คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : EP 16
“ไม่ว่างหรอ?” เลย์โพล่งออกมาในที่สุด ตอนนี้เขาอยู่ที่ห้องของลู่หาน เขากำลังมองหาคนที่มีปานรูปดวงจันทร์และว่างเต็มๆ3วันเพื่อที่จะใช้งาน...เพื่อที่จะขอช่วยให้เขาไปรักษาขาของอึนมี แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครว่างมากขนาดนั้น แถมยังต้องมานอนนิ่งๆเป็นเวลาสามวันเต็มๆนี่ก็ทำใจลำบากเหมือนกันนะ
“โอ้ย ไม่มีซักคนเลยหรอ?!” เลย์ถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง เขาหาทุกคนที่มีปานรูปดวงจันทร์แล้วแต่ไม่มีใครว่างเลย ลู่หานคือความหวังสุดท้ายแต่ลู่หานกลับบอกว่าว่างแค่วันเดียว ดังนั้นเลย์จึงเดินไปเดินมาอยู่ในห้องลู่หานเพื่อใช้ความคิด ลู่หานที่นั่งมองเขาอยู่บนเตียงก็อยากจะช่วยนะ แต่จะหาเวลาที่ไหนตั้งสามวันมานอนเฉยๆละ เขามองเลย์เดินไปเดินมาและพยายามช่วยเลย์คิด ในที่สุดเขาก็เสนอออกไป
“ทำไม...ไม่หาสามคน แล้วผลัดกันนอนคนละวัน ไม่ได้หรอ?”
ลู่หานทำให้เลย์หยุดเดินและเพิ่มความหวังให้เขาในทันที
“เฮ้ย! จริงด้วย!” เลย์พูดอย่างดีใจ “ทำไมฉันคิดไม่ออกเนี่ย!”
ลู่หานยิ้มแห้งๆให้เลย์ เขานึกกว่าวิธีนี้อาจจะใช้ไม่ได้ซะอีก เลย์ดีดนิ้วดังเป๊าะก่อนจะโทรไปเจรจากับอีกสองคนที่เขาคิดว่าสามารถสละเวลา1วันมาช่วยเขาได้ นั่นก็คือ ดีโอ เพื่อนสนิทของอึนมี และ คริสเพื่อนข้างห้องของอึนมี ดีโดตอบตกลงในทันที เพราะเขาอยากจะช่วยอึนมีอยู่แล้ว เลย์ยังสัมผัสได้อีกว่าดีโอคือคนที่เป็นห่วงอึนมีมากที่สุด ส่วนคริสเหมือนเขากำลังเบื่อๆและหาเรื่องทำอยู่แล้ว เลยตอบตกลงแบบไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง อีกอย่างอึนมีก็เคยช่วยเขาให้ตื่นขึ้นมาด้วย คราวนี้ก็ได้เวลาตอบแทนบ้าง หลังจากที่โทรไปคุยตกลงเรื่องเวลากับทุกคนเสร็จแล้ว เลย์ก็หันมาเจรจากับลู่หานต่อ
“คืนนี้ว่างมั้ย?” เขาถามลู่หาน ถึงมันจะเร็วไปหน่อยแต่ยิ่งเร็วมันก็ยิ่งดีละนะ
ลู่หานคิดแปปนึงก่อนจะพยักหน้ารับว่าว่าง เลย์ตกลงเรื่องเวลา เขาขอเป็นเที่ยงคืนจะได้ตื่นมาตอนเที่ยงตรงของอีกวันพอดี เหมือนลู่หานจะตื่นเต้นเล็กน้อยเขาแทรกคำถามระหว่างที่เลย์กำลังอธิบาย
“แล้วๆ ฉันต้องกินยาหรือต้องโดนสะกดจิตอะไรก่อนมั้ย?” สายตาเขาลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่นิ่งเหมือนลูกกวางน้อยๆ
“ใจเย็นๆนะ” เลย์ตั้งใจจะเล่าลำดับเหตุการณ์และรายละเอียดให้เขาอยู่แล้ว “ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นอนพร้อมกันเฉยๆ ที่เหลือฉันจะจัดการเอง เวลามันอาจจะคลาดเคลื่อนเล็กน้อยเพราะนายสองคนหลับไม่พร้อมกันอยู่แล้ว”
“ยังไง?”
“ฉันกะเวลาโลกกับเวลาในฝันครั้งนี้น่าจะได้ 1วันโลก=7วันในฝัน วิธีฝันแบบนี้เรามักจะเรียกกันว่า ฝันข้ามมิติ ที่เนเวอร์แลนด์เรามักจะใช้วิธีนี้เพื่อศึกษาและฝึกฝนทักษะต่างๆ แต่มันไม่ค่อยฮิตแล้วละ เพราะบนดาวเราไม่ค่อยมีใครรีบร้อนขนาดนั้น แต่สำหรับดาวโลกฉันว่ามันจำเป็นมาก”
ลู่หานฟังเรื่องที่เลย์เล่าอย่างตั้งใจ เขาพยักหน้าไปตามจังหวะการพูดของเลย์เป็นระยะๆ เลย์เล่าต่อไป
“หรือฉันจะใช้ยาสลบให้นายได้หลับพร้อมๆกันไปเลย ดีปะ?”
“เออ แบบนั้นก็ดีนะ”
“งั้นเอาตามนั้น แล้วก็ก่อนจะหลับนายไม่ต้องกินข้าวล่วงหน้านะ เพราะการฝันข้ามมิติมันก็เหมือนกับเราหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกนึงนั้นแหละ การกินการอยู่ของเราก็จะถูกนำมาใช้กับโลกแห่งความจริงด้วย แต่ที่สำคัญนะลู่หาน”
เลย์เว้นช่วงเพื่อจะให้ลู่หานสนใจมากยิ่งขึ้น
“ห้ามตายในนั้นเด็ดขาด”
ลู่หานตกใจเล็กน้อย
“ทำไมละ?” เขาถาม
“ก็จะตายไง...”
“อ่า...”
ทั้งสองเงียบซักพักก่อนที่เลย์จะดับความเงียบลง
“บ้าหรอ แค่ไปช่วยดูแลยัยอึนมีไม่ถึงกับตายหรอก”
“นั่นสินะ” แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะ
เมื่อทุกๆอย่างลงตัวกันเรียบร้อย เลย์ก็จัดการพาทุกๆคนมารวมตัวกันที่ห้องของลู่หาน ซึ่งมันดูเล็กลงทันทีที่คริสเข้ามา เพราะเขามาเป็นคนสุดท้าย แถมตัวเขาก็สูงหนาและใหญ่กว่าทุกๆคนในนี้ด้วย อึนมีนั่งอยู่บนเตียงของลู่หานเงียบๆ ตอนนี้เธอกำลังทนกับความเจ็บปวดที่ขาอย่างยากลำบากเพราะยาชามันเพิ่งจะหมดไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วเอง
“เร็วๆเถอะเลย์ ฉันจะตายละ” อึนมีเร่งให้เขารีบๆเริ่มซะที
“เอานี่ไป” เลย์ยื่นกระดาษแผ่นนึง ให้อึนมี
“มันคืออะไร?”
“รายการที่เธอจำเป็นต้องมีในฝันน่ะ”
“แล้วจะไปหาของพวกนี้มาจากไหน? เยอะแยะไปหมด”
“ไม่ต้องหา แค่อ่านรอบเดียวก็พอ เพราะเดี๋ยวมันก็จะไปโผล่ในฝันเธอเองแหละ” เลย์ยิ้มอย่างภาคภูมิใจที่ตัวเองได้อธิบายเรื่องราวต่างๆที่ทุกคนดูสนใจและตื่นเต้นไปหมดโดยเฉพาะลู่หาน เขาพูดต่อ
”ในนั้นก็จะมีพวกเครื่องไม้เครื่องมือหรือสิ่งจำเป็นในการรักษาขาของเธอทั้งหมดนั้นแหละ”
เมื่ออึนมีลากสายตาอ่านไปมาอยู่สองสามรอบ เลย์ก็บอกให้เริ่มได้เลย ส่วนดีโอกับคริสเมื่อฟังรายละเอียดทุกๆอย่างเสร็จและการเข้าฝันข้ามมิติเป็นไปอย่างราบรื่นแล้วพวกเขาก็จะกลับไปรอคิวกันที่ห้องตัวเอง
“อึนมี” ดีโอเรียกเธอในขณะที่เธอกำลังกระดกยาสลบ (ลู่หานเองก็เช่นกัน) ดีโอมองอึนมีด้วยความเป็นห่วง “รอฉันก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามไป”
อึนมีได้แต่พยักหน้าและยกมือบอกว่า OK
หลักจากที่กลืนยาสลบลงท้องไปไม่ถึง2วิ ตาลู่ลานและอึนมีก็เริ่มพร่าเลือนทันที เขาทั้งสองเริ่มหาหมอนเพื่อจะเอนตัวลง แต่ไม่ทันจะคว้าหมอนได้ทันสติก็หลุดและตัวก็ล้มลงไปบนเตียงแบบไร้ทิศทาง
“ยาไม่แรงไปหน่อยหรอเลย์” ดีโอถาม
“แบบนี้แหละ ได้ผลเร็วดี”
ในฝัน
อึนมีตื่นขึ้นมาในตอนเช้าในห้องห้องหนึ่ง แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกใส เธอมองไปรอบๆห้อง ห้องนี้ถือว่าไม่ธรรมดาเล็กน้อย มีน้องน้ำภายในตัว มีชั้นวางของเรียงรายและของที่วางอยู่ก็เหมือนจะเป็นพวกผ้าพันแผล กระปุกยา และ อีกมากมาย มีตู้เสื้อผ้าอันมโหฬาลวางอยู่หน้าเตียง และเตียงที่เธอนอนอยู่ตอนนี้ก็ใหญ่เกินบรรยาย อึนมีเหลือบไปเห็นเก้าอี้คนป่วยวางอยู่ใกล้ๆหน้าต่างอีกด้วย คงเป็นห้องที่พร้อมสำหรับเธอสินะ ไม่นานความสนใจภายในห้องก็ถูกเบนไปที่ขาของเธอทันทีเพราะมันเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
เธอมองหาผู้ช่วยของเธอ
พี่ลู่หาน อยู่ไหนนะ
และไม่ต้องรอนานลู่หานก็มาเคาะประตูห้อง
“อึนมี อยู่ในนี้หรือเปล่า?” เขาถาม
“อยู่ค่าพี่ลู่!”
เมื่อเขาเข้ามาอึนมีรีบบอกให้เขายาให้แก้ปวดให้เธอก่อนเลย ตอนนี้จะทนไม่ไหวแล้ว ลู่หานลุกลี้ลุกลนเขาทำกระปุกยาตกกระจัดกระจายด้วยความรีบ ก่อนจะคว้ายาแก้ปวดสองเม็ดให้อึนมี
“น้ำด้วยค่ะพี่” อึนมีเสริม
“อ่อ รอแปปนะ” ลู่หานรีบลงไปหาน้ำมาให้ สถานที่ที่พวกเขาอยู่นี้คล้ายๆกับอพาร์ทเม้นหรือคอนโด มีสองชั้น ชั้นล่างจะเป็นห้องครัวและห้องนั่งเล่น ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอน ซึ่งมีด้วยกันสองห้อง
เมื่อลู่หานกลับมาอึนมีก็รีบกระดกยาสองเม็ดลงคอทันที แต่ความเจ็บปวดมันจะหายไปในทันทีที่กินเลยก็ไม่ได้ อึนมีต้องทนปวดไปอีกประมาณเกือบๆชั่วโมงที่ยาจะออกฤทธิ์ แต่ตอนนี้เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอไม่ชอบทนอะไรด้วย
“พี่ลู่” เธออวดโครญใส่อีกคนพร้อมกับยื่นมือไปจับข้อมือลู่หานไว้ เหมือนอยากจะระบายความเจ็บไปให้ลู่หานด้วย “ไม่ไหวอ่ะ ปวดมากเลย”
น้ำตาเธอไหล สงสัยคงจะปวดมากจริงๆ ลู่หานนั่งลงข้างๆเธอเหมือนจะช่วยอยู่เป็นเพื่อนทนความลำบากนี้
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็หาย” เขาปลอบอึนมี “นอนซะ”
อึนมีที่ไม่ได้สนใจอะไรเลยตอนนี้นอกจากความเจ็บปวดที่ขาตัวเอง ลู่หานจับตัวอึนมีให้นอนลงช้าๆและเบามือ เธอค่อยๆเอนตัวลงนอนตามแรงดันของลู่หานและพยายามข่มตาดับความเจ็บนี้ออกไป ลู่หานห่มผ้าให้อึนมีเล็กน้อยและเขายังเอามือของอึนมีออกมานอกผ้าห่มเพื่อจะได้จับมือของเธอเป็นกำลังใจ อึนมีจับมือลู่หานแน่นอย่างอัตโนมัติ ความอบอุ่นค่อยๆแผ่ซ่านให้อึนมี แต่เธอก็ยังหลับตาปี๋ด้วยความเจ็บอยู่ดี
“มันอาจจะเจ็บสองเท่านะ” ก่อนหน้านั้นเลย์ได้พูดกับลู่หานโดยที่ไม่มีอึนมี “เพราะการข้ามมิติมันก็เหมือนเร่งความเร็วในโลกความเป็นจริง เพราะฉะนั้นอะไรๆมันก็จะทวีคูณขึ้นซักหน่อย นายช่วยดูเธอดีๆนะ”
ลู่หานกุมมืออึนมีแน่น มันไม่ง่ายเลยที่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอต้องมาทนกับความเจ็บปวดหลายเท่าแบบนี้ และลู่หานก็อยู่แบบนั้นนานจนอึนมีหลับไปจริงๆ
ผ่านไป4วัน ทุกๆอย่างก็เริ่มเหมือนจะเข้าที่เข้าทาง ลู่หานรู้หน้าที่และอึนมีก็รู้เวลาดี พวกเขาสองคนช่วยกันรักษาขาของอึนมีเต็มที่เพื่อที่จะได้หายเร็วๆ และมันก็ดีขึ้นเร็วด้วย ตอนนี้อาการปวดนั้นก็มาเยี่ยมเธอไม่บ่อยแล้ว จะเป็นแค่บางวันเท่านั้นเอง และวันนี้ก็เป็นวันที่โชคดีมากเธอยังไม่มีอาการปวดไดๆเลย สุดท้ายทั้งสองคนก็เลยเบื่อ
“พี่ลู่” อึนมีเสริมขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังนั่งดูทีวีเพลินๆ “หาหนังผีดูด้วยกันมั้ย”
ลู่หานทำตาโต จู่ๆอยากมาดูหนังผีอะไรตอนนี้
“ทำไมต้องหนังผี?”
“มันสยองดี จะหายเบื่อเร็วๆไง ถึงจะกลัวก็เถอะ...แต่พี่ลู่ไม่กลัวใช่มั้ย?”
“หือ?” ลู่หานทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยก่อนจะเสริมด้วยความมั่นใจ “แน่นอน พี่ไม่กลัว”
“ดีเลย เพราะอึนมีกลัวมาก ถ้าดูกับคนที่กลัวด้วยกันนี่แย่แน่”
ลู่หานปาดเหงื่อที่อยู่ๆผุดขึ้นมาบนหน้าผากอย่างไร้สาเหตุ
“อื้อ ได้สิ”
ลู่หานจัดการหาแผ่น เขาพยายามเลือกที่มันน่ากลัวน้อยที่สุด แต่เขากลับเจอเรื่อง mama หนังผีสุดสยองเขย่าขวัญให้ผวาเจอแค่แผ่นเดียว เขากลืนน้ำลายลงก่อนจะโชว์เรื่องนี้ให้อึนมีดู
“เฮ้ยพี่ลู่!” อึนมีช็อคเมื่อเห็นหน้าปก “เรื่องนี้น่ากลัวเกินไป เอาเรื่องอื่น”
“ไม่มีแล้ว...”
“หา?...” ทั้งสองนิ่งไปซักพักก่อนอึนมีจะตัดสินใจเด็ดขาด “งั้นดูเลย”
“จริง?” ลู่หานถามเพื่อความแน่ใจ “มันน่ากลัวมากเลยนะ”
“พี่ลู่กลัวหรอค่ะ?”
“ปะ-เปล่าๆ อึนมีสิจะกลัว”
“อ๋อ ไม่เป็นไร มีพี่ลู่อยู่ด้วยทั้งคน” เธอยิ้มอย่างโล่งอก แต่ลู่หานนี่สิ
“อะ-โอเค ดูก็ดู”
และเมื่อหนังเริ่ม เป็นไปตามคาดทั้งสองคนเกาะกันแน่น กลัวซะจนความรู้สึกเจ็บที่ขาปลิวว่อนไปกับเสียงกรี๊ด ไม่ใช่แค่อึนมีหรอกนะที่กรี๊ดอีกคนก็กรี๊ดเหมือนกัน แต่เขาก็พยายามแก้ตัวไปว่าตกใจเสียงกรี๊ดของอึนมี สุดท้ายหนังก็จบแบบไม่รู้เรื่องเท่าไหร่เพราะเอาแต่ปิดตากัน ลู่หานหัวเราะเยาะให้ตัวเอง อึนมีก็เช่นกัน ทั้งสองคนดูไม่จืดเลยตอนนี้
อึนมีเหลือบไปมองเวลา ตี1กว่าแล้ว ได้เวลาที่พวกเขาต้องนอน แต่ว่าตอนนี้ตาสว่างจ้าเลย แถมใจยังเต้นเร็วเหมือนเพิ่งไปวิ่งข้ามภูเขามา แต่ลู่หานคนแมนก็สั่งเด็ดขาด
“ต้องกินยาจากนั้นนอนได้แล้วนะอึนมี พี่ก็จะนอนเหมือนกัน” ทั้งๆที่ตาสว่างเนี่ยนะ?
“อ่า..ค่ะ” อึนมียอมทำตามที่ลู่หานสั่ง
ลู่หานจัดการอุ้มเธอขึ้นไปวางบนเตียงเพื่อความรวดเร็ว ถึงทุกครั้งจะช่วยพยุงแต่ครั้งนี้เหมือนไม่อยากอยู่ตรงบันไดนานเกินจำเป็น กลัวจะมีใครหรืออะไรมาลากขาลงไป
อึนมีกินยาไปสองเม็ด และดีที่ยานี้มันทำให้ง่วงด้วย เธอบอกฝันดีให้ลู่หานแต่ว่า...
“อึนมี” จู่ๆเขาก็ทำเหมือนมีอะไรพูด “คือ...”
“ค่ะ?”
“เปล่าๆ” ก่อนจะตัดสินใจไม่พูดออกมาดีกว่า “ฝันดีนะครับ“
“พี่ลู่” เหมือนอึนมีจะรู้ว่าเขาอยากได้อะไร “มานอนด้วยกันหน่อยสิ”
ลู่หานทำตาโต เขาหันกลับมามอง
“ไม่ๆๆ” อึนมีรีบปฏิเสธ เธอกลัวว่าลู่หานจะคิดแบบ...”ไม่ใช่แบบนั้นนะค่ะ ไม่ใช่นอนแบบนั้น”
ลู่หานหน้าเปลี่ยนสีทันทีที่เข้าใจว่าอึนมีกำลังจะบอกอะไร
“ไม่ๆ พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย” เขาเองก็รีบปฏิเสธ
“คืออึนมีหมายถึง” เธอพยายามอธิบาย “นอนด้วยกัน...เอ่อ..เฉยๆค่ะ”
“อื้อๆ พี่เข้าใจๆ” ลู่หานยังคงหน้าแดงเขาไม่สบตาอึนมี
“วันนี้นอนคนเดียวไม่ไหว กลัวmamaตามมาถึงนี่ทำไงอ่ะ”
เมื่อพูดถึงชื่อของผีทั้งสองคนแทบจะกระโดดกอดใส่กัน ลู่หานตอบตกลงทันทีเพราะเขาเองก็กลัว สุดท้ายก็ทิ้งฟอร์มและยอมรับว่าตัวเองกลัวผีอยู่ไม่น้อย เขารีบไปเอาหมอนมาเพิ่มทั้งๆที่หมอนก็มีอยู่แล้ว จากนั้นก็คลานขึ้นเตียงเดียวกับอึนมี
“นอนเถอะอึนมี” เขาบอกในขณะพยายามจัดการกับผ้าห่มให้ทั้งเธอและเขา
“ค่ะ” อึนมีตอบหวั่นๆ ในใจเธอก็กลัวเล็กน้อยนะ ยังไงๆเธอก็ไม่เคยนอนกับผู้ชายคนอื่นนอกจากดีโอกับแบคคยอนเท่านั้น...
“ไม่เป็นไร” เหมือนลู่หานจะรู้สึกได้ “เดี๋ยวก็หลับ”
เอ่า เค้าปลอบใจตัวเองต่างหาก
อึนมีคิดแล้วก็แอบขำเล็กน้อย พี่ลู่คงไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้นหรอก ดูเขาตอนนี้สิพยายามข่มตาหลับซะเกร็งไปทั้งตัวเชียว ด้วยฤทธิ์ยาอึนมีจึงพร้อยหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ลู่หานถึงจะหลับตาก็ไม่ได้หลับจริง เขาเอแต่คิดถึงผีตนนั้น บอกตัวเองว่าอย่าคิดแต่ยิ่งบอกแบบนั้นมันก็ยิ่งคิด เขานอนไม่หลับเลย เอาแต่ดิ้นไปดิ้นมาบนเตียง
เขามองไปที่อึนมีที่หลับสบายแบบไม่รู้เรื่องก่อนจะขยับตัวเองเข้าไปใกล้ๆเธอเพื่อหาความอบอุ่นเล็กน้อย ขยับไปเรื่อยๆ ใกล้มากขึ้น มากขึ้นๆ จนชิดติดกันแล้ว ลู่หานหัวเราะให้กับความอายของตัวเอง แต่เขาไม่สนละ ได้นอนติดคนที่ยังเป็นคนแบบนี้ก็ถือว่าช่วยเขาได้เยอะแล้ว เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาก็หันไปมองหน้าอึนมีอยู่ใกล้ๆเหมือนพยายามบอกว่าขอบคุณนะ แต่ใบหน้าใสๆที่ซ่อนความซุกซนของอึนมีทำให้เขาต้องชะงัก เขามองใบหน้าของเธออยู่นานอย่างไม่รู้ตัว ลู่หานพลิกตัวหันไปทางอึนมีเพื่อจะได้มองหน้าเธอได้ถนัด เขายิ้มให้กับใบหน้าที่หลับไหลของอึนมีอยู่คนเดียวคล้ายคนบ้า
น่ารักจัง
เขาๆค่อยลากมือตัวเองไปจิ้มที่แก้มนุ่มๆนั่นอย่างแผ่วเบาและระวังไม่ให้อีกคนตื่น
น่ารักเกินไปแล้ว
เขาห้ามตัวเองไม่อยู่จนสุดท้ายเขาก็เผลอโน้มลงไปหอมแก้มเธอเบาๆ และเมื่อได้สติเขาก็รีบผละออกห่างจากอึนมีทันที เขาจับหน้าอกตัวเองที่กำลังเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา
นี่เราทำอะไร เป็นบ้าไปแล้วหรอ! ใจเย็นสิลู่หาน!
ในที่สุดเขาก็หันหลังให้เธอและพยายามข่มตาหลับลง...
เวลาล่วงเลยผ่านไป จนมาถึงเช้าวันที่7
ลู่หานได้ยินเสียงเลย์ปลุกเขาตั้งแต่เช้า เขางัวเงียมาก แต่เสียงมันดังก้องไปทั่วทั้งห้องทำให้นอนต่อไม่ไหว อึนมีที่นอนอยู่อีกห้องจะตื่นด้วยมั้ยนะ ระหว่างที่กำลังหาทางติดต่อกับเลย์กลับนั้นจู่ๆ สติของเขาก็พร่าเลือนจนทรงตัวไม่อยู่ เขาพยายามหาควานหาที่จับ แต่สายไปเสียแล้ว สติของเขาหลุดและร่างของเขาก็ร่วงหล่นบนพื้นก่อนจะหายไปในอากาศ
ในโลกความจริง
ลู่หานสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องตัวเอง เขามองไปรอบๆห้องเจออึนมีนอนนิ่งอยู่ข้างๆ ในห้องตอนนี้มีเลย์กับดีโอที่กำลังมองเขาเขม็ง เมื่อเลย์เห็นลู่หานลุกขึ้นมานั่งเองได้แล้วเขาก็รีบฉุดลู่หานออกจากเตียงและผลักดีโอลงไปแทนที่อย่างรวดเร็ว ทุกๆอย่างเกิดเร็วมากจนลู่หานตามไม่ทัน เลย์ยัดยาสลบที่เคยให้ลู่หานกินเข้าไปให้ที่ดีโอ ดีโอรีบกลืนยาและกลืนน้ำตามลงไปจากนั้นสติก็หลุดและหลับไหลทันที
เลย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ถ้าไปช้าๆเดี๋ยวยัยอึนมีเกิดไปทำให้ขาตัวเองเป็นหนักเข้าไปอีกละแย่เลยนะ” เขาบ่นก่อนจะหันมาคุยกับลู่หาน “ขอบคุณที่สละเวลามาลู่หาน ถ้าไม่ได้นายฉันต้องตายแน่ๆ ตอนนี้นายเป็นอิสระแล้ว”
มันไม่ได้ทำให้ลู่หานดีใจเลย แต่เขาก็ยิ้มฝืนๆให้เลย์ไป เขากลับเป็นห่วงอึนมีมากขึ้นไปอีก เขาอยากจะดูแลเธอจนเธอหายดีเลยด้วยซ้ำ
ลู่หานมองไปยังร่างที่หมดสติของดีโอ
หวังว่าเขาคงจะช่วยให้อึนมีหายเร็วๆนะ
ความคิดเห็น