ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC Exo x You) Kill me มายเฟรน! (Sehun,Kris,Chanyeol)

    ลำดับตอนที่ #11 : สวย

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 57



    ณ ประเทศไทย อีกสามวันจะเปิดเทอม...


    ฉันจีจี้ กำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟกับยัยกรกตและขนมไทย


    กรกตกลับมาจากเกาหลีได้สัปดาห์นึงแล้ว พวกเราไปดักตบหน้ามันถึงสนามบินสุวรรณภูมิ (ล้อเล่น) ด้วยความอิจฉาและความเผือกขนมไทยกับฉันลงทุนช่วยมันขนห้องและจัดห้องที่บ้านกรกตจากนั้นก็นั่งโม้ยาวจนถึงเช้าเลย....เช้าจริงๆนะ


    เมื่อกี้พวกเราเพิ่งเดินออกไปซื้ออุปกรณ์การเรียนและหนังสือมา ตอนนี้จึงเหนื่อยมาก เลยตัดสินใจจะนั่งจิบชาและกาแฟไปเรื่อยๆจนกว่าจะหายเหนื่อย


    คิกคิก” ยัยกรกตหัวเราะใส่ไลน์ตัวเอง...


    ขนมไทยชะเง้อมองดู...และหันมาส่ายหน้ากับฉัน...


    มันคุยไลน์กับเซฮุน ทำไมพวกเราถึงไม่ตื่นเต้นและกระชากมือถือมันมาดูนั่นก็เพราะเราทำไปแล้วน่ะสิ คืนแรกที่มาถึงไทย เซฮุนก็เอาแต่ส่งไลน์มาหายัยนั่น... แน่นอนว่าพวกเราจ้องจนจอแทบระเบิด ฉันมีไอดีไลน์ของเซฮุนเรียบร้อย แต่ยังไม่ได้แอด...


    แต่ปรากฏว่าบทสนทนาของพวกเขาสองคน...มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเข้าไปอ่าน (ยัยขนมไทยบอกฉันมา มันสั่งเด็ดขาดเลยว่าห้ามดูบทสนทนของเซฮุนอีก) เพราะอะไรน่ะหรือเพราะเซฮุนมันกำลังจีบยัยกรกตอยู่น่ะสิ...แต่ยัยนั่นแม่งทึ่มมาก มันไม่รู้ตัวเลย อยากจะเอาน้ำกรดสาดหน้าจริงๆ...


    มันคิดว่าเซฮุนไลน์มาคุยตามมารยาท!!! ใครก็ได้ฆ่ามันที บ้านมันอยู่ซอยพรีเว็ต เลขที่(ล้อเล่น)

    ส่วนพี่จงแด...เราคลาดกัน โฮว อยากร้องไห้


    ทันทีที่ฉันถึงฟาร์มยัยนั่น ฉันก็แทบจะหันกลับทันทีเลยเหมือนกัน... โชคไม่เข้าข้างฉันเลยสินะ


    ฉันนั่งมองไลน์ตัวเอง...เห็นแค่ไลน์พี่เบิร์ดที่เด้งมา...


    ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนหรอกค่ะ เพราะฉันหยิ่ง...(ภายนอกอ่ะนะ) หยิ่งมากแต่หลังๆมานี้เริ่มชอบความหยิ่งนี่เข้าให้ละ มาคิดๆดูแล้วมีเพื่อนแค่สองคนนี้...ก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิตของฉันแล้วละ สองคนนี้เป็นเพื่อนที่เป็นเพื่อนได้ทุกแบบฉันรักพวกเขา...และเกลียดพวกเขาที่เจอexoเหมือนกัน...


    ขอโทษนะค่ะคนสวย...” มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินมาที่โต๊ะพวกเรา


    คนสวย?...แน่นอนค่ะว่าพวกเราสามคนหันพรึบ...


    แต่จริงๆพี่เขาหมายถึงฉันค่ะ...เพราะพี่เขามองฉันอยู่  ไม่ได้มั่นใจเลย


    ค่ะ?” ฉันมองหน้าขนมไทยกับกรกตแบบไม่แน่ใจเท่าไหร่...


    พี่เป็นแมวมองมาจากบริษัทชื่อดังบินตรงจากเกาหลี...” พี่เขาพูดรัว “พี่เห็นใบหน้าและหุ่นของน้องแล้วถือว่าค่อนข้างดีและสามารถปั้นได้...น้องช่วยยืนให้พี่ดูหน่อยได้มั้ยค่ะ รบกวนนิดนึง


    กรกตส่งหน้างงๆมาให้ฉัน...แต่ฉันก็ยืนตามที่พี่เขาสั่ง...


    ดีมากค่ะ” เธอมองขาฉัน “บริษัทSMของเราพร้อมจะรับน้องเข้าพิจารณา...ถ้าน้องอยากลองเปลี่ยนเส้นทางการเดิน หรืออยากลองทำความฝันใหม่..ติดต่อพี่ได้ทันทีเลยนะ” เธอยื่นนามบัตรมาให้ “พี่จะอยู่ประเทศไทยจนถึงเดือนหน้า เพราะงั้นน้องมีเวลาตัดสินใจหลายวันจ๊ะ


    ยัยกรกตกับขนมไทยบีบแขนกันและกันแน่น...


    ฉันกำลังทำหน้างง...แต่สมอง...


    แบคคยอนลูกแม่!!

     

     

     

     

     

     

     

    กลับมาถึงหอพัก...

    คิดถูกแล้วจริงๆที่ไม่ได้ตอบพี่คนนั้นไปในทันที...พอลองโทรไปหาเบอร์ในนามบัตรแล้ว กลับเจอเสียงผู้ชายที่ดูจู้จี้จุกจิกมาก (เหมือนไม่ใช่ผู้ชายแท้ด้วยนะ) นางบอกให้ฉันส่งรูปทั้งตัวและห้ามแต่งเติมอะไรลงไป ยังมีเรื่องประวัติการศึกษา ประวัติพ่อแม่และวงตระกูล พี่น้อง แต่ที่เน้นจริงๆก็คือ ความสามารถพิเศษ...


    ส่งไปดีมั้ยวะ” ฉันถามเพื่อนเป็นรอบที่สิบสอง...


    มาพูดเอาป่านนี้ เดี๋ยวกูตบปาก” กรกตส่งสายตารำคาญมาให้ฉัน มันกำลังจัดเอกสารที่เจ๊ผู้ชายคนนั้นสั่งลงซอง... เร็วมั้ยละ


    ส่วนขนมไทยกำลังนั่งเลื่อนไอแพดไปมาด้วยสีหน้าเครียดๆ... “ถึงแกผ่านเข้ารอบส่งเอกสารนี้ไป...แกต้องไปแคสติ้งถึงเกาหลีเลยนะเว้ย...เฮ้ยไม่ๆ เขาบอกว่าแคสติ้งที่ห้างที่ประเทศไทยได้ โอเคงั้นไม่เป็นไร...ว่าแต่” มันเงยหน้ามามองฉัน “ถ้าแกผ่านทุกด่านแล้วจริงๆ...แกจะทิ้งการเรียนไปเป็นดารานักร้องพวกนั้นจริงๆหรอวะ


    นั่นทำให้ฉันลำบากใจอยู่บ้าง ถึงที่บ้านไม่เคยขัดว่าฉันจะทำอะไร...ขอแค่ทำแล้วไม่ตายก็พอ...


    แต่ว่าฉันอยู่ประเทศไทยมานาน...นานพอที่ค่านิยมของคนที่นี่จะซึมซับเข้าไปในหัวบ้าง...เป็นนักร้องที่เต้นๆอยู่บนเวที...สำหรับพวกผู้ใหญ่รุ่นเก่าแล้วมันดูไม่ค่อยมีค่าเท่าคนที่เรียนจบและมีงานทำ...ถึงเงินที่ได้จะน้อยกว่าก็ตาม...


    ทิ้ง” ลาก่อนชีวิตนักศึกษาของฉัน...


    อะไรนะ” ขนมไทยหันมาทำหน้าไม่อยากเชื่อ... แต่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น...


    พวกเราก็แบบนี้แหละ..กังวลไปเรื่อยคิดแทนคนอื่นไปหมดทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ลงมือทำเรื่องบ้าๆจนได้...(เอ๊ะ หรือเฉพาะฉันคนเดียว?)


    กูจะไปหาแบคคยอน


    สวัสดีชีวิตใหม่ของฉัน...







     

     

     

     

     

     

    แม่และเพื่อนๆของฉันมาส่งถึงสนามบิน...


    ฉันผ่าน...ผ่านแบบฉลุยเลย ยิ่งเขารู้ว่าฉันพูดเกาหลี จีน และ อังกฤษ(พอได้) เขายิ่งดันให้ฉันผ่านๆๆ การแคสติ้งก็ไม่มีอะไรยากเลย...แค่ยิ้มและหมุนๆ...


    ดังให้พลุแตกนะมึง” กรกตกอดฉันแน่น ทำให้นึกถึงตอนที่ฉันกอดมัน... ฉันยังจำได้ดีเลยว่าพูดอะไรกับยัยนั่น ถ้ามึงไม่ไปSMทุกวัน มึงโดนกูฆ่าแน่ บัดนี้...ฉันกำลังจะไปแทนมันแล้ว...ไม่ได้ไปหน้าตึกด้วย เข้าไปในตัวตึกเลยต่างหาก...


    แม่เจ้าคิดแล้วอยากจะร้องไห้...แบคคยอนจ๋าพี่มาแล้วจ๊ะ


    ส่องมาเยอะๆไลน์มาทุกวิ...” ขนมไทยกอดฉันและพูด “รักแกนะเว้ย...อยากให้แกได้ทำในที่สิ่งแกต้องการ จำไว้ว่าไม่มีการตัดสินใจไหนเป็นการตัดสินใจที่ผิด ถ้าเรื่องนั้นมันคือความตั้งใจของแกจริงๆ...แต่ถ้ามันผิดหวังขึ้นมา ฉันจะคอยต้อนรับแกกลับมาเองจีจี้


    ฉันน้ำตาคลอเลย...ไม่คิดว่ายัยขนมไทยจะคิดไกลแทนฉันได้ขนาดนั้น... ฉันกอดมันแน่นและพูดกลับไป


    กูคิดแค่เรื่องแบคคยอนอ่ะมึง...ขอโทษนะ


    สมแล้วที่เป็นมึง...แรดได้โล่ค่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     




    พอฉันมาถึงสนามบินอินชอนก็มีคนมาถือป้ายรอรับฉัน...


    น้องจีจีใช่มั้ยจ๊ะ” เธอยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน “ฉันชื่อ เวนย์ แคนดรัช จ๊ะ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น...ชื่อแปลกใช่มั้ยละจ๊ะ เรียกฉันว่าแคนดี้ออนนี่ก็ได้จ๊ะ ต่อจากนี้ไปฉันจะดูแลชีวิตต่างๆให้เธอเองจ๊ะ ปะเรากลับไปหอพักกัน...เพื่อนๆรอต้อนรับเธออยู่จ๊ะ


    เธอขับรถมารับฉันเอง...เราสองคนนั่งรถไปและเริ่มพูดคุยทำความรู้จักกัน... เธอใจดี เธอน่ารัก และเธอทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอจะดูแลฉันจริงๆ... ขนลุกเลยค่ะ จริงๆนะ


    เมื่อไปถึงหอพัก...มันเป็นหอหญิง ภายในห้องมีห้องนอนแยกอีกสองห้อง อยู่กันสี่คน เตียงสองชั้น...


    แต่ที่น่าตกใจและทำให้ฉันยิ้มไม่หุบเลยก็คือเมื่อฉันเดินเข้าไปข้างในห้อง...เพื่อนๆ ซึ่งน่าจะอายุไล่เลี่ยกับฉันต่างก็เซอร์ไพรส์ฉันกันใหญ่เลย มีป้ายผ้ายาวๆที่เขียนว่า ขอต้อนรับจีจี้ เป็นภาษาไทยด้วย!


    เมื่อได้รู้จักกับพวกเธอจริงๆ ก็ยิ่งทำให้ฉันปลื้มมากขึ้นไปอีก...พวกเธอคอยแนะนำและคอยบอกว่าต้องทำตัวยังไงแบบไหนจนเหมือนจะกลายเป็นสงครามแย่งพูดกันไปเลย...


    ฉันนอนเตียงบน ห้องเดียวกับพี่ซอนอิน...เธอเป็นนักแสดง เธอคนสวย สวยมาก สูงด้วย แต่ไม่เซ็กซี่เท่าไหร่...


    พี่เขาหลับไปแล้ว...แต่ฉันนี่สิ นอนเบิกตาโพล่งเลย พรุ่งนี้ต้องไปทำงานวันแรก...


    เอ้ยไม่ใช่ พรุ่งนี้ต้องไปฝึก...เดี๋ยวนะ...แล้วฉันมาทำอะไรวะเนี่ย...

     

     

     

     

     

     

     

    ตอนเช้าตรู่...


    จีจีตื่นได้แล้ว ไปวิ่งกัน” เสียงพี่ซอนอินดังมาข้างหู...ฉันเพิ่งนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ...แล้วนี่ก็หกโมงเช้า...ให้ตายสิ... “จีจี!” พี่ซอนอินเขย่าตัวฉันแรงๆ...


    คะ-ค่า” ถึงจะหงุดหงิดแต่จะให้แสดงออกมาก็ไม่ได้หรอก...


    ดังนั้นฉันจึงออกไปจ๊อกกิ้งกับเพื่อนๆในหอพักแบบงัวเงีย...แต่พอหน้าได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆแล้วทำให้ฉันตื่นและรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย... ฉันหันไปยิ้มให้พี่ซอนอินข้างหลัง เธอยิ้มกลับมา...เธอดูเปล่งปลั่ง...เธอมีดูออร่า...เธอดูเหมือนนางเอกในซี่รี่ย์เกาหลีเลย...


    ปึกฉันมองแต่พี่ซอนอินจนเผลอวิ่งไปชนหลังใครบางคน


    ขอโทษค่ะ!” ฉันรีบก้มหัวขอโทษเขาทันที


    ไม่เป็นไรๆ แต่ทีหลังดูทางด้วยนะค่ะ


    ให้ทายว่าฉันชนใคร...พี่ซูยอง ศลป.วงSNSD!! ขุ่นพร่ะ สูงมากขุ่นพระสวยกว่าในจอหลายเท่า!! ขุ่นพร่ะ!! ฉันตกใจจนตาค้างไปสองวิ ก่อนที่พี่ซอนอินจะเข้ามาขอโทษแทนฉันด้วยคน...


    หอพวกเธอก็อยู่แถวนี้เหมือนกัน” พี่ซอนอินบอกฉันเมื่อเห็นหลังพี่ซูยองจากไปไกล... “พวกเธอเป็นกันเองมาก แต่เข้าถึงยาก...เข้าใจที่พูดมั้ย?”


    ฉันพยักหน้ารับๆไป...สายตายังคงจ้องหลังของพี่ซูยอง...แต่ในหัว


    แบคคยอนแล้วนายละ...นายอยู่ไหน...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     















     

    อยู่นี่!” ผมตะโกนบอกเพื่อนในห้องไป ผมกำลังยืนฉี่ในห้องน้ำอยู่ ในขณะที่เพื่อนเร่งให้ผมออกมาได้แล้ว ต้องรีบไปตึกSM... “แปปนึงสิวะ!! เร่งนักเร่งหนาเดี๋ยวพ่อฉี่ใส่ปากซะนี่!


    กว่าจะออกมาได้นะมึง เป็นนิ่วหรอไง” จงแด ที่เพิ่งมาเป็นรูมเมทผมได้ไม่นานยืนด่าผมหน้าประตูห้อง


    ไปๆ สายแล้วๆ อย่ามัวแต่ด่ากูอยู่


    ผมกับมันรีบจ้ำลงจากหอและถลาเข้าไปในรถของพี่เมเนที่มารอรับตั้งแต่ชาติปางก่อน


    โดนสวดไปตามระเบียบ...แต่ก็ชินแล้วละ


    เมื่อมาถึงตึกผมกับจงแดก็เดินตรงไปห้องซ้อมร้องเพลงทันที...เช้าๆแบบนี้พวกผมเต้นไม่ออกหรอกครับ(ยกเว้นพวกบ้าพลังนั่น)


    จงแดแยกไปห้องซ้อมร้องเพลงข้างๆที่เป็นของฝั่งจีน ส่วนผมเดินเข้าในฝั่งเกา และเห็นชานยอลกับเลย์ฮยองนั่งดีดกีต้าร์สบายใจอยู่...ผมจะรีบมาทำไม ในเมื่อยังไม่มีใครเริ่มทำอะไรเลย...


    ดีโอกำลังนั่งมองเนื้อเพลงเงียบๆ ผมควรเดินเข้าไปสมทบเขาสินะ...ว่าแต่ไคกับเซฮุน...คงอยู่ห้องซ้อมเต้น


    มึงมานั่งพักเถอะ” ชานยอลบอกผม


    กูยังไม่เหนื่อยเลย” ผมตอบแต่ก็ยอมนั่งข้างๆมัน...


    พักล่วงหน้าไง


    หมายความว่าไง?”


    นี่...เพลงคัมแบ็คใหม่ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเต้นๆร้องๆสุดโหดที่จะมาถึงนี้ซะ...

     

     

     

     

     





















    ฟังนะหนู” เจ๊(ผู้ชาย)คนนึงกำลังเดินไปเดินมารอบตัวฉันและพูดสั่งสอนเรื่องต่างๆให้ฟัง...


    ฉันมาถึงตึกSMแล้วค่ะ ใจเต้นตึกตักเลย...พยายามทำเนียนๆมองหาแบคคยอนแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของexoเลยซักคน...


    สถานะของเธอตอนนี้คือ90%ที่จะลาออกจากการเป็นเด็กฝึกที่นี่...” เจ๊พูดไปเดินไป “ถ้าทนอยู่ได้เดือนนึงก็ลดเหลือ80%...นั่นยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลยนะ...ต้องรอให้เป็น0%ก่อนถึงจะเริ่มฝึกแบบเต็มตัว


    นี่เจ๊แกทำให้ฉันคนนี้สะพรึงได้อย่างไร...


    ถามหน่อยว่าเข้ามาที่นี่เพราะอะไรงั้นหรือ?” เจ๊เดินมาหน้าฉันและจ้องเขม็ง ถ้าตอบว่าเพราะแบคคยอนจะเป็นอะไรมั้ยวะ...ถ้าตอบความจริงไปจะโดนดีดออกจากวงการเลยมั้ย?


    ไม่รู้ค่ะ แค่อยากลองมาดู” ฉันนี่มันบ้าตลอดเลยจริงๆ...ตอบไปได้...


    เจ๊ถลึงตาใส่ฉันพลางถอนหายใจ “95% ที่เธอจะลาออกจากที่นี่...


    แต่ 100% ที่ฉันจะต้องเจอแบคคยอนที่นี่...


    กลับไปที่ห้องฝึกของเธอได้แล้ว


    ฉันเดินกลับไปทางเดิม...เพราะไม่แน่ใจว่าถ้าไปทางใหม่แล้วจะเจอทางกลับหรือเปล่า...แต่ เอ๊ะ!


    ขอบคุณในความบ้าดีเดือดของฉันจริงๆ...เด็กใหม่อย่างเราหลงทางก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก...หึหึ


    ฉันเลี้ยวกลับไปทางตรงข้ามทันที...แบคคยอนนายอยู่ไหน แค่เจอกันแวบเดียวก็ได้...แวบเดียวก็พอ


    ฉันเดินกดลิฟขึ้นไปชั้นบนๆ...ไม่แน่ใจว่าชั้นอะไร แต่พอเปิดไปปุ๊บกลับเจอคนใส่สูทเดินไปเดินมาพล่านไปหมดฉันจึงถลาเข้าไปในลิฟและกดลงไป...ไปชั้นเท่าไหร่ไม่รู้แต่พอเปิดเข้าไปปุ๊บ...เงียบ...ไร้ผู้คน


    ฉันลองขึ้นๆลงๆลิฟอยู่นานจนมันเลยเวลาอันสมควร...


    สุดท้ายฉันไม่เจอแบคคยอน...อยากจะร้องไห้


    และอยากจะร้องหนักกว่านั้นอีกเมื่อได้ยินพี่ซอนอินเล่าตอนเรากลับถึงหอกันแล้ว...


    พวกเราน่ะเป็นเด็กฝึกฝั่งนักแสดง ส่วนพวกนักร้องหรือไอดอลจะอยู่ฝั่งเทรนนี่ แต่ว่าเทรนนี่กับไอดอลจริงๆก็แยกกันอีก เพราะงั้นจีจีถ้าอยากเจอพวกเขาก็ต้องข้ามฝั่งไปหา...ซึ่งไม่ค่อยมีคนของฝั่งเราไปฝั่งนั้นเท่าไหร่นัก ถ้าไปก็แสดงว่าไปเพราะงาน พวกเราน่ะไม่มีเวลาไปเดินเที่ยวแบบนั้นหรอก เดี๋ยวเขาจะหาว่าไม่ทำงานกัน มีแต่ฝั่งนั้นซึ่งส่วนมากเป็นผู้หญิงที่มาฝั่งเรา


    ฉันรู้แล้วว่าฉันมาทำอะไร...ฉันมาฝึกเป็นนางเอกซีรี่ส์เกาหลีที่นี่...ฉันไม่ได้มาฝึกเต้นและร้องเพลงเหมือนExo วันนี้ฉันได้เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมของเกาหลี จำชื่อนักแสดงรุ่นพี่และฟังประวัติของSM จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้การแสดงเบสิคๆจากรุ่นพี่บ้างเล็กๆน้อยๆ... ไม่ค่อยได้ทำอะไรมาก แค่นั่งฟังสวยๆ...


    สรุปคือฉัน...จะเจอแบคคยอนไม่ได้เลยงั้นสิ นอกเสียจากว่าแบคคยอนจะหามาฉัน...


    กรีดร้องในใจเบาๆ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




     

     

     

    หลายวันต่อมา...


    22.00


    แฮ่ก แฮ่ก...เหนื่อย..สะ-สุดๆ” ผมยืนกุมเข่าตัวเองพลางหายใจแรง...


    ซ้อม ซ้อม ซ้อม ซ้อม และ ซ้อม!... จะตายแล้วครับ ผมไม่ได้ถึกเหมือนและบ้าพลังไคเหมือนเซฮุนนะ...บ้าจริงความจริงเซฮุนยังต้องหยุดพักซักนิดเลย...แล้วผมละ...ร่างเล็กขนาดนี้ผมจะสู้ไหวหรอ


    ส่วนคยองซูนั้นนอนหงายบนพื้นเหมือนศพไปเรียบร้อยแล้ว...


    พักก่อน!” ในที่สุดครูสอนเต้นพวกเราก็พูดคำนี้ออกมา...แต่หัวใจพวกเราห่อเหี่ยวกว่าเดิมอีก เพราะนั่นหมายถึงว่ามีซ้อมต่อ...ยังไม่ได้กลับหอ...


    ผมทิ้งตัวเองลงพื้นอย่างหมดแรง...ในขณะที่เซฮุนเดินหอบไปหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาและไลน์กับพี่อะไรของมันซักอย่าง...ยังจะมีกะจิตกะใจพิมพ์หาใครอีกนะหมอนั่น...


    แบค!” เสียงใครเรียกผมมาจากนอกห้อง... ไม่เอานะ ไม่ขยับไปไหนทั้งนั้น “แบคคยอนออกมา!


    ผมจึงจำใจยกร่างที่เหนื่อยล้านี้ไปหาเจ้าของเสียงทันที...


    มีอะไรครับพี่เมเน...” มิน่าล่ะถึงไม่เข้ามาในห้อง ผมเห็นเขาแบกเอกสารกองโตอยู่ในอ้อมแขน...นั่นตารางงานของพวกผมหรือเปล่าน่ะ...สะพรึงนะ


    เอาไอนี่” พี่เมเนยกกองทั้งหมดนั้นมาให้ผม ล้อเล่นหรือเปล่า! “ไปส่งที่ห้อง654ฝั่งนักแสดงนะ ลงโทษที่แกกวนตีนฉันเมื่อตอนเที่ยง


    ห๊า!!

     

     

     

     

     

     

     
















    22.30

    ฉันกำลังเบื่อสุดๆ อยู่ทีนี่ก็หลายวันแล้ว แต่ไม่มีอะไรให้ทำเลยนอกจาก สวย ควบคุมน้ำหนัก ทำสปา ทาเล็ป และเดินมาบริษัทสวยๆ...วันนี้ค่อนข้างเหงาหงอยมาก พี่แคนดี้กำลังเล่าเรื่องน่าเบื่อให้พวกเราเหล่ารูมเมทฟังอยู่...พี่ซอนอินจะหลับอยู่แล้ว


    ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง...ไม่งั้นหงุดหงิดเพราะความเบื่อนี่แน่ๆ...


    พี่แคนดี้ เรามาเต้นกันเถอะ” ฉันที่ทนฟังไม่ได้อีกต่อไปกล่าวขึ้นมาดังๆ ทุกคนทำหน้าตื่นเล็กน้อย


    จีจี...พี่ยังเล่าไม่จบเลยนะ ยังมีเรื่องของคุณคิมซูว่าเจอกับคุณ--


    ไม่เอาแล้วไว้ต่อพรุ่งนี้ละกันนะค่ะ ยังไงๆพวกเราก็ยังเป็นแค่เด็กฝึกนี่เนอะ อีกนานกว่าจะได้เป็นนางเอกตัวจริง” ฉันฉุดร่างของพี่แคนดี้ขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเอาไอโฟนออกมาเปิดเพลง...และเร่งให้สุดเสียง


    เร็วทุกคนเต้นกันเถอะ!


    ฉันจับมือพี่แคนดี้และพาเต้นรอบห้องอย่างร่าเริง...ฉันเบื่อมากจริงๆนะ ต้องหาอะไรที่มีสีสันไม่ก็เรื่องไร้สาระทำบ้าง... ฉันจึงเต้นเหมือนคนบ้าอยู่ตอนนี้ไง


    เพื่อนๆมองฉันงงๆ ทำยังกะชีวิตนี้ไมเคยสัมผัสเรื่องโง่ๆแบบนี้เท่าไหร่


    แต่ซักพักพอเพลงเริ่มเข้าท่อนฮุกพวกเราก็เริ่มหัวเราะ...พี่ซอนอินนั่งตบมือและโยกตัวไปมาแล้ว


    ไม่นานพี่แคนดี้ก็เล่นด้วย...เธอเต้นเองได้แล้วไม่ต้องให้ฉันพาเต้น ฉันหัวเราะลั่นห้องอย่างมีความสุขเลยละเพราะท่าเต้นของพี่แคนดี้ประหลาดอยู่ไม่น้อย ฉันฉุดพี่ซอนอินให้ลุกขึ้นมาเต้นบ้าง...


    เร็วๆสิทุกคนปาร์ตี้เริ่มแล้วนะ!


     

     

     

     

     

















     

    หนัก หนัก หนักเชี่ย!” ผมลากขาล้าๆของผมเดินมาฝั่งนักแสดงจนได้...พี่เมเนนะพี่เมเน...ผมแค่แซวเสียงดังทำให้หน้าแตกนิดเดียวเองอะ...ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย...เฮอะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าขี้เกียจเลยอ้างว่าแก้แค้นไปงั้นแหละ..ชิ อย่าให้เอาคืนนะ


    ผมเดินผ่านห้องที่กำลังเปิดเพลงเสียงดังแบบรีบๆ...ก่อนจะเลี้ยวเข้าประตูห้องถัดไปและวางเอกสารลงบนโต๊ะดังโครมดีนะที่ไม่มีใครอยู่ในนั้น...ผมจึงสบถออกมาสองสามคำก่อนจะเดินออกไป...


    แต่ต้องสะดุดหยุดเดินอยู่หน้าห้องที่กำลังเปิดเพลงครับ...


    ผมอยากรู้ตามประสาของผมนั้นแหละ...ผมมองเข้าไปข้างในผ่านกระจกของประตูดูว่านักแสดงเขาทำอะไรกัน...


    สิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือสาวสวยสี่คนกับผู้จัดการหญิงหนึ่งคน กำลังเต้นแบบไม่เป็นท่าไปตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน...มองเผินๆแล้วเหมือนพวกเขากำลังคลายเครียดกันอยู่...


    แต่สายตาของผมไปหยุดที่ผู้หญิงร่างสวยคนนึง...เธอยืนจับมือกับเพื่อนและฉีกยิ้มจนหน้าบาน...


    เธอสวยเหมือนๆคนอื่น...หรืออาจจะน้อยกว่าผมไม่รู้...แต่ที่รู้คือรอยยิ้มของเธอ ณ ตอนนี้มันทำให้ใจของผมเต้นแปลกๆ...ผมลืมตัวจนเผลอกุมหน้าอกตัวเอง...ในขณะที่สายตาจับจ้องที่ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น...


    อะไรในตัวเธอ...ถึงทำให้ผมมองได้นานขนาดนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     























    ฉันกรกตค่ะ พอดีได้ยินเสียงไลน์เด้งรัวจนโทรศัพท์จะระเบิดเลยรีบวางนิยายลงก่อนจะเปิดดู


    มีทั้งของเซฮุน ทั้งของจีจี้...แต่ที่เด้งรัวๆคือของจีจี้ ฉันต้องเปิดดูของยัยนี่ก่อนสินะ....


    ไลน์จีจี้

    มึงงงงงง เมื่อกี้กูเจอแบคคยอน แบคคยอนจริงๆใช่มั้ย!
    ใช่หรือเปล่า!! ใช่แน่ๆ!! แต่กูไม่เข้าใจ มึงใช่หรือเปล่า??
    ใช่สิใช่ มึงใช่แน่มั้ยวะใช่มึงต้องใช่!!



      ใช่แน่ๆ!!


    กูเห็นแค่เงาลางๆเดินผ่านประตูไป...แต่กูก็ออกไปดูแทบ
    จะทันทีนะเว้ย
    !! แต่ทำไมกูถึงพลาดวะ!! อีหอย บอกกูว่า
    นั่นคือแบคคยอน
    !! กูไม่ได้ตาฝาดจริงๆนะ!!



    หอย

    หอย

    หอย

    หอย


    ตอบกู


    ตอบ


    อ่านนะ


    อ่านเดี๋ยวนี้!


    มึงอ่านแล้วอย่าเพิ่งตอบอะไรกู
    กูขอถามมึงก่อนว่ามึงคุยไลน์กับเซฮุนอยู่หรือเปล่า
    ?!



    ฉันรีบตอบสั้นๆไปค่ะว่า อ่า


    บฟหลหนยกเยกด่เสหากด
    เรกหยวดฟหสวกาฟวก หอยยยยยยยยยยย



    รีบถามเซฮุนตอนนี้เลยว่าแบคคยอนอยู่ไหนนน
    ขอร้องนะเพื่อนนะ ขอร้องละ
    !

     

    ฉันที่พลอยจะตื่นเต้นไปกับมันด้วยก็กดเข้าไลน์เซฮุนทันที แต่เขาไลน์มาหาฉันซะก่อน   

     

    พี่ทำอะไรอยู่ ผมซ้อมอ่ะ

     เหนื่อยมากเลย                  

     

    ฉันพิมพ์ตอบกลับไปรีบๆ...

     กำลังอ่านนิยาย

    ว่าแต่เซฮุนเมื่อกี้เพื่อนพี่เห็นแบคคยอนน่ะ

    ตอนนี้เขาอยู่ไหนหรอ?

    เพื่อนพี่ไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือเปล่า

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมที่เริ่มจะหายเหนื่อยแล้ว แต่รู้สึกหงุดหงิดเล็กๆที่พี่เซนาไม่สนใจผมเท่าไหร่...

    ผมมองหาแบคคยอนฮยอง...เอ่า เขาไปไหนวะ อ่อ นั่นมาแล้ว

    แบคคยอนฮยองเพิ่งผลักประตูเข้ามาเหนื่อยๆ...

    พี่ไปไหนมา” ผมถามทันที

    ไปฝั่งนักแสดงมา...มีอะไร

    เปล่าฮะ

    แล้วผมก็ตอบพี่เซนาไป

     

    ไปฝั่งนักแสดงมา...

     

    ก่อนจะกดส่งสติ๊กเกอร์โกรธๆให้ด้วย...



    พี่เซนาตอบมาว่า


    อ่า ขอบใจมาก


    แล้วก็


    เหนื่อยก็พักนะเซฮุน อย่าหักโหมน๊า ^ ^


    กับ สติ๊กเกอร์...

     


    ทำให้ผมนั่งยิ้มคนเดียวเลยละ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    (ตอนนี้อาจจะน่าเบื่อหน่อยนะ เพราะยังเป็นแค่เริ่มเรื่อง...เดี๋ยวพอจีจี้เจอกับแบคจริงๆจะสนุกกว่านี้)

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×