ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Band Ham การผจณภัยทะลุมิติ

    ลำดับตอนที่ #1 : การฝึกฝนที่เป็นไปได้

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 57


     ณ ค่ำคืนกลางความมืดสงัด มีเด็กชายคนหนึ่งที่กำลังแอบด่ำๆมองๆอยู่แถวแม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่ใจกลางเมืองแห่งน้ำพุ ณ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องของแสงสีที่สว่าง สดใสLOLISHILIA
      
              เนื่องจากด้วยความมีแสงสีที่โดดเด่นสวยงาม และคนที่เดินพลุกพล่านไปมา ทำให้ไม่ใครสังเกตเห็น เด็กหนุ่มที่กำลังทำตัวลีบๆ ให้เหมือนแกะ(?) ละมั้ง เนื่องจากเด็กหนุ่มคนนี้มีลักษณะที่โดดเด่นอยู่มากมาย ผมสีทอง นัยน์ตาสี ฟ้าน้ำทะเล รูปหน้าโค้งมน แต่ก็ยังเป็นดวงหน้าที่ได้เค้าโครงของความหนักแน่น ในความแข็งแกร่ง(สรุป ก็หล่อและคมเข้มคับผม)
    และเมื่อเด็กหนุ่มที่กำลังเดินชมเมืองกลางค่ำคืนอย่างสบายใจอยู่นั้น ก็ได้เห็นแสงไฟลอดมาจากไม้กระดานเล็กๆแห่งหนึ่ง
     
    เด็กหนุ่มซึ่งมีความสงสัยเกี่ยวกับทุกอย่างจึงได้ก้ม และลอง มองลอดดูก็ได้เห็น
     "รุกฆาต ฮ่า ฮ่า เจ้าแพ้ข้าแล้วล่ะ HEKO"

    เสียงนั้นเป็นของผู้หญิงที่ดูลึกลับคนหนึ่ง สีตาและสีผมของเธอเป็นสีดำสนิท ปากของเธอมีสีแดงที่ไม่จัดมากนักก็เลยเสริมให้ดวงหน้าของเธอกระจ่างใส ในแบบแปลกๆ ผมของเธอก็ยาวมากทำให้ดูน่าลึกลับและค้นหามากยิ่งนัก และยิ่งใส่ชุดกิโมโนสีแดงที่ดูสด และสวยมีลวดลายที่โดดเด่นเป็นลวดลายครามสีแสด เลยทำให้ดูมีรัศมีที่เปล่งปลั่งมากเท่านั้น

    ถึงจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ก็เถอะน่ะ
     "แค่ตานี้ ตาเดียวเท่านั้นเอง SESO ที่เหลือข้าก็ต้องชนะอยู่แล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าฝันไปเถอะ อีกกี่ปี กี่ปี ข้าก็ชนะเจ้าตลอดล่ะน่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
     "หึ แต่ก็ยกเว้นตานี้น่ะที่ข้าชนะเจ้า แล้วอีกอย่างเรื่องที่เจ้าจะชนะข้าในอีก กี่ปี กี่ปีของเจ้าน่ะ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับอนาคต ข้างหน้า หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
    เสียงที่ตอบโต้ไปมาอยู่กับผู้หณิงที่ลึกลับคนนั้น เป็นชายหนุ่มที่น่าจะมีอายุ
     30 ปีกว่าๆ ผมสีแดงสว่างสดใสและมีเคราอยู่หน่อยๆ หน้าตาออกไปทางนักรบผู้มีความอ่อนโยน เมตตาและแข็งแกร่ง ที่อยู่ในคนๆเดียวกัน ทำให้รู้สึกแปลกๆไปบ้าง ในชุด ยูกาตะสีน้ำเงิน ลายทางขาวที่ค่อนข้างใส่สบาย

    และอยู่กับในวันที่สบายๆ เหมาะแก่การดูดอกไม้ไฟหลังบ้านพร้อมกับสูดกลิ่นดอกไม้ในตอนกลางคืนและจิบชาอย่างเงียบสงบมากกว่า จะมานั่งเล่น หมากรุกหลายเท่านัก
     "เซโซ เจ้าว่าไหมว่ามีคนกำลังดูข้า กับเจ้าอยู่น่ะ หืม"
    ชายผมแดงพูดขึ้นขณะที่วางหมากรุกตัวหนึ่งลงไปในกระดานหมากรุก
     "หึ ข้าได้กลิ่นตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในเขตแดนของข้าแล้ว กลิ่นนี้....ข้าก็ไม่ได้กลิ่นนี้มานานหลายปีแล้ว กลิ่นแห่งความหายนะ หึ หึ หึ"

    ผู้หญิงลึกลับคนนั้นตอบกลับมาในท่าทีที่ง่วงหงอย และพร้อมที่จะหลับได้ทุกที่
     "นั่นสิน่ะ ข้าว่าเชิญเขาเข้ามา   ดีกว่าตากลม ตากฝนข้างนอกนั่น"
    เปาะ
    เพียงชายคนนั้นดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวสิ่งมหัสจรรย์ก็ได้เกิดขึ้น
    ตุบ
     "โอ็ย"
    เสียงกระแทก และเสียงร้องเป็นของเด็กหนุ่มผมทอง นัยน์ตาสีฟ้าของเรานั้นเอง
     "ฮะ..เฮ้ย นี่มันเกิดอะไรกัน..ละ..แล้วผมมาอยู่นี่ดะ..ได้ไง"
    เด็กหนุ่มที่กำลังมึนงงว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงก็ค่อยๆหันไปมองรอบๆ หันซ้าย หันขวาก็แล้ว หมุนคอไป 180 องศา ก็แล้ว
    (ก็ยังจำไม่ได้อยู่ดีว่ามาอยู่นี่ได้ยังไง)
     "เจ้าเด็กโง่ เขาคนนั้นเป็นพาเจ้าเข้ามายังไง"
    หญิงลึกลับคนนั้นเป็นคนตอบ ด้วยท่าทีเอือมระอานิดๆ
     "แล้ว..... ผมมาอยู่นี่ได้ไงกัน ก็เมื่อกี้ยังอยู่ข้างนอกอยู่เลย"
     "ก็ เห็นว่าเจ้า เด็กน้อยกำลังยืนตาก ลม เดี๋ยวตากฝนไปด้วย ก็จะยิ่งลำบากมากยิ่งนักชายผมแดงคนนั้นเป็นคนตอบกลับมา"
     "เอ๊ะ ฝนอะไรกัน ฝนยังไม่ตะ....."
    ซ่า
    ซึ่งจู่ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ย ซึ่งก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยด้วยซ้ำ ซ้ำฝนก็ยังตกหนักขึ้นไปอีกราวกลับว่ากำลังซ้ำเติมอะไรบางสิ่งบางอย่างอยู่
     "เอ๊ะ เดี๋ยวน่ะ คะ..คุณรู้ได้ยังไงน่ะ ว่าฝนกำลังจะตกน่ะ.."เด็กหนุ่มที่ทำท่าทางมึนงงและกำลังสับสนยิ่งนัก

    ว่าแต่ว่าหญิงสาวผู้ลึกลับก็ได้ ตัดบทของเด็กหนุ่ม
     "เจ้ามาทำอะไรแถวนี้ล่ะ หือ มาแอบด้อมๆมองๆ อยู่แถวนี้ มันรู้สึกเสียมารยาทมากรู้ไหม"
     หญิงสาวพูดด้วยทีท่าที่สบายๆไม่เคร่งเครียดมากนัก
     "เอาน่า ยังไงยังไง พวกเราก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้วล่ะน่ะ เพราะมันคือ ชะตา ยังไงล่ะ ไม่เคยมีใครเคยฝืนโชคชะตาได้เลย ใช่ไหมล่ะ เซโซ รุกฆาต"
    ชายคนนั้นตอบแทนเด็กหนุ่มด้วยท่าทีที่ไม่เปลี่ยนแปลง และสามารถรุกฆาตด้วยท่าทีที่สบายๆ
     "โธ่ นี่เจ้าชนะข้าอีกแล้วงั้นรึ หญิงสาวลึกลับพูดด้วยความเบื่อหน่าย" (ประมาณว่า นี่ข้าแพ้เจ้าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี้ย)
     "เอ่อ..ผมคงมารบกวนสินะครับ..เอม งั้นผมขอตัวก่อนน่ะคะ..ครับ ไปน่ะครับ"
    เนื่องจากความรู้สึกของเด็กหนุ่มคนนี้ รู้สึกอยู่ไม่ถูกที่ถูกทางยังไงก็ไม่รู้ และรู้สึกมีความรู้สึกที่ขัดแย้งกันเองภายในตัวของเด็กหนุ่มว่า
        "เฮ้ อยู่ต่อก็ได้น่ะ..เผื่อจะเจอเรื่องน่าสนุกน่ะเฟ้ย อีกอย่างเขาก็ไม่ได้ไล่นี่ จะรีบกลับไปไหนกัน ห๊า อาจจะได้เจอขุมทรัพย์ ที่ป่าอเมซอน ก็ได้น่ะเฮ้ย เผลอๆ อาจจะได้เจอมัมมี่ตัวเป็นๆก็ได้"
    และเหมือนกับว่าฝ่ายตัวร้ายยุยงให้อยู่ต่อ แต่ฝ่ายตัวดีก็รีบออกมาขัดขวางทันท่วงทีว่า
    "เฮ้ อย่าทำอย่างนี้เลยน่า รีบๆกลับกันดีกว่าคนพวกนี้ใครก็ไม่รู้อาจจะเหมือนในหนังก็ได้น่ะ ที่ว่าเอาเด็กหนุ่มไปใช่งานที่เหมืองน่ะ และวันๆ ก็ได้กินแต่กับข้าวหัวไชท้าวอ่ะ จะยอมเหรอ รีบๆไปให้พ้นซะ จากที่นี่ดีกว่าน่ะ "
    ตอนนั้นเองขณะที่เด็กหนุ่มกำลังครุ่นคิดกับอะไรบางอย่างอยู่นั้น
     "นี่..เจ้ามีชื่อว่าอะไร" จู่ๆหญิงลึกลับก็ถามขึ้นมา อย่างทรงอำนาจและย่อมไม่มีใคร ปฎิเศษการถามคำถามนี้
     "โมรุโคยะ ฮาราคิ ครับ" เด็กหนุ่มตอบคำถามหญิงลึกลับ
     "ฮาราคิคุง เธอเคยเชื่อของโชคชะตาบ้างรึเปล่า"
    หญิงลึกลับถามอย่างเรียบเฉย แต่น้ำเสียงของเธอนั้นช่างทรงอำนาจมากยิ่งนัก
     "โชคชะตานั้น .ผมคิดว่าผมเป็นคนที่จะกำหนดโชคชะตาของผมเอง.ผมจึงจะเลือกโชคชะตาของผมเองครับ"
    เด็กชายไม่สิ ฮาราคิตอบอย่างมาดมั่นและไม่ลังเลในคำพูดของตนเอง อย่างกล้าหาญ(ละมั้งน่ะ)
     "เจ้าเด็กโง่ ข้าถามว่าเจ้าเชื่อในโชคชะตารึเปล่า..ต่างหากเล่า"
    หญิงลึกลับ ตะคอกเกือบจะเป็นตะโกนใส่หน้าของเด็กหนุ่ม ไม่สิ ฮาราคิที่ตอบคำถามกลับมานั้นอาจจะไม่ค่อยตรงกับคำถามซักเท่าไหร่นักหรอก
     "ชะ..เชื่อมั้งครับฮาราคิ"
    ตอบอย่างอึกอักนิดๆหน่อยๆ
     "ดี"
    หญิงลึกลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจ
     "เฮกโค..ส่งเขากลับไปได้แล้ว..ข้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว"
     "ได้สิ......อ้ออีกอย่าง เจ้าหนู ยินดีที่ได้รู้จักน่ะ"
    ชายผมแดงบอกกับฮาราคิอย่างคนที่เหมือนเคยที่คุ้นเคย (แต่คุ้นเคยยังไงไม่รู้สิน่ะ)
     "หา"
    แเล้วจู่ๆก็เหมือนมีลมที่รุนแรงมากมาจากที่ไหนก็ไม่รู้จากทุกทิศทุกทางเหมือนที่จะพัดเอาวิญญาญออกจากร่างเลยล่ะ แล้วฮาราคิก็ได้ยินเสียงผ่านเข้ามาอีกว่า
     "โชคชะตาไม่เคยหายไปไหน แค่รอเวลาที่จะมาพบกันอีกครั้งเท่านั้น"
    ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ฮาราคิ
     
     
    เฮือก
    “คะ...คุณแม่”
       ห้องๆนี้ ก็เป็นแค่ ห้องเล็กๆห้องหนึ่งที่ ธรรมด๊าธรรมดาเหมือนเคย รูปภาพดาราเกาหลีโซนยอซิแดติดหลาไว้รอบๆหัวนอนของตัวเอง โต๊ะนั้งเล่นที่อยู่ใจกลางห้องก็ยังมี ของรกรุงรังยังกับรูหนูอยู่เหมือนเคย ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ ข้างๆหัวเตียงก็ยังมี ของเล่นโมกันดั้มวางไว้ระเกะระกะเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
       ไม่มีหมู่บ้านที่สว่างไสว ที่ดูน่าตื่นตระการตา ไม่มีกลิ่นอายของความเก่าแก่ของหมู่บ้านพร้อมผู้คนที่ดูน่าสนุกแม้ในเวลาที่อยากจะร้องไห้ ไม่มีความอบอุ่นที่แฝงด้วย 
    เวทมนต์บางอย่างที่ไม่อาจจะละหรือถอนสายตา ไม่ แม้กระทั่งจะเดินหนี ไม่มีอีกแล้ว  
      นี่เรามานอนนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ
                  ความฝันละมั้ง
    ฮาราคิคิดอย่างงั้นแต่หารู้ไม่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×