คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มาถึงเกาหลีแล้ว ฉันขนมไทยจัดการแบกทั้งร่างกรกตและกระเป๋าลงรถและตรงดิ่งไปโรงแรมใกล้ๆหอพักของยัยจีจี้...เราบินกันแบบข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว อยู่ประเทศไทยประมานตีหนึ่งกว่าๆ พอถึงเกาหลีก็สว่างเจิดจ้าไปเรียบร้อยแล้ว
เราเข้าไปพักในโรงแรมและสั่งอาหารมากินอย่างเหน็ดเหนื่อยจากนั้นก็นอนรอยัยจีจี้เลิกงาน มันรู้แล้วว่าพวกเราจะมา มันไม่ได้ห้ามไม่ให้มาเลยด้วย...ดังนั้นพวกเราจึงรีบมาไง มันต้องการพวกเรามากๆแน่ๆ ถึงยัยนั่นจะเด็ดเดี่ยวและเข้มแข็งแค่ไหน แต่การโดนรุมแบบนั้นใครๆเขาก็ต้องรู้สึกกลัวและหมดกำลังใจไม่มากก็น้อยละ...ยัยกรกตกินยาแก้ปวดตามด้วยยาอีกสองอย่างลงท้องเพื่อรักษาขาตัวเอง พวกเราไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะไปหาหมอ เรื่องงานที่มหาลัยก็ฝากเพื่อนหมด
กรกตหลับอย่างรวดเร็วเพราะฤทธิ์ของยาและความเหนื่อย ฉันเองก็กำลังจะตามมันไปเหมือนกันแต่...ขอหยิบโทรศัพท์มันมาดูก่อน บางทีเซฮุนอาจจะไลน์มาอีก...
ไม่มี...
ไม่มีการแจ้งเตือนไดๆ
ผมแบคคยอน...วันนี้พวกเราค่อนข้างว่าง มาตึกก็สายแล้วแถมเข้าห้องซ้อมร้องเพลงก็ไม่ได้ร้องเพราะมัวแต่ตื่นเต้นเรื่องจะคัมแบ็ค ส่วนซ้อมเต้นก็ทำแบบหละหลวมมากและครูพวกเราก็ใจดียอมให้พวกเราได้พักหนึ่งวัน...ดังนั้นผมจึงมีเวลาพูดคุยและหยอกล้อกับเพื่อนทั้งวัน
แต่ผมไม่ได้คุยกับจีจี้เลย...ผมไม่ได้มากินข้าวเช้ากับเธอเพราะตื่นสาย ผมไม่ได้เช็คดูไลน์เพราะมันไม่มีแจ้งเตือน...ผมทักเธอไปแล้ว ทุกๆหนึ่งชั่วโมงเลยด้วย สงสัยวันนี้เธองานหนักเลยแทบไม่มีเวลาเปิดไลน์...
แต่ผมรู้สึกแปลกๆแฮะ...เมื่อวานผมยังพูดกับเธอยังเล่นกับเธอเลย แต่พอมาวันนี้ทุกอย่างเงียบ...เงียบจนเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นแค่ความฝัน
จงอินกับคยองซูกำลังซ้อมเต้นกันที่ดูเหมือนจะเล่นกันมากกว่า คริสฮยองกับชานยอลนั่งกดโทรศัพท์บนโซฟายาว ส่วนฝั่งจีนที่เหลือผมไม่เห็นว่าไปไหน...เดาว่าจงแดคงจะซ้อมร้องเพลงอีกตามเคย
แต่ผมเห็นเซฮุน...เซฮุนที่ทำหน้าเหนื่อยหน่าย...กำลังนอนคว่ำหมดอาลัยตายอยากอยู่ตรงหน้าผม ทั้งวันมันเอาแต่นอน นอนและนอน...ปกติจะนอนเล่นโทรศัพท์แต่วันนี้นอนเฉยๆ สงสัยทะเลาะกับพี่เซนาของมันแน่ๆ...แต่ทำไมกันนะ...ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเซฮุนไม่ได้แค่ทะเลาะแต่กำลังมีเรื่องกังวลใจอย่างอื่นมากกว่า...ผมอาจจะคิดไปเอง ผมอยากถามมันมากเพราะมันต้องการที่ปรึกษาแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมไม่มีกะจิตกะใจจะให้คำปรึกษาใคร เพราะผมเองก็รอกำลังใจของผมอยู่...เธอเงียบหายไปเลย
จู่ๆยัยจีจี้ก็โทรมาบอกให้ไปที่ตึกSMฉันกับกรกตสะลึมสะลือตื่นมาล้างหน้าล้างตาและรีบไปทันที ยัยนั่นบอกต้องรีบๆด้วยเพราะเดี๋ยวจะไม่ได้เข้า...อะไรนี่? พวกเรากำลังจะเข้าไปในตึกsmงั้นหรอ? มันจะง่ายไปมั้ย? แต่ก็แอบตื่นเต้นไม่ได้จริงๆนั้นแหละ
เมื่อถึงหน้าตึกฉันประคองร่างกรกตลงจากแท็กซี่และมองหายัยจีจี้...
ให้ตาย...ขนาดหน้ามันโดนซะเละขนาดนั้น...มันยังสวยและเปล่งปลั่งมาก เพื่อนฉัน...เพื่อนฉันสวยมาก นั่นใช่จีจี้แน่หรอ...จีจี้ที่กำลังโบกไม้โบกมือและกำลังวิ่งมาทางพวกเรา...นั่นใช่แน่หรอ?
ใช่จีจี้จริงๆด้วย น้ำหูน้ำตาของมันไหลลงอาบแก้ม มันโผเข้ามากอดฉันกับกรกตแน่น...ยัยกรกตเรียบร้อยแล้ว ร้องไห้ตามกันไปเรียบร้อยแล้ว จะให้ฉันร้องไปด้วยอีกคนเดี๋ยวจะดราม่าเกินไป ฉันลากเพื่อนรักทั้งสองของฉันให้เข้าไปใกล้ๆตัวตึก
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอีเด็กเปรตพวกนั้น” ยัยจีจี้พูดภาษาไทยใส่พวกเราพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเหมือนท่อประปาแตก “แค่พวกมึงมาที่นี่...ทุกอย่างของกูก็โอเคไปหมด ทุกอย่างจริงๆ”
ฉันกอดร่างจีจี้แน่น...ยัยกรกตก็เอาแต่ร้องไห้ มันเป็นคนขี้แงตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
“อย่าร้องสิ” ฉันเปลี่ยนบรรยากาศดีกว่า “ไม่เหมือนพวกมึงเลย...ร่าเริงเข้าไว้สิวะ ว่าแต่จีจี้จะพาพวกกูเข้าตึกไม่ใช่หรอ เร็วๆสิอยากจะไปตามหาพี่ลู่ใจจะขาดแล้วเนี่ย”
ยัยจีจี้กับกรกตฝืนหัวเราะออกมาก่อนจะปาดน้ำตาทิ้งและหายใจลึกๆอยู่นาน...
จะว่าไป...พวกเราก็ไม่ได้เจอกันครบแบบนี้นานแล้วนะ...ฉันเองก็รู้สึกขัดจมูกเหมือนกันแฮะ
“นี่บัตรแขกเยี่ยมชมพิเศษ” ยัยจีจี้ยื่นนามบัตรแปลกๆมาให้พวกฉันสองคน “พี่แคนดี้แอบไปเอามาให้ฉัน...นางเห็นฉันเศร้าไม่ไหวก็เลยช่วยให้ฉันได้เจอกับพวกแกเร็วๆ อย่ามัวแต่พูดเลยรีบเข้าก่อนที่จะมีแฟนๆมารอหน้าตึกกันเถอะ”
พวกเราเดินย่องเข้าไปในตัวตึก...ไม่ได้ตั้งใจจะเดินย่องหรอกนะแต่มันก็เหมือนแอบเข้าปะ? ถึงจะได้บัตรมาแบบถูกต้องก็เถอะ หน้าที่แบกยัยกรกตจึงตกเป็นของจีจี้ไปโดยปริยาย...ปลาบปลื้มจริงๆเวลาเห็นเพื่อนดูแลกันแบบนี้...นานๆครั้งจะเห็นนะ
ยัยจีจี้พาพวกเราไปห้องที่มันอยู่ประจำ...ในนั้นฉันเจอผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งอลังการสามสี่คน...พวกเขาล้วนแต่ใจดีและเป็นกันเองกับพวกเรามาก พวกนางกำลังนั่งดูบทแสดงอะไรบางอย่าง พวกเราสามคนจึงนั่งลงคุยกันเงียบๆ...คิดถึงจริงๆอ่ะ คิดถึงจีจี้มากจริงๆ ได้คุยแบบสดๆอย่างนี้แล้วหายคิดถึงไปเยอะเลย...
พวกเราเริ่มคุยกันเสียงดังแบบไม่รู้ตัวจนโดนพี่ซอนอินรูมเมทของจีจี้หันมาทำจุๆแบบน่ารักใส่...
พวกเราปกติแล้ว ทุกอย่างเคลียร์...กลับมาร่าเริงและเอาแต่คุยเรื่องผู้ชายเหมือนเดิมแล้ว ยัยจีจี้เอาแต่พร่ำบอกสถานที่ที่มันกับแบคคยอนนัดเจอกันเจอกันคุยกันเดินด้วยกัน จนฉันเริ่มสับสนแล้วว่าตึกsmมันซับซ้อนขนาดนั้นเชียว?
“ตายละ!” ยัยจีจี้ทำเสียงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “วันนี้ฉันเอาแต่เศร้าจนไม่ได้เปิดดูไลน์เลยนี่หว่า!”
มันรีบวิ่งไปคุ้ยหาโทรศัพท์ในกระเป๋ามันและก็ทำหน้าตกใจสุดขีดเมื่อเห็นแจ้งเตือนไลน์... มันแทบจะวิ่งออกจากห้องไปโดยทิ้งพวกเราทั้งอย่างนั้นจริงๆนะถ้าฉันไม่เรียกมันซะก่อน
“พวกมึงมากับกู!” จีจี้ลากร่างอ่อนเพลียของกรกตไปด้วย ดังนั้นฉันจึงต้องตามไปแต่โดยดี สีหน้าที่เศร้าสร้อยและแดงก่ำเมื่อกี้ของยัยจีจี้หายไปแทนที่ด้วยใบหน้าที่สดใสและส่องประกาย...เหมือนกำลังจะกินเหยื่อ...ทำหน้าเหมือนกำลังจะเจอแบคคยอนอ่ะ...แต่เดี๋ยวก่อน...นี่เรากำลังจะไปไหน?
ฉันเดินตามยัยนั่นมาถึงหน้าห้องน้ำ...ถ้าจำไม่ผิด...นี่คือ? ขุ่นพระ!!
แบคคยอนวิ่งหน้าตั้งมาหาพวกเรา!! ฉันอยากจะเอามืออุดปากตัวเองจริงๆ แต่...นั่นแหละต้องเก็บอาการเหมือนที่เพื่อนๆฉันบอก...ยัยกรกตน่าจะชำนาญหน้ามันนิ่งมาก เนียนเชียวนะแก
แบคคยอนมองหน้าพวกเราสองคนแปปนึง ก่อนจะทำหน้าเครียดใส่จีจี้...ไม่ใช่หน้าเครียดสิ...เขาเรียกว่าหน้าเป็นห่วงมากๆต่างหาก
ฉันเดินไปประคองร่างกรกตแทนจีจี้...และจีจี้ค่อยๆเดินไปหาแบคคยอน ให้ตายเถอะ! ยัยนี่กับแบคไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย! อย่าบอกนะว่าZแล้วน่ะ! ขั้นA B C D คือข้ามไปแล้วใช่ปะ!
“ทำไม...เกิดอะไรขึ้น...แล้วหน้าไปโดนอะไรมา...” เสียงแบคคยอนดูเป็นกังวลมาก...มือไม้เขายกไปยกมาเหมือนทำตัวไม่ถูก... ไม่รู้ว่ายัยกรกตจะเป็นเหมือนฉันหรือเปล่า แต่แบคคยอนน่ารักมาก
ยัยจีจี้หัวเราะแห้งๆไปให้เขาก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธไป...ยัยนั่นคงไม่อยากเล่าให้แบคฟังหรอก และแบคเองก็ไม่อยากรู้แน่ๆ รู้ไปก็จะทำให้ความสัมพันธ์แปลกๆไปเปล่าๆ...
“จีจี้...ทำไมไม่บอกพี่” แบคพูดเสียงเบา...เขาดูเป็นห่วงจีจี้มากจริงๆนะ ฉันอยากจะเดินไปจากตรงนี้เหมือนกันแต่ความอยากรู้มันก็ตรึงฉันไว้...อยากรู้ว่าสองคนนี้ไปถึงไหนกันแล้ว
“ทะเลาะกันในหอนิดหน่อยพี่แบค”
“ไม่นิดละ นี่เหมือนโดนรุมเลยนะ...ทำไม”
“ไม่เอาๆ ไม่พูดเรื่องนั้น มันผ่านไปแล้วช่างมันเถอะค่ะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่เอา ไม่พูดนะ” จีจี้เอามือไปจุปากแบคคยอนไว้... ฉันเผลอบีบไหล่ยัยกรกตซะแรงเลยแต่มันไม่ร้องสงสัยมันก็คิดเหมือนฉัน
แบคคยอนดึงมือจีจี้ลงมาและถอนหายใจ...สีหน้ายังคงบอกว่าเป็นห่วงจีจี้มาก
“ก็ได้...แต่ทีหลังมีเรื่องอะไรบอกพี่ก่อนเลยนะ”
“อื้อ เรื่องไลน์ขอโทษนะค่ะ...คือพอดีเพื่อนมาหาก็เลยไม่ได้...”
“ไม่เป็นไรๆ” แบคคยอนรีบบอกปัดและหันมามองพวกเราสองคน ฉันได้ยินเสียงกรกตกลืนน้ำลายดังเอือก
“นี่กรกต...และนี่ขนมไทยค่ะพี่แบค” จีจี้แนะนำ
“สวัสดีครับ ผมแบคคยอน” แบคเดินยิ้มเข้ามาหาพวกเราและ...ยื่นมือมา...
กรกตเผลอทำตาโตแวบนึงก่อนจะยื่นมือไปจับเขาเบาๆ...ฉันเองก็ด้วย...โอ้ยนี่มัน...โชคดีมากจริงๆนะ
เดี๋ยวก่อนนะ ฉันนึกอะไรได้แล้วละ ถ้ากรกตไม่ยอมไลน์ไปเคลียร์กับเซฮุน ฉันก็พาเซฮุนมาเคลียร์กับมันตรงๆซะเลยดีมั้ย? เดี๋ยวๆๆขนมไทยมึงกล้ามากขนาดนั้นเลยหรอ? อีกอย่างจะไปตามหาตัวเซฮุนมาจากไหนละ?...เดี๋ยวนะ...แบคคยอน
ฉันมองไปที่แบคคยอนที่กำลังบอกพร่ำบอกให้จีจี้รักษาตัวดีๆอยู่...แบคคยอนต้องรู้ว่าเซฮุนอยู่ไหน...บางทีเขาอาจจะอยู่ด้วยกันก็ได้!
ไม่นานเมื่อสองคนนี้ยืนจีบกันเสร็จก็ล่ำลากันไปและยัยกรกตปวดห้องน้ำพอดี ฉันเลยยกหน้าที่แบกร่างกรกตให้จีจี้แทน พวกมันสองคนเข้าไปในห้องน้ำ...และฉันยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ...มองแผ่นหลังของแบคคยอนเดินจากไปเรื่อยๆ...
ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำและตะโกนบอกเพื่อนทั้งสองคนว่า “พวกมึงกูขอลงไปซื้อกาแฟมากินนะ เอาด้วยปะ”
มีเสียงตะโกนตอบกลับมาว่าเอาด้วยพร้อมกัน...เป็นไปตามแผน ฉันรีบเดินออกมาจากห้องน้ำและวิ่งตามหลังแบคคยอนไปทันที...เรื่องของกรกตทำให้ความหน้าด้านของฉันเพิ่มขึ้น10เท่าตัว
แบคคยอนหันมามองฉันงงๆ เขาสุภาพมาก เขารู้ด้วยว่าฉันวิ่งตามเขามา เขาจึงหยุดเดินและหันมารอให้ฉันพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ฉันไม่พูด ฉันส่งสัญญาณให้เขาเดินต่อไปจนลับห้องน้ำนี่ไปก่อน เขาทำหน้าสงสัยได้น่ารักมากแต่ก็ยอมทำตามที่ฉันบอก เมื่อเราสองคนพ้นจากห้องน้ำแล้ว
“เซฮุนมีเรื่องเข้าใจผิดกับเซนา และเซนาไม่ยอมบอกความจริงด้วย...ขอร้องละค่ะคุณแบค...”
แบคคยอนหัวเราะเมื่อได้ยินฉันเรียกเขาว่าคุณแบค “ครับ? เรียกผมพี่แบคเหมือนจีจี้ก็ได้ ว่าแต่ขอร้องอะไรนะครับ? ผมเองก็เห็นเซฮุนป่วยๆเหมือนกัน”
“คือมีเรื่องเข้าใจผิดกันนั้นแหละค่ะ ต้องให้พวกเขาสองคนเคลียร์กัน”
“อ่า...ผมเข้าใจแล้ว...เราจะให้สองคนนั้นเจอกันที่ไหนดี?”
“นั่น..สิค่ะ”
เมื่อความเงียบเข้าปกคลุมฉันจึงเพิ่งได้ตระหนักว่ากำลังคุยกับเสียงหลักของexo-kอยู่...นึกได้แล้วจะเป็นลมเลย...เขาทำหน้าครุ่นคิดได้น่ารักอีกแล้ว ไม่น่าละยัยจีจี้ถึงได้คลั่งอยากได้เขามากขนาดนั้น
“ผมว่าไม่ต้องทำแผนหรอกครับ...เอ่อน้อง...หนม..ไต?”
“ขนมไทยค่ะ”
“ขอโทษครับๆ น้องขนมไทยไปบอกเซฮุนเองเลยดีกว่า เดี๋ยวผมพาไปหา”
ฉันเพิ่งตระหนักได้อีกครั้งนึงว่าเซฮุนนั้น...ก็เป็นสมาชิกวงexo-kเหมือนกัน ฉันเดินตามหลังแบคคยอนไปแบบไม่น่าเล้ยย ถ้าฉันวิ่งกลับไปตอนนี้ยังทันมั้ยนะ? โอ้ย ฉันยังไม่พร้อมเลยแถมสภาพก็แบบหัวกระเซอะกระเซิงหน้าก็ไม่แต่งมา แถมการแต่งตัวก็ดูเห่ยๆไงไม่รู้แบบว่ารีบไงไม่ทันได้ดูว่าใส่อะไรมา
“ถึงแล้วครับ” แบคคยอนหันมาบอก เขาบอกเพื่อให้ฉันได้ทำใจสินะ...ขอบคุณค่ะแบคคยอน...
แบคค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องซ้อม...ขุ่นพระ...ห้องซ้อมที่เคยเห็นแค่ในyoutubeบัดนี้...ฉันได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว...ดูกว้างกว่าที่คิดไว้เยอะเลย แต่ห้องไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น...หนุ่มๆที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นห้องสิ น่าสนใจกว่า... ฉันเห็นคริสควานหาหมวกมาใส่ทันทีเมื่อเขาเห็นฉัน ส่วนคนอื่นๆก็มองหน้าฉันงงๆ...คนที่ฉันเคยเห็นก็มีอยู่สองคนก็คือ พี่จงแดและเซฮุน...บัดนี้พี่จงแดที่ฉันคิดว่าอาจจะพึ่งพาได้กลับไม่อยู่ในห้อง
แต่เซฮุนรีบเด้งตัวลุกขึ้นมาหาฉันอย่างรวดเร็ว...ทุกคน...ทุกคนในห้องสนใจฉันหมดเลย ฉัน...ฉันจะทำยังไงดี..ขนมไทย..อย่าเพิ่งติ่ง เอาเรื่องกรกตก่อน ใจเย็นนะขนมไทย...
“พี่ขนมไทย!” เซฮุนเรียกฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมาก...ใจสั่นเลย “พี่มาได้ยังไงครับ? แล้วพี่เซนาละ?!”
ไม่ได้เป็นไปตามที่ยัยกรกตคิดเลยจริงๆ เซฮุนเขาไม่ได้คิดอะไรเลย...เซฮุนยังชอบเซนาอยู่เลย...แล้วยัยนั่นมัวทำอะไรอยู่ อยากกลับไปหักคอมันจริงๆ
“พี่มาหาจีจี้น่ะ” ฉันพยายามควบคุมเสียงให้อยู่ในระดับปกติที่สุด “เซนาก็มาด้ว-”
“พาผมไปหาเธอ! พี่ขนมไทยพาผมไปหาพี่เซนานะ!” เซฮุนเขย่าตัวฉันเบาๆ หารู้ไม่ว่าเขาเขย่าหัวใจฉันเหมือนกัน ไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบเขาเขาก็ดึงแขนฉันออกไปจากห้องซ้อมแล้ว แบคคยอนเดินตามหลังมาเงียบๆ ฉันไม่พูดอะไรมากแค่บอกเซฮุนว่าไปทางไหน...
ว่าแต่...เดี๋ยวสิ...อย่าเพิ่งได้มั้ย...ยังไม่ได้เจอพี่ลู่เลย
ฉันกับจีจี้นั่งรอยัยขนมไทยอยู่นานละไม่มาซักที แค่ไปสั่งกาแฟจากชั้นล่างแล้วกดลิฟขึ้นมานี่ใช้เวลานานขนาดนั้นเลยหรอ? ฉันอยากเดินไปตามหามันนะกลัวมันหลงทาง...จีจี้ก็ออกไปไหนไม่ได้เพราะหน้าเธอไม่เหมาะแก่การเดินเที่ยวเท่าไหร่นัก
ว่าแต่ขาฉันเนี่ย มันเดินได้อยู่หรอกแต่พอเดินปุ๊บเลือดมันก็จะไหลปรี๊ดเลยนี่สิ โอ้ย สยองวะ สงสัยคงต้องไปเย็บละถ้ามันยังไหลทุกครั้งที่เอาเท้าลงพื้นแบบนี้ คือถ้าไม่มียัยจีจี้กับขนมไทยช่วยประคองละก็ฉันไปไหนมาไหนไม่ได้แน่ๆอ่ะ
“กรกต....” อยู่ๆยัยจีจี้ก็สะกิดฉันและโบ้ยปากให้มองไปทางประตู
“อะไร ขนมไทยมาแล้วหร-” ฉันหันไปมองและใช่จริงๆด้วย ขนมไทยมาแล้ว...มาพร้อมเซฮุนด้วย หัวใจฉันกลับมาเต้นรัวๆจนแทบทะลุออกมาข้างนอกทันที ขนมไทยแบคคยอนและเซฮุนเดินเข้ามาในห้องเงียบๆ เงียบจนนักแสดงที่เหลือไม่ได้สังเกตอะไรเลย
ฉันรีบหลบหน้าเซฮุน...ฉันไม่อยากเห็นเขาตอนนี้...ฉันทำเขาลำบาก...ฉันไม่อยากให้เขาต้องมานั่งเห็นหน้าคนที่ทำให้เขามีเรื่องหรอกนะ...เซฮุน ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ...ฉันมันไม่ดีเอง ฉันมัน-
“ว้าย!” ฉันรีบอุดปากตัวเองทันก่อนที่คนในห้องจะสังเกตเห็นว่า...ว่า
เซฮุนยกร่างฉันขึ้นมาให้อ้อมแขนและพาฉันเดินออกจากห้องไปเลย...สายตาทั้งแบคคยอน ขนมไทย และ จีจี้...ต่างก็เป็นสายตาที่ส่งเสียงเชียร์ให้ฉันกับเซฮุนดีกัน...แต่ฉัน...ฉันไม่กล้าขอโทษเขาจริงๆนะ! ไม่กล้าจะพูดอะไรเลยด้วย!
“เกาะคอผมสิพี่” เซฮุนบอกเสียงเรียบมาก...แต่มันน่ากลัวอะ...เสียงเขาน่ากลัวมาก เอะ? หรือฉันจะคิดไปเอง? ฉันยอมคล้องคอเขาเบาๆ...ฉันยอมทุกอย่างเขาจะด่าฉันมากแค่ไหนฉันก็รับได้จะด่าแรงแค่ไหนฉันก็รับไหว...
“ขาไปโดนอะไรมา?”
เขาพาฉันขึ้นบันได...ผ่านไปสองชั้นแล้วด้วย แต่เขาไม่หอบเลย...ฉันควรตอบเขาดีมั้ย? หรือขอโทษเขาก่อนดี?...แต่จะอย่างไหนก็ไม่อยากทำทั้งนั้นแหละ...สุดท้ายฉันก็ก้มหน้าลงและไม่ได้พูดอะไรออกไป
“พี่ไม่ได้ยินหรอ ผมถามว่าขาไปโดนอะไรมา”
ผ่านไปสี่ชั้น...เขาเหมือนจะหอบนิดๆ...คิ้วก็ขมวดกันหน่อยๆ...น่ากลัว เซฮุนน่ากลัวอะ ถ้าจะระเบิดอารมณ์ตอนนี้ก็ระเบิดเลยอย่าทำให้ใจตุ้มๆต่อมๆแบบนี้...
สุดท้ายเขาก็พาฉันมาถึงดาดฟ้าของตึก...อากาศค่อนข้างร้อนเขาจึงพาฉันไปหลบแดดที่มุมนึงของดาดฟ้า เขาวางฉันลง...และให้ฉันยืนด้วยขาข้างเดียวแบบทุลักทุเลในขณะที่เขายืนมองฉันด้วยสายตาที่เย็นชา เขาไม่ยอมเข้ามาช่วยพยุงฉันเลยด้วย... ยอมค่ะ ยอมทุกอย่างแล้วจริงๆ
“พี่มองหน้าผม” เซฮุนพูดพลางยืนกอดอกสบายๆ
ไม่มอง...ไม่มองเด็ดขาด...ฉันรู้สึกผิดแล้ว...ปล่อยฉันไปตามทางของฉันเถอะนะ
“ไม่มองใช่มั้ย?”
“....”
“งั้นผมจะยืนแบบนี้จนกว่าพี่จะยอมมองหน้าผม...พี่ล้มผมก็ไม่ช่วยหรอกนะ”
“....”
ฉันพยายามทรงตัวให้อยู่ได้นานที่สุด...จะเกาะราวก็ไม่ถึงจะแตะผนังก็ไม่ได้อีก...ถ้าขากระทบพื้นเมื่อไหร่เลือดไหลทันทีเลยด้วย...อดทนไว้นะกรกต...หญิ่งถึกอยู่แล้วนี่
แต่ว่าลม...ลมอะไรจะพัดแรงขนาดนี้เนี่ยหา?! ดีนะที่ใส่กางเกงมาไม่งั้นต้องเสียกายทรงตัวเพราะมัวแต่ปิดกระโปรงแน่ๆอะ
“โอะ!” ตายค่ะ อยู่ๆขาข้างที่เป็นเสาหลักข้างเดียวของฉันก็เกิดอ่อนแรงเหมือนนังตอแลในละครซะงั้น
“กับแค่มองหน้าผมมันจะตายหรือยังไง” เสียงเซฮุน...ที่ตอนนี้อยู่ใกล้แค่เส้นยาแดงกั้นเท่านั้น...
เขาวิ่งมารับร่างฉันทันพอดี...เขาโอบร่างฉันในอ้อมแขนเขาได้ง่ายๆเลย เขามองหน้าฉัน...และฉันก็มองหน้าเขาแล้วด้วย...ใกล้มาก ใกล้เหลือเกิน...ไม่แน่ใจว่าตอนที่เราอยู่บ้านเดียวกันนั้นจะเคยใกล้ขนาดนี้หรือเปล่า แต่เซฮุนคนนี้ก็คือเซฮุนคนที่ชอบแกล้งป้าจินฮีเมื่อตอนนั้น...เซฮุนตรงหน้าฉันตอนนี้...ก็คือเซฮุนคนที่ตามฉันไปถึงประเทศไทยเมื่อตอนนั้น...เซฮุนคนนี้คือคนที่ร่วมหัวกับจงอินเพื่อแกล้งฉัน เขาคือเซฮุนคนนั้น
“เซฮุน!” ฉันลืมตัวจนคว้าคอเขามากอดแน่น “ฉันขอโทษ! ฉันมันไม่ระวังเอง! มือถือฉัน...มือถือฉันโดนเอาไป..แล้วก็...”
“ไม่ต้องพูดแล้วครับ”
เซฮุนค่อยๆแกะแขนฉันออกเพราะเขายืนไม่สะดวก จากนั้นก็โอบร่างฉันและพาฉันมานั่งพิงที่รั้วแทน
“ผมรู้แล้วละว่าพี่ไม่ได้ทำ” เขาพูดสบายๆ ก่อนจะเอาโทรศัพท์ออกมาโชว์ “ผมสร้างแอคใหม่แล้วด้วย แต่พี่ไม่รับอะ ผมเสียใจ”
“จริงหรอ?” ฉันหันไปทำหน้าตกใจใส่เขาและเขาก็หัวเราะ
“จริงครับ พี่ไม่ได้เปิดไลน์เลยใช่มั้ย? พี่คงคิดว่าผม...คิดว่าผม”
“เกลียดพี่ไปแล้ว” ฉันตอบแทนให้...ก็มันใช่มั้ยละ? เป็นใครใครก็ต้องไม่ชอบกันทั้งนั้นแหละ
“ผมจะเกลียดพี่ได้ยังไง ในเมื่อผมคิดถึงพี่มากขนาดนี้”
23.00 น.
สวัสดีครับผมจงแด..อุตส่าได้นอนเร็วทั้งทีแต่ต้องมานั่งฟังเรื่องของจีจี้จากไอแบคคยอนซะยาวเหยียด มันเป็นห่วงน้องเขามากครับ มากๆแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรไปเพราะน้องเขาไม่อยากให้พูดถึง เมื่อกี้แบคคยอนก็เข้าไปในห้องเซฮุนและกะจะขอให้เซฮุนสืบเรื่องจีจี้จากเพื่อนของเธอให้ แต่ทว่าเซฮุนมัวแต่คุยโทรศัพท์ซะจนไม่ได้สนใจแบคคยอนเลย หมอนั่นเลยเดินคอตกกลับมาเล่าให้ผมฟังอยู่ตรงนี้...
ผมหาวเป็นรอบที่แปด “มึงก็ทำใจให้สบายเถอะ น้องเขาก็ร่างเริงดีแล้วไม่ใช่หรอ”
“ก็ใช่! แต่กูอยากรู้ไงว่ามันเรื่องอะไรกันแน่? ใช่เรื่องกูหรือเปล่า?”
“ไม่หรอกมึง น้องเขาไม่ได้เปิดตัวซะหน่อยว่ากำลัง...กำลัง...จีบมึงอยู่”
“อะไรๆ กูต่างหากที่จีบน้องเขา”
“เออๆ แล้วแต่เถอะวะ” ผมนอนเหยียดยาวบนเตียง “ลืมเรื่องนั้นไปเถอะ น้องจีจี้ก็คงอยากให้มึงลืมอ่ะ บางทีปล่อยๆไปบ้างก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะแบคคยอน...”
“แต่กูเป็นห่วง...” มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“รู้ว่าเป็นห่วง! ไอห่านี่! บอกให้อย่าคิดมากไง! น้องเขาก็บอกว่าอย่าคิดมาก นี่มึงเข้าใจที่น้องเขาบอกมั้ยเนี่ย? กูว่าเป็นแบบนี้จะยิ่งไม่สบายใจกันทั้งสองฝ่ายนะ”
ไม่ทันที่แบคคยอนจะได้เถียงผมต่อ เสียงเปิดประตูห้องก็ดังมาและตามด้วยร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา คริสฮยอง...
“พวกมึงทำไรวะ” คริสฮยองถามพลางเดินมานั่งข้างๆแบคที่เตียงตรงข้าม
“ปรึกษาเรื่องหัวใจ” ผมตอบเซงๆ “แบคคยอนมันเป็นห่วงแฟนมันน่ะครับ”
“ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเว้ย!” มันเถียงกลับมาซะหน้าแดงแจ๋
“ห่า! มึงจะเขินพวกกูทำซากอะไรวะ!” ผมเริ่มรำคาญมันแล้วนะ พูดมากจริงๆให้ตายเถอะ จับฉลากรูมเมทคราวหน้าขออย่าอยู่กับหมอนี่อีกนะ
“ว่าแต่ฮยอง” แบคหันไปสนใจคริสฮยอง “มาถึงนี่ผมว่าแปลกๆนะ มีอะไรเนี่ย โดนเลย์ฮยองไล่ออกมาอีกแล้วหรอ?”
“เปล่า” คริสฮยองยักไหล่ แต่ผมเห็นนะ...ว่าสายตาพี่แกล่อกแล่ก...
“ฮยองมีอะไร บอกพวกผมมานะ” ผมหรี่ตาถามแบบค้นหาความจริง... เจ้าชายกาแล็คซี่คนนี้ยากจะเข้าใจแต่ก็เดาได้ง่ายว่ากำลังมีเรื่องอะไรในใจแน่ๆ
“เออมีก็ได้” คริสฮยองอมยิ้มน้อยๆ
มันทำให้ผมกับแบคคยอนต้องขยับตัวและหันไปจ้องเขาเขม็ง...ขอร้องย่าเล่นมุกตอนนี้นะครับ ผมอยากรู้ว่าซักครั้งนึงพี่จะมีเรื่องอะไรบ้างให้คิดนอกจากเรื่องการแต่งตัวของพี่น่ะ
“คือ...เด็กที่แกพามาวันนี้น่ะ” คริสฮยองหันไปมองแบคคยอนหวาดๆ... เขาดูไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยนะ ผิดปกติมาก
“เพื่อนจีจี้หรอครับ?” แบคคยอนถาม
“นั่นเพื่อนจีจี้หรอ?” คริสฮยองย้อน “เออ นั่นแหละ เธอเป็นใครหรอ?”
“เพื่อนจีจี้ไงครับ” แบคคยอนตอบ ผมกับแบคเริ่มรู้ละว่าคริสฮยองอยากจะสื่ออะไร
“เพื่อนพี่เซนาของเซฮุนด้วย” ผมเสริม
อยากจะขำให้ตายจริงๆ คริสฮยองพยายามทำหน้าแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่หน้าพี่เขาแดงมาก โอ้ย ผมอยากหัวเราะดังๆ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ในที่สุดผมก็หัวเราะ จะกลั้นทำไมอีกละ “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“หยุดนะไอจงแด” คริสฮยองเขวี้ยงหมอนใส่ผม พี่แกก็หัวเราะเหมือนกันนั้นแหละ หัวเราะแก้เขิน
“พี่สนใจขนมไทยหรอ?” แบคคยอนเป็นคนพูด หมอนั่นตีหน้าเครียดซะผมต้องขำอีกรอบ “คิดดีแล้วหรอพี่?”
“ทำไมวะ? เธอไม่ดีหรอ?” คริสฮยองเผลอทำหน้าเครียดไปด้วย โอ้ย ขำ
“เปล่า” แบคตอบเสียงจริงจัง “ผมหมายถึงว่าเธอจะอยากไปอยู่กาแล็คซี่กับพี่หรือเปล่าน่ะสิ”
แบคคยอนระเบิดหัวเราะอย่างสะใจ
“ไอ้นี่เดี๋ยวโดนๆ” คริสฮยองทำท่าจะตีหัวแบค “หล่อระดับคริสแบบนี้สาวๆที่ไหนก็ต้องการเว้ย”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมระเบิดหัวเราะอีกรอบ “นี่พี่! นี่พี่สนใจขนมไทยจริงๆหรอ?! ผมนึกว่าพี่จะสนแต่สาวที่อันโดรเมด้าซะอีก”
“พอเลยพวกมึงนี่” คริสฮยองเริ่มเข้าโหมดจริงจัง พวกผมจึงลดเสียงลงและตั้งใจฟังพี่แกพูด
“สเป็กก็มีไว้งั้นๆ เอาจริงๆเจอใครที่ถูกใจเดี๋ยวมันก็รู้เองนั้นแหละ...และวันนี้ฉันก็...รู้สึกสะดุดอะไรบางอย่างในตัวเธอน่ะ เธอดู...แข็งแรงดี”
“อะไรของพี่เนี่ย!” แบคคยอนตีไหล่คริสรัวๆ “พี่ชอบตรงไหนของขนมไทยกันแน่!”
“ไม่รู้! จบปะ แต่เธอสะดุดตาฉันก็พอแล้ว! โอเคปะ!”
“แล้วมาที่นี่คือ?” ผมเริ่มเข้าประเด็น “อยากมาเล่าให้ฟังเฉยๆ?”
“เปล่า” คริสยิ้ม “มาขอเบอร์น้องคนนั้นน่ะ พวกนายมีปะ”
“ไม่มีครับ” ผมตอบ
“แต่จีจี้มีครับ” แบคคยอนเสริม
ความคิดเห็น