ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( seventeen ) to the 전원일기 ↺ - minwon

    ลำดับตอนที่ #1 : - โพรล็อก -

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 58





    ๐๐.




                           ผมมองรูปถ่ายที่แปะอยู่ในหน้าสุดท้ายของไดอารี่นั่นด้วยหลากหลายความรู้สึก รอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าผมโดยอัตโนมัติ ความทรงจำมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสองเดือนกว่าที่เมืองเล็กๆนั่นดูจะมีอิทธิพลกับผมมากกว่าที่คิดไว้ เรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นกลับน่าจดจำเกินกว่าที่คาดคิดจนไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างนั่นจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆเพียงแค่นั้น รูปสแนปช็อตที่มีกว่ายี่สิบแอคนั่นบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคนแต่ละคนในหมู่บ้านแสนสุขสันต์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

     

                    บางคนไม่เคยถ่ายรูปแบบนี้ก็เอาแต่ยิ้มนิ่งอยู่ท่าเดียว บางคนถ่ายได้แค่สองแอคก็หันมาแหย่เพื่อนแล้ว ในขณะที่บางคนก็แอคแอ๊บแบ๊วจนเยอะเสียเกินเหตุ ผมยังจำตอนที่ถ่ายมันได้ดีว่าวุ่นวายเพียงไรตอนที่คนกว่าสามสิบชีวิตมาถ่ายรูปด้วยกัน เบื้องหลังของทุกคนเป็นไร่ขนาดกว้างที่ไม่มีอะไรพิเศษ กลิ่นอายของความเป็นบ้านนาที่คนกรุงอย่างผมไม่ค่อยจะได้สัมผัสซักเท่าไหร่ แต่ไปอยู่มาสองเดือนกลิ่นของมันกลับเป็นอะไรที่คุ้นชินไปเลย เช่นเดียวกับมิตรภาพเหล่านี้ที่ผมคงไม่มีวันได้พบถ้ายังอยู่แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีในโซลนี่

     

                   

                    ผมเอื้อมมือไปปิดไดอารี่เล่มนั้น กำลังใจผุดขึ้นมาเต็มร้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวทุกอย่าง ก่อนจะหันกลับไปเปิดหนังสือเรียนเล่มหนาอ่านด้วยความมุ่งมั่น และก็คิดว่า ทุกๆคนที่อยู่ตรงนั้นก็คงมีความพยายามอย่างนี้ไม่ต่างกัน

     

                    เอาไว้เอนท์ติดแล้วจะกลับไปนะ ทุกคน  ^^

     

     

     
     




     

     

                    “อะไรนะพ่อ ผมไม่ไปหรอก! ไม่มีทาง!!!! ( `´)เด็กหนุ่มหน้ามึนมองผู้เป็นบิดาด้วยแววตาตกใจแบบสุดขีดเมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน ก่อนจะเบ้ปากเหมือนสมัยเป็นเด็กๆ คุณจอนมองลูกชายตัวเองอย่างเหนื่อยหน่าย มือหยาบกร้านลูบหัวของคนเป็นลูกชายเบาๆ

     

                    ปีหน้าลูกจะเอนท์แล้วนะวอนอู ถ้าขืนพ่อปล่อยลูกไว้ในโซลแบบนี้ต่อไปพ่อว่าลูกต้องไม่อ่านหนังสือแน่

                    คนเป็นพ่อพูดพลางนึกถึงวีรกรรมนับร้อยของเจ้าเด็กหน้ามึนคนนี้ เพราะเป็นคนมึนๆอินดี้แบบนี้เจ้าลูกชายตัวแสบจึงเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะอยู่ในกรอบอย่างที่เขาต้องการเสียเท่าไหร่

                    เด็กติสต์แตกที่วันๆถ้าไม่ได้นั่งวาดรูปเล่น แต่งนิยายในคอม ก็ต้องออกไปเที่ยวข้างนอกคนเดียว

                    ชอบบอกว่าไปหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ถ้าหากว่าจอนวอนอูลูกชายของเขาเรียนที่โรงเรียนศิลปะจะไม่ว่าอะไรซักคำ แต่เด็กนี่ดันเลือกเรียนสายวิทย์ แถมไปถามว่าอยากจะเข้าคณะอะไรยังตอบด้วยความมั่นใจว่าสถาปัตย์

     

     

     

                    สถาปัตย์กับกะหล่ำน่ะสิ !!!!!!

     

                    ไอ้รูปที่วาดก็เห็นวาดแต่รูปคน รูปตัวละคร รูปติสต์แตกอินดี้แบบเซอร์เรียลลิซึม เอ็กเพรสชั่นนิสซึมประหนึ่งแวนโก๊ะกลับชาติมาเกิดแบบนั้น  ชาตินี้มันคงจะติดสถาปัตย์อยู่หรอก (-̯̀-́)

     

                     แถมเท่านั้นยังไม่พอ ไอ้คำว่าหาแรงบันดาลใจของเจ้าเด็กบ้านี่ยังรวมไปถึงการชอบแอบหนีเที่ยวผับตอนกลางคืนอีกต่างหาก ไปดูแสงดูผู้คน ฟังเพลงที่ดังหูระเบิดแล้วก็นั่งจิบน้ำส้มน้ำพันช์ที่ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะมีเสี่ยหัวงูหน้าม่อเอายามาผสมให้กินรึเปล่าแบบนั้นนั่นแหละ!

                    ถามว่าทำไมคนเป็นพ่ออย่างเขาไม่ไปดูแลน่ะหรอ ก็ด้วยความที่ว่าเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่อภิมหาโคตรส่งออกสินค้าเกษตรกรรมเลยต้องไปนู่นไปนี่คุมบริษัทเหมือนพ่อพระเอกมหาเศรษฐีตามนิยายน้ำเน่าแบบละครหลังข่าวนั่นแหละ

     

     

     

                    ทั้งบ้านมีกันอยู่แค่สองคนพ่อลูก ก็เลยทำได้แค่สั่งให้คนไปตามดูชีวิตของเจ้าเด็กดื้อนี่ก็เลยได้รู้วีรกรรมของเจ้าตัวป่วนนี่อย่างที่เล่ามานั่นแหละ แต่ครั้นจะใช้อำนาจสั่งให้คนไปคอยคุมก็กลัวเจ้าเด็กมึนนี่จะทำโกรธทำงอนไม่คุยด้วย

     

                     เป็นป๊ะป๋านุ่มนิ่มแบบนี้มันโซแซด โฮร 。゚(゚ノД`゚)

                    อยากจะร้องไห้เป็นภาษาเขมร ไอ้เชื้ออินดี้ขี้งอนนี่ลูกไปเอาจากใครมา หม่าม๊าสุดสวยของลูกใช่มั้ย ฮรือออ อยากจะเรียกหม่ามี๊ลงมาจากสวรรค์กลับมาดุลูกจัง .______. ป๊ะป๋าเศร้าใจ

     

                    หลังจากไปนอนคิดมาสามเดือนไม่ได้หลับ ในที่สุดประธานจอนคนหล่อก็สามารถคิดมาตรการขั้นเด็ดขาดป้องกันการไม่อ่านหนังสือของเจ้าลูกชายได้ เพื่อกันไม่ให้เจ้าเด็กดื้อนี่แอบหนีเที่ยว ไม่เล่นโซเชียล และไม่ติดหญิงโคโยตี้แมวเหมียว(?)แล้ว เขาจึงตัดสินใจจะส่งลูกชายกลับบ้านเกิด!!!

     

                    ใช่แล้ว บ้านเกิดของวอนอูที่ซองจู

                    สมัยที่เขากับยาหยียอโบหวานใจยัยคนคิขุที่ตอนนี้กลายเป็นแองเจิลอยู่บนสวรรค์ยังร่วมรัก เอ้ยครองรักกันอยู่ที่บ้านนอกคอกนา

                    ตอนนู้นที่วอนอูเกิดขึ้นมาก่อนเขาจะจับหลักได้และตั้งบริษัทขึ้น จากเสี่ยเจ้าของสวนร้อยไร่ธรรมดาๆอย่างเขาถึงได้เชิดหน้าชูตากลายเป็นป๋าเจ้าของธุรกิจใหญ่ขึ้นมาได้

                    ตอนนี้ที่สวนที่ว่าเขาก็ได้ให้พื้นที่กับตระกูลคิม อดีตคนงานในสวนของเขาคอยบริหารจัดสรรดูแลเรียบร้อย จัดได้ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณกับบ้านนั้นอยู่ไม่น้อย เอาเจ้าลูกชายจอมดื้อไปฝากไว้ซักเดือนสองเดือนคงไม่ว่าอะไรหรอก

     

                    อีกอย่างนะ บ้านนั้นมีลูกชายวัยไล่เลี่ยกับวอนอู ตอนก่อนเจ้าเด็กนี่ย้ายมายังสนิทกันอยู่เลย จำได้ว่าชื่อมินอะไรซักอย่าง...

     

     

                     อ๋อนึกออกแล้ว มินกวยป้ะ?

                    ไม่น่าใช่... ชื่อไรนะ มิน.. มิน... มิน.. ช่างมันเถอะ..

     

                    สรุปว่าเขาจะส่งไอ้ลูกเวรที่ตอนนี้ย้อมหัวสีแปลกๆนี่ไปอยู่ที่ซองจู

                    ซองจูเป็นหมูบ้านเล็กๆในคยองซานบ้านเกิด เขตอำเภอที่ห่างไกลตัวเมืองชนิดที่ว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสามจีเข้าไม่ถึง

                   

     

                    บางทีสัญญาณมือถือยังติดๆดับๆอยู่เลยเวลาโทรกลับไป

     

                    คฤหาสน์หลังสวน ไกลตัวเมืองเป็นสิบโลแบบนั้นมั่นใจได้ว่าวอนอูคงไม่สามารถหนีเที่ยวได้ด้วย แถมเขาก็ยังมั่นใจว่าผู้ใหญ่ทางนู้นคงเข้มงวดกับวอนอูได้มากกว่าเขาเอง

                     ถึงจะเป็นลูกเจ้านาย ลูกผู้มีพระคุณ ชาวบ้านในแถบนั้นก็ยังมองว่าการเที่ยวผับเที่ยวบาร์เป็นการสำมะเลเทเมา

    แค่ดูนักร้องไอดอลบอยแบนด์คาราทีอาราและคุณป้าอาฟเตอร์สคูลยังเป็นการไม่เหมาะสมเลย แบบนี้เขาก็พอจะมั่นใจว่าไม่มีปัจจัยอะไรที่ทำให้เจ้าเด็กอินดี้นี่นอกลู่นอกทางได้

     

     

     

                    แอบเข้ามาแพ็กหนังสือไว้ให้ แอบติดต่อทางนู้นไว้ แอบไปแคนเซิลคอร์สเรียนพิเศษที่วรรณสรณ์ แล้วแอบโทรบอกเหล่าผองเพื่อนของเจ้าเด็กนี่ไว้เรียบร้อย เคลียร์ทางทุกอย่างไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครบถ้วน เหลือบอกกับปากมันเนี่ยแหละเป็นอย่างสุดท้าย ซึ่งเขาแทบจะไม่กล้าหือเลย (︶︹︺)

     

     

                   

     

     

     

     

                    “พ่อก็เลยจะส่งผมไปซองจูเนี่ยนะ!?”

                   

                    พูดแล้วก็เพลีย มองดูป๊ะป๋าของตัวเองที่ทำท่ากลัวหัวหดเหมือนหอยทากกลับเข้ากระดอง

     

     

                    จะดุทั้งทีก็ช่วยวางฟอร์มให้น่ากลัวหน่อย(; ̄д บางทีมีพ่อแอ๊บแบ๊ววอนอูก็เครียดนะครับ ไม่รู้ว่าแม่คิดยังไงถึงเอาคุณพ่อหน่อมแน้มแบบนี้มาเป็นแฟน วอนคุณแม่กลับมาจากสวรรค์มาตอบน้องวอนทีผมกลุ้มใจ...

     

     

     

     

                    อื้อ.. นะ ลูกรักของป๊ะป๋า พ่อว่าแบบนี้มันดีที่สุดสำหรับลูกแล้วนะ(-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩___-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩-̩̩̩)

     

     

                    วอนอูถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองป๋าอย่างเพลียๆก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ ไม่ใช่ว่าแพ้ลูกอ้อน ไม่ใช่ว่าขี้เกียจเถียง ไม่ใช่ว่าอะไรทั้งนั้น อันที่จริง.. ที่จริงน่ะหรอ..

     

     

     

                    ก็กำลังหาแรงบันดาลใจอยู่น่ะสิ

     

                    เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกันโซลเนี่ย บางทีออกบ้านนอกบ้างอาจจะได้ไอเดียอะไรเด็ดๆมาเขียนลงก็ได้

                    ที่จริงแล้วให้คนอย่างคุณหนูจอนออกไปอยู่ไร่อยู่สวนมันก็แอบจะอึ๋ยส์อยู่เหมือนกันนะ ทำไมขุ่นพ่อไม่อยากส่งน้องวอนไปมหานครใหญ่แบบโตเกียว หรือปารีสอะไรแบบนี้บ้าง น้องวอนไม่เข้าใจ | ‾́ ‾́ | เอาเถอะ ยังไงปิดเทอมนี้ก็ไม่มีแผนอะไรอยู่แล้วนี่นะ...

     

                    ดีซะอีกจะได้แต่งนิยายได้แบบสบายใจ ไม่มีใครไลน์มาให้กวนนนนนนนน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                    ดีมากลูกรัก คืนนี้รีบนอนนะ พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปบ้านตระกูลคิมแต่เช้าเลย ทางนู้นรอต้อนรับลูกเรียบร้อยเลย ได้ยินมาว่าลูกชายเขาที่เป็นเพื่อนลูกน่ะตื่นเต้นมากเลยนะป๊ะป๋าหน่อมแน้มพูดด้วยสีหน้าที่ดูดีกว่าเมื่อครู่ขึ้นมานิดนึง วอนอูพยักหน้ารับคำอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่คนตาเล็กก็ต้องชะงักเมื่อประมวลคำพูดเมื่อครู่ได้ ใบหน้าของใครบางคนลอยเด่นขึ้นชัดในความทรงจำเมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว...

     

                    เดี๋ยวนะ..

     

     

     

                    ลูกชาย?

     

     

                    ตระกูลคิม

     

     

     

     

                    ไม่นะ... หวังว่าเขาจะไม่ต้องไปเจอกับไอ้เด็กดำนั่น....

     

                    ไม่อยากเจอมันอีกแล้ว เจ้าความทรงจำที่เลวร้ายในวัยเด็กของเขา...

     

     

     

     

     

     

                    เจ้าเด็กยักษ์ที่ชื่อว่า

     

     

     

     

                    คิมมินกยู...




     ↺

     

    กลับมาแล้นนนนน
    รีโนเวทโพรล็อกใหม่หลังจากกเซบเดบิวต์เรียบร้อย

    สำหรับฟิคเรื่องนี้มีแท็กเป็นของตัวเองเกร๋ๆ
    ใช้แท็กคำว่า (#ฟิคปรบร ) ตามชื่อไทยนะ
    จอนวอนอิลกีคืออะไร? ไม่ได้มาจากชื่อเพลงทีอารา
    คือก็ได้จริงๆก็นิสนุง แต่แบบฟังทีไรนึกถึงมึน
    จอนวอนย่อมาจากจอนวอนอู ส่วนอิลกีคืออิลกีจัง
    รวมกันคือไดอารี่ของจอนวอนอู
    ฟิคเรื่องนี้หาสาระอะไรไม่ได้เลยจริมๆ






    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×