ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC Exo x You) Kill me มายเฟรน! (Sehun,Kris,Chanyeol)

    ลำดับตอนที่ #12 : สวยกว่า

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 57



    themy  butter

     




    เธอคนนั้นอยู่ในหัวผมเกือบทั้งคืน...เว่อร์ไปละ มันก็ประมาณนั้นแหละ แต่ไม่ได้คิดทั้งคืนหรอกนะ

     

    ผมนอนคิดว่าเธอเป็นใคร ผมนอนคิดว่าทำไมผมถึงคิดถึงเธออยู่ได้...ผมนอนคิดว่าผมจะชอบเธอเข้าให้แล้วหรือเปล่า... แต่ไมน่าจะใช่ เพราะเร็วเกินไป...ผมนอนคิดอยู่หลายอย่างเลยละ นอนคิดด้วยว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรดี นอนคิดว่าผมจะตายตอนซ้อนเต้นอีกมั้ย...นอนคิดว่าคอผมจะพังเมื่อไหร่..นอนคิดว่าทำไมผมถึงหล่อและน่ารักในเวลาเดียวกัน...

     

    จนผมเผลอหลับไป และตื่นสายอีกตามเคย

     

    ปกติผมเป็นคนตื่นเช้านะครับ...แต่ช่วงนี้เหมือนจะเหนื่อยมากจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ...

     

    ผมกับเพื่อนๆมาถึงตึกSMแล้วครับ แต่ยังไม่ได้กินอะไรเลย...เพราะงั้นเราจึงเดินตรงไปร้านอาหารของตึกทันที...ผมหาวไปเดินไปและสั่งอาหารไป...และก็ต้องตาสว่างทันทีเลย!

     

    เพราะเธอคนนั้น คนที่ผมคิดอยู่ทั้งคืน...กำลังเดินเข้ามาในร้านอาหารเดียวกับผม!

     

    ปกติร้านอาหารของเราไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่...เพราะมันไม่ค่อยอร่อยอะ ไม่รู้สิ ส่วนใหญ่เราจะสั่งกันมากินมากกว่า...แต่วันนี้สายก็เลย...ปกติก็สายทุกวันแต่ซูโฮฮยองจะสั่งอาหารเผื่อให้...โอ้ย ช่างเรื่องอาหารเถอะ!

     

    เธอเข้าร้านมาเหมือนผมเลย...คือหาวไปเดินไป...เธอยังมองไม่เห็นผม...

     

    แต่เธอเห็นจงแดที่นั่งรออาหารอยู่โต๊ะแล้ว โอ้! เธอช็อคและเดินถอยไปเกาะเพื่อนแขนตัวเองทันทีเลยครับ!

    ชัดเลยแบบนี้! เอ็กซ์โซแฟน!

     

    ผมรีบหันไปมองหน้าพยักงานที่กำลังส่งอาหารให้ผม...

     

    ทำไมต้องเป็นแฟนคลับด้วยวะ..เซงเลย...ไม่สนุกเลย ไม่ชอบแล้วแบบนี้...เลิกคิดถึงเธอเถอะแบคคยอน

     

    ผมหยิบถาดอาหารและเดินกลับไปที่โต๊ะ

     

    เฮ้ย! เธอนั่งอยู่กับจงแด!! เฮ้ยๆๆๆ ไม่ใช่ละ! เป็นแฟนคลับก็รู้ขอบเขตหน่อยสิคุณ ที่นี่มันที่ทำงานนะ! ทำไมบริษัทถึงไม่กรองพวกซาแซงแบบนี้ก่อนนะ ครั้งก่อนก็เป็นเรื่องทีนึงละ ดีที่เธอลาออกไปเอง...

     

    ผมง่วงและหิวด้วย จึงทำให้อารมณ์บูดมาก ผมก็คนนะครับ จะให้ยิ้มตลอดเวลานั่นก็ไม่ใช่คนแล้ว... ผมเดินถือถาดอาหารออกจากร้านไปแล้วก็ขึ้นไปห้องซ้อมทันที...

     

    ผมโทรไปบอกจงแดว่าให้เดินตามมา...แล้วอย่าพูดอะไรเกี่ยวกับผมให้เธอรู้เด็ดขาด...ถึงยังไม่แน่ใจว่าเธอนั่งคุยกับจงแดเรื่องอะไรก็เถอะ...

     

    จงแดตอบรับและไม่นานเขาก็มาสมทบกับพวกผมที่ห้องซ้อม

     

    “ใครวะ ผู้หญิงคนนั้น” ผมถามทันทีที่จงแดลงมาจัดการกับอาหาร

     

    “เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนที่เป็นแฟนคลับที่ประเทศไทยที่เคยเล่าให้ฟังที่บอกว่าไม่เรื่องมากอ่ะ”

     

    “อ๋อ คนนั้นหรอ...” ผมพูดเรียบๆก่อนจะตะคอกมันทั้งๆที่อาหารเต็มปาก “ไอ้ห่ากูจะรู้มั้ยว่าใคร!!

     

    มันหัวเราะเสียงดังก่อนจะเรียบเรียงใหม่ “เธอชื่อจีจี้ เป็นเพื่อนของ ขนมไทย และ เซนา มาเป็นเด็กฝึกการแสดงที่นี่...เพิ่งมาได้เมื่อไม่กี่วันเอง ฉันรู้แค่นี้แหละ เธอไม่ได้บอกอะไรต่อละเพราะนายโทรหาฉันพอดี”

     

    “เธอไม่ใช่แฟนคลับพวกเราหรอ”

     

    “ใช่สิ แฟนที่คลั่งมากๆเลยด้วย เพราะเธอคุยกับฉันแบบไม่หายใจเลยละ” มันหัวเราะชอบใจ

     

    “มีแฟนคลับมาอยู่ในตึกด้วยรู้สึกแปลกๆอีกแล้ว”

     

    “เหย...คิดมากหน่ามึง เธอไม่เข้ามายุ่งหรอก เพื่อนเธอน่ะขนมไทยดีจะตายไป”

     

     

     

     

     

     

     

     

    แบคคยอนอยู่ไหน!! อย่าให้เจอนะ!! ฉันจะฉุดนายเข้าห้องน้ำเลยคอยดู!!

     

    ฉันได้ที่กินข้าวเช้าใหม่แล้วค่ะ! ฉันตัดสินใจจะอดข้าวเช้าร้อนๆของพี่ซอนอินที่หอและมากินเบอร์เกอร์ที่ร้านใต้ตึกแทน! ฉันเจอจงแดแล้วนะ! แสดงว่าเข้าใกล้แบคคยอนมากขึ้นแล้ว ฮือ อยากร้องไห้

     

    แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังทำบ้าอะไร...ฝึกพูดในที่สาธารณอยู่ค่ะ...กำลังจะถึงคิวฉันแล้วด้วย! แต่สมงสมองยังไม่เข้าที่เลย คนในห้องที่คอยให้กำลังใจมีประมาณ10คน...แต่สิบคนนี้ล้วนแต่ทำหน้าจิกกัดคอยจะกดดันมากกว่าให้กำลังใจอีก (ยกเว้นรูมเมทและพี่แคนดี้)

     

    การชิงดีชิงเด่นของนักแสดงที่นี่...ไม่ใช่เรื่องชิวๆเลยจริงๆนะ..

     

    “จีจี มาต่อเลยจ๊ะ แนะนำตัวและความสามารถพิเศษพร้อมทั้งงานอดิเรก อย่าลืมท่ายืนนะจ๊ะ อย่าลืมระดับของน้ำเสียงด้วย...พร้อมนะจ๊ะ” พี่แคนดี้เรียกฉันให้ออกไปพร้อมร่ายคาถายาว ฉันซึ่งคิดแค่ว่าจะฉุดแบคคยอนเข้าห้องน้ำยังไง เดินสั่นๆไปข้างหน้า...ทุกคนปรบมือ

     

    ฉันยิ้มแห้งๆ...แก้มขวากระตุกแปลกๆ

     

    “เอ่อ...ฉันจีจี้ค่ะ เป็นคนไทย น้ำหนัก...”

     

    ฉันพูดบ้าอะไรก็ไม่รู้ ฉันจำไม่ได้เลยซักนิด...ฉันอยากเจอแบคคยอนจนตัวสั่น ฉันอยากเจอเขา อยากเจอเขามาก...แบคคยอนน้อยๆของฉันจะหาตัวยากเกินไปแล้ว ขนาดมาหาถึงข้างในตึกSMยังไม่เจอตัวเขาเลย ฉันว่าฉันลาออกแล้วกลับไปเป็นติ่งดักรอหน้าตึกดีกว่ามั้ย? แบบนั้นน่ะได้เจอชัวร์ๆเลย...

     

    “ดีจ๊ะ ดีมากเลยจีจี”

     

    กว่าจะได้สติกลับมาก็เมื่อทุกคนตบมือให้ฉันแล้ว...เอะ เกิดอะไรขึ้น?...

     

    พี่แคนดี้ทำหน้าปลาบปลื้มให้ฉันจนฉันคิดว่าเธอจะร้องไห้ออกมาซะแล้ว...เมื่อฉันลงจากเวทีพี่ซอนอินก็รีบมาควงแขนฉันพร้อมรอยยิ้มสดใสของเธอ...

     

    “จีจี เธอพูดได้เป็นธรรมชาติมาก! เธอทำได้ยังไง! มันไหลลื่นเหมือนแม่น้ำเลยจริงๆนะ! ไม่สะดุดตรงไหนเลยด้วย แถมฟังก็ไม่เบื่อเพราะเธอทำหน้าตลกๆบวกกับมุกฮาๆอีก..ฮะๆ”

     

    อะไร? นี่ฉันทำตอนไหน? โอ้ย ช่างมันเถอะ แบคคยอนอ่ะ! แบคคยอนอยู่ไหน!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “อยู่นี่!” ผมโยนโทรศัพท์ของเซฮุนที่มันหาอยู่ไปให้

     

    มันรับพร้อมทำหน้าโล่งอกยังกะรู้ว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง

     

    “พี่เจอที่ไหน?”

     

    “ในซอกโซฟาที่ฉันนั่งนี่แหละ” ผมตอบส่งๆไป “ว่าแต่นายคุยกับใครอยู่หือ? เดี๋ยวเมเนก็จับได้หรอก ระวังหน่อย”

     

    มันทำหน้ากังวลทันทีที่ผมพูดเรื่องนั้น มันลากตัวเองมานั่งแผละข้างๆผมอย่างเหนื่อยล้า

     

    “ผมไม่ได้คุยกับแฟนซะหน่อย...เธอเป็นพี่สาวผมต่างหาก”

     

    “หือ?” ผมสังเกตเห็นหน้าที่ผิดหวังของมันออก เซฮุนน่ะมองง่ายจะตายไป “น่าสงสารวะ ใครกันทำให้เซฮุนคนนี้ต้องทำหน้าเศร้าแบบนี้หา?”

     

    มันยิ้มน้อยๆก่อนจะส่ายหน้าปกป้องเธอคนนั้น “เปล่าหรอกพี่ ไม่ใช่ความผิดเธอเลย...ผมเองยังไม่แน่ใจตัวเองด้วยซ้ำ”

     

    “เอาเถอะ” ผมโอบไหล่มันเชิงปลอบโยน “นายอายุยังน้อย มีเวลาอีกเยอะแยะ ไม่ต้องรีบหรอก”

     

    “หยุดเดทกันก่อนนะแบคฮุน” ครูสอนเต้นพวกเรามาแล้วครับ ผมกับเซฮุนรีบลุกขึ้นยืนทันที

     

    และexoที่เหลือก็เดินตามหลังครูเข้ามา...สีหน้าทุกคนดูเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้ซ้อม

     

    “เริ่มกันเลย จะได้ไม่เสียเวลา” ครูบอกและซูโฮฮยองก็เดินไปเปิดเพลงทันที...

     

















     

     

     

    ฉันอยากจะบ้าตาย! ไม่ได้จะไปเป็นมิสโคเรียนะค่ะ! ทำไมต้องให้เดินด้วยก้นกันละ!! โอ้ย เจ็บตูด เมื่อยขา ชาไปหมดแล้วเนี่ย...เฮ้อ...

     

    พี่ซอนอินดูท่าจะอาการหนักกว่าฉัน หลังจากที่ครูฝึกให้เราพักเธอก็นั่งยืดขาและทุบมันตลอด...ฉันเองก็เหมือนกันแต่เพียงแค่ว่าในหัวฉันมันมีแต่เรื่องแบคคยอนเต็มไปหมด...

     

    ฉันกำลังจะบ้าตายแล้วจริงๆ ฉันจะลงแดงแล้วนะ! เห็นรูปแบคคยอนหน้าตึกทุกวันแต่ตัวจริงไม่เคยเจอเลยซักครั้ง! จะลาออกจริงๆแล้ว! ไม่ไหวแล้วนะ! ปลีกตัวไปไหนก็ไม่ได้เลย! อยู่ในบริษัทใหญ่โตก็จริงแต่ใช้เวลาส่วนมากในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ... จีจี้พลาดละ มึงพลาดแล้ว!

     

    “ฮึก...เหนื่อยจัง”

     

    เสียงสะอื้นดังมาข้างๆ...ฉันหันไปเธอมองช้าๆ....ใครกันนะมาร้องไห้ตอนฉันกำลังจะลงแดงแบบนี้...

     

    “มินจอง...” ฉันเรียกชื่อเธอเบาๆพลางเข้าไปปลอบทันที จากที่กำลังจะเป็นนางยักษ์ก็กลายเป็นนางฟ้าซะก่อน

     

    มินจองเป็นรูมเมทฉันอีกคน เธออายุเท่าฉันและเธอมีนิสัยที่ค่อนข้างเงียบ...ความจริงรูมเมทของฉันทุกคนก็เงียบหมดนั้นแหละ...แต่เธอคนนี้เงียบเป็นพิเศษ

     

    “จีจี...ฉันทรมานจังเลย เมื่อไหร่พวกเราจะได้ออกหน้าจอทีวีกันละ...เรายังสวยไม่พอหรือไง ฉันเหนื่อย”

     

    “ชูว ชูว ไม่ร้องนะ เดี๋ยวครูฝึกมาเห็นเข้าจะยิ่งไปกันใหญ่” ฉันรีบเอาตัวมาบังเธอไว้ “ฉันรู้ว่าเธอเข้ามาฝึกที่นี่นานแล้ว...แต่ฉันว่าซักวันก็ต้องเป็นวันของเธอมินจอง อดทนอีกนิดนะ ฉันเองก็บอกไม่ได้หรอกว่าอีกนานแค่ไหน...แต่มันต้องมีวันนั้น”

     

    ฉันพูดให้กำลังใจเธอเร็วๆและเต็มที่ เพราะกลัวว่านักแสดงคนอื่นๆจะเห็นและพากันร้องไห้ไปหมด...

     

    ต้องยอมรับเลยว่าที่นี่ฝึกค่อนข้างโหด...มีอะไรก็พูดตรงๆ ใครปากเบี้ยว ใครเหงือกล่อก็ชี้หน้าและพูดตรงนั้นเลย...ฉันยังเคยโดน แต่ไม่รู้สึกอะไร ผิดกับมินจองเธอจิตใจอ่อนไหว...โดนครูฝึกมองด้วยหางตาอย่างเหยียดหยามเธอก็แทบจะเป็นลม...แบบนี้ไงเธอถึงยังไม่ไปไหนซักที...

     

    “มินจองเธอต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้นะ...อย่าให้ใครมาเห็นว่าเธออ่อนแอ” ฉันบอกจากใจจริง เป็นห่วงมินจองที่สุดแล้วในกลุ่ม...เธอบอบบางเกินกว่าจะอยู่ในสังคมแบบนี้

     

    “อื้อ...ขอบใจนะจีจี...เธอดีกับฉันมากเลย” เธอปาดน้ำตาออกและหยุดสะอื้น “พาฉันไปห้องน้ำหน่อยได้มั้ย”

     

    “ได้สิ”

     

     

     

     

     

     
























     

     

    “มึงจะไปไหน” ผมและเพื่อนๆกำลังนั่งพักหายใจ ครูสอนเต้นพวกเราออกไปไหนไม่รู้ และคาดว่าจะกลับมาเร็วๆนี้ เพราะพี่แกไม่เคยพลาดเรื่องเวลา บอกพัก10นาที คือ 10นาทีจริงๆ...

     

    “ไปฝั่งนักแสดง” ชานยอลหันมาตอบผม น้ำตามันคลอด้วย...แปลกๆละ เพื่อนๆที่เหลือเงียบแต่ผมรู้ว่าพวกมันอยากให้ผมถามอะไรต่อ...

     

    “ทะเลาะกันอีกแล้วหรอ”

     

    ชานยอลเงียบอยู่นานกว่าจะตอบ...

     

    “เปล่า” มันเสียงสั่น “แต่เลิกกันเลย”

     

    ทั้งห้องเงียบ...เงียบจนผมได้ยินเสียงไลน์จากโทรศัพท์เซฮุนดังเหมือนเสียงระเบิด...ทุกคนหยุดการกระทำทุกอย่างและหันไปมองชานยอลกันเป็นตาเดียว...

     

    “ชานยอล” เสียงซูโฮฮยอง เขาเดินเข้าไปใกล้ๆชานยอล “เดี๋ยวเก็บเรื่องนี้ไว้คุยที่--

    “ที่หอคงไม่ทันหรอกฮยอง” ชานยอลตอบเสียงเรียบ “ผมว่าผมไม่ทัน...”

    “อะไรไม่ทัน” ผมเองที่ถาม ผมลุกขึ้นยืนบ้าง ผมกลัวมาก...กลัวที่สุดเลยว่าหมอนี่จะทำอะไรแปลกๆ “มึงจะไปไหน!

    มันวิ่งออกจากห้องไปแล้ว! ผมรีบหันไปบอกกับเพื่อนๆว่าผมจะตามมันไปเอง ดังนั้นเราสองคนจึงวิ่งไล่กันทั้งๆที่เหนื่อยจากการซ้อมแทบตาย

    ผมวิ่งตามชานยอลไม่ทัน ได้แค่ตะโกน...ที่เบาเหลือเกินเพราะผมกลัวว่าคนอื่นจะรู้...รู้เรื่องที่ชานยอลมีแฟน..ผมวิ่งตามมันไปเรื่อยๆ ภาวนาให้มันหยุดวิ่งเร็วๆนี้เถอะ ผมจะตายแล้ว

    และมันก็หยุด หยุดตรงหน้าประตูห้องที่นักแสดงกำลังฝึกอะไรบางอย่าง...ผมมองเข้าไปข้างใน เห็นพวกเธอนั่งพักกันเกลื่อนกลาดเต็มพื้นห้อง...แต่ละคนมีทำหน้าเหนื่อยสุดๆไม่แพ้พวกเราเลย...

    ชานยอลจ้องลูกบิดประตูอยู่นาน จนกระทั่งมันทำท่าจะยื่นมือไปบิด

    “ชานยอล!” ผมรีบเรียกสติมัน “อย่าเพิ่งเลยชานยอล...นายแค่ทะเลาะกันเฉยๆ...เดี๋ยวก็ดีกัน อย่าให้มันกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนในบริษัทรู้เลย...อย่าเลย”

    ผมพูดไปหอบไป...ขอร้องละชานยอล...คิดให้ได้หน่อย รู้ว่านายเจ็บมากแค่ไหน แต่มันจะเจ็บและปวดหันมากกว่านี้ถ้าเรื่องมันแดง...

    มันชะงักมือตัวเอง...ค้างอยู่กลางอากาศ...น้ำตามันไหลอย่างน่าสงสาร

    ผมเดินไปจับมือที่ค้างอยู่ของมัน...ก่อนจะลากกลับห้องซ้อมตามเดิม...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

























     

    “ไม่เป็นไรแล้วใช่ปะ” ฉันส่งเสียงร่าเริงใส่มินจองที่เพิ่งล้างหน้าล้างตาเสร็จ เธอดีขึ้นแล้วหลังจากที่ได้ยินมุกแป้กๆของฉันไปสองสามมุก ไม่อยากเชื่อว่าเธอหัวเราะมันได้ยังไง...ถ้าเป็นขนมไทยกับกรกตป่านนี้แม่งยืนไว้อาลัยกับมุกฉันชาตินึงได้แล้วมั้ง

     

     

    พวกเราสองคนเพิ่งเดินกลับเข้ามาในห้อง แต่ก็เห็นทุกคนลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสายเหมือนการฝึกรอบที่สองกำลังจะเริ่ม...

     

    ฉันส่งสายตาที่เต็มไปด้วยไฟลุกโฉดช่วงไปให้มินจองเผื่อเธอจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง...

     

    “สองคนนั้นมัวทำอะไรอยู่ รีบๆวอร์มเข้าสิ” เสียงแหลมสูงมาจากครูฝึกทำเอาสะดุ้งโหยง

     

    พวกเราจึงเริ่มยืดเส้นยืดสายทันที...

     

     

     

     

     

     

     



















     

     

     

     

    “แบคคยอน! ชานยอล!” เสียงครูหันมาเรียกสติผมกับชานยอลเป็นรอบที่สาม... และมันเริ่มดูตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ

     

    ชานยอลที่กำลังเศร้าหนักพยายามตีหน้าเข้มและเต้นให้ถูกจังหวะ...

     

    ส่วนผมที่ไม่ได้เจออะไรมากมายสติกลับไม่อยู่กับเนื้อตัวเหมือนกัน...

     

    ที่ผมรีบลากมือชานยอลกลับมา...เพราะผมเห็นร่างของเธอเดินออกมาจากห้องน้ำหญิง ผมจึงกล้าเข้าไปลากมือชานยอลทั้งยังงั้นกลับมา...ผมไม่รู้ว่าเธอเห็นแผ่นหลังของผมหรือเปล่า แต่ผมว่าไม่ เพราะตอนหลังผมวิ่งเลยละ...วิ่งลากชานยอลออกมา...ชานยอลที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็วิ่งตามผมมาเรื่อยๆ เขาคงคิดว่าผมกลัวจะมาไม่ทันครู...

     

    ไม่เลย ผมวิ่งหนีเธอต่างหาก...ว่าแต่ผมจะหนีเธอทำไมวะ?

     

    “แบคคยอน!

     

    “ขอโทษคร้าบ!

     

     

     

     

     

     

     

     

     





















     

     

    “กลับเถอะจีจี...” พี่ซอนอินบอกฉันเป็นรอบที่เจ็ด....

     

    “บอกแล้วว่าไม่ต้องรอเป็นเพื่อน พี่น่ะกลับไปทำซุปอุ่นๆรอฉันที่ห้องก่อนได้เลย”

     

    ฉันยืนอยู่หน้าตึกกับพี่ซอนอินและกับฝูงแฟนๆของexo snsd shinee บลาๆเยอะแยะ...ทำไมวันนี้นัดกันมาตรึมเลยวะ...หรือปกติ? ไอเราก็ไม่เคยมาเฝ้าถึงหน้าตึกกับเขาเลยด้วย...

     

    “แต่นี่ดึกมากแล้วนะ เธอจะกลับคนเดียวยังไง” พี่ซอนอินดูเป็นห่วงฉันมากกว่าตัวเอง...แต่หารู้ไม่ว่าฉันน่ะเพื่อผู้ชายแล้วจะถึกขึ้นมาอีกสิบเท่า...จากที่ถึกอยู่แล้วด้วย

     

    “ขอร้องละค่ะพี่ซอนอิน ไหว้ละ” ฉันไหว้พี่เขาจริงๆนะ “กลับไปก่อนเถอะค้า ทำแบบนี้แล้วหนูยิ่งไม่สบายใจ จริงๆนะพี่นะ”

     

    ฉันอ้อนจนพี่เขากลับไปจนได้...แต่กว่าจะกลับได้ก็เล่นซะเกือบกลายเป็นนางยักษ์ไปเลย...ความจริงตั้งแต่มาอยู่เกาหลีนี่เป็นนางฟ้าตลอดเลยนะ...เจอแต่คนดีๆทำตัวแย่ๆไม่ออกเลย...

    เอาละจีจี้...คราวนี้แหละ! ต้องเจอให้ได้ ไม่เจอนี่กลับไปร้องไห้ใส่อ้อมอกที่ซอนอินแน่ๆอ่ะ

    ดึกแค่ไหนก็สู้ค่ะ เพื่อแบคคยอน เบเบ่!!

     

    “แฟนคลับใครหรอ?” มีเด็กกลุ่มหนึ่งเดินมาถามฉันพร้อมอวดเลนส์ยาวเป็นหางว่าว...ในมือพวกนางยังมีของมากมายเต็มอ้อมแขน...

     

    “เอ่อ...เปล่าจ๊ะ มารอเพื่อนเฉยๆ”

     

    “เอ่าหรอ” เด็กหน้าสุดทำหน้าเซงๆ “นึกว่าเป็นแฟนคลับ จะสั่งสอนซะหน่อยทำไมถึงมาตัวเปล่าแบบนี้ อปป้าพวกเราไม่ได้มีไว้ให้ดูเฉยๆหรอกนะ เทคแคร์อ่ะค่ะ รู้จักมั้ย? เทคแคร์”

     

    ขอบใจนะๆเด็ก ในที่สุดฉันก็กลายเป็นนางยักษ์ได้ซะที... นางยักษ์คนนี้กำลังยิ้มให้พวกเธอ

     

    “แล้วน้องๆเป็นแฟนใครหรอจ๊ะ?” นางยักษ์คนนี้กำลังจะกินหัวพวกเธอ... “เดาเลยว่า...”

     

    “ไม่ต้องเดาหรอกค่ะ” เด็กนางนึงสะบัดผมก่อนพูด “ใครๆก็รู้ว่าพวกหนูแฟนคลับอันดับหนึ่งของExo พวกอปป้าเขาจำพวกเราได้แม่นหมดทุกคนเลยด้วยค่ะ”

     

    “หรอจ๊ะ แหม...ดีจังเลย ฉันอยากจะให้พวกเขาจำฉันได้บ้างจัง”

     

    “อย่าเลยค่ะ หนูว่าทำให้เรื่องยุ่งไปเปล่าๆ ดูหน้าแล้วไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ยค่ะ?” นางเหยียดสายตาเล็กๆนั่นมามองฉันอย่างเหยียดหยาม...

     

    “หนูเบื่อพวกต่างประเทศมาก” นางอีกคนนึงพูดแทรกขึ้นมา “พวกเธอเอาภาพอปป้าของเราไปแก้ไขและเขียนเครดิตเป็นของตัวเอง หน้าไม่อาย! นังหน้าด้าน!

     

    “มึงด่าใครอีเด็กเปรต ทำไมมองหน้ากูละ แล้วถ้าจะมาหวงของตอนปล่อยไปแล้วทีหลังก็อย่าปล่อยสิ” เสียงฉันเองค่ะ แต่เป็นภาษาไทย...และเป็นน้ำเสียงที่ดูแล้วไม่รุนแรง ยัยเด็กพวกนั่นหัวเราะกับภาษาแปลกๆนี่ลั่น

     

    “อะไรอะ” นางนึงพยายามกลั้นหัวเราะไปพูดไป “พี่พูดภาษาอะไรอะ? แล้วมันแปลว่าอะไร?”

     

    “แปลว่าคนที่เอารูปน้องไปทำแบบนั้นเป็นคนไม่ดีเลยจ๊ะ”

     

     “ใช่มะ!” เด็กหญิงนางนึงใส่อารมณ์ “เกลี๊ยดเกลี๊ยดค่ะ ทีหลังจะไม่ลงแล้ว”

     

    “ยังกะรูปที่มึงถ่ายเป็นรูปมึงเองงั้นแหละ”

     

    “อะไรนะค่ะ? แปลว่าอะไรอ่ะ?”

     

    “แปลว่าคิดถูกแล้วจ๊ะที่ทำแบบนั้น”

     

    “อ่อ หรอค่ะ พี่นี่ตลกดีนะ แต่หนูก็ยังไม่ชอบหน้าอยู่ดี” ทั้งแก๊งหัวเราะเยาะฉันใหญ่...ก่อนจะหันกลับไปสนใจศลป.ที่เดินออกมาจากตึก...อนยูชายนี่... 

     

    คนต่อไป เจสสิก้า snsd ....

     

    “มาแล้วๆ” เด็กๆตรงหน้าฉันต่างกระโดดดี๊ด๊ากันใหญ่...แฟนคลับexo

     

    กรี๊ดดดดดดดดดด กูก็แฟนคลับexoนี่หว่า!!

     

    ฉันต้องเก็บอาการติ่งอย่างมาก! เพราะฉันเองก็เป็นเด็กฝึกที่นี่ บวกกับต้องวางมาดไม่ให้อีเด็กพวกนี้รู้ตัวด้วย! โอ้ย อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย!

     

    นั่นไค! โอ้ยยย หล่อ ขนาดไม่แต่งหน้ายังหล่อ! หล่อเพราะราศีจับ โอ้ยจิเป็นลม

     

    พลั่ก!

     

    “ออกไปสิป้า! มายืนชะเง้อมองอปป้าพวกหนูทำไม” เด็กกลุ่มเดิมผลักฉันออกไปจนล้มก้นจ้ำเบ้า...

     

    ฉันรีบลุกขึ้นมากระชากหัวนังนั่นหงาย... อุ๊ปส์ ลืมตัว...

     

    “ป้าทำอะไร!” เด็กนั่นมองหน้าฉันเขม็ง...แต่เธอไม่สนใจฉันนานเพราะเธอรีบวิ่งตามไคที่กำลังขึ้นรถไป และสุดท้ายเธอก็พลาดจะให้ของกับไค สะใจชะมัด

     

    แต่ไม่ทันที่เด็กนั่นจะกลับมาแวดใส่ฉันต่อ เลย์ก็เดินตามออกมาติดๆ...

     

    หอยหลอด!! ขาว! หล่อ! น่ารัก! โอ้ย นั่นๆๆ ยิ้มให้แฟนๆด้วย! รับของด้วย!! อปป้าค่ะ หนูก็อยากทำแบบนั้นบ้าง T T อปป้าค่ะยิ้มให้ฉันบ้างสิ!

     

    เป็นแฟนคลับที่ต้องเก็บอาการนี่มันทรมานชิบหาย...เข้าใจหัวอกของกรกตเลย

     

    เด็กนั่นรีบเอาของที่จะให้ไคเมื่อกี้ยัดใส่มือเลย์ใหญ่เลย...ตลกและอิจฉามากๆ...

     

    เลย์ขึ้นรถคันเดียวกับไคไป... เด็กนั่นจึงพาแก๊งของมันมาล้อมฉันทันที...โอ้ย อยากหัวเราะอ่ะ เพราะฉันไม่กลัวเลยซักนิด...

     

    “เมื่อกี้ป้าหาเรื่องหรอ!

     

    “เปล่า กระดุมเสื้อพี่มันไปติดกับผมน้องพอดีน่ะ...”

     

    “....แล้วไป”

     

    สาบานให้ตายเลยว่าฉันเห็นแววตาของเด็กนั่นกลัวฉัน...มันจึงรีบๆจบเรื่อง โอ้ย ขำ แต่ต้องกลั้นขำ ชีวิตกูเป็นอะไรมากมั้ย...

     

    ไม่นานก็มีลู่หานเดินออกมา...แต่เด็กๆไม่เข้าไปรุม เอาแต่เรียกชื่อและโบกมือให้เฉยๆ เอ๊ะ ทำไม? นั่นลู่หานเชียวนะ..

     

    ว่าแต่ทำไม...ฉันต้องหันหลังให้เขาด้วยเนี่ย เกร้ดดดด อยากกัดขาตัวเอง นี่ฉันยังฝังใจเรื่องในผับครั้งนั้นไม่หายอีกหรอเนี่ย!...ฉันจะไม่กล้ามองหน้าลู่หานไปอีกนานแค่ไหน!...แล้วรูปของเขาน่ะ เมื่อไหร่จะจ้องตรงๆได้ซักที! เป็นเอามากนะฉันเนี่ย

     

    “ไม่มีใครเมนพี่ลู่หรอ?” เด็กกลุ่มเดิมพูด “พี่เซฮุนก็ไม่มีหรอ? ทำไมวันนี้มาไม่ครบ! กลับไปจะสั่งสอนให้ยับเลยคอยดู!

     

    “นั่นๆเซฮุนออกมาแล้ว!” เด็กตะโกนกันใหญ่ นี่ขนาดไม่มีใครเมนเซฮุนนะ

     

    ฉันหันกลับไปมองเซฮุนเต็มๆตา...เหมือนที่กรกตบรรยายไว้ในตอนแรกเปี๊ยบ...ความรู้สึกเดียวกันเลยคือ หล่อและขาวมาก ดูแมนอย่างไม่น่าเชื่อด้วย...

     

    “เซฮุนอปป้า!

     

    “เซฮุนน่า~

     

    “เซฮุน ซารังเฮ เซฮุนแดบัก”

     

    เซฮุนเดินรีบๆพร้อมรับของจากแฟนๆ...ไหนบอกไม่มีใครเมนเซฮุนแล้วของพวกนั้นเตรียมให้ใครยะ

     

    “ป้าจ้องอปป้าพวกหนูอีกแล้ว!” ยัยเด็กคนนึงที่ไม่มีของจะให้ก็เลยหันมาสังเกตเห็นฉันเต็มๆ “ป้าไม่มีสิทธิ์จะเป็นแฟนของอปป้าหนูหรอก อปป้าหนูไม่สนใจป้าเลยเห็นปะ เขารักพวกหนูมากกว่าอีก” มันส่งสายตาภูมิอกภูมิใจมาเหยียดหยามฉัน...

     

    อีสลิด...

     

    “เซฮุน!” เสียงฉันแทรกเสียงพวกเด็กๆ แต่มันก็เหมือนเสียงแฟนคลับทั่วๆไปอ่ะนะ เซฮุนไม่ได้หันมามอง มัวแต่รีบๆรับของ... เด็กที่ยืนข้างๆฉันถลึงตาใส่จนดวงตาแทบจะหลุดออกมากลิ้งข้างนอก...

     

    ทำไม โมโหหรอ? เรียกเซฮุนบ้างไม่พอใจหรอ?

     

    “เซฮุน! เซนาบอกว่าคิดถึงอ่ะ!!” ตะโกนไปแทบกรี๊ดเพื่อให้เขาได้ยิน...

     

    มันต้องได้ยินอยู่แล้วใกล้กันแค่นี้เอง...แค่เขามีเด็กล้อมรอบเท่านั้นเอง...ต้องได้ยินสิ

     

    “กรี๊ดดดดด” เสียงเด็กที่ยืนข้างๆฉันกรีดร้องอย่างโกรธเคืองระคนตกใจ

     

    เซฮุนหันมามองฉัน! สบตากับฉัน! แล้วก็!!

     

    ยิ้มเขินก่อนจะก้มหน้าแดงๆของเขาหายลับเข้าไปในรถ!!!

     

    อีนังกรกต!!!!! กูจะฆ่ามึง!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     





















     

    ได้เวลากลับหอไปนอนแล้ว...แต่ผม จงแด และชานยอลยังนั่งกันอยู่ในห้องซ้อม และไม่มีท่าทีว่าจะกลับด้วย...ชานยอลร้องสะอึกสะอื้น...พวกผมได้แค่มองและนั่งข้างๆ

     

    สรุปที่บอกว่าเลิก...คือเลิกจริงๆ...

     

    และที่เลิกไม่ใช่เพราะอะไรเลย...อีกฝ่ายเขาบอกว่า...

     

    “เบื่อคำเดียวเลย!” ชานยอลเล่าเป็นรอบที่สาม “คนอื่นก็ไม่มี คนมาจีบก็ไม่มี เรื่องงานก็ไม่น่าจะใช่...ว่าแต่ฉันจะคิดมากทำไม! ก็เธอบอกอยู่แล้วนี่เลิกกับฉันก็เพราะเบื่อน่ะ!

     

    “ใจเย็นสิมึง” ผมพูดประโยคนี้หลายรอบมาก “เอาจริงๆมึงคบคนนี้ได้ไม่นานเองนะเว้ย มึงเป็นเอามากเกินไปละชานยอล...”

     

    “ก็กูรักใครรักหมดเลยอ่ะ” ชานยอลเถียงไปน้ำมูกน้ำตาไหลไป “หรือเพรากูโง่เองวะ!

     

    “กูก็เบื่อมึงเหมือนกันวะ” จงแดพูดขึ้นบ้าง... ออกจะโหดร้ายไปหน่อยแต่เราลองปลอบชานยอลมาหลากหลายรูปแบบแล้วนะ จงแดพูดต่อ “มึงมีค่ามากกว่าจะมานั่งร้องไห้เพราะเรื่องผู้หญิงที่คบกันยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ”

     

    “ยังไงวะ...กูยังมองไม่เห็นค่าของตัวเองเลย...กูรู้แค่ว่ากูน่าเบื่อ...”

     

    “ใช่มึงน่าเบื่อ!” จงแดลุกขึ้นยืน “แต่มึงรู้มั้ยว่าซักวันก็จะมีผู้หญิงที่ชอบและรักความน่าเบื่อของมึงได้! มึงแค่ตัดใจจากเธอคนนี้แล้วยอมรับความจริงซะ มีชีวิตต่อไป กลับมาเป็นชานยอลคนเดิมทีเถอะ กูจะเบื่อมึงที่มึงเป็นแบบนี้นั้นแหละ”

     

    “ใจเย็นเฉิน” ผมยืนขึ้นห้ามมัน พูดเกินไปละ... “เราไม่เคยอกหักเราไม่รู้หรอก...แล้วก็ชานยอล หยุดร้องเถอะมันดูอ่อนแอ..ถึงนายจะน่าเบื่อสำหรับเธอ แต่สำหรับพวกเรานายมีค่ามากเลยนะ...ขาดนายไปเราก็ไม่ใช่exoเหมือนเดิม...ฉันรู้ว่ามันแทนกันไม่ได้ นั่นแฟน นี่เพื่อน...แต่มันก็ความรักเหมือนกันป่าววะ พวกกู11คนรักมึง ยังไม่พอที่ผู้หญิงคนเดียวคนนั้นรักหรอไงวะ?”

     

    ถือว่าผมพูดดี...เพราะจงแดร้องไห้ไปอีกคนแล้ว...ผมเองก็น้ำตาคลอ...

     

    ช่วงนี้พวกเราทำงานหนักมาก นอนก็ดึก ซ้อมก็ไม่มีลิมิต...ไหนจะต้องปั้นหน้ายิ้มๆเพื่อให้แฟนๆได้สบายใจอีก...เหนื่อยจริงๆ...เหนื่อยทั้งกายและใจ ไม่แปลกที่ชานยอลจะฟูมฟามมากขนาดนี้...

     

    “แบค...” ชานยอลพูดเบาๆ

     

    “อะไร”

     

    “กูรักมึงวะ”

     

    แล้วผมก็ร้องจนได้ บัดสบ!!

     

    “มึงทำให้กูตาสว่าง...กูขอโทษ” มันยืนขึ้นเหมือนพวกผม “จงแดกูขอโทษ กูเข้าใจที่มึงจะพยายามสื่อให้กู...แต่กูไม่ยอมรับรู้เอง กูขอโทษ แต่ตอนนี้กูโอเคแล้ว ขอบคุณพวกมึงมากจริงๆ”

     

    นี่พวกเราสามคนทำบ้าอะไรอยู่? กอดกันกลมยังกะนัดกันจะไปตาย...

     

    สุดท้ายเราก็ยอมนอนที่บริษัท...เพราะไอชานยอลบากหน้าบวมๆของมันไปเจอแฟนๆไม่ไหว...

     

    ดีใจนะ ที่มันเริ่มคิดถึงตัวเองแล้ว...

     

     

     

     

     

































     

     

     

    “ฮือออ ฮืออออ ฮึก ฮืออออ แงงงงงง” ฉันเองค่ะจีจี้ กำลังซบอกแบนๆของพี่ซอนอินและร้องไห้โฮ ร้องไห้จริงๆนะไม่ได้โม้เลย ก็บอกว่าถ้าไม่เจอแบคคยอนจะกลับมาร้องไง...

     

    รอจนถึงตีสามกว่าๆ...ไม่ไหวเลยถอดใจ...

     

    ส่วนพี่ซอนอินก็ใจดีพอได้ยินเสียงฉันกลับมา เธอก็ตื่นมาดู...ฉันจึงถลาเข้าใส่อกพี่เขาทันที...

     

    “อย่าร้องเยอะนะ พรุ่งนี้เราต้องเทสหน้ากล้อง...”

     

    “หา!” ฉันเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาจ้องพี่ซอนอิน “อะไรนะ!

     

    “อย่าร้อง เดี๋ยวพรุ่งนี้หน้าบวม เราจะมีถ่ายแบบ ไม่เชิงว่าได้ลงนิตรสารที่ไหนหรอก แค่ทางบริษัทจะถ่ายเก็บไว้เฉยๆน่ะ”

     

    “ทะ-ทะ-ทะ-ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     

    “ใจเย็นๆ ไปล้างหน้าล้างตาฉีดน้ำแร่บำรุงผิวแล้วหลับซะจีจี”

     

     

     

     
































     

     

    วันต่อมา

     

    “แบค มึงหลบๆซ่อนๆใครวะ” คริสฮยองจากแดนมังกรเอ่ยขึ้นในขณะที่ผมเดินตามหลังเขาลงจากรถไปเข้าตึกแบบแนบชิด...ชิดจนแฟนๆที่ดักรออยู่กรี๊ดลั่น...

     

    แล้วพอผมเข้าในตึกและต้องผ่านร้านตรงนั้น...ผมก็เดินควงคริสฮยองพยายามใช้ด้านข้างของเขาบังตัวผม...และมันบังได้มิดด้วยละ คิดดูว่าคริสฮยองตัวเท่าควายแค่ไหน...

     

    “เปล่า...ผมแค่อยากเซอร์วิสแฟนๆ” แก้ตัวเมื่ออยู่ในลิฟกันแล้ว

     

    “อย่าโกหกกู บอกมาซะดีๆ” คริสฮยองขู่และทำตัวเหมือนมาเฟีย...แต่ผมไม่กลัวหรอก คริสฮยองตัวจริงใจดีจะตาย...

     

    “ไม่ได้โกหกจริงๆ...โอเคๆ ผมไม่ได้หลบแค่ผมไม่อยากเจอ”

     

    “ใคร?”

     

    “แฟนคลับที่อยู่ในตึกนี้อะครับ”

     

    “คนไหน?”

     

    “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเธอชื่ออะไร” เปล่าเลย ผมจำได้แม่นว่าเธอชื่ออะไร จงแดเคยเล่าให้ฟังแล้ว “แต่เธออยู่ฝั่งนักแสดง”

     

    คริสฮยองทำหน้าเหมือนพยายามนึกให้ออก...โธ่ ฮยอง คนอย่างฮยองที่สนใจแต่เรื่องเสื้อผ้ากับเรื่องสไตล์น่ะ จำใครไม่ได้หรอก...ชื่อพวกผมทั้ง11คนใช้เวลานานกี่ปีถึงจะเรียกถูกครับ...

     

    ติงต่อง

     

    เสียงลิฟเปิดเพราะมีคนกดจะขึ้นไปชั้นบนเหมือนพวกผม...แต่พอเปิดเท่านั้นแหละ!

     

    ผมรีบถลาพุ่งไปกดปุ่มปิดรัวๆๆๆ

     

    ดีมากเลยที่พวกเธอทั้งหมดยืนโม้จนไม่ได้สนใจคนข้างในลิฟ...

     

    ผมเห็นเธอ...เห็นแค่ด้านข้าง...แบบค่อนข้างใกล้เพราะเธอยืนใกล้ประตูลิฟ โชคดีมากที่เธอไม่หันมามองว่าใครอยู่ข้างใน โชคดีมากที่กำลังโม้อย่างเมามันกับเพื่อนของเธอ...

     

    “ไอเชี่ยแบค! กูนึกไม่ออก คนไหนบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ!

     

    อ่าว นี่คริสฮยองยังนึกถึงเธออยู่อีกหรอ...นั่นเขารู้มั้ยว่าลิฟเปิดออกแล้วถูกปิดทันทีด้วยฝีมือผมน่ะ...เขารู้หรือเปล่าว่าผมทำหน้าสะพรึงแค่ไหนตอนเห็นใบหน้าข้างของเธอ...

     

    “เอ่อ...ไว้ผมเจอแล้วจะชี้ให้ฮยองดูนะครับ”

     

    “เออดีมาก”

     

     

     

    ตอนบ่ายของวัน...ก่อนจะเริ่มซ้อมเต้น

     

    “แบคคยอน” โดดีโอตาโตเรียกผมเมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้นยืนจากโซฟาเพื่อยืดแขนยืดขา

     

    “มีอะไรดีโอ”

     

    “ฉันอยากไปดูเบื้องหลังการทำงานของผู้กำกับเค ได้ข่าวว่าเขาลงมือกำกับเองเพื่อให้ผู้กำกับรุ่นน้องดูน่ะ”

     

    “แล้วไง?”

     

    “ไปด้วยกันหน่อยสิคร้าบ~” มันใช้ไม้ตายของมันแล้ว! มันใช้หน้าตาน่ารักๆของมันแล้ว! โอ้ย รำคาญมาก! เสือกน่ารักกว่าผมได้ไงวะ!  ทีตอนหน้าตายๆละก็ดูน่ากลัวเชียว ผมบอกเลยครับว่าไม่มีexoคนไหนทนกับท่าไม้ตายของหมอนี่ได้... ตายเรียบสมกับเป็นท่าไม้ตายจริงๆ...

     

    ผมกับดีโอเดินขึ้นไปชั้นถ่ายทำ เพราะมันอยู่แค่ชั้นบนชั้นเดียวเอง...

     

    ผมกับดีโอค่อยๆแง้มเข้าไปดูข้างในห้องที่กำลังส่งเสียงเอะอะ อือหือ คนเพียบเลย...ทั้งนักแสดงหนุ่มนักแสดงสาวแต่ที่ดูมากกว่าคือจะเป็นคนกำกับที่อยู่เบื้องหลัง...บางคนแค่ยืนนิ่งๆและจ้องมองไปยังผู้กำกับเคที่นั่งถือลำโพงในมือ บางคนก็วิ่ง เดิน วุ่นวาย...

     

    ผมกับดีโอค่อยๆเดินไปข้างในและแอบไปหลบอยู่ที่มุมมืดของห้องเงียบๆ...ดีโอดูตื่นตาตื่นใจเบื้องหลังมาก

     

    แต่ผมสนใจเบื้องหน้ามากกว่า...

     

    ผมเห็นเธอยืนให้ช่างแต่งหน้าปัดแก้มอยู่...ผมเห็นตั้งแต่แง้มประตูดูแล้วละ...ผมจำร่างของเธอได้

     

    ผมมั่นใจเลยว่าเธอไม่เห็นผมหรอก เพราะพื้นที่ที่เธอยืนอยู่มันมีไฟสปอร์ตไลท์ส่องสว่างจ้าจนมองมาข้างหน้าไม่ชัด...ผมรู้เพราะผมก็เคยยืนที่ตรงนั้น...

     

    ผมมองเห็นเธอชัดดี...เต็มตาเลยละ เธอดูสบายๆนะ ในขณะที่เพื่อนๆของเธอตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่

     

    นั่น...เธอยังมีเวลามาทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อนอีก...เพื่อนๆเธอขำเธอกันใหญ่เลย มันตลกดีเหมือนกันแฮะ

     

    “นายหัวเราะอะไร” เสียงดีโอดังมา

     

    “หือ?...เอ่าหรอ..เปล่านี่”

     

    ผมรีบแก้ตัวไปเนียนๆ...นี่กูหัวเราะด้วยหรอวะ...

     

    ไม่นานผู้กำกับก็สั่งแสตนอินและสแตนบาย คนเบื้องหลังเริ่มหยุดเดินและจ้องไปยังจุดๆเดียว นั่นก็คือจุดที่นักแสดงกำลังโพสท่าต่างๆ กลุ่มแรกเป็นนักแสดงชาย...

     

    ดูดีเว่อร์ หน้าเป๊ะมาก แล้วขาจะยาวไปไหนน่ะ...

     

    ผมยืนดูกับดีโอไปเรื่อยๆก็เพลินดีนะครับ ผู้กำกับเคก็เป็นคนตลกด้วย เป็นการถ่ายแบบที่ไม่เครียดเลยจริงๆ

     

    กลุ่มต่อมาคือนักแสดงหญิง...

     

    สายตาผมมองที่จุดๆเดียวทันที...นั่นคือเธอ

     

    ผมเพิ่งเห็นว่าเธอแต่งหน้าแล้วดู...ดูสวยขนาดนี้ ผมเห็นแต่หน้าเปล่าๆของเธอ ไม่เคยเห็นเธอจัดหนัก...สวยจริงๆอะ...สวยมาก

     

    “ไปเถอะ” จู่ๆดีโอก็ลากมือผม แต่

     

    “เดี๋ยวสิ! ยังไม่จบเลยไม่ใช่หรอ!

     

    ดีโอหันมามองหน้าผมงงๆ เออกูรู้ว่ากูแปลก...แต่อยากดูต่อจริงๆอะ

     

    ดีโอดีอยู่อย่างคือไม่ถามมาก...เขายอมยืนดูต่อเป็นเพื่อนผม...แลกกันนะดีโอ ฉันมาดูเพื่อนายสุดท้ายนายก็ดูเพื่อฉัน...

     

    “น้องจีจีอย่าแอบทำสองนิ้ว ผมเห็นนะ! ฮ่าๆๆๆๆ” ผู้กำกับอารมร์ดีแซวเธอ...

     

    เธอหัวเราะเสียงดังแบบไม่อายชาวบ้าน...แต่มันก็เป็นเสียงหัวเราะที่ดูไม่น่าเกลียด...

     

    “ก็อยากให้ผู้กำกับเห็นไงค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”

     

    ผมได้ยินเธอตะโกนตอบ...ทุกคนหัวเราะคิกคักกันใหญ่เลย...รวมถึงผม...รวมถึงดีโอด้วย 













    (โอ้ยเมื่อไหร่จะเจอ 5555555555 ตอนต่อไปๆ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×