ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC Exo x You) Kill me มายเฟรน! (Sehun,Kris,Chanyeol)

    ลำดับตอนที่ #17 : สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 57



    themy  butter

     





     

    มาถึงเกาหลีแล้ว ฉันขนมไทยจัดการแบกทั้งร่างกรกตและกระเป๋าลงรถและตรงดิ่งไปโรงแรมใกล้ๆหอพักของยัยจีจี้...เราบินกันแบบข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว อยู่ประเทศไทยประมานตีหนึ่งกว่าๆ พอถึงเกาหลีก็สว่างเจิดจ้าไปเรียบร้อยแล้ว

     

    เราเข้าไปพักในโรงแรมและสั่งอาหารมากินอย่างเหน็ดเหนื่อยจากนั้นก็นอนรอยัยจีจี้เลิกงาน มันรู้แล้วว่าพวกเราจะมา มันไม่ได้ห้ามไม่ให้มาเลยด้วย...ดังนั้นพวกเราจึงรีบมาไง มันต้องการพวกเรามากๆแน่ๆ ถึงยัยนั่นจะเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งแค่ไหน แต่การโดนรุมแบบนั้นใครๆเขาก็ต้องรู้สึกกลัวและหมดกำลังใจไม่มากก็น้อยละ...ยัยกรกตกินยาแก้ปวดตามด้วยยาอีกสองอย่างลงท้องเพื่อรักษาขาตัวเอง พวกเราไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะไปหาหมอ เรื่องงานที่มหาลัยก็ฝากเพื่อนหมด

     

    กรกตหลับอย่างรวดเร็วเพราะฤทธิ์ของยาและความเหนื่อย ฉันเองก็กำลังจะตามมันไปเหมือนกันแต่...ขอหยิบโทรศัพท์มันมาดูก่อน บางทีเซฮุนอาจจะไลน์มาอีก...

     

    ไม่มี...

     

    ไม่มีการแจ้งเตือนไดๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมแบคคยอน...วันนี้พวกเราค่อนข้างว่าง มาตึกก็สายแล้วแถมเข้าห้องซ้อมร้องเพลงก็ไม่ได้ร้องเพราะมัวแต่ตื่นเต้นเรื่องจะคัมแบ็ค ส่วนซ้อมเต้นก็ทำแบบหละหลวมมากและครูพวกเราก็ใจดียอมให้พวกเราได้พักหนึ่งวัน...ดังนั้นผมจึงมีเวลาพูดคุยและหยอกล้อกับเพื่อนทั้งวัน

     

    แต่ผมไม่ได้คุยกับจีจี้เลย...ผมไม่ได้มากินข้าวเช้ากับเธอเพราะตื่นสาย ผมไม่ได้เช็คดูไลน์เพราะมันไม่มีแจ้งเตือน...ผมทักเธอไปแล้ว ทุกๆหนึ่งชั่วโมงเลยด้วย สงสัยวันนี้เธองานหนักเลยแทบไม่มีเวลาเปิดไลน์...

     

    แต่ผมรู้สึกแปลกๆแฮะ...เมื่อวานผมยังพูดกับเธอยังเล่นกับเธอเลย แต่พอมาวันนี้ทุกอย่างเงียบ...เงียบจนเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝัน

     

    จงอินกับคยองซูกำลังซ้อมเต้นกันที่ดูเหมือนจะเล่นกันมากกว่า คริสฮยองกับชานยอลนั่งกดโทรศัพท์บนโซฟายาว ส่วนฝั่งจีนที่เหลือผมไม่เห็นว่าไปไหน...เดาว่าจงแดคงจะซ้อมร้องเพลงอีกตามเคย

     

    แต่ผมเห็นเซฮุน...เซฮุนที่ทำหน้าเหนื่อยหน่าย...กำลังนอนคว่ำหมดอาลัยตายอยากอยู่ตรงหน้าผม ทั้งวันมันเอาแต่นอน นอนและนอน...ปกติจะนอนเล่นโทรศัพท์แต่วันนี้นอนเฉยๆ สงสัยทะเลาะกับพี่เซนาของมันแน่ๆ...แต่ทำไมกันนะ...ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเซฮุนไม่ได้แค่ทะเลาะแต่กำลังมีเรื่องกังวลใจอย่างอื่นมากกว่า...ผมอาจจะคิดไปเอง ผมอยากถามมันมากเพราะมันต้องการที่ปรึกษาแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมไม่มีกะจิตกะใจจะให้คำปรึกษาใคร เพราะผมเองก็รอกำลังใจของผมอยู่...เธอเงียบหายไปเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จู่ๆยัยจีจี้ก็โทรมาบอกให้ไปที่ตึกSMฉันกับกรกตสะลึมสะลือตื่นมาล้างหน้าล้างตาและรีบไปทันที ยัยนั่นบอกต้องรีบๆด้วยเพราะเดี๋ยวจะไม่ได้เข้า...อะไรนี่? พวกเรากำลังจะเข้าไปในตึกsmงั้นหรอ? มันจะง่ายไปมั้ย? แต่ก็แอบตื่นเต้นไม่ได้จริงๆนั้นแหละ

     

    เมื่อถึงหน้าตึกฉันประคองร่างกรกตลงจากแท็กซี่และมองหายัยจีจี้...

     

    ให้ตาย...ขนาดหน้ามันโดนซะเละขนาดนั้น...มันยังสวยและเปล่งปลั่งมาก เพื่อนฉัน...เพื่อนฉันสวยมาก นั่นใช่จีจี้แน่หรอ...จีจี้ที่กำลังโบกไม้โบกมือและกำลังวิ่งมาทางพวกเรา...นั่นใช่แน่หรอ?

     

    ใช่จีจี้จริงๆด้วย น้ำหูน้ำตาของมันไหลลงอาบแก้ม มันโผเข้ามากอดฉันกับกรกตแน่น...ยัยกรกตเรียบร้อยแล้ว ร้องไห้ตามกันไปเรียบร้อยแล้ว จะให้ฉันร้องไปด้วยอีกคนเดี๋ยวจะดราม่าเกินไป ฉันลากเพื่อนรักทั้งสองของฉันให้เข้าไปใกล้ๆตัวตึก

     

    “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอีเด็กเปรตพวกนั้น” ยัยจีจี้พูดภาษาไทยใส่พวกเราพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเหมือนท่อประปาแตก “แค่พวกมึงมาที่นี่...ทุกอย่างของกูก็โอเคไปหมด ทุกอย่างจริงๆ”

     

    ฉันกอดร่างจีจี้แน่น...ยัยกรกตก็เอาแต่ร้องไห้ มันเป็นคนขี้แงตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?

     

    “อย่าร้องสิ” ฉันเปลี่ยนบรรยากาศดีกว่า “ไม่เหมือนพวกมึงเลย...ร่าเริงเข้าไว้สิวะ ว่าแต่จีจี้จะพาพวกกูเข้าตึกไม่ใช่หรอ เร็วๆสิอยากจะไปตามหาพี่ลู่ใจจะขาดแล้วเนี่ย”

     

    ยัยจีจี้กับกรกตฝืนหัวเราะออกมาก่อนจะปาดน้ำตาทิ้งและหายใจลึกๆอยู่นาน...

     

    จะว่าไป...พวกเราก็ไม่ได้เจอกันครบแบบนี้นานแล้วนะ...ฉันเองก็รู้สึกขัดจมูกเหมือนกันแฮะ

     

    “นี่บัตรแขกเยี่ยมชมพิเศษ” ยัยจีจี้ยื่นนามบัตรแปลกๆมาให้พวกฉันสองคน “พี่แคนดี้แอบไปเอามาให้ฉัน...นางเห็นฉันเศร้าไม่ไหวก็เลยช่วยให้ฉันได้เจอกับพวกแกเร็วๆ อย่ามัวแต่พูดเลยรีบเข้าก่อนที่จะมีแฟนๆมารอหน้าตึกกันเถอะ”

     

    พวกเราเดินย่องเข้าไปในตัวตึก...ไม่ได้ตั้งใจจะเดินย่องหรอกนะแต่มันก็เหมือนแอบเข้าปะ? ถึงจะได้บัตรมาแบบถูกต้องก็เถอะ หน้าที่แบกยัยกรกตจึงตกเป็นของจีจี้ไปโดยปริยาย...ปลาบปลื้มจริงๆเวลาเห็นเพื่อนดูแลกันแบบนี้...นานๆครั้งจะเห็นนะ

     

    ยัยจีจี้พาพวกเราไปห้องที่มันอยู่ประจำ...ในนั้นฉันเจอผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งอลังการสามสี่คน...พวกเขาล้วนแต่ใจดีและเป็นกันเองกับพวกเรามาก พวกนางกำลังนั่งดูบทแสดงอะไรบางอย่าง พวกเราสามคนจึงนั่งลงคุยกันเงียบๆ...คิดถึงจริงๆอ่ะ คิดถึงจีจี้มากจริงๆ ได้คุยแบบสดๆอย่างนี้แล้วหายคิดถึงไปเยอะเลย...

     

    พวกเราเริ่มคุยกันเสียงดังแบบไม่รู้ตัวจนโดนพี่ซอนอินรูมเมทของจีจี้หันมาทำจุๆแบบน่ารักใส่...

     

    พวกเราปกติแล้ว ทุกอย่างเคลียร์...กลับมาร่าเริงและเอาแต่คุยเรื่องผู้ชายเหมือนเดิมแล้ว ยัยจีจี้เอาแต่พร่ำบอกสถานที่ที่มันกับแบคคยอนนัดเจอกันเจอกันคุยกันเดินด้วยกัน จนฉันเริ่มสับสนแล้วว่าตึกsmมันซับซ้อนขนาดนั้นเชียว?

     

    “ตายละ!” ยัยจีจี้ทำเสียงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “วันนี้ฉันเอาแต่เศร้าจนไม่ได้เปิดดูไลน์เลยนี่หว่า!

     

    มันรีบวิ่งไปคุ้ยหาโทรศัพท์ในกระเป๋ามันและก็ทำหน้าตกใจสุดขีดเมื่อเห็นแจ้งเตือนไลน์... มันแทบจะวิ่งออกจากห้องไปโดยทิ้งพวกเราทั้งอย่างนั้นจริงๆนะถ้าฉันไม่เรียกมันซะก่อน

     

    “พวกมึงมากับกู!” จีจี้ลากร่างอ่อนเพลียของกรกตไปด้วย ดังนั้นฉันจึงต้องตามไปแต่โดยดี สีหน้าที่เศร้าสร้อยและแดงก่ำเมื่อกี้ของยัยจีจี้หายไปแทนที่ด้วยใบหน้าที่สดใสและส่องประกาย...เหมือนกำลังจะกินเหยื่อ...ทำหน้าเหมือนกำลังจะเจอแบคคยอนอ่ะ...แต่เดี๋ยวก่อน...นี่เรากำลังจะไปไหน?

     

    ฉันเดินตามยัยนั่นมาถึงหน้าห้องน้ำ...ถ้าจำไม่ผิด...นี่คือ? ขุ่นพระ!!

     

    แบคคยอนวิ่งหน้าตั้งมาหาพวกเรา!! ฉันอยากจะเอามืออุดปากตัวเองจริงๆ แต่...นั่นแหละต้องเก็บอาการเหมือนที่เพื่อนๆฉันบอก...ยัยกรกตน่าจะชำนาญหน้ามันนิ่งมาก เนียนเชียวนะแก

     

    แบคคยอนมองหน้าพวกเราสองคนแปปนึง ก่อนจะทำหน้าเครียดใส่จีจี้...ไม่ใช่หน้าเครียดสิ...เขาเรียกว่าหน้าเป็นห่วงมากๆต่างหาก

     

    ฉันเดินไปประคองร่างกรกตแทนจีจี้...และจีจี้ค่อยๆเดินไปหาแบคคยอน ให้ตายเถอะ! ยัยนี่กับแบคไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย! อย่าบอกนะว่าZแล้วน่ะ! ขั้นA B C D คือข้ามไปแล้วใช่ปะ!

     

    “ทำไม...เกิดอะไรขึ้น...แล้วหน้าไปโดนอะไรมา...” เสียงแบคคยอนดูเป็นกังวลมาก...มือไม้เขายกไปยกมาเหมือนทำตัวไม่ถูก... ไม่รู้ว่ายัยกรกตจะเป็นเหมือนฉันหรือเปล่า แต่แบคคยอนน่ารักมาก

     

    ยัยจีจี้หัวเราะแห้งๆไปให้เขาก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธไป...ยัยนั่นคงไม่อยากเล่าให้แบคฟังหรอก และแบคเองก็ไม่อยากรู้แน่ๆ รู้ไปก็จะทำให้ความสัมพันธ์แปลกๆไปเปล่าๆ...

     

    “จีจี้...ทำไมไม่บอกพี่” แบคพูดเสียงเบา...เขาดูเป็นห่วงจีจี้มากจริงๆนะ ฉันอยากจะเดินไปจากตรงนี้เหมือนกันแต่ความอยากรู้มันก็ตรึงฉันไว้...อยากรู้ว่าสองคนนี้ไปถึงไหนกันแล้ว

     

    “ทะเลาะกันในหอนิดหน่อยพี่แบค”

     

    “ไม่นิดละ นี่เหมือนโดนรุมเลยนะ...ทำไม”

     

    “ไม่เอาๆ ไม่พูดเรื่องนั้น มันผ่านไปแล้วช่างมันเถอะค่ะ”

     

    “แต่ว่า...”

     

    “ไม่เอา ไม่พูดนะ” จีจี้เอามือไปจุปากแบคคยอนไว้... ฉันเผลอบีบไหล่ยัยกรกตซะแรงเลยแต่มันไม่ร้องสงสัยมันก็คิดเหมือนฉัน

     

    แบคคยอนดึงมือจีจี้ลงมาและถอนหายใจ...สีหน้ายังคงบอกว่าเป็นห่วงจีจี้มาก

     

    “ก็ได้...แต่ทีหลังมีเรื่องอะไรบอกพี่ก่อนเลยนะ”

     

    “อื้อ เรื่องไลน์ขอโทษนะค่ะ...คือพอดีเพื่อนมาหาก็เลยไม่ได้...”

     

    “ไม่เป็นไรๆ” แบคคยอนรีบบอกปัดและหันมามองพวกเราสองคน ฉันได้ยินเสียงกรกตกลืนน้ำลายดังเอือก

     

    “นี่กรกต...และนี่ขนมไทยค่ะพี่แบค” จีจี้แนะนำ

     

    “สวัสดีครับ ผมแบคคยอน” แบคเดินยิ้มเข้ามาหาพวกเราและ...ยื่นมือมา...

     

    กรกตเผลอทำตาโตแวบนึงก่อนจะยื่นมือไปจับเขาเบาๆ...ฉันเองก็ด้วย...โอ้ยนี่มัน...โชคดีมากจริงๆนะ

     

    เดี๋ยวก่อนนะ ฉันนึกอะไรได้แล้วละ ถ้ากรกตไม่ยอมไลน์ไปเคลียร์กับเซฮุน ฉันก็พาเซฮุนมาเคลียร์กับมันตรงๆซะเลยดีมั้ย? เดี๋ยวๆๆขนมไทยมึงกล้ามากขนาดนั้นเลยหรอ? อีกอย่างจะไปตามหาตัวเซฮุนมาจากไหนละ?...เดี๋ยวนะ...แบคคยอน

     

    ฉันมองไปที่แบคคยอนที่กำลังบอกพร่ำบอกให้จีจี้รักษาตัวดีๆอยู่...แบคคยอนต้องรู้ว่าเซฮุนอยู่ไหน...บางทีเขาอาจจะอยู่ด้วยกันก็ได้!

     

    ไม่นานเมื่อสองคนนี้ยืนจีบกันเสร็จก็ล่ำลากันไปและยัยกรกตปวดห้องน้ำพอดี ฉันเลยยกหน้าที่แบกร่างกรกตให้จีจี้แทน พวกมันสองคนเข้าไปในห้องน้ำ...และฉันยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ...มองแผ่นหลังของแบคคยอนเดินจากไปเรื่อยๆ...

     

    ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำและตะโกนบอกเพื่อนทั้งสองคนว่า “พวกมึงกูขอลงไปซื้อกาแฟมากินนะ เอาด้วยปะ”

     

    มีเสียงตะโกนตอบกลับมาว่าเอาด้วยพร้อมกัน...เป็นไปตามแผน ฉันรีบเดินออกมาจากห้องน้ำและวิ่งตามหลังแบคคยอนไปทันที...เรื่องของกรกตทำให้ความหน้าด้านของฉันเพิ่มขึ้น10เท่าตัว

     

    แบคคยอนหันมามองฉันงงๆ เขาสุภาพมาก เขารู้ด้วยว่าฉันวิ่งตามเขามา เขาจึงหยุดเดินและหันมารอให้ฉันพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ฉันไม่พูด ฉันส่งสัญญาณให้เขาเดินต่อไปจนลับห้องน้ำนี่ไปก่อน เขาทำหน้าสงสัยได้น่ารักมากแต่ก็ยอมทำตามที่ฉันบอก เมื่อเราสองคนพ้นจากห้องน้ำแล้ว

     

    “เซฮุนมีเรื่องเข้าใจผิดกับเซนา และเซนาไม่ยอมบอกความจริงด้วย...ขอร้องละค่ะคุณแบค...”

     

    แบคคยอนหัวเราะเมื่อได้ยินฉันเรียกเขาว่าคุณแบค “ครับ? เรียกผมพี่แบคเหมือนจีจี้ก็ได้ ว่าแต่ขอร้องอะไรนะครับ? ผมเองก็เห็นเซฮุนป่วยๆเหมือนกัน”

     

    “คือมีเรื่องเข้าใจผิดกันนั้นแหละค่ะ ต้องให้พวกเขาสองคนเคลียร์กัน”

     

    “อ่า...ผมเข้าใจแล้ว...เราจะให้สองคนนั้นเจอกันที่ไหนดี?”

     

    “นั่น..สิค่ะ”

     

    เมื่อความเงียบเข้าปกคลุมฉันจึงเพิ่งได้ตระหนักว่ากำลังคุยกับเสียงหลักของexo-kอยู่...นึกได้แล้วจะเป็นลมเลย...เขาทำหน้าครุ่นคิดได้น่ารักอีกแล้ว ไม่น่าละยัยจีจี้ถึงได้คลั่งอยากได้เขามากขนาดนั้น

     

    “ผมว่าไม่ต้องทำแผนหรอกครับ...เอ่อน้อง...หนม..ไต?”

     

    “ขนมไทยค่ะ”

     

    “ขอโทษครับๆ น้องขนมไทยไปบอกเซฮุนเองเลยดีกว่า เดี๋ยวผมพาไปหา”

     

    ฉันเพิ่งตระหนักได้อีกครั้งนึงว่าเซฮุนนั้น...ก็เป็นสมาชิกวงexo-kเหมือนกัน ฉันเดินตามหลังแบคคยอนไปแบบไม่น่าเล้ยย ถ้าฉันวิ่งกลับไปตอนนี้ยังทันมั้ยนะ? โอ้ย ฉันยังไม่พร้อมเลยแถมสภาพก็แบบหัวกระเซอะกระเซิงหน้าก็ไม่แต่งมา แถมการแต่งตัวก็ดูเห่ยๆไงไม่รู้แบบว่ารีบไงไม่ทันได้ดูว่าใส่อะไรมา

     

    “ถึงแล้วครับ” แบคคยอนหันมาบอก เขาบอกเพื่อให้ฉันได้ทำใจสินะ...ขอบคุณค่ะแบคคยอน...

     

    แบคค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องซ้อม...ขุ่นพระ...ห้องซ้อมที่เคยเห็นแค่ในyoutubeบัดนี้...ฉันได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว...ดูกว้างกว่าที่คิดไว้เยอะเลย แต่ห้องไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น...หนุ่มๆที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นห้องสิ น่าสนใจกว่า... ฉันเห็นคริสควานหาหมวกมาใส่ทันทีเมื่อเขาเห็นฉัน ส่วนคนอื่นๆก็มองหน้าฉันงงๆ...คนที่ฉันเคยเห็นก็มีอยู่สองคนก็คือ พี่จงแดและเซฮุน...บัดนี้พี่จงแดที่ฉันคิดว่าอาจจะพึ่งพาได้กลับไม่อยู่ในห้อง

     

    แต่เซฮุนรีบเด้งตัวลุกขึ้นมาหาฉันอย่างรวดเร็ว...ทุกคน...ทุกคนในห้องสนใจฉันหมดเลย ฉัน...ฉันจะทำยังไงดี..ขนมไทย..อย่าเพิ่งติ่ง เอาเรื่องกรกตก่อน ใจเย็นนะขนมไทย...

     

    “พี่ขนมไทย!” เซฮุนเรียกฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมาก...ใจสั่นเลย “พี่มาได้ยังไงครับ? แล้วพี่เซนาละ?!

     

    ไม่ได้เป็นไปตามที่ยัยกรกตคิดเลยจริงๆ เซฮุนเขาไม่ได้คิดอะไรเลย...เซฮุนยังชอบเซนาอยู่เลย...แล้วยัยนั่นมัวทำอะไรอยู่ อยากกลับไปหักคอมันจริงๆ

     

    “พี่มาหาจีจี้น่ะ” ฉันพยายามควบคุมเสียงให้อยู่ในระดับปกติที่สุด “เซนาก็มาด้ว-

     

    “พาผมไปหาเธอ! พี่ขนมไทยพาผมไปหาพี่เซนานะ!” เซฮุนเขย่าตัวฉันเบาๆ หารู้ไม่ว่าเขาเขย่าหัวใจฉันเหมือนกัน ไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบเขาเขาก็ดึงแขนฉันออกไปจากห้องซ้อมแล้ว แบคคยอนเดินตามหลังมาเงียบๆ ฉันไม่พูดอะไรมากแค่บอกเซฮุนว่าไปทางไหน...

     

    ว่าแต่...เดี๋ยวสิ...อย่าเพิ่งได้มั้ย...ยังไม่ได้เจอพี่ลู่เลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันกับจีจี้นั่งรอยัยขนมไทยอยู่นานละไม่มาซักที แค่ไปสั่งกาแฟจากชั้นล่างแล้วกดลิฟขึ้นมานี่ใช้เวลานานขนาดนั้นเลยหรอ? ฉันอยากเดินไปตามหามันนะกลัวมันหลงทาง...จีจี้ก็ออกไปไหนไม่ได้เพราะหน้าเธอไม่เหมาะแก่การเดินเที่ยวเท่าไหร่นัก

     

    ว่าแต่ขาฉันเนี่ย มันเดินได้อยู่หรอกแต่พอเดินปุ๊บเลือดมันก็จะไหลปรี๊ดเลยนี่สิ โอ้ย สยองวะ สงสัยคงต้องไปเย็บละถ้ามันยังไหลทุกครั้งที่เอาเท้าลงพื้นแบบนี้ คือถ้าไม่มียัยจีจี้กับขนมไทยช่วยประคองละก็ฉันไปไหนมาไหนไม่ได้แน่ๆอ่ะ

     

    “กรกต....” อยู่ๆยัยจีจี้ก็สะกิดฉันและโบ้ยปากให้มองไปทางประตู

     

    “อะไร ขนมไทยมาแล้วหร-” ฉันหันไปมองและใช่จริงๆด้วย ขนมไทยมาแล้ว...มาพร้อมเซฮุนด้วย หัวใจฉันกลับมาเต้นรัวๆจนแทบทะลุออกมาข้างนอกทันที ขนมไทยแบคคยอนและเซฮุนเดินเข้ามาในห้องเงียบๆ เงียบจนนักแสดงที่เหลือไม่ได้สังเกตอะไรเลย

     

    ฉันรีบหลบหน้าเซฮุน...ฉันไม่อยากเห็นเขาตอนนี้...ฉันทำเขาลำบาก...ฉันไม่อยากให้เขาต้องมานั่งเห็นหน้าคนที่ทำให้เขามีเรื่องหรอกนะ...เซฮุน ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ...ฉันมันไม่ดีเอง ฉันมัน-

    “ว้าย!” ฉันรีบอุดปากตัวเองทันก่อนที่คนในห้องจะสังเกตเห็นว่า...ว่า

     

    เซฮุนยกร่างฉันขึ้นมาให้อ้อมแขนและพาฉันเดินออกจากห้องไปเลย...สายตาทั้งแบคคยอน ขนมไทย และ จีจี้...ต่างก็เป็นสายตาที่ส่งเสียงเชียร์ให้ฉันกับเซฮุนดีกัน...แต่ฉัน...ฉันไม่กล้าขอโทษเขาจริงๆนะ! ไม่กล้าจะพูดอะไรเลยด้วย!

     

    “เกาะคอผมสิพี่” เซฮุนบอกเสียงเรียบมาก...แต่มันน่ากลัวอะ...เสียงเขาน่ากลัวมาก เอะ? หรือฉันจะคิดไปเอง? ฉันยอมคล้องคอเขาเบาๆ...ฉันยอมทุกอย่างเขาจะด่าฉันมากแค่ไหนฉันก็รับได้จะด่าแรงแค่ไหนฉันก็รับไหว...

     

    “ขาไปโดนอะไรมา?”

     

    เขาพาฉันขึ้นบันได...ผ่านไปสองชั้นแล้วด้วย แต่เขาไม่หอบเลย...ฉันควรตอบเขาดีมั้ย? หรือขอโทษเขาก่อนดี?...แต่จะอย่างไหนก็ไม่อยากทำทั้งนั้นแหละ...สุดท้ายฉันก็ก้มหน้าลงและไม่ได้พูดอะไรออกไป

     

    “พี่ไม่ได้ยินหรอ ผมถามว่าขาไปโดนอะไรมา”

     

    ผ่านไปสี่ชั้น...เขาเหมือนจะหอบนิดๆ...คิ้วก็ขมวดกันหน่อยๆ...น่ากลัว เซฮุนน่ากลัวอะ ถ้าจะระเบิดอารมณ์ตอนนี้ก็ระเบิดเลยอย่าทำให้ใจตุ้มๆต่อมๆแบบนี้...

     

    สุดท้ายเขาก็พาฉันมาถึงดาดฟ้าของตึก...อากาศค่อนข้างร้อนเขาจึงพาฉันไปหลบแดดที่มุมนึงของดาดฟ้า เขาวางฉันลง...และให้ฉันยืนด้วยขาข้างเดียวแบบทุลักทุเลในขณะที่เขายืนมองฉันด้วยสายตาที่เย็นชา เขาไม่ยอมเข้ามาช่วยพยุงฉันเลยด้วย... ยอมค่ะ ยอมทุกอย่างแล้วจริงๆ

     

    “พี่มองหน้าผม” เซฮุนพูดพลางยืนกอดอกสบายๆ

     

    ไม่มอง...ไม่มองเด็ดขาด...ฉันรู้สึกผิดแล้ว...ปล่อยฉันไปตามทางของฉันเถอะนะ

     

    “ไม่มองใช่มั้ย?”

     

     “....”

     

    “งั้นผมจะยืนแบบนี้จนกว่าพี่จะยอมมองหน้าผม...พี่ล้มผมก็ไม่ช่วยหรอกนะ”

     

    “....”

     

    ฉันพยายามทรงตัวให้อยู่ได้นานที่สุด...จะเกาะราวก็ไม่ถึงจะแตะผนังก็ไม่ได้อีก...ถ้าขากระทบพื้นเมื่อไหร่เลือดไหลทันทีเลยด้วย...อดทนไว้นะกรกต...หญิ่งถึกอยู่แล้วนี่

     

    แต่ว่าลม...ลมอะไรจะพัดแรงขนาดนี้เนี่ยหา?! ดีนะที่ใส่กางเกงมาไม่งั้นต้องเสียกายทรงตัวเพราะมัวแต่ปิดกระโปรงแน่ๆอะ

     

    “โอะ!” ตายค่ะ อยู่ๆขาข้างที่เป็นเสาหลักข้างเดียวของฉันก็เกิดอ่อนแรงเหมือนนังตอแลในละครซะงั้น

     

    “กับแค่มองหน้าผมมันจะตายหรือยังไง” เสียงเซฮุน...ที่ตอนนี้อยู่ใกล้แค่เส้นยาแดงกั้นเท่านั้น...

     

    เขาวิ่งมารับร่างฉันทันพอดี...เขาโอบร่างฉันในอ้อมแขนเขาได้ง่ายๆเลย เขามองหน้าฉัน...และฉันก็มองหน้าเขาแล้วด้วย...ใกล้มาก ใกล้เหลือเกิน...ไม่แน่ใจว่าตอนที่เราอยู่บ้านเดียวกันนั้นจะเคยใกล้ขนาดนี้หรือเปล่า แต่เซฮุนคนนี้ก็คือเซฮุนคนที่ชอบแกล้งป้าจินฮีเมื่อตอนนั้น...เซฮุนตรงหน้าฉันตอนนี้...ก็คือเซฮุนคนที่ตามฉันไปถึงประเทศไทยเมื่อตอนนั้น...เซฮุนคนนี้คือคนที่ร่วมหัวกับจงอินเพื่อแกล้งฉัน เขาคือเซฮุนคนนั้น

     

    “เซฮุน!” ฉันลืมตัวจนคว้าคอเขามากอดแน่น “ฉันขอโทษ! ฉันมันไม่ระวังเอง! มือถือฉัน...มือถือฉันโดนเอาไป..แล้วก็...”

     

    “ไม่ต้องพูดแล้วครับ”

     

    เซฮุนค่อยๆแกะแขนฉันออกเพราะเขายืนไม่สะดวก จากนั้นก็โอบร่างฉันและพาฉันมานั่งพิงที่รั้วแทน

     

    “ผมรู้แล้วละว่าพี่ไม่ได้ทำ” เขาพูดสบายๆ ก่อนจะเอาโทรศัพท์ออกมาโชว์ “ผมสร้างแอคใหม่แล้วด้วย แต่พี่ไม่รับอะ ผมเสียใจ”

     

    “จริงหรอ?” ฉันหันไปทำหน้าตกใจใส่เขาและเขาก็หัวเราะ

     

    “จริงครับ พี่ไม่ได้เปิดไลน์เลยใช่มั้ย? พี่คงคิดว่าผม...คิดว่าผม”

     

    “เกลียดพี่ไปแล้ว” ฉันตอบแทนให้...ก็มันใช่มั้ยละ? เป็นใครใครก็ต้องไม่ชอบกันทั้งนั้นแหละ

     

    “ผมจะเกลียดพี่ได้ยังไง ในเมื่อผมคิดถึงพี่มากขนาดนี้”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    23.00 .

     

    สวัสดีครับผมจงแด..อุตส่าได้นอนเร็วทั้งทีแต่ต้องมานั่งฟังเรื่องของจีจี้จากไอแบคคยอนซะยาวเหยียด มันเป็นห่วงน้องเขามากครับ มากๆแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรไปเพราะน้องเขาไม่อยากให้พูดถึง เมื่อกี้แบคคยอนก็เข้าไปในห้องเซฮุนและกะจะขอให้เซฮุนสืบเรื่องจีจี้จากเพื่อนของเธอให้ แต่ทว่าเซฮุนมัวแต่คุยโทรศัพท์ซะจนไม่ได้สนใจแบคคยอนเลย หมอนั่นเลยเดินคอตกกลับมาเล่าให้ผมฟังอยู่ตรงนี้...

     

    ผมหาวเป็นรอบที่แปด “มึงก็ทำใจให้สบายเถอะ น้องเขาก็ร่างเริงดีแล้วไม่ใช่หรอ”

     

    “ก็ใช่! แต่กูอยากรู้ไงว่ามันเรื่องอะไรกันแน่? ใช่เรื่องกูหรือเปล่า?”

     

    “ไม่หรอกมึง น้องเขาไม่ได้เปิดตัวซะหน่อยว่ากำลัง...กำลัง...จีบมึงอยู่”

     

    “อะไรๆ กูต่างหากที่จีบน้องเขา”

     

    “เออๆ แล้วแต่เถอะวะ” ผมนอนเหยียดยาวบนเตียง “ลืมเรื่องนั้นไปเถอะ น้องจีจี้ก็คงอยากให้มึงลืมอ่ะ บางทีปล่อยๆไปบ้างก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะแบคคยอน...”

     

    “แต่กูเป็นห่วง...” มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

     

    “รู้ว่าเป็นห่วง! ไอห่านี่! บอกให้อย่าคิดมากไง! น้องเขาก็บอกว่าอย่าคิดมาก นี่มึงเข้าใจที่น้องเขาบอกมั้ยเนี่ย? กูว่าเป็นแบบนี้จะยิ่งไม่สบายใจกันทั้งสองฝ่ายนะ”

     

    ไม่ทันที่แบคคยอนจะได้เถียงผมต่อ เสียงเปิดประตูห้องก็ดังมาและตามด้วยร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา คริสฮยอง...

     

    “พวกมึงทำไรวะ” คริสฮยองถามพลางเดินมานั่งข้างๆแบคที่เตียงตรงข้าม

     

    “ปรึกษาเรื่องหัวใจ” ผมตอบเซงๆ “แบคคยอนมันเป็นห่วงแฟนมันน่ะครับ”

     

    “ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเว้ย!” มันเถียงกลับมาซะหน้าแดงแจ๋

     

    “ห่า! มึงจะเขินพวกกูทำซากอะไรวะ!” ผมเริ่มรำคาญมันแล้วนะ พูดมากจริงๆให้ตายเถอะ จับฉลากรูมเมทคราวหน้าขออย่าอยู่กับหมอนี่อีกนะ

     

    “ว่าแต่ฮยอง” แบคหันไปสนใจคริสฮยอง “มาถึงนี่ผมว่าแปลกๆนะ มีอะไรเนี่ย โดนเลย์ฮยองไล่ออกมาอีกแล้วหรอ?”

     

    “เปล่า” คริสฮยองยักไหล่ แต่ผมเห็นนะ...ว่าสายตาพี่แกล่อกแล่ก...

     

    “ฮยองมีอะไร บอกพวกผมมานะ” ผมหรี่ตาถามแบบค้นหาความจริง... เจ้าชายกาแล็คซี่คนนี้ยากจะเข้าใจแต่ก็เดาได้ง่ายว่ากำลังมีเรื่องอะไรในใจแน่ๆ

     

    “เออมีก็ได้” คริสฮยองอมยิ้มน้อยๆ

     

    มันทำให้ผมกับแบคคยอนต้องขยับตัวและหันไปจ้องเขาเขม็ง...ขอร้องย่าเล่นมุกตอนนี้นะครับ ผมอยากรู้ว่าซักครั้งนึงพี่จะมีเรื่องอะไรบ้างให้คิดนอกจากเรื่องการแต่งตัวของพี่น่ะ

     

    “คือ...เด็กที่แกพามาวันนี้น่ะ” คริสฮยองหันไปมองแบคคยอนหวาดๆ... เขาดูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยนะ ผิดปกติมาก

     

    “เพื่อนจีจี้หรอครับ?” แบคคยอนถาม

     

    “นั่นเพื่อนจีจี้หรอ?” คริสฮยองย้อน “เออ นั่นแหละ เธอเป็นใครหรอ?”

     

    “เพื่อนจีจี้ไงครับ” แบคคยอนตอบ ผมกับแบคเริ่มรู้ละว่าคริสฮยองอยากจะสื่ออะไร

     

    “เพื่อนพี่เซนาของเซฮุนด้วย” ผมเสริม

     

    อยากจะขำให้ตายจริงๆ คริสฮยองพยายามทำหน้าแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่หน้าพี่เขาแดงมาก โอ้ย ผมอยากหัวเราะดังๆ

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ในที่สุดผมก็หัวเราะ จะกลั้นทำไมอีกละ “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

     

    “หยุดนะไอจงแด” คริสฮยองเขวี้ยงหมอนใส่ผม พี่แกก็หัวเราะเหมือนกันนั้นแหละ หัวเราะแก้เขิน

     

    “พี่สนใจขนมไทยหรอ?” แบคคยอนเป็นคนพูด หมอนั่นตีหน้าเครียดซะผมต้องขำอีกรอบ “คิดดีแล้วหรอพี่?”

     

    “ทำไมวะ? เธอไม่ดีหรอ?” คริสฮยองเผลอทำหน้าเครียดไปด้วย โอ้ย ขำ

     

    “เปล่า” แบคตอบเสียงจริงจัง “ผมหมายถึงว่าเธอจะอยากไปอยู่กาแล็คซี่กับพี่หรือเปล่าน่ะสิ”

     

    แบคคยอนระเบิดหัวเราะอย่างสะใจ

     

    “ไอ้นี่เดี๋ยวโดนๆ” คริสฮยองทำท่าจะตีหัวแบค “หล่อระดับคริสแบบนี้สาวๆที่ไหนก็ต้องการเว้ย”

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมระเบิดหัวเราะอีกรอบ “นี่พี่! นี่พี่สนใจขนมไทยจริงๆหรอ?! ผมนึกว่าพี่จะสนแต่สาวที่อันโดรเมด้าซะอีก”

     

    “พอเลยพวกมึงนี่” คริสฮยองเริ่มเข้าโหมดจริงจัง พวกผมจึงลดเสียงลงและตั้งใจฟังพี่แกพูด

     

    “สเป็กก็มีไว้งั้นๆ เอาจริงๆเจอใครที่ถูกใจเดี๋ยวมันก็รู้เองนั้นแหละ...และวันนี้ฉันก็...รู้สึกสะดุดอะไรบางอย่างในตัวเธอน่ะ เธอดู...แข็งแรงดี”

     

    “อะไรของพี่เนี่ย!” แบคคยอนตีไหล่คริสรัวๆ “พี่ชอบตรงไหนของขนมไทยกันแน่!

     

    “ไม่รู้! จบปะ แต่เธอสะดุดตาฉันก็พอแล้ว! โอเคปะ!

     

    “แล้วมาที่นี่คือ?” ผมเริ่มเข้าประเด็น “อยากมาเล่าให้ฟังเฉยๆ?”

     

    “เปล่า” คริสยิ้ม “มาขอเบอร์น้องคนนั้นน่ะ พวกนายมีปะ”

     

    “ไม่มีครับ” ผมตอบ

     

    “แต่จีจี้มีครับ” แบคคยอนเสริม

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×