คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : doughnut boy | seungcheol x doyoon
ผมยังจำได้ ... ถึงวันแรกที่เราเจอกัน
ในวันนั้นที่ผมมาโรงเรียนเช้าเกินกว่าปกติ
หิวก็หิว กินอะไรก็ไม่ได้.. หงุดหงิดมาก
ผมไปที่ห้องเรียนตามปกติ
กำลังนั่งอารมณ์เสียอยู่คนเดียว
แล้วจู่ๆก็มีคนคนหนึ่งมาสะกิดไหล่ผม
เด็กผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าผมเกือบยี่สิบเซ็นต์
แก้มป่องๆ ผิวขาวๆ ตาโตๆนั่นทำให้ผมใจเต้นแรง
ไหนจะใบหน้าหวานๆนั่นอีกล่ะ
ผมแทบหยุดหายใจเมื่อเด็กคนนั้นยิ้มออกมา
ก่อนจะพูดออกมาอย่างเขินอายว่า
“ซ่าวั๊ดดีขรับ ผ้มชื่อจางโด้ยู่นครับ”
เหน่อชิบเป๋ง... นั่นคือความคิดแรกที่ผมมีต่อเด็กคนนั้น
จาง โดยูนในวัยเก้าขวบที่น่ารักจนน่าใจหาย
แต่หายเพราะสำเนียงเหน่อๆนั่นนะ...
จากวันนั้นก็ผ่านมาหลายปีแล้ว น้องจางโดยูนปอสามทับสี่ในวันนั้นก็ได้กลายเป็นพี่โดยูนมอต้นปีสามห้องบี. จากเด็กที่พูดด้วยสำเนียงบูซานเหน่อเสียจนเขาต้องหลุดขำออกมาในวันแรกก็กลายเป็นเด็กที่พูดด้วยสำเนียงโซลธรรมดาๆได้หลังจากอยู่ในเมืองกรุงมากว่าหกปี แต่ผู้เป็นเพื่อนสนิทก็ออกจะชอบสำเนียงแบบเก่ามากกว่าตอนนี้ เชว ซึงชอลยังคงมองจางโดยูนคนนี้เป็นเด็กตัวเล็กๆเมื่อวันแรกที่เจอกันเสมอแม้ว่าโดยูนในวันนี้จะกลายเป็นชายหนุ่มที่ไม่ได้ตัวเล็กเหมือนเมื่อก่อน แถมยังจะสูงเท่าเขาแล้วเสียด้วย
แต่กระนั้นสิ่งเดียวที่ยังคงอยู่คือความเป็นเพื่อนของคนทั้งสอง ซึงชอลกับโดยูนได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป ซึงชอลเป็น ‘เพื่อนคนแรก’ ของโดยูนในโซล ส่วนโดยูนก็เป็น ‘เพื่อนคนพิเศษ’ ของซึงชอลนับตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน ไม่ว่าที่ไหนมีโดยูนที่นั่นก็ต้องมีซึงชอล เด็กชายตัวเล็กๆในวันนั้นได้โตขึ้นจนตอนนี้ไม่ได้เป็นเด็กขี้อายอีกต่อไปแต่โดยูนก็ยังไม่ชอบที่จะ ‘อยู่ห่าง’ จากซึงชอล น่าประหลาดที่คนร่าเริงอย่างซึงชอลเองก็รู้สึกประหลาดๆหากวันใดไม่มีเพื่อนรักคนนี้อยู่ข้างกาย
เลือกเข้ามัธยมที่เดียวกัน อยู่ห้องเดียวกัน เลขที่ติดกัน.. ก็แหงล่ะสิ วันที่มายื่นใบสมัครก็มาด้วยกันนี่นา..
แม้ว่าโรงเรียนจะไม่ได้บังคับให้อยู่ประจำแต่ก็มีหอพักไว้สำหรับนักเรียนที่มีบ้านอยู่ที่ต่างจังหวัด เชว ซึงชอลที่เป็นคนโซลโดยกำเนิดไม่จำเป็นเลยที่จะต้องอยู่หอพักแต่ก็ยอมอยู่เป็นเพื่อนโดยูนที่มีบ้านเกิดอยู่ที่บูซาน เป็นทั้งรูมเมท ทั้งเพื่อนสนิท ทั้งบัดดี้ เป็นคู่หูปาท่องโก๋ที่เห็นอยู่ด้วยกันจนเป็นภาพชินตากับคนในโรงเรียน และวันนี้ก็เช่นกัน วันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ ในฐานะเด็กมอต้นปีสามที่ถือเป็นรุ่นพี่ของ ‘วงโยธวาทิต’ ของโรงเรียนเด็กหนุ่มทั้งสองจึงได้รับหน้าที่เป็นหนึ่งในทีม ‘รับสมัคร’ น้องๆที่จะต้องตระเวนไปตามห้องมอหนึ่ง
อันที่จริงแล้วซึงชอลเองก็ไม่ได้มีความสนใจทางด้านดนตรีอะไรมากมายหรอกนะ เขาออกจะติดเกมมากกว่าการมานั่งติดเก้าอี้เล่นเครื่องดนตรีแปลกๆเป่าปู้ดๆอะไรแบบนั้น แต่เป็นเพราะไอ้แก้มป่องนี่ตะหากที่ทำให้เขาต้องจำใจมาอยู่วงนี้เป็นเพื่อนทั้งๆที่โดยูนก็ไม่เคยบอกซักคำว่าอยากให้มาเป็นเพื่อน อาจเพราะลึกๆแล้วเขาเป็นห่วงไอ้หน้าหวานนี่อยู่ล่ะมั้ง ?
แล้วทำไมอยู่แค่มอสามต้องมารับสมัครน้องๆทั้งๆที่วงนี้มอปลายก็มี... เหตุผลน่ะหรอ ก็เพราะว่าตอนนี้เป็นวันเปิดเทอมของมอต้นน่ะสิพวกพี่ๆสุดเลิฟของพวกเขาก็คงนอนตีพุงสบายอยู่บ้านนั่นแหละ ทิ้งให้มอต้นปีสามอย่างพวกเขาทนทำงานรับสมัครลิงๆมอหนึ่ง และที่แย่ไปกว่านั้น เพื่อนๆทั้งสี่ที่เคยอยู่คู่กันมาก็พากันลาออกพรึ่บแบบพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นไอ้เสืออ้วนแบคโฮที่ตอนนี้บินไปสู่ขอ เอ้ย จู๋จี๋กับพี่อารอน เด็กปีหนึ่งม.โซลที่แอลเอบ้านเกิดของเฮียแก ไอ้เจอาร์ที่จู่ๆก็หลงการแร็พขึ้นมาแบบโงหัวไม่ขึ้น(?)หนีออกไปอยู่ชมรมฮิพฮอปคนเดียวไม่ยอมบอกใคร แล้วก็ไอ้คู่รักหวานลืมโลก มินฮยอนกับเร็นที่บอกว่าจะลาไปอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าโซลเพอร์ฟอร์มมิ่งอาร์ท ไอ้คนแรกก็น่าเชื่ออยู่หรอก คุณชายตี๋อย่างมินฮยอนน่ะ แต่ไอ้คนหลังน่ะไม่น่าใช่ น่าจะตามไปสวีทกันสองคนมากกว่า … บ้าจริง เพื่อนๆมอสามคนอื่นน่ะหรอ ? ไม่ต้องพูดถึงหรอก วันที่มีแค่ปฐมนิเทศแบบนี้ก็คงจะโดดกันหมด แถมเป็นวันศุกร์แบบนี้ ฝันไปเถอะว่าจะมีใครยอมมา
สุดท้ายภาระใหญ่หลวงจึงตกอยู่กับคู่เกรียนอย่างโดยูนกับซึงชอลกับไอ้หนูมอสองที่ขอติดมาด้วยอย่างอีจีฮุน จริงๆแล้วสำหรับสกินชิพเกรียนตัวพ่ออย่างซึงชอลมีโดยูนแค่คนเดียวก็อยู่แล้ว แต่คนยิ่งเยอะยิ่งดี มีไอ้หนูจีฮุนมาช่วยก็พอไหวอยู่ ด้านโดยูนเจ้าพ่อแห่งความฮา บวกกับหน้าใสๆและรอยยิ้มที่มีสเน่ห์ทำให้มีฐานแฟนคลับตัวเองอยู่แล้ว ถ้าได้คนหน้าตาดีระดับนี้ไปรับสมัคร รับรองว่าความสนใจเข้าวงโยปีนี้ต้องท่วมท้นไม่ต่างจากทุกปีเป็นแน่
แค่ว่าจะทนอยู่ต่อจากนี้กันได้นานแค่ไหนน่ะนะ...
“น้องโดนัทททททททททททททททททททท !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” นี่คือเสียงปลุกยามเช้าเหมือนทุกๆวันที่จางโดยูนได้ยินจนชิน ร่างเล็กใต้ผ้าห่มสีฟ้าที่ยังอยู่ในห้วงนิทราแม้ว่านี่จะเป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งแล้วแต่เตียงชั้นล่างของห้องพักชั้นสามนี่ก็สบายเสียจนเขาไม่อยากลืมตาตื่นขึ้น โดยูนกับซึงชอลเข้ามาในหอพักตั้งแต่วันพุธแล้วล่ะ แม้ว่าโรงเรียนจะเปิดตั้งวันศุกร์แต่ทางบ้านอยากให้เด็กหนุ่มรีบเข้ามาโซลก่อนซึงชอลเลยมาอยู่เป็นเพื่อน เมื่อคืนเป็นคืนก่อนเปิดเทอมทั้งสองเลยปาร์ตี้เล่นวีดีโอเกมโต้รุ่ง กว่าจะเข้านอนก็เกือบตีสาม ซากความสนุกของเมื่อวานยังหลงเหลือให้เห็น ทั้งเกมคอนโซลที่ถูกวางไว้เกะกะและซากห่อขนมที่ไม่ได้เก็บ สมเป็นห้องของชายโสดวัยสิบห้าเสียจริงๆ..
จะว่าไปวีดีโอเกมนี่ก็ไม่ได้อนุญาติให้มีในหอพักนี่นา.. แต่ช่างมันเถอะ เชว ซึงชอลซะอย่าง ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
‘พลั่ก’ ลูกถีบที่เข้าพิฆาตเงิงอันทรงคุณค่าของเด็กหนุ่มจอมเกรียนทำให้เขาต้องลูบหน้าด้วยความเจ็บ เจ้าของฝ่าเท้ามหาภัยคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้อ้วนที่นอนอืดบนเตียง ซึงชอลตบผัวะเข้าที่หัวกลมๆด้วยความหมั่นไส้เสียเต็มประดา ก็รู้อยู่หรอกว่าไอ้บ้านี่ไม่ชอบให้เรียกว่าน้องโดนัท... แต่ไอ้รีแอคชั่นนี่มันเจ็บนะฟร้อย ... ไม่ว่าจะโดนมันซักกี่วันก็ไม่ชินซักที ซึงชอลมองหน้าไอ้แก้มป่องที่นอนหลับตาพริ้ม แผ่นออกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ ขนตาที่เป็นแพของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับสนิท เพียงแค่นั้นเขาก็หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง จริงอยู่ที่ว่าซึงชอลจะชอบแกล้งไอ้น้องโดนัทเพื่อนสนิทคนนี้ แต่ที่ทำไปจริงๆก็เพราะว่าเขาชอบท่าทางเวลาโกรธของโดยูน แถมไอ้ตัวกลมเวลาที่ตกใจก็มักจะหลุดสำเนียงภาษาถิ่นออกมาเหมือนตอนเด็กๆ
ท่าทางแบบนั้นแหละ ที่ทำให้เขาหัวใจเต้นแรงขึ้นมา
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขามีไอ้ความรู้สึกแปลกๆให้เพื่อนสนิทคนนี้ ? เขาไม่ใช่เกย์.. และแน่นอนว่าโดยูนก็ไม่ใช่เกย์ แต่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าไอ้ความรู้สึกแปลกๆนี่คืออะไร ความรู้สึกที่วันดีคืนดีก็อยากคว้าไอ้น้องโดนัทเข้ามากอด ตัวนิ่มๆของมันอาจจะไม่มีเว้าๆโค้งๆให้อู้วว้าวส์เหมือนสาวๆ แต่ความรู้สึกตอนที่แฟนเซอร์วิส(?)กอดไอ้บ้านี่โชว์น้องๆก็ทำเอาเขามีความสุขมากทุกครั้ง ไหนจะรอยยิ้ม หรือคำพูด แม้ว่าไม่อ่อนหวานแต่ก็ทำให้เขายิ้มอออกมาได้เพียงแค่นึกถึง
นี่คือความรู้สึกปกติที่เพื่อนเข้ามีให้กันใช่ป่ะวะ? ซึงชอลไม่ค่อยแน่ใจ แต่ก็พยายามจะไม่เอามันมาคิดมากให้หนักหัว นี่ไม่ใช่ฟิคดราม่านะครับถึงไรเตอร์มันปกติจะแต่งแต่ดราม่าก็เหอะนะ... เฮ้ย นอกเรื่องละ เงิงสเน่ห์(?)หัวหน้าไปป๊ะกับนาฬิกาดิจิตอลสีเขียวบนหัวเตียงสองชั้นที่บอกเวลาเจ็ดโมงยี่สิบเล่นเอาเขาสะดุ้งเฮือก โรงเรียนเข้าเจ็ดโมงห้าสิบก็จริง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้กินข้าว ไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น .... ถ้าขุดไอ้น้องโดนัทไม่ขึ้นตอนนี้ คู่หูคู่เกรียนนี่ได้เกิดตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอมแน่ๆ..
คิดได้ดังนั้น ปลาช่อนเงิงเยอะจึงได้ดำเนินการตามแผนการปลุกน้องโดนัทขั้นเด็ดขาด...
จะลากมันลงจากเตียงทั้งอย่างงี้แหละ!!!!
และแล้วพี่ช่อนกับน้องโดนัทก็มาถึงหอประชุมทันเวลาแบบฉิวเฉียด อันที่จริงก่อนครูฝ่ายปกครองจะมาฟาดหัวฟาดหางเพียงแค่สิบวิ สิบวินาที... สกิลระดับเทพใช่มั้ย.. แน่นอนระดับไหนแล้ว ถอถอถอถอ... ถ่อว์ พี่ช่อนกับน้องโดนัทซะอย่าง ปลุกโดยูนยังไงให้ตื่นน่ะหรอ? มันก็ไม่ยากอะไรหรอก ใช้วิธีดั้งเดิมที่ซึงชอลได้สืบทอดวิชามาจากแม่ของเพื่อนซี้ เพราะไอ้แก้มป่องนี่เป็นประเภทนอนนานนนนนนนนนนนนนนนนนตั้งแต่เด็ก การจะขุดมันจากเตียงได้ย่อมต้องใช้วิชาพิเศษ โฮะโฮะโฮะ วิธีอะไรน่ะหรอ ก็ลากแขนมันลงมาแล้วก็เปิดน้ำใส่น่ะสิ ไม่ได้ราดลงบนเตียงเหมือนตามนิยายตามฟิคหรอกนะ ทำแบบนั้นก็ต้องมานั่งเช็ดอีกใช่มะ คนเก่งก็เงี้ย คนอะไรไม่รู้ทั้งหล่อทั้งฉลาด (เฮ้อ)
และแล้วผ.อ.คริสที่เป็นคนจีนก็เริ่มพล่ามตามเคย ด้วยขนาดตัวที่ไม่จำเป็นต้องใช้โพเดียมในการพูด พูดไปก็โชว์เงิงจนเด็กมอหนึ่งแถวหน้าเสียวว่าไอ้ฟันขาวๆนั่นจะมาเจาะหน้าผากพวกเขาเป็นรู… จริงๆแล้วจากเงิงนี่ก็เคยทำให้โดยูนสงสัยว่าซึงชอลอาจเป็นญาติฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่งของผ.อ.ก็เป็นได้ เงิงออกเหมือนกันไม่มีผิด รายนั้น.. หลังจากทอล์คโชว์น่าเบื่อของผ.อ.เงิงจอมเก๊ก ก็เป็นทีของฝ่ายปกครองที่มาเทศน์เรื่องกฎทำเอาเด็กใหม่เด็กเก่าหลับกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่คู่เกรียนที่หลับปุ๋ยไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีก็ปาไปสิบโมงแล้ว
นับเป็นยานอนหลับขนานดีเลย.. ปฐมนิเทศน์จากฝ่ายปกครอง
หลังจากปฐมนิเทศรวมก็เป็นแยกย้ายเข้าตามห้องเรียนเพื่อฟังโฮมรูมยาวสองชั่วโมงเพื่อจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ปีนี้โดยูนกับซึงชอลก็อยู่ห้องเดียวกันเหมือนทุกปี คงเป็นเพราะไม่ได้เรียนเก่งอะไรมากมายแต่ก็ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่เอาไหนบวกกับเวลาที่อ่านหนังสือก็อยู่ด้วยกันตลอด ชั้นเรียนที่จัดตามความถนัดและคะแนนจึงเป็นห้องเดียวกันเสมอ อาจารย์ประจำชั้นก็เป็นอาจารย์ที่เคยอยู่สอนมาที่โรงเรียนหลายปี ทุกอย่างก็ยังดูเหมือนกับทุกปี ห้องเรียนที่ดูเงียบเหงาเพราะทุกคนพร้อมใจกันโดดทำให้ดูโอ้ทั้งสองชักไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่มาเรียนในวันนี้ แต่เจ๊แกก็ยังมีความสามารถพูดได้ราวกับกล่าวสุนทรพจน์วันเลือกตั้งแข่งกับโอบามายังไงอย่างงั้น ว่าแล้วเปลือกตาของสองหนุ่มก็หนักขึ้นมาทันทีก่อนสองเกรียนจะผล็อยหลับไป ณ แถวหลังสุดของห้องเรียน
สรุปวันนี้ทั้งน้องโดนัทคนงาม(?) กับวัยทรามนายช่อนก็ได้เวลานอนพักเพิ่มไปประมาณสี่ชั่วโมง และตอนพักเที่ยงที่รอคอยก็มาถึง ซึงชอลในฐานะหัวหน้าวงชั่วคราวฉุดกระฉากลากถูเพื่อนสนิทที่เหมือนจะไม่ยอมตื่นอีกแล้วออกมายังหน้าห้องเด็กมอหนึ่งพร้อมกับกระดาษโน๊ตที่จดลิสต์เรื่องที่ต้องบอกน้องไว้อย่างถี่ถ้วน ดูโอ้จอมเกรียนรับหน้าที่ไปรับสมัครที่ห้องเอกับห้องบีส่วนทีมของจางคือริม(ที่พ่วงน้องจีฮุนไปด้วย)ไปห้องที่เหลือ ตอนนี้โดยูนกับซึงชอลจึงกำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆหน้าห้องมอหนึ่งห้องเอ
“จะเข้าไปยังวะซึงชอล กูว่าอีกแป๊ปก็จะหมดพักเที่ยงละนะ” โดยูนพูด เด็กหนุ่มแก้มพองกอดอกพิงกำแพงมองหน้าเพื่อนรักที่อ่านโพยทวนเป็นรอบที่ล้านด้วยสีหน้าเซ็งสุดๆ เห็นกากๆแบบนี้แต่พอเรื่องทีเป็นงานเป็นการไอ้ตูดนี่ก็สามาระจริงจังได้จนโดยูนเองก็ต้องแปลกใจ แต่ก็แบบนี้แหละที่ทำให้เขาสบายใจเวลาอยู่กับซึงชอล โดยูนเป็นคนไม่ค่อยจริงจัง วันๆก็เลื่อนลอยไร้สาระไปเรื่อย อารมณ์ขึ้นๆลงๆ มีซึงชอลเนี่ยแหละที่คอยดึงเขาให้กลับมาจริงจังได้
“อีกแป๊ปนึงสิวะ มึงก็เออๆออๆไปกับกูเหมือนทุกทีนะ” ซึงชอลพูดก่อนจะพับโพยเก็บหลังจากอ่านเป็นครั้งสุดท้าย มือเรียวขยี้หัวเพื่อนสนิทตรงหน้าด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะก้มลงบีบแก้มนิ่มอย่างสนุกสนาน โดยูนได้แต่มองไอ้เพื่อนรักเล่นเขาเหมือนกับทุกที ชินแล้วล่ะกับไอ้สกินชิพแปลกๆของสกินชิพคิงนี่น่ะ ตอนนี้เขากับซึงชอลก็กลายเป็นคู่จิ้นอันดับต้นๆของโรงเรียนไปแล้ว.. สาวกวายถึงกับสร้างบอร์ดสร้างกรุ๊ปสร้างทวิตแฟนคลับให้พวกเขาเลยทีเดียว.. เว่อร์กันจัง.. ไอ้บ้านี่มันก็แต๊ะอั๋งชาวบ้านไปทั่วนั่นแหละ
“ขอกำลังใจหน่อยสิครับน้องโดนัท♥” ซึงชอลก้มลงพูดใกล้ๆใบหน้าหวานพร้อมทำปากจุ๊ดจู๋เหมือนกับจะให้จูบ นักเรียนมอหนึ่งที่เดินผ่านไปผ่านมาหยุดมองภาพของคนทั้งสองด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงเล็กน้อยต่างพากันชี้ชวนให้เพื่อนๆมาดูคู่รักหวานชื่น(?)ประจำโรงเรียน
“ฮ้วย ไอ๊ฉ่อนไป้ขอบ้านพ่อเอ็งสิโว้ย ข้าบ่เล่นด้วยอิบักหำน่อยยยย” ภาษาถิ่นหลุดออกจากปากสวยของเด็กหนุ่มที่ทำหน้ามู่ทู่พร้อมถวายตีนไปที่กลางหน้าของเพื่อนสนิท แต่แน่นอนว่าซึงชอลต้องหลบทัน เดจาวูครับ.. ไอ้แบบนี้น่ะเจอทุกวัน..
“สำเนียงออกเลยนะโดนัทมายเบ่บี๋ ♥“ เหมือนจะยังไม่เข็ดกับลูกถีบ เดินเข้ามาจุ๊บแก้มเพื่อนรักจนสาววายแถวนั้นกรี๊ดกันสลบ คนโดนหอมแก้มเบิกตากว้างในทันใด แก้มกลมๆของเด็กหนุ่มขึ้นสีระเรื่อ ตาสวยๆคู่นั้นเบิกกว้าง เมื่อสมองประมวลผลได้ คนที่ถูกเรียกว่าน้องโดนัทก็ปล่อยกำปั้นออกไปเต็มแรง ก่อนจะวิ่งไล่เตะเพื่อนสนิทเงิงเยอะไปทั่วชั้นสองของเด็กมอหนึ่ง
“จีแอ...”
ทันทีที่เด็กหนุ่มเห็นร่างบางของหญิงสาวที่หน้าห้องเรียน 1-A ขาทั้งสองของเขาก็หยุดการไล่ล่าเพื่อนสนิทลงทันที ตากลมคู่นั้นมองไปยังเด็กสาวที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี รอยยิ้มที่สดใสเหมือนเคยยังทำให้เขาใจเต้นแรงเหมือนกับเมื่อก่อนใบหน้าสวยหวานกับแววตาที่จริงใจ เด็กสาวยังไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนแม้แต่นิดเดียว ทั้งใบหน้าที่แลดูน่ารักเหมือนกับเด็กๆหรือท่าทางการพูด ทุกๆอย่างยังทำให้จาง โดยูนคนนี้ต้องหวั่นไหวเหมือนเดิม ยู จีแอหันไปตามเสียงเรียก รอยยิ้มหวานบนใบหน้าเธอจางหายไปอย่างช้าๆเมื่อเห็นคนรักเก่าของเธออยู่ที่นั่น เธอกะพริบตาสองสามทีเพื่อเรียกสติ ก่อนจะส่งยิ้มจางๆไปให้โดยูนเหมือนเด็กโดนจับผิด
เด็กหนุ่มมองหน้าจีแออย่างเลื่อนลอยจนคนถูกจ้องต้องสะอึกเมื่อเห็นแววตาแบบนั้น เธอไม่ได้ต้องการจะทำร้ายโดยูน และก็ไม่เคยคิดว่าเด็กหนุ่มจะต้องเจ็บปวดถึงขนาดนั้นเมื่อเลิกกัน แถมที่แย่ไปกว่านั้นคือเธอดันมาเจอกับเด็กหนุ่มในวันแรกของการเปิดเทอมทั้งๆที่ตั้งใจจะหลบหน้าซักเดือนสองเดือน.. ไม่ระมัดระวัง ซุ่มซ่าม ติ๊งต๊อง ขี้ลืมจนทำให้คนอื่นเป็นห่วง นั่นคือนิสัยที่แก้ไม่หายซักทีของจีแอ.. เพื่อนสนิทของเด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเงียบจากคนเป็นเพื่อนสนิท เขาหันไปมองเด็กหนุ่มแก้มป่อง ตาคมมองตามที่สายตาของโดยูนจ้องมองก่อนจะพบหญิงสาวที่คุ้นเคยผู้เป็นสาเหตุให้คนเป็นเพื่อนสนิทที่ทุบตีเขาเมื่อครู่นิ่งสนิทไปได้
ยังรักเขาไม่เปลี่ยนสินะ โดยูน..
“ส..สวัสดี โดยูน ซึงชอล” เด็กสาวฟื้นยิ้มและยกมือทักทายเด็กหนุ่มทั้งสองก่อนจะเกาหัวแก้เก้อ ทำยังไงได้ล่ะ โดนจับได้คาหนังคาเขาว่าไม่ได้ ‘ไปเรียนต่อที่อเมริกา’ อย่างที่บอกโดยูนไว้จนได้...
“ทำไมถึงอยู่ที่นี่” คำพูดสั้นๆหลุดออกมาจากปากอิ่มด้วยน้ำเสียงนิ่งไม่คุ้นเคย นานขนาดไหนแล้วนะที่ซึงชอลไม่ได้เห็นท่าทางเย็นชาแบบนี้จากโดยูน ตอนที่นักเลงประจำห้องแกล้งโดยูนตอนปอห้า. ตอนที่ทะเลาะกันเรื่องที่เรียนตอนมอหนึ่ง หรือตอนที่จาง โดยูนเริ่มคบกับยู จีแอตอนมอสอง.. เขาเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน ที่แน่ๆท่าทางเย็นชาของโดยูนแบบนี้มีให้เห็นแค่เวลาที่เด็กหนุ่มจริงจังเท่านั้น และมีแค่ไม่กี่ครั้งที่โดยูนจะออกอาการโกรธจริงๆจังๆเหมือนครั้งนี้
โกรธเพราะอะไร ?
เพราะยู จีแอ โกหก หรือเพราะยู จีแออยู่กับคนอื่น
เรื่องนั้นซึงชอลก็ไม่อาจรู้ได้หรอกนะ แต่ที่แน่ๆที่เขารู้ตอนนี้คือก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายมันปวดเป็นบ้า เวลาที่เห็นโดยูนเสียใจแบบนี้ หรือเวลาที่โดยูนออกอาการใส่ใจผู้หญิงคนนั้นมากกว่าเขา. พอรู้ตัวอีกที ซึงชอลก็เดินไปข้างๆโดยูนและโอบเอวเพื่อนรักไว้แน่น จีแอมองมือปลาไหลของผู้มาใหม่ รอยยิ้มจางๆก็ปรากฎขึ้นที่มุมปากของเธอ เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย โอ้ว จีแอฟินค่ะ
เด็กสาวมองภาพนั้นด้วยความฟินสุดขีด โอบเอวแบบนี้เป็นแฟนกันแล้วหรือยังนะ ? ตอนนี้สองคนนี้พัฒนากันไปถึงขั้นไหนแล้ว ความคิดต่างๆนาๆพรั่งพรูเข้ามาในหัวของเด็กสาว ใช่แล้วเ เหตุผลที่แท้จริงที่จีแอตัดสินใจบอกเลิกโดยูนก็คือซึงชอลนี่แหละ เมื่อสี่เดือนที่แล้วที่เธอตัดสินใจพูดมันออกไป ไม่ใช่ไม่รักโดยูน แต่ว่าจีแอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นระหว่างคู่เพื่อนรักทั้งสอง ทั้งความเป็นห่วงและความใกล้ชิดที่มากกว่าคนเป็นเพื่อนกันธรรมดา โดยูนจะรู้มั้ยนะว่าสายตาที่ซึงชอลมองมาทางตัวเองนั้นมีความหมายมากเพียงใด และจะเคยรู้มั้ยนะว่าสายตาที่ตัวเองใช้มองหาซึงชอลมันดูอ่อนโยนกว่าที่ใช้มองเธอซะอีก
แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนั่นแหละที่จะไม่รู้ความรู้สึกที่แท้จริง อาจะเป็นเพราะคำว่าเพื่อนเป็นเส้นบางๆที่กั้นระหว่างความรู้สึกที่เก็บเอาไว้กับความคิดที่พยายามบอกตัวเองว่าเป็นเพียงความรู้สึกที่เพื่อนมีให้กัน เพราะต่างฝ่ายต่างพยายามปิดบัง ต่างพยายามเก็บซ่อนมันไว้ คนเดียวที่เห็นทุกอย่างในสายตาก็คงจะมีเพียงคนนอกอย่างจีแอ (และสาวกวายนับร้อยที่คอยลุ้นอยู่ห่างๆ) เท่านั้นที่รู้ว่าที่จริงแล้วต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกที่มากกว่าคำว่าเพื่อนให้กันและกัน นั่นเองเป็นสาเหตุที่ทำให้จีแอตัดสินใจตีตัวออกห่างจากโดยูนในที่สุด
เอ่อ... ก็นะ สาววายตัวแม่ พ่วงตำแหน่งหัวหน้าแฟนเพจซึงยูนคนปัจจุบันอีกต่างหาก..
“ยู จีแอ!ไหนบอกว่าจะไปเรียนที่อเมริกาไงล่ะ!?” โดยูนพูดเสียงดัง ร่างสูงกอดอกเหมือนที่ทำเวลาไม่พอใจ โอยให้ตาย เคะแตกแล้วพี่ป่อง จีแอหลุดออกจากโลกในจินตนาการมามองความเป็นจริง ดูท่าว่าจะยังซึนเดเระไม่มีใครบอกใครแหะ เด็กสาวยิ้มแหยๆและเกาหัวแก้เก้ออีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าตอนนี้ไม่รักโดยูนหรอกนะ แต่เท่าที่เธอรู้สึกได้ ความรักที่โดยูนมีให้เธอน่ะมันเป็นความรักแบบที่พี่ชายมีให้น้องสาวมากกว่า ในสายตาของโดยูนแล้ว จีแอที่เหมือนเด็กน้อย ซุ่มซ่าม ต้องมีคนดูแลเหมือนกับภาพสะท้อนของตัวเองในอดีต ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกอยากปกป้องดูแลเด็กสาวคนนี้ คงเหมือนกับความรู้สึกของซึงชอลในวันแรกที่ได้เจอกับโดยูนนั่นแหละ
“ คือ... ก็ไปเรียนอเมกานั่นแหละ...” จีแอพูดและยิ้มแหยๆ โดยูนเวลาโกรธนี่น่ากลัวชะมัด.. สายตาที่จ้องเหมือนจับผิดนั่นอีก ก็ตอนนั้นเหตุผลที่เอามาบอกเลิกโดยูนก็คือเรื่องนี้นั่นแหละ เรื่องที่บอกไปว่าจะต้องไปเรียนอเมริกา ซึ่งจีแอก็ไม่ได้โกหกหรอกนะ.. เธอไปเรียนอเมริกามาจริงๆนั่นแหละ เพียงแต่ว่า...
“แต่ว่า... แค่ซัมเมอร์น่ะแหะๆ” ตามนั้น... พูดเสร็จแล้วก็เกาหัวตามฟอร์ม โดยูนหรี่ตามองเด็กสาวตรงหน้าแล้วถอนหายใจ บางทีจีแอก็เข้าใจยากเกินไป เธอเป็นแฟนคนแรกในชีวิตของจาง โดยูน เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาอยากจะสนิทด้วย อยากจะปกป้องดูแล แต่สุดท้าย เขาก็ไม่ได้มีโอกาสดูแลจีแออย่างเต็มที่ หรือบางทีตอนนั้นเขาเป็นแฟนที่ไม่ดีกันนะ?ทั้งๆที่มีอีกหลายร้อยคำถามที่อยากจะถาม ทั้งเหตุผลที่แท้จริงของคำพูดในวันนั้นและอะไรๆอีกหลายๆอย่าง แต่สุดท้ายพอได้เจอกันจริงๆโดยูนก็ได้แต่ปั้นหน้านิ่งกอดอกพูดใส่เด็กน้อย ทำไงได้ ทิฐิมันค้ำขออยู่นี่นา
ทั้งสามตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงสายตาเท่านั้นที่สื่อความในใจของแต่ละคนออกมา ความเป็นห่วงของซึงชอลที่มีต่อโดยูน สายตาที่อบอุ่นของโดยูนที่มองไปที่จีแอ และสายตาแห่งความฟินของจีแอที่จับจ้องไปยังมือของซึงชอลที่โอบเอวโดยูน(?) หลังจากไม่มีใครพูดอะไรอยู่นาน เด็กสาวเห็นทีว่าถ้าปล่อยไปอย่างนี้ต่อไปท่าจะมาคุ คงต้องจุดประกายไฟอะไรซักอย่างให้สองคนนี้สปาร์คเลิกซึนเดเระแล้วหันมาเลิฟเลิฟกันซักที คิดได้ดังนั้น วิญญาณนักแสดงที่จีแออุตส่าห์ลงทุนไปเรียนการแสดงซัมเมอร์ที่อเมริกาก็เข้าสิง คลาสแอคติ้งที่ไปร่ำเรียนมาดูจะมีประโยชน์ที่สุดก็คราวนี้แหละ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะ” เด็กสาวก้มน้ำ ทำท่าเหมือนพยายามกลั้นน้ำตาไว้และเดินจากไป แต่มือของโดยูนก็เอื้อมไปจับข้อมูลของจีแอไว้... ทำไมต้องหลบหน้ากันด้วย..
“เดี๋ยวสิจีแอ!” โดยูนมองเด็กสาวคนนั้นด้วยแววตานิ่งๆ จีแอมองอีกคนด้วยสายตานิ่งไม่ต่างกัน
“ถ้าเธอไม่ต้องไปเรียนที่โน่นแล้ว.... เรากลับมาคบกันแบบเดิมได้มั้ย?”
วันนี้เป็นวันเสาร์..
ทั้งๆที่ไม่ได้คุยกันแค่แป๊ปเดียวแต่กลับรู้สึกเหมือนนานเป็นเดือน เขารู้สึกได้ โดยูนไม่ได้โง่ เขารู้ว่าตอนนี้เพื่อนสนิทคนเดียวในชีวิตของเขากำลังหลบหน้า ถึงจะไม่ได้หนีกลับบ้านไปก็เถอะแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันเลยตั้งแต่บ่ายเมื่อวาน หลังจากที่เขาได้เจอกับจีแอ.. เป็นเพราะเด็กสาวคนนั้นพูดอะไรแปลกๆมางั้นหรอ? หรือเป็นเพราะว่าโกรธที่เขายังดูรักเด็กสาวคนนั้นเหมือนเดิมทั้งๆที่สัญญากับซึงชอลไว้แล้วว่าจะตัดใจ แต่สุดท้ายพอได้เจอกับจีแอจริงๆเขาก็พูดอะไรแบบนั้นออกไป
ซึงชอลไม่อยากให้โดยูนกลับไปคบกับจีแออีก เพราะตอนนั้นที่โดนจีแอบอกเลิกเขาก็ซึมไปเป็นเดือน แถมยังลากซึงชอลไปเมาชา(?)เป็นเพื่อนที่ร้านน้ำชาของเจ๊ยูอาราอีกต่างหาก.. เพราะโดนบังคับให้เป็นคนจ่ายตังค์ซึงชอลจึงได้ขออะไรไว้อย่างนึงกับโดยูน
‘อย่าไปคบกับผู้หญิงแบบนั้นอีกล่ะ... ถ้าคราวหน้าอกหักมากูไม่จ่ายค่าชาให้แล้วนะ’
ทั้งๆที่น่าจะเป็นคำพูดเล่นแต่โดยูนก็กลับเอามันมาคิดอย่างจริงๆจังๆว่าซึงชอลไม่ชอบให้เขาคบกับผู้หญิงคนไหน บางทีอาจจะเป็นอะไรที่เขาโมเมคิดเอาเองก็ได้ที่ซึงชอลหายไปแบบนี้เพราะเรื่องของจีแอ จริงๆแล้วซึงชอลอาจจะไปติดหญิงที่ไหนอยู่ก็ได้...
ติดหญิงงั้นหรอ? แค่คิดว่าซึงชอลไปอยู่กับผู้หญิงซักคนก็ทำให้เขาหงุดหงิดซะแล้วสิ
ปากอิ่มเบะออกน้อยๆเหมือนเด็กเมื่อคิดถึงภาพนั้น ภาพของไอ้ช่อนโชว์เงิง(?)ที่กำลังยิ้มโชว์ฟันเหยินๆของมันให้สาวสวยๆซักคน แค่คิดก็อยากไปต่อยหน้ามันให้แหกซักทีแล้ว แต่ไม่หรอก ซึงชอลคงไม่ไปติดหญิงที่ไหนหรอก ตอนนี้ก็คงสะพรึงกับความโหดร้ายของสตรีเพศอยู่หลังจากเมื่อวานจาง คือริม เพื่อนร่วมวงสุดเลิฟของทั้งสองบุกมาถึงห้องมาเทศนาที่สุดท้ายไม่ได้ไปรับสมัครน้องที่ห้อง.. เจ๊แกบ่นได้เป็นชั่วโมงโดยไม่หยุด นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นซึงชอล เมื่อวานไอ้คุณเพื่อนรักที่มักจะมาคลอเคลียเวลาน้องโดนัทเสริมสวยเข้านอนไปตั้งแต่หมายังไม่เริ่มหอน แถมเมื่อเช้าก็ตื่นออกไปตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่จนเขาแอบสงสัยว่าตื่นเช้าขนาดนี้มันแอบไปเหล่ไก่ฟ้าที่ยอดเขาหนองปลาดุกหรือไง
คำพูดของจีแอเมื่อวานก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาไม่ต่างอะไรจากความเป็นห่วงซึงชอล โดยูนมองรูปของเขากับจีแอในมือถือ และย้อนคิดทบทวนถึงทุกสิ่งทุกอย่างในใจของเขา ทั้งความรู้สึก ความทรงจำ และทุกๆอย่างที่เขาเคยมีให้กับจีแอ รวมถึงซึงชอลด้วย..
‘คบกับฉันน่ะหรอ?จาง โดยูน นายลองไปคิดดูดีๆเถอะว่า คนที่นายรักน่ะคือใครกันแน่’ เด็กสาวกระซิบบอกเบาๆ รอยยิ้มเศร้าๆของจีแอที่ส่งมายังวนเวียนไปมาเหมือนคำพูดที่ยังคงดังก้องอยู่ในหัว. ซึงชอลที่อยู่ข้างๆเขาคงไม่ได้ยินคำพูดนั้นหรอก.. หลังจากนั้นเขาเองก็หนีไปอยู่ที่ดาดฟ้าของโรงเรียนคนเดียวเพื่อทบทวนคำตอบกำกวมที่จีแอพูดกับเขา ส่วนเพื่อนรักเขาเองก็หายหน้าไปเลยทั้งๆที่ปกติไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้ไฟไหม้ที่ไล่ด้วยระเบิดปรมณูก็คงไม่ไปห่างจากเขาหรอก
ก็แหงล่ะ.. พี่ช่อนเป็นคู่เกรียนปาท่องโก๋ของน้องโดนัทน่ะสิ
ถ้าขาดใครคนใดคนหนึ่งไปก็เหมือนกับขาดแขนขาดขาข้างหนึ่งไปนั่นแหละ สำหรับโดยูนแล้ว ซึงชอลเป็นอะไรที่สำคัญมากเสียจนไม่อาจเปรียบเป็นคำพูดได้ เพราะคิดว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นซึงชอลก็คงไม่มีวันไปไหนไกลเขา พอจู่ๆเจอการหลบหน้าแบบนี้ก็ทำเอาเขาตั้งตัวไม่ถูก มันรู้สึกโหวงๆ ทั้งๆที่ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ได้มีเรื่องกัน แต่แค่ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้คุยแบบนี้ ทำไมมันถึงทรมาณขนาดนี้นะ...
คิดไปคิดมาแล้วคำพูดของจีแอก็วนกลับเข้ามาในหัว พอดีกับที่ภาพรอยยิ้มเงิงเยอะของซึงชอลแวบเข้ามา ทุกๆภาพความทรงจำที่สำคัญมากเสียจนเขาเองลืมที่จะนึกถึงไป เพราะเหมือนกับส่วนหนึ่งของเขา โดยูนจึงไม่ได้นึกถึงความรู้สึกที่เขามีต่อซึงชอล ไม่นึกเลยซักนิดว่าที่จริงแล้วต่างคนก็ต่างมีความรู้สึกที่ข้ามผ่านไปเกินกว่าคำว่าเพื่อนกัน.
‘นายลองไปคิดดูดีๆเถอะว่า คนที่นายรักน่ะคือใครกันแน่’ คำพูดสุดท้ายที่เด็กสาวทิ้งไว้ กับรอยยิ้มปริศนานั่น. ตอนนี้มันได้ไขเข้าไปในหัวใจของเขา ราวกับกุญแจที่ปลดล็อกประตูสู่หัวใจของเขา คำพูดนั้นที่ลงล็อกพอดีกับความรู้สึกที่เขาเก็บไว้มานานและไม่กล้าที่จะเปิดเข้าไปหามัน ความรู้สึกที่ถูกซ่อนอยู่ลึกสุดในหัวใจ..
ความรู้สึกที่แท้จริงที่จางโดยูนมีต่อเชวซึงชอล.
ยี่สิบเอ็ดชั่วโมง สิบเก้านาทีแล้ว..
เด็กหนุ่มเงิงเยอะมองนาฬิกาในร้านกาแฟก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เขามองอเมริกาโน่ร้อนที่ถูกวางตั้งตากแอร์ไว้จนเย็น มือหนาจับแก้วนั้นตั้งแต่มันยังร้อนจนตอนนี้อุณหภูมิของของเหลวในแก้วก็ไม่ได้ต่างจากอุณหภูมิห้องที่ถูกปรับอากาศเสียแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ลงมือจิบมันแม้แต่นิดเดียว ดวงตาคมจับจ้องไปยังไอโฟนเครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะ รูปหน้าจอที่เป็นรูปคู่ของเขากับ ‘เพื่อนสนิท’ ตอนนี้มันดับลงกลายเป็นจอสีดำเพราะเจ้าของไม่ได้แตะต้องมันเป็นเวลานาน เขาได้แต่มองมันหวังว่าหน้าจอนั่นจะติดขึ้นมาพร้อมกับเสียงเรียกเข้าที่เขาตั้งไว้เป็นพิเศษสำหรับคู่หูคู่เกรียนของเขา
เพลงรักต้องเปิดของ 3.2.1 ที่มีใบเตยอาร์สยามมาฟีทเจอริ่งด้วย..
ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นใบเตยแล้วนึกถึงสำเนียงเหน่อๆของมันนั่นแหละ ไอ้เด็กปูซาน ไอ้เหน่อ ไอ้แก้มป่อง ไอ้น้องโดนัท... ไอ้คนน่ารักของเขา... คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เมื่อวานนี้แค่ได้ยินคำนั้นจากปากของโดยูน... คำพูดที่ขอให้จีแอกลับไปเป็นคนรักของเด็กหนุ่มอีกครั้ง คิดแล้วก็หงุดหงิดจนอยากจะปาถ้วยอเมริกาโน่ที่ให้แตกเป็นเสี่ยงๆ... แต่ถ้าทำอย่างนั้นมีหวังคนทั้งร้านได้หันมามองแถมต้องจ่ายค่าถ้วยอีกต่างหาก.. สมองเขาดูเหมือนจะหยุดประมวลผมตั้งแต่ได้ยินคำนั้นจากปากของคนเป็นเพื่อนสนิท เหมือนโลกทั้งใบมันหยุดหมุน
ไม่ต่างอะไรเลยกับวันที่เขาได้รู้ว่าโดยูนคบกับจีแอครั้งแรก
ความรู้สึกที่เจ็บแปล๊บอยู่ในอกนี่มันย้ำความรู้สึกลึกๆที่เขามีต่อเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ความรู้สึกที่ก้าวเลยขีดของความเป็นเพื่อน เป็นอะไรที่เขาพยายามเก็บซ่อนมันให้ลึกที่สุดและพยายามลืมมันไป.. เพราะเขารู้ดีว่าไม่มีทางที่โดยูนจะรู้สึกอย่างเดียวกันได้ และพยายามให้ดีที่สุดที่จะรักษาความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนไว้.. เขาไม่อยากจะไกลห่างจากโดยูนไปมากกว่านี้ แค่เท่านี้ที่ได้อยู่ด้วยกัน ได้ดูแล ได้แกล้ง ได้แอบแต๊ะอั๋ง(?) แค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้วจริงๆ...
ป่านนี้คงจะตื่นแล้ว จะทำอะไรอยู่?
ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของซึงชอล แต่เด็กหนุ่มก็ไม่กล้าที่จะหยิบมือถือออกมาโทรหาคนที่คิดถึงได้ เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว ตอนนี้จะอยู่กับจีแอหรือเปล่า...? เหมือนว่าสมองจะหยุดทำงานจริงๆหลังจากตอนนั้น เดินออกมาจากตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่ได้อยู่รอฟังคำตอบตอนที่โดยูนตอบ และก็ไม่คิดอยากจะรู้ด้วย เพราะอย่างนั้นเขาจึงหลบหน้าอีกฝ่ายมาตั้งแต่เมื่อวาน เข้านอนแต่หัวค่ำและตื่นแต่เช้าตรู่ทั้งๆที่ก็ไม่มีอะไรจะทำซักหน่อย ได้แต่เอาแต่เหม่ออยู่แบบนี้
“ซึงชอลอา...”
เสียงที่คุ้นเคยเรียกให้ชายหนุ่มที่เอาแต่เหม่อลอยต้องเงยหน้าขึ้นมอง เด็กหนุ่มแก้มป่องในชุดแจ็กเก็ตสีส้มกับกางเกงยีนส์ยืนอยู่ตรงนั้น ผมของโดยูนดูยุ่งกว่าทุกวันอาจเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองในวันนี้ซักเท่าไรนักในเมื่อวันนี้เขามีเพียงแค่ความรู้สึกว่างเปล่าที่ไม่มีเพื่อนรักอยู่ข้างกายเหมือนเดิม แม้แค่เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ตั้งแต่ได้รู้จักกันมาแทบไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่ได้พูดคุยกับซึงชอล เพราะอย่างนั้นเขาจึงรู้สึกว่างเปล่า ราวกับขาดอะไรบางอย่างไป
ท่ามกลางร้านกาแฟสีน้ำตาลแห่งเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องดื่มสีเข้ม ผู้คนมากมายกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส ไม่มีใครซักคนที่จะหันมาสนใจมองวินาทีนี้ที่ทั้งสองได้สบตา เชว ซึงชอลเงยหน้าขึ้นมองร่างบางที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง แววตาที่ไม่อาจเข้าใจได้ของทั้งสองอธิบายความลำบากใจที่ซ่อนอยู่ภายในให้ต่างฝ่ายฟัง โดยปกติแล้วแม้ไม่ต้องเอ่ยปากบอกอะไรออกมาเพื่อนรักทั้งสองก็สามารถจะเข้าใจซึ่งกันและกันได้ คงเพราะความผูกพันธ์ของทั้งสองที่มีมากเสียจนไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆสื่อสารออกมา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น แววตาของโดยูนดูสับสนไม่เหมือนเคย เช่นเดียวกับแววตาของซึงชอลที่แลดูซับซ้อนกว่าทุกที
โดยูนมองร่างสูงที่จมหายไปในเก้าอี้โซฟาสีเขียวเข้มขนาดยักษ์ มองกาแฟที่ดูท่าจะถูกสั่งมาตั้งแต่เช้า และมองไอโฟนที่ถูกวางทิ้งไว้อย่างนั้น. เสื้อยืดง่ายๆกับกางเกงขาเดฟสีดำและออลสตาร์คู่ใจ เหมือนกับชุดง่ายๆที่ซึงชอลชอบใส่ ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษที่โดยูนเลือกจะเดินออกมาที่นี่ แค่ความรู้สึกที่ว่าอยากจะออกมาข้างนอก ผ่านร้านกาแฟที่ทั้งสองเคยชอบไปนั่งกินด้วยกันและก็เลือกเดินเข้ามาที่นี่อย่างเงียบๆ แต่ก็สังเกตเห็นซึงชอลที่นั่งอยู่ที่นี่เสียก่อน เด็กหนุ่มเงิงเยอะเบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างเพื่อเลี่ยงการจะสบตากับเด็กหนุ่ม โดยูนรู้สึกเจ็บหน่วงๆในใจเมื่อเห็นการกระทำแบบนั้นจากอีกฝ่าย
ไม่มีแม้คำทักทาย
ต่างจากทุกครั้งมากจริงๆ การที่ซึงชอลเป็นแบบนี้ เพื่อนรักคนนี้ไม่เคยเมินเขา ไม่ว่าจะทะเลาะ จะโกรธกันแค่ไหนซึงชอลก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ นั่นทำให้โดยูนกลัว เด็กหนุ่มนั่งลงบนโซฟาสีส้มที่ตั้งอยู่ตรงข้ามตัวที่เพื่อนรักนั่งอย่างถือวิสาสะ มือเรียววางลงบนโต๊ะไม้ตัวเล็ก เคาะมันเบาๆเพื่อเรียกสติของคนที่กำลังเหม่อลอยอยู่
“ซึงชอลอา..มึงเป็นอะไร”
เชวซึงชอลหันหน้าไปตามเสียงเรียกแต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าใบหน้าของเพื่อนสนิทนั้นยื่นมาใกล้เกินกว่าที่คิดไว้ จางโดยูนที่ก้มลงไปมองด้วยความเป็นห่วงก็ต้องเบิกตากว้างเพราะระยะห่างระหว่าใบหน้าของทั้งสองเหลือเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น แก้มขาวของคนเด็กกว่าขึ้นสีระเรื่อ หัวใจของคนที่มักโดนแกล้งเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้เห็นใบหน้าของเพื่อนรักในระยะใกล้ขนาดนี้ ตาคู่ที่มักมีแววสดใสอยู่เสมอปิดลงด้วยความเขินอายขณะที่อีกคนขยับเข้าใกล้ใบหน้าหวานมากขึ้น สัมผัสนิ่มๆของริมฝีปากที่ทาบลงมาบนปากบางของโดยูนทำให้เขาต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดแก้มของเขาอีก ความรู้สึกตอนนี้มันช่างหอมหวานยิ่งกว่าจูบแรกที่เขาเคยมอบให้หญิงสาวคนใด นิ่มละมุนและนุ่มนวลเหมือนกับสัมผัสของมาร์ชเมลโล่ว
แต่จริงๆแล้วก็แอบกลัวเงิงเฉาะเหมือนกันนะ..
ความรู้สึกที่หอมหวานของจูบทีเหมือนกับ ‘จูบแรก’ จริงๆของโดยูน ทั้งๆที่มันไม่ใช่ แต่ใจของเขากลับพองโตและเต้นอย่างเร็ว นี่สินะสิ่งที่จีแอหมายถึง.. คนที่เขารักจริงๆคือเชวซึงชอลสินะ... ทั้งๆที่อยู่ใกล้ตัวขนาดนี้มาตลอด....
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่เพราะเคลิ้มไปกับจูบนั้นอยู่เสียนาน กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีเขาก็ขาดอากาศหายใจเสียแล้ว เหมือนกับรู้หน้าที่ เชวซึงชอลค่อยผละออกไปอย่างนิ่มนวล ไม่เหมือนกับไอ้เงิงบ้าพลังที่ชอบเล่นกับเขาแรงๆในทุกที.. ให้ตายสิ จะทำให้เขินไปถึงไหนกัน... แววตาอบอุ่นที่จ้องมานั่นก็ราวกับจะทำให้เขาละลายให้ได้ โดยูนอมยิ้มน้อยๆ ใบหน้าสีแดงระเรื่อกับแววตาที่แสดงออกถึงความเขินอายกว่าทุกที นั่นก็เป็นคำตอบอย่างดีให้กับคำถามในใจของซึงชอล
ว่าบางที อีกฝ่ายอาจคิดเหมือนเขาก็ได้..
“….. ขอโทษนะ น้องโดนัท... กูชอบมึงว่ะ.... ชอบมาตั้งแต่ขึ้นมอหนึ่ง....” พี่ช่อนพูดขึ้นด้วยสรรพนามที่ทำให้เด็กหนุ่มแก้มกลมหมดมู้ดจะโรแมนติก.. แต่ก็เอาเถอะนะ แค่คำพูดพวกนั้นก็มากพอจะทำให้เขาสตันท์ได้ สีแดงระเรื่อที่แก้มขาวยังไม่จาง โดยูนมองอีกฝ่ายนิ่งๆด้วยความตกใจ คำสารภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับมาก่อนจากคนที่ใกล้ตัวเขาที่สุดทำให้หัวใจดวงเล็กของเด็กปูซานเต้นไม่เป็นจังหวะ.. คนอายุมากกว่ามองใบหน้านิ่งๆนั่นก่อนจะยิ้มเจื่อนๆออกมา เหมือนกับรู้ตัวอยู่แล้วล่ะว่าจะต้องเจอกับปฎิกิริยาตอบรับอะไรแบบนี้ ไม่โดนมันถีบลงห้วยข้างร้านก็ดีเท่าไหร่แล้ว..
“ฮะๆ แต่กูรู้นะ ว่ามึงรักจีแอแค่ไหน... เออ มึงก็คิดซะว่ากูไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน... / ฮ่วย เงียบไป๊เหลยอิพี่ฉ่อนมึง!” ไม่ทันจะพูดจบ คนที่นั่งฟังอยู่ก็ทนบทละครตัดพ้อนั่นไม่ไหวและตวาดขึ้นทาด้วยสำเนียงบ้านเกิดด้วยความรีบร้อน เพราะน้ำเสียงที่ดูจริงจังของโดยูนจึงทำให้คนที่พูดมากอยู่เมื่อครู่เป็นฝ่ายสตั้นท์บ้าง คนแก้มป่องถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะสูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้ากับสิ่งที่เขาจะพูดต่อไป
“กูกับจีแอไม่ได้กลับไปคบกัน” โดยูนเริ่ม มือเรียวคว้ามือหนาของเพื่อนรักมาลูบเล่นเหมือนกับเวลาที่ไม่ค่อยมั่นใจ ซึงชอลมองร่างบาง มืออีกข้างเอื้อมไปลูบผมสีน้ำตาลเข้มเบาๆอย่างอ่อนโยน
“จีแอบอกว่ากูไม่รู้ใจตัวเอง... ตอนแรกกูก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ” เกาหัวเบาๆพร้อมรอยยิ้มแก้เก้อ ดวงตากลมมองไปยังคูคลองที่หน้าร้านเพราะไม่กล้ามองหน้าคนตรงหน้าโดยตรง ก็แหมมันจั๊กจี้นี่นา ให้พูดอะไรแบบนี้ แถมยังเป็นกับเพื่อนสนิทที่คบกันมาร่วมหกปีอีกต่างหาก
“แต่พอมึงไม่อยู่น่ะ... กูถึงได้รู้ว่า กูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีมึง”
“... ยิ่งกว่าจีแอ... ถ้าไม่มีมึงอยู่ด้วย แค่นาทีเดียว หรือวินาทีเดียวกูก็เหมือนจะตายแล้ว….”
“ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ กูจะบอกว่ากูชอบมึงได้มั้ยวะ?”
ความคิดเห็น