คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 เซฮุนคือคนบ้า
“ดีโอ” เซมีปรี่เข้าไปหาดีโอด้วยความดีใจ หลังจากผ่านไปสัปดาห์กว่าตอนนี้ขาเขาก็หายดีแล้ว สามารถเดินได้วิ่งได้เหมือนปกติ และวันนี้เป็นวันที่เขากลับมายังปราสาทครั้งแรก ทุกคนมารอต้อนรับดีโอหน้าปราสาทรวมทั้งชานยอลและเซฮุนด้วย ภายในปราสาทแอบจัดงานต้อนรับเล็กๆน้อยๆให้ดีโอ
เซมีเดินไปควงแขนดีโอและพาเขาเข้าไปในตัวปราสาทอย่างสนิทสนม แต่ตัวดีโอได้แค่ยิ้มจืดๆให้ เขาคงจะเขินอยู่ไม่น้อยแต่แสดงออกมาได้แค่นั้น
เมื่อทุกคนเข้าในตัวปราสาท ภายในห้องโถงตกแต่งไปด้วยลูกโป่งหลากสี บนโต๊ะยาว มีขนมหวานหลายชนิดวางเรียงราย แม่บ้านหลายคนกำลังเดินวุ่นจัดการกับเครื่องดื่ม
นี่สินะที่เรียกว่าเล็กของซูโฮ
ซูโฮก้าวเท้ามาด้านหน้าของทุกๆคนเพื่อจะกล่าวเปิดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ไม่รู้ทำไมเขาชอบทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องทางการไปซะหมด เซมีแอบแลบลิ้นใส่ซูโฮด้วยความหมั่นไส้
“ก่อนอื่นก็ต้องยินดีต้อนรับดีโอเข้าบ้านของเราอย่างเป็นทางการ” เขายิ้มให้ดีโอและกวาดตามองทุกๆคนด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข เขากล่าวต่อ
“แต่ฉันอยากให้ทุกคนคิดว่างานเลี้ยงนี้เป็นงานเลี้ยงของทุกๆคนนะ” เขาหันไปสบตาชานยอล ก่อนจะพูดต่อ “ไม่ว่าพวกเราจะมาจากไหน เป็นยังไง และมีความพิสดารมากแค่ไหน แต่เมื่อเรามาอยู่กันที่นี่ เราก็คือครอบครัวเดียวกัน และคำว่าครอบครัวนั้นก็คือ กลุ่มคนที่สามารถยอมรับตัวตนของแต่ละคนได้อย่างไม่มีข้อแม้” เขาฉีกยิ้มให้ทุกคนอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นและจริงใจที่สุดเท่าที่เซมีเคยเห็นมา เขาดูมีความสุขและพร้อมจะแบกรับทุกๆอย่างของพวกเราได้จริงๆ
เขาทำให้เซมีน้ำตาคลออีกแล้ว...
“ฮึก...ฮึก...” เสียงสะอื้นของใครบางที่ยืนอยู่ข้างๆเซมีดังขึ้น เธอหันไปมอง
เซฮุน!!! นายร้องไห้หรอ!!
นี่เป็นครั้งแรกที่เซฮุนร้องไห้ให้เซมีได้เห็น ถึงตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เขาเจอเซมีที่โรงพยาบาลเขาทั้งบ้าทั้งดีทั้งโง่ทั้งฉลาดผสมปนเปให้เซมีได้เห็นหมดแล้ว แต่การร้องไห้นี่ถือว่าเพิ่งได้สัมผัสเป็นครั้งแรก
เซมีเข้าไปลูบหลังเขาเบาๆเพื่อปลอบโยน และเขาก็ซบไหล่เซมีเหมือนเด็กขี้เหงาทันที หารู้ไม่ว่าตัวเขาสูงมากและเซมีตัวเล็กมาก มันทำให้เขาต้องก้มตัวลงไปเกือบครึ่งตัวของเขาเพื่อจะซบไหล่เซมีได้
โอะ...ตายละ
เซมีเริ่มทรงตัวไม่อยู่ เธอเซเล็กน้อย น้ำหนักเขามากเกินไป เธอเซไปเซมาจนไปชนกับชานยอลที่ยืนอยู่ข้างๆเข้า เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากชานยอลทันที
(ชานยอล) เธอกระซิบใส่เขา (ทำอะไรซักอย่างสิ!)
ในขณะนั้นเซฮุนก็ยังสะอื้นไม่หยุด และซูโฮยังคงพ่นประโยคเน่าๆต่อไป
หลังจากที่ชานยอลเข้าไปบำบัดเป็นการส่วนตัวกับซูโฮแล้ว เขาก็เกือบจะเป็นเหมือนคนปกติทั่วไปและเริ่มจะตามเรื่องราวต่างๆได้เป็นอย่างดี เริ่มพูดและเริ่มถามเรื่องที่เขาไม่เข้าใจตรงๆได้ เริ่มอยากทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และเริ่มอยากมองโลกภายนอกมากขึ้น
(ยังไง?) ชานยอลกระซิบตอบเซมี
(ยังไงก็ได้เร็วๆ หนัก!)
ซูโฮยังคงพ่นน้ำลายต่อ แต่เซมีคงจะหันไปสนใจเรื่องที่เขาพ่นตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ เพราะน้ำหนักในการสนใจของเธอเทไปให้กับเซฮุนหมดแล้ว ชานยอลยืนเก้ๆกังๆไม่รู้จะเข้าไปช่วยยังไงดี สุดท้ายเขาก็เขยิบเข้ามาใกล้เซมี และ โอบทั้งเซมีและเซฮุนไว้ในอ้อมแขนของเขา
โอ้ยยยยยย หมาป่านี่ก็นะ!! แทนจะช่วยหาที่มันง่ายๆ!! วิธีนี้ช่วยได้มั้ยเนี่ยหา! เซฮุนมันก็ยังทิ้งน้ำหนักมาที่ตัวฉันเหมือนเดิมอ่ะ!!
เธอเซหนักเข้าไปอีกตอนนี้ขาเซมีรับน้ำหนักไม่ไหวแล้ว เธอล้มลงไปแต่เพราะชานยอลโอบทั้งเธอและเซฮุนไว้อยู่เลยได้แค่ล้มลงในอ้อมแขนของชานยอลแทน เซมีทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงไปที่ตัวชานยอล เหมือนเขาจะรับทั้งตัวเธอและตัวเซฮุนได้อย่างสบายๆ
อ่อ หมาป่านี่ก็มีดีเหมือนกันแฮะ
สุดท้ายกลายเป็นพวกเขาสามคนกอดคอกันร้องห่มร้องไห้โดยที่มีเซฮุนร้องไห้จริงๆเพียงคนเดียว?
เมื่องานเลี้ยงเลิกรา ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องตัวเองไป แต่มีอยู่คนนึงที่เกาะติดเซมีไปทุกที่ทุกเวลาเหมือนเป็นปรสิต ตอนนี้เขาก็เข้ามานั่งปั้นหน้าเศร้าโดยไม่ทราบสาเหตุบนเตียงเซมีเหมือนเป็นเตียงของตัวเอง โดยที่ไม่ลืมจะหยิบน้องต่ายตุ๊กตาน่ารักๆมากอดไว้ในอ้อมอกแน่น
“เซฮุน” เซมียืนเท้าสะเอวข้างๆเตียงเธอเริ่มจะรับพฤติกรรมนี้ของเซฮุนไว้ไม่ไหวละ “ไม่คิดจะกลับห้องหน่อยหรอ?”
“ไม่เอาอะ ผมไม่ชอบอยู่คนเดียว”
“แต่ฉันชอบนะ”
เขาหันมาจ้องเซมี ขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิด แล้วบ่นพึมพำ
“แปลกคนจริงๆ...”
“เซฮุน! ตั้งแต่ฉันพานายกลับมาจากโรงพยาบาลนายก็ไม่เคยห่างจากฉันเลย! ฉันโครตภูมิใจในตัวนายอะ! นายไม่เคยปล่อยให้ฉันมีเวลาส่วนตัวเลย! แม้กระทั่งตอนเข้าห้องน้ำนายก็ยังจะเฝ้าหน้าประตู ถ้าไม่ได้ซูโฮเข้ามาเกลี้ยกล่อมนายคงจะไม่ไปสินะ! ดีไม่ดีอาจจะบุกเข้าไปในห้องน้ำเลยก็ได้ปะ! นายนี่มันโครตดีเลยอะ!”
“ขอบคุณครับ” เขายิ้มรับอย่างดีใจ ที่เหมือนจะดีใจจริงๆด้วยนะ
“ให้ตายเถอะ!” เซมีหมดความอดทน เธอล้มตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง
“พี่เป็นอะไร” เซฮุนเขยิบเข้ามาใกล้ๆเซมี เขายอมเรียกเซมีว่าพี่จนได้ กว่าเขาจะเรียกแบบนั้นนี่ใช้เวลาคิดและทบทวนเรื่องอายุกับหน้าตาอยู่หลายวันเลยทีเดียว จนตอนนี้เซมีปักใจเชื่อสนิทแล้วว่าเขาเป็นเด็กที่สมควรจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แถมค่อนข้างแสดงความโง่ออกมามากกว่าความฉลาดด้วยซ้ำ
“เป็นคนที่อยากอยู่คนเดียว...”
“ไม่ได้นะพี่!” เซฮุนฉวยตัวเธอให้ขึ้นมานั่งอย่างง่ายดาย เขาจับไหล่เธอไว้และทำเสียงหนักแน่นที่ดูแมนกว่าปกติ “พี่อยู่คนเดียวในโลกนี้ไม่ได้นะ มันโหดร้ายเกินไป”
เซมีแทบจะไม่มีแรงตอบ
“.....หรอ.....”
“พี่อย่าคิดสั้นนะ!!” จู่ๆเซฮุนก็กระชากตัวเธอเข้าไปกอดแน่นจนหายใจไม่ออก
นี่แกเป็นบ้าอะไรวะเนี่ย เออ ลืมไป...มันบ้าอยู่แล้ว...
“เซ..เซฮุน” เซมีพยายามแกะแขนที่รวบคอเธอแน่น “ปล่อยก่อนๆ”
“ผมจะอยู่กับพี่เอง!!”
จะพูดเสียงดังทำไมเนี่ย
“ผมจะอยู่กับพี่ไปตลอดชีวิตเลย!!”
ไม่นะเซฮุน...
ในระหว่างที่เซฮุนกำลังดราม่าและเซมีกำลังหมดอาลัยตายอยากนั้น
ซูโฮกับชานยอลก็เดินเข้ามาในห้องโดยไม่ได้เคาะประตูหรือบอกล่วงหน้าก่อน แทนที่พวกเขาจะตกใจกับการกระทำของเซฮุน คงต้องเปลี่ยนไปใช้คำว่าชินชาได้แล้วมั้ง ซูโฮกับชานยอลเดินเข้ามาหาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เซฮุนยอมหยุดดราม่าเพื่อสนใจซูโฮ
ซูโฮเริ่มพูดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“เซมี”
“ขาา...” เธอตอบกลับไปแต่สติยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“คืนนี้พาชานยอลกับเซฮุนไปผับหน่อยนะ”
“ได้ข่า....”
“แล้วก็เอาให้สนุกสุดเหวี่ยงเลยก็ได้ เพราะฉันจะส่งคนไปรับไปส่งให้”
“ได้ข่า...”
“ช่วยดูๆเซฮุนไว้ด้วยนะ อย่าให้หายไปไหน”
“ได้ข่า...”
“ดีมาก งั้นฉันไปละ”
“ได้...เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เซมีตะโกนออกมาจนเส้นเสียงแทบทะลุออกจากคอ เซฮุนรีบปิดบ้องหูตัวเอง ชานยอลทำท่าเหมือนหลบลูกระเบิด
ซูโฮหันมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบ “มีอะไร?”
“นี่จะบ้าหรอพะยะค่ะ!!!!!!”
ซูโฮหัวเราะก่อนจะพูดต่อ
“บ้าๆนี่แหละดี”
“ดีกับผีสิพะยะค่ะ!!! คือจะให้พาชานยอลไปผับเพื่อเปิดโลกกว้างนี่เข้าใจอยู่นะ แต่คือพาอีตัวปรสิตที่สูงเหมือนตัวปากเท่ารูเข็มมือเท่าใบลานเนี่ยมันไม่บ้าเกินบ้าไปหน่อยหรอค๊า!!!” เซมีแทบพูดออกมาเป็นเสียงกรี๊ด “นี่มันเกินไปแล้วนะค๊า!!!”
“เซมี” ซูโฮถอนหายใจ “คิดจะยอมแพ้แล้วสินะ”
“หา? หมายความว่าไงค๊า!!!”
“งานนี้คงไม่เหมาะกับคนอย่างเธอแล้วละ” ซูโฮหันหลังให้เซมีเหมือนในซีรี่ย์ตอนที่พระเอกกำลังจะบอกลานางเอกไป
“ดะ-เดี๋ยวสิ”
“ฉันคงต้องปลดเธอออกจากตำแหน่ง และลดเธอเป็นผู้อาศัยภายในบ้านหลังนี้พอละกันนะเซมี ฉันเสียใจจริงๆ แต่เธอทำเต็มที่แล้ว เราพอกันแค่นี้เถอะนะ”
ณ ผับแห่งหนึ่ง เสียงเพลงแนวฮิปฮอปแดนซ์ดังกระจายทั่วพื้นที่
เซมีจับมือและลากชานยอลกับเซฮุนเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่เปิดจองไว้ (โดยซูโฮ) เธอสั่งเครื่องดื่มเบาๆให้ชานยอลและสั่งนมสดปั่นมาให้เซฮุน
“เซฮุน!” เซมีแทรกเสียงเพลงเพื่อสนทนา “ตั้งใจฟังที่ฉันพูดให้ดีๆนะ”
“ครับ?”
“นี่จริงจังนะ!”
“อ่าฮะ”
“ห้ามเดินออกไปไหนมาไหนคนเดียวเด็ดขาด! ถ้าจะไปให้ลากฉันไปด้วยเสมอ เหมือนที่นายตัวติดฉันตอนอยู่ที่ปราสาทน่ะ เข้าใจมั้ย?”
“ครับ” เขาพยักหน้าและพยักไปเรื่อยๆตามจังหวะเพลง
“ส่วนชานยอล” เธอหันไปเปลี่ยนคู่สนทนา “ชานยอลนายก็โตแล้วละนะ คือฉันก็ไม่อยากจะจู้จี้จุกจิกให้มันมากนัก แต่ถ้าเราหลงกัน ในนี้ยิ่งมืดๆเหมือนเขาวงกตอยู่ด้วย ให้นายออกทางประตูที่เราเข้ามาและไปรอที่รถได้เลยนะ โอเคมั้ย?”
“โอเค” ชานยอลเหมือนจะเข้าใจและยอมรับข้อตกลง
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเซฮุน...สติสตังยิ่งไม่มีอยู่แล้วด้วย เจอแสงสีไปจะเตลิดไปมากกว่านี้มั้ยเนี่ย
ไม่นานเครื่องดื่มและนมปั่นก็มาถึงโต๊ะ เซฮุนจะฉวยเครื่องดื่มของชานยอลไปดื่มแต่เซมีสกัดไว้ทันก่อน เขายังไม่ถึงเวลาที่จะดื่มมัน ดื่มไม่ได้เด็ดขาด! เซฮุนทำหน้ามุ่ยใส่เซมีก่อนจะหยิบนมขึ้นมาดูดและเปลี่ยนเป็นสีหน้าดี๊ด๊าทันทีเมื่อนมถึงปาก สงสัยนมปั่นคงอร่อยถูกใจ
ถ้าภารกิจมันแค่นั่งจิบเครื่องดื่มหรือจิบนมไปเรื่อยๆก็คงจะไม่ใช่ซูโฮละนะ
เซมีหันไปสังเกตการณ์รอบๆ เผื่อจะเจออะไรที่น่าสนใจ แต่มันก็เป็นแค่ผับนั้นแหละนะ คนมากกมายรวมตัวกันที่นี่เพื่อจะมาสนุกและปลดปล่อยความเครียดออกไป
จู่ๆเซฮุนก็กระชากมือเธอและลากออกไปจากโต๊ะ
“เดี๋ยวๆๆๆๆเซฮุนๆๆๆ” เซมียื้อไว้ “จะไปไหน! นมยังไม่หมดเลยนะ”
“ผมอยากไปเต้น! ไปนะๆ”
“กินนมให้หมดก่อน”
“พี่นี่บ้าปะ”
“หา?...แก...ว่าใครบ้านะ?”
“มาในผับทั้งที ให้มานั่งดูดนมเนี่ยนะ? ผมไม่ใช่เด็กๆแล้ว” เขายิ้มมุมปาก ทำเอาเซมีขนลุกชันไปทั้งตัว “ผมโตเป็นแหน่มแล้ว”
“หนุ่มย่ะ!”
“เออนั่นแหละ”
มันก็จริงอย่าที่เซฮุนว่านั้นแหละ มาในผับทั้งทีก็ต้องเต้นๆบ้าๆกันไปสินะ ไหนๆก็มาละ เอาก็เอา ซูโฮอยากให้ทำอะไรก็ทำให้มันสุดเหวี่ยงไปเลย!!
“งั้นรอฉันอยู่ตรงนี้! จะไปลากชานยอลมาด้วย”
“ครับ”
“ตรงนี้นะ!!”
“ค้าบบบบ”
เซมีวิ่งไปฉวยชานยอลมาและทั้งสามก็เดินไปยังแดนซ์ฟลอว์ที่หนุ่มๆสาวๆกำลังดิ้นกันมันส์กระจาย เซฮุนดูตื่นเต้นแต่ไม่ตื่นกลัว เขาเต้นไปตามจังหวะเพลงและเข้ากับบรรยากาศได้อย่างรวดเร็ว กลับเป็นชานยอลที่ทำตัวไม่ถูก เขาได้แต่ยืนทื่ออยู่ข้างๆเซมี หันไปมองสาวๆข้างๆเต้นเซ็กซี่ก็หน้าแดงหลบหน้าเหมือนไม่รู้จะเอาตาไปไว้ที่ไหน เซมีเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงที่แบกความเป็นแม่วัวมาเต็มอก เธอเข้ามาเต้นข้างๆชานยอลและสีข้างถูๆไถๆเขา ชานยอลซึ่งยืนอยู่นิ่งๆเหมือนเป็นเสาที่ไม่มีชีวิต
โอ้ มาย ก็อด...นั่น นม หรอ...เฮ้ย! นี่ไม่ใช่เวลามานั่งอิจฉาริษยา เธอกำลังจะทำอะไรชานยอลยะ! ไปหาผช.คนอื่นที่มันดูดี...เดี๋ยวนะ...
เซมีเพิ่งฉุกคิดได้ ชานยอลคนนี้เขาใช่ธรรมดาที่ไหนละ ตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในผับสายตาของสาวๆในนั้นก็เปรยตามองจิกกันคอแทบเคล็ด และเซมีเพิ่งสังเกตการที่เขาแต่งตัวออกแนวผู้ชายชอบเที่ยวกลางคืนแบบนี้ทำให้เขาแทบกระชากวิญญาณสาวๆทุกคนบนโลกนี้ได้สบายๆ เสื้อเชิ้ตสีดำที่ปลดกระดุมบนถึงสามเม็ดเผยให้เห็นช่วงคอลงมาอย่างชัดเจนนั้นเองก็แทบทำให้สาวๆบูชาทั้งร่างและวิญญาณให้ คงเพราะว่าเซมีกังวลกับเซฮุนมากเกินไปจนไม่ทันได้สังเกตอะไรชานยอลเลย
ระหว่างที่กำลังพิจารณาความหล่อของชานยอลอยู่นั้น สาวแม่วัวคนนั้นก็แทบจะกลืนกินชานยอลไปได้ครึ่งตัวแล้ว ชานยอลก็ยืนแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก เหงื่อที่หน้าผากผุดออกมาเหมือนดอกเห็ด
“ชานยอล!” เซมีคว้าหมับเข้าไปที่แขนเขา “มากับฉัน!!”
เซมีแทบจะตะโกนใส่หน้าสาวแม่วัว เธอลากชานยอลออกไปไกลๆจากตรงนั้น
“นายก็นะ!” เธอหันไปดุชานยอล “ทำไมไม่ทำเป็นเมินหรือไม่ก็เดินออกห่างมาละ!”
“ก็...ก็ไม่รู้อะ มันแข็งไปหมด”
“อะไรแข็งยะ!! อย่ามาพูดสองแง่สองง่ามนะ! เดี๋ยวแม่จับยัดนมสดเซฮุนกรอกปากเลยนี่”
เมื่อพูดถึงเซฮุน
เซฮุนไปไหนแล้วเนี่ย!!!!!!!!!!!
“ชานยอล! เซฮุนละ!”
“ไม่รู้สิ”
“งานเข้าละ”
“เราออกไปตามหาเถอะ”
“ไปเลยนะ! นายฝั่งนั้น ฉันฝั่งนี้นะ!”
“โอเค”
“ขอร้องละเซฮุน อย่าเพิ่งโดนงูสาวแถวนี้ฉกไปกินตับก่อนนะ ขอร้องละ อย่าเพิ่งมาโง่อะไรในนี้เลยนะ ได้โปรดฉลาดซักครั้ง”
ระหว่างที่วิ่งวุ่นมองหาเซฮุนในจำนวนคนมากมายขนาดนี้ เธอก็เจอกับชายคนนึงที่ไม่คาดฝันเข้า! เขาเป็นผู้ชายที่ทำให้เซมีหยุดชะงักและเบนความสนใจไปที่เขาได้ทันที ท่าเดินของเขาบอกได้เลยว่ากำลังเมาเต็มที่ แถมเสียงหัวเราะดังสะท้อนเข้ามาในหูของเซมีเข้าอย่างจัง เหมือนกำลังเดินคนเดียวด้วยนะ และเดินมั่วสะเปะสะปะทักทายคนไปทั่ว
เฉิน...หรือ มนุษย์ล่องหน จงแด ภารกิจต่อไปของเธอนั่นเอง!!
ถึงแม้ว่ามันจะมืดจนจำใครแทบไม่ได้เลย แต่เฉินก็สามารถทำให้ทุกๆคนมองเขาได้ด้วยท่าเต้นประหลาดๆที่เหมือนจะเข้ากับเพลงแต่ก็ยังไม่เข้า ดูขัดๆกันแปลกๆ
เฉินเดินเซไปเซมาเรื่อยๆจนเขาเริ่มรู้สึกว่ามีคนมอง เขาหันไปสบตาเซมี เซมีรีบหลบตาทันที และทำเป็นเหมือนหาเซฮุนต่อ เฉินเดินเซเข้ามาหาเธอ
“ง่าไวสาวน้อง” เขาเมาสุดขีดจนพูดสลับกันไปมาไม่รู้เรื่อง “มา...หนใด?”
“นายเมานะ ควรจะดื่มให้มันน้อยๆหน่อย”
“หือ?” เขาเอียงคอ “น้องสาวดุจังเลยวู้! แบบนี้พี่ชอบ!!”
แล้วเขาก็โอบไหล่เซมีไว้ เธอสะดุ้งโหยง นี่กำลังจะโดนคนเมาลวนลามหรือเปล่า แต่ทำไมกลับรู้สึกไม่ใช่นะ เซมีชายตามองเฉินเงียบๆ ในใจเธอก็อยากรู้ว่าเฉินเป็นคนยังไงพลังของเขาจะออกมาแบบไหน?
“น้าวสอง~”
“น้องสาว”
“อ่าฮะ มาคนเดียวหรอแจ๊ะ?” ตาเขาปรือจนแทบจะคล้ายตาอูฐ
“เปล่า มากับเพื่อน”
“ง้านหรอ? แล้วเพื่อนไปไหนซะละ? หือ?” เขาทำท่าเหมือนมองหาใครซักคน
“หลงกันน่ะ”
“จริงดิ๊!!!”
จะขึ้นเสียงสูงเพื่อ
“พี่หาให้มั้ยน้อง?!” เขาพูดไปทั้งๆที่ตัวเองยังเดินแทบไปไม่ไหว ยังจะมีหน้ามาช่วยคนอื่นอีกนะ
“เซมี!” เสียงตะโกนเรียกของชานยอลพร้อมกับที่เขาเข้ามาปัดเฉินออกกระเด็นไปไกล “เธอกำลังโดนทำร้ายหรอ!”
อุ้ยตายละ! หมาป่าแรงควายไบสัน เขาเรียกว่าโดนหลีอยู่ยะ ทำร้ายอะไร
“เปล่าๆ ฉันไม่ได้โดนอะไรทั้งนั้นแหละ” เซมีเข้าไปช่วยพยุงเฉินขึ้นมา “เป็นอะไรหรือเปล่าเฉิน?”
เฉินเซหนัก สติเริ่มเลือนราง ตาปรือมาก ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนอูฐเข้าไปอีก
“นี่เขาดื่มไปมากเท่าไหร่เนี่ย?” เซมีบ่นกับตัวเอง “แล้วนี่มีเพื่อนมาด้วยหรือเปล่า?”
ชานยอลเข้ามาช่วยพยุงเฉินไว้ เพราะเห็นเซมีทุลักทุเลเหลือเกิน
“ชานยอล”
“หือ?”
“พาเข้าขึ้นรถเราไปเลยนะ เราจะพาเขากลับปราสาทกัน”
“หือ? ทำไม?”
“เอาหน่า กลับไปก็รู้เองแหละ เดี๋ยวฉันจะหาเซฮุนแล้วลากมันกลับไปทีหลัง ตอนนี้นายกลับไปก่อนละกัน”
“ไม่ได้”
“ทำไม?”
“เธออยู่ในนี้คนเดียวไม่ได้นะ ฉันได้กลิ่นหมาตัวผู้จ้องจะงาบเหยื่อเต็มไปหมด”
“ฉันไม่เป็นไรหรอก”
“ไม่ได้” ชานยอลยืนยันเสียงแข็งและด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำของเขาทำให้เซมีสะพรึงเล็กน้อย
“โอเคๆ งั้นพาเฉินไปนั่งโต๊ะเราก่อน แล้วมาหาเซฮุนด้วยกัน” เธอต้องยอมชานยอล
เมื่อไปถึงที่โต๊ะปรากฏว่าเจอเซฮุนนั่งอยู่ก่อนแล้ว แต่ไม่ได้นั่งคนเดียว!! แม่วัวคนเดิมก็นั่งอยู่ด้วย!!! ยิ่งไปกว่านั้นนางนั่งบนตักเซฮุนแบบใกล้ชิด แขนของนางโอบรอบคอเซฮุนและกำลังโน้มตัวลงไปจะประกบปากเขาในอีก2เซนติเมตร เซมีเห็นแบบนั้นแล้วตาลุกวาวสัญชาติญาณความเป็นแม่พุ่งพล่านทันที
“เซฮุน!!!” เธอเรียกสุดเสียงจนนางสะดุ้งโหยงและผละออกจากเซฮุน “ทำอะไร!!”
“พี่!!!” เซฮุนเองก็สะดุ้งเหมือนกัน เขารีบผลักสาวคนนั้นออกจากตัก “ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ไม่อะไร!!!”
“ไม่ใช่แบบที่พี่คิดนะ!!”
“แล้วแบบใครคิด?!”
“คือผมก็แค่อยากจะลองนู่นนี่นั่นโน่นนุ่นนี่นั่นโน่น”
ระหว่างที่เซฮุนกำลังแก้ตัวอยู่นั้นแม่วัวก็เดินหนีออกไปอย่างเงียบๆและเนียนสุดๆ ตอนนี้ชานยอลต้องเปลี่ยนท่าจากช่วยพยุงเฉินเป็นอุ้มเฉินแบบเจ้าหญิง เพราะเขาหมดสติและหลับใหลไปเรียบร้อย
เซมีเดือดไม่หายเธอยังพยายามระบายความโกรธใส่เซฮุน แต่ดีที่ชานยอลอยู่ เขาช่วยให้ทั้งสองคนนั้นเคลียร์ไปและเดินทางกลับปราสาทไปด้วย ตลอดทางคือได้ยินแต่เสียงของสองคนนี้เถียงกัน อีกคนก็บอกว่ามันไม่ถูกต้อง อีกคนก็เถียงกลับมาว่าไม่มีอะไร วกไปวนมาอยู่แบบนี้
จนมาถึงปราสาท
ชานยอลค่อยๆวางเฉินลงบนเตียงที่ห้องของตัวเอง ซูโฮยิ้มอย่างภูมิใจให้ชานยอล(ส่วนเซมีและเซฮุนโดนกักตัวในห้องสมุดเพื่อปรับความเข้าใจกัน)
“ต่อไปนี้ฉันคงฝากความหวังไว้ที่นายได้แล้วสินะ คิดไว้แล้วว่านายต้องเป็นคนดี”
“ไม่หรอกครับ...ผมแค่”
“ไม่ว่าจะทำเพื่อใครยังไง แต่การทำเพื่อคนอื่นก็แสดงว่าคนๆนั้นคือคนดีนั้นแหละ” ซูโฮเดินไปตบไหล่ชานยอลเบาๆ “คืนนี้ก็พักซะนะ พรุ่งนี้ยังต้องทำงานต่อ”
“ทำงาน?”
ซูโฮยิ้มก่อนอธิบาย
“นายเป็นคนฉลาด...ทั้งๆที่อยู่คนเดียวมานาน แต่นายก็สามารถเรียนรู้ทุกๆอย่างภายในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญนายเจอเพื่อนๆและเข้ากับพวกเขาได้ดี เพราะงั้นต่อจากนี้ไปฉันจะมอบหมายงานนี้ให้นายกับเซมีทำเป็นเรื่องหลักๆเลยละกันนะ”
“งานอะไรครับ?”
“งานตามหาครอบครัวที่หายไปน่ะ”
“คือ?”
“เอานี่ไป” เขายื่นแฟ้มสีชมพูสดใสให้ชานยอล “อ่านดูแล้วนายจะเข้าใจเอง”
ชานยอลมองหน้าซูโฮแปปนึงก่อนจะเปิดดูแฟ้มข้างใน เขาอ่านออกเสียงว่า
“สามารถย้อนอดีตได้ แบคคยอน...โปรดระมัดระวัง ค่อนข้างอันตราย”
ความคิดเห็น