ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( seventeen ) forever young | sf / os ❀

    ลำดับตอนที่ #1 : diary | doyoon x jihoon

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 59












    ( หมายเหตุ : ดัดแปลงจากฟิคบีสท์คู่ซึงซอบปี2011 )


     









     

                กี่โมงแล้ว....

     

     

     

     

                ดวงตากลมเปิดขึ้นมองบนท้องฟ้าผ่านหลังคากระจกของห้องนอนที่อยู่บนดาดฟ้าของบ้าน ... คืนเดือนมืดงั้นหรอ... คืนนี้ท้องฟ้าเปิดพอดี... แสงดวงดาวมากมายระยิบระยับอยู่ท่ามกลางความมืดมิด งดงามเสียจนร่างเล็กหยุดนิ่งมองมันซักระยะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               

                นอนไม่หลับ....

     

     

     

     

                ดูเหมือนว่าจะนอนไม่หลับอีกแล้ว...

     

     

                โรคนอนไม่หลับ เป็นโรคประจำตัวของอีจีฮุนมาตลอดชีวิตสิบกว่าปีที่ผ่านมา.. ตั้งแต่จำความได้ จีฮุนก็ต้องนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนานๆกว่าจะหลับได้ หรือแม้กระทั่งบางทีก็นอนไม่หลับเลยทั้งคืน..

     

     

                ก็ไม่รู้เหมือนกันหรอกว่าทำไม.. แต่ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว.

     

     

     

     

                เพียงแต่ก่อนหน้านี้มีคนคนนึงอยู่คอยคุยโทรศัพท์กับผมจนเขาหลับไปทุกคืน.. ช่วยรักษาให้คนตัวเล็กหายจากโรคที่ทรมาณนี่อย่างช้าๆ... เสียงน่าฟังนั่นค่อยๆกล่อมให้เขาหลับไปอย่างนิ่มนวลราวกับบทเพลงที่แสนอ่อนหวาน...

     

     

     

     

     

     

     

    จนกระทั่งวันที่คนคนนั้นหายไปจากชีวิตของอี จีฮุน

     

     

     

     

                ร่างเล็กถอนหายใจเบาๆ. ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเปิดไฟ.. เพราะรู้ว่ายังไงคืนนี้ก็คงยังไม่หลับง่ายๆแน่ ร่างเล็กเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานไม้สีเข้ม ที่วางอยู่ติดริมหน้าต่างก่อนจะหยิบไดอารี่เล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมาขึ้นมาจากกระเป๋า สมุดเล่มเล็กถูกเปิดขึ้นพบกับหน้ากระดาษสีสวยอย่างที่ชอบ. รอยยิ้มบางเบาปรากฎขึ้นที่มุมปากอิ่ม ก่อนมือเล็กจะจรดปลายปากกาลงบนหน้ากระดาษนั่นช้าๆ

     

     

     

     

    새로 일기장에

    หน้าแรกของไดอารี่เล่มใหม่

    아끼던 펜을 꺼내

    ฉันหยิบปากกาด้ามโปรดออกมา

    잠깐

    ครู่หนึ่ง

    생각하다 글을 써내려가

    ฉันหยุดคิด ก่อนจะเริ่มลงมือเขียน

    200924

    วันที่สี่กุมภาพันธ์สองพันเก้า

    가로등불이 노랗게 물든 예쁜 밤에..

    แสงสีอัมพันที่ส่องมายังท้องถนนยามค่ำคืน ..ช่างเป็นคืนที่งดงาม

     

     

     

     

     

                ข้อความในใจที่อยู่ในหัวถูกส่งผ่านไปยังไดอารี่เล่มสวยนั่นอย่างไหลลื่นตามประสาคนที่เขียนไดอารี่เสียจนชินเป็นกิจวัตร.. ใช่แล้ว เพราะโรคนอนไม่หลับนั่นทำให้จีฮุนชอบมานั่งเขียนไดอารี่คนเดียวตอนดึกๆตั้งแต่อายุได้ประมาณแปดขวบ..

     

                จริงอยู่ที่มันเป็นเรื่องแบบเด็กผู้หญิง ที่เขาเองมักจะโดนตำหนิอยู่บ่อยๆ หากแต่การถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวหนังสือในแต่ละวันแบบนี้ทำให้ร่างเล็กสบายใจได้มากกว่าที่จะนั่งจดจ่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์แบบคนอื่นๆ ปล่อยใจให้ลอยไปกับความคิด. ผ่อนคลาย และระบายสิ่งที่พบพานมาในแต่ละวันแบบนี้เสมอๆ.

     

     

     

     

     

                และวันนี้ก็เช่นกัน อี จีฮุนก็เขียนไดอารี่ด้วยรอยยิ้มเหมือนทุกวัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีอารมณ์ดีเหมือนวันก่อนๆ แต่การทำในสิ่งที่ชอบแบบนี้ ก็ยังทำให้เขายิ้มได้เสมอ...

     

     

     

                อย่างน้อยก็ยังยิ้มได้ แม้มีน้ำตาหยดใสที่หยดลงเปื้อนไดอารี่เล่มที่บรรจงเลือกมาก็ตาม.

     

     

     

     

    오늘은 문득 부드러웠던 그대 목소리가

    วันนี้ก็เหมือนวันอื่นๆที่เสียงอันนุ่มนวลของเธอยังดังก้องอยู่

    너무 그리워

    คิดถึงเหลือเกิน

    두리번거리다 하루가 벌써

    ครุ่นคิดจนเมื่อรู้สึกตัวอีกที ทั้งวันก็ได้ผ่านฉันไปแล้ว

    길가다 들을법한 뻔한 가사로 들리겠지만

    อาจฟังดูเหมือนในเนื้อเพลงที่เธอเคยได้ยินทั่วๆไป

    이건 그냥 눈물로 그리는 서툰 이별의 그림일뿐..

    แต่มันก็ทำให้น้ำตาของฉันไหลออกมา... ภาพของวันที่เราเลิกกัน...

     

     

     

     

                ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นจากการเขียนเมื่อพอใจแล้ว จีฮุนเก็บปากกาคู่ใจใส่กล่องดินสอใบโปรดแล้วปิดไดอารี่ลงวางเก็บไว้ที่เดิมก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วเดินออกไปยังห้องครัวเพื่อหานมอุ่นๆดื่มซักแก้วก่อนนอน ขาเล็กตรงไปยังตู้เย็น ก่อนจะพบกับความผิดหวังเมื่อมีเพียงแค่ขวดน้ำเย็นเท่านั้นที่อยู่ในตู้เย็น..

     

                คงเผลอกินนมจนหมดแล้วลืมซื้อแน่ๆ... ช่วยไม่ได้แหะ. ถ้าไม่ได้กินนมก็คงนอนไม่หลับ..

     

     

     

     

                คิดได้ดังนั้นมือเล็กจึงเอื้อมไปหยิบเสื้อแจ๊กเก็ตตัวใหญ่ขึ้นใส่พร้อมกับหมวกและผ้าพันคอ... แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ใช่ฤดุหนาว แต่ในอากาศในเดือนตุลาคมแบบนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว แค่เสื้อเจ๊กเก็ตตัวหนากับผ้าพันคอนี่คงเอาอยู่. สำหรับเดินออกไปที่มินิมาร์ทหน้าปากซอย จีฮุนยิ้มให้กำลังใจตัวเองบางๆ ก่อนจะผลักประตูออกไปปะทะกับลมหนาวของยามค่ำคืน.

     

    อยู่คนเดียวอีกแล้ว.. ใช่แล้ว ทั้งบ้านนี่มีเขาอยู่เพียงคนเดียว.

     

                ในบ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์นสีขาวบริสุทธิ์แห่งนี้ที่ตั้งอยู่แถบชานเมือง บ้านที่มีเพียงเขาคนเดียวที่อาศัยอยู่ นับจากวันที่ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาเป็นการถาวรเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว. โดยไร้คำท้วงติงจากลูกชายคนนี้. เพราะว่าเข้ากับพ่อแม่ไม่ได้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จีฮุนจึงพอใจที่จะอยู่ที่นี่มากกว่า..

     

     

     

                สองมือเล็กซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ๊กเก็ตนั่น..

     

     

                อุ่น...

     

     

     

     

                จริงอยู่ที่มือสองข้างนั้นอุ่น แต่สำหรับเขาตอนนี้. ที่ยืนอยู่เพียงลำพัง มันช่างเหน็บหนาวใจเหลือเกิน..

     

     

     

     

     

                ขาเรียวเล็กก้าวออกไปก้าวแล้วก้าวเล่าด้วยแสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างถนนเพียงเล็กน้อยส่องทาง จีฮุนยิ้มจางๆเมื่อนึกถึงวันเก่าๆที่เมื่อเขาออกมาซื้อนมดึกๆแบบนี้ทีไรก็มักจะมีเสียงของคนคนนั้นผ่านมือถือพูดคุยอย่างเป็นห่วงทุกที.

     

                เพียงแค่นึกถึงน้ำตาหยาดใสก็เอ่อล้นขึ้นมาจนขอบตาร้อนผ่าว. จีฮุนได้แต่เร่งฝีเท้าให้เดินไปถึงที่มินิมาร์ทให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ผ่านสถานที่แห่งความทรงจำตรงนั้นไปได้เร็วที่สุด. แต่ราวกับฟ้ากลั่นแกล้ง .. ทางไปยังมินิมาร์ทอันคุ้นเคยนั้นกลับดูจะไกลเกินกว่าที่เคยเป็น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ซื้อของเสร็จแล้ว.....

     

     

     

                จีฮุนตรวจของในถุงกระดาษที่ได้ซื้อมา ก่อนจะกอดไว้หลวมๆ นม.. คอนเฟลกซ์ และอาหารฟรีซ เครื่องดำรงขีวิตของจีฮุนตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้.. ถึงแม้ว่าจีฮุนจะทำอาหารเป็น แต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยจะโปรดปรานการทำอาหารซักเท่าไหร่นัก จึงได้แต่พึ่งอาหารสำเร็จรูปง่ายๆแบบนี้ไปก่อน..

     

     

                เท้าเล็กค่อยๆก้าวเดินไปตามถนนสายที่คุ้นเคย. มองตรงไปยังถนนข้างหน้า. เมื่อก่อนตอนที่ครอบครัวเขายังอยู่ที่นี่ จีฮุนก็ออกมาซื้อของตอนกลางคืนแบบนี้บ่อยๆ ทั้งขนมนมเนย ไม่ต่างไปจากตอนนี้... แล้วเวลาที่กินก็จะมีคนคนนั้นคอยดุแล้วขู่ว่าจะอ้วนเอา. สุดท้ายก็จบลงด้วยการเถียงกันเหมือนเด็กๆ.

     

     

     

     

     

                ... พอคิดถึงเรื่องตอนนั้น น้ำตาก็พาลจะไหลลงมาอีกรอบ...

     

     

     

                จีฮุนใช้มือปาดน้ำตาออกลวกๆแล้วเดินกลับบ้าน แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อรู้สึกว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ ร่างเล็กหันหลังกลับไป ก่อนจะได้เห็นร่างของชายหนุ่มที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดหนึ่งเดือนที่เลิกกัน. ถุงกระดาษในมือก็หล่นไปที่พื้นถนนอย่างง่ายดาย ก่อนน้ำตาใสที่เพิ่งหยุดไปเมื่อครู่จะไหลออกมาจากตากลมเป็นทาง...

     

     

                จู่ๆ ขาก็หมดเรี่ยวแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ เล่นเอาจีฮุนแทบล้มทั้งยืน. คนตัวเล็กกลืนน้ำลากที่แห้งผากลงคอ .. ก่อนจะหันมองคนตรงหน้าให้เต็มตาแล้วพยายามเปล่งเสียงออกเรียกอีกฝ่าย. ปากบางเม้มเข้าหากันน้อยๆ

     

     

    우리라는 길이 끊어지고 위에 추억이라는 디딤돌

    ข้ามผ่านชิ้นส่วนเล็กๆที่เรียกว่าความทรงจำที่เรียงกันจนกลายเป็นหนทาง ที่สุดทางมีเพียงคำว่าเรา

    나는 미치도록 달빛의 도로를 걸으며

    ฉันเดินออกไปราวกับคนบ้าท่ามกลางแสงจันทร์

    큰소리로 이름을 입에 담아...

    ด้วยเสียงที่หนักแน่นฉันร้องตะโกนชื่อของเธอออกมา...

    ”우리가 얼마나 많이 사랑했을까

    เราสองคนเคยรักกันมากแค่ไหน

    하늘에 뿌려진 별무리같이 아름다워도

    แม้ว่ามันงดงามราวกับละอองบางเบาของดวงดาวทั่วท้องฟ้ากว้าง

    어느날 사라져버린 별처럼 영원하지 못할까?”

    ราวกับดวงดาวที่จางหายไป ทำไมความรักของเราถึงคงอยู่ตลอดไปไม่ได้นะ

     

     

     

     

     

     

     

                ‘ฮึก... น้ำตาใสไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อจีฮุนลืมตาขึ้น และพบเพียงความว่างเปล่า.. เมื่อครู่นี้เป็นภาพลวงตาสินะ จาง โดยูนคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆเสียหน่อย.

     

                ร่างเล็กหายใจเข้าลึกก่อนจะปาดน้ำตาอีกครั้ง และเก็บของที่หล่นอยู่บนพื้น ยันตัวลุกขึ้น จัดทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะเริ่มออกเดินอีกครั้ง... .. สุดท้ายก็เป็นเพียงเรื่องที่คิดไปเองสินะ. ถอนหายใจเบาๆ แล้วหันขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้วฝืนยิ้มออกมาบางๆ.

     

     

     

                ป่านนี้.. พี่จะอยู่ที่ไหนกันนะ... จางโดยูน

     

     

     

     

     

    ( 떠나가) 니가 행복하다면 얼마든지

    (จากฉันไปเถอะ) หากว่าเธอทำอย่างนั้นแล้วจะมีความสุข

    그래 두번 다시 오지않을 마지막 길..

    แบบนั้นแหละ เหมือนกับทางเดินที่เธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว

     

     

    알아

    ฉันเข้าใจ

    사랑은 언제나 이별과 함께란걸

    ความรักนั้นจะต้องมาถึงจุดจบในซักวัน

    잘가. 우리가 사랑한 아름다운 날들아

    ลาก่อน. วันเวลาแห่งความรักของเราที่เคยสวยงาม

    LaLaLa Lalala, Lalalalala

     

     

     

     

     

                มีเพียงแค่แสงจากดวงดาวเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเขาในวันนี้ แต่กระนั้นซักวันเขาจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน... เพราะรู้ดีว่าคนที่หมดรักไปแล้ว ย่อมไม่สามารถกลับคืนมาได้อีก. แม้ว่าจะเข้าใจดี แต่สุดท้ายก็ยังทำใจไม่ได้.. เป็นอย่างนี้มาตลอดหนึ่งเดือน. ...

     

     

                จีฮุนยิ้มบางๆให้กับตัวเอง แล้วเดินต่อไปท่ามกลางความมืดมิด. ทำถูกต้องแล้วสินะ.... ซักวัน ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองแน่ๆ.

     

     

     

     

     

    + + + + + + + + D I A R Y + + + + + + + +

     

     

     

     

     

                แสงยามเช้าที่ไม่ได้สดใสเหมือนเคยปลุกให้ร่างเล็กตื่นขึ้น จีฮุนลืมตาขึ้นแล้วบิดขี้เกียจเล็กน้อย ตากลมเหลือบไปมองที่นาฬิกาบนกำแพง หกโมงเช้า.... แสงสีขาวจากดวงอาทิตย์ส่องผ่านเมฆฝนเบาบางลงมากลายเป็นสีเทาที่ต่างจากทุกที เสียงหยาดฝนที่พรำเบาๆ ร้องปลุกว่าถึงเวลาตื่นได้แล้ว

     

                จีฮุนยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะใส่สลิปเปอร์ลายกระต่ายน้อยคู่ใจแล้วเดินไปเปิดหน้าต่าง. สายฝนเบาๆในยามเช้าทำให้เขายิ้มออกมาจางๆ. ร่างเล็กเดินไปเปิดเพลงที่วิทยุสีขาวบริสุทธิ์ เสียงเพลงรักเบาๆดังขึ้นคลอกับเสียงจากท้องฟ้า ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มระเรื่อ แม้ว่าในแววตาคู่นั้นจะมีกลิ่นอายของความเศร้าเจืออยู่จางๆ.

     

     

     

     

                จาง โดยูน เป็นคนที่จีฮุนรู้จักผ่านโลกออนไลน์. เกมส์เกมส์หนึ่งที่มีจำนวนคนเล่นไม่มากนัก เพราะไม่มีจุดเด่นหรืออะไรที่น่าสนใจเป็นพิเศษ แต่สำหรับจีฮุนที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมส์ออนไลน์เกมส์นั้นเป็นเกมส์แรกแล้ว ก็ถือเป็นเกมส์พิเศษสำหรับเด็กคนนี้.

     

                ส่วนจางโดยูน เป็นนักเรียนมอปลายที่เข้ากับคนไม่ค่อยได้ และชอบอยู่เงียบๆ แถมยังไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์ ครั้งแรกที่ชายหนุ่มเล่นเกมส์นี้เป็นเพราะอยากรู้ว่าพวกเกมส์ที่คนติดนักหนานั่นเป็นยังไง แต่ก็ดูเหมือนว่าเลือกเกมส์ผิดไปหน่อย จึงได้มาเจอกับอะไรที่น่าเบื่อแบบนั้น.....

     

     

                เป็นเพราะคนสองคน ที่เข้ากับคนไม่ค่อยได้เหมือนกัน. มีนิสัยคล้ายๆกัน สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าเหตุผลที่จีฮุนนั่งเล่นเกมส์นั้นทุกวัน เพื่อจะมาคุยกับโดยูนนั่นเอง. ไปๆมาๆ ก็ได้เบอร์ของอีกฝ่ายมาคุยกันแทน เพราะต่างคนก็ต่างเบื่อเกมส์ที่น่าเบื่อนั่น และชอบที่จะคุยกันมากกว่าที่จะไปนั่งสนใจเกมส์แบบนั้น

     

                เสียงของโดยูนหวานกว่าที่จีฮุนเคยวาดไว้มาก.

     

                หน้าตาของโดยูนดูดี กว่าที่เคยคิดไว้เหมือนกัน...

     

                แต่ก็เข้ากันได้ดีกว่าที่คิดไว้ตอนแรก....

     

     

     

     

                สุดท้าย คนทั้งสองเลยตกลงคบกัน..

     

                ทั้งๆที่ต่างคนก็ไม่เคยเชื่อความรักออนไลน์มาก่อน แต่ก็คบกันจนนัดเจอกันจริงๆตั้งหลายครั้ง..

     

                ครั้งแรก วันคริสต์มาส ไปเดินเล่นกันที่แม่น้ำฮัน ฤดูหนาวที่ผู้คนก็ต่างออกมาเดินเล่นกันในวันพิเศษ กลิ่นหอมของช็อกโกแลตร้อนที่อบอวลไปทั่ว. ต๊อกโบกีที่สั่งมากินด้วยกันตอนนั้นก็ดูจะอร่อยกว่าที่เคยกินมา. จี้รูปตัวDที่อยู่บนคอถือเป็นตัวแทนของอีกฝ่ายที่ยังคงห้อยอยู่ที่คอของเขาจนถึงวันนี้. ส่วนจี้รูปตัวJที่อยู่ที่อีกฝ่ายก็ไม่รู้ว่าจะถูกโยนทิ้งไปรึยัง....

     

     

     

     

     

     

     

                จีฮุนถอนหายใจเบาๆ แล้วหยิบไดอารี่เล่มโปรดขึ้นมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับปากกาด้ามสวย เหมือนกับทุกๆวัน มือเรียวก็เริ่มลงมือเขียนข้อความเหมือนเดิม... โรคติดไดอารี่ที่กลายเป็นนิสัยจนเอาไปติดเพื่อนสนิทของตนไปเสียด้วย. เพราะว่ามีเพื่อนอยู่แค่ไม่กี่คน และเขาเองก็ชอบอยู่กับไดอารี่ ‘จอน วอนอูจึงอยากรู้ว่าไอ้หนังสือนี่มันมีดีอะไรนักหนา เลยลองเขียนดูบ้าง จนตอนนี้ก็กลายเป็นโรคติดไดอารี่อีกคนแล้ว..

     

     

    2009421

    วันที่ยี่สิบเอ็ดเมษายนสองพันเก้า

    살짝 열어둔 밖에 비가 내리네

    เมื่อฉันเปิดหน้าต่างออกไปก็ได้พบกับสายฝนที่กำลังตกลงมา

    우리가 함께한곳

    สถานที่ที่เราเคยอยุ่ด้วยกัน

    내방, 니방, 놀이터, 한강

    ห้องของฉัน,ห้องของเธอ,สนามเด็กเล่น,แม่น้ำฮัน

    우리가 함께한것

    สิ่งต่างๆที่เราเคยทำร่วมกัน

    영화, 눈사람, 영원할것같던 사랑

    ดูหนัง,ปั้นตุ๊กตาหิมะ,และความรักที่จะคงอยู่ตลอดกาล

     

     

     

     

     

                ครั้งที่สอง.. ที่จีฮุนได้เจอกับโดยูน ก็คือวันเกิดเขา ที่วอนอูเพื่อนตัวแสบดันแอบขโมยมือถือเขาโทรไปชวน’คุณแฟนของเขามาร่วมงานวันเกิดที่บ้านน่ะสิ! แถมยังเป็นคนลากพี่โดยูนเข้าไปดูห้องเขาตอนเขาเผลออีกต่างหาก โชคดีว่าจีฮุนเป็นเด็กเรียบร้อย. ก็เลยไม่มีอะไรที่น่าอายมากนัก..

     

                อย่าให้เขาเอาคืนบ้างนะวอนอู! จะแฉวีรกรรมเด็ดๆแกให้กับแฟนให้หมดเลย....

     

     

     

     

     

     

     

     

                นึกถึงเรื่องตอนนั้นแล้วจีฮุนก็ยิ้มออกมาน้อยๆ. วอนอู เป็นเพื่อนที่ดีของเขาเสมอ ตั้งแต่รู้จักกันมา วอนอูก็มักจะเป็นคนคอยช่วยเหลือเขาเสมอ คอยปลอบใจตอนที่เสียใจหรือผิดหวัง. คอยติวหนังสือให้เวลาที่ไม่เข้าใจ หรือแม้กระทั่งเลี้ยงขนม.. ฮ่าๆ.

     

                อา.. จริงสินะ วอนอูเองก็น่าสงสารเหมือนกัน...

     

                จอน วอนอู แอบหลงรักมินกยูผู้เป็นแฟนของพี่ชายต่างสายเลือดมาตั้งแต่แรกพบ. รักมากเสียจนไม่สามารถอาจตัดใจได้ง่ายๆ... เด็กคนนั้นขี้แยจนจีฮุนเองก็ต้องคอยปลอบอยู่บ่อยๆ แต่ไปๆมาๆ ก็กลายเป็นเขาเองก็ร้องไห้ด้วยเหมือนกันไม่รู้ทำไม...

     

     

     

     

                ฮ้า. จริงสินะ ไม่ได้ซ้อมกีตาร์มาตั้งหลายวัน..

     

     

     

     

                จีฮุนเดินตรงไปที่กีตาร์ที่วางอยู่อีกมุมของห้อง มือเรียวเล็กขยับไปตามจังหวะเสียงเพลงพร้อมกับหลังตาลงน้อยๆ เขาเล่นกีตาร์ตั้งแต่เด็ก ทำให้นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เขาสามารถทำได้ดี จริงสินะ.... เพลงนี้เป็นเพลงที่เหมาะกับสายฝนเบาๆแบบนี้ที่สุด..

     

    เพลงที่เขาแต่งเอง..

     

     

     

     

     

    오늘은 비가와

    วันนี้ที่ฝนพรำ

    이노래 들으면 기억날까

    พอได้ฟังเพลงนี้แล้วก็นึกถึงเรื่องพวกนั้นขึ้นมา

    하나 뿐인 우산에 어깨가 생각보다 많이 젖은 이유

    เหตุผลที่ไหล่ของเธอเคยเปียกปอนด้วยสายฝน เพียงเพราะร่มคันเดียว

     

     

     

     

                จำได้ว่าตอนครั้งที่สามที่เขาได้เจอกับโดยูน ตอนนั้นทั้งสองคนไปดูหนังกันที่ห้องของโดยูน หนักรักเศร้าๆ ที่เศร้าจนจีฮุนอินแล้ววิ่งหนีไปสนามเด็กเล่นใกล้ๆไปร้องไห้เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นน้ำตา พอโดยูนเห็น ก็เลยต้องลำบากวิ่งกางร่มตามไป เพราะฝนกำลังตกเลยเป็นห่วงอีกฝ่ายที่บอบบางซะจนน่าปกป้อง

     

                ยังจำได้ถึงร่มคันเล็กที่ถูกยื่นมาบังสายฝนเย็นๆในวันนั้นได้ดี. ทั้งๆที่เป็นคงวิ่งเอาร่มมาให้แท้ๆ แต่กลับหยิบมาคันเดียวแถมลืมกางตอนวิ่งมา ก็เลยเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำกันทั้งคู่ สุดท้ายก็เลยไม่ได้ใช้ร่ม วิ่งกลับไปเปลี่ยนเสื้อกันที่ห้องของโดยูนนั่นเอง แถมเขายังเก็บเอาเหตุการณ์ตอนนั้นไปแต่งเป็นเพลง...

     

     

     

                ซึ่งก็คือเพลงที่เขากำลังเล่นอยู่ตอนนี้ไงล่ะ.

     

     

     

     

    식어버린 사랑에 벙어리가 되어

    หลังจากความรักของเราได้จบลง ฉันก็กลายเป็นคนเงียบขึ้น

    머리 끝까지 차오른 눈물에 목이메여

    พยายามที่จะกลั้นน้ำตาไว้ และจัดการกับความรู้สึกในหัว

    차마 놓지 못하는 미련이란 끈을 쥐어

    ฉันยังคงคิดถึงความทรงจำเหล่านั้น ไม่สามารถทิ้งมันไปได้

    편에 변해버린 너의 모습이여

    แตกต่างจากเธอ... แม้แต่เธอเองก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว

     

    (이젠 안녕) 아침이 되면 모두 잊겠지

    (ตอนนี้ลาก่อนนะ) เมื่อไหร่ที่ยามเช้ามาถึงฉันคงลืมมันได้

    내가 너를 만난지 몇일짼지 나만알지..

    มีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่ยังจดจำว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่หลังจากที่เรารู้จักกัน

     

     

     

     

     

                จีฮุนเงยหน้าขึ้นมามองรูปภาพของชายหนุ่มหน้าสวยคนนั้นที่่แปะอยู่บนผนังพร้อมกับรอยยิ้ม... ฮา.. พี่จะจำได้มั้ยนะว่าวันนี้เป็นวันครบรอบ300วันของเราน่ะ.

     

     

                ฝนหยุดแล้ว... จีฮุนลุกขึ้นจากโซฟาและวางกีตาร์ลงช้าเพื่อไปซักผ้าและนำผ้าไปตากให้เรียบร้อย ต่างจากบ้านของคนรวยๆทั่วไป บ้านตระกูลยังไม่มีแม่บ้านที่คอยช่วยทำงาน มีเพียงจีฮุนที่รับผิดชอบทำงานบ้านเองลำพัง. ไดอารี่เล่มเล็กถูกหยิบติดมือไปด้วย อย่างเคยชิน.

     

     

     

     

                ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันครบรอบสามร้อยวันแท้ๆ.

     

     

                แต่เราเลิกกันแล้วสินะ... เพราะฉะนั้นมันก็จึงกลายเป็นเพียงวันธรรมดาๆวันหนึ่ง.

     

     

     

                ถึงแม้ว่าจะเจ็บปวด... แต่เขาก็จะทน..

     

     

                เพราะว่าอี จีฮุนคนนี้จะต้องโตขึ้นเสียที. เขาไม่สามารถเป็นเด็กได้ตลอดไปหรอก.

     

     

     

     

     

     

     

                นั่นสินะ... พี่โดยูน... ขอบคุณนะ...

     

     


    알아

    ฉันเข้าใจ

    사랑은 언제나 이별과 함께란걸

    ความรักนั้นจะต้องมาถึงจุดจบในซักวัน

    잘가. 우리가 사랑한 아름다운 날들아

    ลาก่อน. วันเวลาแห่งความรักของเราที่เคยสวยงาม

    LaLaLa Lalala, Lalalalala

     

     

     

     

     

     

     

                ‘จีฮุน พี่ว่าเราเลิกกันเถอะนะเสียงนุ่มของอีกฝ่ายเอ่ยบอกเขาอย่างเบาบาง ไม่ใช่น้ำเสียงที่เย็นชาจนใจหาย เหมือนในนิยายหรือเพลงรักเศร้าสร้อยที่ตัดพ้ออย่างนั้น หากแต่เป็นเสียงของจางโดยูนยามปกติที่เขาคุ้นเคยดี

     

                ‘ทำไมล่ะฮะ

     

                ‘อ่า... นั่นสินะ ทำไมจางโดยูนเป็นคนที่ไม่เก่งในการอธิบายความรู้สึกอยู่แล้ว

     

                ‘ไม่ใช่ว่าตัวเล็กไม่ดีหรอกนะ.... แต่พี่ว่า ตัวเล็กยังเด็ก ยังมีโอกาสได้เจอใครอีกเยอะแยะ... เราปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระกันซะก่อน แล้วพอตัวเล็กโตขึ้น ถึงตอนนั้นถ้าตัวเล็กบยังรักพี่อยู่ เราก็กลับมาคบกันก็ได้นะเป็นคำอธิบายที่ฟังดูประหลาด แต่นั่นแหละ จางโดยูนที่เขาหลงรัก. แม้กระทั่งตอนนี้ คนคนนั้นก็ยังเป็นพี่ชายใจดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง.

     

                ‘อือ ผมเข้าใจแล้วล่ะได้แต่พูดเบาๆ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ถึงแม้จะทำใจไว้แล้วว่าซักวันจะต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่พอเจอเข้าจริงๆแล้วก็เจ็บไม่ใช่น้อย.....

     

                ‘สัญญากับพี่ได้มั้ยว่าจะร้องไห้เสียงนั่นสั่นนิดๆแสดงถึงความเป็นห่วงไม่ใช่น้อยที่แฝงอยู่ในเสียงนั้น. โดยูนยังเป็นห่วงเขาเสมอ และดูแลเขาดีมาตลอด....

     

                ‘สัญญากับพี่ได้มั้ยว่าจะไม่เสียใจ ลืมพี่ไปก็ได้....เสียงอ่อนโยนแบบนั้นอีกแล้ว... จางโดยูนเป็นคนเข้าใจยาก.. ครั้งนี้ก็เช่นกัน จีฮุนยิ้มให้อีกคนจางๆแล้วพยักหน้า ให้อีกฝ่าย คนตัวสูงกว่าก้มลงมาจนชิดอีกคนแล้วจูบกลีบปากบางอย่างนิ่มนวล...

     

     

     

     

     

     

                และนั่น คือครั้งสุดท้าย ที่เขาได้เจอกับจางโดยูน..

     

     

     

     

     

    자꾸만 일기장이 젖어가 (젖어가)

    ไดอารี่ของฉันเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำตา (หยดน้ำตา)

    멈춰라 눈물아 잊기로 했잖아

    หยุดเดี๋ยวนี้นะ น้ำตาพวกนั้น ฉันสัญญาแล้วว่าจะลืมทุกอย่าง

    잘가. 우리가 사랑한 아름다운 날들아

    ลาก่อน. วันเวลาที่งดงามของพวกเรา

     

     

     

     

                มือเล็กเปิดไดอารี่เล่มบางอย่างช้าๆ มือบางลูบที่หน้าแรกนั่นเบาๆ รอยยิ้มจางๆถูกปั้นขึ้นมา ..ฮา สุดท้ายก็ทำตามสัญญานั่นไม่ได้... ขอโทษนะโดยูนฮยองอา.....

     

     

     

     

     

                หยาดน้ำตาใสหยดลงบนหน้ากระดาษ จนทำให้หมึกสีน้ำเงินจากปากกาด้ามโปรดซึมลงไปในเนื้อกระดาษ มือเล็กพยายามปาดน้ำตาออกแต่ก็ไม่สำเร็จ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าก็หยดลงบนหนังสือเล่มเล็กนั่นซ้ำแล้วซ้ำอีก. สายลมเย็นพัดผ้าสีขาวที่ตากอยู่บนราวจนปลิว เช่นเดียวกับเส้นผมสีเข้มของจีฮุนที่ไม่ต่างกัน

     

     

                ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆ หยดน้ำเย็นหยดลงมาที่ใบหน้านั่นอย่างช้าๆ. แสงแดดที่ยังส่องผ่านเมฆก้อนบางดูนุ่มนวล พร้อมกับหยาดน้ำฝนที่ค่อยๆร่วงหล่นลงมาทีละน้อย....

     

     

    자꾸만 일기장이 젖어가 (젖어가)

     

    ไดอารี่ของฉันเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำตา (หยดน้ำตา)

    멈춰라 눈물아 잊기로 했잖아

    หยุดเดี๋ยวนี้นะ น้ำตาพวกนั้น ฉันสัญญาแล้วว่าจะลืมทุกอย่าง

     

    자꾸만 일기장이 젖어가 (젖어가)

    ไดอารี่ของฉันเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำตา (หยดน้ำตา)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                น้ำตาใสยังคงไหลต่อมาเรื่อยๆพร้อมกับสายฝน ช่วยกันทำให้สมุดเล่มน้อยที่บันทึกความทรงจำดีๆตลอด300วันที่ผ่านมาเปียกจนแทบอ่านเนื้อความข้างในไม่ได้...

     

     

     

     

     

     

                บนท้องฟ้าสีครามที่มีสายรุ้งน้อยๆประดับอยู่ในวันแดดออกที่ฝนพรำอย่างวันนี้. เหมือนกับเด็กหนุ่มที่ร้องไห้ด้วยรอยยิ้ม.. แม้ว่าจะเข้าใจดี.. แต่ก็ยังเจ็บ.....

     

     

                ขอโทษนะโดยูนฮยอง.

     

     

     

     

     

                แม้ว่าวันนี้น้ำตายังรินไหลลงมา. หากแต่ซักวัน เขาคงต้องกลับมายิ้มได้อย่างแน่นอน...

     

     

     

     

     

                และบางที.. วันนั้นเขาอาจจะไม่เขียนไดอารี่อีกต่อไปแล้วก็ได้.

     

     


     

     

    자꾸만 일기장이 젖어가 (젖어가)

    ไดอารี่ของฉันเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำตา (หยดน้ำตา)

     

     




     

     

     

     

    (c)              Chess theme
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×