คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เขตวัง
ณ ผืนแผ่นดินบนโลกใบนี้...มีสถานที่ลึกลับแห่งหนึ่งได้ถูกซ่อนไว้จากสายตาของพลเมืองธรรมดา หรือที่เข้าใจกันว่ามนุษย์
สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่เกือบจะกับเท่ากัประเทศเล็กๆได้เลย และมันถูกสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะคล้ายกับสถานที่อยู่และเรียนรู้ของกลุ่มคนที่สืบเชื้อสายมาจากตำนานต่างๆ...
ถ้ามองในมุมของของมนุษย์โลก... สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนโรงเรียนที่คอยสั่งสอนเรื่องราวต่างๆจากอดีตและถือเป็นการรักษาตำนานไปในตัว...
นักเรียนที่เรียนอยู่ที่นี่ เมื่อจบไปแล้วจะสามารถทำงานได้เหมือนพลเรือนทั่วไปและสามารถเป็นมากกว่าพลเรือนทั่วไปได้เช่นกัน เมื่อยามจำเป็นที่เกิดเรื่องราวแปลกประหลาดขึ้นบนโลก นักเรียนเหล่านี้จะเป็นคนจัดการกับปัญหาเหล่านั้น... โดยที่มนุษย์โลกธรรมดาๆไม่เคยรู้เลย
แต่ก็ใช่ว่าจะได้ผลกันทุกคน... มีนักเรียนที่ดี...ก็ต้องมีนักเรียนที่ไม่ได้เรื่อง...
ที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ลึกเข้าไปในป่าและหลังโรงเรียนจะเจอกับทะเลอันกว้างใหญ่...
ตัวโรงเรียนถูกแบ่งออกเป็นเขตย่อยๆอีกหลายเขต แต่ละเขตก็จะมีตำนานที่ไม่เหมือนกัน...แต่เกี่ยวข้องกันและเชื่อมโยงกัน...
ทุกๆหนึ่งปีจะมีการประลองชิงตำแหน่งสูงสุดของโรงเรียน โดยที่นักเรียนจะต้องเลือกตัวแทนในแต่ละเขต เขตละสิบคน...
การประลองถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาเนิ่นนาน... ไม่ว่าการประลองจะโหดร้ายแค่ไหน...แต่ก็ไม่สามารถยกเลิกประเพณีเก่าแก่นี้ไปไม่ได้... แน่นอนว่าบางครั้งอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต...
แต่มีเขตเขตหนึ่งที่ได้รับการยกเว้นให้อยู่นอกเหนือจากการประลองนั่นก็คือ เขตของเจ้าหญิงและเจ้าชาย... หรือที่เรียกกันว่า เขตวัง
เขตวังจะเป็นสถานที่เรียนของนักเรียนที่สืบเชื้อสายมาเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชาย ลักษณะของวังไม่ได้ใหญ่โตนักเพราะมีนักเรียนในกลุ่มนี้แค่สามสิบแปดคนเท่านั้น การเรียนการสอนของวังส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง กฏหมาย การเรียนปรับบุคคลิกภาพ เต้นรำ และการวางตัวในสถานที่ต่างๆ... ดังเช่นเจ้าหญิงและเจ้าชายเขาสมควรจะได้เรียนกัน...
ภายในวังหรูหราและงดงาม หอพักของนักเรียนทั้งหมดก็รวมอยู่ในตัววังแล้วเช่นกัน นักเรียนที่นี่แทบไม่ได้ออกจากวังเลยจนกระทั่งมีงานที่ทางโรงเรียนบังคับมา... ซึ่งจะมีนานๆครั้ง
ใกล้กันกับเขตวังก็จะเป็น เขตแดนที่หนึ่ง หรือเรียกว่า "แดนหนึ่ง" เป็นสถานที่ของนักเรียนที่สืบเชื้อสายมาจากอัศวินในตำนาน... ตัวอาคารเรียนจะใหญ่หน่อยเพราะมีนักเรียนหนึ่งร้อยกว่าคน แต่ที่ใหญ่กว่าอาคารเรียนก็คือสนามที่ไว้ฝึกซ้อมร่างกายและวิชา ดาบ...
นอกจากนั้นยังมีเขตอื่นๆที่อยู่กระจัดกระจายและไกลออกไปจากตัววัง ซึ่งเขตแดนแต่ละเขตก็จะมีตำนานที่แตกต่างกันออกไป...แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่เจ้าหญิงเจ้าชายหรืออัศวินขี่ม้าขาว... เหล่าตัวร้ายที่น่าสยดสยองก็เช่นกัน...
ณ เขตวัง
เวลาเที่ยงตรง...
เป็นเวลาทานอาหารเที่ยงของเหล่านักเรียนหรือเจ้าชายและเจ้าหญิงนั่นเอง
ทุกคนจะรวมตัวกันที่ห้องโถงและรับประทานอาหารพร้อมกัน...
ซูโฮ เป็นหนึ่งในนักเรียนเขตวัง เขาสืบเชื้อสายเจ้าชายมาจากประเทศทางตอนใต้ แน่นอนว่ามีเจ้าชายก็ต้องมีเจ้าหญิง
ฟีโอน่า คือเจ้าหญิงที่คู่กับซูโฮ และฟีโอน่าก็คือนางเอกของเรื่องนี้...
และนางเอกของเรื่องนี้ก็คือ คุณ นั่นเอง...
เช่นเดียวกับฟีโอน่าและซูโฮ เจ้าชายและเจ้าหญิงคนอื่นๆก็มีคู่เป็นของตัวเอง คู่ที่ถูกสุ่มจากทางโรงเรียนเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเรียนในวิชาต่างๆ เพราะการเรียนส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีคู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าคู่นั้นจะเป็นคู่สมรสในอนาคตด้วย เป็นแค่คู่ที่ต้องทำงานและดำเนินภารกิจด้วยกันเท่านั้น...
“ทำไมเธอทานน้อยจัง ฟีโอน่า” ซูโฮนั่งดูฟีโอน่าเล็มของกินในจานอยู่นานแล้ว เขามักจะเป็นห่วงฟีโอน่าในทุกๆเรื่องเสมอ...
“ทำไมเธอกินน้อยจัง ฟีโอน่า” ฟีโอน่าย้อนใส่ซูโฮพลางกลอกตาไปมา ฟีโอน่ามีนิสัยที่แตกต่างไปจากเจ้าหญิงคนอื่นๆ “ฉันบอกแล้วไงซูโฮ เวลาพูดกับฉันใช้คำธรรมดาๆไม่ต้องหรูหราก็ได้...ฉันอึดอัด” เธอว่า “แล้วที่ฉันไม่กินก็เพราะอาหารไม่อร่อยน่ะสิ” เธอมองผักในจานพลางเขี่ยเล่น “จะรักษาสุขภาพอะไรนักหนา...ขอเนื้อย่างได้มั้ย เนื้อย่างน่ะ อยากแดกเนื้อย่--”
“ไม่ได้นะฟีโอน่า!” ซูโฮเอ็ดทันที เขาเอนตัวเข้าหาเธอเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้คนอื่นได้ยิน “เวลาทานข้าวเที่ยงเราก็ต้องสำรวม...ไม่เห็นหรอไงว่าพ่อบ้านแม่บ้านจ้องพวกเราอยู่...นั่นอาจจะเป็นการสังเกตการของท่านครูก็ได้นะ แบบว่าท่านครูสั่งมา--”
“โอ้ย พอเถอะหน่า!” ฟีโอน่าผลักซูโฮออกไปด้วยความหงุดหงิด “ฉันไม่สนหรอกว่าจะเป็นการสังเกตการณ์ของใคร ฉันสนแค่ว่าฉันจะได้กินของอร่อยๆบ้างมั้ย...ฉันไม่แคร์เรื่องเรียน นายก็รู้นี่”
“แต่ฉันแคร์” ซูโฮส่งสายตาจริงจังไปให้เธอ “และเธอดันเป็นคู่ของฉันด้วย...”
แบบนี้แหละฟีโอน่าถึงต้องพยายามตั้งใจเรียนในบางครั้ง ก็เพราะเธอไม่สามารถเมินเฉยความจริงจังในทุกๆเรื่องของซูโฮไปได้...และเขามักจะสอบได้ที่หนึ่งเสมอ
เมื่อทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว คาบเรียนในช่วงบ่ายจะเป็นภาคปฏิบัติ วิชาแรกคือเต้นรำ วิชาที่สองคือปรับพฤติกรรม...และหลังจากนั้นจะเป็นกิจกรรมชมรมของแต่ละคน...
ระหว่างที่ซูโฮกับฟีโอน่าเดินไปตามทางเดินที่มีเพดานสูงและมีไฟระย้าประดับประดางดงามอยู่นั้น จู่ๆซูโฮก็ดึงแขนเธอให้หยุดเดินและลากเธอเข้าไปหลบตรงเสาที่ถูกแกะสลักมาอย่างละเอียดอ่อน
เขาดันหลังเธอไปติดกับเสาและจับมือเธอทั้งสองข้างพลางจ้องเข้าไปในตาเธอเชิงอ้อนวอน...
จากระยะใกล้แค่นี้...ฟีโอน่ามองเห็นชัดเจนว่าใบหน้าของซูโฮนั้นเนียนใสและหล่อเหลามากเพียงใด...
“การประลองครั้งนี้...” ซูโฮพูดอย่างชัดเจนเหมือนเขาซ้อมมาแล้ว “เราสองคนจะต้องเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายที่ถูกเลือก...เราต้องเป็นคนเปิดพิธีในการประลองครั้งนี้ให้ได้นะฟีโอน่า”
ฟีโอน่ามองสายตาที่เอาจริงเอาจังของซูโฮและเธอรู้สึกเหมือนโดนสะกดจิตไปแล้ว...
“ฉันจะพยายาม...” เธอตอบพลางหลบสายตาของเขาเพราะไม่อาจจะทนมองได้นาน... “ฉันจะลองดูซักครั้งเพื่อนาย...”
“ขอบคุณมาก” ซูโฮยิ้มดีใจจนหน้าบาน “มันเป็นครั้งแรกที่พวกเราสองคนอายุครบพอดีด้วย...ฉันอยากให้มันเป็นครั้งแรกที่เต็มไปด้วยความหมายน่ะ...เอ้อ...แล้วก็มีอีกเรื่อง...คือตอนเต้นรำกัน เธอไม่เคยสบตาฉันตรงๆเลย เอาแต่มองไปที่คู่อื่นหรือไม่ก็มองผ่านไหล่ฉันไปไหนไม่รู้...” ซูโฮทำหน้าจริงจังอีกครั้ง “หรือว่าเธอเขินฉัน?”
“หา?” ฟีโอน่ามองซูโฮพลางทำหน้างงๆ “ฉันเนี่ยนะจะ--”
“ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ ฟีโอน่า” แต่ซูโฮกลับจริงจัง “ถ้าเธอเขินคู่เต้น...เธอจะไม่มีวันเต้นได้สวยงามเหมือนคู่อื่นๆ...ฉันจะบอกวิธีให้หายเขินให้นะ ลองนึกถึงเรื่องที่เราทำมาด้วยกันสิ เหมือนที่เรานั่งทำการบ้านกฏหมายด้วยกันน่ะ...มันก็เหมือนกับตอนเต้นรำนั่นแหละ ทำตัวปกติ...ไม่ต้องเกร็ง ฉันกับเธอ--”
“เดี๋ยว!” ฟีโอน่าพยายามไม่แสดงสีหน้าขำออกมา “นายนี่หลงตัวเองแบบขั้นรุนแรงมาก...ฉันไม่ได้เขินนายซะหน่อย”
“อ่าว...” ซูโฮไม่เข้าใจ “แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอมมองตาฉันล่ะ”
“ก็...” ฟีโอน่าลังเลจะตอบดีมั้ยนะ... “ก็ไม่มีอะไรหรอก...แค่...”
“แค่?”
“แค่...เอ่อ...เบื่อน่ะ” ฟีโอน่าก้มหน้างุดลงไปเพราะกลัวซูโฮจะโมโหใส่เธอ แถมยังอยู่กันใกล้อีกต่างหาก
“ฮ่าๆๆๆๆ” แต่ซูโฮกลับหัวเราะชอบใจแทนซะงั้น “เบื่องั้นหรอ?...เต้นกับซูโฮคนนี้ยังมีเบื่ออีกหรอ?” ความหลงตัวเองของเขายังไม่หมดสินะ “ก็ได้...งั้นวันนี้ฉันจะทำให้เธอหายเบื่อเองฟีโอน่า มาเถอะ ไปซ้อมเต้นกัน”
แล้วเขาก็จับมือเธอลากไปยังห้องเรียนเต้นรำ
ทว่าพวกเขามาเร็วเกินไปนักเรียนคนอื่นๆจึงยังมาไม่ถึงห้อง มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น ซูโฮเดินไปเปิดเพลงเต้นรำ...ซึ่งมันก็เป็นเพลงเดิมๆที่ฟีโอน่าได้ยินแทบทุกคาบ...
“เต้นรำกับผมนะครับเจ้าหญิง” เขาเดินมาโค้งขอฟีโอน่าเต้น
ฟีโอน่ายื่นมือตอบรับและทันทีที่เขาจับมือเธอ เขาก็กระชากตัวเธอเข้ามาประชิดตัวเขากระทันหันจนฟีโอน่าชนเข้ากับแผ่นอกของเขาจังๆ ซูโฮยิ้มพอใจเมื่อเห็นเธอตกใจ
“นะ-นายจะทำอะไรเนี่ย” ฟีโอน่าจัดระเบียบร่างกายตัวเอง เธอจับไหล่และจับมือซูโฮที่เหมือนตอนซ้อมทุกๆครั้ง...
“ทำแบบนั้นก็ไม่สนุกสิ” ซูโฮว่าพลางกระชับให้เธอเข้ามาใกล้เขาจนใบหน้าจะชิดกัน “เต้นกันแบบสองเท่าจากเดิมไง”
“หา?...อะไรนะ?”
“ไม่ยาก...แค่ใส่แรงไปเยอะๆแบบนี้” แล้วเขาก็นำเธอเต้นด้วยท่าเดิมแต่เร็วกว่าเดิม แต่จังหวะเพลงยังเท่าเดิมดังนั้นท่าที่พวกเขาต้องทำหนึ่งครั้งจึงเป็นสองครั้ง
ฟีโอน่าเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาบ้าง และเธอไม่ต้องคิดท่าด้วยซูโฮนำเธอทั้งหมด
“ว้ายยย” ฟีโอน่าร้องเสียงดังเมื่อโดนซูโฮดันตัวให้หมุนอย่างรวดเร็ว จากที่เคยหมุนสองรอบก็เป็นสี่รอบและท่าจบอยู่ในอ้อมแขนของเขา ฟีโอน่าหอบด้วยความเหนื่อยและสนุกไปพร้อมๆกัน
“เป็นไง...หายเบื่อแล้วหรือยัง” ซูโฮว่า “แล้วเธอก็มองหน้าฉันตรงๆได้แล้วด้วย...พร้อมจะเป็นเจ้าหญิงของฉันแล้วใช่มั้ย...”
“เหลวไหลหน่า” ฟีโอน่าดันซูโฮออกไปและยืนห่างๆเขา “มันก็สนุกดี...แต่แค่เต้นรำเป็น ไม่ได้หมายความว่าเราจะผ่านในการคัดเลือกหรอกนะซูโฮ”
“ก็จริงของเธอ” เขาขยับมาใกล้เธอและจับมือเธอข้างนึง “เธอรู้หรือเปล่าว่าปีก่อนๆนี้เจ้าหญิงและเจ้าชายที่ถูกเลือกเขาเป็นยังไงกัน?...” เขากุมมือเธอเหมือนพยายามจะสื่ออะไรบางอย่าง...
“ไม่รู้” ฟีโอน่าตอบตามจริง
“พวกเขาเป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายที่เป็นคู่ครองกันจริงๆไงล่ะ” ซูโฮอธิบายพลางจ้องตาเธอ “พวกเขารักกันจริงๆน่ะ...ไม่ใช่แค่รักเพราะความเป็นเพื่อน...แต่รักแบบ”
ไม่ทันที่ซูโฮจะพูดจบ เหล่าเจ้าหญิงและเจ้าชายอื่นๆก็เข้ามาในห้อง ซูโฮจึงต้องวางท่าเป็นเจ้าชายที่เงียบสงบทันที...เขามักจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเสมอเวลาอยู่ต่อหน้าคู่แข่ง...
ไม่นานอาจารย์ผู้สอนก็เข้ามาในชั้นเรียนและเริ่มสอนท่าเต้นที่ได้สอนค้างไว้ทันที...
จบคาบเรียนเต้นรำก็คาบเรียนปรับบุคลิกและพฤติกรรม และต่อจากนั้นก็เป็นกิจกรรมชมรมซึ่งได้ถูกยกเลิกการเรียนการสอนกระทันหันเพราะมีเรื่องด่วนเข้ามาซะก่อน
จะบอกว่าเป็นเรื่องด่วนก็ไม่เชิง มันเป็นกำหนดการของโรงเรียนที่ถูกกำหนดไว้แล้วแต่ดันมาเร็วไปสองวัน เหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายจึงแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็วางท่าทีได้สุขุมกันทุกคน
“ถ้าฉันไม่เข้าใจนี่จะผิดไหม!” มีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่หงุดหงิดออกนอกหน้า “กำหนดการจริงๆมันอีกสองวันนี่! จู่ๆมาวันนี้ถ้ามีคนไม่ว่างขึ้นมา มีเรื่องที่จำเป็นต้องทำจริงๆขึ้นมาจะทำยังไงยะ!”
“จุๆ ฟีโอน่า” ซูโฮที่เดินอยู่ข้างเธอก็โอบไหล่เธอเบาๆเพื่อเตือน “ครั้งนี้ฉันเห็นด้วยนะว่าโรงเรียนผิด แต่เราก็ควรจะให้อภัยและสำรวมไว้ก่อนจริงมั้ย...ถ้าเรื่องมันไม่สมเหตุสมผลมากพอเราค่อยไปตักเตือนพวกเขาแบบที่เจ้าหญิงเจ้าชายเขาทำกันก็ได้”
“โอ้ย!” ฟีโอน่าปัดแขนซูโฮออก ก่อนจะเดินนำหน้าไปยังห้องโถงที่ถูกนัดหมายไว้อย่างหงุดหงิด... ซูโฮรีบเดินตามเธอไปติดๆ
เมื่อมาถึงห้องโถงก็เห็นเจ้าหญิงเจ้าชายนั่งกันเกือบครบกันทุกคนแล้ว
แต่ที่แปลกตาไปกว่านั้นก็คือมีเหล่าอัศวินร่างสูงและกำยำหลายนายยืนรายล้อมเหล่าเจ้าหญิงและเจ้าชายในท่าที่สง่าผาเผย...
ซูโฮจับแขนฟีโอน่าและเดินนำไปนั่งตรงตำแหน่งที่คุ้นเคย
เมื่อผอ.หญิงวัยกลางคนขึ้นแท่นตรงกลางของห้องโถง ทั้งห้องที่เงียบอยู่แล้วก็ยิ่งรู้สึกเงียบขึ้นกว่าเดิม ท่านกล่าว “สวัสดีเหล่าอัศวินและเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชาย...เราได้เลื่อนกำหนดการมาเร็วไปสองวันต้องขออภัยในความไม่สะดวกจริงๆ...แน่นอนว่าทางเรามีเรื่องสำคัญจะประกาศให้ทราบ แต่ก่อนอื่นขอเริ่มพิธีส่งตัวอัศวินก่อนเป็นอย่างแรก” เจ้าหญิงและเจ้าชายที่นั่งอยู่ต่างมองไปยังร่างของอัศวินรอบๆอย่างตื่นเต้นแต่ก็เก็บอาการได้ดีเยี่ยมเช่นกัน... ผอ.กล่าวต่อไป “การส่งตัวอัศวินนั้นเป็นไปเหมือนทุกๆปี นักเรียนที่อายุครบกำหนดแล้วและเคยได้รับอัศวินไปแล้วจะได้อยู่กับอัศวินกลุ่มเดิม ขอเชิญเจ้าหญิงและเจ้าชายที่บรรลุนิติภาวะเหล่านั้นเดินไปยืนด้านหน้าของเหล่าอัศวินตนเองด้วย”
มีเจ้าหญิงและเจ้าชายรุ่นพี่ที่เคยได้รับอัศวินมาแล้วในปีก่อนๆยืนขึ้นจากโต๊ะด้วยท่าทางที่สง่างาม จากนั้นก็เดินไปหาเหล่าอัศวินของตนด้วยท่าทางที่ไม่ได้เกร็งเลยแม้แต่น้อย... ถือเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายรุ่นพี่ที่มีรุ่นน้องจับตามองอย่างสนอกสนใจ...แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีเจ้าหญิงเจ้าชายที่ถูกรับเลือกให้เป็นตัวแทนการประลองเมื่อปีก่อนด้วย... ยิ่งเป็นที่จับตามองไปอีก...
“ทีนี้คนที่นั่งอยู่ก็คือเจ้าหญิงและเจ้าชายที่ยังไม่ได้รับอัศวินใช่มั้ย?” ผอ.หญิงกล่าวต่อไป “เจ้าหญิงและเจ้าชายที่อายุยังไม่ครบกำหนดในปีนี้ยังไม่ได้อัศวินนะ เข้าใจกันแล้วใช่มั้ย? และเหล่าอัศวินตรงนี้ก็มีแต่อัศวินที่อายุครบกำหนดเท่านั้นด้วย ดังนั้นขอให้เจ้าหญิงและเจ้าชายที่อายุครบกำหนดยืนขึ้นให้ฉันเห็นหน้าหน่อยจะได้ไหม?”
ซูโฮสะกิดแขนฟีโอน่าทันที และเขาก็ยืนขึ้นช้าๆพยายามควบคุมสีหน้าที่เลิกลั่กและตื่นเต้นให้อยู่ในการควบคุม ฟีโอน่ายืนตามซูโฮพลางมองเจ้าหญิงและเจ้าชายคู่อื่นๆที่ยืนเหมือนตน บอกได้เลยว่าทุกคนดูตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่...มีแค่ซูโฮเท่านั้นแหละที่พยายามสุดกำลัง...
“ดีมาก” ผอ.ว่าต่อ “มีกันแค่สิบคู่ใช่ไหม?...ฉันจะประกาศชื่อเจ้าหญิงเจ้าชายและต่อด้วยชื่ออัศวินทั้งสี่คน...รู้กันแล้วใช่มั้ยว่าเจ้าหญิงและเจ้าชายจะได้รับอัศวินไปคุ้มครองเป็นจำนวนสี่คนต่อคู่ด้วยกัน?...เอาล่ะ ฉันจะประกาศแล้วนะ...”
ผอ.ประกาศชื่อแต่ละคู่ แต่ละคู่ และใครถูกประกาศชื่อแล้วก็ต้องเดินไปหาเหล่าอัศวินด้านหน้าห้องโถง โดยที่มีอัศวินยืนอยู่ด้านหลังเหล่าเจ้าหญิงและเจ้าชายอีกที
“ครบแล้ว” ผอ.ว่า
เดี๋ยวก่อน...
แต่ซูโฮกับฟีโอน่ายังไม่ได้รับอัศวินเลยนะ! และอัศวินที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็มีแค่หนึ่งคนเท่านั้น! เกิดอะไรขึ้น?
ผอ.กล่าวต่อ “และเรื่องต่อไปก็คือเรื่องที่เร่งด่วนจริงๆ...และเป็นสาเหตุที่ต้องเลื่อนกำหนดการเร็วขึ้นสองวันด้วย...เรื่องนั้นก็คือ อัศวินเราขาด...” มีเสียงตกใจดังขึ้นเล็กน้อยจากเหล่าเจ้าหญิง “คู่ของซูโฮกับฟีโอน่า“ ผอ.มองไปทางพวกเขาด้วยสายตาที่แหลมคมจนไม่กล้าสบตา “ยังขาดอัศวินอีกสามคน...พวกเธอช่วยเดินมาข้างหน้าพร้อมกับอัศวินหนึ่งคนตรงนั้นด้วย”
ซูโฮเดินออกไปจากโต๊ะและไม่ลืมที่จะประคองมือฟีโอน่าออกมาด้วย สีหน้าของซูโฮเก็บอาการไม่อยู่แล้วตอนนี้ เขาดูงุนงงและหวาดกลัว...
เมื่อซูโฮ ฟีโอน่า และอัศวินคนนั้นเดินมาข้างหน้าห้องโถงแล้ว ท่านผอ.ก็กล่าวต่อไป “เจ้าหญิงและเจ้าชายคู่ใดจะยอมแบ่งอัศวินให้กับสองคนนี้บ้าง?” เป็นคำถามที่สั้นและเหมือนจะง่าย...
ซูโฮเหงื่อแตก เขาแอบพูดเบาๆกับตัวเองแต่ฟีโอน่าได้ยินชัดเจน... “ไม่มีหรอก...”
ใช่แล้ว... ไม่มีใครอยากแบ่งอัศวินของตัวเองให้กับคนอื่นหรอก... อัศวินยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัยแก่ตัวเองมากเท่านั้น โรงเรียนแห่งนี้ไม่ใช่โรงเรียนธรรมดาหรอกนะ...มีเสียงกรีดร้องในยามค่ำคืนกันเกือบทุกสัปดาห์... มีคนตายกันเกือบทุกเดือน...
ผอ.หญิงรออยู่นานกว่าจะสรุป “ไม่มีสินะ...ถ้าอย่างนั้นฉันขอประกาศให้ ซูโฮ ฟีโอน่า ได้รับ ชานยอล แต่เพียงผู้เดียวเป็นอัศวินเพื่อปกป้องทั้งสองคน ขอจบงานเพียงเท่านี้ แยกย้ายกันได้”
เมื่อทุกอย่างจบลง มีเสียงกระซิบกระซาบกันทันที...เจ้าหญิงบางคนถึงกับต้องวิ่งไปหาเจ้าหญิงอีกคนเพื่อพูดคุยกัน ไม่มีใครออกจากห้องโถงเลยซักคน บางคนก็หลบหน้าฟีโอน่ากับซูโฮด้วยความรู้สึกผิด... บางคนก็ไม่สนใจหันไปทำความรู้จักกับอัศวินคนใหม่ของพวกเขาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“แย่แน่ๆ...” ซูโฮหลุดปากออกมาพลางหันไปมองฟีโอน่า “เรามีอัศวินแค่คนเดียวไม่ได้หรอกนะฟีโอน่า...”
“ได้สิ...” ฟีโอน่าไม่สนใจผู้คนที่กำลังซุบซิบเรื่องของเธอและไม่สนใจซูโฮแล้วด้วย เธอหันไปยิ้มให้กับชานยอลข้างหลัง...
เธอเพิ่งสังเกตว่าอัศวินของเธอตัวสูง สง่า และดูฉลาด...
สีหน้าของชานยอลไม่ได้ฉายแววตกอกตกใจไปกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย เขายังยิ้มอย่างดีใจกลับมาให้อีกต่างหาก...
“สวัสดี ชานยอลใช่มั้ย? ฉันฟีโอน่า” เธอแนะนำตัวให้เขา “และนี่ซูโฮ เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ” เธอยื่นมือไปให้เขา
“เป็นเกียติร์อย่างยิ่งครับเจ้าหญิง...” ชานยอลน้อมรับมือเธออย่างสุภาพ “เป็นเกียรติ์อย่างยิ่งครับเจ้าชาย...” แต่พอเขาจะหันไปรับมือจากเจ้าชายกลับทำไม่ได้เพราะซูโฮกำลังเครียดอยู่ ไม่มีอารมณ์มาทักทายใคร...
“ไม่ต้องเรียกฉันเจ้าหญิงหรอก” ฟีโอน่าบอก “เรียกฟีโอน่าเฉยๆก็ได้” ชานยอลทำท่าจะเถียง “นี่คือคำสั่ง...ห้ามเรียกฉันว่าเจ้าหญิง เรียกซูโฮว่าเจ้าชายคนเดียวก็พอ” ฟีโอน่าหัวเราะและสะกิดให้ซูโฮเลิกเครียดได้แล้ว “ได้เพื่อนใหม่มาแล้วร่าเริงหน่อยสิ แถมยังหล่อด้วยนะ” เธอพยายามลดบรรยากาศอึดอัดลง “หน้านายยังกะจะตายพรุ่งนี้แหนะซูโฮ ไม่เอาหน่า อย่าคิดมากสิ”
“ใช่ครับ” ชานยอลเสริมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเป็นมิตร “ไม่ต้องห่วงครับเจ้าชาย มีผมแค่คนเดียวก็ปกป้องเจ้าชายกับ...ฟีโอน่าได้สบาย”
ซูโฮหันขวับไปมองชานยอลตาขวาง “เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้นไม่ทราบ! เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจว่าตนจะรับหน้าที่ได้ดีกว่าอัศวินสี่คนรวมกันน่ะหือ?!”
“เอ่อ...” ชานยอลหน้าเจื่อนเล็กน้อยเมื่อโดนว่าก่อนจะหยิบกระดาษบางอย่างออกมาจากกระเป๋า “ผม...เอ่อ...กระผมมีสิ่งนี้มายืนยันครับ...”
ซูโฮฉวยกระดาษใบนั้นออกมาจากมือชานยอล ฟีโอน่ายื่นตัวไปดูกับซูโฮด้วยความสนใจ
ในกระดาษแผ่นนั้นมีลายเซ็นจากผอ.หญิงรับรองด้วย...
เป็นลายเซ็นที่รับรองว่า ชานยอลเป็นอัศวินที่กล้าหาญและแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาอัศวินทั้งหมด...รวมถึงรุ่นพี่และรุ่นน้องด้วยกัน...
พูดง่ายๆก็คือ ชานยอลเป็นอัศวินที่เก่งที่สุดในโรงเรียน...
มีประวัติเล็กๆที่เขียนรายละเอียดไว้ว่า สามารถล้มอัศวินคนอื่นๆได้มากถึงแปดคนในคราวเดียว...
edit by punch98line
ความคิดเห็น