คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : part III | s w e e t d r e a m 『100%』
“คำว่าตลอดไปนั้นยาวนานแค่ไหนกัน”
“สุดขอบฟ้านั้นไกลเพียงใด”
“ข้าไม่รู้หรอก... แต่ข้าจะรอเจ้าที่นั่น ณ ปลายขอบฟ้า ตลอดไป...”
ได้โปรดอย่าปลุกฉันขึ้นจากความฝันที่หอมหวานนั่น
อย่าปลุกฉันให้พบกับความจริงที่แสนโหดร้ายนี้เลย
ได้โปรดปล่อยให้ฉันจมอยู่กับความฝันที่แสนสวยงามนี้ตลอดไป
“แจ็คสัน……”
ริมฝีปากบางขยับเพียงแผ่วเบา ‘องค์ชาย’ มาร์คมองร่างสูงที่อยู่ในห้วงนิทราด้วยแววตาที่ห่วงหาเหมือนเช่นเคย แม้จะอยู่ใกล้กันเพียงเท่านี้ตลอดมาแต่ก็กลับเหมือนว่าอยู่ไกลกันเกินเอื้อม ไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้อีกคนได้ฟังได้ นั่นคือข้อตกลงของเขากับพระบิดา ภายในเวลาหนึ่งเดือน... เขาจะต้องทำให้แจ็คสันกลับมารักเขาดังเดิม
แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มาร์คก็ไม่เคยหมดความหวัง
เขามั่นใจว่าลึกๆแล้วแจ็คสันยังคงรักและจดจำเขาได้เป็นแน่ ร่างบางจึงยินดีที่จะมอบทั้งร่างกายและความรักที่บริสุทธิ์ของเขาให้กับชายหนุ่มโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
วันแล้ววันเล่าผ่านไป ความหวังยิ่งลดน้อยลง ‘อิเอิ้น’ พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เรียนรู้จากโทรทัศน์ว่ามนุษย์ที่เป็นคู่รักกันนั้นทำอย่างไร เขาลองทำขนม จัดห้อง ไปจนถึงถักเสื้อ ลองทุกวิถีทางเพื่อจะเอาใจ ‘เจียเอ๋อ’ แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะรักเขาตอบเลยแม้แต่น้อย
“ข้ารักเจ้านะ.....”
เสียงทุ้มเอ่ยแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ มือเรียวไล้แก้มสากนั้นอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มที่อ่อนแรกถูกส่งไปให้คนที่หลับใหลไม่อาจรับรู้ได้ ตากลมเหลือบมองนาฬิกา เข็มวินาทีที่ขยับทีละน้อยพาให้ดวงใจเล็กขององค์ชายแตกสลาย เวลาตอนนี้เหลืออยู่ไม่มากนัก
แค่เที่ยงคืนวันนี้สินะ...
แล้วทุกอย่างก็คงจะต้องจบลง
11.50
อีกเพียงสิบนาทีก็จะถึงเวลาที่กำหนด ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงกว้างที่เขาใช้นอนร่วมกับเจียเอ๋อตลอดหนึ่งเดือนเต็มนี้ ดวงตาคมกวาดมองไปรอบห้องคุ้นเคย รูปภาพบนกำแพง โต๊ะเขียนหนังสือ โคมไฟสีอ่อนที่วางอยู่บนนั้น ชั้นวางของสีเข้ม โทรทัศน์เครื่องหรูที่อยู่ตรงกันข้ามกับเตียง ตู้เสื้อผ้าใบโตที่ตอนนี้จุเสื้อผ้าของคนถึงสองคน
ทุกๆอย่างล้วนเต็มไปด้วยความทรงจำอันแสนล้ำค่าด้วยความรู้สึก มันคงเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่าอีกไม่กี่อึดใจเขาจะไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว
ก่อนจะมาที่นี่เขาเคยคิดว่าโลกมนุษย์เป็นสถานที่ที่แสนโหดร้าย
แต่ตอนนี้เขากลับพบว่าแม้มันอาจไม่งดงามไร้ที่ติแบบสรวงสวรรค์ แต่มันกลับอบอุ่นและน่าอยู่ในความไม่สมบูรณ์แบบของมัน..
ปากกาขนนกสีทองที่ถูกวางทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้งานมากว่าเดือนถูกหยิบขึ้นมาใช้หลังจากมาร์คได้เก็บซ่อนมันเอาไว้อย่างมิดชิดตลอดสามสิบวันที่ผ่านมา กระดาษสาสีหม่นในลิ้นชักก็เช่นกัน เขานึกย้อนถึงวันที่ได้รับมันจากแจ็คสัน
ย้อนกลับไปครั้งที่ยังอยู่บนโลกสวรรค์ เทวดาหนุ่มได้มอบสิ่งนี้ให้กับองค์ชายเนื่องในโอกาสครบรอบร้อยวันที่คนทั้งสองได้พบกัน แจ็คสันไม่ใช่คนที่มีฐานันดรอะไรมากมายบนสวรรค์หากเทียบกับเจ้าชายอย่างเขา การที่ตลกหลวงลงแรงไปตามหาของขวัญที่สมฐานะกับคนรักที่เป็นถึงโอรสของราชาแห่งสวรรค์ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
ปากกาทองคำแท่งนี้ทำจากขนของนกฟินิกส์ และยังเคยเป็นขององค์หญิงของรัชกาลก่อน
ไม่อยากจะคิดเลยว่ากว่าจะได้สิ่งนี้มาตลกหลวงคนนั้นจะต้องทำอะไรแลกมาบ้าง มาร์คยิ้มให้กับวันวานในอดีตที่แสนงดงามเหล่านั้น แจ็คสันที่ครั้งหนึ่งเคยมอบทั้งชีวิตเพื่อปกป้องดูแลองค์ชาย แต่ในวันนี้มีเพียงแค่เจ้าชายเทวดาตกสวรรค์คนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นฝ่ายปกป้องชายหนุ่มในวันนี้เท่านั้น
องค์ชายจรดปลายปากกาลงบนกระดาษสีขาวบริสุทธิ์และค่อยๆเขียนข้อความที่อีกฝ่ายคงไม่มีวันได้อ่านลงไปราวกับคนโง่เขลา ริมฝีปากสีชมพูเหยียดยิ้มออกบางๆ
พระบิดามีพลังมากเกินกว่าทีใครจะต่อกรได้ และเจียเอ๋อก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาๆที่แสนอ่อนแอเมื่อเทียบกับราชาแห่งฟ้าสวรรค์ ชายหนุ่มไม่มีอะไรมากไปกว่ามือหยาบคู่ใหญ่ที่คอยโอบกอดมอบความอบอุ่นให้กับเด็กหนุ่มที่แสนจะเย็นชาอย่างมาร์ค
เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นหน้าที่ของเขา
อิเอิ้นคนนี้ที่จะปกป้องคนที่เขารักจนสุดหัวใจด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี
แม้วันพรุ่งนี้เขาจะต้องตื่นจากความฝันที่แสนหวานนี่ก็ตาม...
『20%』
0.00
“มาร์ค ต้วน!” เสียงโกรธเกรี้ยงดังลั่นขึ้นในคอนโดหรูกึกก้องไปทั่วทั้งอาคาร ทันใดนั้นพื้นพสุธาก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ร่างมหึมาเหมือนที่เหมือนชายวัยกลางคนปรากฎกายขึ้นกลางห้องกว้าง ร่างนั้นแลดูงดงามเหมือนกับมีประกายแสงสีทองผ่องออกมาจากกายใหญ่ ผู้เป็นพระบิดาผู้น่าเกรงขามของเทพบุตรหน้าสวย เขาอยู่ตรงนั้นในชุดสีขาวล้วนเหมือนกับที่อิเอิ้นใส่ในวันแรกที่ลงมาบนโลกมนุษย์นี้
“สามสิบวันได้ผ่านไปแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อจบเรื่องทุกอย่าง” ผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าแห่งสวรรค์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเย็นทว่าสง่างามเหมือนกับทุกครา ไม่ต่างไปจากแววตาที่คนเป็นลูกใช้มองพระบิดาแต่อย่างใด มือหยาบกร้านที่เต็มไปด้วยร่องรอยที่ได้จากการทำงานตลอดนับแสนปีมานี้กระชับอาวุธคู่กายในมือแน่นพร้อมรุกฝีเท้าหนักเดินหน้าไปยังทิศที่มีชายหนุ่มผู้เป็นคนรักของพระโอรสนอนไม่ได้สติอยู่ อิเอิ้นนั่งอยู่ที่ปลายเตียงนั้น ร่างบางนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด ราวกับดวงใจนั้นปราศจากซึ่งความกลัว มือเล็กวางราบเรียบอยู่บนเตียง
“หลบไป มาร์ค เจ้าสัญญากับข้าแล้ว จำมิได้หรือกระไร” มือใหญ่วางลงบนไหล่ของผู้เป็นลูกเบาๆ พระเนตรฉายแววอ้อนล้ากับความดื้อด้านของพระโอรส
“ไม่” คำพูดเพียงสั้นๆออกมาจากริมฝีปากสีสวย ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองพระบิดาแทนความรู้สึกมากมายที่อยู่ในใจ
ตอนนี้มาร์คไม่ใช่เด็กอีกแล้ว
แววตาที่ทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกเย็นวาบถึงขั้วหัวใจ มาร์คไม่เคยเป็นเด็กไม่ดี พระโอรสเป็นคนหนักแน่นแม้จะไม่เคยเรียกร้องอะไรมากมายจากคนรอบข้าง แต่หากเรื่องใดที่องค์ชายได้ตัดสินใจแล้วจะไม่ไขว้เขวอีกเป็นอันขาด นิสัยที่มั่นคงไม่อ่อนแอทำให้ราชาแห่งโลกสวรรค์รู้สึกไม่กังวลพระทัยในตัวพระโอรส แต่ในตอนนี้นิสัยที่เคยเป็นสิ่งที่องค์ราชาคิดว่าดีกับลูกชายกลับกลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้เขากลัวจนสุดใจ
กลัวว่าพระโอรสจะตกอยู่ในห้วงความรักจนผิดสัญญา
“แจ็คสันจำเจ้าไม่ได้แล้ว จิตใจของมนุษย์นั้นแสนโสมมครุ่นคิดแต่เพียงเรื่องต่ำช้า เจ้าไม่ควรไปข้องเกี่ยวกับมนุษย์ตั้งแต่แรก” ผู้สูงศักดิ์พูด ใบหน้างามสง่าเชิดขึ้นไม่ยอมมองตรงมายังใบหน้าหวานของผู้เป็นลูก
“มันไม่คู่ควรกับเจ้า…” พระหัตถ์ใหญ่ลูบกลุ่มผมสีสดเงาสลวยนิ่มมือย่างแผ่วเบา หากแต่มือเรียวชองผู้อ่อนวัยกว่ากลับปัดมันออกในทันใด ดวงตาคมสวยฉายแววโกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน
“อย่าว่าเจียเอ๋ออย่างนั้น” ท่าทางที่เหมือนกับแมวที่ขู่ฟ่อคำรามศัตรูราวกับจะปกป้องคนรักที่นอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนเตียงทำให้คนเป็นบิดาแสยะยิ้ม.
เจียเอ๋องั้นหรือ? มาร์คเพิ่งเรียกชื่อของแจ็คสันในภพมนุษย์นี้
รักมันแล้วงั้นหรือ หวังเจียเอ๋อที่เป็นมนุษย์ธรรมดาๆไม่มีอะไรพิเศษ ชายหนุ่มแสนดื้อรั้นที่ไม่อาจแม้จะจดจำคนรักบนสวรรค์ได้
แม้จะเป็นคนที่ไม่มีอะไรแบบนี้ มาร์คก็ยังยินดีที่จะรักชายผู้นี้อย่างนั้นหรือ
“ข้ามาที่นี่เพื่อจบเรื่องที่เราได้สัญญากันไว้นะมาร์ค” องค์ราชาพยายามปรับพระสุรเสียงให้ฟังดูนิ่งแม้ลึกๆแล้วจะรู้สึกสงสารผู้เป็นพระโอรสอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยความเป็นราชาที่พูดแล้วไม่อาจคืนคำนั้นทำให้เขาจำต้องทำตามสิ่งที่ได้เคยกล่าวไว้
แจ็คสัน ไม่สิ.. หวังเจียเอ๋อจะต้องถูกทำลาย
ไม่ใช่แค่ตาย แต่เป็นการหายไปจากทุกภพชาติ
สลายไปราวกับธาตุอากาศ เหมือนไม่ได้มีตัวตนอยู่มาตั้งแต่แรก...
ถูกทำลายให้หายไปเสียอย่างนั้น
พระหัตถ์แกร่งชูอาวุธอันใหญ่ขึ้นก่อนจะชี้มันไปยังร่างของชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงกว้าง แสงสีเงินสว่างวาบออกมาจากส่วนปลายของมัน เมื่อเห็นดังนั้นเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงก็ลุกยืนขึ้นทันที มือเรียวกำอาวุธขิ้นเล็กไว้แน่น แสงสีขาวของมันเปล่งออกมาส่องประกายสู้กับแสงสีเทาเงินของผู้เป็นพ่อ
แม้พลังของเขาไม่อาจเทียบเท่าพลังของราชาแห่งโลกสวรรค์ ยิ่งในยามที่เขาได้มาอยู่บนโลกมนุษย์เป็นเวลานานแบบนี้ แต่เพราะสายเลือดของกษัตริย์แห่งทวยเทพที่ไหลเวียนอยู่ในตัว ความกล้าหาญและพลังของอิเอิ้นก็มากพอที่จะต้านทานแรงทำลายล้างมหาศาลนี้จากผู้เป็นบิดาได้ชั่วคราว
“ถอยออกมา มาร์ค!” ชายผู้มีอำนาจสูงสุดบนโลกสวรรค์ลั่นวาจาดังกึกก้อง ความร้อนจากลำแสงนั่นแผ่ออกมาอย่างน่าหวาดหวั่น เขาไม่ได้ผ่อนแรงลงจากเมื่อครู่เลย
อิเอิ้นรู้จักผู้เป็นพ่อดี รู้จักทั้งพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี่ และอุปนิสัยที่ยึดมั่นไม่ผ่อนปรนและปราณี
เขารู้ดีว่าเทพองค์นี้ไม่มีทางกลับไปยังสวรรค์จนกว่าจะปลิดชีวิตของหวังเจียเอ๋อที่เขารักจนหมดหัวใจได้เสียก่อนอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่ที่นี่เพื่อปกป้อง..
ปีกสีขาวขององค์ชายแห่งโลกสวรรค์กางออกกว้างบังแสงสีเงินที่กำลังเอาชนะประกายสีขาวได้ทันท่วงที องค์ชายแห่งโลกสวรรค์ได้กลับสู่ร่างเดิมของเทพบุตร ใบหน้าที่งดงามนั่นมีแววตาที่มั่นใจกว่าครั้งใด นั่นยิ่งทำให้กษัตริย์ชรายิ่งแข็งกร้าวยิ่งขึ้น
มาร์คกำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกมนุษย์...
โอรสเพียงองค์เดียวของพระองค์กำลังทำผิดกฎของฟ้าสวรรค์
มาร์คกำลังแสดงรูปกายจริงต่อหน้ามนุษย์
ร่างของอิเอิ้นที่แข็งแกร่งกว่าร่างของมนุษย์เมื่อครู่ยิ่งจุดไฟแห่งโทสะที่อยู่ในใจให้กับผู้เป็นบิดา
ทำไมกัน
ทำไมกัน เจ้าที่เคยเป็นเด็กว่าง่ายและเชื่อฟังจึงกลับยอมฝ่าฝืนกฎเพื่อปกป้องมนุษย์ที่ไร้ค่าเยี่ยงนี้..
“ไม่! ข้าเป็นของเจียเอ๋อ! ใจข้าเป็นของหวังเจียเอ๋อ และกายของข้านี่ก็เช่นกัน!! หากท่านพ่อจะฆ่าเจียเอ๋อ ท่านต้องฆ่าข้าก่อน” เด็กหนุ่มหน้าสวยประกาศกร้าว แสงสีขาวเมื่อครู่โอบล้อมร่างหนาของชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงไว้แน่นราวกับเป็นเกราะที่จะปกป้องไม่ให้อันตรายใดๆมาสู่เจ้าของดวงใจของเขาได้
ฝ่ายชายหนุ่มที่ถูกปลุกขึ้นจากห้วงนิทราด้วยเสียงของการต่อสู้และแสงสว่างจ้าค่อยลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาของมนุษย์ที่ไร้พลังค่อยๆปรับสภาพให้มองภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
นางฟ้า...
ตรงหน้าเขานี้คือนางฟ้าไม่ผิดแน่
ปีกสีขาวกว้างกางบดบังเขาจากแสงสีเทาที่ดูน่าหวาดหวั่นนั่น เหมือนกับปกป้องเขาจากเปลวไฟนรกที่พร้อมจะแผดเผาร่างกายที่อ่อนแอนี้ให้หายไปอยู่ทุกเมื่อ เรือนผมสีอ่อนกับผิวขาวนวลเนียนที่เขาจำได้ดีแม้ในยามหลับใหลในตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อกาฬผุดขึ้น ใบหน้าที่ไม่ว่าใครก็ต้องหลงใหลกำลังบิดเบี้ยวเหมือนกับกำลังใช้พลังงานอย่างหนัก..
อิเอิ้น....
ชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อได้เห็นภาพนั้นอย่างเต็มตา สมองประมวลผลพาให้เขาย้อนคิดไปถึงวันแรกที่เขาได้พบเจอกับเด็กหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบคนนี้
นางฟ้า ไม่ผิดแน่ ที่เด็กหนุ่มบอกว่ามาจากสวรรค์ แท้จริงแล้วคงจะไม่ใช่เรื่องโกหกแน่ๆ เรื่องที่ไม่น่าเชื่อนี้เป็นเรื่องจริง และกำลังเกิดขึ้นกับเขา ด้วยความหวาดกลัวต่อภาพตรงหน้า ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างรวดเร็ว ภาวนาให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน
ใช่แล้ว ฝันร้าย
เพียงแค่เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพตรงหน้านี้ก็จะหายไป มีเพียงแค่เด็กหนุ่มหน้าสวยนี่ที่นอนอยู่ข้างกาย
“มนุษย์ที่อ่อนแอไม่ควรคู่กับเจ้า มาร์ค ถอยออกมาเสียเถิด ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้าหรอกนะ” สุรเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวดังเสียจนชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงตึกทั้งตึกที่กำลังสั่นไหวไปตามเสียงนั่นราวกับธรณีกำลังร่ำไห้ด้วยความกลัว ดวงไฟสีเทาเพิ่มความร้อนขึ้นเสียจนเขารับรู้ได้
“หากท่านพ่อจะฆ่าเขา ก็ฆ่าข้าแทนเสียดีกว่า!!” เกราะกำแพงสีขาวขยายวงกว้างขึ้น ลำแสงเดียวกับปีกกว้างปรากฎขึ้นจากมือเรียวที่เขาเคยสัมผัสอยู่ทุกวันสาดตรงไปยังองค์ราชาแห่งสวรรค์หมายทำร้ายให้เทพชราต้องเสียกำลังและล่าถอยไป แต่ตอนนั้นเองรัศมีสีทองจากร่างของผู้เป็นพ่อก็แผ่ขยายออกมา เทพผู้ยิ่งใหญ่มองพระโอรสอย่างอ่อนแรง ความร้อนแรงของก้อนไฟสีทองนั้นแทบจะแผดเผาให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายหลอมละลายไปในทันทีที่ได้สัมผัส
แสงสีทองขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนปกคลุมอาคารใหญ่ไว้ทั้งหมด เทพผู้ยิ่งใหญ่ได้หายไปจากที่เมื่อครู่แล้ว เจ้าแห่งสวรรค์ได้กลับไปยังที่ที่เขาจากมาเสียแล้ว ทิ้งไว้เพียงแค่พระโอรสร่างบางกับมนุษย์ผู้ไร้ทางสู้บนเตียงนั้น อิเอิ้นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ปีกกว้างสีขาวถูกกางออกปกป้องร่างของเจียเอ๋อที่อยู่บนเตียงอีกครั้งได้ทันท่วงทีก่อนที่แสงสีทองนั่นจะแปรเปลี่ยนเป็นแรงมหาศาลบีบให้อาคารใหญ่ทั้งหลังพังทลายลงมาในพริบตาจนเกือบจะทับร่างของคนที่นอนอยู่
เด็กหนุ่มหน้าสวยเข้ารับแรงตึกทั้งอาคารที่ล้มลงใส่เพียงลำพัง หยดน้ำตาใสเอ่อคลอล้นอยู่ที่เบ้าตาหากแต่มันไม่ได้มาจากความเจ็บปวดทางกายที่แสนสาหัสนี่ แต่เป็นความกลัวว่าจะต้องสูญเสียคนสำคัญตรงหน้านี่ไปต่างหาก
เปลวเพลิงสีดำจากการระเบิดเมื่อครู่ลามมาติดที่ปีกสีขาวของเทวดาหน้าสวย แทนที่จะเป็นเจียเอ๋อ.... ไฟนั่นเป็นสิ่งที่องค์ราชาตั้งแต่จะมอบให้กับชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่อิเอิ้น แต่ไม่มีทางหรอก... ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้คนที่เขารักจนหมดใจจะต้องรับเปลวไฟนรกนี่ไป
ความมืดมิดค่อยๆกัดกลืนกินเขาอย่างช้าๆ มือบางบัดนี้เปื้อนไปด้วยเลือดและรอยขีดข่วนจากการถล่มของตึกเลื่อนไปลูบเบาๆที่ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่อยู่ภายใต้ปีกใหญ่นั่นอย่างอ่อนโยน แม้ว่าตอนนี้ในแววตาที่เคยสุกสกาวสดใสนั่นมีเพียงแค่ความหวาดกลัวคงเหลืออยู่ก็ตาม
“ขอบคุณนะ เจียเอ๋อ.... สำหรับทุกอย่าง” เสียงหวานเอ่ยอย่างอ่อนแรง เมื่อนิ้วเรียวนั่นสัสผัสเข้าที่หน้าผากของชายหนุ่ม ความรู้สึกง่วงก็ถาโถมเข้ามาราวกับเวทย์มนต์ อิเอิ้นมองอีกคนที่หลับตาลงทั้งน้ำตา
อย่างน้อยตอนนี้เจียเอ๋อก็ปลอดภัยแล้ว..
ปลอดภัยอยู่ใต้ปีกขาวที่ตอนนี้ถูกกัดกินจนไม่เหลืออะไร
“หลับให้สบายนะ .. และถ้าตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ขอให้นายลืมทุกอย่าง..” เจียเอ๋อรู้สึกได้ถึงหยดน้ำที่หยดลงบนตัวเขา ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่ว นี่ใช่ไหม เวทย์มนต์ของนางฟ้า น้ำตาวิเศษที่เหมือนกับรักษาเขาจากความเจ็บปวดและความกลัว
มันไม่ยุติธรรมเลย กับการทิ้งให้อีกคนต้องหวาดกลัวอยู่คนเดียว..
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
ตอนนี้แม้กระทั่งแรงจะลืมตายังไม่มีเลย...
อยากจะดึงร่างบางตรงหน้าเข้ามากอดปลอบ
ไม่มีทางหรอกที่เขาจะลืมคนตรงหน้าได้เหมือน
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้านั่น..
เพียงแค่นึกถึงสีหน้าของอีกคนตอนร้องไห้หัวใจของเขาก็แหลกสลายไปหมดแล้ว
ทำไมเขาถึงอ่อนแอแบบนี้กันนะ...
ในเวลาแบบนี้เขาอยากจะเอื้อมมือไปปาดน้ำตาอีกคน แล้วบอกให้ได้ยินว่าเขาไม่มีทางลืมอีกคนได้ ทั้งสัมผัส รสจูบ แววตา และทุกๆความทรงจำเหล่านั้น
ไม่มีทางที่เขาจะลบมันไปได้หรอก
“ฮึก.. ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉันไปให้หมดซะ” แม้ไม่อยากจะจากชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของหัวใจไปแต่ ‘ความตาย’ ที่กำลังคืบคลานนี่ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นเลย แม้จะอยากอยู่เคียงข้างคนตรงหน้านี้ตลอดไปแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ อย่างน้อยก็ยังทำให้เจียเอ๋อมีชีวิตรอด
มีชีวิตรอดแทนที่จะเป็นเขา เพราะหากโลกนี้ไม่มีเจียเอ๋ออยู่แล้วการมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับอิเอิ้น
คาถาที่คุ้นเคยถูกร่ายออกจากปากบางอย่างช้าๆพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้มองใบหน้านี้ มันยากเหลือเกินกับการเอ่ยคำแต่ละคำออกไปเมื่อมีความคิดเหล่านี้อยู่ในหัว
ฉันจะปกป้องเธอด้วยทุกอย่างที่ฉันมี
เพราะเธอคือเหตุผลเดียวที่ฉันมีชีวิตอยู่
ขอให้รอยยิ้มนี้อยู่กับเธอตลอดไป...
“ข้ารักเจ้านะ”
ความมืดมิดได้ปกคลุมดวงตาที่เคยเป็นประกายให้มืดบอด ความเจ็บปวดไม่คุ้นเคยสำหรับองค์ชายผู้ที่เคยเป็นอมตะ รสชาติของความตายที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้สัมผัส
มนุษย์ต้องทุกช์ทรมาณอย่างนี้ทุกคราเลยหรือ?
หรือความตายทางกายนั้นไม่เจ็บปวดเท่ากับความตายทางวิญญาณแบบนี้ ดวงวิญญาณที่ถูกสลายทั้งกายเนื้อและจิตใจโดนกลืนกินเข้าไปกับความว่างเปล่า
เทพบุตรมาร์คกำลังเลือนหายไป...
ทั้งจากโลกมนุษย์ใบนี้ และไม่ว่าโลกใบไหนๆ
เวทย์สุดท้ายถูกร่ายออกมาอย่างแผ่วเบาเพื่อลบความทรงจำที่แสนหวานและขมขื่นซึ่งเกี่ยวพันความรักของคนทั้งสองไว้ออกจากชายหนุ่มที่หลับใหลอยู่อย่างปลอดภัยท่ามกลางซากปรักหักพักของอาคารที่ครั้งนึงเคยเป็นคอนโดหรู พันธนาการที่ยึดเขาไว้กับเจียเอ๋อได้ถูกปลดออกไปแล้ว เพื่อที่ว่าอีกคนจะได้ไม่ต้องทนทรมาณอยู่กับภาพความทรงจำทุกๆอย่าง
เสียงเบาบางกระซิบออกจากริมฝีปากสีซีดพร้อมทั้งรอยยิ้มและน้ำตาหยดสุดท้าย
“ข้าจะปกป้องเจ้า.. ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งหนใด.....”
“หลับให้สบายเถิดดวงใจของข้า”
“ล่าก่อน”
เสียงรถพยายาลที่กำลังแล่นเข้าสู่สถานที่เกิดเหตุเป็นสิ่งแรกที่ชายหนุ่มได้ยินหลังจากตื่นขึ้นจากการหลับลึกกว่าครั้งใดในชีวิต หน่วยกู้ภัยพบร่างของชายหนุ่มวัยยี่สิบ ปีที่สลบไสลไม่ได้สติอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังทว่ากลับปลอดภัยขนิดที่ว่าไม่มีแม้รอยขีดข่วนบนใบหน้าหล่อเหลาเลยแม้แต่น้อยสร้างความประหลาดใจให้เหล่านักกู้ภัย
“คุณครับ!” หน่วยกู้ชีพเขย่าร่างของผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์ตึกถล่มปริศนาเมื่อคืน หวังเจียเอ๋อปรือตาขึ้นมองชายแปลกหน้าอย่างงัวเงีย ความรู้สึกปวดหัวแล่นเข้าจู่โจมอย่างรุนแรงจนต้องรีบปิดตาลงอีกครั้งอย่างรวดเร็วแต่อากาศเย็นเฉียบราวกับไม่มีฮีตเตอร์ที่คอยให้ความอบอุ่นเหมือนในยามปกติทำให้เขาต้องเปิดขึ้นอีกรอบด้วยความสงสัย
ซากอาคารโดยรอยทำให้ชายหนุ่มที่เพิ่งตื่นต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“น...นี่มันเกิดอะไรขึ้น” พูดแล้วลุกขึ้นยืนด้วยตนเองอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าผู้รอดชีวิตนั้นดูจะไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ ผู้มาช่วยเหลือจึงรีบรุดไปตามหาผู้สูยหายที่ติดอยู่ด้านในกันต่อหวังจะได้พบผู้รอดชีวิตปาฏิหารย์แบบนี้อีก ทิ้งให้ชายหนุ่มที่เพิ่งฟื้นมองไปรอบกายอย่างหดหู่
ทำไมกันนะ... เขาถึงได้รู้สึกแปลกๆแบบนี้
เหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างนั้นแหละ
ใครบางคนที่แสนคุ้นเคย..
ใครบางคนที่เคยสำคัญมากในอดีต
จู่ๆหยาดน้ำตาก็ไหลลงมาโดยไม่มีสาเหตุ เขาเองก็ยังงงกับความรู้สึกหน่วยๆในใจตอนนี้ ความว่างเปล่าที่ถาโถมเข้ามาจนน่ากลัว ท้องฟ้าวันนี้เป็นสีเทาราวกับรับรู้ถึงความหม่นหมองที่กัดกินเขาอยู่ ขนนกสีขาวปลิวมาตามแรงลมดูงดงามราวกับปีกของนางฟ้าลอยผ่านหน้าของเขาไปอย่างฉิวเฉียดแล้วร่วงหล่นลงสู่พื้นเบื้องล่างตามแรงโน้มถ่วง
ภาพของมันซ้อนทับกับภาพในความทรงจำที่ถูกบังคับให้ลืมเลือน
ณ ดินแดนที่ไกลออกไปที่ไหนซักแห่ง
ใครบางคนกำลังมองมายังชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มที่แสนเศร้า ดวงตาดำขลับมีน้ำตาใสเอ่อล้นอยู่
ข้าจะปกป้องเจ้าจากตรงนี้ตลอดไป.....
end.
AUTHOR'S
สามตอนมันสั้นจังเลยเนอะ ;____; งืมมม อยากได้สเปกันรึเปล่าฮวัฟ
ตอนนี้คือมีพล็อต แต่ว่ากำลังว่าจะแต่งฟิคยาว....
ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ สำหรับช็อตฟิคอะไรก็ไม่รู้
ติชมด่าว่ากล่าวยังไงกับ( #ช็อตฟิคลืม )ก็ตามมาบอกในทวิตได้เลอนะฮวัฟ
ความคิดเห็น