ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC Exo x You) Kill me มายเฟรน! (Sehun,Kris,Chanyeol)

    ลำดับตอนที่ #13 : สวยกว่ามาก

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 57



    themy  butter

     

     




     

    นี่ฉันมาอยู่เกาหลีเกือบเดือนแล้วนะ!! ที่สำคัญอยู่ตึกSMด้วย!! ทำไมฉันไม่เจอแบคคยอน! ทำไมฉันไม่เจอ! ตอบ! คนอ่านตอบ! เดือดมาก! ดับไฟที! ดับเดี๋ยวนี้!!

     

    “จีจีเป็นอะไรไป...” มินจองผู้แสนบอบบางค่อยๆพูดอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นฉันทำเสียงฟึดฟัดและควันออกหู...

     

    ก็มันน่าหงุดหงิดมั้ยละ! จุดประสงค์จริงๆของฉันที่มาเกาหลี...ไม่ใช่สิ ที่มาเป็นนักแสดงฝึกหัดที่นี่ก็เพราะแบคคยอนจริงๆนะ! ฉันไม่ได้อยากจะมาถ่ายแบบ ถ่ายหนัง เล่นละคร หรืออะไรเลยนะ! มาเพื่อแบคคยอนคนเดียว หนึ่งเดียวเท่านั้น...แต่ทำไมสวรรค์ลงโทษฉันนานจังเลยละ...ถึงฉันจะทำเรื่องร้ายๆมาเยอะแต่ขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวได้มั้ย...ได้มั้ยค่ะ? ขอแค่แบคคยอนคนเดียว...นะค่ะสวรรค์ขา...

     

    “จีจี...เป็นอะไรอีกแล้ว” มินจองดูท่าทางกลัวฉันแล้วละ เพราะอยู่ๆฉันก็ลงไปอ้อนวอนกับพื้นพร้อมทำหน้าตาน่าสงสาร...

     

    ฉันเป็นบ้าไปแล้ว...ถ้าไม่ได้เจอเขา...ฉันต้องฆ่าตัวเองแล้วละ

     

    “เอ่า จีจีกับมินจองอยู่นี่เองหรอจ๊ะ” พี่แคนดี้เดินมาสมทบกับพวกเรา “กำลังจะไปไหนหรือเปล่า?”

     

    “ไม่ค่ะ วันนี้เรามีเทสหน้ากล้องตอนบ่ายสาม ตอนนี้...เพิ่งจะเลยเที่ยงนิดๆเอง” มินจองตอบไป ในขณะที่ฉันยังคงอ้อนวอนต่อพระเจ้าต่อไป...พี่แคนดี้ชินกับพฤติกรรมแปลกๆของฉันไปแล้วละ...

     

    “งั้นดีเลยจ๊ะ เราไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า”

     

    ฉันลุกขึ้นยืนพรึบทันที ไอเรื่องสนุกๆของพี่แคนดี้...ไม่เคยใช่การสนุกสไตล์ฉันเลย...คราวก่อนบอกสนุกมากพร้อมทำเสียงตื่นเต้น สุดท้ายก็ไปนั่งดูช่างแต่งหน้าโชว์ฝีมือ...มันก็สนุกแต่ฉันนั่งเฉยๆอ่ะ ก็เลยรู้สึกไม่อิน...

     

    ครั้งนี้นางบอกสนุก...สนุกเฉยๆ...เพราะงั้นอาจจะแย่กว่าเรื่องช่างแต่งหน้า...

     

    “เราจะไปฝั่งศลป.และฝึกร้องเพลงที่นั่นกัน ดีมั้ยจ๊ะ” เธอยิ้มแป้นมาทางฉัน...

     

    ฉันรักพี่แคนดี้มากค่ะ รักมากเธอใจดี ยิ้มสวย น่ารัก ใจดี น่ารัก ใจดีและน่ารัก...ฮือ

     

    ฉันกระโดดกอดพี่แคนดี้แน่น สวรรค์ได้ยินเสียงฉันแล้ว! สวรรค์กำลังประทานรางวัลให้ฉันแล้ว!

     

    แต่เมื่อฉันไปถึงห้องซ้อมร้องเพลงฝั่งนั้น...ฉันก็เสียใจมากค่ะ ทำไมสวรรค์ถึงแกล้งฉันอีกละค่ะ... หลังจากเที่ยงเป็นต้นไปexoจะซ้อมเต้น...และไม่ได้มาเดินแถวนี้แน่ๆ ทำไมฉันถึงรู้ค่ะ? อย่าลืมสิค่ะ กรกตฉันยังติดต่อกับมันนะ ฆ่ากันทุกวันเลยด้วย ฉันเองแหละที่ฆ่ามัน

     

    เรื่องที่ฉันตะโกนบอกว่ามันคิดถึงเซฮุนวันนั้น...ฉันไม่ได้บอกมันแต่บอกขนมไทยแล้ว ไม่อยากอวยมัน...เอาจริงๆฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคิดกับเซฮุนแบบไหนกันแน่...ฉันเลยไม่กล้าแซว

     

    แต่ฉันว่ามันชอบแหละ ไม่งั้นไม่คุยไลน์กันทุกวันหรอก...เอ๊ะ มันก็คุยไลน์กับฉันทุกวันนี่นา...เออช่างเรื่องมันก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้เรื่องของฉันสำคัญกว่า

     

    แบคคยอนของฉัน...พลาดกันอีกแล้วสินะ สวรรค์ช่างใจร้ายยิ่งนัก...แต่ฉันไม่เกลียดท่านนะค่ะ เพราะยังไงๆสุดท้ายแล้วท่านก็ต้องให้ฉันพบกับเขา...ใช่มั้ยค่ะท่าน!!

     

    “นี่คือคุณแดเนี่ยลนะจ๊ะเด็กๆ” พี่แคนดี้แนะนำผู้ชายลูกครึ่งเกาเมกาที่กำลังยิ้มแป้นให้ฉันกับมินจอง เขาดูท่าทางเคอะเขินอยู่ไม่น้อย...แน่ละ ก็ฉันกับมินจองสวยนี่นา...ไม่ได้มั่นใจนะ แต่เป็นแบบนี้จริงๆ หลังจากที่เข้าSMมาก็ตกใจกับตัวเองเหมือนกัน...สวยกว่าเดิมเยอะมาก ส่องกระจกทุกวันก็ยิ่งคิดว่าไม่ใช่ตัวเอง สวยเกิน...SMเขาดูแลพวกเราเรื่องนี้ดีมากจริงๆ...

     

    แดเนี่ยลสอนเราร้องเพลงง่ายๆ...มันง่ายจริงๆนั้นแหละ ไม่อยากจะบอกว่าปกติฉันถนัดร้องแร็ปนะ ท่อนพี่คริสกับเทานี่ฉันแร็ปทันด้วยนะ...แต่เกาหลีฉันไม่ไหว...ลิ้นพันซะก่อน

     

    แดเนี่ยลสอนเราร้องเพลงบัลลาด...มันสนุกอย่างที่พี่แคนดี้ว่า สนุกกว่าเรื่องช่างแต่งหน้านั้นอีก...เพราะฉันได้ลองร้องด้วยตัวเอง...

     

    เสียงมินจองใสมาก...น่าฟังมาก โอ้ย น่ารักอีกต่างหาก พี่แดเนี่ยลชมมินจองใหญ่เลย

     

    ส่วนฉันเสียงค่อนไปทางมีพลัง...ง่ายๆก็คือหนวกหูนั้นแหละ

     

    “มินจองลองเข้าไปในห้องอัดแล้วร้องดูสิครับ เสียงจะชัดมากกว่านี้อีกนะ” พี่แดเนี่ยลเสนอ

     

    มินจองเขินอายอยู่พักนึงก่อนจะพยักหน้าและเดินเข้าห้องอัดเสียงไป...

     

    ต้องขอยอมรับว่าแดเนี่ยลเป็นครูสอนร้องเพลงที่อัจฉริยะมาก เขาสามารถทำให้มินจองที่เขินอายคนนั้น...มินจองที่ไม่กล้าแม้จะพูดเสียงดังคนนั้น ร้องเพลงและอินไปกับเนื้อร้องได้มากขนาดนี้...

     

    และเขาอัจฉริยะมาก...ที่ทำให้ฉันอึ้งกับน้ำเสียงของตัวเองเช่นกัน มีพลังจนหนวกหูค่ะ

     

    ขอยกเรื่องร้องเพลงให้มินจองแทนละกันนะ...

     

    “ส่วนฉันเอาไว้ใช้หอนเป็นเสียงคอรัสก็ได้ค่ะ” ฉันพูดให้ทุกคนในห้องได้หัวเราะ แหม...เสียงไม่ไหวจริงๆอะ ขอเอาฮาก่อนละกัน

     

    มินจองลองอัดเพลงไปสองสามเพลง...ในขณะที่ฉันยืนส่งยิ้มและโบกมือตามจังหวะเพลงไปให้เธอจากข้างนอก...

     

    เห...สายตาของพี่แดเนี่ยลที่มองมินจองนี่แปลกๆนะ...วั้ยยย เขินแทน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เฮ้ย วันนี้ไม่ซ้อมเต้นหรอ!” ไคหลุดปากออกมาซะเสียงดัง

     

    “บ้าหรอ!” ผมรีบกลบเสียงมันด้วยเสียงที่ดังกว่า “ซ้อม!! แต่เราจะซ้อมกันเอง! วันนี้ครูฝึกไม่ว่าง! เราจะซ้อมกันเอง! ใช่ป่าว!!

     

    “ใช่!!!” หน้าม้าเพียบ...

     

    สุดท้ายชานยอล คริส นั่งมองโทรศัพท์ตัวเอง ดีโอ ลู่หาน จงแด ฝึกร้องเพลงอยู่มุมห้อง แหละที่เหลือซ้อมเต้นที่ไม่ค่อยเต็มใจเต้นเท่าไหร่...ถือว่าเป็นวันที่สบายแต่ก็น่าเบื่อนิดๆ

     

    ผมเต้นไปตามจงอิน มันทำท่าอะไรผมทำตามมันหมดอะ บางครั้งมันก็ทำท่ายากไปผมก็เตะก้นมันไปทีนึง

     

    “ไปห้องซ้อมร้องเพลงกันเถอะ” ดีโอพูดขึ้นก่อนจะเดินมาชวนผม “ไปมั้ยแบค”

     

    จงแดกับลู่หานเดินนำไปล่วงหน้าละ แต่สองคนนั้นน่าจะไปห้องซ้อมฝั่งจีน

     

    “ไปๆ” ผมกำลังเซงกับท่ายากๆของจงอิน เลยตอบรับทันที “ชานยอล คริสฮยองไปมั้ย”

     

    “ไม่ไป”  ชานยอลตอบแบบไม่เงยหน้าขึ้นมามอง

    “ขี้เกียจไปนะ แต่ห้องร้องเพลงเย็นกว่า....ไปเถอะชานยอล” คริสว่าพลางลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผม...ทำทำไม?

     

    “ฮยองไปเถอะ ก้นผมติดกับโซฟานี้ละ”

     

    “ตามใจ”

     

    พวกผมสามคนจึงเดินตรงไปที่ห้องซ้อม แต่ปรากฏว่าเห็นพี่แดเนี่ยลอยู่ข้างใน เหมือนมีใครเพิ่งเข้ามาใช้ห้องนี้...

     

    “เอ่า พวกนายไม่ซ้อมเต้นหรอไง” พี่แดเนี่ยลถามทันทีที่คริสนั่งลงบนโซฟาเหมือนแมวจอมขี้เกียจ

     

    “วันนี้ครูไม่อยู่ครับ” ดีโอตอบพลางส่งยิ้มที่รู้ๆกันอยู่ว่าอะไร พี่แดเนี่ยลจึงทำหน้าเข้าใจทันที เขาบอก

     

    “แต่ฉันไม่อยู่ดูพวกนายร้องเพลงนะ เพราะมันหมดช่วงหน้าที่ของฉันแล้ว” เขาส่งยิ้มแบบที่รู้ๆกันอยู่กลับมา

     

    ดังนั้นพวกผมกับดีโอและคริสจึงยึดห้องนี้ทันที... ผมลองร้องคู่กับดีโอเพื่อซ้อมเสียงก่อนจะเข้าไปในห้องอัด

     

    “นายไปก่อนสิ เดี๋ยวฉันดูให้” ดีโอบอก ผมจึงเข้าในข้างในและใส่หูฟัง...

     

    ผมร้องยังไม่ถึงท่อนฮุกเลย...จู่ๆผมก็เห็นดีโอกับคริสหันไปมองที่ประตู ช่วงนี้ผมระแวงบ่อยมาก...ผมรีบถอดหูฟังออกและมองจากกระจกข้างในว่าใครมา...โอะโอ เซฮุนนั่นเอง... มันมานั่งพักเหมือนคริส...

     

    ผมเสียบหูฟังต่อและร้องท่อนต่อไปจนจบ จากนั้นดีโอก็เข้ามาข้างในและผมก็ดูเขาให้...

     

    “นั่นโทรศัพท์ใคร” เซฮุนที่นั่งจ้องไลน์อยู่นานแต่มันไม่ตอบซักทีจึงหันไปสนใจอย่างอื่นแทน...

     

    เซฮุนชี้ไปที่โทรศัพท์สีขาวที่วางบนโต๊ะ...

     

    “พี่แดเนี่ยลลืมไว้ป่าว” ผมตอบไปแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ บวกกับไลน์จากโทรศัพท์เซฮุนเด้งด้วย มันจึงหันไปสนใจไลน์แทน...

     

    ตือดึง

     

    ตือดึง

     

    ตือดึง

     

    ตือดึงๆๆๆๆ

     

    “เซฮุนปิดเสียงหน่อยสิ” ผมหันไปดุเบาๆ

     

    “ไม่ใช่ของผม...ของผมไม่มีเสียงแล้ว”

     

    “แล้วของใคร” ผมหันไปมองโทรศัพท์ของพี่แดเนี่ยล...ใช่จริงๆด้วย หน้าจอสว่างพร้อมกับแจ้งเตือนไลน์เป็นสิบ ว่าแต่พี่แกเล่นไลน์ด้วยหรอ...น้อยนะคนที่นี่จะเล่นไลน์

     

    “เด้งขนาดนี้มีใครตายป่าว” เซฮุนพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์นั่นมาดูอย่างสนใจ

     

    “เฮ้ย!!!” จู่ๆมันก็ทำให้ทั้งผมและคริสสะดุ้งโหยง

     

    WTF man” คริสหันไปมองมันตาขวางทันที....

     

    “นี่ไลน์พี่เซนา!” เซฮุนหันมาบอกผมสลับกับคริส...หือ? เซนา อ๋อ คนที่เซฮุนคุยอยู่สินะ แล้วมันไปอยู่ในโทรศัพท์พี่แดเนี่ยลได้ยังไง?

     

    “ผมว่านี่มันภาษาไทย” เซฮุนบอกต่อ มันไม่เกรงใจเจ้าของเลยจริงๆ “ผมว่านี่ไม่ใช่โทรศัพท์ของพี่แดเนี่ยล”

     

    “แล้วของใคร” ผมสนใจเล็กน้อย

     

    “มีคนเดียวที่พี่เซนารู้จัก...ก็เพื่อนเธอคนนั้น”

     

    ก่อนที่ผมจะถามว่าเป็นใครดีโอก็ออกมาจากห้องอัดและบอกให้ผมเข้าต่อทันที ผมจึงเลิกสนใจโทรศัพท์นั่น บางทีเจ้าของอาจจะกลับมาเอาเอง...เดี๋ยวก็ได้รู้ว่าใคร

     

    เจี๊ยก!! ผมรีบย่อตัวลงต่ำและหลบอยู่ข้างในห้องอัด...

     

    เธอ! นั่นมันเธอนี่! เข้ามาที่นี่ได้ยังไง! ปกตินักแสดงไม่ข้ามฝั่งนี่นา...

     

    ว่าแต่พวกเจ้าพวกนั้น...จะสังเกตเห็นมั้ยนะว่าผมหลบเธอ...ได้โปรดเข้ามาหยิบโทรศัพท์และออกไปในทันทีเลยนะ...ได้โปรด...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ขอโทษค่ะ”

     

    พ่อแก้วแม่แก้วปู่แกวตาแก้วย่าแก้วลุงป้าน้าอาแก้ว...ฉันอยู่ในห้องเดียวกับexo ห้องเดียวกับEXO!!!

     

    เก็บอาการจีจี้ เก็บอาการที่นี่คือที่ทำงานนะ... รีบออกไป รีบไปเลยจะได้ไม่ต้องเก็บอาการ...

     

    ฉันมองหาโทรศัพท์ตัวเอง...และมันอยู่ในมือเซฮุน แม่จ๋า...หนูอิจฉาโทรศัพท์...

     

    ฉันมองเขา...แม่จ๋าเซฮุนยิ้มให้ฉันด้วย...เขายื่นมันมาอายๆ...สงสัยคงเขินที่ทำตัวเสือกเกินไปสินะ โธ่ๆ ไม่เป็นไรเลยเซฮุนจ๋า ถึงนายจะปลดล็อคโทรศัพท์ฉันดูอะไรๆข้างในฉันก็ใม่ว่าหรอกจ๊ะ

     

    ฉันไม่กล้าสบตาใคร...ทุกคนดูอึ้งๆเพราะฉันก็อึ้งๆทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน...แอบมองคริสด้วย...แต่เขารีบควานหาหมวกมาสวมใหญ่เลย...อะไรกันผมยุ่งนิดเดียวเอง ความหล่อระดับเทพอย่างนายไม่เสียหายหรอก...

     

    ฉันก้มให้พวกเขา...และเหลือบมองร่างน้อยๆของดีโอ...งือ น่ารักโครตพ่อโครตแม่เลย 

     

    ฟินแล้วๆ แค่นี้ก็พอแล้ว... ฉันไปละ...ไปแล้วค่า

     

    แต่พอหันหลังไปดันประตู ก็มีคนดึงออกไปซะก่อน

     

    “อ่าว จีจี” แดเนี่ยลครูสอนร้องเพลงคนเดิม... “มาทำอะไรที่นี่เนี่ย อย่าบอกนะว่าลืมของ?”

     

    “เอ่อ..ค่ะ...ลืมโทรศัพท์ค่ะ”

     

    “จริงดิ ส่วนฉันลืมปากกาตัวโปรด” เขาหัวเราะและเดินผ่านฉันไปควานหาปากกาแทน...เขาดูไม่อึดอัดเลย...ทั้งๆที่ทั้งสามคนนั้นจ้องเขาอยู่...เขาทำได้ยังไง...เขาทำเหมือนคนพวกนั้นเป็นแค่เด็กธรรมดาๆได้ยังไง

     

    “เจอละ” แดเนี่ยลโชว์ปากกาเล่มโปรดของเขาก่อนจะเสียบมันลงกางเกง

     

    ว่าแต่ฉัน...ฉันยืนอยู่ทำไมเนี่ย ออกไปสิยัยจีจี้ ฮือ...ไม่อยากออกเลย ใครก็ได้ฆ่าฉันตรงนี้ที!

     

    สุดท้ายขาของฉันก้าวออกจากห้องจนได้ แต่ก่อนที่ประตูจะปิดสนิท ฉันได้ยินเสียงแดเนี่ยลบ่นแว่วๆ...

     

    “แบคคยอนหายไปไหนเนี่ย เมื่อกี้ยังอยู่ในนี้ไม่ใช่หรอ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    โอ้ยไม่นะพี่แดเนี่ยล!! ทำหน้าสงสัยเหมือนกำลังถามหาใครบางคนแบบนั้นแสดงว่าถามหาผมแล้วใช่มั้ย!!

     

    เธอออกไปหรือยัง!! ผมชะเง้อมองจนคอจะยืดแล้วนะ! โอ้ย ตื่นเต้นใจสั่นทำอะไรไม่ถูก ผมไม่อยากให้เธอเจอผมเลย แรกๆผมก็งงว่าทำไมนะ แต่พอนานๆไปผมก็เริ่มหลบเป็นนิสัย...จนลืมไปเลยว่าหลบเพราะอะไรรู้อย่างเดียวคือต้องหลบ ไม่งั้นตาย...

     

    อะไรตายวะ!

     

    “นายทำอะไรน่ะ” ดีโอเข้ามา!

     

    “เฮ้ย! เธอไปหรือยัง!” ผมรีบทำตัวติดไปกับกำแพง... “เข้ามาแล้วปิดประตู!

     

    “ไปหมดแล้ว...” ดีโอตอบพลางยิ้มขำ “ส่วนนายน่ะ...ออกมาอธิบายเดี๋ยวนี้เลย...ฮึฮึ”

     

    ผมเดินออกไปเผชิญหน้ากับเสียงล้อเลียนของคริสฮยองจนได้...

     

    “คนนี้หรอ ที่นายหลบๆซ่อนๆน่ะ”

     

    ผมพนักหน้า...มีเสียงขบขันตามมาอย่างสนุกสนาน

     

    “ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก” คริสฮยองยังพูดต่อ “สวยและหุ่นดีมาก ฉันยอมรับเลยวะ”

     

    “ไม่ใช่นะ เข้าใจผิดแล้ว” ผมรีบปฏิเสธ แต่หน้าเสือกไม่เป็นใจ มันแดงปื้นเหมือนโดนปัดแก้มมาผิดเบอร์ เพื่อนๆยิ่งขำไปกันใหญ่ “บอกว่าไม่ใช่ไง!

     

    “เออๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่” คริสฮยองพูดไปขำไป หน้าง่วงๆเมื่อกี้หายไปไหนแล้วละ “ว่าแต่ทำไมต้องหลบด้วยวะ..กลัวหรอ? เขิน? อาย?”

     

    “ไม่รู้...ผมลืมไปแล้วว่าหลบเธอเพราะอะไร...” ให้ตายเถอะตอบไปหน้าก็ยิ่งแดงเรื่อยๆ... “แล้วก็หยุดหัวเราะผมซักที! แกด้วยเซฮุน!

     

     

     

     

     

     

     

    ห้าทุ่มเกาหลี...

    ผมเซฮุน...หลังจากหลบหลีกกับแฟนคลับหน้าตึกแล้วผมก็รีบแกะขนมที่พวกเธอให้มาจากนั้นก็ไลน์ไปหาที่เซนาด้วยสีหน้าที่มีความสุขที่สุด...วันนี้เลิกเร็ว ไม่เหนื่อย ที่สำคัญมีเรื่องสนุกๆเกิดขึ้นด้วย


    สวัสดีครับพี่เซนา ทำอะไรอยู่เอ่ย?

    นอนหรือยัง?

    ผมแทบรอเธอตอบไม่ไหวแหนะ ผมหยิบขนมมากินแล้วเคี้ยวๆพลางจ้องไปที่หน้าจอ...ตอบสิพี่ตอบผม...

    “เซฮุน” ซูโฮฮยองที่เป็นรูมเมทผมส่งเสียงเหนื่อยล้ามาให้... ทำไมฮยองดูไม่สดชื่นเลยอะ เพิ่งห้าทุ่มเองนะ..

    “ครับฮยอง”

    “กลับไปนี่นอนเลยนะ ห้ามเล่นไลน์อีก”

    “ทำไมอะ” ไม่ต้องตกใจไปหรอกครับ ซูโฮฮยองเขาก็บอกกับผมแบบนี้ทุกคืน “พรุ่งนี้ตื่นเช้ากว่าปกติหรอครับ?”

    “เปล่า พรุ่งนี้จะซ้อมจนถึงตีสองน่ะสิ...”

    “เอาจริงหรอฮยอง”

    “อืม...ครูเพิ่งคาคาโอบอกมาเมื่อกี้...ฉันต้องโทรไปบอกเจ้าพวกนั้นก่อน” ซูโฮฮยองกดเบอร์โทรศัพท์หาคนในทีม...

    ผมผิดหวังเล็กน้อย...เวลาพักของผมเหลือน้อยลงเต็มทีละ...ใกล้คัมแบ็คแล้วพวกผมเหมือนซอมบี้เลยอะ ลืมตัวไปเลยว่ายังเป็นมนุษย์ที่ต้องหลับต้องนอน...

     

    พี่เซนาไลน์มาแล้ว! ผมรีบเช็ดมือที่เปื้อนขนมกับกางเกงตัวเอง



     

    ทำไมวันนี้เลิกเร็วจัง?!

    เอ๊ะ หรือพักอยู่?

     

     

    ผมหัวเราะเบาๆก่อนจะตอบไป

     

     

    เลิกเร็วครับพี่ เพราะครูฝึกไม่อยู่

    พี่ครับ ผมมีเรื่องจะเล่าให้พี่ฟัง

    พี่อย่าตกใจนะ แล้วก็อย่าบอกเธอด้วย

     

     

     

     

    ผมรอให้เธอตอบมา...แต่เหมือนเธอก็รอให้ผมเล่าต่อ...แต่ผมอยากให้เธอตอบก่อน สู้กันอยู่นานจนพี่เซนาทนไม่ไหว

     

     

     

     

     

    รีบๆเล่าเลยไม่งั้นตามไปถามถึงเกาหลีแน่ๆ!

     


     

    มาสิครับ ผมจะไปรับถึงสนามบินเลย อิอิ




     

    เล่ามาก่อนนนนน

     

     

     

    แบคคยอนฮยองแอบชอบเพื่อนพี่ครับ

    แต่เพื่อนพี่ยังไม่รู้นะครับ

    พี่อย่าไปบอกเธอนะ สงสารแบคคยอนฮยอง

    อย่าบอกว่าผมบอกพี่ด้วยนะ อิอิ

    อย่าบอกใครทั้งนั้น ใจป่าวววว

    ปล.แบคคยอนฮยองยังไม่รู้ตัวว่าชอบด้วย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันกรกต...

     

    มือถือตกลงบนเตียงนุ่มๆทันทีที่เห็นสติ๊กเกอร์ของเซฮุน... มือสั่น ปากสั่น แต่ใจสั่นที่สุด... เรื่องนี้จะให้ฉันเก็บเป็นความลับอยู่คนเดียวได้ยังไง! ในเมื่อยัยขนมไทยที่นอนจ้องฉันตั้งแต่เมื่อกี้มันได้กลิ่นตุๆจากฉันแล้ว! ถ้าไม่บอก ฉันกับมันได้ทะเลาะกันแน่...แล้วพอทะเลาะเสร็จฉันก็ตาย...

     

    “เล่ามา ณ บัด นาว!” ขนมไทยจ้องฉันด้วยสายตาที่ไม่ได้ต่างจากแม่เวลาจับโกหกฉันเลย...

     

    ขอโทษนะเซฮุน...

    ฉันไม่เล่าให้ขนมไทยฟัง...แต่ฉันยื่นโทรศัพท์ด้วยมือสั่นๆของฉันไปให้มันแทน...แล้วพอมันอ่านเสร็จ

     

    อาการเดียวกันเลย...ปากสั่น มือสั่น ขาสั่นด้วยเพราะยัยนั่นยืนอยู่...

     

    ฉันรีบคว้าโทรศัพท์กลับมาจากมือขนมไทยก่อนมันจะตกลงพื้นแข็งๆ...

     

    ไลน์เซฮุนเด้งมา...

     

    ผมถึงหอแล้ว อาบน้ำก่อนนะครับ

     

    ฉันกดส่งสติ๊กเกอร์ไปมั่วๆแบบไม่ได้มอง...ให้เขารู้ว่าฉันอ่านแล้ว...ก่อนจะหันไปมองหน้าขนมไทยที่กำลังจะขาดอากาศหายใจเต็มที่...หมอ! ตามหมอมาที!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     



     

     

    คือสติ๊กเกอร์ที่พี่เซนาส่งมา...

     

    ทำไมผมต้องใจสั่นกับแค่สติ๊กเกอร์ด้วยวะ...งี่เง่าชะมัด

     

    แต่สติ๊กเกอร์นั้น...มัน...นั่งตักกันอยู่... ทำให้ผมนึกถึงคืนนั้น...คืนที่มีปาร์ตี้คนตาย...คืนที่ผมแอบ...

     

    โอ้ย! พอ! เลิกคิดได้แล้วเซฮุน ไปอาบน้ำ!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วันต่อมา

    ถ้ามาใครเห็นว่าฉันมาเดินฝั่งศลป.แบบนี้ฉันต้องโดนมองว่าเป็นติ่งตามติดไอดอลแน่ๆ...แต่มันก็เรื่องจริงอะ ฉันมาตามหาแบคคบยอนน้อยๆของฉันจริงๆอะ

     

    เมื่อวานสวรรค์เล่นตลกกับฉันมากไป ฉันพลาดกับแบคคยอนแค่นิดเดียวเอง ถ้าฉันมาเร็วกว่านี้อาจจะได้เจอเขาก็ได้...โอ้ย รำคาญตัวเองวะ!

     

    แต่ว่าก่อนอื่นต้องทำตัวลีบๆและหลบผู้คนแถวนี้ก่อน...

     

    ฉันใช้บันไดแทนจะขึ้นลิฟ แต่ไม่เหนื่อยเท่าไหร่เพราะไม่ได้รีบร้อนอะไร ฉันว่างยาวสามชั่วโมงก่อนจะมีการเทสหน้ากล้องอีกครั้ง...

     

    วันนี้บรรยากาศค่อนข้างดี เหมาะแก่การช้อปปิ้งมาก...อยากออกไปเดินห้างและนั่งสวยๆในร้านกาแฟอัพอินสตราแกรมเหมือนยัยกรกตกับขนมไทยบ้าง...แต่ก็ไม่มีเวลาขนาดนั้น แถมถ้ามีเวลามากขนาดนั้นฉันเอาไปนอนพักดีกว่า...

     

    อากาศข้างนอกดีจนฉันอยากจะรับมันมาสูดดมซักหน่อย จึงตัดสินใจเดินไปสุดระเบียงทางเดินและเปิดหน้าต่างกระจกออก

     

    “กรี๊ด!!!!!!

     

    พอเปิดหน้าต่างไปเท่านั้นแหละ! ฝูงแมลงห่าอะไรไม่รู้พุ่งเข้าใส่ทันที!! มันเป็นแมลงเล็กๆและมันก็เข้าตาฉันด้วย! แสบๆๆ โอ้ยๆๆ

     

    “ตาฉัน! ตาฉัน!! กรี๊ดดด!

     

    ฉันยืนดิ้นพร่าดๆตรงนั้นและไปไหนไม่ได้เลยเพราะตาทั้งสองข้างไม่สามารถเปิดมามองดูโลกภายนอกได้ แง้มเปิดไม่ได้เลยแม้แต่ขนาดเท่าปลายเส้นผม... ฉันเปิดตาไม่ได้! มันแสบ! น้ำตาไหลเหมือนท่อประปาแตก ฉันขยี้ตาไปสองสามที แต่ปรากฏว่ามันยิ่งทำให้ตาฉันบอด! ฉันขยับเลือกตาไม่ได้เลยเพราะเจ็บ! ถึงไม่เจ็บฉันก็เปิดตาไม่ได้อยู่ดี! เพราะเปลือกตาไม่ยอมเปิด! เข้าใจฉันมั้ย? นี่ไม่ใช่การสั่งจากซีรีบรัมของสมองส่วนหน้าแล้ว! แต่นี่ไม่ใช่เวลามาอวดวิชานะ! ตาฉัน! ตาฉ๊านนน!!

     

    “ชะ-ช่วยด้วยค่ะ!” ฉันลองตะโกนหาคนช่วยแถวนี้ มือก็ปิดตาสนิท...น้ำตาก็ไหลไม่หยุด “มีใครอยู่แถวนี้มั้ยค่ะ พอดีตาฉันแมลงจำนวนล้านตัวบินฝ่าเข้าไป...เอ่อ..ช่วยด้วยค่ะ!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมจับข้อมือเธอและพาเดินทันที...เธอตกใจและพยายามขอบคุณผม

     

    “ขอโทษที่รบกวนจริงๆค่ะ พอดีมันเป็นอุบัติเหตุ ขอบคุณจริงๆที่คุณมาผ่านแถวนี้”

     

    เธอเดินตามแรงลากของผมอย่างทุลักทุเลเพราะตาเธอมองไม่เห็น มันยากกว่าพาคนปกติอยู่หลายเท่า และยากกว่าพาคนตาบอดตั้งแต่เกิดหลายเท่าด้วย... เธอร้องตกอกตกใจตลอดทางที่สะดุด ที่ได้ยินเสียงแอร์ ได้ยินเสียงเพลง เธอตกใจหมดทุกอย่าง...

     

    “ขอโทษนะค่ะ คุณเป็นใครหรอค่ะ ฉันจีจี้ค่ะอยู่ฝั่งนักแสดง...เอ่อ...ที่มาที่นี่ก็...ธุระค่ะ”

     

    นั่นเธอหันไปมองใคร..ผมอยู่ฝั่งนี้ต่างหาก...แต่ช่างเถอะ

     

    จะให้ผมตอบได้ยังไงกันละ! ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นเลยว่าถ้าเธอได้ยินเสียงผมเธอต้องบอกได้แน่ๆว่าคือแบคคยอนที่อยู่ในวงexoคนนั้น...

     

    ปกติผมเป็นคนพูดมากนะครับ ใครถามอะไรผมตอบหมดบางครั้งเขาไม่ได้ถามแต่ผมก็เสือกตอบ...แต่ครั้งนี้ ผมเงียบสนิท ปิดปากแน่น...ผมไม่พูดอะไรออกไปแน่ๆ ผมไม่ให้เธอรู้เด็ดขาดว่าเป็นผม

     

    ระหว่างทางที่เธอเดินไปกับแบบเก้ๆกังๆอยู่นี้ เธอเอาแต่ถาม...ถาม และ ถาม...หยุดเถอะผมจะอุดปากตัวเองไม่ไหวแล้วนะ

     

    “คุณชื่ออะไร?...เอ่อ What your name? หนี่ ชื่อ เฉินเมอ?”

    “คุณเป็นผู้กำกับหรอค่ะ?...หรือคุณเป็นผู้ผลิต? อยู่ฝ่ายจัดการอะไรหรอค่ะ?” 

    “คุณเป็นผู้ชายใช่มั้ยค่ะ? หรือคุณเป็นผู้หญิงร่างใหญ่? เอ่อ ขอโทษค่ะไม่ได้จะว่าจริงๆ”

    “คุณมาแถวนี้บ่อยมั้ยค่ะ? คุณทำงานแถวนี้สินะค่ะ? 

    “คุณบังเอิญมาเจอฉันได้ยังไงค่ะ? คุณกำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า? ต้องขอโทษและขอบคุณอีกครั้งจริงๆค่ะ”

    “โอะ!

     

    เธอสะดุดเกือบล้มหัวทิ่มพื้นตรงมุมระเบียงทางเดิน...เรียบๆนี้..ผมไม่รู้ว่าเธอสะดุดอะไรด้วยซ้ำ

     

    ผมดึงเธอมาข้างหน้าผมเล็กน้อยแล้วผมเดินข้างหลังเธอแทนโดยที่จับแขนเธอทั้งสองข้างไว้ด้วย...คราวนี้ไม่สะดุดแล้วนะ

     

    ว่าแต่...ผมอยู่ใกล้เธอขนาดนี้เลยหรอ...ผมอยู่ข้างหลังเธอใกล้มากขนาดนี้เชียว?

     

    ผมสัมผัสได้ถึงเส้นผมนุ่มๆของเธอ ผมอยากลองจับดูจัง มันน่าจะลื่นมือน่าดู อีกอย่างหอมด้วย หอมมากเลย... แต่เอ๊ะ ผมทำอะไร...ผมต้องพาเธอไปห้องพยาบาลนะ ตาเธอกำลังแย่

     

    จู่ๆเธอก็หยุดทำให้ผมชนกับหลังของเธอเบาๆ

     

    “ขอโทษค่ะ...ฉันรู้สึกว่าทางข้างหน้ามันเหมือนเหวยังไงไม่รู้...คุณมาเดินด้านหน้าฉันแล้ว...แล้วฉันจับไหล่คุณแทนได้มั้ยค่ะ?”

     

    ผมไม่พูดอะไรแต่ยอมทำตามที่เธอต้องการ ผมเดินไปข้างหน้าและให้เธอคลำจากข้างหลังผมไปหาไหล่ของผมแทน...เมื่อเธอเกาะไหล่ผมแล้ว ผมก็เดินนำอีกครั้ง...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จีจี้!! คนๆนี้คือผู้ชายค่ะจีจี้!! เขาไม่ยอมพูดอะไรกับฉันเลย! หรือว่าเขาก็โดนแมลงพุ่งเข้าปาก? หรือว่าเขาจะเป็นคนใบ้ที่พูดไม่ได้แต่มีความสามารถSMเลยเอามาเทรน...เฮ้ย มันเป็นไปได้จริงๆนะ เปอร์เซ็นว่าจะเป็นคนใบ้นี่มากถึง60เลยนะเฮ้ย!

     

    ฉันเดินจับไหล่เขา...มันเป็นไหล่ที่แข็งแบบผู้ชายแต่ก็บางกว่าผู้ชายถึกๆ...เข้าใจที่กำลังจะสื่อมั้ย? เขาตัวสูงกว่าฉันเล็กน้อย...และ...และเขายังมีกลิ่นหอมชวนสูดดมชิบหายเลย...

     

    แม่จ๋า อย่าว่าอะไรหนูเลยถ้าหนูจะดมกลิ่นกายของผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนแบบนี้...  

     

    จู่ๆเขาก็หยุดเดินค่ะ ฉันจึงหยุดตามเขาแต่ไม่ได้ถามอะไรแล้ว เพราะเขาไม่ตอบแน่ๆ...เป็นคนใบ้นี่เนอะจะให้ตอบได้ไง...

     

    “ว้าย!!” ฉันร้องเสียงดังเพราะตกใจ!

     

    จู่ๆเขาก็อุ้มฉันขึ้นไปในอ้อมแขนในท่าเจ้าสาว...กรี๊ดค่ะ อยากจะกรี๊ด! มันเขินอะ! แต่มันก็ไม่ใช่เวลาเขินปะ นี่ตาฉันกำลังจะบอดนะ!


    ฉันรู้แล้วว่าเขาอุ้มฉันทำไม เพราะต้องลงบันไดนี่เอง... เขาบอกให้ฉันก้าวขาไม่ได้ เขาเลยต้องอุ้มฉันจะได้ไม่ต้องพูดอะไรสินะ?...โธ่ๆ เขาแมนมากเขาเป็นสุภาพบุรุษที่สุด...ถึงหน้าจะไม่หล่อแต่ใจนายหล่อมากเลยนะ คนใบ้...

     

    แต่ฉันว่าเขาหล่อ!! ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นกายและออร่าจากตัวเขา! ฉันสัมผัสได้ถึงหน้าอกแน่นๆและค่อนข้างนิ่มของเขา! ฉันสัมผัสได้ถึงแขนที่แข็งแรง มืออันเรียวบาง....

     

    ฉันฉลาดและแรดมากด้วย...

     

    ดังนั้นฉันจึงคล้องคอเขาทันที...อือหือ...สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดนี้ค่ะ...หอมมาก หอมจนจะเป็นลม...นี่ตัวนายทำมาจากน้ำหอมหรอไงยะ!

     

    อยากเข้าไปดมตรงซอกคอจังเลยอะ...ทำได้ป่าววะ...อีนี่!ไม่ใช่เวลามาแรดนะ ตามึงอ่ะ ตามึง!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมไม่ไหวแล้วอ่ะ...ผมเขินจนจะโยนเธอลงพื้นและวิ่งหนีเธอไปแล้วนะ...ทำไมเธอจึงทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกำลังดมกลิ่นอะไรซักอย่างแบบนั้นละ...แล้วทำไมเธอจึงคล้องพอผมแน่นจัง...ทำไมต้องเอาหน้ามาใกล้ๆซอกคอผมขนาดนี้ด้วย...

     

    หรือเธอจะรู้แล้วว่าผมเป็นใคร! ก็เลยทำแบบนั้น!

     

    บ้าหน่าไม่มีทาง...เธอมองไม่เห็นนะ ถึงจะสัมผัสได้แต่ถ้าไม่จับหน้าผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมเป็นใคร

     

    ชิบหาย! มือเธอ! กำลังจับแขน...ตะ-ตรงกล้าม(ที่ไม่ค่อยมี)ผมอยู่! เธอจับมันเบาๆ...แต่...แต่ผมรู้สึกได้ว่าเธอไม่ใช่แค่ต้องการจับ...เธอกำลังสัมผัสและรับรู้ว่าผมเป็นใครอยู่ใช่มั้ย...อย่าเพิ่งนึกออกตอนนี้ละ ขอร้อง

     

    ชิบหาย! เธอจับคางของผมแล้ว! ถ้าผมพูดได้ละก็ผมจะสั่งให้เธอเก็บมือไปให้พ้นๆเลย...เอ๊ะ แต่ผมพูดได้นี่หว่า...

     

    ว่าแต่ทำไมผมต้องหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศแบบนี้ด้วยวะ! โอ้ย รำคาญตัวเอง

     

    ชิบหาย! เธอจับปากผมอยู่! ปล่อยนะครับ! ปล่อยเถอะขอร้อง....

     

    เดี๋ยวก็รู้หรอกว่าผมยิ้มอยู่อ่า...

     

     

     

     

     

     

     

     






     

     

     

    คุณพระคุณเจ้า...ฉันรีบเอามือมาปิดปากตัวเองแน่นด้วยความตกใจ...(ทั้งๆที่อยู่อ้อมแขนนั่นแหละ)

     

    นี่มันแบคคยอน....แบคคยอน!!!

     

    แบคคยอน!!! แบค!! แบคคคคคคคคคคคค ฉันจำนายได้! ฉันจำแขนปากคางหน้านมมือของนายได้!! ถึงไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนก็ตาม...แต่แรงมโนฉันสูงนะ...เพราะงั้นน่าจะเดาถูก

     

    นี่ฉันกำลังอยู่ในอ้อมแขนของแบคคยอน! แบคคยอนคนนั้นน่ะนะ!! กรี๊ดดดดดดดด

     

    “เข้าห้องน้ำเลย! ไปเข้าห้องน้ำ!!” สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วค่ะ คิดได้อย่างเดียวคือ ฉุดม่าง....

    “ไม่ไปแล้วที่อื่น นายพาฉันเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนี่เลย ฮือ”

    “ฉันจะไม่ยอม ไม่ยอมให้นายหนีฉันไปไหนอีกแล้ว โอ้ย”

    “ฉันตามหามานายเกือบเดือน สุดท้ายก็มาเจอแต่มองไม่เห็น โอ้ย”

    “เวรกรรมอะไรของฉัน...”

    “แบคคยอนใช่มั้ย”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมรีบวิ่งลงบันไดจนแทบไม่ได้ฟังที่เธอกำลังพล่าม ผมได้ยินแต่คำว่าห้องน้ำๆอะไรซักอย่าง แต่เดี๋ยวพอถึงห้องพยาบาลเธอก็จะได้เข้าห้องน้ำจริงๆแล้วละ ลงมาได้สองชั้นและมันก็เป็นชั้นที่มีห้องพยาบาลด้วย

     

    ผมวิ่งตรงเลย และเริ่มหอบ แขนก็เริ่มเมื่อยด้วย...ในที่สุดผมก็วิ่งมาถึงหน้าห้องพยาบาลและต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นคริสฮยองเพิ่งเดินออกมาจากห้องนั้น

     

    “เฮ้ย! เกิดอะไร-”  ผมรีบถลึงตาใส่ไม่ให้เขาพูดอะไรต่อ หยุดนะคริสฮยอง!! ได้โปรด...เข้าใจด้วยว่ากำลังอยู่ในสถานการ์ณอะไร...

     

    “คริส!!” เสียงของเธอดังขึ้นมาทันที...เห็นมั้ยผมบอกแล้ว...แค่ผมเอ่ยปากพูดอะไรไปเธอก็จะจำได้ว่าผมเป็นใคร...

     

    “นั่นคริสใช่มั้ยค่ะ!” เธอโวยวายใหญ่ ผมจ้องตาคริสฮยองและส่ายหน้าเชิงไม่ให้เขาพูดอะไร...คริสฮยองทำตาโตก่อนจะพยักหน้าเข้าใจและยกมือ โอเค ขึ้นมา... ขอบคุณครับ

     

    “ฉิ๋งเวิ่น! หนี่ ชื่อ คริส มา! ดุ่ยเลอ! เจ้อเก้อ แบคคยอน มา!

     

    เธอรัวภาษาจีนใส่คริสฮยอง...ผมเข้าใจครับว่าเธอหมายความว่าไง...เธอกำลังถามคริสว่าผมใช่แบคคยอนหรือเปล่า...คริสฮยองอุดปากตัวเองพร้อมกับหัวเราะที่ไร้เสียง สนุกมากมั้ย?

     

    ว่าแต่ผมจะยืนหน้าประตูอีกนานมั้ยเนี่ย!

     

    ผมรีบผลักประตูโดยใช้ร่างของเธอนั้นแหละดันเข้าไป พยาบาลข้างในรีบเข้ามาดูและบอกให้ผมวางเธอลงเตียง...จากนั้นเหล่าพยาบาลก็รุมถามอาการของเธอ...

     

    เธอคนนั้น...ที่ผมแบกมา จีจี้...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉันเอาแต่ถามพยาบาลว่าเขาคนนั้นเป็นใครจนพวกนางแวดใส่และสั่งห้ามไมให้เปิดปากจนกระทั่งต้องกินยา...

     

    ฉันนอนหลับไปชั่วโมงนึงเพราะฤทธิ์ยาก่อนจะตื่นมา...และดูสภาพตัวเองในกระจก ตอนนี้ตาสามารถเปิดตาได้แล้ว แต่มันบวมฉึ่งและแดงก่ำเหมือนร้องไห้มาสามวันติด...

     

    พยาบาลจัดแจงยามาให้ฉันเป็นตับ ทั้งยาทาน ยาทา ยาหยอด...ในเมื่อฉันเห็นพยาบาลอารมณ์ดีขึ้นแล้วฉันจึง

     

    “สรุปเขาคนนั้นคือแบคคยอนจริงๆใช่มั้ยค่ะ?”

     

    พยาบาลทำหน้าเอือมและถอนหายใจใส่ฉัน...เธอคงคิดว่าตาฉันกำลังจะบอดแต่ฉันกลับห่วงเรื่องผู้ชายแทนสินะ...ใช่ค่ะ ถ้าแบคคยอนยอมพาฉันเข้าห้องน้ำถึงแม้ตาจะบอดฉันก็ยอม...

     

    “ฉันชอบเขาจริงๆนะค่ะ คิดดูว่าโชคดีแค่ไหนที่เขาเป็นคนมาช่วยฉัน! เหมือนในละครเลยใช่มั้ยค่ะ? ได้โปรดละค่ะออนนี่...เห็นอกเห็นใจผู้หญิงด้วยกันเถอะนะค่ะ ฉันชอบเขามากจริงๆ”

     

    พยาบาลเริ่มเห็นสีหน้าที่ดูจริงจังเกินเหตุของฉัน นางจึงหัวเราะ...

     

    “นี่แหนะ...อย่าไปบอกใครละ” เธอยื่นโพสอิทสีชมพูมาให้ฉัน

     

    ฉันรับมาด้วยความสนใจ ในนั้นเขียนด้วยลายมือหวัดๆว่า

     

     

    อย่าบอกเธอว่าผมเป็นใคร ให้บอกเธอไปว่าผมพูดไม่ได้

          และผมบังเอิญมาทำธุระแถวนี้ ขอบคุณครับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    22.30

     

    เวลาพักของพวกเรามาแล้วครับ...ครูฝึกบอกพักได้สามสิบนาที...วันนี้ยังอีกยาวไกล ยาวไปจนถึงตีสอง... ผมคลานไปนอนพักข้างๆคริสฮยอง เราทั้งคู่นอนหอบอยู่นานกว่าจะมีใครพูดอะไรออกมา...

     

    “ฮยองไปทำอะไรในนั้นน่ะ จีบพยาบาลหรอ” ผมถาม

     

    คริสฮยองหัวเราะเหนื่อยๆก่อนตอบ “กะอยู่เหมือนกัน...แต่เข้าไปเอายาคลายกล้ามเนื้อน่ะ ฉันเอามาเผื่อทุกคนในวงเลยด้วย”

     

    “หรอครับ...ฮยองคิดว่าเธอจะจำผมได้มั้ย”

     

    “ไม่ได้หรอก ตาเธอแดงจนเปิดไม่ได้ขนาดนั้น ว่าแต่ไปโดนอะไรมา”

     

    “แมลงเข้าตาน่ะครับ พอพูดถึงผมก็ชักเป็นห่วงเธอ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง”

     

    “ไม่บอดหรอก ฉันเองก็เคยโดนสมัยยังเป็นนักบาสน่ะนะ...” คริสหัวเราะ ไม่มีอะไรที่คริสฮยองคนนี้ไม่เคยผ่าน เขามักจะบอกกับพวกผมเสมอมา เขาเคยแล้ว เขาผ่านมาแล้ว เขาทำเป็นแล้ว...แต่พวกผมก็ไม่ค่อยเชื่อเขาเท่าไหร่นัก ดูเหมือนจะเป็นคำพูดติดปากของเขามากกว่า...

     

    “เหนื่อยวะ ว่ามั้ย” คริสฮยองพูด

     

    “อื้อ เหนื่อยครับ เหนื่อยกาย...”

     

    “เราน่าจะหาแฟนน่ารักๆซักคนมาคอยให้กำลังใจนะ”

     

    ผมหัวเราะ...แต่หน้าแดงไปแล้ว “นั่นสิครับ อาจจะช่วยให้พวกเรามีพลังขึ้นได้เยอะอยู่”

     

    “ดูหมอนั่น” คริสฮยองใช้ตีนชี้ไปที่เซฮุนที่นั่งยาวอยู่บนโซฟาพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์... “หมอนี่ไม่เคยทำหน้าเหนื่อยได้นานเท่าพวกเราเลย...แปปๆก็ยิ้มละ มองโทรศัพท์สองนาทีก็ยิ้มละ...”

     

    “ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหัวเราะและเงยหน้าไปมองเซฮุนแบบนานๆ...อยากสัมผัสความรู้สึกนั้นได้แบบมันจัง

     

    มันยิ้มทั้งๆที่เหงื่อเต็มตัวได้อย่างไร?...ยิ้มแบบมีความสุขแบบอิ่มเอิมอะไรซักอย่าง...ซักพักมันหัวเราะ...ซักพักมันก็ทำหน้าหงิก...ซักพักมันยิ้มอีก...แล้วก็ทำหน้าตาย...ตกลงน้องกูคนนั้นปกติดีป่าววะ

     

    แต่จู่ๆมันก็ลุกขึ้นนั่งและหัวเราะก่อนจะเดินมาหาผมและยื่นโทรศัพท์มันมาให้ผมที่นอนอยู่...อะไรวะ?

     

    ผมรับมันมาดูแล้วก็เห็นไลน์ที่มันคุยกับพี่เซนาของมัน... ผมงง มองหน้ามัน

     

    “อะไรวะ? กูเล่นไลน์ไม่เป็น”

     

    “โธ่ ฮยอง กดเปิดคลิปเสียงตรงนั้นสิ ล่าสุดอะ”

     

    ผมมองหน้าจออีกครั้ง...อ่อ...ตรงนี้สินะ แล้วพอผมกดผมก็ต้องสะดุ้งโหยง ทุกคนในห้องจากที่นั่งๆนอนๆทำหน้าเอื่อยๆ ก็หันมาทำตาโตและสนใจโทรศัพท์ในมือผมทันที....

     

    เซฮุนคงจะเปิดเสียงดังสุดสินะ มันถึงได้ก้องไปทั้งห้องแบบนี้...

     

     “แบคคยอนชิ! ฉันจีจี้ค่ะ คนที่คุณช่วยฉันเอาไว้ไง! คนที่คุณอุ้มฉันพาเข้าห้องพยาบาลไปอ่ะค่ะ!! แบคคยอนชิ! ฉันปลาบปลื้มในตัวคุณมากก มากกกก ฉันเป็นแฟนคลับExoค่ะ แล้วคุณก็คือเมนหลักของฉัน ฉันปลื้มคุณมาก ปลื้มมากขึ้นไปอีกเมื่อได้รู้ว่าคุณเป็นคนช่วยชีวิตน้อยๆของฉันเอาไว้ ฉันไม่รู้ว่าจะขอบคุณคุณยังไงดี ก็เลยอัดเสียงนี่มาเพื่อขอบคุณผ่านเพื่อนฉันและผ่านน้องเซฮุนอีกที ขอบคุณจริงๆค่ะแบคคยอนชิ...ฉันคิดว่าฉันอาจจะไม่ได้เดินไปไหนมาไหนซักพักเพราะฉันโดนจับได้ว่าแอบไปฝั่งศลป.มา ฉันต้องโดนกักบริเวณแน่ๆเลยค่ะแบคคยอนชิ...แบคคยอนชิ...เรียกแบบนี้แล้วไม่ถนัดขอเรียกสามีเลยได้มั้ยค่ะ เอ้ย ล้อเล่น! ฉันก็เป็นคนแบบนี้แหละค่ะ อย่าคิดมากเลยนะ ฉันว่าฉันพูดเยอะไปละ ไร้สาระด้วย ฉันขอโทษค่ะแบคคยอนชิ...แต่เรียกแบคคยอนชิไม่ถนัดจริงๆอะ...คุณอายุมากกว่าฉันด้วยปีนึง เพราะงั้น...เรียกแบคคยอนอปป้าได้มั้ยค่ะ? แบคคยอนอปป้าค่ะฉันรู้ว่าช่วงนี้ต้องทำงานหนักเพราะใกล้คัมแบ็คแล้ว แต่พยายามเข้านะค่ะ ฉันจะเป็นกำลังใจให้อปป้าเอง! สู้ๆค่ะ!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×