ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC Exo x You) Kill me มายเฟรน! (Sehun,Kris,Chanyeol)

    ลำดับตอนที่ #14 : สวยที่สุดแล่ว

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 57



    themy  butter

     

     

    (ถึงนักอ่านทั้งหลายอย่าลืมมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกนะค่ะ =__=  อย่าลืม)

     



     

    ผ่านไปหลายวันตั้งแต่แบคคยอน...แบคคยอนอปป้าอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขน...

     

    แต่มันยังตราตรึงจนถึงวันนี้ กินไม่ได้นอนไม่หลับและไม่อยากจะอาบน้ำไปตลอดชีวิต...แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันต้องสวยและดูดี...นี่คือกฎไม่ใช่เพราะอยากสวย เป็นกฎของบริษัทที่ฉันทำงานอยู่

     

    ความสุขในอ้อมแขนของแบคคยอนอปป้าในนั้นทำให้ฉันมีความสุขมาก ไม่ว่าใครจะเข้ามาดึงหัว ตบตี หรือด่าทอฉันยังไง ฉันจะยอมน้อมรับและยิ้มกลับไปให้เขา...ฉันรักทุกคนบนโลกนี้...รักแม้กระทั่งหัวขโมยร้านทองที่ยาวราช...ฉันกลายเป็นนางฟ้าไปเลย และจะกลายเป็นนางฟ้าไปเรื่อยๆอีกหลายวันเลยด้วย

     

    การที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของแบคคยอนอปป้า...ทำให้ฉันเพ้อและเหม่อลอยจนพี่แคนดี้ต้องพาฉันไปหาหมอจิตเวช ฉันคิดว่านี่ก็เกินไปนะ...เพราะฉันไม่ได้บ้าขั้นรุนแรงซะหน่อย แต่พี่แคนดี้เขาเป็นห่วงเกินไปต่างหาก

     

    ติ่งทุกคนก็มโนแบบนี้แหละ...

     

    ฉันอารมณ์ดีและมีความสุขเกินไปจนคิดว่าถึงเวลาที่ต้องลาออกจากที่นี่ซะที...

     

    เป้าหมายของฉันบรรลุแล้ว...ถึงยังไม่ได้เจอหน้าแบคคยอนตรงๆก็เถอะ แต่ฉันได้สัมผัสแผ่นอกของเขาก็มากพอแล้วปะ? ฉันจึงเขียนใบลาออกแต่ยังไม่ได้บอกรูมเมทนะ บอกแค่ยัยกรกตกับขนมไทยเท่านั้น

     

    สองคนนั้นยื้อให้ฉันอยู่ต่อกันใหญ่ มันบอกว่าอนาคตฉันกำลังจะไปได้รุ่ง ฉันแอบส่งรูปที่เทสหน้ากล้องไปให้พวกมันดู พวกมันบอกว่าฉันสวย...สวยกว่าใครๆในโลก (รู้ว่าเว่อร์แต่พวกนั้นไม่รู้จะเปรียบยังไงแล้ว)

     

    ฉันพอแล้วจริงๆ แค่นี้ก็สุขจนจุกแล้ว...แค่ได้อ้อมแขนของเขา...ได้สัมผัสริมฝีปากของเขา...สุขจนอยากตายเลยละ...ดีนะที่แค่อยากจะลาออก ไม่ได้ไปลาตาย...

     

    ฉันยังไม่ยื่นใบลาออกวันนี้ค่ะ ฉันคิดว่าจะยื่นพรุ่งนี้...วันนี้จะบอกเพื่อนๆและพี่แคนดี้ก่อน เผื่อพวกนางสามารถฉุดฉันให้อยู่ต่อได้...แอบอยากอยู่ต่อนะ เพราะเสียดายเพื่อนดีๆและสวยๆ ยากมากเลยนะที่ฉันจะสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นที่ไม่ใช่กรกตกับขนมไทยได้...

     

    วันนี้ฉันจึงไปทำงานแบบทำใจ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมกำลังฝึกบังคับคีย์เพลง don’t go อยู่ครับ ค่อนข้างหนวกหูหน่อยนะ แต่ผมคิดว่าทุกคนในห้องซ้อมร้องเพลงตอนนี้ไม่มีใครรำคาญแล้วละ ชินกันหมด ยิ่งกว่านั้นผมได้ยินเสียงจงแดที่มันทะลุออกมาข้างนอกจนผ่านเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย...เสียงอันทรงพลังของจงแด...สงสารฝั่งจีน

     

    พวกร้องแร็ปกำลังนั่งพักคอหลังจากต้องแร็ปเป็นไฟอยู่นาน

     

    เซฮุนนั่งขมวดคิ้วพลางจ้องหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง...พวกเราเลิกถามมันแล้วว่าทำหน้าแบบนั้นทำไม เพราะอีกไม่นานมันก็จะหายและนั่งยิ้มคนเดียวต่อ แต่ครั้งนี้ไม่ครับ...ผมที่ยังแผดเสียงกับดีโอก็คอยสังเกตหน้ามันไปเรื่อยๆ มันยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมก่อนจะเงยหน้ามามองผม...อะไรอีกวะ

     

    “ฮยอง...ผมมีเรื่องเสียใจจะบอก”

     

    “อะไร?”

     

    “พี่จีจี้จะลาออก...เธอจะยื่นใบลาออกพรุ่งนี้”

     

    ก่อนที่ทุกคนจะร่วมแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องของเธอ ผมก็โดนพี่แดเนี่ยลเรียกตัวให้เข้าไปร้องในห้องอัด...ผมไม่เคยร้องเพลง don’t go ได้อินเท่านี้มาก่อน...

     

    เซฮุนจ้องผมไม่วางตาเลย...ดีโอก็ด้วย...คิดว่ากูจะร้องไห้หรอ?

     

    ไม่ ไม่ร้อง

     

    แต่ก็เสียใจมากๆวะ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “อย่าร้องสิมินจอง เธอทำให้จีจีลำบากใจนะ” พี่ซอนอินพูดและเธอกับพี่แคนดี้กำลังช่วยกันปลอบไม่ให้มินจองสะอื้นหนักกว่านี้ เดี๋ยวตาบวม...แล้วไม่สวยนะ

     

    ไม่มีใครหาคำพูดดีๆที่จะทำให้ฉันอยู่ต่อได้เลยจริงๆ...หรือเพราะฉันอยากจะลาออกมากๆกันแน่?

     

    ฉันยังยืนยันคำเดิมว่ามีความสุขมากพอแล้วจริงๆ มีความสุขทั้งที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ ได้เจอคนดีๆอย่างพี่แคนดี้และได้รับรู้ถึงเบื้องหลังของวงการนักแสดง

     

    ที่สำคัญไปกว่านั้น ได้อยู่ในอ้อมแขนของแบคคยอนอปป้า...เรียกอปป้าไม่ถนัดจริงๆนั้นแหละ...

     

    ความสุขมากมายจนฉันคิดว่าอิ่มตัวและคิดว่ามันพอแล้วสำหรับจีจี้นังตัวร้ายคนนี้...ถามว่าเสียดายมั้ย? บอกเลยว่ามาก...แต่อนาคตฉันข้างหน้าฉันเลือกเองได้ ทางเดินที่ฉันจะเดินฉันก็จะเลือกเอง เพราะงั้นฉันยอมทิ้ง ที่ตรงนี้...เพื่อกลับไปยังจุดๆเดิมที่เคยจากมา...กลับไปเรียนหนังสือและนั่งติ่งหน้าคอมกับยัยขนมไทยและกรกต...ต้องตัดกรกตออกไปหรือเปล่านะ...แต่ยัยนั่นเมนชานยอลนี่...

     

    มันเหนื่อยนะที่ต้องยิ้มและปั้นหน้าสวยๆ...บวกกับเป็นนางฟ้าต้องคอยปกป้องมินจอง...

     

    ฉันมันนังตัวร้ายจริงๆนั้นแหละ...มินจองร้องไห้หนักอยู่แต่เธอก็พยายามกลั้นสุดชีวิต เพราะเธอต้องสวย...

     

    เข้าใจความรู้สึกของฉันหรือยัง? ถ้าเป็นกรกตนะ...มันร้องไห้จนตาหลุดและไม่แคร์หรอกถึงแม้ชานยอลจะจ้องมันอยู่...ขนมไทยด้วย

     

    แต่ฉันก็รักพวกเขานะ...ฉันรักและอยากอยู่ด้วยมากๆ

     

    แต่ถ้าฉันอยู่ ฉันจะไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเท่าที่ฉันต้องการ...

     

    ก็แค่นั้นเอง..ฉันมันเห็นแก่ตัวสินะ ขอโทษจริงๆ...

     

    แล้วน้ำตาของฉันก็ไหล...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “พี่ลองไปคุยกับเธอ” เซฮุนพยายามโน้มน้าวให้ผมทำอย่างนั้นตั้งแต่ห้องซ้อมร้องเพลงจนพวกเราย้ายมาซ้อมเต้นกันแล้ว...

     

    ผมคิดอยู่เหมือนกัน...ว่าผมควรจะเข้าไปคุยกับเธอดีมั้ย...แต่ว่าผมมีสิทธิ์อะไรจะห้ามเธอละ? สิทธิ์ของเมนหลักงั้นหรอ? เธอน่าจะฟังผมอยู่แล้วละ แต่คนอายุรุ่นเธอน่ะคิดเองเป็นและไม่ยอมทำตามคนอื่นสั่งง่ายๆหรอกถึงเธออยากฟังผมพูดมากแค่ไหน แต่ผมว่าเธอก็ไม่ยอมตัดสินใจตามที่ผมบอกหรอก...

     

    อีกอย่าง...ผมจะไปยื้อเธอทำไม?

     

    “ฉันจะทำแบบนั้นเพื่ออะไรละเซฮุน” ผมหันไปตอบเซฮุน “ฉันไม่ได้เป็นอะไรและเกี่ยวข้องอะไรกับเธอลึกถึงขั้นไปพูดแบบนั้นได้หรอกนะ”

     

    เซฮุนทำหน้าหงุดหงิดใส่ผม หมอนี่ไม่เคยเก็บสีหน้าเวลาอยู่กับฮยองเลย มันเคยเคารพผมบ้างมั้ยเนี่ย อย่าว่าแต่ผมเลยมันเคยเคารพซูโฮฮยองหรือเปล่า?

     

    “พี่ไม่กล้าอะดิ” มันเปลี่ยนแนวมาท้าทายผมแทน...ขอโทษนะเซฮุน วิธีนี้ใช้กับฉันไม่ได้หรอก

     

    “แล้วฉันจะกล้าเพื่ออะไร?”

     

    “นั่นคนที่พี่ชอบนะ”

     

    ผมยืนนิ่งไปซักพักกับคำนั้น...

     

    “ไม่ใช่ซะหน่อย ฉันก็แค่ทำอะไรไม่ถูก เพราะเธอสวยเท่านั้นเอง...”

     

    “เชอะ” มันสะบัดหน้าใส่ผมแล้วเดินไปร่วมวงกับจงอินแทน...

     

    จะให้ผมทำยังไง? ผมอยู่ในตำแหน่งอะไรช่วยคิดบ้างสิ! แล้วเธอน่ะก็โตๆแล้วด้วย เธอน่าจะมีเหตุผลที่ต้องลาออกไป ผมไม่ควรเข้าไปยุ่ง ผมไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย เพราะผมเป็นแค่เมนหลักของเธอ! ไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือแฟนเธอซะหน่อย!

     

     

     

    คืนก่อนจีจี้จะยื่นใบลาออก...

     

    ผมนอนก่ายหน้าผากและพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง...จงแดหลับไปนานแล้ว เหลือแค่ผมนี่แหละ

    ทำไมผมต้องกังวลแล้วใจเต้นตึกตักแบบนี้ด้วยวะ...หลังจากที่เจอเธอตอนนั้น...ผมก็ไม่ได้เจอหน้าเธออีกเลย แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหมือนเห็นหน้าเธอทุกวัน...ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พยายามหลบแทบตาย

     

    ผมยอมรับว่าใจหาย...เธอจะลาออกไปจริงๆงั้นหรอ? เธอจะออกไปจากตึกหลังนั้นและไม่กลับมาอีกเลยใช่มั้ย? ผมไม่ต้องหลบซ่อนเธออีกต่อไปแล้วถูกมั้ย? ผมจะได้กลับไปเป็นแบคคยอนคนเดิม...แบคคยอนที่พูดมากขี้บ่นเอะอะเสียงดังโวยวายหน้าด้านและ....ไม่เขินไม่อาย ไม่ใจเต้นรัว ไม่ตื่นเต้น...

     

    ผมถอนหายใจออกมาทั้งๆที่ไม่รู้สาเหตุที่แน่นอน...

     

    ถามว่าอยากให้เธออยู่ต่อมั้ย อยาก...

     

    ถามว่าอยากเข้าไปยื้อเธอมั้ย ไม่...

     

    ผมหยิบโทรศัพท์บนเตียงขึ้นมาส่องคาคาโอที่คุยกับเซฮุน...เผื่อมันจะทักมาบอกว่าเธอเปลี่ยนใจหรืออะไรแบบนั้น...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันกรกตค่ะกำลังนั่งจ้องไลน์จีจี้เขม็ง...ขนมไทยที่นั่งเป็นกำลังใจข้างๆก็จ้องเหมือนกัน...

     

    พวกเราตัดสินใจแล้ว...คิดดีแล้วด้วย...

     

    ที่จะบอกให้จีจี้รู้ซักทีว่าแบคคยอนสนใจเธอ...

     

    “พร้อมนะ” ฉันหันไปมองหน้าขนมไทย ยัยนั่นพยักหน้าและทำหน้าตามั่นใจสุดๆมาให้ฉัน...เหมือนพวกเราสองคนกำลังจะภารกิจลับสุดยอดระดับประเทศ...

     

    ฉันพิมพ์ด้วยมือสั่นๆไปก่อนว่า

     

     

    นอนหรือยังวะมึง

     

     

    มันตอบกลับมาแทบจะทันที...สงสัยเล่นโทรศัพท์อยู่

     

     

    กำลังจะนอนวะ ทำไมหรอ

     

     

    ฉันหันไปมองหน้าขนมไทยหวั่นๆ...ใจนึงก็อยากบอกมันแทบทนไม่ไหว อีกใจนึงก็ไม่แน่ใจว่าเซฮุนจะเดาความรู้สึกของแบคคยอนออกจริงๆหรือเปล่า...เขาอาจจะคาดเดาไปเอง...ขนมไทยเริ่มจับปากตัวเองพร้อมทำตาล่อกแล่ก...มันคิดเหมือนฉัน และอีกใจนึงก็อยากให้จีจี้กลับมา...กลับมาอยู่กับพวกเราและกลับมาเป็นจีจี้คนเดิม...

     

     

    คือเรื่องมึงจะลาออก...ตกลงเอาจริงหรอวะ?

     

     

    อืม กูบอกลาทุกๆคนแล้ว จองตั๋วกลับแล้วด้วย

     

     

    ฉันกับขนมไทยมองหน้ากันเป็นหนที่สาม...บอกตอนนี้ยังทันมั้ย? ทันสิ สำหรับจีจี้แล้วแบคคยอนคือทุกสิ่งอย่าง...แต่ถ้าเรื่องที่เราบอกมันไปกลับไม่จริง...จีจี้ก็จะเสียใจ...ยัยนั่นยิ่งทำอะไรไม่ค่อยคิดอยู่แล้วด้วย เรื่องที่มันลาออกนี่ก็ทำไมไม่คิดให้นานกว่านี้นะจู่ๆอยากทำก็ทำเลย...

     

    มันไลน์มาเร่ง

     

     

     

    มึงมีอะไรหรอ

     

     

     

    เปล่า แค่ถามเฉยๆ

     

     

     

    งั้นนอนแล้วนะ

     

     

     

    อืม นอนเลย...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เช้าวันต่อมา...

     

    ทำไมผมถึงมาเดินแถวๆหน้าห้องผู้อำนวยการแบบนี้ละ! ว่าแต่จะส่งใบลาออกนี่ต้องส่งที่ไหนวะ! อีกอย่างเธอยังไม่ได้เป็นนักแสดงเต็มตัวเธอต้องบอกผู้จัดการผ่านคนนี้คนนั้นก่อนไม่ใช่หรอ...เธอจะเดินดุ่ยๆมาวางใบลาออกตรงหน้าประธานเลยได้ยังไง?...

     

    แต่ผมก็ยังวนเวียนอยู่แถวนั้นจนเลยเวลาซ้อมร้องเพลงไปนาน...ผมต้องรีบกลับไปทานข้าวเที่ยงและซ้อมเต้นต่อ...

     

    แต่ใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย... ซูโฮฮยองก็โทรมาเป็นสิบสายแล้วด้วย..ทำไงดี...

    ได้ยินเสียงคาคาโอเด้งหัวใจแทบเด้งไปตามเสียง... ผมรีบกดเข้าไปดูที่เซฮุนส่งมา

    ฮยอง กลับมาเถอะ...ไม่ทันแล้วครับ

    ผมว่าเธอไปแล้วละ

    ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นข้อความนี้ ผมกลับโล่งอกเพราะจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อได้อย่างสบายใจ...

    ผมเดินกลับไปห้องซ้อมและยิ้มให้เม็มเบอร์ในนั้นก่อนก้มหัวขอโทษซูโฮฮยองที่มาสาย...

    “ฮยอง...โอเคนะ” เซฮุนหันมาถามผมก่อนที่เราจะจัดตำแหน่งเต้น

    “โอเคดีวะ”

    ทีนี้ผมก็เหลือแค่...ทำใจ

     

     

     

    ผมอยากจะบอกว่าเมื่อสองวันที่แล้วผมโกหกความรู้สึกตัวเอง...

     

    ผมกินอาหารไม่ค่อยลง ผมนอนหลับๆตื่นๆ ผมเอาแต่ส่องคาคาโอเซฮุน...ทั้งๆที่เจอมันทุกวัน

     

    ผมดูไม่ร่าเริงเหมือนแบคคยอนคนเดิม...ผมกลายเป็นแบคคยอนคนใหม่ที่ห่อเหี่ยวแทน นี่ผมเป็นเอามากเลยนะ...เพราะเธอคนนั้น...ผมถึงได้เป็นขนาดนี้งั้นหรอ? รู้งี้ผมน่าจะเข้าไปพูดกับเธอซักหน่อยก็ดี...ถึงไม่ได้ไปพูดให้เธออยู่ต่อ แต่ก็น่าจะไปบอกลา...บอกลาในฐานะแฟนคลับกับไอดอลไง...

     

    จงแดเอาแต่ด่าให้ผมได้สติกลับมา...

     

    เปล่าหรอก มันอยากให้ผมด่ามันกลับต่างหาก ผมก็อยากทำนะแต่สมองมันไม่สั่งการเลยนี่สิ...

     

    “วันนี้มีถ่ายแบบ...ชิวๆน่ะเพราะเป็นของบริษัทเราเอง” ซูโฮฮยองบอกทุกๆคนในห้องซ้อมร้องเพลง

     

    “กี่โมงครับ ไม่เห็นบอกล่วงหน้าเลย” ดีโอหันไปถาม

     

    “อื้อ เป็นของบริษัทเลยไม่ได้แจ้งไว้ก่อนน่ะ เริ่มบ่ายโมงเสร็จแล้วพวกเราก็กลับมาซ้อมเต้นต่อได้”

     

    มีเสียงอวดโครญตามมาเล็กน้อย...แต่ผมนั่งเงียบ สมองว่างเปล่า

     

     

    บ่ายโมง...ผมนั่งให้ช่างเซ็ตผมอยู่ข้างๆเซฮุน

     

    “ฮยอง ทำใจได้แล้วหน่า” เซฮุนพูดเบาๆ “เป็นแบบนี้เรื่อยๆจะแย่เอาทั้งฮยองและทั้งทีมนะครับ”

     

    “เออ...ทำใจได้ตั้งนานแล้ว ช่วงนี้กูแค่มึนๆ”

     

    “หรอครับ...หรือพี่อาจจะไม่ต้องทำใจแล้ว”

     

    “ก็ไม่ได้ทำใจไง...”

     

    “หรอครับ...บางทีพี่น่าจะหายมึน”

     

    “อืม...กินยาซักหน่อยก็หาย”

     

    “บางทีพี่น่าจะแอบใต้โต๊ะนะครับ”

     

    “หืม? อะไรของมึง”

     

    “นั่น พี่จีจี้....”

     

    ใจผมหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม...เซฮุนยืนชี้ไปที่ร่างของหญิงสาวที่กำลังเดินงัวเงียผมเผ้าชี้ฟูมาหน้าตาตื่น...เธอก้มหัวขอโทษทุกๆคนที่อยู่ใกล้เธอ ปากพร่ำบอกว่าตื่นสาย...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันไม่ได้ลาออกค่ะ เพราะ...

     

    วันยื่นใบลาออก...

     

    “จะลาออกจริงๆหรอจีจี...” เจ๊ผู้ชายคนที่ขี้บ่นคนนั้นกำลังทำหน้าเศร้าสร้อยใส่ฉัน...อยากจะถ่ายรูปไปให้กรกตกับขนมไทยดูจริงๆ... “คิดดีแล้วหรอ...”

     

    “ค่ะ 80เปอร์เซ็นที่ฉันจะลาออก ก็ลาจริงๆ...” ฉันแอบจิกกัดเล็กน้อย...

     

    “ถือสากับคำพูดของฉันทำไมกัน...แต่ว่าเธอน่ะ กำลังไปได้ดีเชียวนะ...ไม่ลองทนอีกซักเดือนดูละ เผื่ออะไรๆจะเปลี่ยนใจเธออีกครั้ง”

     

    “นั้นแหละค่ะถึงต้องรีบลาออก”

     

    เจ๊ดูชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นฉันตอบฉะฉาน “โอเค งั้นแล้วแต่ใจของเธอละกัน ฉันเองก็ไม่ได้ว่างมานั่งหว่านล้อมใครซักหน่อย..ว่าแต่ทีนี้ฉันจะหาคนไหนที่เหมาะสมจะถ่ายคู่กับexoละ มินจองงั้นหรอ? เด็กนั่นไม่มีความเซ็กซี่อยู่ในตัวเลยซักนิด!

     

    และนั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่ลาออก...อีเจ๊คนนั้นรู้ในวันนั้นแหละค่ะว่าฉันคลั่งexo ทีนี้พอจะลาออกก็ลำบากหน่อย...พูดอีกแง่ก็คือ เบื่อๆก็เข้าไปบอกว่าจะลาออก เดี๋ยวเจ๊ก็จะประทานผู้ชายมาให้ฉันเอง...

     

    ฉันยืนมองพี่ๆสตาร์ฟงงๆเพราะคนเยอะและexoก็เดินพล่านเต็มไปหมดจนฉันไม่รู้จะสังเกตใครดี...ฉันตื่นสายเพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่วันนี้จะได้ถ่ายกับแบคคยอน (สายไปมากเลยด้วย)

     

    พี่สตาร์ฟรีบลากฉันให้มานั่งหน้ากระจก ก่อนจะจัดการกับผมเผ้าที่ดูเหมือนเฮอร์ไมโอนี่ภาคแรกให้เรียบร้อยทันที มีพี่ๆช่างแต่งหน้าเข้ามารุมจัดการหน้าฉันถึงสามคน...ฉันทำพวกเขาลำบากสินะ

     

    ตอนนี้exoแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้ว...บอกเลยว่าหล่อทุกคน

     

     

     

     

    เฮ้ย!!!

     

    พระเจ้า!!!

     

    พี่กู! กำลังจะถ่ายแบบกับexo!!!! เป็นผู้หญิงคนเดียว!!! ถ่ายกับผู้ชายหล่อระดับเทพ12คน!!!!

     

    ยาพิษอยู่ไหน!! เอามา!! กูจะกรอกลงคอ!!!

     

    อยากตาย แม่จ๋า....

     

    พวกเขายังไม่เห็นฉันตรงๆเพราะฉันโดนล้อมรอบโดยพี่สาร์ฟเต็มไปหมด...แต่ฉันก็เห็นแวบๆนะ...เห็นหลังแบคคยอนแวบๆ โอ้ย ใจสั่น...ฉันกำลังจะได้ยืนข้างๆเขาแล้ว...โอ้ย จีจี้ในที่สุดสวรรค์ก็เป็นใจให้ฉันซักที!!

     

    และเมื่อฉากลุ้นระทึกมาถึง...กรี๊ดดดดด ต้องเก็บอาการ กูเกลียดการเก็บอาการมาก!!

     

    พี่สตาร์ฟค่อยๆเดินจากฉันไปทีละคนสองคน...เหลือไว้แค่พี่แคนดี้ที่ยืนใกล้ๆเป็นเพื่อนฉัน

     

    การถ่ายแบบกำลังจะเริ่ม ตากล้องเข้าที่...ผู้กำกับนั่งประจำที่ ช่างแต่งหน้ายืนเรียงกันพร้อมจู่โจมเมื่อใครเหงื่อออก...เสียงเพลงดังมาเพื่อทำให้บรรยากาศดูไม่อึดอัด

     

    “นายแบบนางแบบมาทางนี้ครับ” ผู้กำกับเรียกให้พวกเราทุกคนไปข้างหน้าเขา...

     

    และนี่คือฉากระทึกขวัญ...เพราะฉันกำลังจะตาย!

     

    Exoเดินไปคุยไปอย่างสนุกสนาน...งือ น่ารักทุกคนเลย ไคกับคยองซูแอบแกล้งกันด้วย โอ้ยแม่จ๋า

     

    ฉันค่อยๆเดินไปสมทบกับพวกเขา...

     

    ขุ่นพระ...เดินไม่ออก...(แต่เดินอยู่นะ) อยากจะตาย...

     

    ทุกคนหันมามองฉันกันเป็นตาเดียว...พี่แคนดี้ค่ะ ช่วยเอากล้องหนักๆนั้นทุบหัวฉันให้แตกตายทีได้มั้ยค่ะ?

     

    แต่สายตาของใครก็ไม่หวั่นไหวเท่าของแบคคยอน...ฉันก้มหน้าก้มตาเดินไปยืนหน้าพวกเขาและหันหลัง...

     

    อีหอยยย!! ต้องเก็บอาการสุดๆอะ!!!!

     

    “เซ็ตวันนี้ขอแบบน่ารักๆ ใสๆเหมือนเด็กมัธยมปลายนะครับ” ผู้กำกับบอกพวกเรา...ฉันตั้งใจฟังเต็มที่ เต็มที่เกินไปมั้งเนี่ย...จะพยายามไม่สนใจหนุ่มหล่อที่ยืนสูงๆต่ำๆข้างหลังนะ...แต่มันก็

     

    อีหอยหลอด!! ต้องเก็บอาการสุดๆ!!!!

     

    ขอบคุณพระเจ้าที่เซ็ตแรกเป็นexoถ่ายรวม...ฉันจึงได้ไปหลบหลังพี่แคนดี้และหายใจหอบเหมือนนังบ้า โอ้ย ไม่ไหววะ ทำแบบนี้นานๆครั้งได้นะแต่อย่าบ่อยเดี๋ยวตายจริงๆ...ตายเพราะสำลักความหล่อ...หล่อมากอ่ะ

     

    ฉันชำเลืองมองผ่านไหล่พี่แคนดี้ไปส่องแบคคยอน...

     

    โอ้ยยย น่าลากกก ชิบหายย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมเห็นเธอมองมาทางผม...ผมทำตัวไม่ถูกจนต้องโดนเซฮุนสะกิดเรียกสติ...เพื่อนๆผมต้องล้อผมอยู่ในใจแน่ๆเลยอะ... ที่ผมนั่งหงอยจนกินไม่ได้นอนไม่หลับไปสองวันเพื่ออะไร!! เธอไม่ได้ไปไหนเลย!!

     

    เธอมองอีกแล้ว! ผมรีบเปลี่ยนท่าเป็นหันข้างแทน...ผมก็มองเธอ...แต่มองแบบเนียนๆนะไม่ได้ทำตัวลับๆล่อเหมือนเธอตอนนี้...

     

    ผมเห็นเธอกอดผู้จัดการหญิงแน่นจนเครื่องสำอางลอก...อุป..ตลกจัง เธอโดนดุใหญ่เลย แล้วพี่ๆช่างแต่งหน้าก็เข้าไปรุมแต่งหน้าให้เธอใหม่...

     

    “น้องจีจี้มาถ่ายเดี่ยวครับ” ผู้กำกับบอก แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปคนละมุม...มีช่างแต่งหน้ามารุมตบแป้งให้ผมอยู่แปปนึงก่อนจะย้ายไปทำให้ดีโอ...

     

    เธอเดินสบายๆตรงไปหน้ากล้อง...

     

    ทำไมเธอดูไม่ตื่นเต้นเลย...ผมเป็นเมนหลักเธอนะ...ผมมองเธออยู่นะ ทำไมไม่เขินละ...

     

    เธอไม่ยืนทื่อนานครับ เมื่ออยู่หน้ากล้องเธอก็โพสท่าน่ารักๆตามสไตล์ที่ผู้กำกับสั่ง

     

    โอะ! ผมต้องรีบเอามือมากุมหน้าอกตัวเองไว้ทันที...ผมลืมตัวครับ นึกได้ก็รีบเอามือลง...ดีที่ไม่มีใครเห็น

     

    บทจะน่ารัก ก็น่ารักชิบหาย...

     

    ผมมองเธอโพสท่าอยู่อย่างนั้น...ไม่ไปไหนเลย ผมยืนมองทั้งหน้าทั้งขาทั้งแขนของเธอ...เธอดูธรรมชาติ ทุกๆอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ...ผมจ้องเธอจนลืมไปเลยว่าผมมาทำอะไรที่นี่

     

    ว่าแต่...ทำไมไม่เขินผมเลยอะ ตอนเธอจ้องผม ผมเขินนะ เขินจนทำอะไรไม่ถูกเลยด้วย...ไม่ยอมอะ

     

    เอะ...หรือเธอไม่เห็นผม?

     

    ผมเดินไปข้างหน้าเล็กน้อย พอให้แสงได้เข้าถึงตัวผมบ้าง เห็นหรือยัง? ผมยืนอยู่? เห็นมั้ย?

     

    ผมดีใจจนลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้ผมพยายามหลบซ่อนจากเธอแทบเป็นแทบตาย...ผมดีใจที่เห็นเธอจนแทบจะกระโดดเข้าไปเสนอตัว...ดีใจจนเผลอยืนแกล้งให้เธอเขิน ณ ตอนนี้

     

    เธอไม่เขินเลยให้ตายสิ...เอาแต่ยิ้มและหัวเราะตามที่ตากล้องสั่ง...ไม่ยอมอะ

     

    ผมลองโบกมือให้เธอไปมาสองรอบเบาๆ...เฮ้ เห็นผมมั้ย?...เห็นมั้ยคร้าบบ?

     

    ผมโบกมือแรงขึ้น...ยังไม่เห็นสินะ...ผมลองโบกรัวๆเหมือนพยายามทักทายและยิ้มน่ารักๆให้เธอ..

     

    เย้!!! เธอหันมาสบตากับผมแล้ว!!! เธอก้มหน้าแล้วยิ้มใหญ่เลย!!! เย้!! เธอเขินผมแล้วว! ผมชนะ!!

     

    “ลู่หานกับจีจี้ถ่ายคู่ครับ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ใจฉันเล่นวูบไปอยู่ที่ไส้ติ่ง....ฉันลืมไปเลยว่าลู่หาน...อยู่ด้วย...ฉันไม่เห็นเขา เพราะมัวแต่พยายามเก็บอาการ ฉันไม่ได้สนใจเขาเพราะมัวแต่เขินแบคคยอน...

     

    ว่าแต่แบคจะจ้องอะไรฉันนักหนา!! โอ้ยย เดี๋ยวก็ฉุดจริงๆหรอก

     

    แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้น ฉันกับลู่หานต้องถ่ายคู่...ภาวนาให้เขาจำฉันไม่ได้...ภาวนาว่าให้เขาลืมฉันไปได้เสียที...นี่มันก็นานมากแล้วนะ น่าจะลืมๆไปได้ละ

     

    ฉันยืนรอให้ลู่หานเดินเข้ามาใกล้ๆ...เขามองและยิ้มให้ฉัน

     

    นี่แหละลู่หานที่ต้องการ!!!! ลู่หานที่เขินนิดๆอายหน่อยๆแบบนี้แหละที่จีจี้ชอบ!!!

     

    ดูเหมือนเขาจำฉันไม่ได้...แน่ละก็ฉันสวยขึ้นนี่นา...(ใครก็ได้ตบมุกให้ฉันที) ลู่หานกับฉันโพสท่ายืนใกล้ๆกัน เอาจริงๆฉันไม่กล้าไปสัมผัสตัวเขาเลย...แฟนคลับอย่างฉันไม่สมควรจะได้แตะต้องตัวเขาด้วยซ้ำ

     

    แต่เขากล้า! โอ้ย พ่อแก้วแม่แก้ว! เขาโอบไหล่ฉันเบาๆและยิ้มให้กล้อง แม่ขา! มีผู้ชายหล่อๆมาแต๊ะอั๋งหนูอะ หนูไม่ยอมนะ จับเขาแต่งงานกับหนูเลย...

     

    “ต่อไปคริสกับจีจี้” ผู้กำกับสั่งต่อ

     

    เขาจะเลือกนายแบบตามใจชอบสินะ...ฉันรู้ฉันไม่ได้ถ่ายกับทุกคนแน่ๆ แต่ว่าฉันจะต้องได้ถ่ายกับแบคคยอนนะผู้กำกับ! ฉันไม่ยอม! ถ้าผู้กำกับให้ฉันถ่ายกับคนอื่นได้ ฉันก็ขอแบคคยอนมาถ่ายกับฉันได้เหมือนกัน!

     

    คริสเดินสบายๆมาทางฉัน ก่อนจะยื่นมือมา...

     

    “หนี่ฮ่าว”

     

    ฉันยื่นมือไปจับเขาและหัวเราะ...โอ้ย ทั้งหล่อทั้งตลก

     

    การถ่ายแบบกับคริสไม่อึดอัดเหมือนลู่หาน เขาเก้ๆกังๆก็จริงแต่หล่อกระชากจิตมาก เพราะงั้นท่าทางแปลกๆของเขาก็ดูไม่สำคัญอีกต่อไปเมื่อหน้าหล่อๆนั่นปราบซะอยู่หมัด...

     

    ฉันชอบคริสแล้วอะ เขาดูเฟรนลี่มากกว่าที่เห็น เขาพยายามเล่นกับฉันเพื่อให้ภาพออกมาดูธรรมชาติที่สุด ฉันอยากเล่นบ้างจัง...แต่ไม่กล้าอะ

     

    “ดีมากคริส ดีมากจีจี้” ตากล้องรัวถ่ายฉันกับเขาอยู่นาน กว่าจะยอมให้เปลี่ยนคู่...

     

    “แบคคยอน เซฮุน เทา เข้าไปถ่ายกับจีจี้ครับ”

     

    กรี๊ดดดดดดด....ด อ่าว....ทำไมแบคทำหน้าหงอยงั้นละ โธ่ๆ หึงที่ฉันเล่นกับคริสมากไปสินะ ไม่งอนน๊าตัวเอง อย่างอนสิ ไม่น่ารักเลย

     

    เซฮุนเดินยิ้มกับเทามาแต่ไกล...พวกเขาสองคนสูงมากเลย แล้วยัยกรกตก็ตัวเล็กดูเข้ากับเซฮุนดีนะ เอ้ย นี่คิดไปไหนน่ะ ฉันต้องสนใจแบคคยอนก่อน

     

    แบคคยอนเดินตรงมาและแอบทำตาขวางใส่ฉันคนเดียว...หือ? เอะ?... โกรธจริงหรอ? อย่าน่ารักได้มั้ย!

     

    “เซ็ตนี้ขอแบบน่ารักๆแต่วุ่นวายนะ” ผู้กำกับสั่งง่ายๆเข้าใจ

     

    ตำแหน่งยืนของพวกเราตอนนี้คือ เทา ฮุน ฉัน  แบคคยอน  

     

    ทันทีที่ผู้กำกับสั่ง เทากับเซฮุนก็หันไปสู้กันน่ารักๆ...ขุ่นพระ ฉันก็ต้องหันไปเล่นกับแบคคยอน อยากจะกระโดดกอดคอเทากับเซฮุน พวกนายเข้าใจหัวอกของฉันจริงๆ...แต่ไม่ทันที่จะได้เล่นกับแบคเขาก็

     

    แลบลิ้นใส่ฉัน...หือ?...ทำไมมันดูสะเทือนไปถึงจิตใจเลยวะ ทำไมมันดูจริงแบบไม่ได้เล่นละ?

     

    เขายิ้มเมื่อเห็นฉันอึ้ง ก่อนจะชี้มาที่หน้าฉันพร้อมทำหน้าโกรธๆเหมือนฉันไปแอบกินเค้กของเขามา...

     

    ฉันอ้าปากกำลังจะงับนิ้วเขา แต่เขารีบฉุดมือตัวเองกลับไปพร้อมทำหน้าสะพรึง

     

    เสียงหัวเราะลั่นมาจากexoจนฉันต้องหันไปมอง...

     

    เฮ้ย! พวกเขากำลังพวกหัวเราะฉันกับแบคคยอน...ไม่นะไม่ อย่านะอย่า

     

    เขินแล้วเนี่ย!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากที่พวกเราถ่ายเสร็จแล้ว เธอก็เดินอายๆพร้อมกับสมุดและปากกามาหาผม...

     

    ผมยิ้มหล่อๆให้เธอไป ไม่รู้ความกล้ามันผุดมาจากไหน แต่วันนี้ผมกล้ามากจริงๆอะ อาจจะยังดีใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ได้มั้ง...

     

    เธอยื่นสมุดและปากกามาให้ผม ผมรับมาแล้วมองหน้าเธอก่อนจะพูด...

     

    “อะไรครับ? ให้ผมทำนายดวงตามวันเกิดหรอ?”

     

    เธอหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าเขินๆ “เปล่าค่ะ ฉันเอามาให้ทดเลข”

     

    ผมเผลอหัวเราะเสียงดังจนลืมตัว “ผมเรียนจบไปนานแล้วนะครับ เป็นแฟนคลับผมไม่รู้ได้ยังไง”

     

    “นั่นแหละ ถึงต้องบริหารสมองบ้างไงค่ะ”

     

    ผมหัวเราะดังกว่าเดิมอีก โอ้ย น่ารักจัง “โอเคๆ ผมเซ็นให้ก็ได้ ยอมแล้ว...เอ๊ะ” ผมหยุดปากกาทันก่อนจะเซ็นจบ... “ทำท่าน่ารักๆให้ผมดูก่อน”

     

    เห็นชัดๆเลยว่าผมกำลังจีบเธอ...แต่เธอจะรู้ตัวมั้ยนั่นก็อีกเรื่องนึง...ชานยอลที่นั่งใกล้ๆผมหันหลังและก้มตัวหัวเราะแบบไร้เสียง... ผมไม่เคยจีบใครนี่นา...มันแปลกหรอไง?

     

    “ถ้าจะให้ฉันทำ” เธอมองผมอายๆ “แบคคยอน...เอ่อ..อปป้าต้องทำให้ฉันดูก่อน”

     

    เหมือนเธอไม่อยากเรียกผมว่าอปป้าเลยแฮะ...แต่ผมไม่ได้ใส่ใจหรอก เธอจะเรียกผมแบคคยอนเฉยๆก็ได้ เราอายุห่างกันปีเดียวเอง ว่าแต่...

     

    “อะไรนะครับ?”

     

    “ถ้าอยากให้ฉันทำท่าน่ารักให้ดู ต้องทำให้ฉันดูก่อน”

     

    เธอส่งยิ้มกวนมาให้ผม...

     

    ผมรู้ใจตัวเองแล้ว ผมรู้แล้ว..

     

    ตลอดเวลาที่ผ่านมา...ตลอดเวลาที่ผมพยายามซ่อนเธอแทบตายนั่นเพราะอะไร...

     

    ผมชอบเธอจริงๆด้วย...

     

    แต่คิดว่าผมกล้าทำท่าน่ารักๆใส่เธอมั้ย?

     

    “ปู๊อิ้งๆๆ” ผมทำครับ ทำให้ดูทันทีเลยด้วย ดีโอที่กำลังดื่มน้ำอยู่หันมาเห็นพอดี มันจึงพ่นน้ำใส่หน้าจงอินที่เดินผ่านแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่....

     

    “น่ารักอะ!!” จู่ๆเธอก็ร้องกรี๊ดจนเพื่อนๆหันมาจ้องกันพักนึง...เอ่อ...ผมก็อายเป็นนะ

     

    “ตาเธอแล้ว” ผมย้อนกลับไปพร้อมจ้องหน้าเธอ...

     

    “ปู๊อิ้งๆๆ”

     

    โอ้ยยยยย น่ารัก ชิบหายยยยยย

     

    ผมลืมตัวจนกุมหน้าอกตัวเองอีกแล้ว! “เอ่อ...น่ารักมากเลยครับ ผมจะเซ็นให้นะ” ผมรีบแก้ต่างไปว่ากำลังบริหารมือเพื่อจะเซ็นลงสมุดเธอแทน...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เวลา22.00ที่ไทย

     

    ฉันกรกตค่ะ ที่เกาหลีน่าจะเที่ยงคืนแล้วแต่ยัยนั่นยังส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวใส่โทรศัพท์ ไม่เกรงใจเมทบ้างหรือยังไง? ยัยนั่นคือจีจี้ค่ะ มันโทรมาเล่าว่ามันโดนแบคคยอนหึงหวงมันแค่ไหน...ฉันเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง เพราะแรงมโนนังนี่มันเยอะ...

     

    “แบคชอบกู!!!” มันตะคอกใส่โทรศัพท์ เหมือนที่เซฮุนบอก...

     

    “มึงมั่นใจแน่นะ...”

     

    “มั่นใจล้านเปอร์เซ็นเลยค่ะ! สายตาที่เขามองมาให้ฉันมันไม่เหมือนที่ไอดอลมองแฟนคลับแน่ๆอ่ะ ไม่ใช่แน่ๆอ่ะมึงกูสัมผัสได้ กูไม่สนหรอกว่าเขาจะชอบกูเพราะอะไร เพราะกูสวยหรือเพราะกูแรดก็แล้วแต่ แต่กูจะรุกใส่แบคแล้ว อีหอยยยย”

     

    “ใจเย็นๆ อย่าฉุดเข้าห้องน้ำนะ”

     

    “นั่นแหละแผนที่กูกำลังคิด! มึงว่าฉุดเข้าห้องน้ำหญิงหรือชายดี? โอ้ย อกอีแป้นจะแตก โดนเมนตัวเองหลงรักเข้าให้! มึงคิดว่าในโลกนี้จะมีใครโชคดีเท่ากูอีกมั้ยวะ? โอ้ยย กูอยู่ยังไงเขาถึงชอบกูวะ!! ทำไมกูสวยและโชคดีแบบนี้!!

     

    “อืม...”

     

    “มึงกูจะรุกใส่แบคเต็มที่อ่ะ กูจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือกูไป กูจะเป็นแฟนกับเขา กูจะเป็นภรรยาเขา กูจะเป็นแม่ของลูกของเขา”

     

    “มึงใจเย็นนะ...”

     

    “ไม่มึงเอ๋ย! กูเอาจริง พรุ่งนี้กูจะเดินไปอ่อยเขาหน้าห้องซ้อมเลย! กูจะสำออยไม่สบายให้เขาเป็นห่วง กูจะบอกว่ากูเหนื่อย กูจะบอกว่ากูอ่อนแอ กรี๊ดดด แทบทนไม่ไหวแล้ว อยากฉุด!

     

    “สงบสติหน่อยค่ะอีหอย”

     

    “ไม่มึง...กูต้องทำให้ได้...กูต้องชนะใจเขาให้ได้”

     

    ติ๊ด-

     

    มันกดวางสายไปทันทีที่สิ้นเสียง...ไม่คิดจะลากูหน่อยหรอไงวะ กลัวมันฉุดแบคคยอนจริงๆนะ แต่...แบคก็คงไม่ถึงขั้นปวกเปียกจนโดนยัยนี่หลอกเอาง่ายๆหรอกหน่า...

     

    ไลน์เซฮุนเด้งมาเหมือนรู้ว่าฉันเพิ่งคุยเสร็จ...

     

     

    พี่ทำอะไรอยู่?

    ผมมีความสุขจังเลย

    พี่แบคคยอนบอกว่าพี่เขาชอบพี่จีจี้แล้ว

    พี่แบคบอกว่าอาจจะลองจีบเธอดู

    พี่แบคบอกว่าเธอดูเป็นตัวของตัวเองดี...

     

     

    เฮ้ย! ต่างฝ่ายต่างจะรุกใส่กันแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นวะ!! แต่ดูท่ายัยจีจี้จะรุกหนักกว่า แบคคยอนระวังตัวนะลูกนะ...

     

     

    อื้อ!...ดีแล้วๆ 55555

    พี่กำลังยืนมองดาวอยู่นอกระเบียงน่ะ

    เซฮุนละทำอะไร?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมรีบถลาออกจากเตียงไปดูดาวบ้าง...

     

     

    พี่ดูดวงไหนอยู่อะ ผมก็ดูอยู่เหมือนกัน

     

     

    ไม่รู้สิ มันเหมือนๆกันหมดอะ 5555

     

     

    มองดวงจันทร์สิครับ

     

     

    อื้อ มองอยู่ทำไมหรอ

     

     

    จะได้มองเหมือนผมไง

     

     

    5555

     

     

    พี่เห็นผมโบกมือผ่านดวงจันทร์มั้ย!

     

     

    เห็นๆ หน้าง่วงมากเลยอะ ไปนอนไป! 5555

     

     

    ง่า ยังไม่อยากนอนเลย

     

     

    ทำไมไม่นอน!

     

     

    ก็ผมคิดถึงพี่อะ....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×