คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : จะ-แจ็คพอตยังไม่จบ
เซฮุนเขารู้จักวิธีการชวนคนไปดูหนังมั้ยนะ เมื่อคืนเขามาเคาะห้องฉันและบังคับให้ฉันไปดูหนังกับเขา... ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกค่ะ ไม่มีเรียนด้วย ก็เลยไม่ค้าน แถมได้ดูหนังกับเซฮุน...แห่งวงexoเชียวนะ ปฏิเสธไปนี่ถือว่าโง่...โง่โครตๆด้วย...หรือเปล่า?
“ผมเสียใจจริงๆครับพี่เซนา” เขาพร่ำบอกฉันมาตลอดทาง ลุงเป็นคนมาส่งพวกเราและรถก็จอดสนิทแล้วด้วย เหลือแค่เดินลงไปเท่านั้น
“ผมจะซื้อตั๋วให้เองครับ จากนั้นผมจะโทรไปบอกเวลาหนังฉายทีหลัง พี่...เดิน...เอ่อ...คนเดียวซักพักนะครับ ผมจะพยายามจองตั๋วที่เร็วที่สุด ผมขอโทษจริงๆครับที่เป็นคนชวนแล้ว...แล้วต้องมาทิ้งให้พี่เดินคนเดียวแบบนี้”
“พอเถอะ พี่เข้าใจดีเซฮุน รีบลงไปได้แล้วละ จอดรถตรงนี้ได้ไม่นาน ใช่มั้ยค่ะ?” ฉันหันไปถามลุง ลุงพยักหน้า
“งั้นผมลงจากรถก่อน...แล้วพี่ค่อยเดินลงมาทีหลัง หลังผม..ซัก...เอ่อ...”
“10นาทีพอมั้ย?”
“อื้อครับ พอแล้วๆ เอ้อ เกือบลืม...” เขาทำหน้าเหมือนคิดอะไรได้
“ผมขอเบอร์พี่หน่อยครับ”
ไม่รู้อะไรเข้าสิงนะ จู่ๆฉันก็ชะงักและรู้สึกเขินนิดๆด้วย ระหว่างที่กำลังบอกเบอร์ให้เซฮุน ฉันก็เผลอหัวเราะออกมาอย่างไร้เหตุผล...เซฮุนเองก็หัวเราะเหมือนกัน
รู้สึกแปลกๆนะ มีไอดอลมาขอเบอร์เนี่ย....
หลังจากที่ผมลงจากรถปุ๊ปผมก็เดินเร็วๆเข้าไปในห้างทันที ไม่นานครับไม่นานเลยก็มีแฟนๆเดินตามผมมาสี่ห้าคนแล้ว ผมนัดกับจงอินหน้าร้านขายของเล่น ผมหาตัวเขาไม่ยากเลยครับ เพราะเขามีแฟนๆล้อมรอบเหมือนผมเลย ผมภาวนาอย่างเดียวเลยว่าขอให้มีแค่นี้อย่าเยอะไปกว่านี้เลย...ผมไม่อยากให้แฟนๆของผมโดนตำหนิเรื่องทำความเดือดร้อนให้คนอื่นหรอกนะครับ
“ไหนพี่มึงอ่ะ” จงอินถามระหว่างที่พวกเรากำลังเดินขึ้นไปชั้นดูหนัง
“นัดเจอกันหน้าโรงวะ มึงคิดว่ากูพาพี่เขามาลำบากป่าววะ เริ่มรู้สึกผิดแล้วเนี่ย”
“เหย...ไม่หรอก ไหนมึงบอกพี่เขาน่าจะเข้าใจไง”
“อื้อ พี่เขาคงเข้าใจ แต่กูก็รู้สึกไม่ดีอยู่ดีอ่ะ ชวนเขามาแล้วบอกให้เขาเดินคนเดียวอีก”
“อย่าคิดมากหน่า ซื้อตั๋วก่อน”
ผมกับจงอินรีบกดซื้อตั๋วอย่างเร็วที่สุด เหลืออีก ยี่สิบนาทีกว่าๆ...ผมโทรไปบอกพี่เซนาเรียบร้อย ผมถามด้วยว่าเธอเดินอยู่ที่ไหน เธอบอกวนเวียนอยู่ในร้านหนังสือ ผมกับจงอินเลยกะจะไปหาเธอ...แต่คิดไปคิดมาร้านหนังสือคงไม่เหมาะกับพวกผมที่มีแฟนๆตามขนาดนี้เท่าไหร่นัก...แฟนบางคนถึงกับกดซื้อตั๋วหนังเรื่องเดียวกับผมเลยทีเดียว ผมภาวนาอย่าให้เธอต้องมานั่งใกล้ผมเลย...ผมอยากดูเรื่องนี้ให้เข้าถึงอารมณ์จริงๆนะ ผมไม่ได้ใจร้ายใช่มั้ย?
ฉันเดินวกไปวนมาอยู่ในร้านจนเจอหนังสือถูกใจสองสามเล่มไปแล้ว...ตอนนี้คงต้องรีบไปจ่ายแล้วละเพราะหนังกำลังจะฉายแล้ว
ฉันเดินไปยังจุดนัดหมายนั่นก็คือหน้าโรง...
ขุ่นพระ...ฉันจะเดินเข้าไปใกล้ๆพวกเขาได้ยังไง...แฟนๆมากมายขนาดนั้น
แล้วเซฮุนก็ไม่ได้บอก! ว่าไคก็มาด้วย!! ขุ่นพระรอบสอง! นั่นน่ะ!! ไคนะ!! ไค ไค ไค คิมจงอินแห่งวงexoยืนอยู่ข้างๆกับเซฮุน! ให้ตายเถอะ! ฉันชอบโมเม้นชานยอลกับจงอินมากเลยด้วย โอ้ย อยากจะหันหลังและเดินกลับเข้าร้านหนังสือเหมือนเดิมเลยจริงๆ ฉันยังไม่ได้ทำใจที่จะเจอexoคนอื่นๆเลยนะ ทำไมเซฮุนไม่บอกฉันก่อน!!
ฉันมองไปที่เซฮุนและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ใส่เขา...แต่ฉันกลับไม่ได้เห็นเซฮุนคนเดิม...
ฉันเห็นเซฮุนมักเน่แห่งวงexoยืนอยู่ข้างๆกับเพื่อนที่เป็นไลน์เต้นของเขาแทน...
เฮ้ย! ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาคิดว่าเซฮุนเป็นใครอะไรยังไงนะ...ตอนนี้ฉันต้องเข้าไปในโรงให้ได้ก่อน
แต่แฟนคลับก็ล้อมพวกเขาซะมากขนาดนั้น ฉันจะเข้าไปหายังไงละ...พวกเขาจะเห็นฉันมั้ย...
เซฮุนเห็นฉันแล้ว! โอ้ย ใจเต้นตึกตักเลย...ไม่ใช่ไรหรอก กลัวแฟนๆตรงนั้นรู้ว่าฉันมากับเขาน่ะสิ... เซฮุนเดินเข้าไปในนั้นแล้ว! ฉันจึงรีบเดินตามเขาไปเนียนๆ...แต่ว่าฉันจะเข้าไปในนั้นได้ยังไงละ...เจ้าหน้าที่ก็ต้องสงสัยสิถ้าฉันเดินเข้าไปแบบไม่มีตั๋ว...
แต่เจ้าหน้าที่กลับกวักมือเรียกฉัน! สงสัยเซฮุนกระซิบบอกเขาสินะ หรือเพราะเจ้าหน้าที่เคยทำแบบนั้นกับไอดอลที่แอบพาแฟนมาดูหนัง?! โอ้ย ไม่รู้ละไม่อยากคิดตอนนี้
ฉันรีบเดินเข้าไปในโรงอย่างรีบร้อน และ ในนั้นก็ไม่มีแฟนๆตามแล้ว...มั้งนะ เดาจากที่เห็น ฉันเดินตามหลังเซฮุนอยู่ห่างๆแบบกล้าๆกลัวๆ
และจู่ๆจงอินก็หันมาและยิ้มเชิงทักทายให้ฉันอย่างเป็นมิตรแถมมันก็น่ารักมากด้วย! ฉันหยุดหายใจไปชั่วขณะเลยจริงๆนะ เกือบจะหยุดเดินด้วยซ้ำไป... ฉันแอบเห็นว่าเขาหันไปหัวเราะกับเซฮุนด้วย โอ่ย หน้าอายจังเลย แต่รอยิ้มของไคน่ะ...มันธรรมดาซะที่ไหนละ ฉันเข้าใจชานยอลเลยว่าทำไมเขาถึงเป็นแฟนคลับจงอิน...
เมื่อไปถึงในโรงความสงบจริงๆจึงเข้ามาแทนที่ความวุ่นวาย ฉันได้นั่งข้างเซฮุนและนั่นถือว่าสบายใจกว่านั่งข้างจงอินมาก ไม่อยากจะคิดว่าจะดูหนังรู้เรื่องหรือเปล่าถ้าได้นั่งใกล้ไคแห่งวงexoแบบนั้น...แต่ความจริงฉันก็นั่งข้างเซฮุนวงexoนะ...
ช่างเถอะ...
เมื่อหนังจบฉันก็เดินออกจากโรงไปโดยที่ไม่ได้หันไปมองเซฮุนเลย ฉันเดินเลี้ยวเข้าห้องน้ำและเขาก็โทรมาตามที่คิดไว้เป๊ะ
“ผมกับจงอินจะขึ้นรถไปทีหลัง ตอนนี้ลุงมารับแล้วครับ พอพี่นั่งในรถแล้วโทรมาบอกผมด้วยนะ”
ให้ตายเถอะ ให้ตายเถอะ ให้ตายเถอะ
นี่จงอินจะกลับบ้านพร้อมพวกเรางั้นหรอ! ฉะ-ฉันต้องทำยัง? ต้องฆ่าตัวเองก่อนมั้ย? โอ้ย อยากจะเขย่าคอพี่ยามหน้าห้างมาก อยากระบายใส่ใครซักคนจริงๆ
ฉันมองหารถของลุงและเดินไปขึ้นรถก่อนจะโทรไปบอกเซฮุน...จากนั้นก็นั่งทำใจ
ประมาณสิบห้านาทีได้มั้ง สองคนนั้นก็ฝ่าวงล้อมแฟนคลับและพุ่งเข้ามาในรถได้อย่างชำนาญการ...
ขุ่นพระ! ไคนั่งเบาะหลังกับฉัน...คือตอนขึ้นมานั่งก็ลืมนึกไปเลยว่าไคจะนั่งตรงไหน...ที่คิดได้ตอนนั้นคือเซฮุนจะชอบนั่งหน้าคนขับ...
ไคพุ่งเข้ามาในรถแรงไปหน่อยเลยทำให้ฉันกับเขาชนกันเล็กน้อย โอ้ย จีจี้ ขนมไทย ช่วยกูด้วย! กูเพิ่งสัมผัสกับร่างอันแข็งแรงของคิมจงอินเข้าให้น่ะ!! ช่วยด้วยแม่จ๋า!
“ขอโทษครับ” ไคหันมาบอกฉันพร้อมรอยยิ้มที่สดใสจนฉันไม่สามารถมองตรงๆได้
“มะ-ไม่เป็นไร” ฉันเขยิบให้เขาเล็กน้อย จากที่เขยิบให้เยอะอยู่แล้วละนะ...
เซฮุนแอบส่งสายตากริ่มๆให้ฉันผ่านกระจกหลัง โอ้ย อะไรของฉันเนี่ย เซฮุนรู้ละสิว่าฉันเขินจนแทบอยากจะพุ่งออกจากรถไปน่ะ... ไม่ยุติธรรมเลย
เธอน่ารักอย่างที่ไอ้เซฮุนว่าจริงๆนั้นแหละ ผมตั้งใจครับ...ผมตั้งใจจะกระแทกเธอเล็กน้อยจริงๆนะ ผมอยากลองดูว่าเซฮุนรู้สึกดีแค่ไหนเวลาได้แกล้งเธอให้เขินอายแบบนี้...
ผมเพิ่งได้รับรู้เมื่อครู่นี่เอง...ว่ามันสนุกจริงๆ
ตอนนี้เธอนั่งตัวเกร็งเลยครับผมแอบสงสารนะ...แต่ผมสนุกมากกว่า เซฮุนส่งคาคาโอมาหาผม
“อย่าเยอะ เดี๋ยวเธอเป็นลม”
ผมไม่ตอบครับ ผมหันไปมองเธอแล้วส่งยิ้มรอบที่สอง
เธอช็อคครับพี่น้อง...โอ้ย สนุกจังเลยสนุกจังเลย...มิน่าละทำไมเซฮุนถึงเล่าให้ฟังอย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น เธอน่ารักแบบนี้นี่เอง...
เธอเผลอทำถุงใส่หนังสือตกครับ...และผมตั้งใจอีกแล้วครับ ที่บังเอิญยื่นมือไปช่วยหยิบและดันจับมือเธอแทน...โอ้ย อยากจะบ้าตาย ทำไมน่ารักแบบนี้เนี่ย! พี่คนนี้เขากินอะไรเป็นอาหารนะ เป็นคนที่น่าแกล้งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย
เซฮุนไอค่อกแค่กเสียงดัง แหม่...แกล้งนิดแกล้งหน่อยหน่า อย่าหวงได้ปะ
หลังจากที่โดนผมจับมือ เธอก็เอาแต่มองนอกหน้าต่างรถออกไปจนถึงบ้านเลยครับ ผมทำเกินไปหรือเปล่า...แต่มันอดไม่ได้จริงๆอ่ะ อยากลองทำแบบเซฮุนบ้าง หมอนั่นมาพูดยั่วให้ฟังทุกคืนเลย
แต่ผมคงเสียโอกาสนั้นไปแล้วละครับ เพราะเมื่อถึงบ้านเธอก็รีบขึ้นห้องไปเลย...
“โอ้ย!” เซฮุนตบหัวผมดังป้าปทันที “อะไรของมึงเนี่ย”
“แกล้งพี่เขาทำไม”
“อย่างมึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกูครับ”
“สงสารพี่เขา อย่าเยอะละกัน”
ผมสงสารพี่เขาจริงๆนะ...ทำไมพอเห็นคนอื่นแล้วกลับสงสารกว่าตอนที่ตัวเองแกล้งกันนะ?
พวกเรากำลังทานข้าวกันอยู่ครับ ทานที่บ้านผมนี่แหละ พี่เซนาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาตั้งใจกินข้าวจนผิดปกติ... เธอทำตัวเหมือนครั้งแรกที่ต้องกินข้าวร่วมโต๊ะกับผม
ไอจงอินนั่งตรงข้ามเธอพอดีเลย ส่วนผมนั่งข้างมันอีกที มันยิ้มน้อยยิ้มใหม่กินข้าวอย่างมีความสุขมาก...เหมือนกันข้าวทั้งหมดนี่ทำมาจากไก่ของโปรดมันอย่างนั้นแหละ
“เมื่อวานมีเพื่อนมาหามั้ยเซฮุน” ป้าจินฮีถามผม
“เมื่อวาน...ไม่มีครับ ผมนั่งดูหนังกับพี่เซนากันสองคน”
ไอจงอินกระแทกขาผมแบบไร้เหตุผล...ผมตีหน้าเนียนต่อไป
“แล้ว” ป้าจินฮีหันไปถามพี่ชอนซา(หรือพี่ชังมิน)แทน “แล้วแกพาเพื่อนมาที่บ้านหรือเปล่าเมื่อวาน?”
ผมเห็นพี่เซนารีบตักข้าวเข้าปาก...และซดน้ำตามรีบๆ...
“ไม่มี๊แม่!” พี่ชอนซาตอบเสียงแหลม
ไม่ใช่เพื่อนสินะ...แต่เป็นแฟน
ป้าจินฮีทำเสียงจิจ๊ะประมาณอย่าให้รู้เชียวนะ...
ป้าน่ากลัวครับ ถ้ากับลูกสาวป้าแล้วป้าจะเข้มงวดมาก..แต่ถ้ากับผมและพี่เซนาเธอจะดูแลดีและอ่อนโยนมากๆ ยังกะผมกับพี่เขาเพิ่งคลอดได้สองวัน
จงอินมันเอาแล้วครับ มันตักกับข้าวให้พี่เซนาพร้อมฉีกยิ้มสุดกวนตีน(ของผม)ให้เธอ
เธอพยักหน้าเชิงขอบใจและตะกุกตะกักอย่างน่าสงสาร...และน่ารักมากด้วย...
เฮ้ย! อย่าไปสนุกกับจงอินมันสิวะ
ผมเตือนสติตัวเอง...ตอนนี้ไอวายร้ายจอมแกล้งคน...ความจริงคนๆนั้นก็คือผมนั้นแหละ...แต่สำหรับในสถานการณ์นี้ผมขอยกฉายานั้นให้จงอินไป ผมต้องทำตัวเป็นคนดีที่คอยห้ามเรื่องที่ดูแล้วเกินไปกับจงอินให้ได้ ผมต้องดูแลพี่เซนา...เพราะเธอเหลือแค่ผมคนเดียวที่จะได้ปกป้องได้
อย่าหวังจะให้พี่ชังมินมาห้ามจงอินทำอะไรเลยครับ...รายนั้นก็ชอบแกล้งชาวบ้านเหมือนกัน...
เราสามคนเหมือนกันเลย...ชอบแกล้งคนอื่น
ไม่! วันนี้ผมไม่แกล้งใครทั้งนั้นแหละ...ผมแค่จะดูจงอินมันอยู่ห่างๆ...อย่างห่วงๆ
ผมจะไม่ปล่อยให้มันแกล้งพี่เซนาแรงๆแน่ๆครับ...ผมสัญญา
แล้วทำไมผมต้องแอบยิ้มกับจงอินด้วยวะเนี่ย!!
“ล้างจานนานขนาดนั้นเลยหรอวะ” จงอินพูดกับผม
ตอนนี้พวกเราทานข้าวเสร็จแล้วครับ ผมกับมันนั่งดูทีวีและมีพี่ชังมินนั่งแชทกับแฟนสาวแบบไม่สนใจโลกภายนอกนั่งกับพวกเราด้วย...
“เธออาจจะอยากจะล้างในนานที่สุด...นานจนมึงกลับบ้านมึงไปน่ะแหละ”
“เฮ้ย!”
มันทำหน้าเซงสุดตรีน ก่อนจะพูด “ยังแกล้งไม่สุดเลยวะ!”
“งั้นมึงก็นอนนี่...” อะไรที่ทำให้ผมพูดแบบนั้นออกไป... ผมไม่ได้อยากสนับสนุนเลยนะ...จริงๆ
จงอินตาลุกวาวทันทีเลยครับแหม่... มันรีบโทรไปบอกที่บ้านด้วยเสียงอันตื่นเต้น ก่อนจะเดินดุ่ยๆไปห้องครัว ผมรีบตามมันไป...
“พี่เซนา” มันเรียกเธอครับ...อะไรจะไวไฟขนาดนั๊น!! ตอนผมแกล้งพี่เขาผมไม่ขนาดนี้นะ!
เธอไม่หันมาครับ แต่ส่งเสียงบางอย่างที่ดูเหมือนกำลังจะบอกว่าฟังอยู่
“วันนี้ผมจะค้างคืนที่นี่...ผมค้างได้มั้ยครับ?”
คำถามนี้น่าจะถามป้าจินฮีไม่ก็ลุงมากกว่าปะวะ...มึงคิดไงมาถามพี่เขาที่เป็นแค่คนอาศัยวะเนี่ย...
เธอเหมือนจะตกใจและเงียบไปนานเลยครับ...คงพยายามหาประโยคที่ตอบแล้วสั้นที่สุดและเข้าใจเร็วที่สุดอยู่แน่ๆ
“ได้สิ”
สั้นและเข้าใจจริงๆด้วย จงอินหัวเราะคิกคักอย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปดูทีวีต่อ
จงอินมันก็แบบนี้แหละ..กับผมแล้วมันไม่เคยเกรงใจอะไรเลยซักอย่าง ของๆผมก็คือของๆมัน และบ้านของผมก็คือบ้านของมันนั่นแหละ แถมครอบครัวของป้าจินฮีเขาก็ใจกว้างและไม่เคยคิดร้ายกับใครด้วย...ผมถึงได้ชอบมาอยู่ไง
“พี่ชอนซาคนสวย” จู่ๆไอจงอินมันก็ไปแหย่เขี้ยวพี่ชังมินที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่โทรศัพท์
เธอหันมาตบหัวจงอินดังป้าป แต่เธอหัวเราะนะครับ...
พี่ชังมินเป็นทอม...ที่ผมไม่คิดว่าเป็นทอมเลย...ผมเห็นเธอเป็นพี่ผู้ชายไปแล้ว
“ว่าไงจงอินสุดหล่อ”
“เออ ชังมินฮยอง” จู่ๆจงอินก็เปลี่ยนสรรพนาม “รู้มั้ยว่าพี่เซนาเธอกลัวอะไร”
“นั่นแหน่...วางแผนจะแกล้งเธอละสิ”
“นั่นแหน่...อยากร่วมด้วยละสิ”
“ไม่ละ คืนนี้ต้องคุยกับสุดที่รัก ไม่มีเวลาไปแกล้งใครหรอก...อืม เซนากลัวอะไรงั้นหรอ? ผี? ผีมั้งนะ เคยแกล้งทำเสียงหลอนๆใส่ห้องเธอสองสามครั้ง...เธอลุกมาเปิดประตูหัวกระเซอะกระเซิงพร้อมหน้าตาที่หวาดผวา” พี่ชังมินหัวเราะตัวงอ...
ผมเองก็หัวเราะครับ... ขอโทษนะพี่เซนา
ไอจงอินมันหันมาถามผมทันที “หน้ากากผีที่เล่นกันวันนั้นยังอยู่ปะวะ?”
เที่ยงคืน...
“กูว่ามึงรีบไปตายเถอะนะ” ฉันเองค่ะ จีจี้คนสวยคนเดิม
ฉันกำลังส่งให้เพื่อนรักอย่างกรกตไปตายๆซะ อะไรจะเกิดมาโชคดีขนาดนี้! เซฮุนยังไม่พอนี่ยังจะมีจงอินอีก! แค่ไปดูหนังนี่ก็ไม่รู้พูดยังไงแล้ว!! ไหนจะโมเม้นต์ในรถนั่นอีก!!
โอ้ยยย ฉันละ ฉันละ! อิจฉามันจริงๆ!!
“มึงหยุดส่งกูไปตายได้แล้วอีห่า” ยัยนั่นคงจะอยากให้ฉันปลอบใจมันเหมือยยัยขนมไทยน่ะสิ หึ ฝันไปเถอะยะ
“ก็มึงอ่ะ! เล่าให้กูอิจฉาทำไมละ!”
“โอเคงั้นกูไม่เล่าละ บาย”
“เดี๋ยวๆๆๆๆ กูขอโทษ กูผิดไปแล้ว”
“หึ”
หนอยแน่ยัยกรกต ฝากไว้ก่อนเถอะยะ...
แต่มาลองคิดๆดูดีแล้ว ตัวฉันเองก็น่าอิจฉานะ ที่มีเพื่อนไอ้สัมผัสใกล้ชิดกับexoแบบนี้ กรกตเองก็ไม่ได้มุบมิบไว้คนเดียวด้วย เธอเล่าทุกอย่างที่เธอเจอและเล่าแบบละเอียดยิบทุกครั้งด้วย ฉันควรจะขอบคุณมันด้วยซ้ำไป
“เจอน้องแบคกูเมื่อไหร่” พูดว่าน้องแบคแต่ความจริงแบคคยอนอายุมากกว่าฉันปีนึงนะ
“มึงต้องให้เบอร์เขากับกูเหมือนที่มึงเอาเบอร์เซฮุนมาให้กู!”
ใช่ค่ะ ฉันเอง...ที่บีบบังคับข่มขู่และดันทุรังจะเอาเบอร์เซฮุนจากมัน...มันก็ให้ค่ะ ยังไงๆมันก็ต้องให้
ตอนนี้ฉันมีเบอร์เซฮุนไอดอลแห่งวงexoแล้วค่า!!! เกร้ดดด!!!
ไม่ค่ะ ฉันไม่โทรไปแน่นอน! ฉันหยิ่งในความสวยพอ? อัลไลของกู เอาเป็นว่าฉันไม่โทรไปกวนเขาแน่นอนค่ะ สัญญากับยัยขนมไทยและกรกตเรียบร้อย...
ไม่รู้ทำไมกรกตต้องกังวลเรื่องฉันจะโทรไปหามากกว่ากังวลขนมไทยจะโทรไปหา...ฉันผิดอะไร?
“ถ้ากูเจอน้องแบคแล้วจู่ๆกูก็เข้าไป ขอโทษนะค่ะ นี่เบอร์เพื่อนฉันค่ะ แบบนี้น่ะนะ!!”
“เออ แบบนั้นแหละ!! เขาจะไม่รับหรือรับก็เรื่องของเขา!!”
“เฮ้ยมึง…” จู่ๆมันก็ลดเสียงเบาลง...
“อะไร...” ฉันก็เผลอลดเสียงตามมันด้วย...
“ได้ยินเสียง...แปลกๆวะ”
“พี่ชังมินอีกแล้วหรอ....”
“ไม่ใช่...ไม่น่าใช่เสียงพี่แกอ่ะ...”
“เกร้ดดดด!!!!!” ฉันคิดว่ายัยกรกตคงสะดุ้งเพราะเสียงกรี๊ดฉัน
“กรี๊ดทำไม!”
“เซฮุนมาแกล้งมึงหรอ!!! หระ-หรือว่าจงอิน!!!”
“แกล้งมาหลอกผีฉันหรอ...”
“ไปเลยๆ ไปให้เขาหลอกซะดีๆเลยอีมักกะโรนี” ฉันไม่รู้จะด่ามันยังไงดี
โอ้ย มีผู้ชายหล่อๆ...ไม่ใช่หล่อแบบธรรมดาด้วยสิ! หล่อแบบไอดอลไม่ใช่สิ! มันคือไอดอลจริงๆเลยต่างหากละ โอ้ย นี่ถึงขนาดมาแกล้งเป็นผีหน้าประตูห้องเลยทีเดียว ถ้าเป็นฉันนะ จะยอมให้หลอกทั้งคืนเลยจ้า!!
“มึง...มันอาจจะ...ของจริงก็ได้” ยัยกรกตนี่แม่งก็กลัวผีไม่เลิกนะ จำได้วันนั้นไปเที่ยวที่ดรีมเวิร์ลแล้วเข้าไปบ้านผีสิง โอ้ย ฉันอยากจะกรีดร้อง อีนังกรกตกลัวผีในดรีมเวิร์ลค่า!!
“ไม่มีหรอกผีน่ะ...มีแต่คนหล่อ ไม่เชื่อมึงลองไปเปิดประตูดูสิ”
“มันดังไม่หยุดเลย...แบบ ฮือออ ฮือออ...มึงกูว่า...กูขนลุกแล้วอะ”
“ไม่ต้องกลัว กูจะอยู่เป็นเพื่อนมึง มึงอย่าวางสายก็พอ”
ใช่อย่าวางนะ ฉันอยากได้ยินเสียงผีจงอิน
“มึง! กูได้ยิน ต๊อก...ต๊อก... เหมือนเสียง...อะไรไม่รุ้อะ!!”
“ใจเย็นๆเว้ยมึง มึงเดินไปเปิดประตูดูสิ อาจจะเป็นเสียงอย่างอื่น”
รีบๆไปเปิดสิโว้ย! อยากได้ยินเสียงจงอิน!
“อะ...อื้อ กูจะไปเปิดประตูดูละนะ...”
“ไม่มีอะไรเชื่อกู...”
รีบๆวิ่งไปเลยค่ะ! โอ้ย ใจฉันเต้นตึกตักละเนี่ย!
ได้ยินเสียงแครกครากบ่งบอกว่ายัยนั่นกำลังเดินไปเปิดประตูอย่างเชื่องช้า...
แอด....
ฉันได้ยินเสียงประตูดัง... ตอนนี้ยัยนั่นคงจะกำลังชะเง้อหน้ามองออกไปนอกประตู...
และก็เจอ
แบร่!!!
ฉันได้เสียงผู้ชาย!! โอ้ยยย นั่นเสียงจงอินหรือเปล่า!! บอกฉันทีว่านั่นเสียงผีจงอิน!!
กรี๊ดดดด
ผวั๊วะ!!!!
ตุ้บ.
เฮ้ย! นั่นเสียงกรี๊ดยัยกรกต!! ไม่ต้องบอกก็รู้! แล้วไอเสียงเหมือนมีใครเหวี่ยงหมัดไปโดนหน้าใครซักคนนั่นอะไร!!! เกิดอะไรขึ้น!! นี่อย่าบอกนะว่ามึงต่อยจงอินของกูววววววววววว!!
แล้วอย่าบอกอีกนะว่าเสียง ตุ้บ. นั่นคือร่างของจงอินลงไปนอนกองกับพื้น?! ม่าย!!!
ชู่วๆๆ เงียบครับพี่เซนา!
เสียงเซฮุน! โอ้ยย ชัดมาก!! เซฮุนต้องอยู่ใกล้ยัยกรกตแน่ๆเลยอ่ะ! ว่าแต่เกิดอะไรขึ้น!
“กรกต! ยัย..เพื่อนรัก! เกิดอะไรขึ้น!!” ฉันแหกปากตะโกนข้ามประเทศใส่โทรศัพท์ หวังว่าเซฮุน เอ้ย กรกตจะได้ยินเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยของฉัน...
ตอบฉันด้วยสิยะ!!
ตายหองแล้ว! นี่พวกผมทำเกินไปหรือเปล่า? ไอจงอินสลบไปแล้วครับ...ไม่ใช่สิ มันแกล้งสลบไปแล้วต่างหากละ
แต่พี่เซมีดูท่าจะเชื่อสนิทใจว่าเขาสลบไปจริงๆ หน้ากากผีของมันหนาพอที่จะบรรเทาแรงได้อยู่ แถมร่างบางๆแบบพี่เซนาคงไม่ถึงขั้นสลบแน่ๆ ไอจงอินนี่มันกะจะแกล้งไปถึงเมื่อไหร่นะ
หลังจากที่พี่เซนากรี๊ดลั่น ผมจึงต้องรีบเข้าไปอุดปากพี่เขาทันที แต่ไม่ทันจะได้ห้ามเธอต่อยจงอินครับ...
“ชู่วๆๆ เงียบครับพี่เซนา!” ผมดึงตัวเธอที่กำลังช็อคเพราะร่างที่นอนแน่นิ่งบนพื้นเข้าไปในห้องเธอ จากนั้นผมก็เดินไปลากร่างจงอินเข้ามาตามด้วยปิดประตูห้องสนิท...
ดีนะที่ป้ากับลุงยังไม่ตื่น แต่ตอนที่ผมกำลังปิดประตูห้องนั้นผมเห็นพี่ชังมินเดินผ่านหน้าห้องไปแบบชิวมากครับ...เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ผมหันมามองเหตุการณ์ภายในห้อง...และผมก็เพิ่งนึกได้ ว่านี่คือครั้งแรกที่ผมเข้ามาในห้องเธอ
เฮ้ย! ไม่ใช่เวลามาสำรวจดูห้องผู้หญิงนะ ตอนนี้เธอกำลังช็อคอย่างแรง
เธอคงไม่ได้คิดจะทำให้จงอินสลบ...ใช่ครับมันไม่ได้สลบ...มันเล่นละครอยู่
ผมควรจะดำเนินแผนการแกล้งของจงอินต่อ...หรือเฉลยให้เธอรู้ดีครับ?
ผมได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกจากโทรศัพท์ของเธอ...เป็นเสียงผู้หญิงครับ เธอตะโกนมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แต่พี่เซนายังตอบกลับไปไม่ได้หรอก ดูหน้าเธอสิ...
“ซะ-ซะ-ซะ-ซะ-ซะ”
เธอเดินมาเกาะแขนผม โอ้ย จะขำหรือจะสงสารดีเนี่ย!
“ขะ-ขะ-ขะ-เขา-ปะ-เป็นใคร”
เธอกระตุกแขนผมรัวๆ สายตายยังคงจับจ้องไปที่ร่างที่สวมหน้ากากผีบนพื้น
“ครับ จงอินนั้นแหละครับ”
เธอช็อคยิ่งกว่าเดิมอีก...เอ่อ ผมควรทำยังไงดี เตะไอจงอินให้ฟื้นดีมั้ย?
“ทะ-ทะ-โทรเรียกรถพยา-”
เธอยกโทรศัพท์ที่กำลังถือสายของเพื่อนเธอมาจ่อที่หูตัวเองสั่นๆ...
เอ่อ พี่ครับ พี่กดเบอร์เรียกรถแล้วหรอ?... หรือพี่กำลังบอกให้เพื่อนพี่เรียกรถพยาบาลให้กันแน่?
“ใจเย็นๆครับพี่ ไม่ต้องถึงขั้นเรียกรถฉุกเฉินหรอกครับ ตบหน้ามันแรงๆซักสองสามทีก็ฟื้นแล้ว”
ผมรู้สึกร่างของจงอินร้องหงิงๆเบาๆ สมน้ำหน้า!
เพื่อนพี่เซนายังคงตะโกนออกมาจากโทรศัพท์...ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น...แค่การเล่นตลกๆของจงอิน...กับผมเท่านั้น
จู่ๆเธอก็นั่งลงไปข้างๆจงอิน...และเปิดหน้ากากออก เผยให้เห็นหน้าของนักแสดงระดับฮอลลีวูดที่กำลังตีหน้าสลบนิ่งเหมือนตาย...
เธอเขย่าตัวจงอินเบาๆพลางเรียกชื่อ...โอ้ย น่าสงสารจัง เธอทั้งกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร ทั้งกลัวว่าเธอจะทำอะไรมากไปหรือเปล่าด้วย...ผมควรช่วยเธอดีมั้ยนะ?
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
อ่าว ไม่ต้องช่วยแล้วครับ ไอจงอินเผลอหลุดหัวเราะออกมาซะลั่นห้อง...
มันลุกขึ้นมานั่งขำจนตัวงออีกต่างหาก..
ส่วนพี่เซนาก็...ครับ ช็อค อีกรอบ....
ฉันไม่ได้ช็อคนะ แต่ฉันกำลังคิดว่าควรจะโกรธพวกเขาดีมั้ย... ฉันสมควรจะโกรธพวกเขาแล้วหรือยัง? แกล้งกันแบบนี้ฉันว่ามันออกจะ...เกินไปซักหน่อย หรือฉันควรจะหัวเราะไปกับพวกเขาและคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องชิวๆดี?
แต่เมื่อฉันได้ยินเสียงหัวเราะอันแหลมสูงจากโทรศัพท์ของตัวเอง ฉันก็ปรี๊ดขึ้นมาทันทีเลย!
ฉันโกรธแล้ว! ฉันหันสายตาแหลมคมนี่ไปให้จงอินที่กำลังขำตัวสั่นตรงหน้า...
แต่โกรธไม่ลง...หน้าคมเข้นและหล่อตรงหน้าฉันกำลังหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่...
ฉันไม่เคยเห็นจงอินหัวเราะตัวงอแบบนี้มาก่อนเลย...ไม่ว่าจะในรายการอะไร เขาก็ไม่เคยหัวเราะสุดตัวแบบนี้ ปกติหน้าเขาจะง่วงเหงาหาวนอนตลอด...
เป็นบุญของฉันจริงๆที่ได้เห็นเขามีความสุขในระยะประชิดแบบนี้,,,
แต่! เขากำลังหัวเราะฉันอยู่นะ!! กรกตเธอควรจะโกรธพวกเขาซักหน่อย ถ้าไม่งั้นพวกเขาก็จะเหลิงไปมากกว่านี้แน่ๆ! ฉันตัดสินใจส่งสายตาโกรธเคืองไปให้เซฮุนแทน
แต่ทำไม่ได้...เพราะเขากำลังทำหน้าเครียด...เหมือนเขากลัวว่าฉันจะว้ากใส่เขา...
โธ่ อย่ากลัวฉันสิเซฮุน ฉันไม่ได้เป็นนางมารร้ายแบบนั้นนะ
แต่เสียงแหลมสูงที่หลุดออกมาจากโทรศํพท์ฉันนี่สิ!!
“เงียบนะยัยจีจี้! ไม่งั้นกูมุดเข้าโทรศัพท์ไปหักคอมึงแน่!”
ภาษาไทยค่ะ เซฮุนกับจงอินคงไม่เข้าใจ
เฮ้ย! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะด่าพวกเขานะ! ทำไมพวกเขาเงียบและนิ่งเหมือนโดนสตั้นแบบนั้นละ!
ฉันพยายามหัวเราะ...แต่มันก็เหือดแห้งเหลือเกิน...
ยัยจีจี้ยังไม่ยอมหยุด...
“หุบปาก!!!” ความโกรธได้ถูกระบายใส่เพื่อนสนิทของฉันจนหมดสิ้น...
ฉันไม่โกรธพวกเขาหรอก...ฉันไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนั้นซะหน่อย... จริงๆนะ
ความคิดเห็น