ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พยัคฆ์คำรนมังกรคำราม

    ลำดับตอนที่ #7 : ยาพิษตัดเส้นเลือด

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 50


           แม้จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมากมาย แต่ตำหนักเขียวขจีในยามนี้กลับยังคงดำเนินกิจการต่างๆไปอย่างปกติยิ่ง คล้ายดั่งเรื่องเมื่อวานเป็นเพียงความฝันที่เกิดขึ้นชั่วคืน ห้องๆหนึ่งในตำหนักยามนี้ถึงกับมีขวดหยกใบเล็กสีต่างๆเรียงรายตามพื้น และ ชั้นวางของในห้องจนสิ้น สตรีชุดแดง และ ทารกในชุดสีเขียวอ่อนคล้ายดั่งกำลังชื่นชมบรรดาขวดเหล่านั้นยิ่ง

     

    แสงแดดสาดส่องร้อนแรงแผดเผาสิ่งต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันกลับทำให้ทุกชีวิตดำเนินไปได้ สมุนไพรก็เช่นเดียวกัน แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรก็ทำให้คนตายได้ ในขณะที่ยาพิษหลายชนิดนั้นกลับถือเป็นยารักษาโรค  เสาะยี้ยาพิษในขวดทั้ง 400 ขวดของข้าเจ้ารู้จักพิษใดบ้างสตรีในชุดแดงกลับเป็นยายเฒ่าหมื่นพิษ ทารกตรงหน้านางถึงกับเป็นเสาะน้อยไปได้

     

    ซือแป๋ เสาะยี้ทราบเพียง 399 ชนิดเท่านั้น อีก 1 ชนิดที่อยู่ในขวดหยกขาวนั้นเสาะยี้กลับไม่ทราบ นั่นนับเป็นยาอันใด?”เมื่อมันกล่าวจบนางจึงคล้ายประหลาดใจยิ่ง

     

    ฮืม นั่นเป็นยาพิษตัดเส้นเลือด ที่ข้าเพิ่งปรุงเสร็จ ผู้ที่โดนพิษนี้ภายใน 1 ชั่วยามเส้นเลือดทั่วร่างจะฉีกขาดดั่งถูกตัด ว่าแต่เหตุใดเจ้าจึงทราบชนิดของยาพิษทั้งหมดนี้ได้กัน

     

    เป็นท่านตามักสอนเสาะยี้ปรุง บางครั้งก็มักจะแอบใส่ลงในอาหารให้รับประทานมันกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ แต่เมื่อนางได้ฟังกลับตกใจยิ่ง

     

    อันใดกัน ใส่อาหารให้เจ้ากินหรือ แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่เป็นอันใดได้กัน

     

    เนื่องเพราะยาเม็ดเลือดมังกรที่ท่านตาปรุงให้เสาะยี้ ท่านกล่าวว่าหากกินแล้วย่อมมิมีพิษใดทำอันตรายได้มันยังคงกล่าวด้วยท่าทีปกติ

     

    แล้วเหตุใด ซินแสเฒ่านั่นจึงให้เจ้ารับประทานกัน ในเมื่อเจ้าย่อมไม่เกิดอาการอันใดเสาะน้อยเองเมื่อฟังนางเรียกตาของมันเป็นซินแสเฒ่า ถึงกับมิรู้จะทำหน้ายังไง มันทราบหากตามันได้ยินเข้าอาจต้องเปลี่ยนมาวางยานางด้วยอีกคน มันจึงได้แต่ทำหน้าพิกลยิ่ง หากแต่สตรีตรงหน้ามันกลับยังคงถามมันต่อไปคล้ายไม่รู้เรื่องที่นางก่อเมื่อครู่

     

    เนื่องเพราะท่านต้องการให้เสาะยี้ทราบรส และ กลิ่นของพิษแต่ละชนิดโดยละเอียด อีกอย่างก็เพื่อทดลองว่าท่านปรุงยาเม็ดเลือดมังกรได้จริงๆมันกล่าวเช่นนี้ นางเฒ่าหมื่นพิษถึงกับนึกออกไม่ว่าผู้ใดหากปรุงยาในตำนานได้เยี่ยงมันย่อมต้องหาวิธีทดสอบถึงสรรพคุณยาที่มันปรุงได้ บ่อยๆ เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้นนางจึงนิ่งไปเนิ่นนาน

     

    ซือแป๋ ท่านเป็นเช่นไรไปแล้วเมื่อมันเรียกนางจึงคล้ายรู้สึกตัว ก่อนจะหันมาสอนมันต่อ

     

    เสาะยี้พิษทั้ง 400 ชนิดที่เจ้าเห็นนี้ความจริงกลับปรุงมาจากพิษเพียง 50 ชนิดเท่านั้น เจ้าพึงจำไว้ว่าสิ่งทุกสิ่งจักมีประโยขน์และโทษอยู่ในตัว วันนี้ข้าจะสอนเจ้าปรุงยาพิษตัดเส้นเลือดของข้าดีหรือไม่เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น มันคล้ายยินดียิ่ง ผ่านไปเกือบครึ่งวันมันจึงได้ยาพิษตัดเส้นเลือดดังที่นางให้มันดูแต่แรก

     

    เสาะยี้ ยาพิษตัดเส้นเลือดเวลาใช้เจ้าไม่สามารถใส่ลงในอาหารโดยตรงได้ เนื่องเพราะมันจักเปลี่ยนสีทันทีเมื่อถูกน้ำ ดังนั้นวิธีการใช้พิษนี้กลับต้องเน้นลมปราณในการแพร่พิษเท่านั้น เจ้าลองมองมือข้าให้ดีเมื่อนางกล่าว ฝ่ามือนางในยามนี้ถึงกับเป็นสีเลือดทันที ลมปราณสีแดงค่อยๆไหลวนรอบมือสตรีตรงหน้าจนกระทั่งคลายไปในที่สุด ดูไปคล้ายไม่เคยมีอันใดเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมก็มีเพียงดอกไม้ในแจกันสีครามกลางห้อง ซึ่งในเวลานี้กลับแห้งเหี่ยวไปราวกับถูกไฟเผาก็ปาน

     

    ซือแป๋ พิษนี่ช่างร้ายกาจนักมันคล้ายกล่าวด้วยความตื่นเต้นยิ่ง

     

    ฮืม เสาะยี้เวลานี้เจ้าสมควรลองดูบ้าง เร่งลมปราณไปที่แขนแล้ว กำหนดรูปแบบที่เจ้าจะใช้มันรีบทำตามที่นางบอกทันที ลมปราณพวยพุ่งออกจากมือของมันราวกับน้ำป่าไหลทะลัก ปราณสีแดงค่อยๆถักทอเป็นเกลียวรอบแขนของมันจนกระทั่ง กลับกลายเป็นมังกรสีแดงตัวใหญ่วนรอบตัวมัน และ นาง สตรีตรงหน้ามันในตอนนี้ถึงกับตะลึงไปแล้ว คาดมิถึงเมื่อมันใช้คราแรกกลับเปล่งอานุภาพได้ถึงขนาดนี้ นางเองเมื่อใช้ลมปราณยังมิสามารถเร่งเร้าลมปราณจนเกิดเป็นรูปร่างขึ้นมาได้

     

            ผ่านไปเนิ่นนานนางจึงยิ้ม ยิ้มอย่างยินดียิ่งศิษย์ของนางสามารถทำได้เยี่ยงนี้ ใยจึงมิควรยินดีเล่า ลมปราณมังกรแดงของเสาะน้อยยามนี้ถึงกับยังมิสลายไป บัณฑิตฟ้าลิขิตเองเดิมทีมันเดินเข้ามาตามทั้งคู่ไปรับประทานอาหาร ยามนี้กลับได้แต่มองทารกตรงหน้ามันด้วยความตกตะลึงยิ่ง จนกระทั่งสตรีในชุดแดงสั่งให้มันคลายลมปราณลง มันจึงคล้ายได้สติกลับมาบ้าง

     

    ผู้อาวุโสหง เมื่อครู่เป็นลมปราณอันใดกัน เหตุใดจึงดูราวกับมังกรเยี่ยงนี้มันกล่าวอย่างสะท้านยิ่ง

     

    เมื่อครู่ข้าเพียงสอนเสาะยี้แพร่พิษโดยใช้ลมปราณเท่านั้น นึกมิถึงมันกลับควบคุมลมปราณได้ถึงขั้นไร้ลักษณ์แล้วเสาะน้อยเองเวลานี้ได้แต่มองอาจารย์ทั้งสองของมันคุยกันอย่างสนใจยิ่ง

     

    ขั้นไร้ลักษณ์นั้นฝึกยากยิ่ง โดยเฉพาะยิ่งอายุมากขึ้นกลับยิ่งฝึกได้ยาก ข้าพเจ้าเองก็มิทราบใยจึงมีอายุเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่ออาจารย์มันกล่าวจบ มันเองถึงกับรีบตอบทันที

     

    ซือแป๋ ข้าเคยได้ยินท่านตา และ ท่านพ่อ ปรึกษากันเรื่องนี้ พวกท่านบอกว่าลมปราณขั้นไร้ลักษณ์นั้นฝึกยากสำหรับคนมีอายุมากก็เพราะว่าพวกท่านยึดติดกับรูปลักษณ์ของปราณมากเกินไป หากละทิ้งลักษณ์ของปราณได้ ก็ย่อมต้องบรรลุขั้นไร้ลักษณ์เมื่อทารกหนุ่มกล่าวจบความคิดพวกมันทั้งสองกลับสว่างวาบ ที่ผ่านมาพวกมันคิดว่าการจะบรรลุขั้นนี้ได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับระดับพลังวัตร นึกมิถึงวันนี้ฟังคำพูดของศิษย์มันเพียงประโยคเดียวกลับบรรลุได้

     

    เสาะยี้เจ้ารีบไปตามซือแป๋เจ้า อีก 3 คนมาเร็วบัณฑิตหนุ่มรีบสั่งมันให้ไปตามทั้งสามคนมาทันทีเสาะน้อยเองแม้มันจะมิทราบว่ามีเรื่องอันใดแต่มันกลับพลิ้วร่างไปอย่างรวดเร็วยิ่ง จนกระทั่งทั้งห้าคนอยู่กันพร้อมหน้า บัณฑิตฟ้าลิขิตจึงเริ่มกล่าวสิ่งที่เสาะน้อยกล่าวแก่พวกมันเมื่อครู่ ทั้งหมดเองเมื่อฟังมันกล่าวจบถึงกับมีอาการเช่นเดียวกับมันสองคนเมื่อครู่มิผิด ยามนี้พวกมันต่างพากันเร่งเร้าพลังปราณกันทั่วร่างดังที่คิดได้เมื่อครู่ เสาะน้อยเองเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงพลันปิดประตูห้อง ก่อนจะเดินออกมายังสวนข้างนอกทันที

     

            เวลานี้เสาะน้อยกลับนั่งอยู่ในศาลากลางสวนเพียงลำพัง ตรงหน้ามันกลับเต็มไปด้วยน้ำชา และ ขนมหวานหลากชนิดดูน่าทานเรียงรายอยู่ในจาน หากแต่ดูมันกลับมิได้สนใจสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเท่าใดนัก ยามนี้มันกลับเหม่อมองท้องฟ้าราวกับมีอันใดน่าสนใจยิ่ง ผ่านไปค่อนชั่วยามจึงคล้ายหันมาหยิบขนมภายในจานรับประทานอย่างเซื่องเซาก่อนจะยกป้านน้ำชาขึ้นมารินชาสีน้ำตาลทองใส่ถ้วย น้ำชาในป้านถึงกับเย็นไปแล้วหากแต่มันคล้ายมิสนใจยังคงรินต่อไปจนกระทั่งมันเตรียมยกขึ้นมาจิบ ชาในถ้วยพลันมีควันพวยพุ่งดั่งเพิ่งต้มเสร็จขึ้นมาทันที มันยังคงมิสนใจหยิบขนมขึ้นมากัดอีกหนึ่งคำก่อนจะค่อยๆจิบชาในมือจนหมด สายตาพลันหันไปยังห้องที่บรรดาซือแป๋มันเข้าไป เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงหันกลับไปยังท้องฟ้าที่เริ่มมีสีส้มเข้ามากลืนสีฟ้าในยามเช้าต่อ เหล่าวิหคพากันบินกลับรัง นภาในยามนี้จึงดูเงียบเหงายิ่ง

     

    ท่านพ่อท่านแม่ ใยทุกคนจึงยึดติดกับอะไรได้เยี่ยงนี้มันคล้ายกล่าวพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะพลิ้วร่างหายไปจากศาลาทันที

     

     
    ----------------------------------------

    ขอบคุณทุกกำลังใจ และ กำลังเมนต์มากนะงับ
    จะขยันแต่งอย่างไม่อู้เลยฮับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×