คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : - โพรล็อก -
๐๐.
ผมมองรูปถ่ายที่แปะอยู่ในหน้าสุดท้ายของไดอารี่นั่นด้วยหลากหลายความรู้สึก
รอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าผมโดยอัตโนมัติ
ความทรงจำมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสองเดือนกว่าที่เมืองเล็กๆนั่นดูจะมีอิทธิพลกับผมมากกว่าที่คิดไว้
เรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นกลับน่าจดจำเกินกว่าที่คาดคิดจนไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างนั่นจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่นั้น
รูปสแนปช็อตที่มีกว่ายี่สิบแอคนั่นบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคนแต่ละคนในหมู่บ้านแสนสุขสันต์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
บางคนไม่เคยถ่ายรูปแบบนี้ก็เอาแต่ยิ้มนิ่งอยู่ท่าเดียว
บางคนถ่ายได้แค่สองแอคก็หันมาแหย่เพื่อนแล้ว
ในขณะที่บางคนก็แอคแอ๊บแบ๊วจนเยอะเสียเกินเหตุ
ผมยังจำตอนที่ถ่ายมันได้ดีว่าวุ่นวายเพียงไรตอนที่คนกว่าสามสิบชีวิตมาถ่ายรูปด้วยกัน
เบื้องหลังของทุกคนเป็นไร่ขนาดกว้างที่ไม่มีอะไรพิเศษ
กลิ่นอายของความเป็นบ้านนาที่คนกรุงอย่างผมไม่ค่อยจะได้สัมผัสซักเท่าไหร่
แต่ไปอยู่มาสองเดือนกลิ่นของมันกลับเป็นอะไรที่คุ้นชินไปเลย
เช่นเดียวกับมิตรภาพเหล่านี้ที่ผมคงไม่มีวันได้พบถ้ายังอยู่แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีในโซลนี่
ผมเอื้อมมือไปปิดไดอารี่เล่มนั้น
กำลังใจผุดขึ้นมาเต็มร้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวทุกอย่าง
ก่อนจะหันกลับไปเปิดหนังสือเรียนเล่มหนาอ่านด้วยความมุ่งมั่น และก็คิดว่า
ทุกๆคนที่อยู่ตรงนั้นก็คงมีความพยายามอย่างนี้ไม่ต่างกัน
เอาไว้เอนท์ติดแล้วจะกลับไปนะ ทุกคน 。^‿^。
“อะไรนะพ่อ ผมไม่ไปหรอก! ไม่มีทาง!!!! ヾ( ・`⌓´・)ノ゙ ” เด็กหนุ่มหน้ามึนมองผู้เป็นบิดาด้วยแววตาตกใจแบบสุดขีดเมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน
ก่อนจะเบ้ปากเหมือนสมัยเป็นเด็กๆ คุณจอนมองลูกชายตัวเองอย่างเหนื่อยหน่าย
มือหยาบกร้านลูบหัวของคนเป็นลูกชายเบาๆ
“ปีหน้าลูกจะเอนท์แล้วนะวอนอู
ถ้าขืนพ่อปล่อยลูกไว้ในโซลแบบนี้ต่อไปพ่อว่าลูกต้องไม่อ่านหนังสือแน่”
คนเป็นพ่อพูดพลางนึกถึงวีรกรรมนับร้อยของเจ้าเด็กหน้ามึนคนนี้
เพราะเป็นคนมึนๆอินดี้แบบนี้เจ้าลูกชายตัวแสบจึงเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะอยู่ในกรอบอย่างที่เขาต้องการเสียเท่าไหร่
เด็กติสต์แตกที่วันๆถ้าไม่ได้นั่งวาดรูปเล่น
แต่งนิยายในคอม ก็ต้องออกไปเที่ยวข้างนอกคนเดียว
ชอบบอกว่าไปหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
ถ้าหากว่าจอนวอนอูลูกชายของเขาเรียนที่โรงเรียนศิลปะจะไม่ว่าอะไรซักคำ
แต่เด็กนี่ดันเลือกเรียนสายวิทย์
แถมไปถามว่าอยากจะเข้าคณะอะไรยังตอบด้วยความมั่นใจว่าสถาปัตย์
สถาปัตย์กับกะหล่ำน่ะสิ
!!!!!!
ไอ้รูปที่วาดก็เห็นวาดแต่รูปคน รูปตัวละคร
รูปติสต์แตกอินดี้แบบเซอร์เรียลลิซึม
เอ็กเพรสชั่นนิสซึมประหนึ่งแวนโก๊ะกลับชาติมาเกิดแบบนั้น ชาตินี้มันคงจะติดสถาปัตย์อยู่หรอก (-̀◞८̯◟-́)
แถมเท่านั้นยังไม่พอ ไอ้คำว่าหาแรงบันดาลใจของเจ้าเด็กบ้านี่ยังรวมไปถึงการชอบแอบหนีเที่ยวผับตอนกลางคืนอีกต่างหาก
ไปดูแสงดูผู้คน
ฟังเพลงที่ดังหูระเบิดแล้วก็นั่งจิบน้ำส้มน้ำพันช์ที่ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะมีเสี่ยหัวงูหน้าม่อเอายามาผสมให้กินรึเปล่าแบบนั้นนั่นแหละ!
ถามว่าทำไมคนเป็นพ่ออย่างเขาไม่ไปดูแลน่ะหรอ
ก็ด้วยความที่ว่าเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่อภิมหาโคตรส่งออกสินค้าเกษตรกรรมเลยต้องไปนู่นไปนี่คุมบริษัทเหมือนพ่อพระเอกมหาเศรษฐีตามนิยายน้ำเน่าแบบละครหลังข่าวนั่นแหละ
ทั้งบ้านมีกันอยู่แค่สองคนพ่อลูก
ก็เลยทำได้แค่สั่งให้คนไปตามดูชีวิตของเจ้าเด็กดื้อนี่ก็เลยได้รู้วีรกรรมของเจ้าตัวป่วนนี่อย่างที่เล่ามานั่นแหละ
แต่ครั้นจะใช้อำนาจสั่งให้คนไปคอยคุมก็กลัวเจ้าเด็กมึนนี่จะทำโกรธทำงอนไม่คุยด้วย
เป็นป๊ะป๋านุ่มนิ่มแบบนี้มันโซแซด
โฮร 。゚(゚ノД`゚)゚。
อยากจะร้องไห้เป็นภาษาเขมร
ไอ้เชื้ออินดี้ขี้งอนนี่ลูกไปเอาจากใครมา หม่าม๊าสุดสวยของลูกใช่มั้ย ฮรือออ
อยากจะเรียกหม่ามี๊ลงมาจากสวรรค์กลับมาดุลูกจัง .______. ป๊ะป๋าเศร้าใจ
หลังจากไปนอนคิดมาสามเดือนไม่ได้หลับ
ในที่สุดประธานจอนคนหล่อก็สามารถคิดมาตรการขั้นเด็ดขาดป้องกันการไม่อ่านหนังสือของเจ้าลูกชายได้
เพื่อกันไม่ให้เจ้าเด็กดื้อนี่แอบหนีเที่ยว ไม่เล่นโซเชียล
และไม่ติดหญิงโคโยตี้แมวเหมียว(?)แล้ว เขาจึงตัดสินใจจะส่งลูกชายกลับบ้านเกิด!!!
ใช่แล้ว
บ้านเกิดของวอนอูที่ซองจู
สมัยที่เขากับยาหยียอโบหวานใจยัยคนคิขุที่ตอนนี้กลายเป็นแองเจิลอยู่บนสวรรค์ยังร่วมรัก
เอ้ยครองรักกันอยู่ที่บ้านนอกคอกนา
ตอนนู้นที่วอนอูเกิดขึ้นมาก่อนเขาจะจับหลักได้และตั้งบริษัทขึ้น
จากเสี่ยเจ้าของสวนร้อยไร่ธรรมดาๆอย่างเขาถึงได้เชิดหน้าชูตากลายเป็นป๋าเจ้าของธุรกิจใหญ่ขึ้นมาได้
ตอนนี้ที่สวนที่ว่าเขาก็ได้ให้พื้นที่กับตระกูลคิม
อดีตคนงานในสวนของเขาคอยบริหารจัดสรรดูแลเรียบร้อย
จัดได้ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณกับบ้านนั้นอยู่ไม่น้อย
เอาเจ้าลูกชายจอมดื้อไปฝากไว้ซักเดือนสองเดือนคงไม่ว่าอะไรหรอก
อีกอย่างนะ
บ้านนั้นมีลูกชายวัยไล่เลี่ยกับวอนอู ตอนก่อนเจ้าเด็กนี่ย้ายมายังสนิทกันอยู่เลย
จำได้ว่าชื่อมินอะไรซักอย่าง...
อ๋อนึกออกแล้ว มินกวยป้ะ?
ไม่น่าใช่... ชื่อไรนะ … มิน.. มิน... มิน..
ช่างมันเถอะ..
สรุปว่าเขาจะส่งไอ้ลูกเวรที่ตอนนี้ย้อมหัวสีแปลกๆนี่ไปอยู่ที่ซองจู
ซองจูเป็นหมูบ้านเล็กๆในคยองซานบ้านเกิด
เขตอำเภอที่ห่างไกลตัวเมืองชนิดที่ว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสามจีเข้าไม่ถึง
บางทีสัญญาณมือถือยังติดๆดับๆอยู่เลยเวลาโทรกลับไป
คฤหาสน์หลังสวน
ไกลตัวเมืองเป็นสิบโลแบบนั้นมั่นใจได้ว่าวอนอูคงไม่สามารถหนีเที่ยวได้ด้วย
แถมเขาก็ยังมั่นใจว่าผู้ใหญ่ทางนู้นคงเข้มงวดกับวอนอูได้มากกว่าเขาเอง
ถึงจะเป็นลูกเจ้านาย ลูกผู้มีพระคุณ
ชาวบ้านในแถบนั้นก็ยังมองว่าการเที่ยวผับเที่ยวบาร์เป็นการสำมะเลเทเมา
แค่ดูนักร้องไอดอลบอยแบนด์คาราทีอาราและคุณป้าอาฟเตอร์สคูลยังเป็นการไม่เหมาะสมเลย
แบบนี้เขาก็พอจะมั่นใจว่าไม่มีปัจจัยอะไรที่ทำให้เจ้าเด็กอินดี้นี่นอกลู่นอกทางได้
แอบเข้ามาแพ็กหนังสือไว้ให้
แอบติดต่อทางนู้นไว้ แอบไปแคนเซิลคอร์สเรียนพิเศษที่วรรณสรณ์ แล้วแอบโทรบอกเหล่าผองเพื่อนของเจ้าเด็กนี่ไว้เรียบร้อย
เคลียร์ทางทุกอย่างไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครบถ้วน เหลือบอกกับปากมันเนี่ยแหละเป็นอย่างสุดท้าย
ซึ่งเขาแทบจะไม่กล้าหือเลย (︶︹︺)
“พ่อก็เลยจะส่งผมไปซองจูเนี่ยนะ!?”
พูดแล้วก็เพลีย
มองดูป๊ะป๋าของตัวเองที่ทำท่ากลัวหัวหดเหมือนหอยทากกลับเข้ากระดอง
จะดุทั้งทีก็ช่วยวางฟอร์มให้น่ากลัวหน่อย(; ̄д ̄) บางทีมีพ่อแอ๊บแบ๊ววอนอูก็เครียดนะครับ
ไม่รู้ว่าแม่คิดยังไงถึงเอาคุณพ่อหน่อมแน้มแบบนี้มาเป็นแฟน
วอนคุณแม่กลับมาจากสวรรค์มาตอบน้องวอนทีผมกลุ้มใจ...
“อื้อ.. นะ ลูกรักของป๊ะป๋า
พ่อว่าแบบนี้มันดีที่สุดสำหรับลูกแล้วนะ(-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩___-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩) ”
วอนอูถอนหายใจเฮือกใหญ่
มองป๋าอย่างเพลียๆก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ ไม่ใช่ว่าแพ้ลูกอ้อน ไม่ใช่ว่าขี้เกียจเถียง
ไม่ใช่ว่าอะไรทั้งนั้น อันที่จริง.. ที่จริงน่ะหรอ..
ก็กำลังหาแรงบันดาลใจอยู่น่ะสิ
เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกันโซลเนี่ย
บางทีออกบ้านนอกบ้างอาจจะได้ไอเดียอะไรเด็ดๆมาเขียนลงก็ได้
ที่จริงแล้วให้คนอย่างคุณหนูจอนออกไปอยู่ไร่อยู่สวนมันก็แอบจะอึ๋ยส์อยู่เหมือนกันนะ
ทำไมขุ่นพ่อไม่อยากส่งน้องวอนไปมหานครใหญ่แบบโตเกียว หรือปารีสอะไรแบบนี้บ้าง
น้องวอนไม่เข้าใจ ੧| ‾́ 〜 ‾́ |੭ เอาเถอะ ยังไงปิดเทอมนี้ก็ไม่มีแผนอะไรอยู่แล้วนี่นะ...
ดีซะอีกจะได้แต่งนิยายได้แบบสบายใจ
ไม่มีใครไลน์มาให้กวนนนนนนนน
“ดีมากลูกรัก คืนนี้รีบนอนนะ
พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปบ้านตระกูลคิมแต่เช้าเลย
ทางนู้นรอต้อนรับลูกเรียบร้อยเลย ได้ยินมาว่าลูกชายเขาที่เป็นเพื่อนลูกน่ะตื่นเต้นมากเลยนะ”
ป๊ะป๋าหน่อมแน้มพูดด้วยสีหน้าที่ดูดีกว่าเมื่อครู่ขึ้นมานิดนึง
วอนอูพยักหน้ารับคำอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
แต่คนตาเล็กก็ต้องชะงักเมื่อประมวลคำพูดเมื่อครู่ได้ ใบหน้าของใครบางคนลอยเด่นขึ้นชัดในความทรงจำเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว...
เดี๋ยวนะ..
ลูกชาย?
ตระกูลคิม
ヽ༼ ಠ益ಠ ༽ノ
ไม่นะ... หวังว่าเขาจะไม่ต้องไปเจอกับไอ้เด็กดำนั่น....
ไม่อยากเจอมันอีกแล้ว
เจ้าความทรงจำที่เลวร้ายในวัยเด็กของเขา...
เจ้าเด็กยักษ์ที่ชื่อว่า
คิมมินกยู...
↺
กลับมาแล้นนนนน
รีโนเวทโพรล็อกใหม่หลังจากกเซบเดบิวต์เรียบร้อย
สำหรับฟิคเรื่องนี้มีแท็กเป็นของตัวเองเกร๋ๆ
ใช้แท็กคำว่า (#ฟิคปรบร ) ตามชื่อไทยนะ
จอนวอนอิลกีคืออะไร? ไม่ได้มาจากชื่อเพลงทีอารา
คือก็ได้จริงๆก็นิสนุง แต่แบบฟังทีไรนึกถึงมึน
จอนวอนย่อมาจากจอนวอนอู ส่วนอิลกีคืออิลกีจัง
รวมกันคือไดอารี่ของจอนวอนอู ♥
ฟิคเรื่องนี้หาสาระอะไรไม่ได้เลยจริมๆ
ความคิดเห็น