คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 มนุษย์หมาป่า
“What does the fox say!!” เซมีร้องเพลงอย่างมีความสุขระหว่างที่กำลังนั่งเครื่องบิน เพื่อบินข้ามทวีปไปตามหาเป้าหมายต่อไป ดีโอที่นั่งข้างๆหยิบทั้งโบชัวร์หนังสือไม่ก็เศษบิลเล็กๆน้อยๆขึ้นมาอ่านอันแล้วอันเล่า เขาคงจะเบื่อเซมีที่ร่าเริงได้ตลอด ตั้งแต่ขึ้นเครื่องมาตัวเธอขยับดุ๊กดิ๊กๆตลอดเวลาและทำท่าว่าจะไม่ยอมหยุดเลยด้วย
“What does the Fox say!!”
“........”
“ชัทๆๆชะช่าวๆๆๆ ชัทชะช่าวๆๆ”
“.........”
“What does the Fox say!!”
“...........”
“ลิงดิงๆๆๆ ลิงดิงๆๆๆๆ”
“........”
คราวนี้เธออยากให้ดีโอมีส่วมร่วมด้วย เธอสร้างไมค์อากาศด้วยมือตัวเอง จ่อที่ปากตัวเองแล้วร้อง
“What does the Fox say!!”
จากนั้นก็ยื่นไปให้ดีโอตอบ แต่ดีโอกลับทำตาเหลือกใส่ซะงั้น
“ดีโอ!” เธอโอดครวญ “ทำไมไม่เล่นด้วยอ่า!”
“นิ่งๆหน่อยนะ แปปนึง...” เขาทำเสียงเข้ม และหลับตาลงเหมือนกำลังควบคุมสมาธิ
“ทำไม? เกิดอะไรขึ้น”
“ฉันกำลังบังคับเครื่องบินลำนี้ไม่ให้ตกน่ะ” ดีโอพูดทั้งๆปิดตา เขาขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียด
“ห๊ะ!” เซมีตกใจ
นี่เครื่องกำลังจะตกหรอ!? ว่าละทำไมแอร์โฮสเตสถึงได้เดินไปเดินมา เสิร์ฟกาแฟแล้วยังจะมาถามว่าจะเอาชามั้ยอีก ที่เครื่องยังบินได้ก็เพราะดีโอหรอเนี่ย? ตายๆๆๆๆ คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย
จากนั้นเซมีก็นั่งนิ่งไม่กระดิกเลยแม้แต่น้อย เหมือนเธอจะกลั้นหายใจด้วยนะ
ดีโอเหลือบไปมองเธอแวบนึง ก่อนจะหันหน้าไปอมยิ้มคนเดียว
ดีโอแกล้งเซมีเพื่อให้เธอได้อยู่นิ่งๆนั่นเอง
เมื่อถึงที่หมาย เซมีและดีโอก็โดนการ์ดของซูโฮนำตัวไปขึ้นรถสีดำสุดหรูทันที
“เราจะไปที่ไหนอ่ะแว่นดำ6” เซมีถามการ์ดคนที่กำลังขับรถอยู่
“ไปภูเขาแอมเบิร์กครับ” การ์ดตอบตรงประเด็นไม่อ้อม ไม่ยืด
“อ๋อ แล้ว...จะมีคนไปกับเรามั้ย?”
“ท่านประธานสั่งห้ามคนติดตามไปครับ”
ดีโอหันไปสนใจบทสนทนา เรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ ไปบนภูเขาที่มีป่ารกร้างแบบนั้น แถมยังต้องเจอกับมนุษย์หมาป่าอีกต่างหาก
“ไม่โหดไปหน่อยหรอแว่นดำ6” เซมีทำเสียงอ้อน
“ไม่ทราบครับ” การ์ดตอบตามหน้าที่
“บนภูเขานั้นมันมีอะไรมั่งอะ”
“จากที่ผมทราบมา คนแถวนั้นจะเรียกภูเขาลูกนี้ว่า “ภูเขากระหาย” ครับ”
“หือ? ทำไมอะ?”
“เพราะมันมักจะคร่าหลายๆชีวิตที่ย่างกรายเข้าไปในนั้น แม้แต่กระซู่ที่หลงทางเข้าไปยังไม่เว้นเลยครับ” การ์ดพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เซมีขนลุกไปทั้งตัว ซูโฮจะปล่อยให้เธอไปเผชิญอันตรายแบบนี้หรอ? ไปกับดีโอสองคนเท่านั้นหรอ?
“มันคงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดหรอกเนอะ เหอะๆ เราคงจะทึกกว่ากระซู่เนอะๆ” เซมีหันไปขอความคิดเห็นจากดีโอ เธอพยายามปลอบใจตัวเองอยู่ แต่ดีโอได้แค่มองตอบกลับมาโดยไม่มีคำพูดไดๆ เซมีทำหน้ามุ่ยแล้วคิดในใจ
ชิ ทำไมฉันต้องมาเจอกับคนหน้าปลาตาย แถมยังชอบทำตาเหลือกใส่แบบนี้ด้วยนะ
ไม่นานก็ถึงที่หมาย
พวกเขายืนอยู่หน้าภูเขาสูง ทั้งลูกเห็นแต่ต้นไม้เต็มไปหมด การ์ดลงมาช่วยขนของให้เซมีกับดีโอลงจากรถจากนั้นทำความเคารพและอวยพรพวกเขาขอให้มีชีวิตรอดกลับมา ก่อนจะบึ่งรถกลับไปแบบไม่มีเยื่อใย ทิ้งความสยองขวัญให้ดีโอและเซมี
ดีโอจัดการแบกเป้และของหนักที่สุดเท่าที่เขาจะแบกได้ ทำให้ร่างเล็กๆของเขายิ่งดูเล็กลงไปอีก
ดีโอเดินจ้ำเข้าไปในป่าอย่างไม่ลังเล
“เดี๋ยวๆ” เซมีขัด
“อะไร”
“จะไปเลยหรอ?”
“แล้วรออะไรอีก?”
เซมีมองซ้ายมองขวา...
เอาก็เอาวะ ว่าแต่ทำไมหมอนี่มันกลัวอะไรที่เขาไม่กลัวแล้วไม่กลัวอะไรที่เขากลัวกันนะ! เอ๊ะ งงแปป นี่ฉันพูดอะไรเนี่ย เอ๊ะ ไม่ใช่ นี่ฉันคิดอะไรเนี่ย เออช่างมันเถอะ!! ไปก็ไป!!
แล้วเธอก็เริ่มเดินตามหลังดีโอไปติดๆ
ทั้งสองเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆโดยไร้จุดหมาย แถมในแฟ้มเอกสารก็ระบุแค่ว่า ‘อาศัยอยู่ในถ้ำบริเวณป่าทึบ’
นี่ยังไม่ทึบพอใช่ปะ! ที่ต้องเดินแหวกพงหญ้ายุคไดโนเสาร์เนี่ย ยังไม่ลึกใช่ปะ! ต้นไม้นี่ก็จะโตอะไรนักหนา! สูงยังกะเปรตทำบาปมา10ชาติแหนะ!
เซมีเดินไปและบ่นในใจไปด้วยบางครั้งก็บ่นออกมาเป็นเสียง แต่ก็นะ ออกมาเป็นเสียงก็เหมือนบ่นในใจนั้นแหละ เพราะอีกคนเขาไม่ได้โต้ตอบอะไรเลย
จู่ๆเซมีก็กรีดร้อง
“เกร้ดดดดดดดดดด” เซมีกระโดดไปเกาะหลังดีโอดิ้นพรวดๆเหมือนโดนสาดด้วยน้ำแช่ปลาเย็นๆ
“อะไร!!” ดีโอหันหลังไปดู
“แมงมุมยักษ์!!” เธอชี้ให้ดีโอดูบนต้นไม้ใกล้ๆ
แมงมุมตัวขนาดเท่าฝามือผู้ชาย กำลังไต่อยู่บนกิ่งไม้ สงสัยคงกำลังหาที่ชักใย ดีโอเห็นแล้วก็ถอนหายใจ
“เดินมาเงียบๆสิ” ดีโอเดินนำไปอย่างไม่ใส่ใจ
“เดี๋ยวๆๆ รอด้วยสิดีโอ!” เซมีเกาะหลังดีโอแน่น เธอเดินถอยหลังให้แมงมุม “ฉันเกลียดพวกตระกูลแมลงและแมงที่สุดเลย!! ขายุบยับขนยุกยิกตาใส่แป๋วนั่นขัดกะตัวแกมากเลยขอบอก!! ไปไกลๆเลยนะ!! ไม่ก็สูญพันธุ์ไปเลยก็ดี!!”
ดีโอได้แต่ทำหน้าเอือมใส่เซมี เขาหันไปลากแขนเธอให้เดินเร็วๆ จะได้เงียบๆ
พวกเขาทั้งเดินทั้งปีนเขา บุกป่า คลานตามขอบเหว ทุกอย่าง...จนดวงอาทิตย์ไม่อาจจะรอให้พวกเขาถึงที่หมายก่อนได้
ดีโอกางเต้นออก เซมีกำลังเปิดเสบียง มืดแล้ว...ถึงเวลาที่ต้องพัก
...ถึงเวลาที่ดีโอ...ดีโอคนเดียวที่ต้องพัก
แย่ละสิ เซมีคิด นี่เราต้องบอกเรื่องของเราให้ดีโอฟังแล้วสินะ ขอร้องละเซมีอย่าดราม่านะ ขอร้องละพูดไปเรื่อยๆเหมือนเล่านิทานให้เด็กตาเหลือกฟังละกันนะ
หลังจากที่ดีโอและเซมีซัดเสบียงไปหมดแล้ว พวกเขาก็คลานเข้าไปในเต้น ดีโอล้มตัวลงนอนทันที ส่วนเซมีกำลังจะเล่าเรื่องของเธอ
“ดีโอ”
“นอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรง” เขาสวนทันที
“งั้น นายนอนก่อน ฉันจะเฝ้ายามให้” เธอเปลี่ยนใจไม่เล่าดีกว่า
“จะบ้าหรอ”
“ทำไมอะ”
“ฉันล้อมเส้นกระแสไฟฟ้าเอาไว้แล้ว จะเฝ้ายามอีกทำไมหือ?”
“เอ่าหรอ ฉันไม่รู้...ดะ-เดี๋ยวนี้มีแบบนั้นด้วยหรอ?”
“เออสิ นี่เธออยู่ยุคไหน”
“แหม...ละครแนวบุกป่าฝ่าฟันที่ฉันดูล่าสุดนี่ก็ อังกอร์ตั้งกะภาคแรกนู๊นแหนะ ใครจะไปรู้กันละว่ามีแบบนี้ด้วย โธ่ว”
“อังกอร์ภาคแรก?!” ดีโอหันมาทำตาโตก่อนจะกลอกตาไปมาด้วยความไม่อยากเชื่อ
“นอนไปเลยนายน่ะ ฉันยังไม่ง่วง!”
“พูดมาทั้งวัน ยังไม่เหนื่อยอีกหรอไง”
“เรื่องของฉันหน่า นอนไปๆ”
จู่ๆดีโอก็ลุกขึ้นมานั่งและหันไปจ้องเซมี
“เธอมีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังมั้ย?”
“หือ?” เซมีเกือบตกใจออกหน้าออกตา ดีนะที่เธอดูละครมาบ้าง(อย่างน้อยก็อังกอร์)เธอเลียนแบบนักแสดงด้วยการกลบเกลื่อนโดยเสียงอันแหลมสูงผิดปกติ
“ไม่มี๊ไม่มี๊~~~~~”
“หึ” ดีโอยิ้มมุมปาก “ไม่เป็นไร งั้นฉันนอนละ”
“อ่าฮะ...นอนไปเลย”
ดีโอนอนจริงๆ เขาหลับเป็นตายด้วยความเหนื่อย...
นานมามากแล้วที่เธอไม่ได้เห็นคนนอนหลับแบบนี้...มันทำให้เธอรู้สึกอิจฉาอยู่ไม่น้อยเลย
วันแรกผ่านไป...พวกเขาก็ยังเดินเข้าไปลึกเรื่อยๆ พยายามมองตามหุบเขาเผื่อเจอถ้ำ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีอะไรหรือใครอาศัยอยู่เลย
วันที่สองก็มาถึง...เซมียังคงแก้ตัวไปว่าเธอยังไม่ง่วงและให้ดีโอนอนก่อนเหมือนเดิม
จนกระทั่งเช้าวันที่สาม
“ฉันอยากจะบ้าตาย!!” ในที่สุดเซมีก็หมดความอดทน “กลับกันเถอะ ภารกิจล้มเหลว! กลับ!!”
ความจริงเธอพูดแบบนี้มาตั้งแต่วันก่อนละ แต่ก็ยังเดินจ้ำเข้าไปในป่าต่อไป จนบางครั้งดีโอก็ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้นะ ทั้งๆที่ปากบอกไม่เอาแล้วๆ แต่การกระทำนี่คนละเรื่องเลย
“ซูโฮเขาเตรียมเสบียงให้เรากี่วันนะดีโอ?”
“ฉันว่าน่าจะประมาณ2สัปดาห์น่ะ”
“ห๊า!!!!!!” เซมีเผลอตะโกนเสียงดังจนแทบจะกลายเป็นเสียงกรี๊ด “นี่ซูโฮจะฆ่าเราใช่ปะ!!! วางแผนลอบฆ่าเราเนียนๆใช่มั้ย!!! โอ้มายพระพุทธเจ้าขาเอ้ย!!!”
“เว่อร์ไปละ จะฆ่ากันทั้งทีทำไมต้องให้เสบียงเผื่อมาเยอะขนาดนี้ด้วยละ?”
“ไม่รู้ฉันไม่รู้ฉันงงอยู่” เซมีเริ่มควบคุมสติไม่อยู่ การเข้าป่าแล้วนอนค้างแบบนี้ถือเป็นครั้งแรกของเซมี ถึงเธอจะเคยออกมาผจญภัยกับซูโฮบ่อยครั้ง แต่การติดอยู่แต่ในป่าสามวันจะสามคืนแบบนี้ก็ทำให้สติสตังเธอสั่นคลอนได้เหมือนกัน
“ใจเย็นๆสิ” ดีโอเริ่มเห็นอาการมึนงงของเซมีก็บอกให้เธอตั้งสติ
“ไม่รู้ ฉันไม่รู้ ที่นี่มีแต่ต้นไม้พันธุ์เปรตเป็นไปหมดเลย”
“ไปๆ เราเดินกันต่อเถอะจะได้รีบๆเสร็จ” ดีโดจับแขนเซมีลากให้เดิน เธอเหมือนยังไม่ได้สติยังพล่ามต่อไปเหมือนคนใกล้บ้า
“แปลกนะ ฮะๆ ทั้งที่มีต้นไม้เต็มไปหมด แต่ทำไมฉันเหมือนขาดออกซิเจนเลย ต้นไม้พวกนี้มันไม่นิยมผลิตออกซิเจนกันแล้วหรอ? เดี๋ยวนี้หันไปใช้แก๊สโซฮอลกันหมดใช่ปะ ฮะๆ”
ดีโอเห็นท่าไม่ดี เลยบอกให้เธอเดินนำไปจะได้ดูอาการไปด้วย
ระหว่างที่เซมีกำลังเดินนำอย่างมีความสุขเหมือนคนไร้สติอยู่นั้น
จู่ๆดีโอก็ร้อง
“โอ้ย!!!!!!”
เซมีหันขวับไปมอง เฮ้ย!!! มีฝูงหมาป่าโผล่มา! มาตั้งแต่ตอนไหนพวกเขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ที่สำคัญตอนนี้ดีโอโดนหมาป่าตัวนึงกัดเข้าที่ขาและพยายามลากเขาออกไป
“ดีโอ!!!” เซมีกระโจนกะจะเข้าไปดึงดีโอไว้
“เซมีระวัง!!!”
ทันไดนั้นเองหมาป่าที่อยู่ด้านหลังเซมีก็พุ่งเข้ามาตรงแขนเธอ แต่ไม่ทันจะได้กัดจู่ๆมันก็ลอยปลิวไปกระแทกกับต้นไม้เข้าอย่างจัง เหมือนมีใครเอาไม้ที่มองไม่เห็นฟาดเข้าไปเต็มๆ เซมีหันกลับไปหาดีโอ เธอรู้ทันทีเลยว่าฝีมือเขา ดีโอตั้งสติรวบรวมสมาธิ เขาจ้องไปที่หมาป่าทีละตัว และฟาดด้วยไม้ที่มองไม่เห็นปลิวไปไกลหลายเมตรเรียงตัว ตัวแล้วตัวเล่า ตัวแล้วตัวเล่า แต่ไม่หมดซักที เซมีหาไม้แข็งๆแถวนั้นฟาดไปที่หมาป่าตัวที่กำลังกัดดีโอและช่วยพยุงให้เขายืนขึ้น เซมีเหลือบไปเห็นเลือดที่ขาดีโอ มันไหลออกมาไม่น้อยเลย...
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ดีโอกับเซมีกำลังโดนหมาป่าล้อม...ล้อมทุกทิศเลยด้วย
“อยู่นิ่งๆนะ” ดีโอเอ่ย มาถึงตรงนี้เซมีดีใจมากที่เขามาอยู่กับเธอด้วย “เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เขาหลับตาลงและเพ่งสมาธิ จากนั้นก็ลืมตาพรวด!พร้อมกับหมาป่าทุกตัวที่ล้อมอยู่ปลิวว่อนไปทุกทิศทุกทาง แม้กระทั่งใบไม้ใบหญ้าแถวนั้นยังไม่เว้น
“หนีไปเซมี!” ดีโอบอกเธอ “เดี๋ยวฉันระวังหลังให้!”
เซมีทำตามที่เขาบอก เธอวิ่งไปข้างหน้าโดยที่หันมามองดีโอเป็นระยะๆ ดีโอยังวิ่งได้ถึงวิ่งจะด้วยความยากลำบากก็ตาม หมาป่าพวกนั้นมันก็อึดจริงๆ ไม่นานเจ้าพวกนั้นก็วิ่งตามพวกเขาจนทัน ดีโอก็ใช้พลังต้านอยู่เป็นระยะๆ เซมีวิ่งไปข้างหน้า ได้แต่ภาวนาให้พวกมันเลิกตาม จู่ๆก็เห็นเงาคน...เงาของชายวัยกลางคน เซมียังคงวิ่งต่อไป
“ลุงค่ะ!” เธอตะโกนเรียก “ลุงหมาป่ากำลังตามมา ลุงหนีไป!”
แต่ลุงคนนั้นไม่หนี เขากลับเดินมาหาเซมีด้วยสายตาเกรี้ยวกราด เมื่อเซมีเข้าไปใกล้ ก็ได้เห็นถึงสภาพอันรกรุงรังของลุงคนนั้น หนวดเคราผมของเขาดูยุ่งเหยิงไปหมด เหมือนคนไม่ได้ใส่ใจที่จะดูแลมัน ลุงคนนี้ดูคล้ายๆ...คนป่า
แต่เซมีไม่ได้มีเวลาให้คิดมากนัก เธอหันหลังไปดูดีโอและเห็นว่าเขาอยู่ไกลจากเธอมาก แถมอาการบาดเจ็บที่ขาเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เธอตกใจรีบวิ่งกลับไปหาดีโอ
“ดีโอ!” เซมีเข้าไปพยุงดีโอเพราะเขาทำท่าเหมือนไม่ไหวแล้ว “ดีโอ ทำใจดีๆไว้นะ!”
“หนีไป...เร็ว...” สติดีโอเริ่มเลือนราง เลือดออกมากเกินไป “ไป...สิ....”
“ดีโอ!!” เซมีน้ำตาคลอ ไม่นะ ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย เธอเงยหน้าไปมองหมาป่าที่กำลังตามมา...เอะ...ไม่ได้ตามแล้ว...หมาป่าพวกนั้นทุกตัว...เดินหันหลังกลับไปหมดเลย...เอะ ทำไมกัน? เมื่อกี้มันยังทำเหมือนหิวโหยและกะเอาพวกเธอตายอยู่เลย
จู่ๆเธอก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวที่แผ่ซ่านมาจากข้างหลัง เธอหันไปเจอลุงคนนั้นยืนใกล้พวกเธอมาก เขายืนขู่ยิงฟันให้กับหมาป่าพวกนั้นอยู่...เซมีทำตาโต สติเธอเริ่มไปละ แต่เธอต้องอดทนไว้ ตอนนี้มีแต่เธอที่ช่วยดีโอได้
ลุงคนนั้นค่อยๆหันมาสนใจดีโอและเธอ เซมีขนลุกไปทั้งตัวด้วยความกลัว
“ตามฉันมา” เสียงอันทุ้มต่ำของเขาทำเอาเซมีสะดุ้งโหยง เขาเดินนำไป และหันหลังกลับมาเมื่อเห็นเซมียังไม่ขยับไปไหน เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำนั้นอีกครั้ง
“ตามฉันมา”
น้ำตาไหลลงอาบแก้มเซมีอย่างเงียบๆ เธอปาดมันออกแรงๆ
ไม่มีทางเลือก...ต้องช่วยดีโอก่อน ลุงคนนั้นเหมือนพยายามจะช่วยเรานะ แต่ทำไม...น่ากลัวยังงี้น้อ...
เธอค่อยๆลุกขึ้นยืนและแบกดีโอขึ้นไปบนหลังเล็กๆของเธอ มันหนักหนาเอาการที่เธอต้องแบกผู้ชายที่ตัวโตกว่าแบบนี้ ทำให้เธอเดินโซซัดโซเซไม่เป็นทาง ลุงคนนั้นเห็นจึงเดินเข้ามาฉวยดีโอไปแบกบนบ่าอย่างสบายๆ
เซมีเดินตามลุงคนนั้นไป...เขามองแทบไม่เห็นหน้าลุง ทั้งผมทั้งเคราทั้งหนวด เซมีเพิ่งสังเกตว่าลุงไม่ได้ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกง แถมรองเท้าก็ไม่มีอีกต่างหาก...หรือว่าจะเป็นคนป่าจริงๆ? คนป่าแต่พูดภาษาคนได้เนี่ยนะ?
ระหว่างที่เซมีกำลังคิดไปอยู่นั้น ลุงก็เดินนำไปจนถึงถ้ำแห่งหนึ่ง...และยังเดินต่อเข้าไปในถ้ำด้วย
ถ้ำ!!!
เซมีนึกออกแล้ว!!
“ชานยอล!” เธอเผลอตะโกนเรียกชื่อเขาออกไป “ปาร์ค ชานยอลใช่มั้ย?!”
ลุงคนนั้นหันมาหาเธอช้าๆ...และด้วยสีหน้าที่โมโหเป็นที่สุด! เซมีสะดุ้งจนถอยหลังไปสามก้าว...
“ไปหยิบกล่องนั้นมา” เขาไม่ตอบแต่กลับออกคำสั่งด้วยเสียงอันทุ้มต่ำนั่น บอกให้เซมีเข้าไปในถ้ำและหยิบกล่องดำๆหนาๆนั้นออกมา เซมีทำตามอย่างว่าง่ายทันที เมื่อเธอเข้าไปในถ้ำแล้วเธอก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นกองเสื้อผ้าเป็นภูเขากองรกๆรวมๆกัน และ ยังมีเศษอาหารกระจัดกระจายไปทั่ว เธอเดินไปและหยิบกล่องดำให้เขาด้วยมืออันสั่นเทา
เขาวางดีโอลงบนพื้นถ้ำฉีกกางเกงดีโอออกอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นแผลสดที่มีเลือดอาบไปทั่ว เซมีเห็นแล้วน้ำตาคลอ เธอสงสารดีโอ
เขาเปิดกล่องดำนั่นออก ปรากฏว่าข้างในเป็นเครื่องปฐมพยาบาลเบื้องต้น เขาหยิบน้ำเกลือและราดลงไปบนแผลสดของดีโออย่างไม่ลังเล เขาล้างแผลใส่ยาและห้ามเลือดครบทุกอย่างด้วยความชำนาญ ทำให้เซมีเปลี่ยนมุมมองต่อเขาทันที
“เธอเป็นใคร” เขาพูดกับเซมีแต่ไม่สบตาเธอ “มาทำอะไรที่นี่ รู้มั้ยว่ามันอันตราย”
“คือ ฉันชื่อเซมีค่ะ...ฉันมาตามหาชานยอล...ปาร์ค ชานยอลค่ะ”
เธอย้ำชื่อชานยอล...และเขาหันมาสบตาเธอ สายตาอันเกรี๊ยวกราดและแข็งกร้าวนั้นทำให้เซมีหวาดกลัวไม่น้อย แต่พอมองลงไปลึกๆแล้วเขามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่...เซมีพยายามจ้องตอบกลับไปจากใจ
“ทำไมถึงอยากเจอเขาละ?”
“ฉันมาช่วยเขาค่ะ” เซมีตอบอย่างหนักแน่น
“ช่วยยังไง?”
“ฉันจะพาเขากลับบ้านที่เขาสมควรอยู่”
สายตาของเขาส่องประกายทันทีเมื่อเซมีพูดถึงบ้าน เซมีเริ่มมั่นใจแล้วละ ถึงเขาดูไม่เหมือนชายหนุ่มสุดหล่อดูดีเหมือนในรูป แต่สายตาแบบนี้ เป็นสายตาแบบเดียวกัน
“เธอพาเขากลับไม่ได้หรอก”
“ทำไมละค่ะ?”
“เธอไม่อยากพาเขากลับไปแน่ๆ”
“เพราะ?”
“ก็เธอยังหนีคนแบบเขามาอยู่เลย เมื่อกี้น่ะ”
“แบบไหนค่ะ?”
เขายิ้มและหัวเราะในลำคอ เป็นรอยยิ้มที่จืดและฝืดมาก เหมือนเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ใช้งานมานับสิบๆปี
เซมีตัดสินใจเจาะลงไปในประเด็นตรงๆเลยว่า
“แบบหมาป่าหรอค่ะ?”
เขาหันมาสบตาเซมีและหุบยิ้มทันที เธอพูดต่อ
“เราไม่กลัวหรอกค่ะ ชานยอล...กลับไปกับเราเถอะนะ”
เซมีพยายามพูดให้เขารู้โดยใช้ทั้งสายตาและท่าทางที่จริงใจ น้ำตาเธอคลอเบ้าอีกครั้ง
“ได้โปรด...พวกเราช่วยนายได้นะชานยอล...”
เขาได้แต่จ้องตอบกลับมา...และพูดช้าๆด้วยความไม่มั่นใจ
“แต่ฉัน...”
“มาเถอะนะ!” เซมีเข้าไปจับมือเขาแน่น ตอนนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว “เชื่อใจฉันเถอะนะ นะ...”
นานมากกว่าเขาจะยอมพูดอะไรออกมา และที่เขาพูดคือ...
“มีข้อแม้อยู่อย่างนึง...”
ในที่สุดชานยอลก็ยอมเซมีจนได้ เธอร้อง เยเฮท! ด้วยความดีใจในใจเบาๆ
“ได้สิๆ อะไรก็ได้!”
“เวลาฉันอยากกินอะไร ฉันก็ต้องได้กิน”
“หือ? นายจะกินคนหรอ!!” เซมีทำตาโต
“ฉันไม่กินคน! ฉันเป็นมนุษย์นะ! ต้องกินเหมือนคนสิ!”
“อ๋อ โอเค ได้เลย นายอยากจะกินอะไรก็ได้บนโลกนี้ จัดให้ได้หมด”
“งั้นก็ ตกลง”
หลังจากที่เจรจากันเรียบร้อยแล้วนั้น ชานยอลก็แบกดีโอขึ้นบ่าและเดินนำเซมีออกจากป่าทันที
ให้ตายเถอะ! ตอนเข้ามานี่ฉันเดินวนรอบต้นไม้หรือยังไงกันนะ! ทำไมตอนกลับมันถึงได้ไวปานวอกแบบนี้!! โอ้ย อยากจะdieและลงไปดิ้นบนพื้นดินจริงๆ
ไม่นานพวกเขาก็เดินออกมาเจอถนนใหญ่และเซมีไม่แปลกใจเลย ที่เจอรถสีดำกับการ์ดแว่นดำสี่ห้าคน เมื่อพวกเขาเห็นดีโอบาดเจ็บ หนึ่งในนั้นถึงกับโทรไปเรียกฮ.ให้มารับไปโรงพยาบาลด่วนทันที และคนที่มากับฮ.นั้นไม่ใช่ใคร ซูโฮ จอมเทเลพอร์ต
“นี่มันระทึกใจไปแล้วนะค่ะ!” เซมีรัวใส่ซูโฮทันทีแต่เขายกมือห้าม เหมือนกำลังจะบอกว่าไม่ใช่เวลาบ่น เขาเดินผ่านเซมีไปทักทายชานยอลอย่างจริงใจ
ชิ..เห็นผู้ชายหน้าใหม่ๆเป็นไม่ได้เชียวนะ ดู๊ๆ ขนาดคนป่ายังไม่เว้นเลย
“นายน้อยครับ” การ์ดคนนึงเรียกใครบางคน แต่เขาเดินตรงมาเหมือนเรียกเซมี
“หือ? แว่นดำ12ว่าไงนะ?”
“ผมเรียกนายน้อยนั้นแหละครับ” เขาตอบกลับมาอย่างสุภาพ
“ใครกันไม่ทราบยะนายน้อยเนี่ย!” เซมีเดือดปุดทันที “ซูโฮบอกให้เรียกแบบนี้ใช่มั้ย!”
“นายน้อยอย่าเพิ่งบ่นเลยครับ”
แหนะ! มีสั่งห้ามอย่าเพิ่งบ่นดั๊วะ!!
“นี่ข้อมูลของรายที่สามครับ” เขายื่นแฟ้มสีดำมาให้เซมี
เธอเริ่มจะเกลียดแฟ้มสีนี้ขึ้นมาจริงๆแล้วละ
“ทีหลังเปลี่ยนแฟ้มเป็นสีชมพูนะ” เธอสั่งการ์ด
เซมีไม่รอช้า เธอเปิดไปดูข้างในทันที
โอ เซฮุน พลัง : ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอน
เซมีมองไปที่รูปแล้วต้องสำลักน้ำลายตัวเองเหมือนตอนเห็นรูปชานยอล
โอ้ย ให้ตายเถอะ! ความแมนมาเต็มอะ
ด้านล่างใต้ภาพเขียนไว้ว่า
มีอาการทางประสาทอ่อนๆ (แต่ไม่ถึงขั้นอันตราย)
ความคิดเห็น