันตอบกลับไปแทบจะทันทีเลยว่าไม่เล่น...ไม่เอาเด็ดขาด ไม่เป็นผู้หญิงคนเดียวท่ามกลางผู้ชาย12คนนี้เด็ดขาด... ฉันจะไม่ยอมให้กรกตกับขนมไทยอิจฉาฉันไปมากกว่านี้แล้ว
ฉันกังวลเรื่องเพื่อนไปหรือเปล่านะ? นี่คือโอกาสดีของฉันที่จะได้เปิดตัวและโชว์ผลงาน ถ้าบอกกรกตกับขนมไทยดีๆยัยพวกนั้นอาจจะเชียร์ให้ฉันทำด้วยซ้ำ..แต่ไม่ ไม่ก็คือไม่
ฉันไม่รับงานนี้แน่นอน...ยังไงๆฉันก็ไม่เป็นแน่ๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะกรกตกับขนมไทยที่จะอิจฉาฉันแต่มันรวมถึงผู้หญิงเกือบทั้งโลกเลยต่างหากละ...อซฟ.น่ะมีแค่สิบกว่าคนที่ไหนละ? ฉันจะมีชีวิตต่อได้อย่างไร? ฉันจะใช้ชีวิตท่ามกลางสายตาอันร้อนรุ่มของเหล่าแฟนคลับได้อย่างไรกัน? ถ้าจะให้ทำขอเผาตัวเองตายแทนดีกว่า
และวันนี้ฉันก็เดินตรงมาบอกอีเจ๊ผู้จัดการใหญ่ว่าไม่รับงานนี้เพราะยังไม่พร้อม อีเจ๊ถลึงตาใส่ฉัน ครั้งที่แล้วฉันไม่ยอมลาออกเพราะexo มาครั้งฉันไม่ยอมทำงานกับexo ไม่แปลกหรอกที่เจ๊แกจะงงเหมือนไก่ตาแตกแบบนั้น แต่ถึงยังไงเจ๊แกก็ดีที่ไม่ได้ยื้อและตื้อฉันให้ทำ
“ยังมีคนอื่นที่สวยกว่าเธอตั้งเยอะ ไปๆออกไปได้แล้ว” นี่คือประโยคที่เจ๊กล่าวก่อนฉันจะเดินออกมา
พี่แคนดี้และพี่ซอนอินต่างทำหน้าเสียดายเหมือนฉันไปปฏิเสธรางวัลจากคุณตัน ฉันทำไม่ได้จริงๆนะ ลองคิดดูดีๆสิ เป็นแฟนคลับน่าจะเข้าใจดีว่าการเป็นผู้หญิงอยู่กับเมนของเรามันรู้สึกยังไง ฉันเป็นคนดีมากเลยนะเนี่ย ที่ฉันไม่ยอมเป็นผู้หญิงคนนั้นน่ะ ฉันอาจจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับแบคคยอนแต่ฉันก็ไม่ทำ...คนดีมาก!
วันถ่ายเอ็มวีตัวใหม่ของExo
ขอถอนคำพูดที่ว่าเป็นคนดีทันมั้ย...
อีเด็กผู้หญิงคนนั้นมันเป็นครายยยยย! มันมาเกาะแกะร่างของเมนขนมไทยได้อย่างไร! (ลู่หาน)
ขอธิบายก่อน ฉันได้สิทธิ์พิเศษจากพี่แคนดี้ให้เข้ามาดูการถ่ายทำเอ็มวีของexoได้ โดยใช้กรณี ‘ศึกษาดูงาน’ เข้ามา ฉันไม่ได้มาคนเดียวมีพี่ซอนอินและรุ่นพี่อีกคนมาด้วยเช่นกัน แต่พอฉันเข้ามาในห้องถ่ายทำนี้ความสนใจทั้งหมดก็ถูกเบนไปให้แบคคยอนทันที
ก่อนเริ่มถ่ายเอ็มวีฉันก็แวะไปดูเขาแต่งหน้าแบบใกล้ๆ แทบกระอักเลือดเพราะความหล่อและน่ารักผสมกัน ฉันทนดูเฉยๆไม่ได้จริงๆ แบคคยอนเองก็ทนนั่งให้ฉันจ้องเฉยๆไม่ได้เหมือนกัน เราจึงเสวนากันนิดหน่อย(โดยที่ไม่ได้เกรงใจช่างแต่งหน้าและพี่จงแดที่นั่งข้างๆเลย)
“พี่แบควันนี้ดูแบดบอยดีนะค่ะ” ฉันเริ่มก่อน ไม่ใช่พูดแบบสบายๆนะ หน้านี่แดงเป็นปื้นเลยละ
“แล้วชอบมั้ยละ” แบคคยอนพูดแล้วอมยิ้มเขินจนแก้มป่อง
โอ้ย แม่จ๋าหนูคงไม่ได้แต่งงานกับเขาแล้วละค่ะ หนูขอโทษจริงๆ เพราะหนูจะอกแตกตายตรงนี้แล้ว แม่จ๋า
“บ้า” ฉันลองเขินดูบ้าง ไม่ต้องลองหรอก เขินจริงๆอ่ะ จะให้ตอบว่าอะไรละ? ชอบหรอ? ไม่อ่ะอยากได้เลยต่างหาก มาเป็นของเค้าน๊าแบคคยอน!
“บ้าแล้วชอบมั้ย”
“ไม่ชอบ”
“ทำไมอ่ะ?”
“ไม่ได้ชอบคนบ้า แต่ชอบแบคคยอนต่างหาก”
“ฮ่าๆๆๆ ชอบมากมั้ยน่ะ”
“บ้า”
แบคคยอนหัวเราะจนช่างแต่งหน้าทำเสียงจิ๊จ๊ะเหมือนรำคาญที่แบคอยู่ไม่นิ่ง ฉันจึงรีบก้มหน้าและหัวเราะเบาๆ ส่วนแบคคยอนพยายามกลั้นขำและทำหน้าตายอยู่
โอ้ย คืออยากจะคุยกันมากกว่านี้นะถ้าไม่เกรงใจคนข้างๆ แบคคยอนรุกใส่ขนาดนี้แล้วจะให้ฉันทำตัวเป็นผู้หญิงน่ารักขี้อายอยู่ได้อย่างไรกัน ห้องน้ำเลยมั้ย!
“จีจี้ออกไปเถอะนะ พี่ขอ” เสียงพี่จงแดดังมาเบาๆ เขากำลังหลับตาเพื่อให้ช่างแต่งตาให้เขาอยู่
แบคคยอนหันไปทำตาขวางใส่พี่จงแด ฮือออ ปกป้องฉันด้วยอ่ะ ตายเลยดีมั้ย ตายเลยสิ ตายเลย ฉันหัวเราะใส่พี่จงแดเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ เห็นแบคคยอนแอบส่งวิ้งมาให้ด้วย โอ้ย อย่าทำอีกนะ เดี๋ยวลากเข้าห้องน้ำจริงๆอ่ะ คลั่งแล้วเนี่ยคลั่ง
มาต่อกันที่เด็กผู้หญิงที่ได้เป็นนางเอกเอ็มวี....
เมื่อexoทุกคนแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จแล้วก็เริ่มซ้อมบทกัน...และเด็กผู้หญิงคนนั้นจะได้คู่กับลู่หานส่วนที่เหลือเป็นตัวประกอบให้ได้กันฟินเล็กๆน้อยๆ ดีนะที่แบคคยอนฉันได้เล่นบทเพื่อนสนิทกับชานยอล (แม่ยกชานแบคอย่ากรีดร้อง)
บทก็คือเด็กคนนั้นจะเป็นเด็กที่โดนรังแกจากแก๊งหัวโจกแถวลุ่มแม่น้ำและพี่ลู่จะเข้ามาช่วย ซักพักเพื่อนๆที่เหลือก็เข้ามาช่วยพี่ลู่อีกที...
ตอนนี้ก็เริ่มถ่ายเรื่อยๆแล้ว...
มาถึงฉากที่พี่ลู่โดนต่อยจนหงายลงพื้น เด็กนั่นรีบวิ่งไปร้องห่มร้องไห้บนตัวพี่ลู่...
อีขนมไทย!!!! มึงเตรียมอาวุธให้ครบมือแล้วละ! ไม้เบสบอลตอกตะปู มีดพก ปืนสั้น กระบองหนาม มึงต้องอยากฆ่าใครซักคนแน่ๆอ่ะ โอ้ย ให้ตายเถอะ!
มือบางๆของเด็กคนนั้นกำลังวางอยู่บนอกหนาๆของพี่ลู่! ถ้าเป็นแบคคยอนละก็นะฉันคงไปกระชากมือเธอจนหลุดจากบ่าและสวมร่างเป็นนางเอกเอ็มวีตรงนั้นแหละค่ะ! ไม่ยอม!
มาถึงฉากที่เซฮุน เทา ไค เข้ามาช่วยลู่หาน..ไคเป็นคนดึงร่างเด็กคนนั้นขึ้นมาจากร่างลู่หาน จากนั้นเซฮุนเป็นคนประคองร่างของลู่หานไว้ กรี๊ดค่ะ ไคถามว่า ‘เธอไม่เป็นไรนะ’ คาริสม่าไคเข้าตาเต็มๆเลยค่ะท่านผู้ชม
กรี๊ดค่ะ! จู่ๆไคก็โอบกอดเด็กคนนั้นแน่น ปากก็ขยุบขยับเหมือนจะพูดคำว่า “ผมมาปกป้องคุณแล้ว”
“จีจี” พี่ซอนอินเรียกสติฉัน
ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าทั้งพี่ซอนอินและรุ่นพี่อีกคนจ้องฉันด้วยสายตาเป็นห่วงมาก...สายตาที่เห็นแล้วแบบบอกได้เลยว่า พวกนางสองคนกำลังคิดว่าฉันเป็นบ้าไปแล้ว
“ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้...สบายๆนะ” พี่ซอนอินบอกก่อนจะเดินมาลูบหลังฉันเบาๆ พี่ค่ะหนูไม่ได้ตั้งใจจะมาศึกษาไอการแสดงนี่จริงๆหรอกค่ะ หนูมาเพื่อดูผู้ชายล้วนๆเลย
“ขอโทษค่ะ พอดีอินไปหน่อย” ปากว่าไปอย่างนั้นแหละ แต่สายตาฉันก็ยังจ้องไปที่ร่างของไคกับเด็กคนนั้น...ช่วยคลายกอดกันซักทีได้มั้ย จะกอดอะไรกันนักกันหนา หนาวมากหรอไง? ได้ข่าวว่านี่ซัมเมอร์นะ
“จีจี้” จู่ๆแบคคยอนก็เดินมาหาฉันตอนไหนแล้วไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเขาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว
ฉันรีบละสายตาจากไคและหันมาทำตาเยิ้มใส่แบคคยอนแทน “ว่าไงค่ะ? จะถึงฉากของพี่แล้วหรอ?”
“อื้อ” แบคคยอนตอบพลางยิ้มน่ารัก “เข้าไปถึงก็บู๊เลย ฮะๆ”
“เต็มที่นะค่ะพี่” ฉันยกมือขึ้นมาทำท่าสู้ๆให้เขา
แบคคยอนยิ้มเขินอีกแล้ว โอ้ย หยุดนะ จะลากจริงๆแล้วนะ ถ้าไม่หยุดพี่ไม่ได้ถ่ายเอ็มวีต่อแน่ๆอ่ะ
และแล้วสายตาฉันก็เผลอไปเห็นข้างหลังของแบคคยอนที่กำลังถ่ายฉากดราม่ากันอยู่ เซฮุนกำลังจับแขนเด็กคนนั้นแน่นก่อนจะลากเธอไปข้างหลังและทำท่าเหมือนปกป้องเธอ...ยิ่งไปกว่านั้นคือเด็กคนนั้น...เกาะ..หลังเซฮุนด้วย
“อย่าทำแบบนั้นนะ!!” ฉันเผลอแหกปากออกไปแต่ดีที่เสียงเพลงดังจนกลบเสียงฉันได้ แต่ทว่าแบคคยอนและพี่ซอนอินกับรุ่นพี่หันมามองฉันกันเป็นตาเดียว
แบคคยอนหัวเราะ “ตกลงเมนใครกันแน่เนี่ย”
“ไม่นะพี่!” สงสมองฉันปลิวไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ ฉันจับแขนทั้งสองข้างของเขาแน่นและจ้องเข้าไปในดวงตาเขา เขาอาจจะเขินเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวฉันเห็นว่าเขาอมยิ้มจนแก้มจะแตกแล้ว แต่ฉัน
“พี่ห้ามไปแตะต้องเธอคนนั้นนะ ห้ามเด็ดขาดนะ ฉันไม่ยอม”
แบคคยอนหัวเราะเสียงดังทันที ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ฉันหมายถึงแบบนั้นจริงๆ ฉันไม่ยอม ไม่ยอมอะ แล้วก็
ฉันเหลือบสายตาไปมองเซฮุนอีกที เด็กคนนั้นยังเกาะหลังเซฮุนอยู่ อารมณ์นางมารพุ่งปรี๊ด...งานก็งานละวะแต่เรื่องติ่งมาก่อนงาน! exoของฉันจะต้องไม่โดนนางคนไหนมาทำมิดีมิร้าย?
“ไปบอกเซฮุนด้วยว่าอย่าเผลอใจไปให้เด็กคนนั้น ถึงเธอจะน่ารักมากแต่เซนามีเสน่กว่าเยอะเลย นะพี่แบคนะ”
“อะไรเนี่ย” แบคคยอนยิ่งหัวเราะไปกันใหญ่ “หวงมากขนาดนั้นเลย มีการหวงแทนเพื่อนด้วย”
“นะพี่นะ สัญญาก่อนว่าจะไปบอกเซฮุนแบบนั้น” ฉันทำหน้าอ้อนสุดชีวิต
“ครับ ครับ” แบคคยอนรีบรับคำเพราะเหมือนกำลังจะโดนเรียกตัวให้เข้าฉากแล้ว
“พี่สู้ๆนะ” ฉันเขย่าแขนเขาเบาๆ
ก่อนที่เขาจะเดินจากฉันไป สายตาของแบคคยอนก็ค่อยๆเลื่อนลงมามองแขนฉันและไล่ไปจนถึงมือ...ฉันรีบปล่อยแขนเขาออกด้วยความลืมตัว แต่ว่าเขา
เขาฉวยมือฉันไปจับข้างนึง...จับแบบค่อนข้างแน่น ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เท่เกินจะรับไหวได้ว่า “คอยดูพี่ด้วยนะครับ”
เวลา 22.00 น.
ตอนนี้เหล่าexoออกไปเลี้ยงฉลองกันใหญ่ ส่วนฉันก็เดินยิ้มกลับหอคนเดียว หลังๆมานี้ฉันเดินกลับคนเดียวบ่อยมากเพราะพี่ซอนอินมักจะกลับเร็วเพื่อเตรียมทำกับข้าวให้พวกเรา และหลังจากวันที่ฉันกลับหอไปตีสามครั้งนั้นพี่ซอนอินก็ไม่เคยเป็นห่วงฉันเรื่องนี้อีกเลย
ฉันเดินไปยิ้มไปเพราะวันนี้ได้มีโมเม้นต์กับแบคคยอนเยอะแยะเลย...
แบคคยอนดูผ่านจอแล้วเป็นคนที่น่ารักและตลกเรียกเสียงฮาให้เพื่อนๆได้เสมอ แต่ทว่าความจริงแล้วเขาก็เป็นคนที่อบอุ่นดูเป็นผู้ใหญ่และแอบเจ้าเล่ห์ในสไตล์ผู้ชายนิดๆด้วย
เดินไปบิดไปเหมือนคนไม่เต็มเต็ง แต่ใครสนละ ฉันกำลังมีความสุขนี่นา แบคคยอนนนจ๋า~~~~~~
“มึงสินะที่ได้เป็นนางเอก”
ฉันรีบหลบเข้ามุมตึกทันที...ตายแล้วๆ เดินตัวปลิวจนไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเลย! เสียงนั่นมาจากในซอยมืดๆถัดไปนี่เอง...ฉันควรจะเดินผ่านมันไปและทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรดีมั้ยนะ? ใช่สิ ฉันต้องทำแบบนั้น
“มึงคิดว่าexoจะหลงเสน่มึงหรอ”
อุต๊ะ! เป็นเสียงของผู้หญิง อุ๊ต๊ะ! มีเสียงซับพอร์ตขึ้นมาเต็มเลย! เสียงผู้หญิงทั้งหมดเลยด้วย...หรือว่าจะเป็นซาแซงแฟน?! ฉันรีบเอามืออุดปากตัวเองด้วยความตกใจ
ฉันค่อยๆแง้มเข้าไปในดูในซอยนั้นแหละรีบหลบแทบจะทันที!
เด็กคนนั้น! เด็กที่ได้เป็นนางเอกเอ็มวีวันนี้! กำลังโดนซาแซงแฟนเกือบสิบคนรุมล้อมอยู่! เหมือนในเอ็มวีเป๊ะ! แต่แค่เป็นกลุ่มผู้หญิงล้อมไม่ใช่ผู้ชาย เรื่องนี้ไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาด ฉันต้องเดินผ่านไปเงียบๆ...
ฉันจะเดินผ่านละนะ...หนึ่ง สอง สาม
“มึงบังอาจมาก ทำไมมึงไม่ปฏิเสธ แบบนี้ต้องสั่งสอน”
ทะ-ทำไม...เท้าฉันไม่เดินละ! ฉันต้องไม่เสือกสิ! ฉันต้องเดินผ่านไปนะ ฉันต้องทำเป็นคนไม่รู้เรื่องนะ!
“ร้องไห้หรออีดอก ยังไม่ได้ทำอะไรเลย อ่อนแอชิบหาย”
จีจี้ไม่นะไม่...ห้ามคิดอะไรทั้งนั้น เด็กคนนั้นเขาโชคร้ายเอง ไม่ใช่ความผิดของเธอเลยที่เธอปฏิเสธเรื่องเป็นนางเอกเอ็มวี...เธอไม่ได้ปัดภาระให้เด็กคนนั้นนะจีจี้ เธอไม่ผิด...เธอทำถูกแล้วต่างหาก ถ้าเธอรับงานนั้นไปเธอาจจะต้องมาโดนเหมือนเด็กคนนี้
“มึงอ่ะไม่ดังไง SMก็เลยปล่อยให้มึงได้เป็นนางเอกจะได้โดนพวกกูถล่มแบบสบายๆไม่เป็นข่าว SMก็ฉลาดนี่เนอะพวกเรา!”
“ใช่”
“ช่าย”
“จัดการมันเลย”
“อีพวกหอยหลอด!!” ฉันเองค่ะ เสียงฉันเอง สุดท้ายแล้วก็เท้าฉันก็เดิน เดินไปเข้าไปเสือกในกลุ่มซาแซงจนได้...พวกนางมองฉันตาขวางทุกคนเลย มีมากขนาดนี้ฉันสู้ไม่ไหวหรอก แต่ทำไงได้เดินเข้ามาเสือกแล้วนี่นา
เด็กคนนั้นน่าจะจำฉันได้มั้ง นางส่งสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาใสๆนั่นมาอย่างมีความหวัง...ดูดีๆแล้วเธอก็น่าสงสารนะ ยังเด็กอยู่แท้ๆแต่ต้องมาเจอเหตุการณ์แอนตี้แบบสุดขั้วซะแล้ว
ฉันเดินดุ่ยๆตรงเข้าไปในวงล้อมพวกนั้นก่อนกระชากมือเด็กน้อยออกมาจากวงแต่ทว่า หัวหน้าซาแซงมันดึงมือเด็กคนนั้นไว้
“มึงเป็นใคร อย่ามาเสือก”
ผู้หญิงสมัยนี้พูดจายังกะผู้ชาย คิดว่าเท่นักหรอที่พูดคำหยาบได้น่ะหา? ไม่น่ารักเลย แต่...จะให้ฉันน่ารักกลับมันก็กระไรอยู่นะค่ะ
“ขอโทษนะ พอดีว่าเด็กคนนี้เขาทำงานของเขาสำเร็จแล้ว และควรจะได้กลับบ้านซักที ส่วนพวกเธอน่ะ ดูหนังหน้าแล้วน่าจะมีหัวคิดได้แล้วนะ หัดมีเหตุผลซะบ้างว่าอันไหนงานอันไหนจริง”
พวกมันระเบิดหัวเราะ ฉันใช้จังหวะนี้แหละกระชากมือของเด็กน้อยหลุดจากแขนยัยหัวหน้าซาแซง
ประโยคที่ฉันพูดไปเมื่อกี้เหมือนด่าตัวเองเลยแฮะ...เจ็บจี๊ดเลย
“มึงเป็นใคร? นักแสดงเหมือนกันละสิท่า เหอะ...บอกเลยว่าไม่เกิดหรอกมึงอ่ะ เด็กนี่ไม่ทันไรก็ดับแล้วเห็นปะ? อย่างมึงน่ะเป็นแค่--”
“เสือกไร”
เงียบ...ทั้งวงเงียบและจ้องฉันเขม็ง ฉันค่อยๆดึงตัวเด็กคนนั้นมาแอบข้างหลังเหมือนฉากที่เซฮุนทำตอนถ่ายเอ็มวีเด๊ะ...ฉันว่างานนี้มีลงไม้ลงมือแน่
“พูดไปก็เท่านั้นแหละ มาให้พวกกูลงโทษซะดีๆ”
ซาแซงทั้งหลายค่อยๆคืบคลานเข้ามาหาพวกฉัน ฉันถอยหลังเล็กน้อย...ไม่เคยสู้กับคนมากขนาดนี้แฮะ...จะรอดมั้ยเนี่ยเรา แต่ขอตกลงกันก่อน
“ถ้าลงโทษแล้วจะจบมั้ย?”
หัวหน้าซาแซงแสยะยิ้มก่อนจะตอบ “กล้าขอก็กล้าให้...แต่มึงอ่ะหลบไปกูจะตบนังนั่น แล้วทุกอย่างจะเคลียร์ จะไม่มีข่าวจะไม่มีทวิตไหนพูดถึงเรื่องนี้เลย...จะรู้กันแค่นี้แหละ เป็นแค่ความสะใจส่วนตัว”
เด็กน้อยเริ่มร้องไห้...ทำไมคราบนางฟ้าฉันต้องมาตอนนี้ด้วยนะ
“ไม่ เด็กคนนี้ไม่เกี่ยวทุกอย่างคือความผิดฉันเอง ฉันคือนางเอกตัวจริงแต่ฉันไม่รับงาน เด็กคนนี้เลยรับแทนฉัน...”
“ขอตบมือให้มึงเลยค่ะ” ซาแซงแฟนตบมือให้ฉันเปาะแปะจริงๆ “มึงทำถูกแล้ว เพราะงั้นหลีกไป”
“ไม่ ถ้าทำเด็กคนนี้ฉันก็ทำพวกเธอเหมือนกัน”
“มึงคิดว่าจะสู้พวกกูไหวหรอ?”
“ไม่ไหว”
“งั้นก็หลบไปสิอีดอก ไม่สวยแล้วเสือกเสนอหน้า คิดว่ามึงเป็นนางฟ้าหรอไง! Exoน่ะต้องเป็นของพวกกูเท่านั้น พวกมึงหรือไม่ว่าใครหน้าไหนก็แตะต้องไม่ได้ กูไม่อยากให้อปป้ากูสัมผัสกับร่างสถุลๆของพวกมึง อีกอย่าง exoพวกกูก็ไม่เสนียดชอบพวกมึงหรอก เขารักแฟนคลับของเขาจะตาย เพราะงั้นไม่อยากเจ็บตัวก็หลบ--”
เพี๊ยะ!!!
ฉันตบหน้ายัยนั่นจนล้มคว่ำลงกับพื้นอย่างแรง มีเสียงกรี๊ดตามมาเล็กน้อย ฉันโกรธจนหน้ามืดไปหมดละ ใครจะมาก็มาสู้ยิบตาเลย!!
“เอ็กซ์โซเขาก็เป็นคนนะ! เขาต้องมีคนรักซักวันเขาต้องมีครอบครัว! หัดยอมรับความจริงซะที! รู้ว่ารักมาก รู้ว่าหวงแค่ไหน รู้ว่าอยากได้เขามาครอบครองจนเกินบรรยาย!” ฉันพูดไปน้ำตาก็ไหลไป คิดถึงขนมไทยกับกรกตเหลือเกิน... “แต่ก็ควรรู้ด้วยว่าแฟนคลับก็คือแฟนคลับ! ไม่มีคำว่าสนิทกับศิลปิน! ฉันโชคดีแค่ไหนแล้วที่เขามาชอบฉัน! ฉันมันสมควรตายไปแล้วด้วยซ้ำ! พูดเองก็เจ็บเอง แต่ยังไงๆที่พวกเธอมาดักตบคนอื่นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องปะ! คิดว่าอปป้าพวกเธอจะปลื้มมั้ยถ้ารู้เรื่องนี้เข้า!”
เวลาเดียวกัน...
ฉันกรกตค่ะ ฉันยืนอึ้งกับไลน์ล่าสุดที่เซฮุนส่งมาแก้วในมือฉันร่วงหล่นลงพื้นแตกกระจาย ขนมไทยรีบรุดเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำตาฉันคลอ... นี่ฉันทำอะไรลงไป
เซฮุนส่งมาว่า
พี่ครับ พี่เอาไลน์ผมไปบอกใครหรือเปล่า?
ตอนนี้มีคนแอดมาหาผมเป็นพันแล้วครับ...
ผมมีเพื่อนแค่สองคนจริงๆนะ....ผมมีแค่พี่กับแบคคยอนฮยองเท่านั้น
“กรกต!” ขนมไทยตะโกนเรียกอะไรซักอย่าง...ที่น่าจะเป็นชื่อฉัน
“กรกตมึงเหยียบแก้ว! เลือดไหลแล้ว!” ขนมไทยรีบดึงฉันออกจากเศษแก้วตรงนั้น...
ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลย...เลือดไหลตามทางที่ฉันเดินไปนั่งบนเตียงก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยซักนิด...ในมือกำโทรศัพท์แน่นยังรู้สึกเจ็บกว่า ขนมไทยรีบเข้ามาห้ามเลือดและทำแผลให้ฉัน
ความเชื่อใจระหว่างฉันกับเซฮุนตอนนี้...ได้ขาดสะบั้นลงแล้ว เซฮุนไม่ไว้ฉันอีกต่อไปแล้ว เขาจะไม่คุยกับฉันอีกแล้ว เขาต้องโกรธฉันมาก...เขาต้องเกลียดฉันไปแล้วแน่ๆ...
เมื่อกี้นี่เอง...ก่อนหน้านี้แค่ชั่วโมงเดียวเอง น้องเคโกะ...มาสารภาพทุกอย่างกับฉันเมื่อกี้นี่เอง ฉันไม่โกรธเลย ฉันบอกน้องว่าอย่าทำอีก...ฉันฝากน้องไปบอกเพื่อนด้วยว่าห้ามไปเผยแพร่ที่ไหน...แต่น้องทำแบบนี้ทำไม..น้องประชดฉันหรอ? ความกังวลเรื่องเซฮุนแทนที่ความโกรธจนหมดสิ้น
หลังจากที่ขนมไทยทำแผลให้ฉันเสร็จแล้ว มันก็ฉวยโทรศัพท์ในมือไปดู...และรีบวิ่งตึงตังออกจากห้องไป เดาได้เลยว่า...
ฉันขนมไทย ไม่เคยเกลียดเด็กเท่านี้มาก่อนฉันถือโทรศัพท์กรกตแน่นก่อนจะนึกได้ว่าไม่รู้ห้องที่พวกนางอยู่ก็เลยกดโทรไปถาม...พยายามควบคุมน้ำเสียงให้ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ทว่า
“ฮึก...ฮึก พี่กรกต...หนูขอโทษ...ฮึก”
เสียงเคโกะสะอื้นมาตามสาย ฉันไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้น้องเขาพูดต่อ
“หนู...ตัดขาดจากเพื่อนคนนั้นแล้ว...มัน...มันไม่ยอมฟังหนูเลย มันหลอกใช้หนูให้ไปสารภาพ...เพื่อยืนยันว่าพี่เซฮุนตัวจริงหรือเปล่า...ฮึก...แล้วพอมันรู้...มันก็เอาไปบอกเพื่อนสนิทของมัน...ฮึก...จน...จนกลายเป็นว่าไอดีไลน์ของเซฮุนโดนแพร่กระจายไปทั่วแล้ว...ฮึก หนู...ขอโทษ”
“เพื่อนหนูอยู่ไหน?” ฉันถามรีบๆขาก็เดินฉับๆ ไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหนนะแต่มันอยู่นิ่งไม่ได้
เมื่อเคโกะบอกห้องของน้องคนนั้นฉันก็วิ่งข้ามหอและตรงขึ้นไปห้องน้องทันที
ฉันเคาะห้องเสียงดังมากจนสองสามห้องถัดไปเปิดมาดู แต่ฉันไม่สนใจ...ทำให้ขนมไทยโกรธได้ขนาดนี้สมควรละที่คนอื่นจะได้รับรู้
ฉันเคาะห้องอยู่นานมากกว่าน้องคนนั้น...จะแง้มประตูออกมาสั่นๆ....
ฉันผลักประตูเข้าไปอย่างแรงและปิดประตูตามหลังดังปัง
“น้องทำอะไรลงไป!!!!!” สาบานได้ว่าเสียงฉันได้ยินถึงชั้นบนและล่างถัดไป “เพื่อนพี่กับเซฮุนตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว!!!!”
น้องตัวสั่นหนักกว่าเดิมอีกและไม่ได้พูดอะไรเลยด้วย ฉันรู้ว่าฉันตัวโตมากแค่ไหนและจะยิ่งโตมากขึ้นไปอีกถ้าฉันโมโห
“น้องคิดหรือยังว่านี่มันเป็นการละเมิดสิทธิ์บุคคลน่ะ! ถ้ายังคิดไม่ได้พี่บอกเลยว่าน้องผิดเต็มๆ!!”
น้องเริ่มร้องไห้...
“ไม่ต้องร้อง!” ฉันกระชากแขนน้องเขาเบาๆแต่น้องเขาสะดุ้งโหยง “ไปขอโทษเพื่อนพี่และหยุดเผยแพร่ไอดีนั่นเดี๋ยวนี้!!”
“จีจี้!! ตายแล้วๆ หน้าไปโดนอะไรมา” พี่ซอนอินและรูมเมทต่างพากันตกใจกับใบหน้าของฉันที่มีรอยข่วนรอยมือของคนจำนวนมากมายประทับอยู่
“แฮะๆ มีเรื่องนิดหน่อย แต่ฉันชนะนะค่ะ!”
เชื่อมั้ยว่าซาแซงแฟนพวกนั้นร้องไห้ไปและตบฉันไปด้วย ฉันเองก็เหมือนกันร้องไปสู้ไป ตลกมากจริงๆนะ ฉันพล่ามเรื่องความจริงและสั่งให้พวกนั้นยอมรับซะจนพวกมันคิดได้และเริ่มร้องไห้โฮกันยกใหญ่ แต่ถึงยังงั้นพวกมันก็ยังรุมเข้ามาตบเข้ามาตีฉันเหมือนกัน...ก็ฉันเป็นคนเริ่มก่อนนี่นา ยัยพวกนั้นเลยไม่ยอมให้ฉันได้ตบมันฝ่ายเดียวไง แต่สุดท้ายแล้วพวกเราทั้งหมดก็ร้องไห้จากนั้นก็หมดแรงและตำรวจก็เข้ามาเคลียร์ พวกเราต่างไม่ฟ้องกันและกันเรื่องจึงจบด้วยเหตุชะนี้แล
ส่วนน้องคนนั้นร้องไห้หนักยิ่งกว่าฉันสิบคนรวมกันอีก...แต่เธอไม่โดนอะไรนะ เพราะเธอร้องหนักเกินไปพวกซาแซงเลยไม่กล้าทำอะไรเพราะกลัวเธอตายซะก่อน...แต่ฉันนี่สิ! จะตายจริงๆ!
เรื่องจบไปได้ก็จริงอยู่...แต่กำลังใจฉันก็หดลงไปเยอะเลยนะ...แถมเมื่อกี้ก็เพิ่งโดนรุมมา...รุมฉันคนเดียวไม่มีใครมาช่วยเลยซักคนด้วย...ทั้งตบทั้งตีทั้งกระชากหัว...ฉันคนเดียวเลยที่สู้กับมือหลายๆมือนั้น ถ้ามีเพื่อนอยู่ด้วยถึงแม้จะไม่ชนะแต่ก็ยังอุ่นใจที่คนแพ้เป็นเพื่อน แต่ว่าเพื่อนๆที่อยู่ที่นี่อยากจะลงไม้ลงมือกับใครที่ไหน ขืนทำแบบนั้นก็หมดสวยกันพอดี
พี่ซอนอินทำแผลและบำรุงหน้าให้ฉันเป็นพิเศษ พรุ่งนี้เราตกลงกันว่าจะตื่นเช้ากว่าปกติ ตื่นมาแต่งหน้าเพื่อกลบรอยเล็บให้ฉัน...ฉันซาบซึ้งในความเป็นห่วงของพี่ซอนอินและทุกๆคนมาก
แต่พอพวกนางหลับไปและปิดไฟปุ๊บ...น้ำตาฉันก็นองอีกครั้ง ฉันรีบไปเดินนอกระเบียงและกดโทรหาขนมไทย แค่ได้ยินเสียงยัยนั่นฮัลโหลมาคำเดียว น้ำตาของฉันก็พรั่งพรูไหลเป็นทางทันที...
ฉันขนมไทย อารมณ์ฉันลงแล้วเพราะตอนนี้น้องคนนั้นยืนกวาดเศษแก้วในห้องอย่างรู้สึกผิดอยู่ แถมฉันต้องปรับอารมณ์มานั่งปลอบยัยกรกตด้วยก็เลยต้องควบคุมอารมณ์โกรธให้ซ่อนอยู่ในซอกลึกแทน
ยัยนั่นไม่ยอมไลน์ไปบอกความจริงกับเซฮุน ยัยนั่นไม่กล้าแม้แต่จะกดเข้าแอพไลน์ด้วยซ้ำ...แค่เห็นอะไรเขียวๆน้ำตาก็ไหลแล้ว...ตอนนี้ฉันกลัวว่ามันจะลบไลน์ทิ้งมาก ถ้ามันลบไลน์ทิ้งทางเดียวที่จะติดต่อเซฮุนก็จะหายไปด้วย
กรกตเป็นคนแบบนี้แหละ เวลาเจอปัญหาที่เกิดมาจากตัวเองแล้วละก็จะทำอะไรไม่ถูกตลอด คิดได้อย่างเดียวคือหายไปและให้ระยะเวลารักษาไปเรื่อยๆ...แต่ฉันว่าแผนนั้นมันไม่เวิร์คสำหรับงานนี้เท่าไหร่
ระหว่างที่กำลังพร่ำพรรณนาบรรยายและอธิบายให้กรกตเข้าใจว่าต้องทำยังไงยัยจีจี้ก็โทรมาร้องไห้ใส่
รู้อะไรมั้ย...จีจี้น่ะเคยร้องไห้หนักเรื่องแบคคยอน ครั้งที่ซาแซงบุกไปทำลายงานแต่งพี่ชายแบคน่ะ ครั้งนั้นละคือครั้งล่าสุดที่มันร้องไห้หนัก...จนกระทั่งวันนี้
ดังนั้นฉันกับกรกตจึงทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเลิกคิดเรื่องอื่นและโฟกัสแต่เสียงสะอื้นของจีจี้คนเดียวแทน...
ยัยกรกตยิ่งร้องไห้หนักเมื่อรู้ว่าจีจี้โดนอะไรมา...ส่วนฉันยิ่งต้องเก็บอารมณ์มากขึ้นไปอีก...
ไอ้เชี่ยไหนแม่งทำกับเพื่อนกูวะ...ไหนจะเรื่องน้องคนนี้ไหนจะมีซาแซงเปรตๆพวกนั้นอีก...ฉันจะจัดการพวกมันให้หมดเลยคอยดู แต่ก่อนอื่นต้องทำให้จีจี้สบายใจก่อน ร้องไห้ขนาดนี้ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ
พวกเราอาจจะดูเหมือนคบกันเพราะความบ้าผู้ชายก็จริง แต่เพราะเรื่องผู้ชายนั้นแหละถึงทำให้พวกเราสนิทกันจนกลายเป็นเพื่อนที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องไปแล้ว...ความจริงเราไม่ใช่เพื่อนอีกต่อไปแล้ว เราเป็นครอบครัวเลยต่างหาก ดังนั้นคนในครอบครัวจะเศร้าหรือจะทำผิดอะไรมายังไง คนในครอบครัวที่เหลือก็ต้องปกป้องและปลอบโยนเขาโดยไม่มีข้อแม้
“ไปหายัยจีจี้กัน” คำนี้หลุดออกมาจากของกรกต มันปาดน้ำตาทิ้งและแววตามุ่งมั่นกลับมาแล้ว ฉันภาวนาเหลือเกินว่าถ้าเคลียร์เรื่องจีจี้เสร็จแล้วมันจะสามารถเคลียร์เรื่องตัวเองได้...
“ทีหลังถ้าน้องทำแบบนี้อีก” กรกตชี้หน้าน้องโกรธๆแต่ฉันคิดว่ายังโกรธไม่พอด้วยซ้ำ... “พี่จะบอกพวกปีสูงว่าน้องทำตัวได้ไร้สาระและสถุลมาก ขอโทษนะที่พูดแรงไป แต่เรื่องนี้มันร้ายแรงสำหรับพี่มาก ขอโทษจริงๆ”
ฉันคิดในใจ..จะขอโทษมันทำไม มันสิต้องขอโทษเธอ
โอเค ฉันอาจจะโหดเกินไปด้วยแหละ...แต่ฉันไม่ยอมจริงๆนะ ใครมาทำเพื่อนฉันเจ็บแม้แต่เศษแก้วนั้นฉันก็จะเผามันไม่ให้เหลือซาก...
เราตัดสินใจกันไม่นานเลย ตัดสินใจที่จะกดจองตั๋วไปเกาหลีไม่นานเลยจริงๆ เราเรียกน้องเคโกะให้มาจัดการเรื่องเสื้อผ้าพวกเราด้วย ไม่ใช่เพราะอยากจะแก้แค้นน้องนะแต่มันไม่ทันจริงๆ ยัยกรกตดันจองตั๋วที่เร็วที่สุดเกินไปน่ะสิ ตอนนี้เหลือเวลาแค่สามชั่วโมงก่อนเครื่องจะออก!
มือฉันกดโทรหาคนนู้นคนนี้เป็นระวิงเลย ส่วนยัยกรกตก็เดินกะเผลกไปจัดการเรื่องรถแท็กซี่มันรีบซะจนเลือดไหลเป็นทางแล้วยังไม่รู้ตัว
เป็นการเดินทางที่ฉุกละหุกที่สุดแล้ว แต่เพื่อจีจี้พวกเราทำได้ทุกอย่าง เข้าใจอารมณ์ของจีจี้ตอนนี้มั้ย? มันต้องการเพื่อน...แค่ต้องการเพื่อนเฉยๆไม่ได้ต้องการคำปลอบโยนอะไรเลย ขอแค่พวกเราโผล่หน้าไปให้มันเห็นมันก็ดีขึ้นทันตาแน่นอน
พวกเราต้องขอช่วยลุงขับแท็กซี่แบกกระเป๋าเข้าไปจนถึงเช็คอิน เพราะฉันต้องประคองยัยกรกตให้เดินได้เร็วๆ แก้วบาดขาไม่เยอะก็จริงแต่มันบาดลึกพอสมควรเลยละ หลังจากที่พวกเราเช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ไม่รอช้าเข้าในเกทและนั่งรอที่เก้าอี้หน้าสุดเลย เมื่อถึงเวลาฉันก็เดินประคองกรกตขึ้นเครื่องเป็นพวกแรกเลย
รอก่อนนะจีจี้...พวกเรากำลังไปแล้ว
ความคิดเห็น