ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่อง ฟุลสกินส์ แบ็กซ์เฟรนด์ตอนดินแดนที่สาปสูญ

    ลำดับตอนที่ #1 : เรือลำราญสุดหรู

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 48


    ในเมืองสเต็มเตอร์ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังขับรถกลับบ้านและบ้างคนที่กำลังเดินอยู่บนทางเท้าข้างถนน เลยไปทางด้านซ้ายของถนนสกูเลนส์มีคฤหาสน์หลังงามเก่าแก่ตั้งอยู่ในเมืองสเต็มเตอร์ซึ่งเป็นบ้านของตระกูนแบ็กซ์เฟรนด์และคาดว่าเป็นบ้านของตระกูนขุนนางที่มีชื่อเสียงในสมัยก่อน พื้นที่ของคฤหาสน์ของตระกูนแบ็กซ์เฟรนด์กินเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 50ไร่  ภายนอกเป็นแบบยุควิกตอเรีย  มีต้นไม้ต้นใหญ่  รูปปั่นแบบยุโรป สระว่ายน้ำในที่ร่มและที่แจ้ง  สนามเล่นแบดมินตัน  สวนขนาดใหญ่จัดแบบเอเชีย รวมทั้งน้ำพุอีกหลายแห่ง  ภายในบ้านจัดแบบฝรั่งเศส ผสมกับแบบวิกตอเรีย มีภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย และรูปปั้นสมัยโบราณที่หาดูได้ยาก  

               ในบ้านมีเด็กชายคนหนึ่งอาศัยเขากำลังจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบใหญ่  เขาจัดของเสร็จก็ใช้โทรศัพท์มือถือของเขาโทรหาเพื่อน “เฮ้เพื่อนนี่ฟุลสกินส์  นะนายอย่าลืมชุดว่ายน้ำนะแล้วก็เอาขนมไปบ้างก็ดี แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้ที่บ้านฉัน เราจะออกเดินทางพร้อมกัน”เขาพูดจบก็ว่างสายโดยไม่รอให้เพื่อนพูดต่อ แล้วเขาก็โทรศัพท์หาเพื่อนอีกคน แล้วพูดแบบเดิมซ้ำอีกรอบ รอไม่ไหวแล้วเขาคิดในใจ เขากำลังรอค่อยการไปเที่ยวทะเลในวันพรุ่งนี้ แล้วเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แล้วนอนหลับไป

              “ตื่นได้แล้วครับคุณฟุลสกินส์เดี่ยวไปไม่ทันนะครับ” พ่อบ้านปลุกเรียกฟุลสกินส์ ด้วยเสียงที่อ่อนโยน

    ฟุลสกินส์ตี่นขึ้นมาเห็นพ่อบ้านกำลังยกกระเป๋าที่เขาเตรียมไว้เมื่อคืนแล้วออกจากห้องไป

                 “มากันครบทุกคนแล้วใช่ไหม” นายแบ็กซ์เฟรนด์ถามฟุลสกินส์ลูกชายคนโตของเขา

                 “ครับเพื่อนผมมากันครบหมดแล้วครับ เหลือแต่เซดลี่ตัวเดียวครับไม่รู้หายไปไหน” ฟุลสกินส์ พูดกับพ่อ  แล้วออกตามหาสุนัขพันธ์เยรมันเชบเพดที่เขาเลี้ยงไว้

                 “มาร์ตินไปช่วยฟุลสกินส์หาเซดลี่ทีซิเดียวก็ไปไม่ทันหลอก”

              “ครับ”พ่อบ้านรับคำแล้วออกตามหาเซดลี่

                   “โฮ่ง โฮ่ง” เสียงร้องดังพร้อมเจ้าของเสียงที่กำลังวิ่งมาแล้วจู่โจมเข้าหานายแบ็กซ์เฟรนด์ ฉันบอกมันกี่ครั้งแล้วว่าห้ามทำแบบนี้อีกไอ้เจ้าสุนัขตัวแซบเขาคิดในใจด้วยความโกธร พร้อมกับผลักมันออกไปไกลๆตัว

    “เราจะไปกันแล้วฟุลสกินส์    มาร์ติน เจอเซดลี่แล้ว”นายแบ็กซ์เฟรนด์ตะโกนกึกก้อง

              



                แล้วทุกคนก็มาพร้อมกันที่ท่าเรือ ตอนนี้เรือสำราญลำใหญ่จอดรอที่ท่าเรือแล้ว

    “ใหญ่กว่าที่ฉันคิดไว้แฮะ”อเล็กซานเดอร์พูดกับเจมส์ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนของฟุลสกินส์  อเล็กซ์ซานเดอร์เป็นเด็กวัยรุ่นที่ฉลาด เขาอายุเพียงสิบสี่  แต่ก็ฉลาดเท่ากับคนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว  เขาเป็นคนที่สุขุมและชอบอ่านหนังสือตลอดเวลา และเป็นเด็กที่แปลกเขาชอบใช้คำพูดที่เข้าใจยาก เขาเป็นเด็กกำพร้าและตอนนี้เขาก็อาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยง  ส่วนเจมส์ก็เป็นเด็กวัยรุ่นที่ฉลาดเกินวัยเหมือนกับอเล็กซ์ซานเดอร์แต่เป็นคนร่าเริง  ชอบเล่นกีฬา  ชอบเล่นดนตรีและมีความสามารถมาก  ทุกๆปีตอนปิดเทอมเขาจะช่วยกันประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์เพื่อลงแข่งขันวันวิทยาศาสตร์ประจำปีของโรงเรียนริมาร์คคะเบิล  ซึ่งเป็นโรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษและอัจฉริยะ และพวกเขาก็เรียนมาถึงระดับมหาวิทยาลัยแล้ว

                “เด็กๆ  มาเอากุญแจห้องนอนของตัวเองกับบัตรรับประทานอาหารได้แล้วจ๊ะ”นางแบ็กซ์เฟรนด์พูด  

               “ครับ- ค่ะ”

             “แล้วก็อีกเรื่องมาร์ตินจะบอกพนักงานบนเรือให้เอากระเป๋ามาให้พวกเธอนะ”นายแบ็กซ์เฟรนด์พูดต่อ

               “นายได้ห้องไหนน่ะ”ฟุลสกินส์ถามเจมส์เมื่อทุกได้กุญแจแล้ว

               “ห้อง ห้าสิบสี่”

               “นายล่ะ   ได้ห้องไหน”ฟุลสกินส์ยื่นหน้าดูหมายเลขบนกุญแจของอเล็กซานเดอร์

               “ห้อง ห้าสิบสาม” อเล็กซ์ซานเดอร์ตอบ

               “ฉันได้ห้อง ห้าสิบเอ็ดล่ะ”

            “ใครได้ห้องห้าสิบสองน้า”ฟุลสกินส์พูดกับเพื่อนทั้งสอง

    แล้วน้องสาวของฟุลสกินส์ก็เดินมาหาพวกเขา เธอเป็นคนที่สวย ผมสีบลอนของเธอยาวสะหร่าย เธอสูงประมาณสี่ฟุตเกือบห้าฟุต  “ฉันได้” เธอพูดน้ำเสียงวางอำนาจ เหมือนพวกเด็กโรงเรียนไฮโซพูดกัน        

              “ฉันขอแลกได้ไหม รีเบคก้า”

            “ได้ซิ”แล้วเธอก็ยืนกุญแจให้ฟุลสกินส์พี่ชายของเธอ

    “ฉันไปก่อนล่ะ”แล้วเธอก็เดินจากไป

    “ฉันจะไปสำรวจเรือ”ฟุลสกินส์พูดกับเพื่อนแล้วก็ทำท่าทางร้อน้องแล้วหัวเราะ

            ภายในเรือสำราญประกอบไปด้วยเครื่องประดับตกแต่งที่หรูหรา มีทั้งห้องสมุด ห้องเล่นกีฬา ห้องเล่นเกม  ร้านซูเปอร์มาร์เกต  มีสระว่ายน้ำสองสระ สนามเล่นเทนนิส  

    พอตอนเย็นๆมาร์ตินพ่อบ้านก็มาเคาะประตูห้องของพวกเด็กแต่ละคนให้ไปรับประทานอาหารได้แล้ว

    ฟุลสกินส์เดินมาพร้อมกับเพื่อนๆของเขา “รู้สึกว่าอาหารจะจัดแบบบุตเฟ่”ฟุลสกินส์พูดกับเพื่อน แล้วพวกเขาก็ยืนบัตรรับประทานอาหารให้สาวพนักงานเสริบคนสวย

    บนผนังในห้องรับประทานอาหารมีภาพวาดภาพใหญ่เป็นภาพป่าอะเมซอล “ภาพสีน้ำมัน”อเล็กซานเดอร์พูด เขารู้เรื่องเกี่ยวกับศิลปะเป็นอย่างดี  “จะเป็นภาพแบบไหนฉันไม่สนหรอกแต่ขอให้อาหารอร่อยก็พอแล้ว” ฟุลเลอร์พูด เจมส์พยักหน้าเห็นด้วย  “รู้ไหมสมัยก่อนเขาเอาสารหนูมาทำสีเขียวทาผนังด้วยล่ะ”อเล็กซานเดอร์พูดอีกครั้ง  

    “ใช่รู้สึกเหมือนเคยได้ยิน” ฟุลสกินส์ทำสีหน้าสนใจ      

    “ในสมัยก่อนจะมีคนตายเพราะสีที่ทาบ้าน แล้วเขาก็ตรวจดูก็พบว่าสีมีสารหนูประกอบอยู่ด้วย”เจมส์เพิ่มข้อมูล

    “ดูสิเพื่อนอาหารน่ากินทั้งนั้นเลย”

    “เออจริงด้วย”

    แล้วพวกเขาก็ถือจานมาคนละใบ “นายหยิบอาหารเยอะจัง อเล็กซานเดอร์ เดียวกินอาหารไม่หมดหลอกรู้สึกว่าเขาจะคนตังเพิ่มด้วยถ้ากินอาหารไม่หมด”

    “จริงงะ”

    แล้วฟุลเลอร์ก็ยืนซ้อมมาจิ้มไส้กรอกบนจานของอเล็กซานเดอร์ไปใส่ปากตัวเอง

    “ฉันโกหกนะ”ฟุลสกินส์พูดแล้วหัวเราะแบบปิดปากแล้วเคียวไส้กรอกตุ้ยๆ

    “เดียวฉันจะพาเซดลี่ไปห้องเลี้ยงสัตว์”ฟุลสกินส์พูดขึ้นมาเขาเพิ่งนึกได้ว่าเขาขังเจ้าเซดลี่ไว้ในห้องนอนของเขา “ตอนนี้มันคงร้องควรคราญเพราะหิวแล้วละ”ว่าแล้วฟุลสกินส์ก็วิ่งออกจากห้องอาหารไปหาสุนัขที่น่าสงสารซึ่งเขาขังมันไว้  

         เขาเปิดห้องนอนดู เห็นเจ้าเซดลี่กำลังนอนสบายใจเชบอยู่บนเตียงนอนของเขาตืนได้แล้วเซดลี่เขาพูดพลางเอามือเขย่าตัวมัน แต่มันไม่ยอมตื่น! เอาละมันต้องตายแล้วแน่เลยเขาคิด  แต่แล้วเขาก็เอามือวางบนจมูกมัน  มันยังหายใจอยู่นิ  แล้วเจ้าเซดลี่ก็นอนกรนเสียงดังลั่นห้อง มันนอนขี้ซาวนี่   หนาเข้าคิดขึ้นมาได้ แล้วรีบเข้าห้องน้ำตักน้ำใส่ขันแล้วราดใส่สุนัขขี่เซาตัวแสบนั้น  “โฮ้ง” มันร้องครางขึ้นมาด้วยความตกใจดวงตาเบิกกว้าง  “มานี่เซดลี่ฉันต้องพาแก่ไปแผนกสัตว์เลี้ยงให้เขาเอาอาหารให้แก่” ฟุลสกินส์พูดกับเซดลี่พร้อมกับหัวเราะเยาะที่ตัวมันเปียก

                ภายในห้องเลี้ยงสัตว์มีสัตว์หลายชนิด ฟุลสกินส์เดินตรงไปที่กรงสัตว์ชนิดหนึ่ง งูนี่!  แล้วเดินต่อไป กรงต่อไปเป็นกรงขนาดใหญ่มีกลิ่นเหม็น  มีกิ่งก่าอยู่ข้างใน กรงต่อไปเป็นกรงนกมีกลิ่นเหม็นไม่แพ้กัน  ภายในมีนกแก้วหลากหลายสี มีประมาณ5-6ตัว กำลังส่งเสียงดังแซบแก้วหู และเป็นกรงที่ดูสกปรกมากที่สุด

    แล้วพนักงานแผนกดูแลสัตว์ก็เดินเข้ามา “มีอะไรให้ช่วยไหมค่ะ”

    “ครับ  ผมต้องการอาหารสุนัขครับ”

    “ค่ะรอเป้บเดียวนะค่ะ”เธอพูดจบก็เดินไปห้องเก็บของด้านหลัง

    “นี่คะ” เธอเดินมาพร้อมอาหารสุนัขในถาดอาหารพลาสติกแล้วยื่นให้ฟุลสกินส์       ฟุลสกินส์รับถาดอาหารมาแล้วยื่นให้เซดลี่

    เซดลี่ส่ายหางดิกๆ พร้อมกับกินอาหารด้วยความหิวโหย “สุนัขพันธ์อะไรค่ะ น่ารักจัง”พนักงานยื่นดูเซดลี่กินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

    “พันธ์เยรมันเพดครับ  ผมเลี้ยงมันไว้หลายปีแล้ว”

    “มันอายุกี่ปีแล้วค่ะ”

    “ประมาณ 3-4ปี นะครับ”

    “อ่า มันกินอาหารเสร็จแล้ว” ฟุลสกินส์พูดพร้อมกินยกถาดอาหาร แล้วยืนบัตรรับประทานอาหารของเซดลี่ให้พนักงาน

    “ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ”

    ฟุลสกินส์เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเซดลี่ เห็นเพื่อนกำลังยื่นรอเขาอยู่หน้าประตู “วันพรุ่งนี้เรือสำราญจะไปจอดที่เมืองแลนติสโต ที่อยู่ในมหาสุมทรแอตแลนติกฉันอยากรู้จังว่าจะมีอะไรบ้าง”เจมส์พูดพร่ำพรัม”  “เดียวจะไปไหนกันดูเพื่อน ห้องเล่นเกมดีไหม”อเล็กซานเดอร์  ถามเพื่อนทั้งสอง

    “ก็ได้” เพื่อนทั้งสองเห็นด้วย

                ภายในห้องเล่นเกมมีเกมตั้งอยู่ประมาณห้าหกเครื่อง มีเด็กวัยรุ่นหลายคนกำลังจดจ่อกับเกม มีเครื่องเล่นเกมอยู่สามเครื่องที่ยังไม่มีคนเล่นซึ่งตั้งอยู่หลังห้อง“เราไปเล่นเครื่องที่ตั้งอยู่ข้างหลัง เหลือสามเครื่องพอดี ” “ดูสิต้องใช้เหรียญสำหรับที่เขาใช้เล่นเกม”ฟุลสกินส์พูดพร้อมกับชี้ไปที่ป้าย  

    “งั้นเราคนใดคนหนึ่งต้องไปแลกเหรียญแล้วละ  ฉันขอไป” เจมส์ว่าแล้วก็เดินออกไป

    เขากลับมาพร้อมเหรียญเต็มมือ “นี่เหรียญ”เขาพูดพร้อมยืนเหรียญให้เพื่อนทั้งสอง

    แล้วพวกเขาก็แบ่งเหรียญให้เท่ากัน แล้วพวกเขาก็แยกย้ายกันไปเล่นเกม

    “กลับได้แล้ว ดึกแล้ว” เจมส์พูด  เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเล่นเกมเท่าไร

    “เป็บเดียวเพื่อนเกือบชนะแล้ว”อเล็กซานเดอร์พูด และตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมต่อ

    แล้วพวกเขาก็พากันกลับไปห้องของตัวเอง“ราตรีสวัสดีเพื่อน นอนหลับฟันดีนะ”ฟุลสกินส์พูดกับเพื่อนทั้งสอง

    แล้วเขาเดินเข้าห้องนอนแล้วเปิดที่ทีวีดู สักพักก็มีคนมากดอ็อตเขาเปิดประตูก็เห็นพนักงานเข็นกระเป๋าเข้ามา แล้วฟุลสกินส์ก็ยืนทิบให้พนักงานยกกระเป๋า แล้วนอนดูทีวีต่อจนนอนหลับไป

              เช้าวันรุ่งขึ้นมีเสียงออตดังขึ้นเด็กชายเปิดประตูห้องนอนออกไป  

    เจมส์เดินเข้าห้องฟุลสกินส์ “เฮ้เพื่อนนี่แผนที่ภาพเมืองแลนติสโต กับ แอนทีลนีสเลีย” ว่าแล้วก็ยืนแผนที่ให้ฟุลสกินส์     ในภาพมีเมืองสองเมืองซึ่งอยู่ตรงข้ามกันและมีสะพานเป็นที่เชื่อมของเมืองทั้งสองนี้      “ทั้งสองเมืองเป็นเมืองที่เก่าแก่และเป็นเมืองที่หายสาปสูญไปตลอดกาล  ความเป็นมาที่แน่ชัดนั่นฉันไม่รู้ นี่เป็นแค่เรื่องเล่าที่ไม่มีหลักฐาน”

    “มันตั้งอยู่ที่ไหนเหรอ”

    “มหาสุมทรแอตแลนติก  บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าที่ขึ้นชื่อว่าดินแดนอาถรรพณ์”

    “น่าสนใจจริงๆ”ฟุลสกินส์เริ่มให้ความสนใจ

    “แล้วนายไปหาภาพแผนที่เมืองมาจากไหนน่ะ” ฟุลกินส์สงสัยแผนที่ที่อยู่ในมือ

    “ห้องสมุดของเมือง ฉันยืมหนังสือไปถ่ายเอกสารน่ะ ”

    “แล้วอเล็กซ์เดอร์หายไปไหนน่ะ”

    “ลงไปรับประทานอาหารแล้วมัง”

    แล้วเสียงอ็อตก็ดังขึ้น ฟุลสกินส์เดินไปเปิดประตูไม่เห็นใคร  แล้วครู่หนึ่งอเล็กซานเดอร์ก็ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าฟุลสกินส์  ฟุลสกินส์หน้าซีดแล้วถามอเล็กซ์เดอร์ด้วยเสียงอันสั่นคลอน “นายทำอย่างนั้นได้ยังไง”   “ทำอะไร”

    “ก็หายตัวไงละ!”

    “อ๋อ ยาจายาน่า มันเป็นยาชนิดหนึ่งถ้ากินแล้วสามารถร่องหนได้ตามต้องการ  ฉันคิดค้นเองล่ะ”คนพูดพูดอย่างภูมิใจ

    “จริงเหรอ”เจมส์เริ่มให้ความสนใจกับตัวยาชนิดนี้

    “เดียวฉันจะร่องหนให้นายดู” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ตายตัวไปอย่างรวดเร็ว

    “นายหายไปไหนแล้ว อเล็กซ์เดอร์”ฟุลสกินส์พูดด้วยเสียงที่หวาดกลัว

    “ฉันอยู่หลังนาย”

    แล้วฟุลสกินส์ก็รู้สึกว่ามีคนจับหลังของเขาอยู่แต่พอหันหลังไปก็ไม่เจอใคร “จริงด้วยนายหายตัวได้จริงๆว่ะ” แล้วอเล็กซ์เดอร์ก็ปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังฟุลสกินส์ “นายคิดค้นตัวยานี้ได้ยังไง”เจมส์ถามอเล็กซ์เดอร์ด้วยความสนใจ “เอาส่วนประกอบมาจากต้นจายาน่า มันเป็นต้นไม้ที่หายากฉันได้มาจากพ่อเลี้ยงของฉันที่ให้ฉันตอนเด็กๆ เขาบอกว่ามันเป็นต้นไม้ที่หายากและให้ฉันมันไว้ และฉันก็ลองเอาใบไม้มาทดลองกับสารเคมีหลายชนิดและพบว่าต้นไม้ต้นนี้มีคุณสมบัติที่เมื่อผสมกับสารชนิดแล้วถ้าเอามากินหรือเอามารับประทานจะทำให้ร่องหนได้”อเล็กซ์ซานเดอร์สาธยายอย่างยาวเหยิด

    “พ่อเลี้ยงของนายไปเอาต้นนั้นมาจากไหนน่ะ”ฟุลสกินส์ถามด้วยความสงสัย

    “เห็นพ่อเลี้ยงบอกว่าเอามาจากเมืองเมืองหนึ่งตอนไปเที่ยวรอบโลก แต่ฉันไม่รู้ว่าเป็นเมืองไหน”

    “ฉันอยากร่องหนได้บ้างง่ะ”ฟุลสกินส์ทำสีหน้าอ้อนวอน

    “ก็ได้ ฉันทำมาเยอะ”

    “ตัวยามีผลข้างเคียงไหม”เจมส์ถามด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

    “ไม่มีหรอก ฉันทดลองมาหลายปีแล้ว\"

    แล้วเด็กชายวัยรุ่นก็เดินออกจากห้องไปและเดินกลับเข้ามาในเวลาไม่นานในมือเข้ามีขวดสีชาขวดเล็กพร้อมกับยกขวดสีชาขึ้นให้เพื่อนดู “นี่ไง ยา”

    แต่ก่อนที่อเล็กซ์ซานเดอร์จะยื่นขวดยาให้เพื่อนก็เกิดเสียงโครมครามราวกับว่าเรือสำราญลำใหญ่สุดหรูลำนี้จะชนเข้ากับอะไรบ้างอย่างที่มีขนาดใหญ่เข้าเสียแล้ว แล้วเด็กชายวัยรุ่นทั้งสามก็พากันออกจากห้อง และเบื้องหน้าของพวกเขาก็เห็นผู้คนมาออกันอยู่ที่หน้าเรือและต่างคนก็มีสีหน้าที่ตกใจ บ้างคนมีสีหน้าที่หวาดกลัว บ้างคนส่งเสียงถามเสียงถามพนักงานบนเรือสำราญว่าเกิดอะไรขึ้น

    และแล้วก็มีเสียงหนึ่งซึ่งเป็นเสียงที่ดังมาจากลำโพงดังขึ้น “ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบ ตอนนี้เรือของเราชนเขากับอะไรบ้างอย่างที่มีขนาดใหญ่ จึงทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณท้องเรือ และให้ทุกคนไปรอขึ้นเรือสำรองที่อยู่หลังเรือของแต่ละชั้นด้วยนะครับ เรือลำนั้นจะรองรับทุกคนได้”

    และแล้วพวกเด็กๆลงเรือสำรองพร้อมๆกับและเจ้าเซดลี่ นายและนางแบ็กซ์เฟรนด์ ริเบคก้าน้องสาวของฟุลสกินส์ ซึ่งเจอกันตอนที่พวกเขาเดินตามหาเซดลี่  เรือสำรองลำใหญ่ปานกลางหลายลำกำลังลอยลำอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก และแล้วเรือสำรองก็หยุดลงบนเกาะแห่งหนึ่งซึ่งเติมไปด้วยต้นไม้นานาชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วพนักงานคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นมาด้วยโทรโขงว่า “ตอนนี้เรากำลังอยู่บนเกาะสรุนา และตอนนี้พนักงานของเรากำลังช่วยกันติดต่อเรือเดินสมุทรที่เดินทางผ่านแถวๆนี้ให้มารับพวกเราเพราะถ้าเราจะใช้เรือสำรองไปตอนนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะท่าเรือที่เราจะไปนั้นอยู่ห่างไกลจากเรามากนะครับ”

    ตอนนี้ฟุลสกินส์และเพื่อนๆกำลังเดินสำรวจเกาะ “นายว่าในเกาะนี้มีสัตว์ร้ายอยู่ไหม”ฟุลสกินส์ถามเพื่อนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ฉันคิดหน้าจะมีนะ”เจมส์ตอบคนถาม

    แล้วพวกเขาเจอลิงตัวหนึ่งกำลังปีนต้นมะพร้าวไปเก็บมะพร้าว แล้วมันก็ตกลงมาพร้อมมะพร้าวแต่มันไม่เป็นไร มันยังวิ่งหนีเข้าป่าเมื่อเห็นพวกเขาเข้ามาใกล้มันเพื่อจะดูว่ามันเป็นอะไรไหม

    และแล้วพวกเด็กๆก็สังเกตเห็นอะไรบ้างอย่างที่มีสีขาวเจิงจ่าเบื่องหน้าพวกเด็กๆ และพวกเด็กๆรู้สึกว่าทุกๆอย่างมีสีขาวโพน และมีอะไรบ้างอย่างมาฉุดลากพวกเด็กไปอย่างรวดเร็ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×