คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : สวย
ณ ประเทศไทย อีกสามวันจะเปิดเทอม...
ฉันจีจี้ กำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟกับยัยกรกตและขนมไทย
กรกตกลับมาจากเกาหลีได้สัปดาห์นึงแล้ว พวกเราไปดักตบหน้ามันถึงสนามบินสุวรรณภูมิ (ล้อเล่น) ด้วยความอิจฉาและความเผือกขนมไทยกับฉันลงทุนช่วยมันขนห้องและจัดห้องที่บ้านกรกตจากนั้นก็นั่งโม้ยาวจนถึงเช้าเลย....เช้าจริงๆนะ
เมื่อกี้พวกเราเพิ่งเดินออกไปซื้ออุปกรณ์การเรียนและหนังสือมา ตอนนี้จึงเหนื่อยมาก เลยตัดสินใจจะนั่งจิบชาและกาแฟไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายเหนื่อย
“คิกคิก” ยัยกรกตหัวเราะใส่ไลน์ตัวเอง...
ขนมไทยชะเง้อมองดู...และหันมาส่ายหน้ากับฉัน...
มันคุยไลน์กับเซฮุน ทำไมพวกเราถึงไม่ตื่นเต้นและกระชากมือถือมันมาดู? นั่นก็เพราะเราทำไปแล้วน่ะสิ คืนแรกที่มาถึงไทย เซฮุนก็เอาแต่ส่งไลน์มาหายัยนั่น... แน่นอนว่าพวกเราจ้องจนจอแทบระเบิด ฉันมีไอดีไลน์ของเซฮุนเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้แอด...
แต่ปรากฏว่าบทสนทนาของพวกเขาสองคน...มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเข้าไปอ่าน (ยัยขนมไทยบอกฉันมา มันสั่งเด็ดขาดเลยว่าห้ามดูบทสนทนของเซฮุนอีก) เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะเซฮุนมันกำลังจีบยัยกรกตอยู่น่ะสิ...แต่ยัยนั่นแม่งทึ่มมาก มันไม่รู้ตัวเลย อยากจะเอาน้ำกรดสาดหน้าจริงๆ...
มันคิดว่าเซฮุนไลน์มาคุยตามมารยาท!!! ใครก็ได้ฆ่ามันที บ้านมันอยู่ซอยพรีเว็ต เลขที่4 (ล้อเล่น)
ส่วนพี่จงแด...เราคลาดกัน โฮว อยากร้องไห้
ทันทีที่ฉันถึงฟาร์มยัยนั่น ฉันก็แทบจะหันกลับทันทีเลยเหมือนกัน... โชคไม่เข้าข้างฉันเลยสินะ
ฉันนั่งมองไลน์ตัวเอง...เห็นแค่ไลน์พี่เบิร์ดที่เด้งมา...
ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนหรอกค่ะ เพราะฉันหยิ่ง...(ภายนอกอ่ะนะ) หยิ่งมากแต่หลังๆมานี้เริ่มชอบความหยิ่งนี่เข้าให้ละ มาคิดๆดูแล้วมีเพื่อนแค่สองคนนี้...ก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิตของฉันแล้วละ สองคนนี้เป็นเพื่อนที่เป็นเพื่อนได้ทุกแบบ? ฉันรักพวกเขา...และเกลียดพวกเขาที่เจอexoเหมือนกัน...
“ขอโทษนะค่ะคนสวย...” มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินมาที่โต๊ะพวกเรา
คนสวย?...แน่นอนค่ะว่าพวกเราสามคนหันพรึบ...
แต่จริงๆพี่เขาหมายถึงฉันค่ะ...เพราะพี่เขามองฉันอยู่ ไม่ได้มั่นใจเลย
“ค่ะ?” ฉันมองหน้าขนมไทยกับกรกตแบบไม่แน่ใจเท่าไหร่...
“พี่เป็นแมวมองมาจากบริษัทชื่อดังบินตรงจากเกาหลี...” พี่เขาพูดรัว “พี่เห็นใบหน้าและหุ่นของน้องแล้วถือว่าค่อนข้างดีและสามารถปั้นได้...น้องช่วยยืนให้พี่ดูหน่อยได้มั้ยค่ะ รบกวนนิดนึง”
กรกตส่งหน้างงๆมาให้ฉัน...แต่ฉันก็ยืนตามที่พี่เขาสั่ง...
“ดีมากค่ะ” เธอมองขาฉัน “บริษัทSMของเราพร้อมจะรับน้องเข้าพิจารณา...ถ้าน้องอยากลองเปลี่ยนเส้นทางการเดิน หรืออยากลองทำความฝันใหม่..ติดต่อพี่ได้ทันทีเลยนะ” เธอยื่นนามบัตรมาให้ “พี่จะอยู่ประเทศไทยจนถึงเดือนหน้า เพราะงั้นน้องมีเวลาตัดสินใจหลายวันจ๊ะ”
ยัยกรกตกับขนมไทยบีบแขนกันและกันแน่น...
ฉันกำลังทำหน้างง...แต่สมอง...
แบคคยอนลูกแม่!!
กลับมาถึงหอพัก...
คิดถูกแล้วจริงๆที่ไม่ได้ตอบพี่คนนั้นไปในทันที...พอลองโทรไปหาเบอร์ในนามบัตรแล้ว กลับเจอเสียงผู้ชายที่ดูจู้จี้จุกจิกมาก (เหมือนไม่ใช่ผู้ชายแท้ด้วยนะ) นางบอกให้ฉันส่งรูปทั้งตัวและห้ามแต่งเติมอะไรลงไป ยังมีเรื่องประวัติการศึกษา ประวัติพ่อแม่และวงตระกูล พี่น้อง แต่ที่เน้นจริงๆก็คือ ความสามารถพิเศษ...
“ส่งไปดีมั้ยวะ” ฉันถามเพื่อนเป็นรอบที่สิบสอง...
“มาพูดเอาป่านนี้ เดี๋ยวกูตบปาก” กรกตส่งสายตารำคาญมาให้ฉัน มันกำลังจัดเอกสารที่เจ๊ผู้ชายคนนั้นสั่งลงซอง... เร็วมั้ยละ
ส่วนขนมไทยกำลังนั่งเลื่อนไอแพดไปมาด้วยสีหน้าเครียดๆ... “ถึงแกผ่านเข้ารอบส่งเอกสารนี้ไป...แกต้องไปแคสติ้งถึงเกาหลีเลยนะเว้ย...เฮ้ยไม่ๆ เขาบอกว่าแคสติ้งที่ห้างที่ประเทศไทยได้ โอเคงั้นไม่เป็นไร...ว่าแต่” มันเงยหน้ามามองฉัน “ถ้าแกผ่านทุกด่านแล้วจริงๆ...แกจะทิ้งการเรียนไปเป็นดารานักร้องพวกนั้นจริงๆหรอวะ”
นั่นทำให้ฉันลำบากใจอยู่บ้าง ถึงที่บ้านไม่เคยขัดว่าฉันจะทำอะไร...ขอแค่ทำแล้วไม่ตายก็พอ...
แต่ว่าฉันอยู่ประเทศไทยมานาน...นานพอที่ค่านิยมของคนที่นี่จะซึมซับเข้าไปในหัวบ้าง...เป็นนักร้องที่เต้นๆอยู่บนเวที...สำหรับพวกผู้ใหญ่รุ่นเก่าแล้วมันดูไม่ค่อยมีค่าเท่าคนที่เรียนจบและมีงานทำ...ถึงเงินที่ได้จะน้อยกว่าก็ตาม...
“ทิ้ง” ลาก่อนชีวิตนักศึกษาของฉัน...
“อะไรนะ” ขนมไทยหันมาทำหน้าไม่อยากเชื่อ... แต่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น...
พวกเราก็แบบนี้แหละ..กังวลไปเรื่อยคิดแทนคนอื่นไปหมดทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ลงมือทำเรื่องบ้าๆจนได้...(เอ๊ะ หรือเฉพาะฉันคนเดียว?)
“กูจะไปหาแบคคยอน”
สวัสดีชีวิตใหม่ของฉัน...
แม่และเพื่อนๆของฉันมาส่งถึงสนามบิน...
ฉันผ่าน...ผ่านแบบฉลุยเลย ยิ่งเขารู้ว่าฉันพูดเกาหลี จีน และ อังกฤษ(พอได้) เขายิ่งดันให้ฉันผ่านๆๆ การแคสติ้งก็ไม่มีอะไรยากเลย...แค่ยิ้มและหมุนๆ...
“ดังให้พลุแตกนะมึง” กรกตกอดฉันแน่น ทำให้นึกถึงตอนที่ฉันกอดมัน... ฉันยังจำได้ดีเลยว่าพูดอะไรกับยัยนั่น ถ้ามึงไม่ไปSMทุกวัน มึงโดนกูฆ่าแน่ บัดนี้...ฉันกำลังจะไปแทนมันแล้ว...ไม่ได้ไปหน้าตึกด้วย เข้าไปในตัวตึกเลยต่างหาก...
แม่เจ้าคิดแล้วอยากจะร้องไห้...แบคคยอนจ๋าพี่มาแล้วจ๊ะ
“ส่องมาเยอะๆไลน์มาทุกวิ...” ขนมไทยกอดฉันและพูด “รักแกนะเว้ย...อยากให้แกได้ทำในที่สิ่งแกต้องการ จำไว้ว่าไม่มีการตัดสินใจไหนเป็นการตัดสินใจที่ผิด ถ้าเรื่องนั้นมันคือความตั้งใจของแกจริงๆ...แต่ถ้ามันผิดหวังขึ้นมา ฉันจะคอยต้อนรับแกกลับมาเองจีจี้”
ฉันน้ำตาคลอเลย...ไม่คิดว่ายัยขนมไทยจะคิดไกลแทนฉันได้ขนาดนั้น... ฉันกอดมันแน่นและพูดกลับไป
“กูคิดแค่เรื่องแบคคยอนอ่ะมึง...ขอโทษนะ”
“สมแล้วที่เป็นมึง...แรดได้โล่ค่ะ”
พอฉันมาถึงสนามบินอินชอนก็มีคนมาถือป้ายรอรับฉัน...
“น้องจีจีใช่มั้ยจ๊ะ” เธอยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน “ฉันชื่อ เวนย์ แคนดรัช จ๊ะ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น...ชื่อแปลกใช่มั้ยละจ๊ะ เรียกฉันว่าแคนดี้ออนนี่ก็ได้จ๊ะ ต่อจากนี้ไปฉันจะดูแลชีวิตต่างๆให้เธอเองจ๊ะ ปะเรากลับไปหอพักกัน...เพื่อนๆรอต้อนรับเธออยู่จ๊ะ”
เธอขับรถมารับฉันเอง...เราสองคนนั่งรถไปและเริ่มพูดคุยทำความรู้จักกัน... เธอใจดี เธอน่ารัก และเธอทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอจะดูแลฉันจริงๆ... ขนลุกเลยค่ะ จริงๆนะ
เมื่อไปถึงหอพัก...มันเป็นหอหญิง ภายในห้องมีห้องนอนแยกอีกสองห้อง อยู่กันสี่คน เตียงสองชั้น...
แต่ที่น่าตกใจและทำให้ฉันยิ้มไม่หุบเลยก็คือเมื่อฉันเดินเข้าไปข้างในห้อง...เพื่อนๆ ซึ่งน่าจะอายุไล่เลี่ยกับฉันต่างก็เซอร์ไพรส์ฉันกันใหญ่เลย มีป้ายผ้ายาวๆที่เขียนว่า ขอต้อนรับจีจี้ เป็นภาษาไทยด้วย!
เมื่อได้รู้จักกับพวกเธอจริงๆ ก็ยิ่งทำให้ฉันปลื้มมากขึ้นไปอีก...พวกเธอคอยแนะนำและคอยบอกว่าต้องทำตัวยังไงแบบไหนจนเหมือนจะกลายเป็นสงครามแย่งพูดกันไปเลย...
ฉันนอนเตียงบน ห้องเดียวกับพี่ซอนอิน...เธอเป็นนักแสดง เธอคนสวย สวยมาก สูงด้วย แต่ไม่เซ็กซี่เท่าไหร่...
พี่เขาหลับไปแล้ว...แต่ฉันนี่สิ นอนเบิกตาโพล่งเลย พรุ่งนี้ต้องไปทำงานวันแรก...
เอ้ยไม่ใช่ พรุ่งนี้ต้องไปฝึก...เดี๋ยวนะ...แล้วฉันมาทำอะไรวะเนี่ย...
ตอนเช้าตรู่...
“จีจีตื่นได้แล้ว ไปวิ่งกัน” เสียงพี่ซอนอินดังมาข้างหู...ฉันเพิ่งนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ...แล้วนี่ก็หกโมงเช้า...ให้ตายสิ... “จีจี!” พี่ซอนอินเขย่าตัวฉันแรงๆ...
“คะ-ค่า” ถึงจะหงุดหงิดแต่จะให้แสดงออกมาก็ไม่ได้หรอก...
ดังนั้นฉันจึงออกไปจ๊อกกิ้งกับเพื่อนๆในหอพักแบบงัวเงีย...แต่พอหน้าได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆแล้วทำให้ฉันตื่นและรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย... ฉันหันไปยิ้มให้พี่ซอนอินข้างหลัง เธอยิ้มกลับมา...เธอดูเปล่งปลั่ง...เธอมีดูออร่า...เธอดูเหมือนนางเอกในซี่รี่ย์เกาหลีเลย...
ปึก! ฉันมองแต่พี่ซอนอินจนเผลอวิ่งไปชนหลังใครบางคน
“ขอโทษค่ะ!” ฉันรีบก้มหัวขอโทษเขาทันที
“ไม่เป็นไรๆ แต่ทีหลังดูทางด้วยนะค่ะ”
ให้ทายว่าฉันชนใคร...พี่ซูยอง ศลป.วงSNSD!! ขุ่นพร่ะ สูงมาก! ขุ่นพระ! สวยกว่าในจอหลายเท่า!! ขุ่นพร่ะ!! ฉันตกใจจนตาค้างไปสองวิ ก่อนที่พี่ซอนอินจะเข้ามาขอโทษแทนฉันด้วยคน...
“หอพวกเธอก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน” พี่ซอนอินบอกฉันเมื่อเห็นหลังพี่ซูยองจากไปไกล... “พวกเธอเป็นกันเองมาก แต่เข้าถึงยาก...เข้าใจที่พูดมั้ย?”
ฉันพยักหน้ารับๆไป...สายตายังคงจ้องหลังของพี่ซูยอง...แต่ในหัว
แบคคยอนแล้วนายละ...นายอยู่ไหน...
“อยู่นี่!” ผมตะโกนบอกเพื่อนในห้องไป ผมกำลังยืนฉี่ในห้องน้ำอยู่ ในขณะที่เพื่อนเร่งให้ผมออกมาได้แล้ว ต้องรีบไปตึกSM... “แปปนึงสิวะ!! เร่งนักเร่งหนาเดี๋ยวพ่อฉี่ใส่ปากซะนี่!”
“กว่าจะออกมาได้นะมึง เป็นนิ่วหรอไง” จงแด ที่เพิ่งมาเป็นรูมเมทผมได้ไม่นานยืนด่าผมหน้าประตูห้อง
“ไปๆ สายแล้วๆ อย่ามัวแต่ด่ากูอยู่”
ผมกับมันรีบจ้ำลงจากหอและถลาเข้าไปในรถของพี่เมเนที่มารอรับตั้งแต่ชาติปางก่อน
โดนสวดไปตามระเบียบ...แต่ก็ชินแล้วละ
เมื่อมาถึงตึกผมกับจงแดก็เดินตรงไปห้องซ้อมร้องเพลงทันที...เช้าๆแบบนี้พวกผมเต้นไม่ออกหรอกครับ(ยกเว้นพวกบ้าพลังนั่น)
จงแดแยกไปห้องซ้อมร้องเพลงข้างๆที่เป็นของฝั่งจีน ส่วนผมเดินเข้าในฝั่งเกา และเห็นชานยอลกับเลย์ฮยองนั่งดีดกีต้าร์สบายใจอยู่...ผมจะรีบมาทำไม ในเมื่อยังไม่มีใครเริ่มทำอะไรเลย...
ดีโอกำลังนั่งมองเนื้อเพลงเงียบๆ ผมควรเดินเข้าไปสมทบเขาสินะ...ว่าแต่ไคกับเซฮุน...คงอยู่ห้องซ้อมเต้น
“มึงมานั่งพักเถอะ” ชานยอลบอกผม
“กูยังไม่เหนื่อยเลย” ผมตอบแต่ก็ยอมนั่งข้างๆมัน...
“พักล่วงหน้าไง”
“หมายความว่าไง?”
“นี่...เพลงคัมแบ็คใหม่ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเต้นๆร้องๆสุดโหดที่จะมาถึงนี้ซะ...”
“ฟังนะหนู” เจ๊(ผู้ชาย)คนนึงกำลังเดินไปเดินมารอบตัวฉันและพูดสั่งสอนเรื่องต่างๆให้ฟัง...
ฉันมาถึงตึกSMแล้วค่ะ ใจเต้นตึกตักเลย...พยายามทำเนียนๆมองหาแบคคยอนแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของexoเลยซักคน...
“สถานะของเธอตอนนี้คือ90%ที่จะลาออกจากการเป็นเด็กฝึกที่นี่...” เจ๊พูดไปเดินไป “ถ้าทนอยู่ได้เดือนนึงก็ลดเหลือ80%...นั่นยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลยนะ...ต้องรอให้เป็น0%ก่อนถึงจะเริ่มฝึกแบบเต็มตัว”
นี่เจ๊แกทำให้ฉันคนนี้สะพรึงได้อย่างไร...
“ถามหน่อยว่าเข้ามาที่นี่เพราะอะไรงั้นหรือ?” เจ๊เดินมาหน้าฉันและจ้องเขม็ง ถ้าตอบว่าเพราะแบคคยอนจะเป็นอะไรมั้ยวะ...ถ้าตอบความจริงไปจะโดนดีดออกจากวงการเลยมั้ย?
“ไม่รู้ค่ะ แค่อยากลองมาดู” ฉันนี่มันบ้าตลอดเลยจริงๆ...ตอบไปได้...
เจ๊ถลึงตาใส่ฉันพลางถอนหายใจ “95% ที่เธอจะลาออกจากที่นี่...”
แต่ 100% ที่ฉันจะต้องเจอแบคคยอนที่นี่...
“กลับไปที่ห้องฝึกของเธอได้แล้ว”
ฉันเดินกลับไปทางเดิม...เพราะไม่แน่ใจว่าถ้าไปทางใหม่แล้วจะเจอทางกลับหรือเปล่า...แต่ เอ๊ะ!
ขอบคุณในความบ้าดีเดือดของฉันจริงๆ...เด็กใหม่อย่างเราหลงทางก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก...หึหึ
ฉันเลี้ยวกลับไปทางตรงข้ามทันที...แบคคยอนนายอยู่ไหน แค่เจอกันแวบเดียวก็ได้...แวบเดียวก็พอ
ฉันเดินกดลิฟขึ้นไปชั้นบนๆ...ไม่แน่ใจว่าชั้นอะไร แต่พอเปิดไปปุ๊บกลับเจอคนใส่สูทเดินไปเดินมาพล่านไปหมดฉันจึงถลาเข้าไปในลิฟและกดลงไป...ไปชั้นเท่าไหร่ไม่รู้แต่พอเปิดเข้าไปปุ๊บ...เงียบ...ไร้ผู้คน
ฉันลองขึ้นๆลงๆลิฟอยู่นานจนมันเลยเวลาอันสมควร...
สุดท้ายฉันไม่เจอแบคคยอน...อยากจะร้องไห้
และอยากจะร้องหนักกว่านั้นอีกเมื่อได้ยินพี่ซอนอินเล่าตอนเรากลับถึงหอกันแล้ว...
“พวกเราน่ะเป็นเด็กฝึกฝั่งนักแสดง ส่วนพวกนักร้องหรือไอดอลจะอยู่ฝั่งเทรนนี่ แต่ว่าเทรนนี่กับไอดอลจริงๆก็แยกกันอีก เพราะงั้นจีจีถ้าอยากเจอพวกเขาก็ต้องข้ามฝั่งไปหา...ซึ่งไม่ค่อยมีคนของฝั่งเราไปฝั่งนั้นเท่าไหร่นัก ถ้าไปก็แสดงว่าไปเพราะงาน พวกเราน่ะไม่มีเวลาไปเดินเที่ยวแบบนั้นหรอก เดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่ทำงานกัน มีแต่ฝั่งนั้นซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิงที่มาฝั่งเรา”
ฉันรู้แล้วว่าฉันมาทำอะไร...ฉันมาฝึกเป็นนางเอกซีรี่ส์เกาหลีที่นี่...ฉันไม่ได้มาฝึกเต้นและร้องเพลงเหมือนExo วันนี้ฉันได้เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมของเกาหลี จำชื่อนักแสดงรุ่นพี่และฟังประวัติของSM จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้การแสดงเบสิคๆจากรุ่นพี่บ้างเล็กๆน้อยๆ... ไม่ค่อยได้ทำอะไรมาก แค่นั่งฟังสวยๆ...
สรุปคือฉัน...จะเจอแบคคยอนไม่ได้เลยงั้นสิ นอกเสียจากว่าแบคคยอนจะหามาฉัน...
กรีดร้องในใจเบาๆ...
หลายวันต่อมา...
22.00
“แฮ่ก แฮ่ก...เหนื่อย..สะ-สุดๆ” ผมยืนกุมเข่าตัวเองพลางหายใจแรง...
ซ้อม ซ้อม ซ้อม ซ้อม และ ซ้อม!... จะตายแล้วครับ ผมไม่ได้ถึกเหมือนและบ้าพลังไคเหมือนเซฮุนนะ...บ้าจริง! ความจริงเซฮุนยังต้องหยุดพักซักนิดเลย...แล้วผมละ...ร่างเล็กขนาดนี้ผมจะสู้ไหวหรอ
ส่วนคยองซูนั้นนอนหงายบนพื้นเหมือนศพไปเรียบร้อยแล้ว...
“พักก่อน!” ในที่สุดครูสอนเต้นพวกเราก็พูดคำนี้ออกมา...แต่หัวใจพวกเราห่อเหี่ยวกว่าเดิมอีก เพราะนั่นหมายถึงว่ามีซ้อมต่อ...ยังไม่ได้กลับหอ...
ผมทิ้งตัวเองลงพื้นอย่างหมดแรง...ในขณะที่เซฮุนเดินหอบไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาและไลน์กับพี่อะไรของมันซักอย่าง...ยังจะมีกะจิตกะใจพิมพ์หาใครอีกนะหมอนั่น...
“แบค!” เสียงใครเรียกผมมาจากนอกห้อง... ไม่เอานะ ไม่ขยับไปไหนทั้งนั้น “แบคคยอน! ออกมา!”
ผมจึงจำใจยกร่างที่เหนื่อยล้านี้ไปหาเจ้าของเสียงทันที...
“มีอะไรครับพี่เมเน...” มิน่าล่ะถึงไม่เข้ามาในห้อง ผมเห็นเขาแบกเอกสารกองโตอยู่ในอ้อมแขน...นั่นตารางงานของพวกผมหรือเปล่าน่ะ...สะพรึงนะ
“เอาไอนี่” พี่เมเนยกกองทั้งหมดนั้นมาให้ผม ล้อเล่นหรือเปล่า! “ไปส่งที่ห้อง654ฝั่งนักแสดงนะ ลงโทษที่แกกวนตีนฉันเมื่อตอนเที่ยง”
ห๊า!!
22.30
ฉันกำลังเบื่อสุดๆ อยู่ทีนี่ก็หลายวันแล้ว แต่ไม่มีอะไรให้ทำเลยนอกจาก สวย ควบคุมน้ำหนัก ทำสปา ทาเล็ป และเดินมาบริษัทสวยๆ...วันนี้ค่อนข้างเหงาหงอยมาก พี่แคนดี้กำลังเล่าเรื่องน่าเบื่อให้พวกเราเหล่ารูมเมทฟังอยู่...พี่ซอนอินจะหลับอยู่แล้ว
ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง...ไม่งั้นหงุดหงิดเพราะความเบื่อนี่แน่ๆ...
“พี่แคนดี้ เรามาเต้นกันเถอะ” ฉันที่ทนฟังไม่ได้อีกต่อไปกล่าวขึ้นมาดังๆ ทุกคนทำหน้าตื่นเล็กน้อย
“จีจี...พี่ยังเล่าไม่จบเลยนะ ยังมีเรื่องของคุณคิมซูว่าเจอกับคุณ--”
“ไม่เอาแล้ว! ไว้ต่อพรุ่งนี้ละกันนะค่ะ ยังไงๆพวกเราก็ยังเป็นแค่เด็กฝึกนี่เนอะ อีกนานกว่าจะได้เป็นนางเอกตัวจริง” ฉันฉุดร่างของพี่แคนดี้ขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเอาไอโฟนออกมาเปิดเพลง...และเร่งให้สุดเสียง
“เร็วทุกคน! เต้นกันเถอะ!”
ฉันจับมือพี่แคนดี้และพาเต้นรอบห้องอย่างร่าเริง...ฉันเบื่อมากจริงๆนะ ต้องหาอะไรที่มีสีสันไม่ก็เรื่องไร้สาระทำบ้าง... ฉันจึงเต้นเหมือนคนบ้าอยู่ตอนนี้ไง
เพื่อนๆมองฉันงงๆ ทำยังกะชีวิตนี้ไมเคยสัมผัสเรื่องโง่ๆแบบนี้เท่าไหร่
แต่ซักพักพอเพลงเริ่มเข้าท่อนฮุกพวกเราก็เริ่มหัวเราะ...พี่ซอนอินนั่งตบมือและโยกตัวไปมาแล้ว
ไม่นานพี่แคนดี้ก็เล่นด้วย...เธอเต้นเองได้แล้วไม่ต้องให้ฉันพาเต้น ฉันหัวเราะลั่นห้องอย่างมีความสุขเลยละเพราะท่าเต้นของพี่แคนดี้ประหลาดอยู่ไม่น้อย ฉันฉุดพี่ซอนอินให้ลุกขึ้นมาเต้นบ้าง...
“เร็วๆสิทุกคน! ปาร์ตี้เริ่มแล้วนะ!”
“หนัก หนัก หนักเชี่ย!” ผมลากขาล้าๆของผมเดินมาฝั่งนักแสดงจนได้...พี่เมเนนะพี่เมเน...ผมแค่แซวเสียงดังทำให้หน้าแตกนิดเดียวเองอะ...ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย...เฮอะ! ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าขี้เกียจเลยอ้างว่าแก้แค้นไปงั้นแหละ..ชิ อย่าให้เอาคืนนะ
ผมเดินผ่านห้องที่กำลังเปิดเพลงเสียงดังแบบรีบๆ...ก่อนจะเลี้ยวเข้าประตูห้องถัดไปและวางเอกสารลงบนโต๊ะดังโครม! ดีนะที่ไม่มีใครอยู่ในนั้น...ผมจึงสบถออกมาสองสามคำก่อนจะเดินออกไป...
แต่ต้องสะดุดหยุดเดินอยู่หน้าห้องที่กำลังเปิดเพลงครับ...
ผมอยากรู้ตามประสาของผมนั้นแหละ...ผมมองเข้าไปข้างในผ่านกระจกของประตูดูว่านักแสดงเขาทำอะไรกัน...
สิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือสาวสวยสี่คนกับผู้จัดการหญิงหนึ่งคน กำลังเต้นแบบไม่เป็นท่าไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน...มองเผินๆแล้วเหมือนพวกเขากำลังคลายเครียดกันอยู่...
แต่สายตาของผมไปหยุดที่ผู้หญิงร่างสวยคนนึง...เธอยืนจับมือกับเพื่อนและฉีกยิ้มจนหน้าบาน...
เธอสวยเหมือนๆคนอื่น...หรืออาจจะน้อยกว่าผมไม่รู้...แต่ที่รู้คือรอยยิ้มของเธอ ณ ตอนนี้มันทำให้ใจของผมเต้นแปลกๆ...ผมลืมตัวจนเผลอกุมหน้าอกตัวเอง...ในขณะที่สายตาจับจ้องที่ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น...
อะไรในตัวเธอ...ถึงทำให้ผมมองได้นานขนาดนี้
ฉันกรกตค่ะ พอดีได้ยินเสียงไลน์เด้งรัวจนโทรศัพท์จะระเบิดเลยรีบวางนิยายลงก่อนจะเปิดดู
มีทั้งของเซฮุน ทั้งของจีจี้...แต่ที่เด้งรัวๆคือของจีจี้ ฉันต้องเปิดดูของยัยนี่ก่อนสินะ....
ไลน์จีจี้
มึงงงงงง เมื่อกี้! กูเจอแบคคยอน แบคคยอนจริงๆใช่มั้ย!
ใช่หรือเปล่า!! ใช่แน่ๆ!! แต่กูไม่เข้าใจ มึงใช่หรือเปล่า??
ใช่สิใช่ มึงใช่แน่มั้ยวะ? ใช่มึงต้องใช่!!
ใช่แน่ๆ!!
กูเห็นแค่เงาลางๆเดินผ่านประตูไป...แต่กูก็ออกไปดูแทบ
จะทันทีนะเว้ย!! แต่ทำไมกูถึงพลาดวะ!! อีหอย บอกกูว่า
นั่นคือแบคคยอน!! กูไม่ได้ตาฝาดจริงๆนะ!!
หอย
หอย
หอย
หอย
ตอบกู
ตอบ
อ่านนะ
อ่านเดี๋ยวนี้!
มึงอ่านแล้ว! อย่าเพิ่งตอบอะไรกู
กูขอถามมึงก่อนว่ามึงคุยไลน์กับเซฮุนอยู่หรือเปล่า?!
ฉันรีบตอบสั้นๆไปค่ะว่า อ่า
บฟหลหนยกเยกด่เสหากด
เรกหยวดฟหสวกาฟวก หอยยยยยยยยยยย
รีบถามเซฮุนตอนนี้เลยว่าแบคคยอนอยู่ไหนนน
ขอร้องนะเพื่อนนะ ขอร้องละ!
ฉันที่พลอยจะตื่นเต้นไปกับมันด้วยก็กดเข้าไลน์เซฮุนทันที แต่เขาไลน์มาหาฉันซะก่อน
พี่ทำอะไรอยู่ ผมซ้อมอ่ะ
เหนื่อยมากเลย
ฉันพิมพ์ตอบกลับไปรีบๆ...
กำลังอ่านนิยาย
ว่าแต่เซฮุนเมื่อกี้เพื่อนพี่เห็นแบคคยอนน่ะ
ตอนนี้เขาอยู่ไหนหรอ?
เพื่อนพี่ไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือเปล่า
ผมที่เริ่มจะหายเหนื่อยแล้ว แต่รู้สึกหงุดหงิดเล็กๆที่พี่เซนาไม่สนใจผมเท่าไหร่...
ผมมองหาแบคคยอนฮยอง...เอ่า เขาไปไหนวะ อ่อ นั่นมาแล้ว
แบคคยอนฮยองเพิ่งผลักประตูเข้ามาเหนื่อยๆ...
“พี่ไปไหนมา” ผมถามทันที
“ไปฝั่งนักแสดงมา...มีอะไร”
“เปล่าฮะ”
แล้วผมก็ตอบพี่เซนาไป
ไปฝั่งนักแสดงมา...
ก่อนจะกดส่งสติ๊กเกอร์โกรธๆให้ด้วย...
พี่เซนาตอบมาว่า
อ่า ขอบใจมาก
แล้วก็
เหนื่อยก็พักนะเซฮุน อย่าหักโหมน๊า ^ ^
กับ สติ๊กเกอร์...
ทำให้ผมนั่งยิ้มคนเดียวเลยละ...
(ตอนนี้อาจจะน่าเบื่อหน่อยนะ เพราะยังเป็นแค่เริ่มเรื่อง...เดี๋ยวพอจีจี้เจอกับแบคจริงๆจะสนุกกว่านี้)
ความคิดเห็น