คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : สวยกว่า
เธอคนนั้นอยู่ในหัวผมเกือบทั้งคืน...เว่อร์ไปละ มันก็ประมาณนั้นแหละ แต่ไม่ได้คิดทั้งคืนหรอกนะ
ผมนอนคิดว่าเธอเป็นใคร ผมนอนคิดว่าทำไมผมถึงคิดถึงเธออยู่ได้...ผมนอนคิดว่าผมจะชอบเธอเข้าให้แล้วหรือเปล่า... แต่ไมน่าจะใช่ เพราะเร็วเกินไป...ผมนอนคิดอยู่หลายอย่างเลยละ นอนคิดด้วยว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรดี นอนคิดว่าผมจะตายตอนซ้อนเต้นอีกมั้ย...นอนคิดว่าคอผมจะพังเมื่อไหร่..นอนคิดว่าทำไมผมถึงหล่อและน่ารักในเวลาเดียวกัน...
จนผมเผลอหลับไป และตื่นสายอีกตามเคย…
ปกติผมเป็นคนตื่นเช้านะครับ...แต่ช่วงนี้เหมือนจะเหนื่อยมากจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ...
ผมกับเพื่อนๆมาถึงตึกSMแล้วครับ แต่ยังไม่ได้กินอะไรเลย...เพราะงั้นเราจึงเดินตรงไปร้านอาหารของตึกทันที...ผมหาวไปเดินไปและสั่งอาหารไป...และก็ต้องตาสว่างทันทีเลย!
เพราะเธอคนนั้น คนที่ผมคิดอยู่ทั้งคืน...กำลังเดินเข้ามาในร้านอาหารเดียวกับผม!
ปกติร้านอาหารของเราไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่...เพราะมันไม่ค่อยอร่อยอะ ไม่รู้สิ ส่วนใหญ่เราจะสั่งกันมากินมากกว่า...แต่วันนี้สายก็เลย...ปกติก็สายทุกวันแต่ซูโฮฮยองจะสั่งอาหารเผื่อให้...โอ้ย ช่างเรื่องอาหารเถอะ!
เธอเข้าร้านมาเหมือนผมเลย...คือหาวไปเดินไป...เธอยังมองไม่เห็นผม...
แต่เธอเห็นจงแดที่นั่งรออาหารอยู่โต๊ะแล้ว โอ้! เธอช็อคและเดินถอยไปเกาะเพื่อนแขนตัวเองทันทีเลยครับ!
ชัดเลยแบบนี้! เอ็กซ์โซแฟน!
ผมรีบหันไปมองหน้าพยักงานที่กำลังส่งอาหารให้ผม...
ทำไมต้องเป็นแฟนคลับด้วยวะ..เซงเลย...ไม่สนุกเลย ไม่ชอบแล้วแบบนี้...เลิกคิดถึงเธอเถอะแบคคยอน
ผมหยิบถาดอาหารและเดินกลับไปที่โต๊ะ
เฮ้ย! เธอนั่งอยู่กับจงแด!! เฮ้ยๆๆๆ ไม่ใช่ละ! เป็นแฟนคลับก็รู้ขอบเขตหน่อยสิคุณ ที่นี่มันที่ทำงานนะ! ทำไมบริษัทถึงไม่กรองพวกซาแซงแบบนี้ก่อนนะ ครั้งก่อนก็เป็นเรื่องทีนึงละ ดีที่เธอลาออกไปเอง...
ผมง่วงและหิวด้วย จึงทำให้อารมณ์บูดมาก ผมก็คนนะครับ จะให้ยิ้มตลอดเวลานั่นก็ไม่ใช่คนแล้ว... ผมเดินถือถาดอาหารออกจากร้านไปแล้วก็ขึ้นไปห้องซ้อมทันที...
ผมโทรไปบอกจงแดว่าให้เดินตามมา...แล้วอย่าพูดอะไรเกี่ยวกับผมให้เธอรู้เด็ดขาด...ถึงยังไม่แน่ใจว่าเธอนั่งคุยกับจงแดเรื่องอะไรก็เถอะ...
จงแดตอบรับและไม่นานเขาก็มาสมทบกับพวกผมที่ห้องซ้อม…
“ใครวะ ผู้หญิงคนนั้น” ผมถามทันทีที่จงแดลงมาจัดการกับอาหาร
“เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนที่เป็นแฟนคลับที่ประเทศไทยที่เคยเล่าให้ฟังที่บอกว่าไม่เรื่องมากอ่ะ”
“อ๋อ คนนั้นหรอ...” ผมพูดเรียบๆก่อนจะตะคอกมันทั้งๆที่อาหารเต็มปาก “ไอ้ห่ากูจะรู้มั้ยว่าใคร!!”
มันหัวเราะเสียงดังก่อนจะเรียบเรียงใหม่ “เธอชื่อจีจี้ เป็นเพื่อนของ ขนมไทย และ เซนา มาเป็นเด็กฝึกการแสดงที่นี่...เพิ่งมาได้เมื่อไม่กี่วันเอง ฉันรู้แค่นี้แหละ เธอไม่ได้บอกอะไรต่อละเพราะนายโทรหาฉันพอดี”
“เธอไม่ใช่แฟนคลับพวกเราหรอ”
“ใช่สิ แฟนที่คลั่งมากๆเลยด้วย เพราะเธอคุยกับฉันแบบไม่หายใจเลยละ” มันหัวเราะชอบใจ
“มีแฟนคลับมาอยู่ในตึกด้วยรู้สึกแปลกๆอีกแล้ว”
“เหย...คิดมากหน่ามึง เธอไม่เข้ามายุ่งหรอก เพื่อนเธอน่ะขนมไทยดีจะตายไป”
แบคคยอนอยู่ไหน!! อย่าให้เจอนะ!! ฉันจะฉุดนายเข้าห้องน้ำเลยคอยดู!!
ฉันได้ที่กินข้าวเช้าใหม่แล้วค่ะ! ฉันตัดสินใจจะอดข้าวเช้าร้อนๆของพี่ซอนอินที่หอและมากินเบอร์เกอร์ที่ร้านใต้ตึกแทน! ฉันเจอจงแดแล้วนะ! แสดงว่าเข้าใกล้แบคคยอนมากขึ้นแล้ว ฮือ อยากร้องไห้
แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังทำบ้าอะไร...ฝึกพูดในที่สาธารณอยู่ค่ะ...กำลังจะถึงคิวฉันแล้วด้วย! แต่สมงสมองยังไม่เข้าที่เลย คนในห้องที่คอยให้กำลังใจมีประมาณ10คน...แต่สิบคนนี้ล้วนแต่ทำหน้าจิกกัดคอยจะกดดันมากกว่าให้กำลังใจอีก (ยกเว้นรูมเมทและพี่แคนดี้)
การชิงดีชิงเด่นของนักแสดงที่นี่...ไม่ใช่เรื่องชิวๆเลยจริงๆนะ..
“จีจี มาต่อเลยจ๊ะ แนะนำตัวและความสามารถพิเศษพร้อมทั้งงานอดิเรก อย่าลืมท่ายืนนะจ๊ะ อย่าลืมระดับของน้ำเสียงด้วย...พร้อมนะจ๊ะ” พี่แคนดี้เรียกฉันให้ออกไปพร้อมร่ายคาถายาว ฉันซึ่งคิดแค่ว่าจะฉุดแบคคยอนเข้าห้องน้ำยังไง เดินสั่นๆไปข้างหน้า...ทุกคนปรบมือ
ฉันยิ้มแห้งๆ...แก้มขวากระตุกแปลกๆ
“เอ่อ...ฉันจีจี้ค่ะ เป็นคนไทย น้ำหนัก...”
ฉันพูดบ้าอะไรก็ไม่รู้ ฉันจำไม่ได้เลยซักนิด...ฉันอยากเจอแบคคยอนจนตัวสั่น ฉันอยากเจอเขา อยากเจอเขามาก...แบคคยอนน้อยๆของฉันจะหาตัวยากเกินไปแล้ว ขนาดมาหาถึงข้างในตึกSMยังไม่เจอตัวเขาเลย ฉันว่าฉันลาออกแล้วกลับไปเป็นติ่งดักรอหน้าตึกดีกว่ามั้ย? แบบนั้นน่ะได้เจอชัวร์ๆเลย...
“ดีจ๊ะ ดีมากเลยจีจี”
กว่าจะได้สติกลับมาก็เมื่อทุกคนตบมือให้ฉันแล้ว...เอะ เกิดอะไรขึ้น?...
พี่แคนดี้ทำหน้าปลาบปลื้มให้ฉันจนฉันคิดว่าเธอจะร้องไห้ออกมาซะแล้ว...เมื่อฉันลงจากเวทีพี่ซอนอินก็รีบมาควงแขนฉันพร้อมรอยยิ้มสดใสของเธอ...
“จีจี เธอพูดได้เป็นธรรมชาติมาก! เธอทำได้ยังไง! มันไหลลื่นเหมือนแม่น้ำเลยจริงๆนะ! ไม่สะดุดตรงไหนเลยด้วย แถมฟังก็ไม่เบื่อเพราะเธอทำหน้าตลกๆบวกกับมุกฮาๆอีก..ฮะๆ”
อะไร? นี่ฉันทำตอนไหน? โอ้ย ช่างมันเถอะ แบคคยอนอ่ะ! แบคคยอนอยู่ไหน!!
“อยู่นี่!” ผมโยนโทรศัพท์ของเซฮุนที่มันหาอยู่ไปให้
มันรับพร้อมทำหน้าโล่งอกยังกะรู้ว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง
“พี่เจอที่ไหน?”
“ในซอกโซฟาที่ฉันนั่งนี่แหละ” ผมตอบส่งๆไป “ว่าแต่นายคุยกับใครอยู่หือ? เดี๋ยวเมเนก็จับได้หรอก ระวังหน่อย”
มันทำหน้ากังวลทันทีที่ผมพูดเรื่องนั้น มันลากตัวเองมานั่งแผละข้างๆผมอย่างเหนื่อยล้า
“ผมไม่ได้คุยกับแฟนซะหน่อย...เธอเป็นพี่สาวผมต่างหาก”
“หือ?” ผมสังเกตเห็นหน้าที่ผิดหวังของมันออก เซฮุนน่ะมองง่ายจะตายไป “น่าสงสารวะ ใครกันทำให้เซฮุนคนนี้ต้องทำหน้าเศร้าแบบนี้หา?”
มันยิ้มน้อยๆก่อนจะส่ายหน้าปกป้องเธอคนนั้น “เปล่าหรอกพี่ ไม่ใช่ความผิดเธอเลย...ผมเองยังไม่แน่ใจตัวเองด้วยซ้ำ”
“เอาเถอะ” ผมโอบไหล่มันเชิงปลอบโยน “นายอายุยังน้อย มีเวลาอีกเยอะแยะ ไม่ต้องรีบหรอก”
“หยุดเดทกันก่อนนะแบคฮุน” ครูสอนเต้นพวกเรามาแล้วครับ ผมกับเซฮุนรีบลุกขึ้นยืนทันที
และexoที่เหลือก็เดินตามหลังครูเข้ามา...สีหน้าทุกคนดูเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้ซ้อม
“เริ่มกันเลย จะได้ไม่เสียเวลา” ครูบอกและซูโฮฮยองก็เดินไปเปิดเพลงทันที...
ฉันอยากจะบ้าตาย! ไม่ได้จะไปเป็นมิสโคเรียนะค่ะ! ทำไมต้องให้เดินด้วยก้นกันละ!! โอ้ย เจ็บตูด เมื่อยขา ชาไปหมดแล้วเนี่ย...เฮ้อ...
พี่ซอนอินดูท่าจะอาการหนักกว่าฉัน หลังจากที่ครูฝึกให้เราพักเธอก็นั่งยืดขาและทุบมันตลอด...ฉันเองก็เหมือนกันแต่เพียงแค่ว่าในหัวฉันมันมีแต่เรื่องแบคคยอนเต็มไปหมด...
ฉันกำลังจะบ้าตายแล้วจริงๆ ฉันจะลงแดงแล้วนะ! เห็นรูปแบคคยอนหน้าตึกทุกวันแต่ตัวจริงไม่เคยเจอเลยซักครั้ง! จะลาออกจริงๆแล้ว! ไม่ไหวแล้วนะ! ปลีกตัวไปไหนก็ไม่ได้เลย! อยู่ในบริษัทใหญ่โตก็จริงแต่ใช้เวลาส่วนมากในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ... จีจี้พลาดละ มึงพลาดแล้ว!
“ฮึก...เหนื่อยจัง”
เสียงสะอื้นดังมาข้างๆ...ฉันหันไปเธอมองช้าๆ....ใครกันนะมาร้องไห้ตอนฉันกำลังจะลงแดงแบบนี้...
“มินจอง...” ฉันเรียกชื่อเธอเบาๆพลางเข้าไปปลอบทันที จากที่กำลังจะเป็นนางยักษ์ก็กลายเป็นนางฟ้าซะก่อน
มินจองเป็นรูมเมทฉันอีกคน เธออายุเท่าฉันและเธอมีนิสัยที่ค่อนข้างเงียบ...ความจริงรูมเมทของฉันทุกคนก็เงียบหมดนั้นแหละ...แต่เธอคนนี้เงียบเป็นพิเศษ
“จีจี...ฉันทรมานจังเลย เมื่อไหร่พวกเราจะได้ออกหน้าจอทีวีกันละ...เรายังสวยไม่พอหรือไง ฉันเหนื่อย”
“ชูว ชูว ไม่ร้องนะ เดี๋ยวครูฝึกมาเห็นเข้าจะยิ่งไปกันใหญ่” ฉันรีบเอาตัวมาบังเธอไว้ “ฉันรู้ว่าเธอเข้ามาฝึกที่นี่นานแล้ว...แต่ฉันว่าซักวันก็ต้องเป็นวันของเธอมินจอง อดทนอีกนิดนะ ฉันเองก็บอกไม่ได้หรอกว่าอีกนานแค่ไหน...แต่มันต้องมีวันนั้น”
ฉันพูดให้กำลังใจเธอเร็วๆและเต็มที่ เพราะกลัวว่านักแสดงคนอื่นๆจะเห็นและพากันร้องไห้ไปหมด...
ต้องยอมรับเลยว่าที่นี่ฝึกค่อนข้างโหด...มีอะไรก็พูดตรงๆ ใครปากเบี้ยว ใครเหงือกล่อก็ชี้หน้าและพูดตรงนั้นเลย...ฉันยังเคยโดน แต่ไม่รู้สึกอะไร ผิดกับมินจองเธอจิตใจอ่อนไหว...โดนครูฝึกมองด้วยหางตาอย่างเหยียดหยามเธอก็แทบจะเป็นลม...แบบนี้ไงเธอถึงยังไม่ไปไหนซักที...
“มินจองเธอต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้นะ...อย่าให้ใครมาเห็นว่าเธออ่อนแอ” ฉันบอกจากใจจริง เป็นห่วงมินจองที่สุดแล้วในกลุ่ม...เธอบอบบางเกินกว่าจะอยู่ในสังคมแบบนี้
“อื้อ...ขอบใจนะจีจี...เธอดีกับฉันมากเลย” เธอปาดน้ำตาออกและหยุดสะอื้น “พาฉันไปห้องน้ำหน่อยได้มั้ย”
“ได้สิ”
“มึงจะไปไหน” ผมและเพื่อนๆกำลังนั่งพักหายใจ ครูสอนเต้นพวกเราออกไปไหนไม่รู้ และคาดว่าจะกลับมาเร็วๆนี้ เพราะพี่แกไม่เคยพลาดเรื่องเวลา บอกพัก10นาที คือ 10นาทีจริงๆ...
“ไปฝั่งนักแสดง” ชานยอลหันมาตอบผม น้ำตามันคลอด้วย...แปลกๆละ เพื่อนๆที่เหลือเงียบแต่ผมรู้ว่าพวกมันอยากให้ผมถามอะไรต่อ...
“ทะเลาะกันอีกแล้วหรอ”
ชานยอลเงียบอยู่นานกว่าจะตอบ...
“เปล่า” มันเสียงสั่น “แต่เลิกกันเลย”
ทั้งห้องเงียบ...เงียบจนผมได้ยินเสียงไลน์จากโทรศัพท์เซฮุนดังเหมือนเสียงระเบิด...ทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่างและหันไปมองชานยอลกันเป็นตาเดียว...
“ชานยอล” เสียงซูโฮฮยอง เขาเดินเข้าไปใกล้ๆชานยอล “เดี๋ยวเก็บเรื่องนี้ไว้คุยที่--”
“ที่หอคงไม่ทันหรอกฮยอง” ชานยอลตอบเสียงเรียบ “ผมว่าผมไม่ทัน...”
“อะไรไม่ทัน” ผมเองที่ถาม ผมลุกขึ้นยืนบ้าง ผมกลัวมาก...กลัวที่สุดเลยว่าหมอนี่จะทำอะไรแปลกๆ “มึงจะไปไหน!”
มันวิ่งออกจากห้องไปแล้ว! ผมรีบหันไปบอกกับเพื่อนๆว่าผมจะตามมันไปเอง ดังนั้นเราสองคนจึงวิ่งไล่กันทั้งๆที่เหนื่อยจากการซ้อมแทบตาย
ผมวิ่งตามชานยอลไม่ทัน ได้แค่ตะโกน...ที่เบาเหลือเกินเพราะผมกลัวว่าคนอื่นจะรู้...รู้เรื่องที่ชานยอลมีแฟน..ผมวิ่งตามมันไปเรื่อยๆ ภาวนาให้มันหยุดวิ่งเร็วๆนี้เถอะ ผมจะตายแล้ว
และมันก็หยุด หยุดตรงหน้าประตูห้องที่นักแสดงกำลังฝึกอะไรบางอย่าง...ผมมองเข้าไปข้างใน เห็นพวกเธอนั่งพักกันเกลื่อนกลาดเต็มพื้นห้อง...แต่ละคนมีทำหน้าเหนื่อยสุดๆไม่แพ้พวกเราเลย...
ชานยอลจ้องลูกบิดประตูอยู่นาน จนกระทั่งมันทำท่าจะยื่นมือไปบิด
“ชานยอล!” ผมรีบเรียกสติมัน “อย่าเพิ่งเลยชานยอล...นายแค่ทะเลาะกันเฉยๆ...เดี๋ยวก็ดีกัน อย่าให้มันกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนในบริษัทรู้เลย...อย่าเลย”
ผมพูดไปหอบไป...ขอร้องละชานยอล...คิดให้ได้หน่อย รู้ว่านายเจ็บมากแค่ไหน แต่มันจะเจ็บและปวดหันมากกว่านี้ถ้าเรื่องมันแดง...
มันชะงักมือตัวเอง...ค้างอยู่กลางอากาศ...น้ำตามันไหลอย่างน่าสงสาร
ผมเดินไปจับมือที่ค้างอยู่ของมัน...ก่อนจะลากกลับห้องซ้อมตามเดิม...
“ไม่เป็นไรแล้วใช่ปะ” ฉันส่งเสียงร่าเริงใส่มินจองที่เพิ่งล้างหน้าล้างตาเสร็จ เธอดีขึ้นแล้วหลังจากที่ได้ยินมุกแป้กๆของฉันไปสองสามมุก ไม่อยากเชื่อว่าเธอหัวเราะมันได้ยังไง...ถ้าเป็นขนมไทยกับกรกตป่านนี้แม่งยืนไว้อาลัยกับมุกฉันชาตินึงได้แล้วมั้ง
พวกเราสองคนเพิ่งเดินกลับเข้ามาในห้อง แต่ก็เห็นทุกคนลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสายเหมือนการฝึกรอบที่สองกำลังจะเริ่ม...
ฉันส่งสายตาที่เต็มไปด้วยไฟลุกโฉดช่วงไปให้มินจองเผื่อเธอจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง...
“สองคนนั้นมัวทำอะไรอยู่ รีบๆวอร์มเข้าสิ” เสียงแหลมสูงมาจากครูฝึกทำเอาสะดุ้งโหยง
พวกเราจึงเริ่มยืดเส้นยืดสายทันที...
“แบคคยอน! ชานยอล!” เสียงครูหันมาเรียกสติผมกับชานยอลเป็นรอบที่สาม... และมันเริ่มดูตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ
ชานยอลที่กำลังเศร้าหนักพยายามตีหน้าเข้มและเต้นให้ถูกจังหวะ...
ส่วนผมที่ไม่ได้เจออะไรมากมายสติกลับไม่อยู่กับเนื้อตัวเหมือนกัน...
ที่ผมรีบลากมือชานยอลกลับมา...เพราะผมเห็นร่างของเธอเดินออกมาจากห้องน้ำหญิง ผมจึงกล้าเข้าไปลากมือชานยอลทั้งยังงั้นกลับมา...ผมไม่รู้ว่าเธอเห็นแผ่นหลังของผมหรือเปล่า แต่ผมว่าไม่ เพราะตอนหลังผมวิ่งเลยละ...วิ่งลากชานยอลออกมา...ชานยอลที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็วิ่งตามผมมาเรื่อยๆ เขาคงคิดว่าผมกลัวจะมาไม่ทันครู...
ไม่เลย ผมวิ่งหนีเธอต่างหาก...ว่าแต่ผมจะหนีเธอทำไมวะ?
“แบคคยอน!”
“ขอโทษคร้าบ!”
“กลับเถอะจีจี...” พี่ซอนอินบอกฉันเป็นรอบที่เจ็ด....
“บอกแล้วว่าไม่ต้องรอเป็นเพื่อน พี่น่ะกลับไปทำซุปอุ่นๆรอฉันที่ห้องก่อนได้เลย”
ฉันยืนอยู่หน้าตึกกับพี่ซอนอินและกับฝูงแฟนๆของexo snsd shinee บลาๆเยอะแยะ...ทำไมวันนี้นัดกันมาตรึมเลยวะ...หรือปกติ? ไอเราก็ไม่เคยมาเฝ้าถึงหน้าตึกกับเขาเลยด้วย...
“แต่นี่ดึกมากแล้วนะ เธอจะกลับคนเดียวยังไง” พี่ซอนอินดูเป็นห่วงฉันมากกว่าตัวเอง...แต่หารู้ไม่ว่าฉันน่ะเพื่อผู้ชายแล้วจะถึกขึ้นมาอีกสิบเท่า...จากที่ถึกอยู่แล้วด้วย
“ขอร้องละค่ะพี่ซอนอิน ไหว้ละ” ฉันไหว้พี่เขาจริงๆนะ “กลับไปก่อนเถอะค้า ทำแบบนี้แล้วหนูยิ่งไม่สบายใจ จริงๆนะพี่นะ”
ฉันอ้อนจนพี่เขากลับไปจนได้...แต่กว่าจะกลับได้ก็เล่นซะเกือบกลายเป็นนางยักษ์ไปเลย...ความจริงตั้งแต่มาอยู่เกาหลีนี่เป็นนางฟ้าตลอดเลยนะ...เจอแต่คนดีๆทำตัวแย่ๆไม่ออกเลย...
เอาละจีจี้...คราวนี้แหละ! ต้องเจอให้ได้ ไม่เจอนี่กลับไปร้องไห้ใส่อ้อมอกที่ซอนอินแน่ๆอ่ะ
ดึกแค่ไหนก็สู้ค่ะ เพื่อแบคคยอน เบเบ่!!
“แฟนคลับใครหรอ?” มีเด็กกลุ่มหนึ่งเดินมาถามฉันพร้อมอวดเลนส์ยาวเป็นหางว่าว...ในมือพวกนางยังมีของมากมายเต็มอ้อมแขน...
“เอ่อ...เปล่าจ๊ะ มารอเพื่อนเฉยๆ”
“เอ่าหรอ” เด็กหน้าสุดทำหน้าเซงๆ “นึกว่าเป็นแฟนคลับ จะสั่งสอนซะหน่อยทำไมถึงมาตัวเปล่าแบบนี้ อปป้าพวกเราไม่ได้มีไว้ให้ดูเฉยๆหรอกนะ เทคแคร์อ่ะค่ะ รู้จักมั้ย? เทคแคร์”
ขอบใจนะๆเด็ก ในที่สุดฉันก็กลายเป็นนางยักษ์ได้ซะที... นางยักษ์คนนี้กำลังยิ้มให้พวกเธอ
“แล้วน้องๆเป็นแฟนใครหรอจ๊ะ?” นางยักษ์คนนี้กำลังจะกินหัวพวกเธอ... “เดาเลยว่า...”
“ไม่ต้องเดาหรอกค่ะ” เด็กนางนึงสะบัดผมก่อนพูด “ใครๆก็รู้ว่าพวกหนูแฟนคลับอันดับหนึ่งของExo พวกอปป้าเขาจำพวกเราได้แม่นหมดทุกคนเลยด้วยค่ะ”
“หรอจ๊ะ แหม...ดีจังเลย ฉันอยากจะให้พวกเขาจำฉันได้บ้างจัง”
“อย่าเลยค่ะ หนูว่าทำให้เรื่องยุ่งไปเปล่าๆ ดูหน้าแล้วไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ยค่ะ?” นางเหยียดสายตาเล็กๆนั่นมามองฉันอย่างเหยียดหยาม...
“หนูเบื่อพวกต่างประเทศมาก” นางอีกคนนึงพูดแทรกขึ้นมา “พวกเธอเอาภาพอปป้าของเราไปแก้ไขและเขียนเครดิตเป็นของตัวเอง หน้าไม่อาย! นังหน้าด้าน!”
“มึงด่าใครอีเด็กเปรต ทำไมมองหน้ากูละ แล้วถ้าจะมาหวงของตอนปล่อยไปแล้วทีหลังก็อย่าปล่อยสิ” เสียงฉันเองค่ะ แต่เป็นภาษาไทย...และเป็นน้ำเสียงที่ดูแล้วไม่รุนแรง ยัยเด็กพวกนั่นหัวเราะกับภาษาแปลกๆนี่ลั่น
“อะไรอะ” นางนึงพยายามกลั้นหัวเราะไปพูดไป “พี่พูดภาษาอะไรอะ? แล้วมันแปลว่าอะไร?”
“แปลว่าคนที่เอารูปน้องไปทำแบบนั้นเป็นคนไม่ดีเลยจ๊ะ”
“ใช่มะ!” เด็กหญิงนางนึงใส่อารมณ์ “เกลี๊ยดเกลี๊ยดค่ะ ทีหลังจะไม่ลงแล้ว”
“ยังกะรูปที่มึงถ่ายเป็นรูปมึงเองงั้นแหละ”
“อะไรนะค่ะ? แปลว่าอะไรอ่ะ?”
“แปลว่าคิดถูกแล้วจ๊ะที่ทำแบบนั้น”
“อ่อ หรอค่ะ พี่นี่ตลกดีนะ แต่หนูก็ยังไม่ชอบหน้าอยู่ดี” ทั้งแก๊งหัวเราะเยาะฉันใหญ่...ก่อนจะหันกลับไปสนใจศลป.ที่เดินออกมาจากตึก...อนยูชายนี่...
คนต่อไป เจสสิก้า snsd ....
“มาแล้วๆ” เด็กๆตรงหน้าฉันต่างกระโดดดี๊ด๊ากันใหญ่...แฟนคลับexo
กรี๊ดดดดดดดดดด กูก็แฟนคลับexoนี่หว่า!!
ฉันต้องเก็บอาการติ่งอย่างมาก! เพราะฉันเองก็เป็นเด็กฝึกที่นี่ บวกกับต้องวางมาดไม่ให้อีเด็กพวกนี้รู้ตัวด้วย! โอ้ย อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย!
นั่นไค! โอ้ยยย หล่อ ขนาดไม่แต่งหน้ายังหล่อ! หล่อเพราะราศีจับ โอ้ยจิเป็นลม
พลั่ก!
“ออกไปสิป้า! มายืนชะเง้อมองอปป้าพวกหนูทำไม” เด็กกลุ่มเดิมผลักฉันออกไปจนล้มก้นจ้ำเบ้า...
ฉันรีบลุกขึ้นมากระชากหัวนังนั่นหงาย... อุ๊ปส์ ลืมตัว...
“ป้าทำอะไร!” เด็กนั่นมองหน้าฉันเขม็ง...แต่เธอไม่สนใจฉันนานเพราะเธอรีบวิ่งตามไคที่กำลังขึ้นรถไป และสุดท้ายเธอก็พลาดจะให้ของกับไค สะใจชะมัด
แต่ไม่ทันที่เด็กนั่นจะกลับมาแวดใส่ฉันต่อ เลย์ก็เดินตามออกมาติดๆ...
หอยหลอด!! ขาว! หล่อ! น่ารัก! โอ้ย นั่นๆๆ ยิ้มให้แฟนๆด้วย! รับของด้วย!! อปป้าค่ะ หนูก็อยากทำแบบนั้นบ้าง T T อปป้าค่ะยิ้มให้ฉันบ้างสิ!
เป็นแฟนคลับที่ต้องเก็บอาการนี่มันทรมานชิบหาย...เข้าใจหัวอกของกรกตเลย
เด็กนั่นรีบเอาของที่จะให้ไคเมื่อกี้ยัดใส่มือเลย์ใหญ่เลย...ตลกและอิจฉามากๆ...
เลย์ขึ้นรถคันเดียวกับไคไป... เด็กนั่นจึงพาแก๊งของมันมาล้อมฉันทันที...โอ้ย อยากหัวเราะอ่ะ เพราะฉันไม่กลัวเลยซักนิด...
“เมื่อกี้ป้าหาเรื่องหรอ!”
“เปล่า กระดุมเสื้อพี่มันไปติดกับผมน้องพอดีน่ะ...”
“....แล้วไป”
สาบานให้ตายเลยว่าฉันเห็นแววตาของเด็กนั่นกลัวฉัน...มันจึงรีบๆจบเรื่อง โอ้ย ขำ แต่ต้องกลั้นขำ ชีวิตกูเป็นอะไรมากมั้ย...
ไม่นานก็มีลู่หานเดินออกมา...แต่เด็กๆไม่เข้าไปรุม เอาแต่เรียกชื่อและโบกมือให้เฉยๆ เอ๊ะ ทำไม? นั่นลู่หานเชียวนะ..
ว่าแต่ทำไม...ฉันต้องหันหลังให้เขาด้วยเนี่ย เกร้ดดดด อยากกัดขาตัวเอง นี่ฉันยังฝังใจเรื่องในผับครั้งนั้นไม่หายอีกหรอเนี่ย!...ฉันจะไม่กล้ามองหน้าลู่หานไปอีกนานแค่ไหน!...แล้วรูปของเขาน่ะ เมื่อไหร่จะจ้องตรงๆได้ซักที! เป็นเอามากนะฉันเนี่ย
“ไม่มีใครเมนพี่ลู่หรอ?” เด็กกลุ่มเดิมพูด “พี่เซฮุนก็ไม่มีหรอ? ทำไมวันนี้มาไม่ครบ! กลับไปจะสั่งสอนให้ยับเลยคอยดู!”
“นั่นๆเซฮุนออกมาแล้ว!” เด็กตะโกนกันใหญ่ นี่ขนาดไม่มีใครเมนเซฮุนนะ
ฉันหันกลับไปมองเซฮุนเต็มๆตา...เหมือนที่กรกตบรรยายไว้ในตอนแรกเปี๊ยบ...ความรู้สึกเดียวกันเลยคือ หล่อและขาวมาก ดูแมนอย่างไม่น่าเชื่อด้วย...
“เซฮุนอปป้า!”
“เซฮุนน่า~”
“เซฮุน ซารังเฮ เซฮุนแดบัก”
เซฮุนเดินรีบๆพร้อมรับของจากแฟนๆ...ไหนบอกไม่มีใครเมนเซฮุนแล้วของพวกนั้นเตรียมให้ใครยะ
“ป้าจ้องอปป้าพวกหนูอีกแล้ว!” ยัยเด็กคนนึงที่ไม่มีของจะให้ก็เลยหันมาสังเกตเห็นฉันเต็มๆ “ป้าไม่มีสิทธิ์จะเป็นแฟนของอปป้าหนูหรอก อปป้าหนูไม่สนใจป้าเลยเห็นปะ เขารักพวกหนูมากกว่าอีก” มันส่งสายตาภูมิอกภูมิใจมาเหยียดหยามฉัน...
อีสลิด...
“เซฮุน!” เสียงฉันแทรกเสียงพวกเด็กๆ แต่มันก็เหมือนเสียงแฟนคลับทั่วๆไปอ่ะนะ เซฮุนไม่ได้หันมามอง มัวแต่รีบๆรับของ... เด็กที่ยืนข้างๆฉันถลึงตาใส่จนดวงตาแทบจะหลุดออกมากลิ้งข้างนอก...
ทำไม โมโหหรอ? เรียกเซฮุนบ้างไม่พอใจหรอ?
“เซฮุน! เซนาบอกว่าคิดถึงอ่ะ!!” ตะโกนไปแทบกรี๊ดเพื่อให้เขาได้ยิน...
มันต้องได้ยินอยู่แล้วใกล้กันแค่นี้เอง...แค่เขามีเด็กล้อมรอบเท่านั้นเอง...ต้องได้ยินสิ
“กรี๊ดดดดด” เสียงเด็กที่ยืนข้างๆฉันกรีดร้องอย่างโกรธเคืองระคนตกใจ
เซฮุนหันมามองฉัน! สบตากับฉัน! แล้วก็!!
ยิ้มเขินก่อนจะก้มหน้าแดงๆของเขาหายลับเข้าไปในรถ!!!
อีนังกรกต!!!!! กูจะฆ่ามึง!!!!
ได้เวลากลับหอไปนอนแล้ว...แต่ผม จงแด และชานยอลยังนั่งกันอยู่ในห้องซ้อม และไม่มีท่าทีว่าจะกลับด้วย...ชานยอลร้องสะอึกสะอื้น...พวกผมได้แค่มองและนั่งข้างๆ
สรุปที่บอกว่าเลิก...คือเลิกจริงๆ...
และที่เลิกไม่ใช่เพราะอะไรเลย...อีกฝ่ายเขาบอกว่า...
“เบื่อคำเดียวเลย!” ชานยอลเล่าเป็นรอบที่สาม “คนอื่นก็ไม่มี คนมาจีบก็ไม่มี เรื่องงานก็ไม่น่าจะใช่...ว่าแต่ฉันจะคิดมากทำไม! ก็เธอบอกอยู่แล้วนี่เลิกกับฉันก็เพราะเบื่อน่ะ!”
“ใจเย็นสิมึง” ผมพูดประโยคนี้หลายรอบมาก “เอาจริงๆมึงคบคนนี้ได้ไม่นานเองนะเว้ย มึงเป็นเอามากเกินไปละชานยอล...”
“ก็กูรักใครรักหมดเลยอ่ะ” ชานยอลเถียงไปน้ำมูกน้ำตาไหลไป “หรือเพรากูโง่เองวะ!”
“กูก็เบื่อมึงเหมือนกันวะ” จงแดพูดขึ้นบ้าง... ออกจะโหดร้ายไปหน่อยแต่เราลองปลอบชานยอลมาหลากหลายรูปแบบแล้วนะ จงแดพูดต่อ “มึงมีค่ามากกว่าจะมานั่งร้องไห้เพราะเรื่องผู้หญิงที่คบกันยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ”
“ยังไงวะ...กูยังมองไม่เห็นค่าของตัวเองเลย...กูรู้แค่ว่ากูน่าเบื่อ...”
“ใช่มึงน่าเบื่อ!” จงแดลุกขึ้นยืน “แต่มึงรู้มั้ยว่าซักวันก็จะมีผู้หญิงที่ชอบและรักความน่าเบื่อของมึงได้! มึงแค่ตัดใจจากเธอคนนี้แล้วยอมรับความจริงซะ มีชีวิตต่อไป กลับมาเป็นชานยอลคนเดิมทีเถอะ กูจะเบื่อมึงที่มึงเป็นแบบนี้นั้นแหละ”
“ใจเย็นเฉิน” ผมยืนขึ้นห้ามมัน พูดเกินไปละ... “เราไม่เคยอกหักเราไม่รู้หรอก...แล้วก็ชานยอล หยุดร้องเถอะมันดูอ่อนแอ..ถึงนายจะน่าเบื่อสำหรับเธอ แต่สำหรับพวกเรานายมีค่ามากเลยนะ...ขาดนายไปเราก็ไม่ใช่exoเหมือนเดิม...ฉันรู้ว่ามันแทนกันไม่ได้ นั่นแฟน นี่เพื่อน...แต่มันก็ความรักเหมือนกันป่าววะ พวกกู11คนรักมึง ยังไม่พอที่ผู้หญิงคนเดียวคนนั้นรักหรอไงวะ?”
ถือว่าผมพูดดี...เพราะจงแดร้องไห้ไปอีกคนแล้ว...ผมเองก็น้ำตาคลอ...
ช่วงนี้พวกเราทำงานหนักมาก นอนก็ดึก ซ้อมก็ไม่มีลิมิต...ไหนจะต้องปั้นหน้ายิ้มๆเพื่อให้แฟนๆได้สบายใจอีก...เหนื่อยจริงๆ...เหนื่อยทั้งกายและใจ ไม่แปลกที่ชานยอลจะฟูมฟามมากขนาดนี้...
“แบค...” ชานยอลพูดเบาๆ
“อะไร”
“กูรักมึงวะ”
แล้วผมก็ร้องจนได้ บัดสบ!!
“มึงทำให้กูตาสว่าง...กูขอโทษ” มันยืนขึ้นเหมือนพวกผม “จงแดกูขอโทษ กูเข้าใจที่มึงจะพยายามสื่อให้กู...แต่กูไม่ยอมรับรู้เอง กูขอโทษ แต่ตอนนี้กูโอเคแล้ว ขอบคุณพวกมึงมากจริงๆ”
นี่พวกเราสามคนทำบ้าอะไรอยู่? กอดกันกลมยังกะนัดกันจะไปตาย...
สุดท้ายเราก็ยอมนอนที่บริษัท...เพราะไอชานยอลบากหน้าบวมๆของมันไปเจอแฟนๆไม่ไหว...
ดีใจนะ ที่มันเริ่มคิดถึงตัวเองแล้ว...
“ฮือออ ฮืออออ ฮึก ฮืออออ แงงงงงง” ฉันเองค่ะจีจี้ กำลังซบอกแบนๆของพี่ซอนอินและร้องไห้โฮ ร้องไห้จริงๆนะไม่ได้โม้เลย ก็บอกว่าถ้าไม่เจอแบคคยอนจะกลับมาร้องไง...
รอจนถึงตีสามกว่าๆ...ไม่ไหวเลยถอดใจ...
ส่วนพี่ซอนอินก็ใจดีพอได้ยินเสียงฉันกลับมา เธอก็ตื่นมาดู...ฉันจึงถลาเข้าใส่อกพี่เขาทันที...
“อย่าร้องเยอะนะ พรุ่งนี้เราต้องเทสหน้ากล้อง...”
“หา!” ฉันเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาจ้องพี่ซอนอิน “อะไรนะ!”
“อย่าร้อง เดี๋ยวพรุ่งนี้หน้าบวม เราจะมีถ่ายแบบ ไม่เชิงว่าได้ลงนิตรสารที่ไหนหรอก แค่ทางบริษัทจะถ่ายเก็บไว้เฉยๆน่ะ”
“ทะ-ทะ-ทะ-ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ใจเย็นๆ ไปล้างหน้าล้างตาฉีดน้ำแร่บำรุงผิวแล้วหลับซะจีจี”
วันต่อมา
“แบค มึงหลบๆซ่อนๆใครวะ” คริสฮยองจากแดนมังกรเอ่ยขึ้นในขณะที่ผมเดินตามหลังเขาลงจากรถไปเข้าตึกแบบแนบชิด...ชิดจนแฟนๆที่ดักรออยู่กรี๊ดลั่น...
แล้วพอผมเข้าในตึกและต้องผ่านร้านตรงนั้น...ผมก็เดินควงคริสฮยองพยายามใช้ด้านข้างของเขาบังตัวผม...และมันบังได้มิดด้วยละ คิดดูว่าคริสฮยองตัวเท่าควายแค่ไหน...
“เปล่า...ผมแค่อยากเซอร์วิสแฟนๆ” แก้ตัวเมื่ออยู่ในลิฟกันแล้ว
“อย่าโกหกกู บอกมาซะดีๆ” คริสฮยองขู่และทำตัวเหมือนมาเฟีย...แต่ผมไม่กลัวหรอก คริสฮยองตัวจริงใจดีจะตาย...
“ไม่ได้โกหกจริงๆ...โอเคๆ ผมไม่ได้หลบแค่ผมไม่อยากเจอ”
“ใคร?”
“แฟนคลับที่อยู่ในตึกนี้อะครับ”
“คนไหน?”
“ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเธอชื่ออะไร” เปล่าเลย ผมจำได้แม่นว่าเธอชื่ออะไร จงแดเคยเล่าให้ฟังแล้ว “แต่เธออยู่ฝั่งนักแสดง”
คริสฮยองทำหน้าเหมือนพยายามนึกให้ออก...โธ่ ฮยอง คนอย่างฮยองที่สนใจแต่เรื่องเสื้อผ้ากับเรื่องสไตล์น่ะ จำใครไม่ได้หรอก...ชื่อพวกผมทั้ง11คนใช้เวลานานกี่ปีถึงจะเรียกถูกครับ...
ติงต่อง
เสียงลิฟเปิดเพราะมีคนกดจะขึ้นไปชั้นบนเหมือนพวกผม...แต่พอเปิดเท่านั้นแหละ!
ผมรีบถลาพุ่งไปกดปุ่มปิดรัวๆๆๆ
ดีมากเลยที่พวกเธอทั้งหมดยืนโม้จนไม่ได้สนใจคนข้างในลิฟ...
ผมเห็นเธอ...เห็นแค่ด้านข้าง...แบบค่อนข้างใกล้เพราะเธอยืนใกล้ประตูลิฟ โชคดีมากที่เธอไม่หันมามองว่าใครอยู่ข้างใน โชคดีมากที่กำลังโม้อย่างเมามันกับเพื่อนของเธอ...
“ไอเชี่ยแบค! กูนึกไม่ออก คนไหนบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ!”
อ่าว นี่คริสฮยองยังนึกถึงเธออยู่อีกหรอ...นั่นเขารู้มั้ยว่าลิฟเปิดออกแล้วถูกปิดทันทีด้วยฝีมือผมน่ะ...เขารู้หรือเปล่าว่าผมทำหน้าสะพรึงแค่ไหนตอนเห็นใบหน้าข้างของเธอ...
“เอ่อ...ไว้ผมเจอแล้วจะชี้ให้ฮยองดูนะครับ”
“เออดีมาก”
ตอนบ่ายของวัน...ก่อนจะเริ่มซ้อมเต้น
“แบคคยอน” โดดีโอตาโตเรียกผมเมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้นยืนจากโซฟาเพื่อยืดแขนยืดขา
“มีอะไรดีโอ”
“ฉันอยากไปดูเบื้องหลังการทำงานของผู้กำกับเค ได้ข่าวว่าเขาลงมือกำกับเองเพื่อให้ผู้กำกับรุ่นน้องดูน่ะ”
“แล้วไง?”
“ไปด้วยกันหน่อยสิคร้าบ~” มันใช้ไม้ตายของมันแล้ว! มันใช้หน้าตาน่ารักๆของมันแล้ว! โอ้ย รำคาญมาก! เสือกน่ารักกว่าผมได้ไงวะ! ทีตอนหน้าตายๆละก็ดูน่ากลัวเชียว ผมบอกเลยครับว่าไม่มีexoคนไหนทนกับท่าไม้ตายของหมอนี่ได้... ตายเรียบสมกับเป็นท่าไม้ตายจริงๆ...
ผมกับดีโอเดินขึ้นไปชั้นถ่ายทำ เพราะมันอยู่แค่ชั้นบนชั้นเดียวเอง...
ผมกับดีโอค่อยๆแง้มเข้าไปดูข้างในห้องที่กำลังส่งเสียงเอะอะ อือหือ คนเพียบเลย...ทั้งนักแสดงหนุ่มนักแสดงสาวแต่ที่ดูมากกว่าคือจะเป็นคนกำกับที่อยู่เบื้องหลัง...บางคนแค่ยืนนิ่งๆและจ้องมองไปยังผู้กำกับเคที่นั่งถือลำโพงในมือ บางคนก็วิ่ง เดิน วุ่นวาย...
ผมกับดีโอค่อยๆเดินไปข้างในและแอบไปหลบอยู่ที่มุมมืดของห้องเงียบๆ...ดีโอดูตื่นตาตื่นใจเบื้องหลังมาก
แต่ผมสนใจเบื้องหน้ามากกว่า...
ผมเห็นเธอยืนให้ช่างแต่งหน้าปัดแก้มอยู่...ผมเห็นตั้งแต่แง้มประตูดูแล้วละ...ผมจำร่างของเธอได้
ผมมั่นใจเลยว่าเธอไม่เห็นผมหรอก เพราะพื้นที่ที่เธอยืนอยู่มันมีไฟสปอร์ตไลท์ส่องสว่างจ้าจนมองมาข้างหน้าไม่ชัด...ผมรู้เพราะผมก็เคยยืนที่ตรงนั้น...
ผมมองเห็นเธอชัดดี...เต็มตาเลยละ เธอดูสบายๆนะ ในขณะที่เพื่อนๆของเธอตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่
นั่น...เธอยังมีเวลามาทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อนอีก...เพื่อนๆเธอขำเธอกันใหญ่เลย มันตลกดีเหมือนกันแฮะ
“นายหัวเราะอะไร” เสียงดีโอดังมา
“หือ?...เอ่าหรอ..เปล่านี่”
ผมรีบแก้ตัวไปเนียนๆ...นี่กูหัวเราะด้วยหรอวะ...
ไม่นานผู้กำกับก็สั่งแสตนอินและสแตนบาย คนเบื้องหลังเริ่มหยุดเดินและจ้องไปยังจุดๆเดียว นั่นก็คือจุดที่นักแสดงกำลังโพสท่าต่างๆ กลุ่มแรกเป็นนักแสดงชาย...
ดูดีเว่อร์ หน้าเป๊ะมาก แล้วขาจะยาวไปไหนน่ะ...
ผมยืนดูกับดีโอไปเรื่อยๆก็เพลินดีนะครับ ผู้กำกับเคก็เป็นคนตลกด้วย เป็นการถ่ายแบบที่ไม่เครียดเลยจริงๆ
กลุ่มต่อมาคือนักแสดงหญิง...
สายตาผมมองที่จุดๆเดียวทันที...นั่นคือเธอ
ผมเพิ่งเห็นว่าเธอแต่งหน้าแล้วดู...ดูสวยขนาดนี้ ผมเห็นแต่หน้าเปล่าๆของเธอ ไม่เคยเห็นเธอจัดหนัก...สวยจริงๆอะ...สวยมาก
“ไปเถอะ” จู่ๆดีโอก็ลากมือผม แต่
“เดี๋ยวสิ! ยังไม่จบเลยไม่ใช่หรอ!”
ดีโอหันมามองหน้าผมงงๆ เออกูรู้ว่ากูแปลก...แต่อยากดูต่อจริงๆอะ
ดีโอดีอยู่อย่างคือไม่ถามมาก...เขายอมยืนดูต่อเป็นเพื่อนผม...แลกกันนะดีโอ ฉันมาดูเพื่อนายสุดท้ายนายก็ดูเพื่อฉัน...
“น้องจีจีอย่าแอบทำสองนิ้ว ผมเห็นนะ! ฮ่าๆๆๆๆ” ผู้กำกับอารมร์ดีแซวเธอ...
เธอหัวเราะเสียงดังแบบไม่อายชาวบ้าน...แต่มันก็เป็นเสียงหัวเราะที่ดูไม่น่าเกลียด...
“ก็อยากให้ผู้กำกับเห็นไงค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”
ผมได้ยินเธอตะโกนตอบ...ทุกคนหัวเราะคิกคักกันใหญ่เลย...รวมถึงผม...รวมถึงดีโอด้วย
(โอ้ยเมื่อไหร่จะเจอ 5555555555 ตอนต่อไปๆ)
ความคิดเห็น