คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 13 แม่มดปีศาจ
“นี่มันอะไร” คริสเดินไปเดินมาทั่วห้อง ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เขา “แสดงว่าพ่อฉันคือพ่อมดคนแรกที่จอมเวทย์สร้างขึ้นมา และเขาก็กำลังปลุกอัศวินให้ตื่นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับแม่มดปีศาจ...และปัญหาสำคัญคือไอพ่อคนดีของฉันตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน!”
ตอนนี้พวกเขาเลิกติดต่อกับชายชราแล้ว กำลังวางแผนหาทางไปพบพ่อของคริสเพื่อขอความช่วยเหลือแทน ยังไงๆพวกเขาก็ไม่มีทางเลือก ซิ่วหมินก็ออกจากบ้านนี้ไม่ได้ด้วย เพราะถ้าเขาไป...
“ฉันจะไป” จู่ๆซิ่วหมินก็เปลี่ยนใจและตอบด้วยเสียงหนักแน่น “ฉันจะไปช่วยถอนคำสาปให้เพื่อนของนาย...ฉันคิดว่าถึงเวลาสมควรแล้ว ที่ฉันต้องเลิกหนีและสู้ซะที”
คริสมองซิ่วหมินอยู่พักนึงก่อนจะรีบตัดสินใจพูดไป
“ถ้างั้นเราไปกันเลย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด” เขาหันไปถามเซมี “เธอโอเคหรือเปล่า หรือมีวิธีที่ดีกว่านี้”
“ไม่มีค่ะ” ต้องยอมรับว่าแผนการที่วางไว้ค่อนข้างจะไม่ดีอยู่แล้วพอมาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้แผนคงใช้ไม่ได้ ต้องหลับตาเดินหน้าอย่างเดียว
“โอเค งั้นเราไปกันเถอะ นายนำทางไปสิ” คริสบอกซิ่วหมิน แต่ซิ่วหมินหายไปในห้องเก็บของและโผล่มาพร้อมไม้กวาดสามด้าม เขาโยนให้ชานยอล กับ คริส แล้วอธิบาย
“ไปกับนี่ง่ายกว่า ไม่หลงแน่ ขี่ไปไม้ละสองคนนะ ส่วนเธอ” เขาหันไปเรียกเซมี “มากับฉัน”
ก่อนที่พวกเขาจะออกจากห้องไปคริสแอบบ่นกับตัวเอง
“รู้ละว่าทำไมยัยแม่มดนั่นถึงไม่อยากให้ซูโฮไปส่ง”
เซมีเดินอ้อมไปตามหลังซิ่วหมินออกไปข้างนอกบ้าน แบคขี่กับชานยอล ดีโอขี่กับคริส เมื่อทุกคนขี่ไม้กวาดเสร็จแล้ว ซิ่วหมินก็อธิบายอีกที
“ถีบมันขึ้นไปแล้วมันจะลอยเอง ส่วนเรื่องทางฉันจะบังคับให้มันตามฉันมาเอง พวกนายไม่ต้องทำอะไร แค่ถีบในตอนแรกก็พอ แล้วก็..เซมี เธอจับฉันแน่นๆ เราจะบินเร็วกันพอสมควร”
แล้วพวกเขาก็ทำตามที่ซิ่วหมินบอก คริสถีบไม้กวาดและมันก็พุ่งขึ้นไปในอากาศลอยเหนือเมฆทันที ไม่นาชานยอลก็ตามมา และต่อด้วยซิ่วหมินที่มีเซมีเกาะหลังเขาแน่น นี่มันยิ่งกว่าที่เลย์พาเธอบินอีก
“จับไม้กวาดแน่นๆ!” ซิ่วหมินตะโกนบอกทุกคน “พร้อมนะ!”
ไม้กวาดเขากระตุกเล็กน้อยก่อนจะพุ่งปรี๊ดเหมือนจรวดตรงไปข้างหน้าเซมีตกใจกับความเร็วจนเผลอร้องกรี๊ดออกมายาวๆ ไม้กวาดสองอันที่เหลือก็ความเร็วพอๆกันตามหลังซิ่วหมินมาติดๆ เซมีเห็นแบคคยอนกอดหลังชานยอลแนบติดกันจนแทบจะเป็นหนึ่งเดียว ส่วนดีโอกับคริสหมอบลงต่ำแทบจะราบไปกับไม้กวาด มันเร็วมากจริงๆ แต่ซิ่วหมินที่อยู่หน้าเซมีเขากลับเฉยและนิ่งมากใบหน้าไม่ได้แสดง
อารมณ์ไดๆออกมา และเขายังทำท่าเหมือนจะเพิ่มความเร็วขึ้นอีกด้วย แต่พอเห็นเซมีดึงเสื้อเขาบอกอย่าทำ เขาเลยใช้ความเร็วเท่าเดิม
พวกเขาบินอยู่แบบนั้นอยู่ถึงสี่ชั่วโมงก่อนจะลงจอดตรงดาดฟ้าของโรงพยาบาลที่ซูโฮรักษาตัวอยู่ พวกเขาไม่รอช้ารีบดิ่งลงบันไดไปหาซูโฮทันที แต่พอเปิดประตูห้องเข้าไปปรากฏว่าเจอ เซฮุน เทา ไค เลย์ ลู่หาน และ เฉิน มาก่อนแล้ว แต่ซูโฮหลับสนิท เซมีหันไปทำหน้าดุใส่ไคจนเขาต้องหลบตา คริสเดือดทันที
“ฉันบอกให้พวกนายอยู่ที่ปราสาท!” เขาตะคอกใส่ทุกคน “พวกนายฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอไง!”
“แต่ว่า!” เทาแย้งขึ้นมา คริสหันไปมองเขาเขม็ง “แต่ว่า! เซฮุนเห็นว่าแม่มดนั่นจะกลับมาที่นี่!!”
“อะไรนะ!” คริสตะเบ็งเสียง จนซูโฮตื่นขึ้นมามองพวกเขางงๆ
และจากที่สีหน้างงๆกลายเป็นตกใจสุดขีดเมื่อเห็นร่างของแม่มดปรากฏกายขึ้นมาจากกลุ่มควันดำๆ เธอสวมชุดแม่มดเต็มยศริมฝีปากดำสนิท สายตาอันน่าสะพรึงกลัว เธอหัวเราะเสียงแหลม ทุกคนถอยกรูดติดกับกำแพง เซมีกระโดดขึ้นเตียงไปอยู่กับซูโฮ ชานยอลและเฉินยกมือขึ้นมาบังพวกเขาสองคนไว้
“ต้องขอขอบใจ...” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ที่พาลูกชายคนโตของฉันได้ทันก่อนเวลา...” เธอหันไปมอง
ซิ่วหมิน จนซิ่วหมินขนลุกเกรียว “โอะโอ” เธอสังเกตเห็นรอยสักคล้ายงูเลื้อยที่ตัวของซิ่วหมิน “นั่นคงจะเป็นคำสาปของฉันสินะ...เกือบจะกลืนกินไปทั้งตัวแล้วนะลูก ทีหลังอย่าหนีไปแบบนี้สิ” เธอขยับขาก้าวเข้ามาใกล้ซิ่วหมิน แต่จู่ๆ ร่างของเธอก็ลอยละลิ่วเหมือนโดนอะไรที่มองไม่เห็นฟาดเข้าไปเต็มๆ ร่างลอยไปเกือบจะชนกับผนังแต่เธอไหวตัวทันจึงใช้มนต์หยุดร่างตัวเองไว้แล้วปล่อยลงพื้นอย่างสง่างาม สีหน้าเธอดูปกติถึงจะเห็นได้ลางๆว่าช็อคกับเหตุการณ์เหมือนกัน
ทุกคนรู้โดยไม่ต้องหันไปมองเลยว่าใครเป็นทำ...ดีโอจ้องเธอเขม็งอย่างไม่วางตา
“โอะโอ” เธอกล่าว “สงสัยฉันจะเจอกับศึกหนักแล้วละสิ” ว่าเสร็จเธอร่ายมนต์เกิดควันดำลอยขึ้นมาจากพื้นจากนั้นก็กลายร่างเป็นงูใหญ่สองตัวขึ้นมา แต่ก่อนที่เธอจะสั่งให้งูโจมตีพวกเขา เธอชี้นิ้วไปที่
ดีโออย่างโกรธเกรี้ยวทันไดนั่นเองช่วงเวลาเสี้ยววินาทีไม่ทันที่ทุกคนจะกระชากดีโอให้หลบ เขาก็โดนลำแสงสีเขียววาบเข้าใส่ตรงหน้าผากพอดิบพอดี ร่างของดีโอหล่นหวืดไปอยู่ในอ้อมแขนของไคที่รองรับอยู่ข้างหลัง เซมีแผดเสียงลั่น แม่มดสั่งให้งูสองตัวจู่โจมในขณะเดียวกันที่ชานยอลกลายร่างแยกเขี้ยวแหลมๆออกมาและพุ่งเข้าใส่งูตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด เทาซึ่งไวกว่าวิ่งตรงไปยังงูตัวที่ไกลออกไปอ้อมไปด้านหลังของหัวมันและจัดการบีบหักด้วยพละกำลังที่มี แม่มดตกใจกับร่างของชานยอลที่พุ่งเข้ามาและตะลึงกับแรงอันมหาศาลของเทาจนเผลอก้าวไปข้างหลัง แต่นางไม่รอช้าที่จะชี้นิ้วไปยังคนต่อไปนั่นก็คือไค! เซมีกระโจนลุกจากเตียงแต่ช้าไปแสงสีเขียววาบผ่านนิ้วแม่มดตรงตรงไปหน้าที่หน้าผากไคที่กำลังประคองร่างดีโอและนั่นก็ยังช้าไปเลย์ที่เร็วกว่าพุ่งทะยานคว้าตัวไคและบินโฉบหลบไปอีกฝั่งทันที่แสงสีเขียวจะกระทบร่างของไค แม่มดตกใจอีกครั้งเมื่อเธอเห็นเลย์บินได้ แต่สัญชาตญาณสังการให้เธอชี้ติวจ่อไปที่เลย์ต่อทันที เลย์บินโฉบอย่างรวดเร็ว เขาหลบแสงสีเขียวนั่นได้อีกครั้ง แม่มดกำลังจะชี้เป็นครั้งที่สาม แต่จู่ๆ
“อะไรกัน!” เธอตกใจเพราะจู่ๆเหมือนมีใครมายื้อแขนเธอไว้จากข้างหลัง เมื่อเธอหันไปมอง...ก็ไม่เห็นใคร “นี่มันอะไร!!” เมื่อร่างโดนตรึงจากอะไรบางอยู่นั้น ซิ่วหมินก็ได้โอกาส เขาหยิบขวดใสเล็กๆที่บรรจุของเหลวสีขาวใสข้างในเปิดจุกออกและสาดเข้าไปที่ตัวแม่มดทันที เธอกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด และร่างเธอก็ค่อยๆขดงอมีกลิ่นไหม้ๆลอยมาเตะจมูกทุกคน ร่างที่โดนขึงไว้ก็ถูกปล่อยออก และคนที่ขึงเธอไว้คือเฉินนั่นเอง เขาล่องหนและแอบเดินไปข้างหลังแม่มดเงียบๆ ตอนนี้เฉินกำลังสะพรึงกับร่างแม่มดตรงหน้า เธอขดงอและผิวที่เคยสาวก็ค่อยๆเหยี่ยวลงอย่างรวดเร็ว ใบหน้าบิดเบี้ยวรอยย่นผุดขึ้นเต็มใบหน้า หญิงสาวกลับกลายเป็นหญิงแก่ในบันดล เฉินรีบวิ่งกลับไปสมทบกับเพื่อน ร่างหมาป่าหมอบอยู่ใกล้ๆเซมี กำลังขู่คำรามใส่ร่างของหญิงแก่น่าเกลียด เทาที่กำลังหอบหนักก็จ้องร่างน่าเกลียดนั่นไม่วางตาเช่นกัน
“ฉันสาดยาเผยธาตุแท้ออกไป และนี่คือร่างที่แท้จริงของยัยแม่มด!” ซิ่วหมินตะโกนก้อง ทุกคนกลั้นหายใจ...
ร่างนั้นสั่นเทาแต่ก็มีแรงจะลุกขึ้นยืนแสยะยิ้มเห็นฟันเหลืองๆน่าเกลียดนั่นมา หญิงแก่ค่อยยื่นนิ้วขึ้นมาชี้ไปที่ซิ่วหมิน ลู่หานรีบกระชากซิ่วหมินกลับไปแต่ซิ่วหมินบอกไม่เป็นไร แม่มดไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เพราะเขามีสายเลือดของมันอยู่ หญิงแก่แสยะยิ้มให้ซิ่วหมิน...ก่อนร่างจะสั่นเทาและค่อยๆสลายกลายเป็นผงกองอยู่ที่พื้น
ใช่แล้ว...วันนี้เองที่เวลาของแม่มดได้หมดลง...
หัวใจของซิ่วหมินเต้นแรงทันที เส้นเลือดไหลเวียนเร็วกว่าปกติ เลือดดำกำลังกลับออกสู่หัวใจไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ตัวซิ่วหมินสั่นแรงจนเหมือนชัก เขาล้มลงไปนอนดื้นบนพื้น แบคคยอนรีบเข้าไปดูอาการ และสิ่งที่เขาทำ เบิกตาของซิ่วหมินและจ้องเข้าไป...เขากำลังจะย้อนดูอดีตของพี่ชายตัวเอง
“ได้โปรด...ให้ผมรู้ว่าต้องทำยังไง” แบคคยอนพูดกับตัวเอง
แต่ซิ่วหมินชักกระตุกอย่างรุนแรงจนแบคคยอนไม่สามารถตั้งสมาธิได้ รอยสักตามตัวของเขาลามไปตัวจนตัวเขาดำสนิทเหลือแค่ตาเท่านั้นที่ขาวโพลน ไม่นานเขาก็หยุด...และผิวเริ่มแตกระแห้งกลายเป็นควันสีดำทมิฬ...
ทุกคนถอยกรูดออกห่างจากซิ่วหมินเพราะสัมผัสได้ถึงอันตราย...ไคยังคงอุ้มร่างของดีโอไว้
“เราต้องรีบออกไปจากที่นี่” คริสพูด “ให้เร็วที่สุด! เร็ว!”
ทุกคนต่างแตกตื่นและกุลีกุจอหาประตูทางออกจนกระทั่ง
“ทำแบบนั้นทำไม” เสียงนุ่มนวลของชายคนนึงดังมาจากหน้าต่าง ทุกคนหันไปมอง เขากำลังลอยตัวอยู่บนไม้กวาดสายตาดูเคร่งเครียด จากนั้นก็โดดเข้ามาในห้อง “ทำไมแกไม่เรียกฉันให้มาเร็วๆ”
“ผมหรอ?” คริสชี้นิ้วไปที่ตัวเอง
“เออ ใครอีกละ” เขาตอบฉุนๆพลางก้มมองดีโอที่อยู่ในอ้อมแขนไค “เด็กคนนี้แย่ละ เราต้องรีบหน่อย”
“ผมจะเรียกพ่อวิธีไหนละ!” คริสพูดกับชายคนนั้น “เมื่อกี้ผมเรียกหรอ?”
“ช่างหัวมันก่อน” ชายคนนั้นปัดออกไป “เอาละอัศวินทุกคน มารวมตัวกันที่นี่”
เขาสั่งให้ทุกๆคนเดินไปที่กว้างๆตรงกลางห้องก่อนจะจัดการลากที่กำลังกลายเป็นควันของซิ่วหมินไปตรงกลาง
“ล้อมเขาไว้” ชายคนนั้นพูดต่อ “เร็วๆสิ! เดี๋ยวก็ไม่ทันพอดี!”
ทุกคนรีบเดินไปหาเขาและล้อมซิ่วหมินเป็นวงกลม ลู่หานและเทาช่วยพยุงซูโฮให้เดินไปข้างหน้า ส่วนชานยอลในร่างหมาป่าไม่ห่างจากเซมีเลย
“จับมือกัน” ชายคนนั้นบอก และทุกคนก็ทำตามอย่างว่างาย ชานยอลยืนสองขาเพื่อจะได้จับมือกับเพื่อนได้ ส่วนดีโอโดนตรึงทำให้ลอยกางแขนอย่างน่าสงสารโดยชายคนนั้น จากนั้นเขาก็กล่าว “เอาละทุกคน พูดตามฉันนะ” และชายคนนั้นก็ท่องอะไรไม่รู้ที่ไม่ใช่ภาษาคน แต่พวกเขาทุกคนก็พูดตาม เกิดแสงสีขาวส่องไปรอบตัวพวกเขา มองจากข้างนอกอาจจะเห็นเป็นแสงสีขาวดวงใหญ่ล้อมรอบร่างดำสนิทของซิ่วหมินที่กำลังกลายเป็นควัน พวกเขาต่างคนต่างก็ดูตกใจกันทั้งนั้น แต่ก็ยังทำตามที่ชายคนนั้นสั่ง
“ไคเดินมาข้างหน้า” จู่ๆเขาก็เรียกไคที่ไม่ได้มีพลังอะไรกับเขาเลย แต่เขาก็เดินงงๆตรงไปในวง “ใช่แบบนั้นละ จากนั้นก็...เอ่อ...จุมพิตซิ่วหมินซะ อย่ามาทำหน้าแบบนั้นใส่ฉัน เร็วๆเข้า!”
ทุกคนจ้องไปที่ร่างของไค เขาค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบซิ่วหมินอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็คลายออกอย่างรวดเร็ว
“ดีมาก นั่นละ” ชายคนนั้นท่าทางพอใจ “เสร็จแล้วละ”
แสงสีขาวค่อยๆจางหายไปจนกลับมาเป็นสภาพปกติ ร่างที่นอนแน่นิ่งของซิ่วหมินค่อยๆกลับสภาพมาเป็นปกติ แถมรอยสักรอบตัวเขาก็หายไปหมด เผยให้เห็นใบน้าที่น่ารักเหมือนเด็กนอนหลับไหล ทุกคนงุนงงแต่ไม่มีคำถาม ชายคนนั้นตรงไปหาดีโอและร่ายมนต์ใส่เขา “เสร็จ ปลอดภัยแล้ว” เขาพูดและยืนขึ้นมองรอบๆ เมื่อเห็นส้มที่วางอยู่ข้างๆเตียงคนป่วยเขาก็เดินตรงไปหยิบมันมากินทันที
“พ่อ!” คริสที่ทนความงงไม่ไหว “พ่อนี่มันบ้าอะไร”
“แอ๊บ(แปป)” เขากลืนส้มลงคอ “ฉันคือพ่อมดเมอร์ลินนะทุกคน” และแกะผลต่อไป “ฉันเป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่มานานกว่าสี่ร้อยปี” เขาเอาส้มเข้าปากและเคี้ยว ทุกคนรอให้เขากินเสร็จ “อ่า...” เขากลืนส้มลงคอและแกะลูกที่สาม “จอมเวทย์เป็นคนให้พลังทั้ง12อย่างนี้กับฉัน และบอกให้ฉันใช้เมื่อยามที่เห็นว่าต้องใช้จริงๆ” เขาทำท่าเหมือนจะกินส้มลูกที่สามเข้าไปแต่คริสมาคว้ามันไว้และโยนออกไปนอกหน้าต่างอย่างหงุดหงิด เมอร์ลินเหล่ใส่คริสแวบนึงก่อนจะหันมาพูดต่อ “เอ่อ...ถึงไหนแล้วนะ แม่มดชั่วร้าย...เอ่อใช่ แม่มดชั่วร้ายคนนี้สติเฟื่องที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา แม่มดจะสืบสายเลือดได้เฉพาะแม่มดเท่านั้น พ่อมดไม่สามารถสืบทอดสายเลือดได้ ดังนั้นเมื่อแม่มดคนนี้ตายไปแน่นอนว่าซิ่วหมินจะไม่ได้กลายเป็นแม่มดปีศาจคนต่อไปเพราะเขาไม่ใช่ผู้หญิง...” เขาหยุดพูดก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ “ตาแก่จอมเวทย์นั่นก็เสียสติ แทนที่จะสร้างอัศวินมาต่อกรกับแม่มด ดันสร้างอัศวินมาเพื่อปกป้องพ่อมดแทน แม่มดรุ่นก่อนฉันจัดการถอนคำสาปและฆ่าตายไปหมดทุกตัวเรียบร้อย แต่พวกมันฉลาดมากที่ปล่อยสายเลือดชั่วๆนั่นเกิดต่อได้ถึงห้ารุ่นด้วยกัน ฉันเหนื่อยจะตามเก็บจริงๆนะให้ตายสิ แต่ยังไงเรื่องวุ่นๆมันก็จบลงแล้วละทุกคน ฉันต้องขอโทษจริงๆที่มาช้าไป อ้อ นาย” เขาหันไปมองซูโอที่อ่อนแรง “มาๆ เดี๋ยวฉันถอนคำสาปให้ อ้อ ความจริง ไค ก็รักษานายได้นะ แต่ต้องจูบก่อน...” เขาส่ายหน้าอีกครั้ง “เป็นความผิดของยัยแม่มดนั่นแท้ๆ” แล้วเขาก็ลงมือร่ายมนต์ใส่ซูโฮ
“เอาละ กลับบ้านกัน พวกนายมีบ้านหรือเปล่า?” เขายืนขึ้นพูดกับทุกคนๆ “ฉันหิวมาก เพิ่งเดินทางมาจากดาวปิกรู เอ้อ เลย์” เขาหันมามองเลย์เมื่อนึกออก “ต้องขอบใจนายจริงๆที่อุตส่ามาถึงที่นี่” เขาหันไปบอกทุกคน “ฉันเผลอไปทำพลังที่11หกใส่เขาในช่วงพักร้อนที่เนเวอร์แลนด์ นายรู้ใช่มั้ยว่าคืออะไร?” เขาหันไปถามเลย์
“เอ่อ...” เลย์ลังเลเล็กน้อย “พลัง...เอ่อ...”
“พลังแห่งความโชคดีไง” เมอร์ลินตอบให้ “นายน่ะโชคดีที่สุดในจักรวาลเลยนะ”
“พ่อ” คริสเรียก “แล้วผมละ พ่อให้พลังผมตอนไหน”
“อ้อ” เมอร์ลินยิ้มแป้นให้ลูกชายและยังหันไปยิ้มให้ซูโฮ “พวกนายคงจำไม่ได้หรอก ฉันแอบใส่ในขวดนมน่ะ อย่าได้บอกแม่เชียวเดี๋ยวจะผุดมาเกิด ฉันซวยแน่”
“เอาละ ฉันมีเรื่องต้องพูดอีกซักหน่อย” เขายังจะพล่ามต่อ “ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ทำให้ชีวิตพวกเธอวุ่นวายแบบนี้...มันเป็นเพราะฉันคนเดียวเลยละ เธอจะโกรธจะเกลียดฉันยังไงก็ได้นะ เชิญตามสบายเลย แต่ก่อนอื่นช่วยหาอะไรให้ฉันกินก่อนนะ ขอร้องละ จากนั้นจะรุมกระทืบให้ตายเลยก็ยอม”
ความคิดเห็น