ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พยัคฆ์คำรนมังกรคำราม

    ลำดับตอนที่ #5 : ยาเม็ดเลือดมังกร

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 50





    "นี่มัน..."ขอทานเฒ่าถึงกับตะลึงไปแล้ว มันเทยาภายในขวดออดมาเม็ดหนึ่งแล้วเพ่งมองอีกครั้ง ก่อนจะเอาผ้าห่อซุกไว้ในอกเสื้อ พลางมองเสาะน้อยเนิ่นนาน ผ่านไปค่อนวันเสาะน้อยจึงลืมตาขึ้น แววตาของมันตอนนี้เปล่งไปด้วยประกายเจิดจ้าเทียบได้กับยอดฝีมือทีเดียว ผิดกับแววตาของอาจารย์มันที่ดูหม่นหมองและเครียดขึ้ง


    "ซือแป๋ ท่านเป็นเช่นไรบ้าง"


    "นับว่ายาของเจ้าช่วยได้มากทีเดียว มิทราบเจ้าเอามาจากที่ใดกัน"มันถามด้วยความอยากรู้ยิ่ง เสาะน้อยเองก็มองมันอย่างประหลาด ก่อนจะตอบอย่างไม่ใส่ใจ



    "เป็นท่านตาปรุงให้เสาะยี้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ท่านพ่อเองก็ให้เสาะยี้พกติดตัวไว้รับประทานเสมอ"เซียวเซียนเองได้ยินเช่นนั้นถึงกับตกใจ แต่ยังคงถามต่อ



    "ตาของเจ้ามีนามว่าอะไรกัน"


    "ท่านตาแซ่หวัง นามฟง แต่ท่านพ่อกล่าวว่าผู้คนมักเรียกท่านเป็น ซินแสเทียบสวรรค์ ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจแต่ดูเหมือนท่านตาจะเดินทางรักษาผู้คน ปีหนึ่งจึงจะเข้าหุบเขาซักครั้ง"ขอทานเฒ่าถึงกับตะลึงไปแล้ว มันนึกมีถึงซินแสเทียบสวรรค์ที่ผู้คนนับถือจะเป็นตาของลูกศิษย์มันไปได้ ตำหนักเขียวขจีเองหลังงานแต่งงานเมื่อ 10 ปีก่อนถูกจัดขึ้นก็ปิดตำหนักไม่คบหากับผู้ใดมาตลอด พวกมันคาดว่าคงเป็นเพราะไป่แชแชมิรู้วรยุทธ์ จึงไม่ยุ่งเกี่ยวกับยุทธจักร ครานี้พบความจริงที่พวกมันคาดการไว้ถึงกับผิดแต่ต้น เสาะน้อยเองเห็นอาจารย์มันครุ่นคิดจนนิ่งไปจึงไม่อยากรบกวน ครั้นเห็นสีหน้าเซียวเซียนดีขึ้นแล้ว มันจึงเอื้อมมือไปหยิบขวดหยกมาเก็บไว้ในแขนเสื้อดังเดิม ผ่านไปค่อนวันขอทานเฒ่าจึงถอนหายใจก่อนจะถามทารกตรงหน้าอย่างเหนื่อยล้า



    "ยานี่มีจำนวนทั้งหมดกี่เม็ดกัน"เสาะน้อยเองถึงกับครุ่นคิดก่อนจะเขย่าขวดหยกในมือแล้วแย้มยิ้มพลางตอบ



    "ในขวดหยกข้าพเจ้าตอนนี้มีอยู่ราว 6 เม็ด หากซือแป๋ต้องการเสาะยี้จะให้ท่านตาปรุงเพิ่มให้ดีหรือไม่"


    "ไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ ข้าแค่อยากรู้เท่านั้น"


    "วันนี้นับว่าพอเท่านี้ก่อน เจ้าเองสมควรกลับไปพักผ่อน ข้าจะไปเดินเล่นซักครู่"มันกล่าวจบพลันพลิ้วร่างไปอย่างรวดเร็ว เสาะน้อยเองยืนมองทิศที่มันจากไปอย่างงุนงง ก่อนจะหายตัวไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับอาจารย์มันเมื่อครู่



          
      สายลมพัดไหว ต้นหญ้าเขียวขจี ดอกไม้หลากสีต่างพากันลู่และต้านแรงลมในขณะเดียวกัน ดูไปราวกับกำลังเต้นระบำอันใด สตรีในชุดฟ้ากำลังเดินเก็บดอกไม้ป่าอย่างเพลิดเพลิน ร่างๆหนึ่งเดินมายังข้างหลังนางอย่างเงียบๆ หากแต่นางเองยังคงเก็บดอกไม้ต่อไปราวไม่รู้เรื่องก็ปาน จนกระทั่งเป็นเจ้าของร่างข้างหลังนางที่เอ่ยออกมา



    "ยายเฒ่า เจ้าจักเก็บดอกไม้พวกนี้ไปอีกนานหรือไม่"สตรี และ บุรุษเมื่อครู่ถึงกับเป็น ขอทานเฒ่า กับ ยายเฒ่าหมื่นพิษ เซียวเซียนเองหลังจากแยกกับเสาะน้อยมันพลันมาหานางอย่างรีบร้อน หากแต่สตรีเบื้องหน้ามันกลับทำราวกับมันเป็นอากาศธาตุ ยังคงเก็บดอกไม้ป่าอย่างไม่สนใจ จนกระทั่งเป็นมันต้องกล่าวดีกับนางก่อน



    "ท่านโปรดดูนี่ก่อน"มันกล่าวพลางหยิบห่อผ้าที่มันเก็บไว้เมื่อครู่ออกมา สตรีชุดฟ้าเองเมื่อหันมามองยังห่อผ้าที่ขอทานเฒ่าคลายออกเมื่อครู่ถึงกับตะลึง เซียวเซียนเมื่อเห็นดังนั้นมันจึงกล่าว

    "ข้าพเจ้าคิดว่านี่ต้องเป็นยาเม็ดเลือดมังกรเป็นแน่ เจ้าเองคิดว่าเป็นเช่นไร"เมื่อมันกล่าวจบ นางเองจึงคล้ายรู้สึกตัวก่อนจะรับมาดูใกล้ๆแล้วตอบ



    "ความจริงข้าพเจ้าก็มิเคยเห็น เรื่องยาเม็ดเลือดมังกรก็เป็นซือแป๋เล่าให้ฟังอีกต่อหนึ่ง ท่านเคยกล่าวว่ายาเม็ดเลือดมังกรนั้นเป็นสีแดงราวเลือด หากแต่กลับต้องมีประกายสีทองอยู่ทั่วทั้งเม็ด เมื่อสูดดมจะมีกลิ่นหอมรวยรื่น เมื่อรับประทานสามารถต้านพิษ และ รักษาแผลได้ทุกชนิด หากคนปกติกินแล้วใช้ลมปราณมังกรเร่งไปทั่วร่างสามารถเพิ่มพลังวัตรได้อย่างต่ำก็ 40 ปี แต่ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดปรุงได้มาก่อน ขอทานเฒ่าเจ้าไปเอายานี่มาจากไหน"ประโยคหลังนางกล่าวอย่างเลื่อนลอยยิ่ง คล้ายไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องตรงหน้า นางศึกษาเรื่องพิษมานาน แต่กลับมิมีพิษใดที่ยาเม็ดในมือนางรักษาไม่ได้ นั่นมิเท่ากับนางเสียเปรียบผู้ที่มียานี่อยู่หลายส่วนทีเดียว



    "ยานี่ เป็นข้าเอามาจากเสาะยี้ เมื่อครู่เกิดเหตุประหลาดข้าสูญสิ้นลมปราณหมดทั้งร่าง เป็นมันป้อนยานี่ให้ข้าพเจ้าจึงสามารถรอดชีวิตมาได้ ข้าสงสัยว่าเป็นยาอันใดจึงเปิดดู คาดไม่ถึงกลับเป็นยาเม็ดเลือดมังกรในตำนานได้ จึงนำมาให้เจ้าดู หากเจ้าเองยังคิดเช่นข้า เห็นทียานี่ก็คงจะเป็นยาเม็ดเลือดมังกรของจริงเป็นแน่"มันใช้คำว่าเหตุการณ์ประหลาดแทนเหตุการณ์ที่มันสงสัยว่าเสาะน้อยฝึกลมปราณเทวราช กับนาง นางเฒ่าหมื่นพิษเองเมื่อได้ยินมันกล่าวนางถึงกับงุนงงยิ่งก่อนจะกล่าวแก่เซียวเซียน



    "เหตุใด เสาะยี้จึงมียานี่ได้กัน"


    "เนื่องเพราะซินแสเทียบสวรรค์ก็คือตาของมัน นึกมิถึงไป่แชแชกลับเป็นบุตรสาวของมันได้"ประโยค เป็นมันกล่าวอย่างรำพึงรำพันกับตัวเอง



    "ซินแสเทียบสวรรค์ออกเดินทางไปทั่วแผ่นดินตลอดเวลา ใครเล่าจะคิดมันเองก็มีครอบครัว อีกอย่างหากคนชั่วรู้ว่ามันมีบุตรี คิดใช้นางเป็นตัวประกันให้มันทำเรื่องชั่วช้าให้นั่นย่อมเป็นเรื่องเลวร้าย นี่ซินะเหตุผลที่จอมยุทธ์ไป่ต้องประกาศปิดตำหนักเขียวขจีมาเนิ่นนาน"


    "นั่นอาจมิใช่เหตุผลนั้นซะทีเดียว"เบื้องหน้าทั้งสองกลับปรากฏบุรษหนุ่มชุดขาวที่มิทราบมายืนข้างพวกมันตั้งแต่เมื่อไร ถึงกับเป็นไป่หยางจินที่พวกมันเอ่ยถึงเมื่อครู่



    "ผู้อาวุโสทั้งสองสาเหตุที่ข้าพเจ้าต้องปิดตำหนักนั้น แท้จริงกลับมิใช่สาเหตุที่พวกท่านกล่าวมาเมื่อครู่ซะทีเดียว"มันกล่าวอย่างยิ้มแย้มก่อนจะหันมามองยังเซียวเซียน และสตรีตรงหน้า

    "เช่นนั้นเป็นเรื่องอันใดกัน เล่าฮูกลับคิดไม่ออก"


    "ข้าพเจ้า และ แชแช อยากให้เสาะยี้ตั้งใจฝึกวิชาในที่สงบ การจะเปิดตำหนักต่อไปนั้นย่อมต้องมีผู้คนเข้าออกและย่อมทำให้มิอาจเป็นเช่นนั้นได้ อีกทั้งเพื่อเก็บรักษายาที่ผู้อาวุโสหวังเก็บไว้ที่นี่ 10 ปีมานี้ที่ไม่อนุญาตให้มีผู้ใดเข้าออกตำหนัก ก็เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวายที่จะเกิดเท่านั้น"ทั้งสองคนเมื่อได้ฟังดังนั้นจึงคล้ายคลายความสงสัยลงจนสิ้น หากแต่ขอทานเฒ่ากลับยังคงมีสีหน้าครุ่นคิดเมื่อนึกเรื่องลมปราณของลูกศิษย์มันเมื่อครู่ออก ไป่หยางจินเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มก่อนจะกล่าวสิ่งที่กำลัง รบกวนมันยิ่ง



    "ผู้อาวุโสโปรดวางใจลมปราณที่เสาะยี้ฝึกย่อมมิใช่ลมปราณเทวราช"เมื่อได้ยินไป่หยางจินกล่าวเช่นนี้ขอทานเฒ่าเองถึงกับตกใจก่อนจะมองบุรษเบื้องหน้า ก่อนจะกล่าว



    "นี่ท่านทราบ.."สตรีชุดฟ้ามองพวกมันอย่างแปลกใจ เมื่อครู่ได้ยินมันกล่าวถึงลมปราณเทวราช นางถึงกับสนใจยิ่ง



    "เมื่อครู่เสาะยี้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ข้าพเจ้าคาดว่าท่านน่าจะสงสัยจึงตามหา"


    "เช่นนั้น นั่นนับเป็นลมปราณอันใด ตอนที่เล่าฮูถ่ายทอดลมปราณให้เสาะยี้จึงรู้สึกราวกับถูกดูด"มันกล่าวอย่างสงสัยยิ่ง



    "นั่นย่อมเป็นลมปราณฟ้าประทาน หรือที่พวกท่านเรียกว่าลมปราณมังกร เสาะยี้เองพลังวัตรยังอ่อนด้อยเวลาโคจรลมปราณไปทั่วร่างจะเกิดแรงดึงดูดเอาปราณธรรมชาติในบริเวณนั้นมาช่วยเสริม ท่านผู้อาวุโสถ่ายลมปราณให้มันก็เลยถูกดูดดังที่เจอ"ทั้งสองเมื่อได้ยินเช่นนั้นถึงกับตะลึงไปแล้ว บุรุษหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงระบายยิ้มบางๆก่อนจะกล่าวต่อ



    "ผู้อาวูโสโปรดวางใจ ขอเพียงเสาะยี้รับประทานยาเม็ดนั่นถึง 5 เม็ดเมื่อไรปฏิกิริยานี้ก็จะหายไปเอง"กล่าวจบสตรีชุดฟ้าคล้ายดั่งเข้าใจเรื่องที่พวกมันพูดเมื่อครู่บ้างแล้ว จึงถามบุรุษหนุ่มอย่างสงสัย



    "แล้วตอนนี้เสาะยี้รับประทานยาไปได้กี่เม็ดกัน"


    "ยาเม็ดเลือดมังกร เมื่อ ใช้ฝึกคู่กับลมปราณมังกรแม้จะมีผลดีก็จริง หากแต่ก็ไม่สามารถรับประทานพร้อมกันทีเดียวได้ มิฉะนั้นชีพจรทั่วร่างจะต้องขาดสะบั้น ปีหนึ่งจึงรับประทานได้เพียง 1 เม็ดนี่ก็ผ่านมา 3 ปีแล้วตั้งแต่ได้ยามา"ทั้งสองเมื่อฟังมันกล่าวจบถึงกับอุทานออกมาทันที



    "เช่นนั้นเวลานี้เสาะยี้ก็ต้องมีพลังวัตรอย่างต่ำกว่า 120 ปีเชียวหรือ"เมื่อขอทานเฒ่ากล่าวเช่นนั้น ไป่หยางจินจึงพยักหน้าเบาๆ




    ตัดอีกแล้ว
    -  -  "

    มีใครทายถูกกันมั้ยเอ่ย

    ขออภัยที่มาอัพช้างับเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีตี2 เฮ้ย ลืมอัพ ก็ต้องงัดตัวเองออกมาจากที่นอนแถมกว่าจะรีสตาร์ทตัวเองเสร็จอีกแลคซ้าอึนเลย
    ปล.คนโง่ยังใส่โค้ดบีจีกะโค้ดเม้าท์และโค้ดอื่นๆไม่เป็นใครรู้บอกหน่อยน้า..เผื่อเรื่องนี้จะดูดีขึ้นมั่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×